ความคิดเห็นที่ 1 ตัว CYP450 นี่มันเกี่ยวกับการ Oxidation สาร(ยา) ในตับ ครับซึ่งสามารถทำให้ยาถูกเพิ่มฤทธิ์(ยาถูกทำลายน้อย) ลดฤทธิ์(ยาถูกทำลายมาก) ซึ่ง แอลกอฮอล์จะมีผลทำให้เกิด Enzyme(CYP450) Induction ครับ ซึ่งหมายความว่า เอนไซม์ตัวนี้ถูกกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น ยาจึงถูกทำลายมากและได้ผลน้อยครับ อนึ่งการทำงานของเอนไซม์นี้(CYP450) จะลดทอนหรือเสื่อมไปตามอายุหรือปัจจัยอื่นๆได้ครับ ส่วนเหล้าเมาไม่เมา --- แอลกอฮอล์ จะถูกดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็กเป็นส่วนมากครับ หากเรากินอาหารมากๆหรือท้องอิ่มก่อนกินเหล้า จะเมาช้าครับ เพราะหากมีการกินอาหารหรือท้องอิ่มการดูดซึมของแอลกอฮอล์จะช้ากว่าท้องว่างครับ ^^(สาวๆจำไว้ อิอิ) และมากกว่า 90% ของแอลกอฮอล์ถูกทำลายที่ตับครับ(มันไม่ได้ถูกทำลายอย่างเดียว แต่มันทำลายตับด้วย) ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าถ้า CYP450 กลายพันธุ์ มันจะทำให้เป็นคนเมายากรึเปล่า หมายความว่า การทำลายแอลกอฮอล์มีมากขึ้นที่ตับหรือไม่ แต่ก็นั่นแหละครับ Alcohol สามารถกดระบบ CNS ทุกส่วน และทำให้ระบบ Inhibit หรือการ Exite ต่างๆในร่างกายเสียไปได้ เลยดูขัดๆกัน - -* อธิบายเพียงเท่านี้แหละครับ เรื่องเมาไม่เมารอผู้เชี่ยวชาญจริงๆมาตอบครับ ที่เหลือฟังคุณ CuSO45H2O ต่อเลยครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 08:55:42 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 08:55:16 จากคุณ : รถม้า-ปาแอ่ว เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 01:36:48

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าไม่จริงหรอกครับที่ว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่กินเหล้าแล้วไม่เมาหรือเมาช้า ลองถามคนนี้ดูครับ จากคุณ : morningmusume เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 03:08:46

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังหาอยู่ครับ จะรีบมาโพสต์เลยครับ Cytochrome P450 ชนิด 2E1 (CYP2E1) บทบาทสำคัญมากในการเมแทบอลิซึมของเอธานอลกับสารบางตัว จากกการศึกษาพบว่าในคนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งแค่อนข้างเยอะมี deletion หรือ mutation งอย่างของยีนนี้ ทำให้เกิด ethanol toxicity ยากขึ้นครับ หาเจอแล้วจะรีบแตกประเด็นมาตอบเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 07:30:28

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวสารพิษและยาหลายตัวที่ถูกย่อยด้วย CYP2E1 นั้นโดยตัวของยาเองไม่ได้เป็นพิษครับ เช่น สารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ที่พบได้ในบุหรี่และพวกลูกชิ้นและการถนอมต่างๆ, เอธานอล และ เบนซีน (Benzene) [1, 2] ความหลากหลายทางพันธุกรรมของ CYP2E1 ชนิดที่ 3 (CYP2E1*3) พบได้มากในเอเชียมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีน CYP2E1 ในรูปแบบของ mRNA [3] แต่ก็มีผลการศึกษาขัดแย้งด้วย [4] เดี๋ยวมาต่อนะครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 07:52:29 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 07:50:13

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้ว มีในวิกิเป็นเรื่องเป้นราวเลย จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 08:58:03

