ความคิดเห็นที่ 1 วิธีการป้องกันและรักษาจากโรคติดอินเทอร์เน็ต หลายๆ คนคิดว่าการรักษาโรคติดอินเทอร์เน็ต ก็เพียงแค่ดึงปลั๊กคอมพิวเตอร์และถอดสายโทรศัพท์ออกจากโมเด็ม แต่ Ivan Goldberg จิตแพทย์ ผู้ค้นพบโรคติดอินเทอร์เน็ต ได้ให้คำแนะนำในการป้องกันและช่วยเหลือกับผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นหรือกำลัง จะเป็นโรคนี้ว่า ก่อนอื่นต้องรู้ว่าตัวคุณเองใช้อินเทอร์เน็ตมากเกินไปหรือไม่ ในระดับไหน และรูปแบบลักษณะของการใช้ไปในรูปแบบใด จากนั้นก็ทำการวิเคราะห์จากพื้นฐานของปัญหาจริงๆ ว่าเกิดจากอะไร ทำไมถึงคุณถึงได้ใช้อินเทอร์เน็ตมากขนาดนั้น ซึ่งทั้งหมดอาจจะเกิดจากตัวคุณเอง หรือสังคมที่อยู่รอบข้างตัวคุณ ขั้นตอนที่สามคือการวางแผนการที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้น มากกว่าที่จะหลีกหนี หรือละเลยมันไป การหลีกหนีจากปัญหาจากโลกแห่งความจริง เข้ามาสู่โลกของอินเทอร์เน็ตไม่ได้ทำให้ปัญหาเหล่านั้นหายไป ลองปรึกษาคนรอบข้าง หาเพื่อนและเข้าสังคมมาก จริงอยู่ อินเทอร์เน็ตกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม เพิ่มความสะดวกสบายมาสู่การดำเนินชีวิตมากขึ้น นอกจากนั้น อินเทอร์เน็ตยังช่วยเปิดโลกทัศน์และสังคมของผู้คนให้กว้างขึ้นด้วย ในทางกลับกัน ผู้คนมีสิทธิที่จะเลือกใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย สร้างความบันเทิง และใช้อินเทอร์เน็ตในการรู้จักโลกให้กว้างขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เลือกที่จะออกไปเห็นโลก สังคม และผู้คนจริงๆ ซึ่งอาจจะสนุกและน่าสนใจกว่า (หรือไม่ก็ตาม) มากกว่าการที่จะรู้จักโลกในทุกมุมมองผ่านทางอินเทอร์เน็ต มาถึงตรงนี้แล้ว ลองดูสิว่าคุณเป็นติดอินเทอร์เน็ตรึเปล่า - มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้นอยู่เรื่อยๆ - รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ต - ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้ - รู้สึกหงุดหงิดเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง หรือหยุดใช้ - คิดว่าเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว ทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น - ใช้เป็นอินเทอร์เน็ตในการหลีกเลี่ยงปัญหา - หลอกคนในครอบครัว หรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตนเอง - มีอาการผิดปกติเมื่อเลิกใช้อินเทอร์เน็ต เช่น หดหู่ กระวนกระวาย ภาพจาก pirun.ku.ac.th แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 18:54:25 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:53:32

