ความคิดเห็นที่ 1 โดยหลักแล้วผมจะทำงานด้านการสำรวจใต้น้ำเป็นหลัก(ทำแผนที่ทะเล) ซึ่งเครื่องมือที่ใช็ก็จะเป็นประเภท Sonar (Sound Navigation and Ranging) เป็นหลัก เป็น echo sounder ที่มีทั้งแบบ single beam และ multibeam แต่การสำรวจแบบนี้ก็ลำบากในการสำรวจที่ตื้น หรือพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากหรืออันตราย จากการที่ต้องนำเรือและอุปกรณ์เข้าไปสำรวจ  อุปกรณ์บางอย่างเช่น multibeam นั้นแพงกว่าค่าเรืออีกครับ   ทีมนักวิจัยจึงได้ทำการคิดค้นอุปกรณ์การสำรวจชนิดใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้สำรวจในพื้นที่ตื้น โดยการใช้แสงเลเซอร์หาความลึกน้ำ  ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี Lidar และ GPS ทำให้ได้เครื่องมือสำรวจชนิดใหม่ที่ผมรู้สึกทึ่งเมื่อได้รู้จักเป็นครั้งแรก   ข้อมูลคร่าวๆ เครื่องหาความลึกน้ำ (Echo Sounder)โดยทั่วไปจะใช้คลื่นเสียงเป็นหลักเนื่องจากสามารถส่งผ่านไปในน้ำได้ไกล(ได้รอบโลก) คลื่นแสงจะไม่สามารถส่งผ่านน้ำได้ลึกนัก โดยทั่วไป Lidar จะวัดความลึกน้ำได้ประมาณ 2 secchi (ลองค้น google ดูครับ  เป็นอุปกรณ์ตรวจสอบความใสของน้ำ)  หรือประมาณ 30 ม. ถ้าน้ำใสมาก จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:03:13

ความคิดเห็นที่ 2 Lidar ที่ใช้สำรวจความลึกน้ำมีส่วประกอบสำคัญคือ 1. เครื่องกำเนิดแสง ในช่วงความถี่ของแสงสีเขียว สำหรับสำรวจพื้นทะเล อินฟาเรด และ ใกล้อินฟาเรด (raman) สำหรับตรวจจับระดับผิวน้ำ 2. กล้องถ่ายภาพ 3. GPS การสำรวจจะทำโดยการติดตั้งอุปกรณ์บนเครื่องบบินและทำการบินสำรวจเหนือพื้นที่เป้าหมาย จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:04:46

ความคิดเห็นที่ 3 ผลลัพธ์ที่ได้คือ จุดตำแหน่ง X, Y, Z (ศัพท์เทคนิคเรียก point cloud) จาก ellipsoid ที่ใช้อ้างอิง  พูดอย่างง่ายก็คือค่า Lat, Long และความสูงนั่นเอง   สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งเครื่องมือชนิดนี้มาก ก็เนื่องจากมันสามารถใช้สำรวจได้ทั้งใต้น้ำและบนบกในคราวเดียวกัน  ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์มากในการสำรวจชายฝั่ง ถ้าเพื่อนๆเรียนด้านสำรวจจะทราบว่าการจะได้ข้อมูลตำบลที่แต่ละจุดมานั้นมันยากนัก ไม่ว่าจะบนบก ที่ต้องลุยตามป่าเขาหรือกลางเมืองตามยอดตึก หรือใต้น้ำ  แต่ Lidar นี้สามารถทุ่นแรงและเวลาไปได้อย่างมากเนื่องจากสามารถสำรวจได้รวดเร็วและมีความถูกต้องสูง จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:11:07

ความคิดเห็นที่ 4 มาเริ่มเข้าสู่ส่วนที่ผมได้มีส่วนร่วมดีกว่าครับ  ในการฝึกงานครั้งนี้ เนื่องจากผมเคยใช้เครื่องมือ acoustic มา จึงได้มาทำหน้าที่เกี่ยวกับการ process และวิเคราะห์ ข้อมูลจาก Lidar อีกทั้งยังเป็นคนทดลองใช้ software ที่บริษัทผลิตขึ้นมานั่นเอง  ในฐานะที่เป็นผู้ใช้งานจริงภาคสนาม ความประทับใจแรกเมื่อเข้าทำงานคือได้ PC ใหม่มา 1 เครื่อง (ให้ใช้เฉยๆ)  ตอนแรกผมกะว่าแค่มาฝึกงาน(หาเงิน)กับบริษัทช่วง Summer แค่ 2 เดือน แต่บริษัทยังลงทุนสั่งซื้อ PC มาให้ใช้  ตาม spec คร่าวๆดังรูปครับ + hard disk 1.2 TB (รอคอม 2 สัปดาห์)  หลังหมด summer ก็ไม่มีใครแตะเครื่องนี้อีกเลย จนกลับไปทำงานอีกครั้งใน 2 เดือนถัดมา จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:23:43

