ความคิดเห็นที่ 1 ชื่อ : Archaea Strain 121 แหล่งที่พบ : บริเวณบ่อน้ำร้อน Yellowstone National Park U.S.A. รายละเอียด : จุลชีพขนาดเล็ก (Microbe class: hyperthermophiles) อาศัยอยู่ในน้ำกรด ที่เปรี้ยว (Acidic water) ความร้อนสูง 235 องศา F สามารถต้มไข่สุกได้ภายใน 1 นาที อะไรคือความหมายสำหรับสิ่งมีชีวิตในจักรวาล : การที่สิ่งมีชีวิตสามารถเติบโตได้ ในสภาพแวดล้อม อุณหภูมิสูงมากเช่นนั้นทำให้มีความเป็นไปได้ที่ อาจพบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก บริเวณอื่นของจักรวาลเช่นกัน จุลชีพ Archaea Strain 121 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:06:19

ความคิดเห็นที่ 2 ปาดขวา+++ จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:09:47

ความคิดเห็นที่ 3 ชื่อ : Desulforudis audaxviator แหล่งที่พบ : Johannesburg, South Africa รายละเอียด : การสำรวจด้านชีววิทยา ใต้ผิวโลกลึกลงไป 2.8 กิโลเมตร จากผิวโลก ในเหมือง ทองคำ Johannesburg ประเทศ South Africa โดยสภาพแวดล้อมดังกล่าวมืดสนิทไม่มี Oxygen ความร้อนสูง 60 องศา C ได้พบสัตว์เซลล์เดียวอาศัยอยู่ Desulforudis audaxviator คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสัตว์เซลล์เดียวในระบบนิเวศ (Single-species ecosystem) ในสภาพแวดล้อมไม่ต้องการพลังงานจากดวงอาทิตย์แต่ได้พลังงานจาก Hydrogen และ Sulfate จากรังสี Uranium ที่เสื่อมแล้ว สร้างอวัยวะตนเองโดยปราศจากน้ำอาศัยอย่างโดดเดี่ยวล้อมรอบด้วยหินและของไหลใต้ดินลึก ไม่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับตระกูลแบคทีเรีย มีความสามารถลด Nitrogen ในสภาพแวดล้อม เชื่อว่าสาเหตุ ที่ Desulforudis audaxviator ไม่ต้องการ Oxygen และน้ำเพราะมีพัฒนาการอย่างยาวนานหลายรุ่น ด้วยการเดินทางลงลึกใต้พื้นโลกมานับล้านปี อะไรคือความหมายสำหรับสิ่งมีชีวิตในจักรวาล : การศึกษาถึงแหล่ง ที่พอสามารถดำรงชีพได้ ใต้ดินส่วนลึกของผิวโลกย่อมเป็นเงื่อนไขที่จะพบสิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์อื่นๆได้ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เชื่อได้ว่าอาจพบ สิ่งมีชีวิตในชั้นใต้ดินของ ดาวอังคาร อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อม ลึกสุดขีด 4 ไมล์จากผิวโลก การสำรวจของนักวิทยาศาสตร์ ในเหมืองทองคำใต้ดินมีความร้อนสูง ที่ South Africa จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:09:54

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้มาทันวุ้ย ลป.ชิดขวาด้วยครับ จากคุณ : McPhu เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:11:10

ความคิดเห็นที่ 5 F5 F5 F5 จากคุณ : AVAVA เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:12:13

ความคิดเห็นที่ 6 ชื่อ : Acidophiles แหล่งที่พบ : Lechuguilla Cave, Carlsbad, New Mexico รายละเอียด : เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรหดมาก อาศัยอยู่ในโพรงถ้ำที่มีค่าความเป็นกรด เท่ากับแบตเตอรี่ รถยนต์ อะไรคือความหมายสำหรับสิ่งมีชีวิตในจักรวาล : หลักเกณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์ คาดว่าจะพบสิ่งมีชีวิต แบบเดียวกันบริเวณชั้นเมฆ ของดาวศุกร์ ด้วยเหตุผลเฆมบน ดาวศุกร์ มีเข้มข้นของกรดสูงไม่เป็นปัญหาต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต รูปแบบดังกล่าว สิ่งมีชีวิตชนิดจิ๋ว อาศัยอยู่ในสภาพความเป็นกรดสูงมาก จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:12:50

ความคิดเห็นที่ 7 ชิดขวา จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:13:00

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามารอชม จากคุณ : Layzue เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:15:34

ความคิดเห็นที่ 9 ชื่อ : D.radiodurans แหล่งที่พบ : Hanford nuclear waste storage site, Washington state รายละเอียด : D.radiodurans ได้รับฉายาว่า Conan the Bacterium เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิด ที่สามารถต้านทานกัมมันตภาพรังสีได้ โดยปกติมนุษย์สามารถจะต้านทานได้ 1.5 ล้าน rads (หน่วยที่บอกถึงขนาดรังสีที่ถูกดูดกลืนในมวลสาร)สำหรับ D.radio- durans มีความต้านทานได้มากกว่า 1,000 เท่า มากกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ บนโลกนี้ อะไรคือความหมายสำหรับสิ่งมีชีวิตในจักรวาล : สามารถต้านทานได้เป็นพันเท่าของสิ่งมีชีวิตบนโลก D.radiodurans เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่รอดได้บน ดาวอังคาร ซึ่งเต็มไปด้วยกัมมัตภาพรังสี มีสภาพเป็นสูญญากาศและความหนาวเย็น ท่ามกลาง ภูเขาไฟที่สงบนิ่งแล้ว อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่มีกัมมันตภาพรังสี สูงมาก บริเวณที่ทิ้งกากกัมตภาพรังสี U.S. Department of Energy's Hanford Nuclear จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:16:03