ความคิดเห็นที่ 2 คลินิกบำบัดโรคติดอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน โรคติดอินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัญหาน่าหนักอกเสียจนครอบครัวชาวจีนหลายครอบครัวจำต้องยอมควักเงินเกือบ 2,000 บาทต่อวันเพื่อส่งลูกหลานมารับการบำบัด น.พ.เถา รัน ผู้อำนวยการคลินิกรักษาโรคติดอินเทอร์เน็ตแห่งแรกในแดนมังกร เผยว่า การบำบัดจะใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน โดยผู้ป่วยต้องกินยา รับยาผ่านเส้นเลือด ฝังเข็ม รับการกระตุ้นประสาทด้วยไฟฟ้า และออกกำลังกายเพื่อค่อยๆ ปรับสภาพสู่การดำรงชีวิตตามปกติ คลินิกดังกล่าวเป็นของรัฐบาลที่เล็งเห็นว่าประชากรของตนบางส่วนอาจเสื่อมคุณภาพลงจากการติดอินเทอร์เน็ต ดังจะเห็นได้จากข่าวฉาวที่เผยตามสื่อรัฐบาลว่า การติดอินเทอร์เน็ตงอมแงมเป็นเหตุให้นักเล่นคอมพ์หลายคนเลิกเรียน ฆ่าตัวตาย หรือแปรสภาพไปเป็นอาชญากร "ผมไม่ปกติหรอกครับ ผมไม่เคยสนใจเรียน เวลาครูสอน ผมก็มักจะหมกมุ่นคิดแต่ว่าจะกลับไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ต่อยังไงดี" ผู้ป่วยวัย 20 ปีจากกรุงปักกิ่ง กล่าว ผู้ป่วยรายนี้ เล่าว่า ก่อนหน้าจะมารับการบำบัดเขาต้องเล่นเกมสู้ๆ ฆ่าๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการเล่นเกมช่วยให้ลืมปัญหาที่ตัวเองต้องเผชิญไปเยอะ "ก็เล่นเกมแล้วมีความสุขนี่นา" ผู้ป่วยรายนี้ กล่าวสรุป ผู้ป่วยวัย 12 ปีอีกคน เล่าว่า ตัวเองแค่รักการเล่นคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ถูกพ่อแม่ส่งตัวมารับการบำบัดเพราะเขาไปมั่วสุมอยู่ในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่นานถึง 4 วันติดต่อกันโดยแทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนทีเดียว ด้านหนุ่มวัย 21 ปีจากมณฑลเฮย์หลงเจียง กล่าวว่า หันไปแสวงหาความสุขทางใจจากเกมคอมพิวเตอร์เพราะเครียดที่ทางบ้านกดดันให้เต้องเรียนเก่งอยู่ตลอดเวลา "ผมเล่นเกมทั้งวันทั้งคืน แม้แต่ตอนกินข้าวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เหมือนกัน" เขา กล่าว การบำบัดที่คลินิกรักษาโรคติดคอมพิวเตอร์จะเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ซึ่งผู้ป่วยต้องกินยา รับยาผ่านเส้นเลือด รับการกระตุ้นประสาทด้วยไฟฟ้า ว่ายน้ำ เล่นบาสเกตบอล เล่นไพ่ เขียนไดอารี่ หรือนอนเล่นไปตลอดวัน โดยมีพยาบาล 12 คน และแพทย์อีก 11 คนคอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด "ในระยะยาว การบำบัดของเราถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ง่ายนักที่จะป้องกันมิให้ผู้ป่วยย้อนกลับไปติดคอมพิวเตอร์อีก" น.พ.เถา กล่าวพร้อมยืนยันว่า โรคติดคอมพิวเตอร์เป็นปัญหาเพราะผู้ป่วยด้วยโรคนี้จะมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดกลัว ตกใจ และขุ่นเคืองง่าย "คนกลุ่มนี้จะไม่อยากสุงสิงกับคนอื่น นอนไม่หลับ และมือไม้สั่น" คุณหมอ อธิบาย หมอเถา กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคติดคอมพิวเตอร์มักเป็นเยาวชนในช่วงอายุ 14-24 ปี ซึ่งเริ่มไม่ได้กิน ไม่ได้นอน และเสียเพื่อนเพราะมัวแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทั้งค่ำเช้า "บางคนก็ติดเกม บางคนก็ติดคุยกับเพื่อนต่างเพศออนไลน์" น.พ.เถา กล่าว เขาประเมินว่ามีชาวจีนมากถึง 2.5 ล้านคนทีเดียวที่ติดคอมพิวเตอร์งอมแงม อย่างไรก็ดี นัก วิชาการหลายคนเตือนว่ารัฐบาลไม่ควรจะไปตระหนกตกใจกับปัญหาติดอินเทอร์เน็ตจน เกินเหตุเพราะถือเป็นเรื่องปกติสามัญที่จะมีกลุ่มคนติดอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อมีชาวจีนติดอินเทอร์เน็ตมากถึง 94 ล้านคน "ที่สำคัญ เด็กวัยรุ่นก็มักมีปัญหาติดตัวกันอยู่แล้ว และถึงไม่ติดอินเทอร์เน็ต พวกเขาก็จะติดอย่างอื่น" นายกวง เหวินป่อ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเหรินมินในกรุงปักกิ่ง กล่าว ภาพจาก home.kku.ac.th จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:57:26