ความคิดเห็นที่ 5 ของมาถึงเค้าก็ให้ประกอบเอง ลงโปรแกรมเอง ทั้งหมดครับ มี Software ใหม่ที่ต้องเรียนรู้ประมาณ 5 โปรแกรม ENVI, REA, GCS, IDL และ PFM ABE  บอกตรงๆว่า ไม่เคยแตะโปรแกรมเหล่านี้เลยยกเว้น ENVI (นิดหน่อย)  และคนที่สอนผมก็ยุ่งมาก  หลักๆเลยต้องเรียนจากครู HELP เอาเอง  ไม่รู้อะไรก็เปิด help ก่อน ไม่ได้จริงๆค่อยถาม บางทีกว่าจะเจอเล่นเอาท้อ  ตอนสัมภาษณ์เข้าทำงานเค้าก็ถามว่าเขียนโปรแกรมอะไรเป็นบ้าง คำตอบคือไม่เป็นเลย เคยใช้แต่ Matlab แล้วก็โปรแกรมเกี่ยวกับเครื่องมือ acoustic อันนี้เป็นรูปขณะรันโปรแกรมครับ  เป็นครั้งแรกที่เห็นคอม run 100%  เห็นแบบนี้บางที run นานกว่าครึ่ง ช.ม.ครับ ก็อาศัยช่วงนี้แหละแอบอ่านพันทิพ จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:28:35

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากข้อมูลดิบจาก Lidar ผ่านการ process ก็จะได้ข้อมูลดังรูปครับ เป็นรูป 2 มิติ ของเมืองๆหนึ่งที่สร้างขึ้นจาก จุด ..แล้วก็จุด จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:29:51

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อทำการ zoom ภาพเข้าไปดูแบบ 3 มิติ ภาพในกรอบสี่เหลี่ยมด้านบนจะออกมาเป็นรูปด้านล่างซึ่งใช้สำหรับการ edit ข้อมูลครับ เอาไว้ลบจุดที่ไม่ต้องการออก  หมุนดูได้ 360 องศา zoom เข้าออกได้ เป็นจุด จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:33:37

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเวลา edit ดูไม่รู้ว่าจุดนั้นคืออะไรก็ดูถาพประกอบได้จากกล้องที่ถ่ายขณะสำรวจ  อันนี้คือประโยชน์ของกล้องถ่ายภาพที่ติดมากับ Lidar ครับ กรอบสีแดงคือจุดที่เราดูอยู่  โดยทั่วไประบบจะสามารถตรวจจับวัตถุขนาดใหญ่กว่า 0.5 ม. ได้ครับ ไม่ว่าจะบนบกหรือใต้น้ำ จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:36:05

ความคิดเห็นที่ 9 รูปตัวอย่างต่อไปเป็นของรูปถนน จากรูป ไม่สามารถรู้ระดับของถนนได้ และจะเห็นว่าถนน main อยู่ระดับเดียวกับพื้นที่ด้านข้าง จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:38:14

ความคิดเห็นที่ 10 แต่เมื่อดูแบบ 3 มิติ จะเห็นว่าพื้นที่ด้านข้างของถนนสายหลักอยู่สูงว่าตัวถนนครับ ประมาณ 4-5 ม. จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:39:29

ความคิดเห็นที่ 11 อันต่อไปเป็นภาพการสำรวจจากเกาะ สีเขียวคือต้นไม้ สีม่วงคือใต้น้ำครับ พื้นน้ำที่เห็นลึกสุดประมาณ 10 ม.กว่าๆ เพราะน้ำไม่ค่อยใส จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:41:07

ความคิดเห็นที่ 12 คราวนี้ลองขยายภาพในกรอบสี่เหลี่ยมด้านบนดูแบบ 3 มิติ จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:42:03

ความคิดเห็นที่ 13 ต่อด้วยรูปถ่าย จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:42:56

ความคิดเห็นที่ 14 โห คอมสเปกโหดมาก จากคุณ : CozyMKIV เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:44:54