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่อง CYP ให้คุณจุนสีตอบไปแล้วกัน เห็นว่าค้นข้อมูลอยู่ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สาวๆเมาง่ายเพิ่มเติมจากคห.1 ก็เพราะสาวๆมีสัดส่วนไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชาย ทำให้การ distribution ของแอลกอฮอล์ในร่างกายส่วนใหญ่อยู่ในกระแสเลือด (แอลกอฮอล์เป็นสารประกอบมีขั้ว ไม่ละลายในไขมัน) ทำให้แอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือดนานกว่าเมื่อเทียบกับเพศชาย จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 09:17:24

ความคิดเห็นที่ 7 #6 แปลว่าคนผอมเมายากกว่าคนอ้วน? จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 09:22:43

ความคิดเห็นที่ 8 #7 มีความเป็นไปได้ แต่เป็นแค่สมมติฐานหนึ่งร่วมกับปัจจัยอีกหลายประการที่ทำให้เพศหญิงเมาง่ายกว่าเพศชาย อย่างไรก็ดี Cytochrome P2E1 เกี่ยวข้องกับ liver injury (ethanol toxicity) มากกว่านะ ส่วน alcohol flushing reaction จะเกี่ยวข้องกับ aldehyde dehydrogenase แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 09:49:06 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 09:34:01

ความคิดเห็นที่ 9 ^- กรุณาแปล flushing syndrome + alcohol dehydrogenase ด้วยครับ -*- จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 09:37:42

ความคิดเห็นที่ 10 อ้อ ความจริงเขียนผิด (เดี๋ยวกลับไปแก้) คือจะหมายถึง alcohol flushing reaction คืออาการแดงตามผิวหนัง (หน้าแดง ตัวแดง) ซึ่งสัมพันธ์กับอาการเมา (hangover) หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความแปรปรวนในประชากรอันเป็นผลจาก polymorphism ของยีนที่รับผิดชอบการแสดงออกของเอ็นไซม์ aldehyde dehydrogenase ethanol เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงโดย major pathway นี้คือ ethanol --alcohol dehydrogenase--> acetaldehyde --aldehyde dehydrogenase--> acetic acid acetaldehyde เป็นสารที่ทำให้เกิด alcohol flushing reaction และ hangover มากที่สุดในบรรดาสารทั้งสามตัวนี้ *edit สะกดผิด & เน้นตัวหนา แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 10:03:03 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 09:53:36 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 09:48:37

ความคิดเห็นที่ 11 ตามที่กล่าวไป major pathway ของ ethanol metabolism คือ alcohol dehydrogenase และ aldehyde dehydrogenase ตามลำดับ (ดูรูปประกอบด้านล่าง ที่มา http://www.niaaa.nih.gov/Resources/GraphicsGallery/Metabolism/ethanol_metabolism.htm) แต่ ethanol ก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดย CYP2E1 ได้ acetaldehyde และ reactive oxygen species (ROS-อนุมูลอิสระในรูปแบบหนึ่ง) ทั้ง acetaldehyde และ ROS สามารถเกิดอันตรกิริยาร่วมกันและสร้างความเสียหายให้กับ DNA ในเซลล์ของเราและเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็ง ดังนั้น ประเด็นที่จขกท.หยิบยกขึ้นมา CYP2E1 mutation in japanese women น่าจะเกี่ยวข้องกับอัตราการเกิดมะเร็งมากกว่า hangover ครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:02:28

ความคิดเห็นที่ 12 พยายามเขียนเป็นภาษาคนให้มากที่สุดแล้ว หากไม่เข้าใจต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:05:52

ความคิดเห็นที่ 13 555 ใครๆชอบว่า วิศวกรนี่มันพูดไม่รู้เรื่อง ดูกระทู้นี้แำล้ว สงสัยต้องเพิ่มเภสัช ไปอีกอาชีพนึง ปล. แต่ผมว่าพอรู้เรื่องนะ โชคดีที่ยังคืนเคมี ม ปลายไปไม่หมด(แค่เฉียดๆ) จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 10:28:14