ความคิดเห็นที่ 10 ชื่อ : Hydrothermal vent communities แหล่งที่พบ : Galapagos Rift off the coast of Ecuador รายละเอียด : เมื่อ ค.ศ.1977 นักวิทยาศาสตร์ ได้สำรวจ ใต้ทะเลลึก 4 ไมล์ ใต้พื้นผิวมหาสมุทร โดยบริเวณรอบๆ มีความร้อนจากน้ำพุแร่  ภูเขาไฟใต้ทะเลพุ่งขึ้นมา นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่ สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในความลึกมืดไม่มีแสงจาก ดวงอาทิตย์ ส่องลงไปถึง มีความกดดันสูง อุณหภูมิน้ำถึง 662 องศา F อะไรคือความหมายสำหรับสิ่งมีชีวิตในจักรวาล : เป็นหลักฐานที่เด่นชัดว่า ใต้พื้นผิวน้ำแข็ง ของดวงจันทร์ยูโรปา ดาวพฤหัส นั้นมีความเป็นไปได้ที่สิ่งมีชีวิต ประเภท Hydrothermal vent สามารถอาศัยอยู่ แบบจำลองใต้มหาสมุทร แหล่งกำเนิด Hydrothermal vent จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:18:57

ความคิดเห็นที่ 11 ชื่อ : Methane Ice Worms แหล่งที่พบ : Gulf of Mexico, 80 miles off the coast of Louisiana รายละเอียด : เมื่อ ค.ศ. 1977 พบหนอนสีชมพู (Rosy-pink worms) มีขนาดความยาว 1-2 นิ้ว ซ่อนตัวในปากโพรงใต้พื้นทะเลเต็มไปด้วยก็าซมีเธน พุ่งออกมาจากใต้พื้นทะเลน้ำแข็ง อะไรคือความหมายสำหรับสิ่งมีชีวิตในจักรวาล : การสำรวจพบรูปแบบ สิ่งมีชีวิตทีเราไม่เข้าใจ อาศัยอยู่ในที่เหยือกเย็นไม่มีแสงสว่างจาก ดวงอาทิตย์ ทำให้ต้องคิดถึงนิยาม การดำรงชีพสิ่งมีชีวิต ในอนาคตที่ท้าทายการสำรวจยิ่งขึ้น สวัสดีครับคุณ Thadias, คุณ McPhu, คุณ AVAVA ส่วนแรกจะจบแค่นี้ล่ะครับ Methane Ice Worms อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อม สุดทรหด จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:23:01

ความคิดเห็นที่ 12 มาปาด ตอนจบส่วนแรก จากคุณ : shinjoker เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:29:09

ความคิดเห็นที่ 13   ปาดคร้าบบบ จากคุณ : Animatter เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:31:04

ความคิดเห็นที่ 14 Thank you , Mr.Terran จากคุณ : AVAVA เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:33:52

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับคุณ bbiggy คุณ Layzue คุณ shinjoker คุณAnimatter อันนี้จะเป็นเซ็กชั่นทูแล้วนะครับ เริ่มเหลือเชื่อแล้วครับ (จนเชื่อไม่ได้เลย..เอ๊ยย) โดเวอร์เดม่อน (Dover Demon) เขาเรียกกันว่า Dover Demon เพราะมีผู้พบเห็นที่เมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอับ 2 รองจากบอสตัน ในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่พบเจอแค่ครั้งเดียวนะ ในปี ค.ศ. 1977 บิลส์ บาร์ทเล็ท , ไมค์ แมซซอคคา และแอนดี้ บรอดี วัยรุ่นอายุราว 17 ปี กำลังขับรถไปทางเหนือของฟาร์มสตรีท ในขณะที่ขับรถอยู่บาร์ทเล็ทท์ซึ่งเป็นคนขับรถก็ได้เห็นสิ่งประหลาดสิ่งหนึ่ง กำลังปีนไปตามกำแพงเตี้ยๆ ทางด้านซ้ายของถนน ครั้งแรกที่เห็นบาร์ทเล็ทท์คิดว่าอาจเป็นสุนัขหรือไม่ก็แมว จนกระทั้งไฟหน้ารถได้ฉายตกกระทบกับร่างลึกลับอย่างจัง สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นก่อนในชีวิต "ร่างนั้นมันค่อยๆ หมุนศีรษะของมันอย่างช้าๆ และจ้องมองมายังแสงไฟของรถ ตากลมของมันสองประกายราวกับแก้วใส เหมือนหินอ่อนสีส้ม 2 ลูก หัวของมันตั้งอยู่บนคอเล็กๆ มีลักษณะคล้ายแตงโม มองดูแล้วผิดส่วน เมื่อเทียบกับร่างกายส่วนอื่นๆ กล่าวคือแขนและขายาวและผอมเรียว แต่มือและเท้าใหญ่ ผิวไม่มีขนและมีสีลูกพีช และหยาบเหมือนกระดาษทราย ร่างนั้นมันสูงไม่เกิน 4 ฟุต มีลักษณะคล้ายเด็กทารกที่มีแขนและขายาว มันน่าประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวมาก มันเดินเหมือนกับว่ามันไม่รู้จุดมุ่งหมาย มันเดินไปตามกำแพงโดยใช้นิ้วมืออันยาวของมันไต่ตามก้อนหิน" แต่ปรากฏว่าเพื่อนที่นั่งมาด้วยทั้งสองคน กลับมองไม่เห็นร่างประหลาดดังกล่าว เพราะทั้งสองกำลังมองอีกด้านหนึ่งของถนน อีกทั้งบาร์ทเล็ทท์ก็เห็นร่างนั้นไม่กี่วินาทีเท่านั้นเองเพราะขณะเขาขับรถ ด้วยความเร็วสูงและอยู่ในทางโค้ง และเมื่อแล่นผ่านจุดนั้นแล้ว บาร์ทเล็ทท์จึงเล่าเรื่องนี้ให้ทั้งสองคนฟัง ที่แรกทั้งสองไม่เชื่อ แต่จากน้ำเสียงและกิริยาของบาร์ทเล็ทท์ ทำให้ทั้งสองสนใจ และต่างคะยั้นคะยอให้เขาขับรถกลับไปดูอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อกลับไปเห็นร่างลึกลับดังกล่าวหายไปแล้ว และเมื่อทั้งสามกลับมาที่พักบาร์ทเล็ทท์ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมกับวาดภาพปริศนาคลาสลิกให้เพื่อนดู ภาพออกมาแบบนี้ จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:36:21

