ความคิดเห็นที่ 1 วิธีการใช้งาน ก็คือเรียกทั้งเลขวันและชื่อวันเรียงกันไปอย่างอิสระ เช่น 1-imix, 2-ik, 3-Akbal เรียงกันไปเช่นเดียวกับที่เราเรียก 1-อาทิตย์ 2-จันทร์ 3-อังคาร ถ้าเขียนเป็นปฏิทินหมุน ก็จะได้ตามภาพด้านล่าง แต่เนื่องจากจำนวนวันในหนึ่งปีมีมากกว่า 260 วัน ปฏิทินที่มีวันเพียงแค่ 260 วันจึงใช้อะไรไม่ได้มากกว่าการทำนายทายทัก วันดี วันไม่ดี หลังจาก 1492 ปีก่อนคริสตกาล ชาวมายาใช้ปฏิทินอีกระบบหนึ่งที่สอดคล้องกับฤดูกาลมากกว่า คือปฏิทินระบบ ฮาบ (Haab) โดยที่หนึ่งวงรอบจะมี 360 วัน ถึงแม้ว่าวันในปฏิทินระบบฮาบ จะใช้เลขวัน-ชื่อเดือนคล้ายกับปฏิทินระบบโซลคินแต่จะใช้วิธีนับแตกต่างกัน คือในระบบฮาบจะประกอบด้วยเลขวัน 20 เลข และชื่อเดือน 18 ชื่อ แต่เนื่องจากหนึ่งปีมีประมาณ 365 วัน ชาวโอเมค (Olmec) จึงเพิ่มเดือนพิเศษอีกหนึ่งเดือนที่มีวันเพียงแค่ 5 วัน โดยถือเป็นช่วงวันสิ้นปี ชื่อเดือน 19 ชื่อ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:50:08

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีการนับวันจะนับเลขเรียงกันไป พอถึงเลข 18 ก็ขึ้นเดือนใหม่ เช่นเดียวกับการที่เรานับ 29-พ.ค. 30-พ.ค. 31-พ.ค. 1-มิ.ย. อย่างไรก็ดี เนื่องจากระบบโซลคินถูกใช้มานานเป็นพันปี จึงมีความจำเป็นต้องใช้ต่อไปในโดยใช้เป็นหลักทำนายทายทัก เมื่อรวมกับระบบฮาบที่ใช้บ่งบอกฤดูกาล ก็อาจเขียนในรูปปฏิทินแบบวงรอบได้ดังรูป ปฏิทินในระบบโซลคิน-ฮาบนี้จะสามารถใช้ได้ถึง 13 ปีโดยที่ไม่มีวันที่มีเลข-ชื่อซ้ำกัน ในปี 747 ก่อนคริสตกาล เผ่าโอลเมคได้กำหนดใช้ปฏิทินแบบนับต่อเนื่องเป็นครั้งแรก โดยใช้ระบบ วัน (Kin) เดือน (Uinal) ปี (Tun) รอบยี่สิบปี (Katun) และรอบสี่ร้อยปี (Baktun) และกำหนดให้วันหนึ่งของปีนั้นเท่ากับ 6.0.0.0.0 (6 Baktun, 0 Katun, 0 Tun, 0 Uinal, 0 Kin) โดยจะตกที่ 11-Ahau 8-Uo ปฏิทินแบบนับต่อเนื่องนี้จะไม่รวมวันสิ้นปีเข้าไปด้วย ถ้าคำนวณย้อนกลับมา วันที่ 0 (เริ่มต้นของปฏิทิน) จะตกในปี 3114 ก่อนคริสตกาล เมื่อเกิดระบบนับวันต่อเนื่อง ก็มีการผูกเรื่องราวต่างๆในบันทึกเข้ากับระบบนับวันแบบใหม่นี้ ชาวมายาถือว่าเหตุการที่เกิดขึ้นก่อนวันเริ่มยุค (ปี 3114 BC) เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นในยุคก่อนหน้านี้ และสิ้นสุดลงในวันที่ 13.0.0.0.0 หรือวันสุดท้ายของยุคที่สองตามตำนานบันทึกการสร้างโลก (Popol vuh) และชาวมายาถือว่าปัจจุบันนี้อยู่ในยุคที่สาม ชาวมายาถือว่า 1 ยุคมี 13 Baktun คาดว่าเนื่องจากในระบบปฏิทินแบบโซลคิน-ฮาบ จะมีการตั้งชื่อ Baktun ตามวันสุดท้ายของปีก่อนหน้าตามระบบโซลคิน ดังนั้นใน 1 ยุค จะมี Baktun ที่มีชื่อไม่ซ้ำกันได้เพียงแค่ 13 ชื่อเท่านั้น เมื่อสิ้นสุด 13 Baktun ... กลุ่มที่ยังคงใช้ปฏิทินแบบนับต่อเนื่องในอเมริกากลางไม่ได้คิดว่าเป็นวันสิ้นสุดของโลก เช่นเดียวกับปี 3114 BC ไม่ใช่เป็นวันสร้างโลก แต่เป็นวันที่ขึ้นยุคใหม่ สำหรับผู้ที่ศึกษาอารยธรรมมายา ก็กำลังตกลงกันว่าหลังจาก หมดหน่วย Baktun แล้ว จะนับวันต่ออย่างไร อาจจะขึ้นปฏิทินใหม่แล้วเพิ่มหน่วย Piktun อีกหนึ่งหน่วยเป็น 1.0.0.0.0.0 ถ้าใช้หน่วย Piktun หมดแล้ว ก็ยังมีหน่วยรองรับอีกคือ Kalabtun, Kinchiltun และ Alautun อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผู้ศึกษาอารยธรรมมายา ต้องตกลงกันก็คือ จะให้หน่วย Baktun หมดเมื่อครบ 13 หรือ 20 ดี เพราะในหลักฐานบันทึกก็มีใช้ทั้งสองแบบ โดยสรุปแล้ว ปฏิทินมายาก็ยังไม่ได้สิ้นสุด แต่เป็นแค่การเริ่มวงรอบการนับใหม่ เช่นเดียวกับการขึ้นศตวรรษใหม่ปี 2000 ที่ไม่มีเหตุการณ์โลกแตกเกิดขึ้นแต่อย่างใด จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:51:55

ความคิดเห็นที่ 3 รวมคำถามยอดฮิต ไขข้อข้องใจจากเรื่องโลกแตก 2012 ปฏิทินมายาทำนายว่า ปี ค.ศ. 2012 เป็นวาระสุดท้ายของโลกจริงหรือ ปฏิทินมายามีหลายแบบ แบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปี ค.ศ. 2012 คือแบบที่เรียกกันว่า ปฏิทินรอบยาว (long count) ระบุวันด้วยชุดของตัวเลข ตัวเลขชุดนี้แทนวันที่ได้ยาวนาน 5,126 ปี เทียบกับวันที่ตามระบบปฏิทินสากลตั้งแต่ วันที่ 11 สิงหาคม 3114 ปีก่อนคริสต์กาลไปจนสุดจำนวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 การสิ้นสุดของตัวเลขปฏิทินมายา หรือการครบจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ในระบบนับวันระบบใดระบบหนึ่ง จะแสดงถึงการสิ้นสุดของโลกเชียวหรือ คอมพิวเตอร์สมัยก่อนก็มีระบบปฏิทินในตัวเครื่องที่แสดงวันเดือนปีได้จนถึงสิ้น ค.ศ. 2000 อันเป็นที่รู้จักกันในนามของปัญหา Y2K แต่เมื่อสิ้นสุด ค.ศ. 2000 โลกก็ไม่ได้แตกตามระบบนับวันของคอมพิวเตอร์ ทำนองเดียวกัน โลกก็จะไม่แตกสลายเพราะว่าสุดตัวเลขปฏิทินมายา หลังวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 ปฏิทินมายาก็จะเริ่มนับรอบใหม่ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:54:35

ความคิดเห็นที่ 4 Planet X คืออะไร เมื่อครั้งที่นักดาราศาสตร์รู้จักดาวเคราะห์แปดดวง ยังไม่พบดาวพลูโต นักดาราศาสตร์พบว่าการโคจรของดาวเนปจูนมีความผิดปรกติเหมือนมีแรงรบกวนจากวัตถุขนาดใหญ่อีกดวงหนึ่งคอยดึงดูดรบกวนอยู่ วัตถุนี้อาจเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่อีกดวงที่ยังมองไม่เห็น จึงมีความพยายามค้นหาดาวเคราะห์ลึกลับนี้โดยตั้งชื่อไว้ล่วงหน้าว่า ดาวเคราะห์เอกซ์ (Planet X) แม้เวลาต่อมาจะมีการค้นพบดาวพลูโต ปัญหานี้ก็ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากดาวพลูโตเล็กและเบาเกินกว่าจะมีผลต่อการโคจรของดาวเนปจูน การค้นหาจึงดำเนินต่อไป ต่อมา หลังจากที่มียานอวกาศไปสำรวจดาวยูเรนัสกับเนปจูนในระยะใกล้ จึงพบว่าความผิดปกติของวงโคจรดังที่เคยสำรวจจากโลกนั้นเป็นเพียงความผิดพลาดจากการวัด ไม่ใช่ความผิดปรกติของวงโคจรแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการค้นหาวัตถุใหม่นอกวงโคจรดาวเนปจูนก็ยังมีอยู่ต่อไป และนักดาราศาสตร์ก็ได้ค้นพบวัตถุอีกหลายดวง แต่ทุกดวงล้วนเป็นวัตถุเล็กคล้ายดาวพลูโตมากกว่า จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:56:13