ความคิดเห็นที่ 3 เปิดคอร์สรักษาอาการคนติดเน็ต         อาการเสพติดอินเทอร์เน็ตกำลังก่อปัญหาให้กับสังคมอเมริกันและอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยการศึกษาของ ดร.ฮิลาเรีย แคช จากศูนย์บำบัดอาการเสพติดคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตระบุว่า ผู้เสพติดอินเทอร์เน็ตจะสูญเสียความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมของตนเอง มีอารมณ์เคลิบเคลิ้มเมื่อได้เล่นคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต ไม่สนใจเพื่อนฝูงและครอบครัว ร่างกายอ่อนเพลียง่าย แม้ไม่ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งใดๆ มีอาการวิตก กังวล ไม่มั่นใจในตัวเอง ตื่นกลัวง่าย น้ำหนักลด ปวดหลัง ปวดหัว ปวดชาบริเวณข้อมือ และอาจถึงขั้นเป็นโรคเส้นประสาทกดทับข้อมือ         ปัญหาเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด   แผนฟื้นฟูผู้เสพติดอินเทอร์เน็ต รีสตาร์ต ในย่านฟอลล์ ซิตี้ เมืองคิง เคาน์ตี้ มลรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นศูนย์บำบัดผู้เสพติดอินเทอร์เน็ตแห่งแรกในสหรัฐอเมริกาและอาจเป็น แห่งแรกของโลก         เมื่อข้อมูลจากรีสตาร์ตระบุว่า 10% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและมีชีวิตท่องโลกไซเบอร์ล้วนแต่เป็นผู้มีอาการเสพติด อินเทอร์เน็ต และกำลังก่อปัญหาทางสังคมและสุขภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น         วิธีรักษาตามแผนฟื้นฟูอาการผู้เสพติด อินเทอร์เน็ตของรีสตาร์ตใช้เวลาทั้งสิ้น 45 วัน ด้วยวิธีการบำบัด 12 ขั้นตอน เพื่อปรับพฤติกรรมผู้ป่วยให้กลับเข้าสู่โลกความจริง ซึ่งมีการบำบัดแบบกลุ่ม การแนะนำทักษะการใช้ชีวิต การทำกิจกรรมหรือการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นรายสัปดาห์ การออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ ในถิ่นที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน และการทำกิจกรรมผจญภัยต่างๆ         โดยรีสตาร์ตจัดโปรแกรมบำบัดไว้สำหรับผู้เสพติดคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต 3 ประเภท ได้แก่ ผู้เสพติดเกมออนไลน์ ผู้เสพติดอินเทอร์เน็ต และผู้เสพติดการส่งข้อความสั้นทางคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยผู้ที่เข้ามารับการฟื้นฟูในศูนย์จะมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 14,500 ดอลลาร์ สำหรับการพักรักษาตัว 45 วัน  ในห้อง 6 เตียงนอน ในสถานที่ขนาด 5 เอเคอร์ที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่มีปลั๊กเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต         พร้อมกับตารางการรักษาที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้เสพ ติดอิน เทอร์เน็ตและวิดีโอเกม ให้มีชีวิตใหม่และอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการเล่นเกมออนไลน์ การพนัน การแชตทางอินเทอร์เน็ต หรือกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้กลับไปติดอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง         อีกทั้งในอนาคตโปรแกรมฟื้นฟูดังกล่าวยังมีแผนจะขยายการรักษาไปยังประเทศจีน และเกาหลีใต้ซึ่งมีจำนวน   ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก และมีโปรแกรมติดตามการรักษาเพื่อประเมินผลการรักษาและให้คำแนะนำกับผู้ป่วย เป็นครั้งคราวด้วย ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลแผนการฟื้นฟูเพิ่มเติมได้ที่ www.netaddictionrecovery.com/ จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:59:05