ความคิดเห็นที่ 16 Methane Ice Worms หน้าตาน่ากลัวจริงๆครับ = = จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:40:18

ความคิดเห็นที่ 17 ม็อทแมน (Mothman) สิ่งมีชีวิตปริศนาที่พบที่รัฐเวสท์เวอร์จิเนียมีลักษณะคล้ายๆค้างคาวปนตัวมอธ ลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหวเหมือนค้างคาวบวกผีเสื้อกลางคืน พบเห็นเป็นจํานวนมากในปี 1966 15 พฤศจิกายน 1966 สองคู่หนุ่มสาวแต่งงาน  David  และ Linda  Scarberry  และ Steve  และ Mary  Mallette กำลัง เดินทางตอนกลางคืนในเวสท์เวอร์จิเนียตะวันตก และผ่านโรงงาน และสถานีสัตว์ป่า ทันใดนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นดวงไฟสีแดงสองดวงในเงามืดใกล้ประตูรั้วโรงงาน เลยเกิดสงสัย จึงหยุดรถ และพบสิ่งที่เหลือเชื่อเข้า เมื่อพบว่าดวงไฟสีแดงสองตัวนั้นคือสัตว์ประหลาดที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต "รูปร่างเหมือนผู้ชาย สูงประมาณหก หรือเจ็ดฟิท มีปีกใหญ่ที่พับน่ากลัวมาก" พวกเขาตกใจกับสิ่งที่เห็นเลยขับรถหนี แต่มันก็พยายามไล่กวาดรถด้วยการบิน ความเร็ว 100 ไมล์เหนือกว่าต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตามพอถึงระยะเวลาหนึ่งมันก็หายไปกลับความมืดแล้ว 24 พฤศจิกายน 1966 พยานสี่ผู้คนอ้างว่าเห็นสิ่งมีชีวิตปริศนาบินอยู่เหนือพื้นที่ทดสอบวัตถุระเบิดแรงสูง 25 พฤศจิกายน 1966 ในตอนเช้า วันที่ 25 พฤศจิกายน 1966 Thomas Ury กำลังขับมาถึงเส้นทาง62 ต้องทิศเหนือ ของเวสท์เวอร์จิเนีย เขาเห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดชนิดหนึ่งบินอยู่ข้างรถของเขา และไล่กวดอย่างน่ากลัว 26 พฤศจิกายน 1966 นาย Ruth Foster Charleston ที่เวอร์จิเนียตะวันตก อ้างว่าเห็นม็อทแมนยืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้าน 27 พฤศจิกายน 1966 ตอนเช้าของวันที่ 27 พฤศจิกายนหนุ่มสาวพบเห็นม็อทแมนใกล้ตึกเขตก่อสร้างเวอร์จิเนียตะวันตก และ มีรายงานอย่างอีกครั้งในตอน กลางคืนวันเดียวกันโดยเด็กสองคน 27 พฤศจิกายน 1966 เพียงไม่กี่เดือนก่อนการถล่มของสะพานซิลเวอร์  ในเวลานั้นพอยท์ พลีเซนท์ รัฐเวสท์เวอร์จิเนียนอกจากมีรายงานการพบเห็นม็อทแมนแล้ว ยังมีรายงานการพบยูเอฟโอมากมาย ทำให้รู้สึกว่ากำลังมีสัญญาณเตือนบางอย่างพวกเขารู้ จนกระทั้ง สะพานซิลเวอร์เป็นสะพานที่ก่อสร้างขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ด้วยการที่มันถูกยึดโยงไว้ด้วยโซ่เส้นใหญ่ มันมีอายุใกล้จะ 40 ปี ในวันที่ 15 ธันวาคม 1967 สะพานนี้ก็เริ่มเก่าลงตามกาลเวลา เหมือนใกล้ถล่มแต่ก็ไม่มีโอกาสซ่อมแซมเพราะยังใช้งานหนักในการจราจรอันหนาแน่นช่วงเทศกาล คริสต์มาส และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ไฟควบคุมการจราจรที่อยู่บนปลายด้านหนึ่งของสะพานไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งสาเหตุที่มันใช้งานไม่ได้กลับไม่ได้ถูกหยิบยกมาพิจารณาให้มีการแก้ไขแต่อย่างใด ตอนเย็นของวันที่ 15 ธันวาคม 1967 สะพานซิลเวอร์ก็ถล่มลงมาในช่วงที่การจราจรกำลังหนาแน่น ชาวเมืองจำนวน 46 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์หายนะครั้งนี้ ทันทีที่รถยนต์ของพวกเขาจมลึกลงไปในแม่น้ำโอไฮโออันเย็นเฉียบก่อนจะถึงเวลา พระอาทิตย์ตกดินเพียงเล็กน้อย มันเป็นหายนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในเมืองพอยท์ พลีเซนท์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีจำนวนพลเมืองน้อยกว่า 6000 คน FATE ฉบับกันยา ปี 2007 ลงปกเป็นรูปม๊อธแมน แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 14:57:35 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 14:54:36 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:52:27