ความคิดเห็นที่ 5 แหม.. 2012 แบบนี้สิ ค่อยหว้ากอหน่อย แจกกิ๊ฟท์ พร้อมโหวตให้เลยครับ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:56:41

ความคิดเห็นที่ 6 Planet X มีจริงหรือไม่ แม้ปัจจุบันจะยังไม่การพบดาวเคราะห์เอกซ์ แต่นักดาราศาสตร์หลายคนก็เชื่อว่าน่าจะมี หลักฐานหนึ่งที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องวงโคจรดาวเนปจูนที่ผิดปกติ (ซึ่งความจริงแล้วปกติ) แต่มาจากการกระจายตัวของวัตถุขนาดเล็กคล้ายดาวเคราะห์น้อยที่กระจายอยู่นอกวงโคจรของดาวเนปจูนหรือที่เรียกกันว่าวัตถุพ้นดาวเนปจูน นักดาราศาสตร์พบว่าที่ระยะประมาณ 50 หน่วยดาราศาสตร์ จำนวนของวัตถุเหล่านี้ได้ลดลงอย่างกระทันหัน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากอิทธิพลของวัตถุขนาดใหญ่โคจรอยู่นอกระยะนั้นออกไป เป็นไปได้ว่าวัตถุดวงนี้อาจมีขนาดใหญ่พอที่จะจัดว่าเป็นดาวเคราะห์ได้ นักดาราศาสตร์ได้คำนวณไว้ว่าดาวเคราะห์เอกซ์ดวงนี้น่าจะมีขนาดพอ ๆ กับโลกของเรา จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:57:07

ความคิดเห็นที่ 7 มีการค้นพบดาวเคราะห์เอกซ์แล้วหรือยัง นักดาราศาสตร์ได้พบค้นพบวัตถุดวงใหม่ที่อยู่นอกวงโคจรของดาวเนปจูนมาแล้วหลายดวง หลายครั้งที่มีการค้นพบวัตถุใหม่พ้นวงโคจรของดาวเนปจูนที่มีขนาดใหญ่ ก็มักเรียกกันให้ครึกโครมว่าเป็นดาวเคราะห์เอกซ์ แต่หลังจากการวิเคราะห์สมบัติด้านต่าง ๆ แล้วก็พบว่าไม่มีดวงใดที่มีสมบัติเข้าข่ายดาวเคราะห์ จึงถือได้ว่าปัจจุบันยังไม่พบดาวเคราะห์เอกซ์ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:58:03

ความคิดเห็นที่ 8 Planet X เป็นดาวเคราะห์ล้างโลกจริงหรือ ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีวงโคจรของตัวเอง มีรัศมีวงโคจรต่างกัน วงโคจรมีเสถียรภาพดี ไม่ใช่สิ่งที่จะมาชนกันได้ง่าย ๆ ตามความรู้และข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์มีอยู่ เชื่อว่าหากมีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ในระบบสุริยะจริง (ซึ่งจะได้ชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์เอกซ์) ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็น่าจะอยู่พ้นวงโคจรของดาวเนปจูนออกไปอีก แล้วดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรใหญ่โตอยู่ไกลปืนเที่ยงขนาดนั้นจะมาชนโลกได้อย่างไร จงจำไว้ว่าดาวเคราะห์เอกซ์คือสิ่งที่นักดาราศาสตร์ถวิลหา และการค้นพบจะเป็นข่าวน่ายินดี หากวันหนึ่งคุณเห็นข่าวพาดหัวว่าค้นพบดาวเคราะห์เอกซ์แล้ว ก็อย่าไปแตกตื่นให้อายใครเขา จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:58:51

ความคิดเห็นที่ 9 คิดเหมือนคุณอะธีลาสเลยครับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:59:26

ความคิดเห็นที่ 10 ดาวนิบิรุ มีจริงหรือไม่ นิบิรุ เป็นชื่อเทพองค์หนึ่งของบาบิโลน ส่วน ดาวนิบิรุ เป็นดาวตามทฤษฎีของ เซชาเรีย ซิตชิน ซึ่งอ้างว่าถอดความมาจากจารึกของชาวสุเมเรียน ทฤษฎีนี้กล่าวว่าดาวนิบิรุเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมอาศัยอยู่และเคยมาเยือนโลกเมื่อนานมาแล้ว แม้เรื่องดาวนิบิรุจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบเรื่องลึกลับ เรื่องจานบิน เรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่เนื่องจากทฤษฎีนี้มีหลักฐานอ่อนมาก และตั้งอยู่บนจินตนาการมากกว่าเหตุผล เรื่องนี้จึงไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างในวงการวิทยาศาสตร์รวมถึงนักวิชาการด้านสุเมเรียนด้วย จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 17:59:55

ความคิดเห็นที่ 11 ดาวนิบิรุ กับ Planet X เป็นดวงเดียวกันหรือไม่ บทความหรือทฤษฎีที่เกี่ยวกับโลกแตกปี 2012 มักกล่าวว่า นิบิรุ และ ดาวเคราะห์เอกซ์ (Planet X) เป็นวัตถุดวงเดียวกัน แต่ความจริงต่างกันโดยสิ้นเชิง ดาวเคราะห์เอกซ์เป็นดาวเคราะห์ที่ยังหาไม่พบ แต่เชื่อว่ามีจริง และมีการค้นหาอยู่ ส่วนดาวนิบิรุ เป็นดาวในตำนานที่ยังขาดหลักฐานที่ดีพอที่จะบอกได้ว่ามีอยู่จริง จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:00:38

ความคิดเห็นที่ 12 พายุสุริยะคืออะไร พายุสุริยะคือกระแสของอนุภาคพลังงานสูงที่พัดมาจากดวงอาทิตย์ด้วยปริมาณและความเร็วสูงกว่าระดับปกติ อนุภาคนี้มีทั้งอิเล็กตรอนและโปรตอน เป็นตัวการทำให้เกิดแสงเหนือใต้ และพายุแม่เหล็ก ซึ่งส่งผลต่อดาวเทียม ยานอวกาศ และระบบสายส่งบนโลก จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:01:24

ความคิดเห็นที่ 13 พายุสุริยะมีผลกระทบต่อโลกอย่างไร ปกติพายุสุริยะจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลก เนื่องจากโลกมีบรรยากาศและสนามแม่เหล็กคุ้มกัน มีเพียงนักบินอวกาศที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอวกาศเท่านั้นที่อาจได้รับอันตราย ทั้งจากพายุสุริยะและรังสีจากดวงอาทิตย์ ในอดีต พายุสุริยะเคยสำแดงฤทธิ์เดชให้เห็นแล้วหลายครั้ง เช่น ใน ค.ศ. 1859 พายุสุริยะทำให้สายโทรเลขลัดวงจรจนทำให้เกิดเพลิงไหม้หลายแห่งในยุโรปและอเมริกา ส่วนใน พ.ศ. 2532 พายุสุริยะก็เคยทำให้หม้อแปลงของไฟฟ้าระเบิดจนทำให้ไฟดับทั่วทั้งจังหวัดควิเบกของแคนาดามาแล้ว นอกจากนี้ดาวเทียมและยานอวกาศที่อยู่ในอวกาศก็อาจเสียหายจากพายุสุริยะได้ ในอดีตเคยมีดาวเทียมหลายดวงเสียหายจากเหตุการณ์นี้มาแล้ว เนื่องจากปัจจุบันชีวิตประจำวันของผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอวกาศมาก ทั้งโทรศัพท์ โทรทัศน์ การกระจายเสียงวิทยุ ระบบบอกพิกัด ฯลฯ ดังนั้นหากมีพายุสุริยะมาทำให้ดาวเทียมเหล่านี้เสียหายไป ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแน่นอน จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:01:56

