PANTIP.COM : X8382391 บัตรเครดิตที่เป็นแบบ Chip + แถบแม่เหล็ก [วิศวกรรมและเทคโนโลยี]

ความคิดเห็นที่ 21

บัตรเครดิตที่มีทั้ง Chip และ แถบแม่เหล็กในใบเดียวกัน สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 แบบ ใช่มั้ยครับ ...
>> เข้าใจถูกต้องแล้วครับ ที่มียังเป็นแบบนี้ก็เพื่อที่จะให้สามารถนำใช้กับร้านที่ยังไม่รองรับระบบชิพได้ครับ
---
ซึ่งความปลอดภัยมันก็ลงไปอยู่ในระดับแถบแม่เหล็กอยู่ดี (กรณีหาย หรือพนักงานไปรูดในบริเวณที่เรามองไม่เห็น)
>> ถูกต้องครับ
---
1) ถ้าเราเห็นร้านเค้ามีเครื่องที่อ่าน Chip ได้ เราแจ้งให้เค้าใช้แทนการรูดแถบแม่เหล็กได้หรือเปล่าครับ
เครื่องรูดบัตรที่เห็นๆ กันอยู่บางเครื่องตัวเครื่องอาจจะรองรับชิพก็จริงแต่ทางระบบของธนาคารอาจจะยังไม่รองรับก็เป็นได้ ทางที่ดีที่สุดคือให้สอบถามพนักงานว่าเครื่องรับบัตรชิพหรือไม่
ปกติเครื่องที่รองรับระบบชิพ ทางธนาคารจะให้คำแนะนำกับพนักงานอยู่แล้วครับว่า เมื่อลูกค้านำใช้บัตรชิพให้เสียบบัตรแทนการรูด และจะมีการป้องกันที่เครื่องอีกขั้นหนึ่งคือ ถ้านำบัตรชิพไปรูดกับเครื่องทันที เครื่องจะแจ้งเตือนว่าบัตรเป็นบัตรชิพ ให้เสียบเข้าช่องอ่านชิพแทน แต่หากว่าเครื่องไม่สามารถอ่านชิพบนบัตรได้(ชิพมีปัญหาหรือด้วยวิธีอื่น ๆ) เครื่องก็จะแจ้งเตือนว่าให้นำมารูดแทน ซึ่งจะเรียกกันว่า Fall-Back (นำใช้ข้อมูลจากแถบแม่เหล็กแทน)

2) ถ้าผมเอาสติกเกอร์ มาปิดทับแถบแม่เหล็ก ... ถ้าไม่แกะออก จะยังสามารถ copy ข้อมูลจากแถบแม่เหล็กได้หรือเปล่าครับ
ได้ครับ แต่ปัญหาที่จะตามมาคือร้านค้า บางร้านอาจจะสังเกตเห็นและอาจจะไม่รับบัตรของคุณได้ครับ แม้ว่าทางคุณจะให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันการก็อปปี้ข้อมูล แต่สิทธิในการเลือกรับหรือไม่รับอยู่ที่ร้านครับ ผมมั่นใจว่าร้านค้าส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ แต่ก็อาจจะมีส่วนหนึ่งที่มีปัญหา

3) ผมเอามีดกรีดแถบแม่เหล็กให้พังเลย ได้หรือเปล่าครับ เพราะคิดว่าจะใช้เฉพาะแบบ Chip อย่างเดียว
ได้ครับ แต่ต้องทำให้ถูกตำแหน่งด้วยครับ การบันทึกข้อมูลลงบนบัตรจะบันทึกเป็นแถว ความยาวแตกต่างไปตามแต่ละที่ รวมไปถึงจำนวนแถวด้วย การกรีดที่ดี ให้ทำตรงส่วน1/4 ของบัตรกรีดเป็นแนวเฉียง และจะต้องทิ้งรอยให้น้อยที่สุดด้วยครับ ไม่เช่นนั้นจะพบปัญหาเรื่องร้านค้าที่มีการตรวจสอบบัตรโดยละเอียดไม่รับ แต่จะอธิบายได้ยากกว่า การติดสติ๊กเกอร์
การทำลายด้วยแม่เหล็กนั้น ทำได้ยากพอควรครับ เนื่องจากบัตรส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Hi-Co การทำลายการจัดเรียงตัวของข้อมูลก็ต้องใช้พลังงานแม่เหล็กสูงไปด้วย
หลังจากทำลาย การทดสอบแถบแม่เหล็กว่ายังใช้การได้หรือไม่ให้ลองไปนำใช้กับตู้เอทีเอ็มแทนครับ สอดบัตรเข้าไปเมื่อเครื่องอ่านข้อมูลไม่ได้ก็จะคืนบัตรเรามาครับ แต่เครื่องบางเครื่องก็มีการเซ็ตไว้ว่าให้ริบบัตรในกรณีที่อ่านข้อมูลแถบแม่เหล็กไม่ได้ด้วย จึงต้องระวังพอควร

แต่การทำลายแถบแม่เหล็กมีความปลอดภัย 100 % หรือไม่ ถ้าเกิดบัตรหายขึ้นมา ไม่ครับ ทางคนที่เก็บได้ หรือผู้ที่ขโมยสามารถนำข้อมูลที่ปรากฏอยู่หน้าและหลังบัตรไป นำใช้บนอินเตอร์เน็ตได้ ฉะนั้นจึงต้องลบ ตัวเลขหลังบัตรสามตัว (cvv2) ออกด้วยอีกเช่นกัน แต่ทำได้ลำบากมากเพราะตัวเลขนี้จะเป็นลักษณะประทับลงบนบัตร (indent) แม้ว่าจะลบสีออกได้ก็ยังมีร่องรอยให้หาได้ ถ้าจะขูดออกก็กินเนื้อบัตรเข้าไปพอควร

อย่างไรก็ดีการทำลายแถบแม่เหล็ก การขูดเลข CVV2 ออก เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพของบัตร ร้านค้าสามารถปฏิเสธไม่รับบัตรได้ครับ จึงต้องระวังเป็นพิเศษ อีกอย่างการแปลงสภาพนี้เป็นการกระทำของผู้ถือบัตรเอง ซึ่งถือเป็นการทำลายสินทรัพย์ของธนาคาร การแสดงบัตรต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อดำเนินการใดๆ จึงอาจจะมีปัญหาได้เช่นกัน

จากคุณ : biblio

เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 19:48:45