NP Faster / เลือก..แล้วทำ / ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา / มติชนสุดสัปดาห์
|
|
ฉบับวันที่ วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552
รถยนต์
ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
เลือก..แล้วทำ
ผม เริ่มทดสอบอีกครั้ง หลังเวลาพักผ่านไปราวสิบห้านาที โดยการติดเครื่องยนต์ขึ้น ออกรถจากที่จอดมุ่งหน้าไปบนถนนทดสอบ โดยผู้ช่วยเหลือกดการบันทึกก่อนตามเคย แต่ผมไม่ค้าน เพราะจะได้บันทึกข้อมูลเหมือนกันไปเสียเลย
แม้จะผิดไปบ้าง ก็ผิดเหมือนกัน ไม่แปลกอะไรครับ
แล้วหลังจากจบการทดสอบห้ารอบสนาม ระยะทางวิ่งประมาณ 37 กิโลเมตร ก็ได้ผลออกมาเรียกได้ว่า ไม่ผิดกันเลย ซึ่งก็เป็นอันสรุปได้ว่า NP Faster ไม่ได้ช่วยอะไรในด้านประหยัดเชื้อเพลิง อย่างที่อ้างการพิสูจน์จากอาจารย์มหาวิทยาลัยเลยแม้แต่น้อย
เรากลับสู่ที่ตั้งกันก่อนสำหรับคืนวันเสาร์ เพื่อเอาข้อมูลออกจากหน่วยความจำของ Data Logger
จากนั้น ผมก็เตรียมตัวเพื่อทดสอบอีกครั้งหนึ่ง สำหรับวันอาทิตย์ ในช่วงกลางวัน แทนการทดสอบช่วงกลางคืน
ไม่ได้ห่วงเรื่องตัวแปรอะไรหรอกครับ เพราะเท่าที่ถามคนในห้องหว้ากอว่าได้เห็นเขียนกันเรื่องตัวแปรมากมาย ขอให้บอกหน่อยเถิดว่า ตัวแปรมีอะไรบ้าง ก็ไม่มีใครบอกได้สักคน ผมก็เลยหมดความสนใจไปด้วย เพียงแค่เก็บข้อมูลจำนวน 14-15 ข้อมูลก็เพียงพอถมไปแล้วสำหรับการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ยิ่งเมื่อเราใช้ถนนเดียวกัน เวลาใกล้เคียงกัน สภาพลมเท่ากันทั้งทิศทางและกระแส ก็ถือว่า ใช้ได้อยู่แล้ว
อีตาผู้ช่วยจอมดื้อของผมโทรศัพท์เข้าไปหาที่บ้าน แจ้งความจำนงขอไปร่วมทดสอบด้วย ทั้งที่ผมยืนยันว่าไม่เป็นไร พักผ่อนเถิด ผมทำกันเองได้ ไม่รบกวนหรอก ด้วยความกลัวว่า จะมีการกดบันทึกก่อน เหมือนอย่างที่เขาแสดงความคิดเห็นเอาไว้ใน email ที่ติดต่อกับผม เป็นเชิงบอกว่า ต้องใช้เวลาอีกหลายวินาที กว่าจะกดบันทึกเข้าไปได้
แต่คำหนึ่งที่ทำให้อึ้ง และต้องยอมรับ ก็คือพ่อผู้ช่วยนั่น บอกมาว่า แล้วผมจะปล่อยให้อาไปคนเดียวได้อย่างไร
คำคำนี้เอง ที่ทำให้ผมตกลงยอมรอให้เขาเดินทางจากบ้านเขา มาบ้านผม เสียเวลารออยู่เกือบชั่วโมงเต็ม
แล้วเราก็เดินทางร่วมกันจากสวนสยาม กลับไปสนามทดสอบอีกครั้ง
คราวนี้ ผมย้ำนักหนาว่า ต้องบันทึกเมื่อรถเคลื่อนที่ออกไปแล้วที่ความเร็วระดับหนึ่ง ซึ่งผมจะเรียกการบันทึกเอง โดยให้เตรียมกดปุ่มทุกอย่างไว้ให้พร้อม เหลือเพียงปุ่ม OK ปุ่มเดียวเท่านั้น
ก็เป็นที่เข้าใจกัน แม้จะยังมีความรู้สึกค้านบางๆ ให้เห็น แต่ผมก็ไม่สนใจ ยังคงดำเนินการทดสอบไปจนจบการทดสอบครั้งแรก 3 รอบสนาม แต่ก่อนจะทดสอบครั้งต่อไป อาการค้านก็ปรากฏให้เห็นชัดขึ้น โดยการขอให้ผมเอาข้อมูลมาใส่ในคอมพิวเตอร์ตัว NetBook ของผมก่อน นัยว่า เพื่อดูผล แต่พอผลปรากฏ ผมก็หัวเราะเพราะผลที่ได้นั้น ออกมาในลักษณะที่ผมว่าไว้จริงๆ อันได้แก่ระดับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตัวแรกอยู่ในระดับต่ำ รับได้เลยครับ
สำหรับการทดสอบรอบที่สอง เราติดตั้ง NP Faster เข้าไปกับปลั๊กที่จุดบุหรี่ แล้วปรับตัว Data Logger ให้พร้อมสำหรับบันทึก ก่อนออกตัวรถทดสอบ จากนั้น เมื่อความเร็วขึ้นถึงระดับ และผ่านหลักเริ่มต้นของระยะทาง ผมก็สั่งกด OK ทันที เริ่มบันทึก