ความคิดเห็นที่ 4 คลินิกรักษาอาการติดอินเทอร์เน็ตแห่งแรกในอเมริกาเปิดให้บริการแล้ว คลินิกรักษาอาการติดเกมออนไลน์และอินเทอร์เน็ตเปิดให้บริการแล้ว ในสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ reStart โดยคลีนิกดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากสำนักงานใหญ่ของไมโคซอฟท์ในเมืองริชมอนด์ กรุงวอชิงตัน เพียง 13 ไมล์เท่านั้น โปรแกรมบำบัดอาการเสพติดอินเทอร์เน็ตใช้ระยะเวลา 45 วันโดยให้การดูแลอย่างเข้มข้นแก่ผู้เสพติดอินเทอร์เน็ต โปรแกรมนี้ประกอบไปด้วยการบำบัดทางจิต การจัดกลุ่มให้คำปรึกษา 12 ขั้นตอน ให้การศึกษา พัฒนาบุคลิกภาพ และ การออกเดินทางผจญภัยในช่วงสั้นๆ ทางคลินิกประกาศว่าภารกิจของคลีนิกคือการทำให้เยาวชนและผู้ใหญ่ที่ตกเป็นผู้เสพติดเทคโนโลยี กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง โปรแกรมการบำบัดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้คนได้หลุดออกมาจากอินเทอร์เน็ต หรือโลกคอมพิวเตอร์ ผู้เข้ารับการบำบัดจะได้ทำกิจกรรมที่เคยหลีกเลี่ยงที่จะทำ เพราะการอยู่กับคอมพิวเตอร์ วีดีโอเกม และการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากเกินไป ผู้ที่ต้องการเข้ารับการบำบัดจะต้องชำระค่าบริการจำนวน 14,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 46,400 บาท จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:59:47