ความคิดเห็นที่ 14 ในปี ค.ศ. 2012 จะเกิดพายุสุริยะโจมตีโลกจริงหรือ จริง พายุสุริยะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบตลอดเวลา และส่งผลกระทบถึงโลก และมีระดับความรุนแรงผันแปรเป็นคาบ คาบละประมาณ 11 ปี คาบที่ชัดเจนนี้ทำให้นักดาราศาสตร์พยากรณ์ได้ว่าช่วงสูงสุดหรือต่ำสุดของวัฏจักรสุริยะจะเกิดขึ้นเมื่อใด ช่วงสูงสุดของวัฏจักรที่จะเกิดในครั้งถัดไปคาดว่าจะอยู่ในช่วงกลาง ค.ศ. 2013 ช่วงสูงสุดของวัฏจักรสุริยะกินเวลายาวนานข้ามปี ดังนั้นแม้ช่วงสูงสุดจะอยู่ใน ค.ศ. 2013 แต่พายุสุริยะก็เริ่มจะกระหน่ำโลกตั้งแต่ก่อน ค.ศ. 2012 แล้ว แม้ช่วงปี 2013 จะอยู่ในช่วงสูงสุดของวัฏจักรสุริยะ แต่พายุสุริยะที่จะเกิดขึ้น ก็ไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าที่เคยเกิดขึ้นในรอบก่อน ซึ่งเกิดในราวปี ค.ศ. 2000, 1989, และก่อนหน้านั้น ความจริงมีแนวโน้มว่าช่วงสูงสุดของวัฏจักรที่จะมาถึงในปี 2013 จะอ่อนกำลังกว่าวัฏจักรก่อนหน้านี้เสียด้วยซ้ำ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:02:41

ความคิดเห็นที่ 15 สิ้นไม่สิ้น แต่ตอนนี้ ร้อนตับแลบบบบบ เลย จากคุณ : แมงหวาน (mangwan) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:03:40

ความคิดเห็นที่ 16 สนามแม่เหล็กโลกสลับขั้วได้จริงหรือ มนุษย์ยุคปัจจุบันยังไม่เคยมีใครเห็นโลกสลับขั้วแม่เหล็ก แต่หลักฐานทางธรณีวิทยาบ่งชี้ว่าการสลับขั้วแม่เหล็กเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์ของโลก สนามแม่เหล็กโลกกำลังอ่อนกำลังลงจริงหรือ จริง นักวิทยาศาสตร์พบว่า นับจากคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกได้อ่อนกำลังลงไปประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะความเข้มสนามแม่เหล็กโลกผันแปรตลอดเวลาเป็นเรื่องปกติ ความจริงสนามแม่เหล็กโลกในขณะนี้ยังเข้มกว่าความเข้มเฉลี่ยของสนามแม่เหล็กโลกในช่วงหนึ่งล้านปีที่ผ่านมาถึงสองเท่า จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:04:20

ความคิดเห็นที่ 17 มาปาดดดดดดดดด ตอนแรกนึกว่าจะมาตั้งคำถามเดจาวูอีกแล้ว ฮ่าๆๆ เด๋วกลับมาอ่านนะครับ  ไปตามทู้นาธานก่อน ยาวแม๊กกกกกก จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:06:23

ความคิดเห็นที่ 18 ปี 2012 จะเกิดปรากฏการณ์ pole shift จริงหรือ pole shift คือการเลื่อนขั้วแกนหมุนของโลก ทำให้ขั้วเหนือและใต้ของโลกเปลี่ยนตำแหน่งไป เกิดขึ้นจากการที่สัญฐานของโลกไม่กลมสมบูรณ์ ปรากฏการณ์นี้เชื่อว่าเคยเกิดขึ้นจริงกับโลก รวมถึงดาวเคราะห์และดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงอื่นด้วย ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์นี้ในปี 2012 และแม้จะเกิดก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเนื่องจากการเลื่อนนี้เกิดขึ้นในอัตราที่เชื่องช้ามาก pole shift ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องขั้วแม่เหล็กโลกเลื่อนตำแหน่ง ไม่เกี่ยวกับการเลื่อนของแผ่นทวีป และไม่เกี่ยวกับการส่ายของขั้วโลก จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:07:21

ความคิดเห็นที่ 19 ปี 2012 สนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนตำแหน่งจริงหรือ จริง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่กำลังจะเกิดใน ค.ศ. 2012 หากแต่เกิดขึ้นตลอดเวลา แม้แต่ตอนนี้ก็เกิด นักวิทยาศาสตร์ทราบว่าขั้วแม่เหล็กโลกมีการเคลื่อนที่ตั้งแต่ที่ค้นพบขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเมื่อกว่าศตวรรษก่อนแล้ว การเคลื่อนที่นี้เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยอัตราเฉลี่ยประมาณ 1 องศาต่อ 1 ล้านปีหรืออาจเร็วกว่านั้น การสำรวจในช่วงไม่กี่ปีมานี้พบว่า ขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าโลกใกล้จะสลับขั้วหรือกำลังวิปริต เพราะอัตราการเคลื่อนที่มีขึ้นมีลงอยู่เสมอ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:09:51

ความคิดเห็นที่ 20 โลกสลับขั้วแม่เหล็กครั้งล่าสุดเมื่อใด และจะเกิดครั้งต่อไปเมื่อใด ครั้งล่าสุดที่โลกสลับขั้วแม่เหล็กเกิดขึ้นเมื่อราว 780,000 ก่อน การพยากรณ์ว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ หมายความนักวิทยาศาสตร์จะต้องเข้าใจกลไกการสลับขั้วแม่เหล็กดีพอสมควร หรือการสลับขั้วแม่เหล็กโลกในอดีตมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ได้ เช่นมีคาบแน่นอน หรือเกิดขึ้นในเวลาที่สอดคล้องกับเหตุการณ์อื่น แต่ปัจจุบันยังขาดทั้งสองอย่าง นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสนามแม่เหล็กโลกเกิดจากอะไร ไม่ทราบว่าสลับขั้วได้อย่างไร นอกจากนี้บันทึกการสลับขั้วในอดีตก็ไม่มีรูปแบบเด่นชัดพอจะคาดการณ์ได้ ไม่มีคาบที่แน่นอน บางช่วงสนามแม่เหล็กโลกอาจคงทิศอยู่นานถึงหลายสิบล้านปี บางครั้งอาจคงทิศได้เพียงไม่กี่ร้อยปี ความผันแปรอย่างมหาศาลนี้ทำให้แทบระบุไม่ได้เลยว่า โลกจะถึงกาลสลับขั้วแม่เหล็กอีกครั้งเมื่อใด จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:11:11

ความคิดเห็นที่ 21 ในปี ค.ศ. 2012 โลกจะสลับขั้วสนามแม่เหล็กจริงหรือ แม้นักวิทยาศาสตร์จะเชื่อว่าโลกจะสลับขั้วแม่เหล็กอีกอย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด อย่าว่าแต่จะให้ระบุปีที่เกิด แม้แต่จะให้ระบุว่าจะเกิดขึ้นในศตวรรษใดก็ยังยาก เนื่องจากจังหวะการเกิดปรากฏการณ์นี้ในอดีตผันแปรมาก นักโลกแตกนิยมมักโยงเรื่องวัฏจักรของดวงอาทิตย์ซึ่งจะถึงช่วงสูงสุดในราวปี 2012 เข้ากับการสลับขั้วแม่เหล็กโลก นั่นเป็นการโยงเหตุการณ์ที่ไร้เหตุผลอย่างมาก ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงว่าการสลับขั้วแม่เหล็กโลกมีความสัมพันธ์กับวัฏจักรของดวงอาทิตย์ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:13:24

ความคิดเห็นที่ 22 หากเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กโลกจริง จะทำให้เกิดหายนะถึงขั้นผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากหรือไม่ เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกมีบทบาทสำคัญในการเป็นเกราะคุ้มกันรังสีอันตรายจากห้วงอวกาศ ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า หากเกิดความผิดปกติของสนามแม่เหล็กโลก เช่นสนามแม่เหล็กหายไปซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีการสลับขั้วแม่เหล็ก ก็ย่อมส่งผลต่อสรรพชีวิตบนพื้นโลกอย่างแน่นอน ผลกระทบที่ว่านี้จะรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บล้มตายหรือเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่หรือไม่? ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น จากการเทียบบันทึกการสลับขั้วแม่เหล็กโลกในอดีตซึ่งเกิดมาแล้วหลายครั้ง เราไม่พบว่ามีความสอดคล้องกับเวลาที่เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นบนโลก นี่น่าจะพอเบาใจได้ในระดับหนึ่งว่า หากโลกสลับขั้วแม่เหล็กในช่วงนี้ ก็คงไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย งานวิจัยด้านสนามแม่เหล็กโลกเมื่อไม่นานมานี้เผยว่าสนามแม่เหล็กโลกซับซ้อนกว่าที่คิด โลกมิใช่มีเพียงแม่เหล็กแท่งใหญ่แท่งเดียว แต่ยังมีแม่เหล็กขนาดย่อมกระจายอยู่หลายส่วนทั่วโลก ช่วงที่มีการสลับขั้วแม่เหล็ก แม่เหล็กตัวใหญ่จะอ่อนกำลังลงไปมากจนเผยให้เห็นอิทธิผลของแม่เหล็กตัวย่อย ในช่วงเวลาดังกล่าวโลกจะมีขั้วแม่เหล็กเหนือใต้หลายแห่งบนโลก สนามแม่เหล็กโลกจะซับซ้อนยุ่งเหยิงมาก แน่นอนว่าช่วงนี้เราอาจใช้เข็มทิศไม่ได้ สัตว์บางชนิดที่ต้องพึ่งพาสนามแม่เหล็กโลกก็อาจประสบความยากลำบาก แต่ด้านดีก็คือ สนามแม่เหล็กยังคงมีกำลังมากพอที่จะคุ้มครองสิ่งมีชีวิตได้ จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:14:30

