ความคิดเห็นที่ 1 เดาเอาว่า ขูดหินปูนอาจมีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ซึ่งจะยังไม่สามารถตรวจพบได้ขณะบริจาคเลือด ย้ำว่า "เดา" ล้วนๆ ผู้ปกครองโปรดแนะนำบุตรหลานถ้าจะเชื่อ .... จากคุณ : STUV เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 17:40:26

ความคิดเห็นที่ 2 เกรงว่าเป็นข้ออ้างของเจ้าตัวเขาหรือเปล่าครับ = =' จากคุณ : วัยละอ่อน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 17:51:34

ความคิดเห็นที่ 3 #1 วาจามีเหตุผล จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 19:47:30

ความคิดเห็นที่ 4   ขูดหินปูนนี่เสียเลือดมากมายเลยนะครับ จขกท ไม่เคยบริจาคแน่เลย จากคุณ : Dark Prince of Lonely Castle เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 20:09:47

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งเคยได้ยิน... เคยได้ยินแต่ นอนดึก, ทานยามาห้ามบริจาคเลือด... จากคุณ : จัดจ้าน (per me how) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 20:33:12

ความคิดเห็นที่ 6 จริงๆ รวมๆ เป็นการ "ทำฟัน" มากกว่าครับ เช่นการถอนฟัน หรือการผ่าฟันคุด เพราะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่เหงือกอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด (อันเป็นที่มาว่า ทำไมทันตแพทย์ต้องให้ยาปฏิชีวนะไปทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ) หากทำฟันใน 3 วัน ไม่แนะนำให้บริจาค ส่วนการขูดหินปูนนั้นถ้าทำถูกต้องจริงๆ ไม่ทำให้เหงือกอักเสบ ปกติทันตแพทย์ก็ไม่ได้ให้ยาปฏิชีวนะไปทานด้วยซ้ำ คงแล้วแต่แพทย์ประจำหน่วยบริจาค (ถ้ามี) จะพิจารณาครับ แก้ไข... แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 52 20:56:49 จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 20:47:29

ความคิดเห็นที่ 7   มีเชื้อต่างๆๆ  อยู่ในกระเเสเลือด  จากช่องปากเข้าสุ่เเสเลือด จากแผลขูดหินปูน จากคุณ : 888xxแปดคลับ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 20:48:53

ความคิดเห็นที่ 8 ไปค้นเพิ่มเติมมาตามเกณฑ์ของต่างประเทศ ซึ่งละเอียดกว่าของสภากาชาดไทยมาก ที่กำหนดแค่ "ทำฟัน" บอกว่า: ห้ามบริจาคเมื่อเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ทำการรักษารากฟัน ครอบฟัน หรือถอนฟัน ภายใน 7 วัน หรือ ทำการขัดฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน หรือการรักษาผิวฟันอื่นๆ ภายใน 24 ชม. http://transfusionguidelines.org.uk/Index.aspx?Publication=WB&Section=5&pageid=3572&AZLetter=D จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 21:06:05

ความคิดเห็นที่ 9 อ่าน Link ของคุณ vandalism แล้ว เขาห่วงเฉพาะ Bacteria ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่ผมเดาเอาไว้ใน คคห.1 จากคุณ : STUV เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 21:24:52

ความคิดเห็นที่ 10 น่าจะเป็นการ "ทำฟัน" มากกว่า แต่บังเอิญ "ขูดหินปูน" ก็เป็นการ "ทำฟัน" อย่างหนึ่ง จึงต้องเลี่ยงด้วยเหตุผลจาก #1 ก็เป็นได้ จากคุณ : ascertain เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 21:47:33

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ได้เกี่ยวกับ HIV ครับ แค่ว่าการทำฟันนั้นมีโอกาสที่จะเกิดบาดแผลและทำให้แบคทีเรียในช่องปากหลุดไปทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ถ้ามีการติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วนำเลือดนั้นไปให้คนไข้ก็จะทำให้คนไข้นั้นมีอาการติดเชื้อเพิ่มเติมอีกซึ่งไม่เป็นผลดีเพราะคนที่ต้องถ่ายเลือดนั้นก็อ่อนแอในทางใดทางนึงอยู่แล้ว การได้รับเลือดที่มีเชื้อปนเปื้อนก็ถือว่าเป็นการซ้ำเติมครับ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 52 21:49:03

ความคิดเห็นที่ 12   ขอบคุณมากครับ ทุกคนที่ให้ความรู้ ผมก็คิดเหมือนกันครับว่าทำฟันไม่น่าจะมีความเสี่ยง HIV เพราะเป็นโรคติดต่อจากภายนอก เรื่องติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดก็มีเหตุผลครับ เพราะในช่องปากมีเชื้ออยู่แล้ว ขูดหินปูนก็ไม่ได้ทำการปลอดเชื้อในช่องปากก่อนทำด้วย ขอเชิญเพื่อนๆไปบริจาคเลือดกันนะครับ ใครไม่เคยผมแนะนำให้ลองดูครับ พอมีครั้งแรกก็จะมีครั้งต่อไป เมื่อก่อนผมไม่เคยบริจาคเลยครับแล้วมีเหตุที่ญาติเข้าผ่าหัวใจต้องใช้เลือด ผมเลยต้องไปบริจาคเลือดเพื่อทดแทนที่ใช้ไป ผมไปบริจาคแล้วติดเลย เหมือนมันเสพติดยังไงไม่รู้นะ บอกไม่ถูก ลองดูครับ ปล. ที่ศูนย์ใหญ่ อย่าไปบริจาควันที่ 1 พฤษภาคม นะครับ 1 May วันแรงงานอ่ะ คนเยอะมากๆ ไปวันอื่นเร็วมากแทบไม่ต้องรอเลยเจ้าหน้าที่ทำงานกันเร็วมากๆ สะดวกสะบายครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 52 02:26:55 A:58.8.53.147 X: TicketID:175329

ความคิดเห็นที่ 13 มันอาจจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ หรือการทำฟันอาจเป็นการกระตุ้นอิมมูนแบบนึง อาจจะทำให้ WBC บางตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ อะไรแบบนี้รึเปล่า เดาเอา จากคุณ : ปลาทองมองแมว เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 01:45:52

ความคิดเห็นที่ 14   ป้องกันการติดเชื้อ Step. viridan ครับ จากคุณ : ธรรมดาไม่เคยมี เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 14:30:34