ความคิดเห็นที่ 18   # 15 ผมดูแล้วนึกถึงกอลลัมชอบกล และก็ขอบคุณสำหรับบทความครับ จากคุณ : Mr.ผัก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:52:41

ความคิดเห็นที่ 19   เท่มากม็อทแมนยังกะซุปเปอฮีโร่ จากคุณ : รอมาสิบปีแล้วสินะ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:59:40

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบครับ โหวตไปแล้วด้วยครับ จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:09:19

ความคิดเห็นที่ 21 มาถึงตัวที่สาม เอล ชูปราคาบรา (El Chupacabra)มันมาอีกแล้วครับตัวนี้ หวัดดีครับ Mr.ผัก เอล ชูปราคาบรา (El Chupacabra) มีนาคม 1995 ชาวบ้านที่ตำบลโอโรโดบิส และโมโรบิส แถบภูเชาตอนในของเกาะปอร์โตริโกต้องเผชิญกับสิ่งน่ากลัวที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาพบว่าแพะแกะของพวกตนนอนตายระเกะระกะเหมือนดั่งว่ามีใครทําร้ายพวกมัน ทีแรกก็ไม่ได้สนใจ คิดกันว่ามันอาจจะเป็นหมาป่าหรือหมาจิ้งจอก แต่พอสำรวจเจอเข้ากับรอยเจาะ 2 รู ที่เปื้อนไปด้วยรอยเลือดเกรอะกรังขนาดเท่ากับหลอดกาแฟบนตัวสัตว์ทุกตัวที่ นอนตาย ที่สำคัญที่สัตว์ที่ตายเหล่านี้สภาพศพตัวซีดเผือดและมีกลิ่นกำมะถันติดอยู่ แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีรอยเลือดอยู่ที่พื้นดินสักหยด แสดงว่าทุกตัวต้องถูกดูดเลือดจนหมดออกร่างไปจนหมด ต่อมาเริ่มพบซากของสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นแพะ สุนัข ตายในลักษณะเดียวกันนี้มากขึ้น มีชาวบ้านคนหนึ่งเห็นตัวมันในกลางดึกคืนหนึ่ง เขาเล่าว่ามันกำลังเกาะอยู่บนตัวแพะในความมืดและส่วนที่เค้าคาดว่าเป็นส่วน หัวของมันติดอยู่กับลำคอแพะของเขา ด้วยความตกใจเค้าจึงส่งเสียงดังเพื่อไล่มันไป มันหันมามองเค้าแว่บนึงแล้วก็กระโจนเข้าไปยังทางหลังบ้านแล้วก็หายไปในความ มืด ต่อมาตอนเช้าก็ได้มีการชันสูตรซากแพะตัวนั้นไม่มีเลือดเหลืออยู่เลย "มันค่อนข้างมืด แล้วก็ไม่ค่อยแน่ใจในรายละเอียดของมันเท่าไหร่ แต่ว่าเห็นเพียงใบหน้าและดวงตากลมโตเท่าไข่ไก่ที่เป็นสีแดง กับเขี้ยวทั้งสองอันที่มุมปาก" ในเดือนกันยายนปี 1995 มาเดลีน โตเลนติโน แม่บ้านที่อาศัยอยู่ใน คาโนบานาส ทางตะวันออกของกรุงซานฮวน เมืองหลวงของเกาะและคนอื่นหลายคนได้โอกาสเห็นตัวต้นเหตุมันกำลังดูดเลือดแพะ พอดี เธอกับชาวบ้านคนอื่นก็ไล่มันไป มันหันมามองเธอแว่บนึงแล้วก็กระโจนเข้าไปยังทางหลังบ้านแล้วก็หายไปในความมืด ต่อมาตอนเช้าก็ได้มีการชันสูตรซากแพะตัวนั้นไม่มีเลือดเหลืออยู่เลย เธอให้การกับตำรวจว่า "มันสูงประมาณ 3 - 4 ฟุต มีหนังคล้าย ไดโนเสาร์ ดวงตาสีแดงโตของมันฉายประกายจ้าในความมืด เขี้ยวยาวและงอโค้งไปด้านหลัง กำลังทำร้ายพวกแพะอยู่" Luis Guadalupe หนึ่งในผู้ที่พบกล่าวว่า "มันน่าเกลียดมาก และดูเหมือนว่ามันจะบินได้ด้วยซ้ำ และลิ้นมันยาวยังกับลิ้นงู" Angel Pulido หนึ่งในผู้พบเห็นกล่าวว่า "มันเหมือนค้างคาวตัวใหญ่ที่ดูเหมือนแม่มด" พวกนักการเมืองท้องถิ่นเริ่มออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้สอบสวนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ Jose Soto นายกเทศมนตรีของเมือง เริ่มส่งคณะไปค้นหา มีผู้ร่วมถึง 200 คนตระเวนหาตามไร่ต่างๆ ในตอนกลางคืน เนื่องจากคาดว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้อาจจะหลับในตอนกลางวันแต่ออกหากินเวลากลางคืน แต่ก็เหลว  เพราะหุบเขาในเปอโตริโกนั้นซับซ้อนและมีความยาวมาก ในปี 2007 มีแกะกว่า 300 ตัว ตายในสภาพแบบเดียวกันที่เมือง Boyaca ในโคลัมเบีย 11 มกราคม 2008 ชาวบ้านในเมือง Capiz ของ Philippines เชื่อว่า เอล ชูปราคาบรา ฆ่าไก่ของพวกเขาไป 8 ตัว มีชาวบ้านคนนึงบอกว่าเขาเห็นสัตว์ที่คล้ายหมาไล่กินไก่ของเขา เอล ชูปราคาบรา (El Chupacabra) จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:10:33