ความคิดเห็นที่ 24 ปัจจุบันแกนหมุนของโลกเอียงมากขึ้นเป็น 24 องศาจริงหรือ ไม่จริง ปัจจุบันแกนโลกยังคงเอียง 23.44 องศา อย่างไรก็ตาม แกนหมุนของโลกมีการเปลี่ยนแปลงเสมอในช่วงแคบ ๆ 22.1-24.5 องศาโดยมีคาบประมาณ 42,000 ปี ดังนั้นถ้าจะมองให้ละเอียด ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงจริง แต่เปลี่ยนแปลงช้ามาก และยิ่งกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงของมุมเอียงขณะนี้อยู่ในช่วงขาลง นั่นคือ แกนโลกกำลังเอียงน้อยลง ไม่ใช่มากขึ้น จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:17:59

ความคิดเห็นที่ 25 จบแล้วจ้า ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาคมดาราศาสตร์ไทย - http://thaiastro.nectec.or.th บล๊อคคุณPUFF  - http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=vvvvvv&date=25-06-2009&group=5&gblog=13 จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:21:49

ความคิดเห็นที่ 26 อ้าว  ไม่มีเรื่อง super volcano แฮะ   แต่รับกิฟท์ไปสามแต้มครับ (ยังไม่ได้อ่านอีกเช่นเคย ยูทู๊ปอืดมาก  จาดูนาธาน T^T) จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:26:32

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่เชื่อ แต่อยากเหยียบหน้าบางคนเหมือนกัน เฮ้อ คงจะมี Troll เพิ่มอีกตัวในหว้ากอ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 18:50:48 จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:29:22

ความคิดเห็นที่ 28 เพิ่มเติม ตามคำขอ คุณ ZZsassyZ Supervolcanoes แตกต่างจากภูเขาไฟทั่วไป คือไม่ได้มีลักษณะเป็นปล่องภูเขาไฟ แต่มันซ่อนตัวอยู่ลึกใต้พื้นดิน และยากต่อการตรวจพบ ภูเขาไฟโดยทั่วไปเกิดจากการที่หินละลายใต้เผิวโลก แต่สำหรับ Supervolcanoe นั้นแทนที่หินละลายเหล่านี้จะระเบิดออกมาที่ผิวโลกปลือกโลก ถูกแรงดันมหาศาลภายในโลกผลักดันให้ปะทุออกมาบน มันกลับเกิดการ สะสมกันก่อนเป็นเวลาหลายพันปีเกิดเป็นบ่อหินละลายขนาดยักษ์ ซึ่งอยู่ใต้พื้นโลกลึกลงไป นักธรณีวิทยาเรียกว่าบ่อหินละลายใต้ดินนี้ว่า Magma chamber หินละลายหรือ Magma ที่สะสมอยู่ใน Magma chamber นั้นจะทับถมกันจนหนาหลายสิบกิโลเมตร ซึ่งมันจะดูดซับเอาก๊าซต่างๆ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ และ คารบอนไดอ๊อกไซด์ไว้ ก๊าซเหล่านี้เมื่อสะสมกันเวลาหลายๆ พันปีก็จะเกิดแรงดันมหาศาล และเมื่อถึงจุดๆหนึ่งก็จะระเบิดประทุขึ้นมาเหนือผิวโลก ด้วยความรุนแรงมากกว่าการระเบิดจากภูเขาไฟธรรมดาหลายร้อยเท่า การระเบิดของ Supervolcanoes นี้จะไม่เหมือนการระเบิดของภูเขาไฟธรรมดาออกมาจากปล่องภูเขาไฟ เมื่อSupervolcanoes ประทุขึ้นมันจะพ่นหินละลายออกสู่ผิวโลกด้วยความเร็วสูง Magma ที่สะสมอยู่ใน Magma chamber ใต้ดินจะถูกพ่นออกมาและหมดไปอย่างรวดเร็วทำให้เปลือกโลกที่อยู่ข้างบนยุบตัวลงไป เกิดเป็นหลุมขนาดยักษ์ เหมือนกับหลุมที่เกิดจากการพุ่งชน ของอุกกาบาต ซึ่งนักธรณีวิทยาเรียกหลุมที่เกิดจากการระเบิดของ Supervolcanoes ว่า Caldora นอกจากนั้นเถ้าถ่านภูเขาไฟจากการระเบิดครั้งใหญ่นี้จะปกคลุมบรรยากาศ ก๊าซจำพวกซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ให้ตกลงมาสู่พื้นโลกได้เต็มที่ ทำให้อุณหภมิโลกลดลง อย่างรวดเร็ว เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าฤดูหนาวนิวเคลียร์ ( nuclear winter ) สำหรับที่อุทยานแห่งชาติ Yellowstone Park ในอเมริกานั้น จากหลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่า ได้เคยเกิดการระเบิดของ Supervolcanoes มาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งแต่ละครั้งห่างกันเป็นเวลาประมาณ 600,000 ปี ที่น่าตกใจคือครั้งล่าสุดที่เกิดการปะทุขึ้นนั้นเมื่อ 640,000 ปีมาแล้ว จากคุณ : เจ้าสมุทร เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:31:39

ความคิดเห็นที่ 29 .. จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:37:37

ความคิดเห็นที่ 30 ปาดดดด และแวะมาให้กิฟครับ จากคุณ : Tortar_magic เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:39:28

ความคิดเห็นที่ 31   หนังออกเมื่อไหร่ เดี๋ยวกระทู้ 2012 ก็หายไปเอง ไร้สาระจริงๆ จากคุณ : PMC K.SRI เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:42:18

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากครับผม  แค่อยากให้บางคนได้อ่านว่า โอกาสเกิดมันมี แต่น้อยมากกกกกกกกก แต่เมื่อมันมี คนที่เชื่อว่าจะเกิด ไม่ใช่คนปัญญาอ่อนและไม่ผิดหากจะเชื่อ เพิ่มเติมเรื่อง Super volcano ครับ ถามว่าโอกาสเกิดมีไหม มีครับถึงจะครบระยะระเบิดของมัน แต่ But at this hot spot's current position under Yellowstone there have been three massive eruptions: 2.1 million, 1.3 million and 640,000 years ago. While those eruptions have been spaced roughly 800,000 and 660,000 years apart, three events are not enough statistically to declare this an eruption pattern,explains Smith.Though Yellowstone could erupt again someday, there is no evidence that the caldera is readying for another massive blast, says Smith. ทีมา: http://dsc.discovery.com/convergence/supervolcano/under/under_02.html แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 18:46:43 จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:44:51

ความคิดเห็นที่ 33 เริ่ด... จากคุณ : มามั่ว เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:45:05

ความคิดเห็นที่ 34 ระลึกไว้ครับ ว่า "ภาพยนต์ สร้างเพื่อให้เกิดความตื่นตา แต่ความรู้ ทำให้เราตื่นตัวครับ" ขอบคุณ เจ้าของกระทู้อีกครั้ง จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:49:08

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามารับความรู้... จากคุณ : นายขนมหวาน เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 18:58:24

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องสลับขั้วแม่เหล็กเพิ่งดูสาระคดีจบ เมื่อกี้เห็นว่าจะมีการกลับขั้วทุก 3 แสน ปี โดยสามารถดูจากการเก็บข้อมูลขั้วแม่เหล็กในชั้นหิน จากคุณ : Mr.june เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 19:16:35

ความคิดเห็นที่ 37 อย่างงี้นี่เอง จากคุณ : บาคุระ โซยะ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 19:39:25

ความคิดเห็นที่ 38 จะไปเหยียบหน้าใครทำไมกันหล่ะครับคุณๆทั้งหลาย เค้าก็มีสิทธิของเค้า ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน โดยสิทธินั้นไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นนะครับ งดใช้ความรุนแรงเถอะครับ หันมาเรียนรู้ที่จะทำให้ประเทศเราพัฒนากันดีกว่า จากคุณ : ความน่าจำเป็น เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 20:00:54