ความคิดเห็นที่ 5 ศูนย์บำบัดผู้ติดอินเตอร์เน็ต คอลัมน์ Think Tank โดย เสกขภูมิ วรรณปก รายงานข่าวของเอพีชิ้นหนึ่งเมื่อวันที่ 7 กันยายน เล่าถึง เบน อเล็กซานเดอร์ วัย 19 ปี ที่ใช้เวลาแทบจะทุกลมหายใจในช่วงที่ตื่นนอนเล่นเกม "เวิลด์ ออฟ วอร์คราฟท์" ทำให้เขามีผลการเรียนย่ำแย่จนต้องออกมหาวิทยาลัย อเล็กซานเดอร์ต้องการความช่วยเหลือในการรักษาอาการที่เขาคิดว่าร้ายแรงพอๆ กับการติดแอลกอฮอล์หรือว่ายาเสพติด และสถานที่ที่สามารถช่วยเขาได้คือศูนย์ "รีสตาร์ท" ที่นครซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นศูนย์บำบัดผู้ที่มีอาการเสพติดอินเตอร์เน็ตแห่งแรกของสหรัฐ ศูนย์รีสตาร์ทเพิ่งเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาโดยคิด ค่าบริการ 14,000 ดอลลาร์ (ราว 490,000 บาท) สำหรับโปรแกรม 45 วัน ในการช่วยบำบัดผู้ที่ต้องการเลิกจากการเสพติดคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึงการติดเกม การส่งข้อความ การเล่นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และอื่นๆ จนถึงปัจจุบัน อเล็กซานเดอร์เป็นผู้ป่วยรายเดียวของศูนย์ซึ่งใช้วิธีการบำบัดแบบหักดิบ โดยเขาใช้เวลาแต่ละวันไปกับการทำจิตบำบัด ทำงานบ้าน ทำสวน ออกกำลังกาย และทำขนม ซึ่งผลของการบำบัดในโครงการนี้ยังต้องรอดูต่อไปว่าจะได้ผลหรือไม่ สมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (เอพีเอ) ไม่ได้จัดให้อาการติดอินเตอร์เน็ตเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่ง และการประกันสุขภาพโดยทั่วไปจะไม่ครอบคลุมการรักษาอาการเหล่านี้ ขณะที่ในจีน เกาหลีใต้ และไต้หวันมีศูนย์บำบัดผู้ติดอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก และผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่าอาการนี้เป็นความผิดปกติที่จริงจังและรุนแรง ฮิลลารี แคช ผู้อำนวยการบริหารศูนย์รีสตาร์ทและผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดบอกว่าสัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าคุณมีอาการติดอินเตอร์เน็ตมีดังต่อไปนี้ -ใช้เวลากับการท่องอินเตอร์เน็ตมากขึ้น -ล้มเหลวในการพยายามควบคุมพฤติกรรม -มีความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้นมากขึ้นยามได้เล่นอินเตอร์เน็ต -ต้องการที่จะใช้เวลาเล่นอินเตอร์เน็ตมากขึ้น และกระสับกระส่าย หงุดหงิดยามไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ต -ไม่สนใจครอบครัว เพื่อนฝูง -โกหกคนอื่นในเรื่องการเล่นอินเตอร์เน็ต -ใช้อินเตอร์เน็ตจนรบกวนการเรียนและการทำงาน -รู้สึกละอายใจและรู้สึกผิดกับพฤติกรรมดังกล่าว -เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการนอนหลับ -น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปวดหลัง ปวดหัว หรือมีอาการของโรคคาร์ปัล ทันเนล ซึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยที่ทำให้มือหมดความรู้สึกและรู้สึกปวดในข้อมือ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน -เลิกล้มการทำกิจกรรมอย่างอื่น หาก คุณมีอาการเหล่านี้ 3 อย่าง อาจเป็นได้ว่าคุณอยู่ในขั้นที่ใช้อินเตอร์เน็ตแล้วเป็นโทษ แต่หากมีอาการเหล่านี้ตั้งแต่ 5 อย่างขึ้นไป นั่นแสดงว่าคุณเสพติดอินเตอร์เน็ตแล้ว และผลของการติดอินเตอร์เน็ต นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย เพราะความสูญเสียนั้นมีตั้งแต่ล้มเหลวในหน้าที่การงาน ชีวิตแต่งงาน ไปจนถึงอุบัติเหตุทางรถยนต์สำหรับผู้ที่ไม่สามารถหยุดการส่งข้อความได้ขณะ ขับรถ บางคนถึงกับเสียชีวิตหลังจากที่เล่นเกมติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันโดยที่ไม่ หยุดพักเลย โดยมีสาเหตุมาจากเลือดจับตัวเป็นลิ่มจากการที่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานโดย ไม่ขยับตัวไปไหนเลย ลองประเมินดูครับว่า คุณหรือคนรอบข้างของคุณเริ่มที่จะมีอาการเหล่านี้บ้างหรือยัง อย่าลืมว่าเทคโนโลยีนั้นก็เหมือนกับอีกหลายๆ สิ่งที่มีคุณแต่ขณะเดียวกันก็มีโทษด้วย อยู่ที่เราต้องรู้จักใช้ให้เป็นครับ จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:00:56

ความคิดเห็นที่ 6 ค่ายบําบัดการติดเน็ตของเกาหลี http://www.otat.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=5371883&Ntype=1 8 วิธีตรวจสอบอาการติดเน็ต http://gotoknow.org/blog/a-pawn/163088 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:02:30

ความคิดเห็นที่ 7 อ๊ะ รู้ได้ไงว่าเค้าเป็น!!!!!!!!!!!!!!!! แอร๊งงงงงงง จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:03:07