เราวิ่งวนรอบสนาม ด้วยการรักษาระดับความเร็วทั้งตอนทางตรง และทางโค้งรูปตัว U ทั้งสองมุมของทางเอาไว้ จนได้ผลออกมาที่ความเร็วเฉลี่ยของสามรอบ 20 กว่ากิโลเมตรเท่ากัน เมื่อจบการทดสอบ จำนวนข้อมูลเก็บมาได้ถึงกว่าเจ็ดพันข้อ ข้อละ 14 หน่วย ไม่พอก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วละครับ
การวัดลม พบว่า ลมปะทะจากใต้ไปเหนือแรง 3 เมตรต่อหนึ่งวินาที ก็แรงเอาการเหมือนกัน ส่งรถให้เร็วขึ้นได้เกือบกิโลเมตร ตัวแปรอื่นอื่นก็เท่ากัน เช่น เข้าและออกโค้งด้วยความเร็ว 40-45 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทั้งเหนือและใต้ ทางตรง 89-90-91 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ครั้งแรก ไม่ได้ใช้ NP Faster ได้อัตราความเร็วเฉลี่ยออกมาที่ 83.90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางที่วัดได้ 22.90 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลือง 10.70 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 9.346 กิโลเมตรต่อลิตร
ครั้งที่สอง ใช้ NP Faster ได้อัตราความเร็วเฉลี่ยที่ 83.30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางที่วัดได้ 22.60 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลือง 10.70 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 9.346 กิโลเมตรต่อลิตร
เมื่อเทียบกับอัตราเร่งที่เคยทดสอบมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน ว่า NP Faster ไม่ได้ช่วยอะไรกับสมรรถนะและประสิทธิภาพอะไรของรถเลยแม้แต่อย่างเดียว ถือว่า ใช้ไม่ได้ผลครับ
แต่ผมก็คงจะไม่เข้าไปทดสอบอุปกรณ์ประหยัดน้ำมันตัวอื่นอื่นอีกหรอกนะครับ
เพราะไม่คิดจะเป็นผู้ทดสอบสินค้า นอกจากรถยนต์
เรื่องอื่นขอให้เป็นหน้าที่ของรัฐของราชการ ในการทดสอบหาข้อมูลมาบอกกล่าวแก่ประชาชน อย่ามัวรอให้ประชาชนต้องฟ้องร้องเลยครับ ถ้าต้องรอก็แก้กฎแก้ระเบียบเสียใหม่เถิดครับ
ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องให้ประชาชนลุกขึ้นทดสอบเอง ด้วยการเสียค่าใช้จ่ายเอง แล้วนำเรื่องไปร้องเรียนต่อหน่วยงาน ที่นั่งรอดูอยู่ทั้งที่รู้ผลก่อนแล้ว แต่ไม่ทำอะไร รอจนมีคนมาร้องเรียน ก็จะเรียกพ่อค้ามาไกล่เกลี่ย
ช้าเกินไปครับ ควรจะทำการปิดการโฆษณา ระงับการจำหน่าย ยกเลิกสินค้าไปก่อนหน้าที่ประชาชนจะเสียหายมากมายเช่นที่ผ่านๆ มา
จะรอช้าอยู่ทำไม
ผม ขอส่วนตัวนิดหนึ่งครับ คุณสีหพันธุ์ ชุมสาย ณ อยุธยา รองประธานบริหารนกแอร์ หลานรักและเพื่อนคนหนึ่งของผม ถึงแก่กรรมด้วยอาการเส้นโลหิตหัวใจอุดตัน เมื่อราวเที่ยงวันที่ 9 ตุลาคมนี้เอง ตอนนี้ ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน อายุรวมได้สี่สิบสองปีเกือบสี่สิบสามเต็มในวันที่ 22 ตุลาคมนี้แล้ว
ผมจะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในวันเสาร์ที่ 17 อันเป็นวันสุดท้าย เวลา 18.30 น. มีสมาชิกห้อง Blueplanet ร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยนะครับ ประชุมเพลิง วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม ผมเดินทางไปญี่ปุ่นพอดีเสียด้วย
วัยของแต่ละคนนั้น ดูกันที่อายุไม่ได้เสียแล้วละครับ ต้องดูกันที่สุขภาพเป็นสำคัญ อย่าประมาทครับ ทุกท่าน
| จากคุณ |
:
ekky@mail  
|
| เขียนเมื่อ |
:
17 ต.ค. 52 08:20:05
|
|
|
| 
... เข้ามาดู