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วมึนๆครับ ชื่อเรียกของชาวมายานี่ งง ได้ใจ ต้องอ่านดีๆไม่ต่ำสามรอบแน่งานนี้ แต่ก็ขอบคุณครับที่เอามาแบ่งปันกัน มีคำถามนิดนึงครับ สงสัยในกระบวนการนิดหน่อย คือว่าเผ่ามายาเค้าเขียนหนังสือด้วยตัวอักษรอะไรครับ เดาว่าไม่ใช่ภาษาแบบทั่วไป คือเป็นพวกภาษาตายแล้ว อย่างในรูปนี่ทำขึ้นมาแล้วใส่ภาษาอังกฤษกำกับกันเอาเองใช่มั้ยครับ แล้วถ้าเป็นอย่างงั้นจริง นักสำรวจเึค้าอ่านมาได้ไงครับว่าพวกนี้อ่านแบบนี้ หรือว่ามาตั้งสมาคมแล้วสรุปกันเอาว่าให้อ่านแบบนี้ ออกเสียงแบบนี้อ่ะครับ จากคุณ : palm_mlap เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 20:13:16

ความคิดเห็นที่ 40 เริ่มดราม่า... อีกแล้ว จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 20:15:50

ความคิดเห็นที่ 41   que sera sera ค่ะ จากคุณ : โลกไม่แตกร้อกกก (the world is beautiful) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 20:27:55

ความคิดเห็นที่ 42 กระทู้ดีให้กิ๊ฟ แต่ยังไม่ได้อ่าน ขออ่านหนังสือจบก่อนละกัน ปล. อยากดูหนังด้วย TwT จากคุณ : แมวโบราณ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 20:33:20

ความคิดเห็นที่ 43 แจกกิฟต์+โหวต ให้แก่กระทู้ดีๆ ^^ จากคุณ : Ganadores เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 20:59:06

ความคิดเห็นที่ 44 ได้ความรู้ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ ยังไงโลกเราก็มีสิ้นซักวันแหละน่า... ขึ้นอยู่กับคนในรุ่นไหนที่จะเจอ จากคุณ : Pretty_Cute_Girl เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 21:03:29

ความคิดเห็นที่ 46   มีิเกิด ก็ต้องมีดับ เราเกิดมาได้นับว่าเป็นเรื่องแปลกมากที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวดวงหนึ่ง ธรรมาชาติสร้างเราได้ ธรรมชาติก็ฆ่าเราได้เช่นกัน ถ้ามีสิ่งมีชีวิตได้ ฉะนั้นการที่มีดาวเคราะห์แปลกๆ ก็ไม่เห็นจะน่าแปลกตรงไหนเลย มนุษย์ไม่สามารถอยู่เหนือธรรมชาติได้หรอกค่ะ เราไม่รู้ได้หรอกค่ะว่าธรรมชาติจะเกิดอะไรบ้าง โลกอาจไม่แตกวันนี้ แต่ยังไงก็ต้องมีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว จากคุณ : มนุษย์บนโลก เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 21:26:07 A:110.164.83.166 X: TicketID:240324

ความคิดเห็นที่ 47 สนุกดีครับ  ชอบมากกระทู้แบบนี้ จากคุณ : สไรินนื เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 21:47:21

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณค่า จากคุณ : i can't do it !! เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 21:47:39

ความคิดเห็นที่ 49 ดู 2012 แล้วก็ไม่ต้องคิดไรมากคะ... และเพราะกระทู้แบบนี้ของคุณเจ้าสมุทร หว้ากอเลยเป็นอีกห้องหนึ่งที่เราชอบเข้ามาเหลือเกิน จากคุณ : แพนด้าขอบตาดำๆ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 21:50:40

ความคิดเห็นที่ 50 สำหรับคนที่สนใจ Super Volcano นิตยสาร NatGeo ฉบับภาษาไทยเคยนำรายละเอียดมาลงไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาที่ผ่านมาครับ Teaser พอจะหาอ่านได้ที่นี่ครับ http://www.ngthai.com/ngm/0908/feature.asp?featureno=4 หรือจะลองสำรวจพื้นโลกใต้ Yellow Stone แบบ Interactive กับ NatGeo ได้ที่นี่ (ต้องมี Flash 10 ด้วยนะครับ) http://ngm.nationalgeographic.com/2009/08/yellowstone/yellowstone-interactive แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 52 22:10:37 จากคุณ : BoogieBug เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 22:07:07

ความคิดเห็นที่ 51 มารอชมครับ อยากรู้เหมือนกันว่าความจริงและโอกาสจะเป็นเช่นไร... จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 22:08:05

ความคิดเห็นที่ 52 ผมกลัวอย่างนึงครับ กลัวจะมีดาวหาง หรืออุกกาบาต ลูกนึงใหญ่มากๆ ผ่านชั้นบรรยากาศมาแล้ว ลูกก็ยังใหญ่อยู่ มาพุ่งชนโลก นี่แหละ น่ากลัวที่สุด ถ้า nasa พลาด หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ รองลงมาก็แผ่นดินไหว ก็แหงหละ แผ่นดินไหว ใครมันจะไปรู้  อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ จากคุณ : ปิดบริการ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 22:24:02

ความคิดเห็นที่ 53 จะเกิดก็เกิด... จากคุณ : _The Enjoy_ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 22:35:30

ความคิดเห็นที่ 54 #52 ถ้ามันใหญ่มากจริงๆ ผมว่าคงยากมากที่จะสำรวจไม่พบครับ จากคุณ : Steyr Commando เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 23:35:59

ความคิดเห็นที่ 55   เยี่ยมมาก ขอเซฟครับ คนไทย"ส่วนใหญ่"ยิ่งงมงายอยู่ จากคุณ : HiiDoL เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 23:45:24

ความคิดเห็นที่ 56   HiiDoL ^ ^ ทำไมต้องไปพูดถึง 2012 ทุกวันนี้คนไทยยังขูดเลข ขอหวย ไหว้งูสองหัว กันอยู่เลย จากคุณ : 9 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 23:48:21 A:124.122.146.92 X: TicketID:213221

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาหาความรู้ครับ จากคุณ : grandmom เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 52 23:52:33

ความคิดเห็นที่ 58   ขอบคุณสำหรับบทความนะคะ แต่ปฏิทินมายา อ่านแล้วแอบมึนนิดหน่อย แหะ แหะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุด อยู่ที่ว่าจะเกิดในยุคไหนเท่านั้นเอง จากคุณ : หมวยวุ่นวายกับเจ้าชายแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 00:16:50

ความคิดเห็นที่ 59 มาลงชื่อค่ะ ^ ^ จากคุณ : env42_tay เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 00:21:35

ความคิดเห็นที่ 60 คอยดูนะ.. อีก 2 อาทิตย์ต่อมา เดี๋ยวจะมากระทู้ถามอีก เรื่อง 2012 เนี่ยแหละ จากคุณ : เอาใจช่วย จขกท. (StreamRider) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 00:40:44

ความคิดเห็นที่ 61   คำเตือน อย่าอ่านกระทู้ ก่อนไปดูหนัง !!spoil alert+ ปล ดีนะ ไปดูมาก่อนแล้ว จากคุณ : liltonie เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 00:50:48

ความคิดเห็นที่ 62 อย่างที่มีคนเคยบอกครับ.. คนไทยไม่วิตกหรอกครับ ปี 2012 ว่าโลกจะแตกไม่แตก แต่คนไทยส่วนใหญ่จะวิตก วันที่ 1 กับ วันที่ 16 ของทุกเดือนครับ ว่า หวยที่ตูแทงไปจะถูกได้ตัง หรือถูกกิน มากกว่า จากคุณ : สเต๊กลูกครึ่ง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 01:02:47

ความคิดเห็นที่ 63 เกิดไม่เกิด"ไม่รู้" แต่อ่านแล้วได้"ความรู้" ขอบคุณครับสนุกด้วย มีสาระด้วย ชอบมากครับ ^^ จากคุณ : GayKrub เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 01:28:42

ความคิดเห็นที่ 64 สุดยอดครับ ขอบคุณมาก จากคุณ : โคอีสีอิฐ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 01:36:05