ความคิดเห็นที่ 22 น่าสนุกจังอ่า เข้ามาอ่าน เมี๊ยว จากคุณ : ยำยำรสหอยลายผัดฉ่า เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:19:35

ความคิดเห็นที่ 23 Flying Rods ฟลายอิ้ง ร็อดซ์เป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994 ที่มิดเวย์ในรัฐนิวเม็กซิโก ช่างตัดต่อฟิลม์ชื่อโฮเซ่ เอสคามิลล่า (Jose Escamilla) ได้พบบางอย่างที่ปรากฏขึ้นในฟิลม์เมื่อทำการฉายด้วยสโลโมชั่นของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ได้ไปถ่ายรูปเมื่อตอนไปกระโดดร่มเล่นที่หน้าผาที่ทะเลทราย ในรัฐนิวเม็กซิโก  บางอย่างที่ว่ามีลักษณะเป็น แท่งยาว ด้านข้างมีแผ่นครีบบางๆซึ่งโบกพัดไปมาด้วยความเร็วสูง โจเซ่จึงคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต เขาได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมันจนสามารถถ่ายภาพที่เกี่ยวข้องเก็บไว้ ได้ถึง 500 ชั่วโมงและเรียกสิ่งมีชีวิตปริศนานี้ว่า Flying Rods ที่ แปลว่าแท่งไม้บินนั่นเอง  นอกจากนี้แล้วร็อดซ์ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น Roswell Rods, The Sky Diving, Flying Fish, Sky Fish เป็นต้น ส่วนบุคคลแรกที่เป็นผู้ที่ทำให้โลกนี้รู้จักกับร็อดซ์ก็คือนาย Jose Escamilla ซึ่งได้นำเรื่องราวของร็อดซ์ไปออกรายการวิทยุ ArtBell  และจากนั้นต่อมาเรื่องราวของร็อดซ์ก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างเป็นการกว้างขวาง จนกระทั้ง ปรากฏข่าวเรื่องพบเห็นรอดซ์ตามมาอีกอีกมายมาย ทั่วทุกมุมโลก อย่างไม่เคยมีมาก่อน มีทั้งอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือกระทั่งล่าสุดก็มีการพบร็อดซ์ที่แบกแดดด้วย เมื่อดูจากภาพร็อดซ์มีรูปร่าง เป็นแท่งยาว มีปีกหรือครีบอยู่รอบลำตัว ขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 นิ้ว สีผิวค่อนข้างที่จะขาวหรือขาวใส โดยรูปร่างของร็อดซ์ก็มีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีก Centipede Rods (ร็อดตะขาบ) White Rods (ร็อดขาว) Spears Rods (ร็อดหอก) จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:29:01

ความคิดเห็นที่ 24 ครั้งแรกได้เข้ามาปาดสดๆ ^^ จากคุณ : kozaz เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:29:15