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับการสำรวจพื้นน้ำ รูปถ่ายก็มีความจำเป็นครับ เอาไว้ดูว่าจุดที่เห็นเป็นอะไร เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ  บางทีจุดที่โชว์อยู่เหนือผิวน้ำอาจเป็นเรือหรือทุ่นก็ได้  และภาพป่าไม่ที่เห็นทึบๆด้านบน ถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นเป็นชั้นของยอดไม้และพื้นดินชัดเจน ง่ายต่อการหาระดับความสูงของพื้นดินครับ   แต่ละจุดที่เห็นนั้นไม่ได้มีแต่เฉพาะข้อมูลตำบลที่ แต่ยังสามารถนำมาวิเคราะห์หาชนิดของพื้นผิวได้ด้วยว่าเป็น ทราย หิน ต้นไม้ คอนกรีต ฯลฯ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในหลายด้าน  ข้อมูลเหล่านี้เมื่อนำมาสร้างเป็นภาพโดยการใส่พื้นผิวระหว่างจุด แล้ววิเคราะห์ใน ENVI จะได้เห็นข้อมูลอะไรมากมาย รูปด้านล่างแสดงภาพพแบบ gray scale ครับ จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:45:33

ความคิดเห็นที่ 16 หลายๆท่านอาจจะคุ้นเคยกับ Google Earth กันดี  (คงเคยเห็นหลังคาบ้านตัวเองกันมาแล้ว)  ถ้างั้นลองมาดูสิว่าพื้นที่สำรวจของเราอยู่ที่ไหน  ก็ merge เข้ากับ Google Earth ได้เลย จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:47:43

ความคิดเห็นที่ 17 ราคาคงแพงเอาการนะครับ อยากทราบว่าหน่วยงานไหนในไทยที่ต้องใช้เจ้าเครื่องนี้อ่ะครับ จากคุณ : ทางต่างระดับ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:48:48

ความคิดเห็นที่ 18 คาดว่าประเทศไทยคงได้มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ใช้ในเร็ววันครับ   ประโยชน์คร่าวๆ 1. สำรวจพื้นที่ชายฝั่ง แนวปะการัง 2. สำรวจแผนที่บก ป่าไม้ ทรัพยากร หรือกระทั่งหาเครื่องบินตก 3. ทางการทหาร ตรวจจับทุ่นระเบิดใต้น้ำ (มีโปรแกรมที่สามารถสร้างภาพ 3 มิติตั้งแต่ผิวน้ำถึงพื้นเลยครับ  วัตถุใหญ่กว่า 0.5 ม. ที่อยู่ในน้ำก็ตรวจจับได้หมด) จากปกติการสำรวจที่ใช้เวลาเป็นเดือนๆ อาจลดลงเหลือไม่กี่วันก็ได้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ Credit: Optech Inc., Google Earth จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 02:51:38

ความคิดเห็นที่ 19 หน่วยงานที่ใช้หลักๆน่าจะเป็นกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ กรมแผนที่ทหาร กระทรวงทรัพฯ  และอีกหลายๆหน่วยงาน  เพราะข้อมูลที่ได้เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาได้อย่างดี จากคุณ : chaos_ats เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 07:10:06

ความคิดเห็นที่ 20 ของไทย อนุมัติซื้อเมื่อปีที่แล้วครับ 2 ชุด เครื่องบิน 2 ลำไม่รู้บอมเบย์ป่าว เป็นของแคนาดา น่าจะตัวนี้  เจาะใส่ใต้ท้องเครื่อง จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 09:46:47

ความคิดเห็นที่ 21 Ram 50 GB Oh my god จากคุณ : profess79 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:06:55

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาชมความแรงครับ จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 11:27:58

ความคิดเห็นที่ 23   เอาเว็ปมาฝาก http://www.cs.unc.edu/~isenburg/ ในไทย บ.เอกชนที่รับทำก็เป็นของ ไรก้า น่าจะยังมี บ.เดียว ที่ บ.ผมก็เคยจ้างเก็บ แต่เค้าใช้ ฮ.บินเก็บ ได้ text file เป็นค่า xyz มา โอ้วแม้จ้าว 10กว่าล้านจุด ขนาดตัดต้นไม้ออกไปแล้ว....ตอนเอาเข้าไปรัน ในโปรแกรม land desktop เครื่องแทบเดี่ยง 555 ตัองตัดเป็นทีละ 5แสน point แล้วค่อยโหลดเข้าไป ของผมแรมแค่ 4 gb เอง ตอนขึ้นเป็น contour นี่แทบตาย กลัวคอมจะเดี่ยงซะก่อน จากคุณ : วิญญาณพเนจร 2 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 52 12:14:09 A:202.62.105.155 X: TicketID:212592

ความคิดเห็นที่ 24 คอมแบบนี้เล่น Crysis กระตุกไหมครับ จากคุณ : StoneHoof เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 00:57:48