ความคิดเห็นที่ 65 ผมลุ้นที่ Super volcanic เนี่ยแหละครับ  ก็คงจะมีความน่าจะเป็นไปได้สูงสุด  หรือไม่อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยในคราวเดียวกัน  ตัวเลือกอื่นไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่ตามที่คุณเจ้าสมุทรนำเสนอไว้ เนื่องจากการระเบิดครั้งใหญ่ ของ caldera ใหญ่ยักษ์ ของyellow stone ที่ปล่อยเถ้าภูเขาไฟพวยพุ่งไปถึง 3 กม.และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง  ซึ่งเกิดไปเมื่อ 680,000 ปีที่แล้วก็จริง แต่การระเบิดครั้งนั้นทำให้เกิด nonexplosive eruptions อีก 80 แห่งตามมา  ซึ่งการระเบิดครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 70,000 ปีก่อนนี้เอง ที่  Pitchstone Plateau แต่ทาง YVO ก็ได้บอกไว้แล้วว่า ไม่สามารถคาดการระยะเวลาและความถี่ของการระเบิดของภูเขาไฟได้จริงๆ แต่ก็ทำการสำรวจเก็บข้อมูลอยู่เสมอ     ดังนั้น อะไรที่คาดการณ์ไม่ได้อย่างเรื่องแผ่นดินไหวนี่น่าสนใจครับ  เพราะมัน active อยู่ตลอดเวลา และเราไม่สามารถทำนายได้ล่วงหน้า (เหมือนสึนามิ ก็ไม่สามารถทราบได้ล่วงหน้าก่อนที่มันจะเกิดแผ่นดินไหว) มันอาจจะเกิดก่อน 2012 หลัง 2012  หรือนับจากนี้ไปเป็นหมื่นปีแสนปี ก็มิอาจทราบได้  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 01:42:10

ความคิดเห็นที่ 66 มันถึงขั้นต้องเหยียบหน้ากันเลยหรอคะพี่น้อง ถ้าวัฒนธรรมการค้นคว้าและการรักการอ่านแพร่หลายในกลุ่มคนไทยเรา ความเชื่อผิดๆก็คงจะมีน้อยลงนะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับสาระดีๆจ้ะ จากคุณ : peachcandy เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 01:51:33

ความคิดเห็นที่ 67 คนที่เชื่อนี่มันน่าเหยียบหน้ามากเลยเหรอครับ??? รุนแรงจัง ถ้าว่าคนที่เชื่อว่าปัญญาอ่อน แล้วคนที่กล้าเหยียบหน้าคนปัญญาอ่อนล่ะครับ??? อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลย ทุกคนมีความคิดความเชื่อเป็นของตนเองครับ คนที่คิดต่าง...ไม่ใช่คนที่ปัญญาอ่อนเสมอไป จากคุณ : grandmom เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 03:04:32

ความคิดเห็นที่ 68   ^ ^ ^ คริๆๆๆ คนเรามีความเชื่อต่างกันได้ค่ะ เรื่องเหยียบหน้ามันแค่การเปรียบเปรยค่ะ คนปัญญาอ่อน เกิดมาป่วยเป็นโรคนี้มันช่วยไม่ได้นี่คะ แต่คนปัญญาดีที่ทำตัวปัญญาอ่อน มันก็น่า.......... จากคุณ : Black-White&Gray เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 03:20:17

ความคิดเห็นที่ 69   ขอบคุณ จขกท. เจ้าสมุทร มากครับ จากคุณ : ไฮ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 03:58:33 A:118.173.64.125 X: TicketID:162373

ความคิดเห็นที่ 70 ชอบคำว่า มนุษย์โลกแตกนิยม จริงๆ เลยครับ ฮ่าฮ่า จากคุณ : lunaticmachine เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 04:12:27

ความคิดเห็นที่ 71   คนเราเคยมีความเชื่อเรื่องโลกจะแตกมานานแล้ว และปีเก่าๆที่ผ่านๆไปที่เคยมีคนบอกว่าโลกจะแตก เช่น 1999 หรือ 2000 (ก่อนหน้านี้ก็ยังมี) แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นจะเคยจริงสักครั้ง ผมไม่คิดจะเชื่อเรื่องพรรค์นี้ และถึงโลกแตกจริง แล้วไง ? สุดท้ายคนเราเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้ว กลัวอะไร ? แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 05:18:54 จากคุณ : PRINCE OF THE SEA เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 05:17:58

ความคิดเห็นที่ 72 เรื่อง "เหยียบหน้า" นี่ ผมเข้าใจว่า คุณ axquest คงต้องการวัดใจกับที่คนที่เชื่อแบบไม่ยอมรับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์มากกว่าครับ ถึงเวลาจริงๆ ตอนปี 2012 แล้วไม่เกิดอะไรขึ้น คุณ axquest คงไม่ตระเวณไปเหยียบใครแน่ๆ เป็นเรื่องของสำนวนมากกว่า ถึงจะแรงไปนิด แต่ผมก็เห็นด้วยว่า สำหรับคนที่เชื่อแบบงมงายสุดๆ และยังพยายามเผยแพร่ความกลัวของตนแบบไม่สนใจข้อเท็จจริงหรือข้อมูลอื่นๆ เลย สามารถเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เหมือนสำนวนที่ว่า "คนโง่ (ไม่ยอมรับข้อเท็จจริง) แต่ขยัน (เผยแพร่ความเชื่อผิดๆ)" นั่นแหละครับ คิดอีกมุมนึง สื่อมวลชนหัวสีหลายเจ้าก็ทำหน้าที่ "โง่แต่ขยัน" ในการเผยแพร่เรื่องบั่นทอนปัญญาให้กับคนไทยมาเป็นเวลานาน และยังทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่คิดถึงผลเสียที่เกิดขึ้นอย่างที่เราเห็นๆ กันอยู่ ในกรณีนี้แบบนี้สมควรได้รับรางวัลอะไรดีล่ะครับ? :) จากคุณ : BoogieBug เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:15:46

ความคิดเห็นที่ 73   โลกนี้สีเทาครับ ไม่ใช่ดำ หรือ ขาว ฉะนั้น อย่าสุดขั้วเลยนะ จะทะเลาะกันปล่าวๆ เพราะสุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีหลักฐานแน่นอนว่าจะเกิด หรือ จะไม่เกิด ก็เก็บไ้ว้เป็นข้อมูล ส่วนใครจะเชื่อแบบไหน ก็นานาจิตตัง จากคุณ : ธรรมดาไม่เคยมี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 08:34:40

ความคิดเห็นที่ 74 นี่เราจะโดนเหยีบหน้าไหมเนี่ย >< จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:24:44

ความคิดเห็นที่ 75 T T จากคุณ : Available (sirsparrow) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:33:20

ความคิดเห็นที่ 76 ชอบคำว่า"โลกแตกนิยม" อ่ะค่ะ เห็นภาพมากๆ กระทู้ดีมีสาระค่ะ จากคุณ : อุริ อุริ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 09:36:52

ความคิดเห็นที่ 77 ยังไม่ได้ดูหนัง แต่ ดูสารคดี เรื่องปี 2012 มาที่อเมริกา แบบ ยาวทั้งวัน  มีทั้งโยงเรื่องเกี่ยวกับ ปฏิทิน มายา  แต่ก็มีปฏิทินจีนด้วย ที่หมดตรงเดือน ธค 2012 เหมือนกัน ทีนี้่ เอาที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นมาหน่อย ก็คือ ในปี 2012 โลก ดวงอาทิตย์จะอยู่แนวเส้นตรงเดียวกันกลับ จุดศุนย์กลางของทางช้างเผือก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บอกว่าอาจมีผลกระทบ (จากแรงดึงดูด) แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปรากฏการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นทีนึงในรอบหลายแสนปี คนที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ใช่ หมอดูที่ไหน แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกของนาซ่า พวกนักวิจัยด้านอวกาศ ประมาณพวกศึกษาพายุสุริยะ  ดาวเคราะห์น้อย หรือ ดาวหาง แต่เค้าก็ไม่ได้บอกว่าโลกจะแตก แต่สิ่งที่อาจเป็นไปได้คือ ทำให้การแกว่งของแกนโลกมากขึ้นจนอาจถึงขั้นแกนขั้วโลกเลื่อนอย่างฉับพลัน จากคุณ : Tiger อู๊ด เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 10:00:59

ความคิดเห็นที่ 78 ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอ่ะครับเรื่องนี้ ถึงเกิดจริง ผมว่ามันคงไม่รุนแรงขนาดในหนังหรอกครับ มันอาจจะค่อยๆเกิดขึ้นก้ได้ จากคุณ : น้าเปี๊ยก เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:21:26

ความคิดเห็นที่ 79 จะเหยียบหน้ากันเลยหรอครับ นักเลงจริงๆ ปล.แตกต่างได้ แต่ไม่ควรแตกแยกครับ ปล.ผมไม่ได้เชื่อนะ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ตายกันหมดแล้วคนที่เชื่อจะไปเหยียบหน้าใครล่ะ ??? จากคุณ : ก (การ์ทู้) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 11:34:52

ความคิดเห็นที่ 80 #54 ครับ ตรวจอ่ะตรวจพบครับ แต่ิวิธีจัดการนี่สิครับ ปัญหา   คนที่เก่งๆ แบบในหนัง เมทิเออร์ ให้อุกกาบาตหักเห มันจะมีอยู่สักกี่คนในโลกเชียว อีกอย่าง ให้ลูกอุกกาบาตหักเหไป ไม่รู้ทำได้จริงเปล่า ลองหาซื้อ หรือ โหลด เรื่อง เมทิเออร์มาดูนะครับ มันสนุกมาก จากคุณ : ปิดบริการ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:08:22