ความคิดเห็นที่ 25 หวัดดีครับคุณ รอมาสิบปีแล้วสินะ ,ยำยำรสหอยลายผัดฉ่า , อาบะเรนเจอร์ มนุษย์กบแห่งเลิฟแลนด์ (The Loveland Lizard) มนุษย์กบแห่งเลิฟแลนด์ รูปร่างคล้ายมนุษย์แต่มีหน้าขนาดใหญ่คล้ายกบ มีรายงานการพบเห็นในเลิฟแลนด์ และเมืองโอไฮโอ(Ohio) ประเทศสหรัฐอเมริกา 1955 มีรายงานการพบครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 1955 นักธุรกิจถูกบอกว่าเคยเห็นกบสูง 3 ฟุต เขาบรรยายลักษณะของมันว่ามันมีรอยย่นบนหัวแต่ไม่มีผม ตัวงอ ปากกว้างไม่มีริมฝีปากเพราะนอกจากนี้มันยังมีกลิ่นเหม็น กลิ่นของมันแรงเหมือนกลิ่นของอัลฟัลฟา และเหมือนกลิ่นของเมล็ดอามันด์ 1972 เวลาผ่านไปกว่า 20 ปี ไม่มีรายงานการพบเจ้ากบแห่งเลิฟแลนด์อีกเลย จนกระทั้งวันที่ 3 มีนาคม ตำรวจได้รายงานว่าเขาพบเห็นสัตว์ประหลาดที่มีผิวหนังมันลื่นๆ ที่แถบเลิฟแลนด์มันกระโดดเหนือรางรถไฟก่อนที่มันจะกระโดดลงแม่น้ำไมอามี่และก็หายไปกับตา สองสัปดาห์ต่อมาเจ้าหน้าที่พบเห็นมันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม1972 เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังการแล่นเรือตระเวณบนริมฝังแม่น้ำไมแอมอิแม่น้ำในเลิฟแลนด์ เมือง โอไฮโอ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบสิ่งผิดปกติบนถนน ตอนแรกสิ่งที่พวกเขาพบเห็นมันน่าจะเป็นสุนัขมากกว่าแต่เมื่อดูใกล้ๆกลับไม่ใช้อย่างที่พวกเขาคิด พวกเขาลดความเร็วของเรือ และเข้ามาดูสัตว์ตัวนั้นอย่างใกล้ๆ และช้าๆ แต่แล้วเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็ลุกขึ้นมันวิ่งมุ่งไปทางทิศทางที่พวกเขาอยู่ แม้ตอนนั้นบนถนนเต็มไปด้วยน้ำแข็งแต่ความเร็วของมันไม่ลดลงเลยและไม่ลื่นหก ล้มด้วย แสดงให้เห็นว่ามันมีความสมดุลสูงสามารถยืนอยู่บนก้อนน้ำแข็งได้สบาย จากนั้นเจ้าสัตว์ตัวนั้นก็เข้ามาใกล้เรือตำรวจสองนายนั้น พวกตำรวจหยุดเรือและแสงไฟสว่างหน้าเรือก็ส่องไปที่สัตว์ตัวนั้นและพวกเขา ต้องตะลึงกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันเป็นสัตว์ที่พวกขาไม่เคยพบมาก่อนรูปร่างเหมือนครึ่งคนครึ่งสัตว์หัวเป็นสัตว์ประหลาดที่ออกไปทางจิ้งจกหรือสัตว์เลื่อยคลาน แต่ไม่ทันทีเห็นอะไรมากกว่านี้ พวกเขาก็ชักปืนเพื่อยิงมัน มันเลยตกใจและก็หนีไปเข้าพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว และก็หายไปในความมืด ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายยืนยันชัดเจนว่าสามารถสิ่งที่เห็นมันไม่มี สุนัข มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายมันคือตัวอะไรกันแน่ "สัตว์ประหลาดตัวนั้นสูงประมาณ 4 ฟุต หนักประมาณ 50 ถึง 75 ปอนด์ ผิวหนังฟอก พื้นผิวลื่นปีก หางสั้น หัวและหน้าเหมือนกบ หรือสัตว์เลื้อยคลาน และสามารถกระโดดไปมาได้" หลังจากนั้น 3 สัปดาห์ต่อมาสองตำรวจคนเดิมก็พบสัตว์ประหลาดตัวนั้นอีกครั้ง มันนอนกลางถนนเหมือนสุนัขหมอบไม่มีผิด และเมื่อพวกเขาลงจากรถและพยายามดึงมันขึ้นมาก ทันใดนั้นมันก็ลุกปละหนีหายต่อหน้าต่อตา และในวันรุ่งขึ้นตำรวจสองนายทำการค้นหาบริเวณที่พบตัวมันปรากฏว่ามีรอยประหลาดอย่างหนึ่งมีลักษณะคล้ายรอยย้ำของกบขนาดใหญ่ รอยเท้านั้นได้บ่งบอกว่ามันกำลังลงไปในน้ำ มันถูกพบครั้งสุดท้าย ในปี 2000 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 15:41:03 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:38:51

ความคิดเห็นที่ 26 ปาดดด รู้จัก Rods จากเรื่องโจโจ้ จากคุณ : ซาจุกแดง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:43:14

ความคิดเห็นที่ 27 เขียด ตามอ่านติดๆ จากคุณ : Ogeejung เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:50:57

ความคิดเห็นที่ 28 มาลงชื่อติดตามอ่านจ้า จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:58:11