ความคิดเห็นที่ 8 เอกสารอ้างอิงบทความทั้งหมด http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01for09080952&sectionid=0104&day=2009-09-08 http://www.prachatai.com/journal/2009/08/25591 http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=05c6091768e4bb36 http://www.edu.cru.in.th/edu2009/index.php?option=com_content&view=article&id=21:q-q&catid=9:2009-07-18-03-02-10 จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:03:36

ความคิดเห็นที่ 9 -ล้มเหลวในการพยายามควบคุมพฤติกรรม -มีความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้นมากขึ้นยามได้เล่นอินเตอร์เน็ต -ต้องการที่จะใช้เวลาเล่นอินเตอร์เน็ตมากขึ้น และกระสับกระส่าย หงุดหงิดยามไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ต -ใช้อินเตอร์เน็ตจนรบกวนการเรียนและการทำงาน -เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการนอนหลับ -น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปวดหลัง ปวดหัว หรือมีอาการของโรคคาร์ปัล ทันเนล ซึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยที่ทำให้มือหมดความรู้สึกและรู้สึกปวดในข้อมือ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน -เลิกล้มการทำกิจกรรมอย่างอื่น กรี๊ดๆๆ 7 ข้อแน่ะ เลิกเล่นเฮฮา... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:04:37

ความคิดเห็นที่ 10 ผมสงสัยว่าตอนนี้ ที่อเมริกาก็เปิดแล้ว ที่จีนก็เปิดแล้ว ที่เกาหลีก็เปิด แล้วที่ประเทศไทยเนี่ย ถ้ารัฐยังไม่เปิด เราสามารถเปิดเองเป็นเอกชนได้ไหมครับ เพราอย่างในอเมริกาเองก็คิดเงินตั้งเป็นหมื่นดอลล่าห์ สรุปสั้นๆคือ ผมชวนทําธุรกิจครับ :) จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:06:20

ความคิดเห็นที่ 11 อ้าว เลยเงียบกันหมดเลย ไม่มีใครสนใจทําธุรกิจกับผมเหรอครับ ท่าทางได้ลูกค้าเยอะแน่ๆอย่างน้อยก็คนในพันทิปนี่แหละ หุหุ จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:38:03

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ เค้าว่าเจ๊งแหงๆ ขนาดจิตแพทย์ยังไม่ค่อยอยากไปหา นี่ศูนย์บำบัดคนติดเน็ตเอกชน... คนไทยไม่รู้จักโรคทางจิตและประสาทเน้อ รู้จักแต่โรค "บ้า" แต่ถ้าพ่อแม่จับลูกไปบำบัด อาจพอมี ทว่าถ้าพ่อแม่ใส่ใจลูกขนาดนั้น ก็คงไม่ปล่อยให้ลูกติดเน็ตอยู่แล้ว - -" ส่วนระดับบ้านๆ เค้าว่ายากอ่ะ... เคยเจอเด็กเป็นลมชัก แต่ชาวบ้านหาว่าผีเข้า - -" อืม พูดยาก ความเชื่อคนนะ สงสารเด็ก ชักบ่อยๆ เอ๋อรับประทานหมด ไปเปิดวัดเถื่อน เป่าน้ำมนต์บำบัดหวัด/บำบัดโรค/สมุนไพรครอบจักรวาล(ผสม  steroid+antibiotic) ง่ายกว่าฮะ พูดจากใจจริงๆเลยนะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:45:45

ความคิดเห็นที่ 13   ^ ^ ท่าจะจริง ... จากคุณ : เศียรนาคา ... (Eumentis) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:47:21

ความคิดเห็นที่ 14 กตโหวตเลยค่า กระทู้แนะนำแน่นอนพันธงธง !!! จากคุณ : *คุณวรมัน* เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:50:01