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้าอุกกาบาตลูกนึง ถูกอีกลูกนึงชน ทำให้วิถีโคจรหักเหพุ่งมาทางโลก แล้วลูกนั้นใหญ่มาก  ถ้า nasa ยิงนิวเคลียร์ไปจัดการ มันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ พุ่งลงมาทั่วโลกเปล่า ผมหวังไว้ว่า พอถึงเวลาจริง nasa แกคงเก่งเหมือนในหนังหลายๆเรื่องที่ผ่านมานะครับ ^^ จากคุณ : ปิดบริการ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:10:20

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ BoogieBug  ครับ ที่ผมติดใจเนี่ย คือคุณ axquest เค๊าแปะคำพูดด่าว่าคนอื่นว่าปัญญาอ่อนนี่กี่กระทู้ครับ ลองเช็คดูได้ ไปแปะทุกกระทู้ที่เค๊ามาตั้งคำถาม  มากระทู้นี้ถึงขั้นเหยียบหน้า ผมเข้าใจในเจตนาครับ แต่การแสดงออกมันไม่ถูกต้อง   ถ้าอยากจะเตือนสติท่านที่ไม่ทราบ  ก็ตอบดีๆ  ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือข้อเท็จจริงแก่เขาไป อย่างเช่นคุณเจ้าสมุทรทำนี่ไงครับ ปัญญาชน มาด่าว่ากัน ใช้คำรุนแรงต่อกัน มันจะเกิดประโยชน์ หรือปัญญาแก่กันบ้างไม๊ล่ะครับ   ปล.ขอโทษหากทำให้กระทู้ดราม่านะครับ (-/\-) แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 12:49:05 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 12:46:06 จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:39:00

ความคิดเห็นที่ 83 จะห่วงทำไมครับ ยังไงก็ได้ตายกันทุกคน -*-!!!a ต่อให้ไม่มีหายนะอะไรทีว่า ก็ไม่มีใครที่จะหนีความตายได้พ้นหรอก มาสนใจวิธีใช้ชีวิตอย่างสงบกันดีกว่าเถอะ แทนที่จะมามัววิตกกังวลกับการอยู่อย่างมีเกียรติหรือการตายอย่างอนาถเนี่ย ปล. ผมเห็นด้วยว่าคุณ axquest แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นปัญญาชน เมื่อเจอคนไม่รู้ ถ้าเรารู้เราก็ให้ข้อมูลที่ถูกไป ไม่ใช่ไปด่าว่าเสียดสี มันไม่เกิดประโยชน์ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 12:44:02 จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:40:39

ความคิดเห็นที่ 84 เพิ่งเริ่มเห็นว่า ในห้องนี้...ก็พอมี"เกรียน"อยู่บ้างครับ...นึกว่าจะไม่มีซะอีก พูดจาไม่สมกับเป็นคนมีความรู้เลย #ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ ที่นำสาระดีๆมาให้อ่าน ^_^ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 12:45:55 จากคุณ : Tazz (Tazzmanian) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 12:41:46

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านเพื่อความบันเทิงบวกความรู้ แต่อย่าดูถูกความเชื่อของผู้อื่น แสดงความคิดเห็นเชิงบวก สังคมก็สงบ เดี๋ยวจะยาว กลายเป็นประเด็น แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 13:02:18 จากคุณ : น้ำเต้าหู้นมสด เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:00:10

ความคิดเห็นที่ 86 Uncivilized!!! เราขอโหวตให้เปิดปั๊กกะตู จากคุณ : โต้ บ้านกุดขนวน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:25:19

ความคิดเห็นที่ 87 หนังแอ็คช้นมันๆ หักมุมกลายเป็นดรามาซะงั้น ขอรับความรู้ไปอย่างเดียวละกันครับ ^^ จากคุณ : Yippie เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 13:34:59

ความคิดเห็นที่ 88 ความคิดเห็นที่ 82 คุณ ZZsassyZ เห็นด้วยเลยครับ คิดเหมือนผมเลย . . คนเราต้องโง่มาก่อนฉลาดเสมอ คนที่ไม่รู้หรือรู้แบบผิด ๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะหาความรู้ทีู่ถูกต้องใส่สมองครับ ผมว่า...เรามุ่งมั่นที่จะหาความรู้ต่อไปดีกว่า แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 14:04:07 จากคุณ : grandmom เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 14:03:33

ความคิดเห็นที่ 89 เบื่อนักเลง จากคุณ : KikuAnonae เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 15:10:30

ความคิดเห็นที่ 90 รู้เพียงแค่ว่า ถ้า 2012 โลกแตกจริง ก็จะไม่มีคนเหล็ก 2029 ชัวร์ จากคุณ : npn เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 15:39:16

ความคิดเห็นที่ 91 . . . อยากให้ดูเจตนาของคุณ axquest ก่อน ... เพราะเค้ากำลังบอกกับคนที่เถียงมาเชื่ออย่างหัวปักหัวปำ เถียงข้างๆ คูๆ ไม่มีหลักฐาน หรืออิงวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือไม่ได้ครับ ออกมาปกป้อง เพราะผมอีกคนที่อยากเหยียบหน้าคนที่ชอบเถียงข้างๆ คูๆ โดยไม่ถือหลักฐาน หรือขบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นแหล่งอ้างอิง แต่กลับเอาความรู้สึก หรือความเชื่อส่วนตัวมาเป็นแหล่งอ้างอิงครับ ส่วนมากผมจะเบือนๆ หน้าหนีไป เพราะไปอธิบายเท่าไหร่เขาก็ไม่รับฟัง = =a จากคุณ : monixe เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 15:59:48

ความคิดเห็นที่ 94 ทำไมเมเจอร์ต้องปิดแอร์ด้วย อ้าวผิดห้อง - -' จากคุณ : กระเทียมพริกไทย เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 17:32:24

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วย เจอประจำคนเอาโพลชิฟต์กะแกนแม่เหล็กโลกและซันแฟลร์มามั่วโลกแตกกัน จริงๆหายนะใหญ่ๆนี่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการเดินทางตามท้องถนนอยู่แล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย แล้วอีกอย่าง ตกลงว่าโลกมันเป็นทรงกลมกว่าลูกโบลิ่งจริงรึเปล่า เพราะเคยเห็นกระทู้นึงเล่าเรื่องโลกกลมได้น่าเชื่อดี แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 17:55:44 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 17:55:18 จากคุณ : นายคล้าว เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 17:55:01

ความคิดเห็นที่ 96 แรกๆ ก็สนุกดี ได้ความรู้ พึ่งเคยเห็นปฏิทินมายา อ่านลงมาล่างๆ ชักงง นี่พันทิปหรือ...กันแน่ จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 19:11:55

ความคิดเห็นที่ 97 ตอบ # 95  ไม่ใช่ครับ โลกมีรูปร่างเป็นทรงกลมแบบ spheroid ครับ คือตรงกลางป่องออก จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 20:27:49

ความคิดเห็นที่ 98 2012 = 2555 เป็นเรื่องที่คนไทยตลกมาก จากคุณ : HamyLee เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 20:34:00

ความคิดเห็นที่ 99 กะทู้ปล้นกิฟนะเนี่ย ได้ความรู้เยอะแยะ และ อ่านสนุกมากค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : รองเท้ากับนาฬิกา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 20:34:02

ความคิดเห็นที่ 100 หุหุ ถ้าปี 2012 โลกพินาศจริงๆ คนเชื่อก็ตาย คนไม่เชื่อก็ตาย ถ้าปี 2012 โลกไม่พินาศ คนเชื่อก็รอด คนไม่เชื่อก็รอด มีแต่ได้กับเสีย ไม่เห็นต้องกังวลไป ที่สำคัญคือ มันจะแตกปี 2012, 2112, 2212 หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ชีวิตของเราก็พร้อมจะตายได้ทุกวินาทีนับจากบัดนี้ได้ครับ จงใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ทำอะไรไตร่ตรองให้รอบคอบ หากตายไปกะทันหันจะได้ไม่ต้องมีอะไรค้างคา จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 20:42:57

ความคิดเห็นที่ 101 คห90 55555+ คิดได้ไง จากคุณ : grandmom เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 20:47:23

ความคิดเห็นที่ 102 เบื่อพวกเกรียน  อวดภูมิ  ดูถูกคนอื่น หยาบคาย  คงโดนบาทาใครเข้าไม่เกินปี 2012 นี้หรอก จากคุณ : เบื่ออออออออ (DLC) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 21:32:08

ความคิดเห็นที่ 103 555  ถ้าอยากเหยียบหน้า งั้นผมท้าบ้างดีกว่า ผมว่า 2012 โลกไม่แตก  ถ้าแตกมาเหยียบหน้าผมได้เลย จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 21:38:53

ความคิดเห็นที่ 104 คนไหนเกรียน จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 22:36:33