ความคิดเห็นที่ 29 ปิดท้ายด้วยตัวประหลาดที่บราซิล หวัดดีครับคุณ kozaz คุณ ซาจุกแดง คุณ Ogeejung คุณ Digi ในตอนเช้าของวันที่ 20 มกราคม 1996 ประมาณ 7-8 นาฬิกา หน่วยดับเพลิงของเมืองวาร์จินฮาได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า มีคนพบเห็นสัตว์ประหลาดในเขตยาร์ดิมอันเดเร ครู่ต่อมาก็มีชาวเมืองโทรศัพท์มาแจ้งเรื่องนี้อีกราย แล้วก็อีกราย แล้วก็อีกราย หน่วยดับเพลิงซึ่งในบราซิลขึ้นอยู่ในสังกัดของทหารจึงส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบตามทิศทางที่ได้รับแจ้งเหตุในบริเวณซึ่งเป็นเขตป่า พวกเจ้าหน้าที่เจอสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง ซึ่งมีปุ่มโปนคล้ายหงอนขนาดใหญ่ 3 หงอนอยู่บนหัว มีดวงตาสีแดง มีแขนยาวเรียว และมีขาสั้นแต่ตีนใหญ่ มันเอาแต่ส่งเสียงหึ่งๆ เหมือนผึ้งเจ้าหน้าที่ใช้ตาข่ายจับตัวมันได้อย่างง่ายดาย เพราะดูท่าทางมันกำลังงงๆ มันถูกเอาตัวไปในราว 10 โมงของเช้าวันนั้น ต่อมาในวันเดียวกันและในบริเวณเดียวกันนั้น ขณะเด็กสาว 3 คน คือ ลิลเลียน ฟาติมาวาลกิรา ฟาติมา และอันเดรด เซเวียร์ กำลังเดินทางลัดกลับบ้านหลังเลิกงานก็ได้เจอกับสัตว์ประหลาดตัวที่สอง ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเจ้าตัวแรกพอมันมองมายังพวกเธอ ทุกคนต่างตกใจรีบวิ่งหนีเข้าบ้าน และเล่าเรื่องราวให้ลุยซา แม่ของสองพี่น้องสกุลฟาติมาฟัง คุณแม่ออกไปดูตรงจุดที่ลูกๆ บอก เห็นรอยเท้าบนพื้นโคลนและได้กลิ่นเหมือนแอมโมเนียในบริเวณนั้น วันนั้นมีรายงานเหตุการณ์การพบเห็นสัตว์ประหลาดทำนองนี้หลายครั้ง รวมแล้วถูกจับได้ทั้งหมด 7 ตัวด้วยกัน ว่ากันว่ามีอย่างน้อยหนึ่งตัวถูกจับส่งโรงพยาบาล ตัวหนึ่งตายและถูกนำขึ้นรถบรรทุกของทหารไปยังมหาวิทยาลัยแคมปินาส ที่นั่นเจ้าตัวนี้ได้ถูกผ่าชันสูตรด้วยข่าวบางกระแสบอกว่าอีกสองตัวถูกส่งไปยังมหาวิทยาลัยเซาเปาโล ซึ่งมีรายงานว่ามีการถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน สารวัตรทหารวัย 23 ปี มาร์โซ เอลี เชเรซ ซึ่งเป็นคนไปจับตัวเจ้าสัตว์ประหลาด ได้เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดบางคนบอกว่าเขาติดเชื้อเพราะไปสัมผัสจับต้องเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนั้น เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นข่าวโด่งดัง พวกสื่อมวลชนก็แห่ไปซักถามบรรดาผู้เห็นเหตุการณ์จนไม่เป็นอันได้ทำอะไร ลือกันว่า สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งได้ถูกชันสูตรโดยแพทย์ด้านนิติเวชผู้หนึ่ง ชื่อ บาดัน พัลฮาเรส แต่เจ้าตัวยืนยันอย่างเป็นทางการว่าไม่เคยผ่าศพสัตว์ประหลาดแม้แต่ตัวเดียวอย่างไรก็ดี ข่าวบอกว่าคุณหมอแย้มไว้ว่า จะขอพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า นักค้นคว้าเรื่องวัตถุบินลึกลับบอกว่า สมมติว่าเรื่องนี้เป็นความจริงก็ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ เพียงแต่มีรายงานการพบเห็นจานบินหลายครั้งในช่วงเวลานั้น เรียบเรียงทั้งหมดจาก www.sunflower.org en.wikipedia.org/wiki/Dover_Demon en.wikipedia.org/wiki/Mothman en.wikipedia.org/wiki/Chupacabra en.wikipedia.org/wiki/Rod en.wikipedia.org/wiki/Loveland_frog writer.dek-d.com/dek-d/story/view.php?id=376491 www.artsmen.net สําหรับวันนี้ก็ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ.Terran จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:00:50

ความคิดเห็นที่ 30 ปาดตอนจบ รอบสอง จากคุณ : shinjoker เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:10:52

ความคิดเห็นที่ 31 ปาดด้วยคน จากคุณ : ฤ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:23:08

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาอ่านจนจบครับ..ชอบมาก จากคุณ : tus_sks เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:34:07

ความคิดเห็นที่ 33 ชื่อเต็มของ #9 คือ Deinococcus radiodurans ครับ (ทำไมรูปของมันถึงได้ไปอยู่คห.1?) นิดนึงครับ มร.เทอร์แรน เวลาพิมพ์ชื่อวิทยาศาสตร์ควรใช้ตัวเอียงครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:35:03

ความคิดเห็นที่ 34 ^^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:41:03

ความคิดเห็นที่ 35 เครื่องเต่า  ขอแอบปาด จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:49:00

ความคิดเห็นที่ 36 โดเวอร์เดม่อน (Dover Demon)  เหมือนตัวกัปปะของพี่ยุ่นเค้าเลย ขอบคุณสำหรับบทความครับ จากคุณ : carburante d' amore เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:58:04

ความคิดเห็นที่ 37   3.... จากคุณ : doralie6e เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 18:45:46

ความคิดเห็นที่ 38   อันแรก Monster ปานามา มันไม่ใช่ ตัวสล็อตที่ตายแล้วขึ้นอึดหรือครับ ดูจากเล็บ และ หน้า จากคุณ : SippaKorn_TheJoker เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 19:04:53 A:124.157.214.201 X:

ความคิดเห็นที่ 39 คลิกมาโหวต จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 20:02:44

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบชื่อ Conan the Bacterium มากๆ ^^ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 20:10:26

ความคิดเห็นที่ 41 คห 11 ในรูปหน้าตาอุบาทว์มาก คห 22 ในรูปสัตว์ประหลาดตัวนี้ผมเคยเห็น จากคุณ : คาวบอยหลังเขา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 23:54:56

ความคิดเห็นที่ 42   ขอโทษครับ Mr.Terran กับคุณCammyแห่งเว็บเด็กดี เป็นคนเดียวกันหรือเปล่าครับ http://writer.dek-d.com/dek-d/story/view.php?id=376491 เพราะสำนวนการแปลเหมือนกันเด๊ะๆ กระทู้ก่อนหน้านี้ก็ใช่ ทั้งหมด จากคุณ : คลามิเซีย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 00:10:11 A:192.168.1.76 X:61.7.167.191 TicketID:123589

ความคิดเห็นที่ 43 ผมว่าไม่ใช่นะ คุณ Cammy ค่อนข้างจะมีอารมณ์เอาแต่ใจแบบเด็กๆให้เห็นอยู่บ่อยๆ รวมทั้งอาการน้อยใจและพิมพ์ผิด แต่ Mr. Terran ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นนะ ปล. ผมก็ติดตามงานแปลและเรียบเรียงของคุณ Cammy เหมือนกันครับ ขยันและทำได้ดีมากๆ จากคุณ : ToOkToNg NaKrAb เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 00:51:28