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ค่อยเข้าใจ (เดี๋ยวค่อยอ่านใหม่อีกเที่ยว) แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ จากคุณ : @power เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 12:18:57

ความคิดเห็นที่ 15 กรณี CYP 450 นี่ผมไม่ทราบครับ แต่ในคนญี่ปุ่นมี Alcohol dehydrogenase ต่างจากคนชาติอื่นอยู่บ้าง จึงมีผลต่อการเมาที่แตกต่างจากชนชาติอื่นครับ ส่วนคนที่มีไขมันน้อยกว่าที่มีน้ำหนักเท่ากันเวลาดื่ม Ethanol จะเมายากกว่าครับ เพราะจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่า ทำให้ Alcohol/Acetaldehyde เจือจางมากกว่า เมื่อรับในปริมาณเท่ากันจะถึง Dose ที่ทำให้เมาช้ากว่าครับ Edit; แก้ตามคำแนะนำโดยเอกสารของน้า Cryptomnesia ครับ...ขอบคุณครับ.. แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 14:59:32 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 14:56:55 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 12:39:44 จากคุณ : sivpeer เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 12:38:53

ความคิดเห็นที่ 16 คิดว่าคุณ sivpeer พูดสลับกันนะครับ สำหรับผู้หญิงที่มีสัดส่วนของเนื้อเยื่อไขมันมากกว่าเพศชาย (แม้จะมีขนาดตัวน้อยกว่า) แอลกอฮอล์ (+metabolite ที่มีขั้วเหมือนกัน) จะมีระดับในกระแสเลือดสูงกว่า จึงเมาเร็วกว่าครับ /me เปิดตำรา pharmacology http://www.k-state.edu/counseling/student/aodes_news/f02vol30.pdf แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 13:00:16 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 12:56:56

ความคิดเห็นที่ 17 จริงด้วยครับพี่ Cryptomnesia ...ต้องขออภัยด้วยครับ เพราะตอนที่พิมพ์ผมเข้าใจว่า Ethanol ละลายดีใน Non-polar solvent เพราะเป็น Organic compound... พอพี่ทักเลยไปดูพอไปดูค่า Dielectric Constant กลายเป็นว่า acetaldehyde มีค่า 21.8 ส่วน Ethanol อยู่ที่ 24.3 เลยมีความมีขั้วมากกว่า... (ค่าวิกฤติอยู่ที่ 15) เผื่อท่านอื่นๆด้วย; ค่า Dielectric constance สามารถบอกค่าความเป็นขั้วได้ครับค่าที่มากขึ้นแสดงความเป็นขั้วสูงขึ้นครับ - ไขมันในน้ำมันอาจอยู่ประมาณ 2 กว่าๆ ถึง 4 หรือ 5 - ของน้ำอยู่ที่ 88.0 (น้ำ 0 อาศาเซลเซียส) ถึง 55.3 (น้ำเดือด ; นี่เป็นส่วนหนึ่งนอกเหนือจากเรื่องจุดหลอมเหลวที่ทำให้น้ำร้อน ชะไขมันเหลวดีกว่าน้ำเย็น) - เทฟลอน อยู่ที่ประมาณ 2 (กระทะเทฟลอนเวลามีอาหารมันๆเลยล้างยากครับ) นอกจากนี้ผู้หญิงยังมี Activity ของ Alcohol dehydrogenase ต่ำกว่าด้วยครับ จากคุณ : sivpeer เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 14:57:56

ความคิดเห็นที่ 18 คุ้นๆ ว่าเคยเรียน และเคยเข้าใจมาก่อน รออ่านต่อครับ... จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 16:04:05

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากครับ พอดีพึ่งเข้ามาครับ จากคุณ : ฮักเมาน้องหล้า เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 20:35:08