ความคิดเห็นที่ 15 ผมกำลังจะบำบัดอยู่เลยครับ  เห็นกระทู้นี้อดไม่ได้อีกแล้วนะครับนะ.. //ว่าแล้วก็ไปปั่นงานต่อ  สู้ๆๆๆๆๆ จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 20:56:03

ความคิดเห็นที่ 16 นับนิ้ว งึมงำ - -! กี่ข้อเข้าไปแล้วเนี่ย จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:12:26

ความคิดเห็นที่ 17 จะว่าติดก็ติดนะเพราะเล่นทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ แต่เสาร์ อาทิตย์ผมไม่จับคอมเลย นอน ผักผ่อน เล่นกีฬา จากคุณ : Antornz เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:18:20

ความคิดเห็นที่ 18 ยิ่งอ่านยิ่งเข้าตัวแฮะ ไปๆ ไปบำบัดกันให้หมดห้องนี่แหละ จากคุณ : ลูกไก่พองลม เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:30:49

ความคิดเห็นที่ 19 จริงอย่างที่คุณลูกเป็ดว่าแฮะ  - -" แต่ที่ต่างประเทศการหาจิตแพทย์มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอะไร แต่สําหรับประเทศไทยก็อย่างว่า แล้วแบบนี้อนาคตของชาติจะเป็นไงต่อไปเนี่ย เยาวชนนั่งเล่นเกมส์ออนไลน์ทั้งวันทั้งคืน เวลาทําการบ้านก็มาตั้งกระทู้ถาม โตขึ้นเข้ามหา'ลัยเวลาทําวิทยานิพนธ์ก็ไปลอกเขามาจากกูเกิ้ล ผมรู้สึกว่าเด็กๆเล่นเน็ตนานๆแล้วมันไม่ค่อยได้ประโยชน์เพราะไม่ค่อยได้เข้าเวปที่มีประโยชน์กันเท่าไรน่ะ อ่านบทความๆยาวกันก็บ่น อย่างเก่งก็อ่านแค่ฟอร์เวิร์ดเมลล์ แต่ฟอร์เวิร์ดเมลล์ 95 % ดันเป็นเรื่องโกหกอีก แชทกันทั้งคืนเอาจริงๆก็คุยกันไม่กี่ประโยคเอง มีโปรแกรมแชทต่างๆเพื่อเอาไว้หาคู่นอนเท่านั้นเอง เวปไซต์วิชาการหาได้เพียงหยิบมือ แต่เวปไซต์ลามกและเวปไซต์เผยแพร่ลัทธิเถื่อน งมงายหมู่โดยเอาศาสนาบังหน้ากลับยอดสถิติเพิ่ม ประเทศไทย โอ้ว..คิดไปไกลแล้วผม จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:41:57

ความคิดเห็นที่ 20 คุณวรมัน กระทู้ในห้องนี้เขาห้ามขึ้นแนะนําน่ะครับ กดเท่าไรก็ไม่ติดหรอก -*- จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:45:15

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่ตั้งห้องหลักเหรอ? จากคุณ : คุณซัมซุง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 21:52:11

ความคิดเห็นที่ 23 ไปตั้งห้องหลักน่าจะดีนะคะ อาจได้ไอเดียดีๆ จากคุณ : Norchideen เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 22:13:31

ความคิดเห็นที่ 24 ชื่อโดเมน/ที่ตั้ง heyhawahkor.pantipmember.com / อ่าวเฮฮาหว้ากอนคร เพราะห้องนี้มีผู้เสพติดมากกว่าละสิ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 22:38:18

ความคิดเห็นที่ 25 เอาไปทำเลยดีไหมนะคุณเทอเรน จากคุณ : monixe เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 10:03:13

ความคิดเห็นที่ 26 ติดเนตบ้านเรา เขาต้องพาไปพรมน้ำมนต์ พรมใส่คนไม่หาย ค่อยพรมใส่คอม นัยว่าล้างซวยไปในตัว ควันขึ้นเมื่อไหร่โรคนี้ก็คงหายเอง จากคุณ : Rskiz เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 13:26:49