ความคิดเห็นที่ 44   ถ้าไม่ใช่ก็แปลกนะ เพราะบทความก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าเป๊ะๆเหมือนคุณCammyเลย ผมเลยมองๆหาเครดิตว่ามีให้หรือเปล่า แต่ไม่เห็น ซึ่งบทความเหล่านั้นที่คุณMr.Terranเอามาลง ผมได้อ่านจากคุณCammyมาก่อนแล้ว แต่Mr.Terranบอกว่า แปลเองจากเว็บนอก ผมก็งงๆ กลับไปดูของคุณcammyมันอันเดียวกันนิหว่า แต่บทความนี้ยังดีมีให้เครดิตบ้าง แต่มาสะดุดตรงen.wikipedia.org/wiki/Dover_Demon en.wikipedia.org/wiki/Mothman en.wikipedia.org/wiki/Chupacabra en.wikipedia.org/wiki/Rod en.wikipedia.org/wiki/Loveland_frog เครดิตอันนี้ เห็นแป่ะ อยู่ในเว็บคุณCammyนี่นา ผมเลยสงสัยว่าอาจจะเป็นคนเดียวกัน เพราะ การเรียบเรียงสำเนียง แทบจะอันเดียวกันเลย ฮั่นแน่ ตาCamปลอมตัวมาอ่ะดิ๊ จากคุณ : คลามิเซีย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 01:29:18 A:192.168.1.76 X:117.47.239.118 TicketID:123589

ความคิดเห็นที่ 45 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr.FiwFiw (monixe) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 02:59:12

ความคิดเห็นที่ 46 http://www.asios.org/skyfish_en.html จากคุณ : pinhead เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 03:06:49

ความคิดเห็นที่ 47 ค.ห.15 ตอนแรกอ่านเป็น โดเรม่อน ตกใจหมด ฮ่วย จากคุณ : ฝนตก/หมูสับ/มาม่า เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 07:25:58

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณ ครับ ตัวประหลาด เยอะดี ^^ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 08:55:04

ความคิดเห็นที่ 49 แฟนคลับตามมาโหวต+กิฟท์ครับ จากคุณ : knine2five เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 09:06:11

ความคิดเห็นที่ 50 17 เหมือนหนังเรื่องไรนะ นึกชื่อไม่ออก ที่มันชอบปลอมเป็นหุ่นไล่กา แล้วจะกินอวัยวะคนมาเป็นของตัวเอง ริปเปอร์ไรเนี่ยแหละ จากคุณ : ห้องเล็กเลขที่99 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 09:53:29

ความคิดเห็นที่ 51 เจ้า Deinococcus radiodurans เนี่ย น่าจับมาทำเกราะป้องกันรังสีนะ ประมาณว่าเลี้ยงไว้บนหลังคาบ้าน หรือผนังกันรังสี   ทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้? ปล. เจ้าตัว 1 ท่านอนตาย Sexy เหลือหลาย แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 52 10:22:40 จากคุณ : Yippie เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 10:19:38

ความคิดเห็นที่ 52   ยอดเยี่ยมมากเลยครับ จากคุณ : nadashiko (nadashiko) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 11:27:28

ความคิดเห็นที่ 53 อ่ะ . . . สงสัยจะลืมเจ้า"กุ้ง" ณ district 9 อิอิ จากคุณ : หน้าบ่าแดง แฮงบ่ามี เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 11:43:39

ความคิดเห็นที่ 54 ใครไม่ชอบเรื่องพวกนี้ไม่รู้ แต่นู๋ชอบ 555+ โหวตให้ 1 จึ้ก จากคุณ : เลดี้ลิลิ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 12:53:27

ความคิดเห็นที่ 55 ชิดขวา  หลบใน หน้าน้ำเงิน... จากคุณ : ปัจจุบันคนหลังเขา (อดีตเป็น) (คนไทยในลอนดอน) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 13:55:47

ความคิดเห็นที่ 56 Mothman คือ Jeepers Creepers สินะ - - จากคุณ : jakkrissana เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 14:24:41

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านสนุกเหมือนเคย จากคุณ : ผีหลายบทบาท เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 14:51:12

ความคิดเห็นที่ 58 ชอบเรื่องลึกลับมากๆ ค่ะ.... ยิ่งเรื่องมนุษย์ต่างดาวแล้ว ยิ่งชอบ ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : +SayuriMysterious~* เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 16:08:00

ความคิดเห็นที่ 59 ชิดขวา ตามอ่านครับผม ขอบคุณครับ _/\_ จากคุณ : บุรุษหน้าบาน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 17:15:51

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่มีบุญอดปาด ..   -.- จากคุณ : reonce เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 03:07:35

ความคิดเห็นที่ 61 สนุกมากครับ จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 04:23:14

ความคิดเห็นที่ 62 Flying Rods ฟลายอิ้ง ร็อดซ์ มันคือแมลงกระพือปีกหลายครั้งในหนึ่งเฟรมของการถ่ายภาพ จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 13:45:31

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่เคยว่าจะได้ทันปาดกะชาวบ้านเค้าเล๊ยยย ขอบคุณมากค่ะ สนุกดีค่ะ จากคุณ : รองเท้ากับนาฬิกา เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 21:11:27

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาอ่านครับผม  ขอบคุณมากๆนะครับนะ จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 52 10:13:44