ความคิดเห็นที่ 105 คนเราก็มีโอกาสตายได้ทุกๆนาทีและครับ ถ้าประมาท จากคุณ : lightkung เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 23:18:11

ความคิดเห็นที่ 106 พอครับ อย่าดราม่าเพิ่มเล๊ยยยย  เด๋วเจ้าของกระทู้เค๊าน้อยใจนะเออ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 52 23:29:33 จากคุณ : ZZsassyZ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 52 23:27:50

ความคิดเห็นที่ 107 ขออนุญาตปรับปรุงเนื้อหาครับ #6 ผมถามอากู๋ ไปตามข้อมูลที่คุณนำมาแล้วครับ เพื่อจะหาต้นตอข้อมูลเก่า ปรากฎว่าเป็นที่สมาคมดาราศาสตร์ไทย สถานที่ฟูมฟักผมมากับมือ -  -* คาดว่าเป็นข้อมูลเก่าของทางสมาคมครับ ข้อมูลหลายปีแล้วด้วย น่าจะเก่าเกินกว่า 4 ปี ไว้ผมจะโทรเข้าไปแจ้งที่สมาคมอีกที planet X ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางแล้วครับ ว่าไม่ได้มีอยู่จริงๆ ปัจจุบันเป็นเพียงคำเรียกของดาวเคราะห์ที่อาจมีอยู่ในระยะที่ห่างออกไป เรื่องของ Kuiper Cliff หรือที่คุณบอกว่าบริเวณ 50 AU ซึ่งจริงๆแล้วคือ 48 AU ที่ว่า แม้ปัจจุบันจะยังไม่การพบดาวเคราะห์เอกซ์ แต่นักดาราศาสตร์หลายคนก็เชื่อว่าน่าจะมี หลักฐานหนึ่งที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องวงโคจรดาวเนปจูนที่ผิดปกติ (ซึ่งความจริงแล้วปกติ) แต่มาจากการกระจายตัวของวัตถุขนาดเล็กคล้ายดาวเคราะห์น้อยที่กระจายอยู่นอกวงโคจรของดาวเนปจูนหรือที่เรียกกันว่าวัตถุพ้นดาวเนปจูน นักดาราศาสตร์พบว่าที่ระยะประมาณ 50 หน่วยดาราศาสตร์ จำนวนของวัตถุเหล่านี้ได้ลดลงอย่างกระทันหัน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากอิทธิพลของวัตถุขนาดใหญ่โคจรอยู่นอกระยะนั้นออกไป เป็นไปได้ว่าวัตถุดวงนี้อาจมีขนาดใหญ่พอที่จะจัดว่าเป็นดาวเคราะห์ได้ นักดาราศาสตร์ได้คำนวณไว้ว่าดาวเคราะห์เอกซ์ดวงนี้น่าจะมีขนาดพอ ๆ กับโลกของเรา ปัจจุบันก็เชื่อมั่นแล้วว่าไม่มี น่าจะเป็นเพราะข้อมูลที่เรามีกับวัตถุในวงโคจรของดาวยูเรนัส (วงโคจรพวกนี้จะมีดาวเคราะห์น้อยอยู่ โคจรทำมุมคงที่กับดาวเคราะห์ในวงโคจรนั้น) ไม่สอดคล้องกับที่เราสำรวจพบ เป็นไปได้ว่าสิ่งนี้นี่เอง เป็นสาเหตุทีทำให้วัตถุในระยะนั้นซึ่งเป็นระยะของดาวพลูโต ได้หายไป อีกอย่างหนึ่งคือ วัตถุขนาดใหญ่เกือบเท่าโลก หรืออย่างน้อยๆก็มีขนาดราวๆครึ่งหนึ่งของโลก แต่กลับไม่ถูกค้นพบเลยในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถามว่าไกลออกไปจะมีดาวเคราะห์นอกระบบมีอีกไหม ? ตอบว่าอาจจะมี โดยปกติแล้วในระยะห่างเกิน 100 AU จากดวงอาทิตย์ออกไป ตามทฤษฎีแล้วจะไม่มีดาวเคราะห์ฟอร์มตัวขึ้น แต่เป็นไปได้ว่า จะมีดาวเคราะห์ขนาดพอๆหับโลก ถูกดาวเนปจูนเหวี่ยงออกไปจากวงโคจรในช่วงแรกๆของการกำเนิดสุริยะก็เป็นได้ เรื่องที่สอง การพยากรณ์ว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ หมายความนักวิทยาศาสตร์จะต้องเข้าใจกลไกการสลับขั้วแม่เหล็กดีพอสมควร หรือการสลับขั้วแม่เหล็กโลกในอดีตมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ได้ เช่นมีคาบแน่นอน หรือเกิดขึ้นในเวลาที่สอดคล้องกับเหตุการณ์อื่น แต่ปัจจุบันยังขาดทั้งสองอย่าง นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสนามแม่เหล็กโลกเกิดจากอะไร ไม่ทราบว่าสลับขั้วได้อย่างไร นักดาราศาสตร์ทราบนะครับ การเกิดของสนามแม่เหล็กนั้นเกิดจากหลักการที่เราเรียกว่า "ไดนาโม" การเคลื่อนที่ของวัตถุลึกลงไปจากพื้นผิวดาวครับ วัตถุร้อนเหล่านั้นได้แก่ แมกมา นั่นเอง ในแต่ละชั้นของแมกมา จะมีความหนืดไม่เท่ากัน เนื่องจาก ความดันและองค์ประกอบ เมื่อมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เท่ากัน ก็เกิดการเสียดสี สิ่งนี้เองที่เปลี่ยนให้โลกกลายเป็นแม่เหล็กขนาดยักษ์ สร้างสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมา ในดาวดวงอื่นก็เช่นกัน ดาวที่ภายในยังมีการ active หรือมีอันตรกริยาอยู่นั้น จะมีสนามแม่เหล็กอยู่คู่ด้วยเสมอ เช่นดาวพฤหัส ซึ่งมีความเร็วในการหมุนรอบตัวเองเร็วมาก เพียง 9 ชั่วโมง 55 นาที ขณะที่มันมีขนาดใหญ่ถึง 140,000 กิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าโลกถึง 12 เท่าแต่กลับหมุนรอบตัวเองเร็วกว่าโลกมากกว่าครึ่งหนึ่ง การเสียดสีของวัตถุภายในจึงเป็นไปอย่างรุนแรง สนามแม่เหล็กของดาวพฤหัสจึงมีความเข้มสูงมาก กลับกัน ดาวอังคาร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าภายในเย็นตัวลงและไม่ active แล้ว ดาวอังคารจึงไม่มีสนามแม่เหล็กและกลายเป็นดาวที่ตายแล้วอย่างในปัจจุบัน จากคุณ : pongpei เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 02:55:25

ความคิดเห็นที่ 108 ^ ^ ^ =  ="a พลาดครับ ลืม sign out login ของน้อง ข้างบนน่ะผมเองครับ จากคุณ : nOnG_WinZ (nOnG_WinZ) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 02:56:36

ความคิดเห็นที่ 109 เอางี้... ก่อนจะดร่าม่า (ร่างทรงของคำว่าด่า) กันไปมากกว่านี้ ...ไปดูเรื่องนี้กันมาหรือยังถึงจะมาถกกันกับหัวข้อความเป็นวิทยาศาสตร์กับกระแสนี้... ......ในหนังนะ... ในหนัง .... หนังไม่ได้เน้นไปตรงๆ กับการตื่นตูมปฏิทินมายาก่อน แต่หนังเล่นที่ประเด็นทางธรณีวิทยาก่อนค่อยไปเอะใจกับปฏิทิน (ไม่ใช่คำนาย)        ....เอาเท่าที่จับใจความจากในหนังนะ ......  หนังมันเอาเล่นกับสาเหตุหลักทางด้านฟิสิกส์เกี่ยวกับอนุภาคอะไรซักอย่าง (ข้าเจ้าจำชื่อไม่ได้ แต่พอรู้จักดีเพราะเป็นตัวที่น้องๆ ที่เรียนฟิสิกส์หรือเคมีมหา'ลัยสมัยนี้ได้เรียนกัน) ในหน่วยเล็กมันถูกกระตุ้น โดยมีปัจจัยใหญ่ๆ จากในอวกาศที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 2 รูปแบบคือ 1. พายุสุริยะที่เกิดการระเบิดใหญ่เป็นประวัติกาล (แต่น้อยกว่าเรื่อง Knowing เพื่อไม่ให้เนื้อเรื่องมาตีกัน เรื่องนั้นระเบิดเหมือนกัน แต่แรงจนเผาโลกได้) 2. การเรียงตัวของดวงดาวในระบบสุริยะที่บังเอิญลากเส้นผ่านได้พอดี ... ผลที่เกิดขึ้นในหนังคือ ..มันใช้ภาษาเชิงว่ากระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างอะตอม ส่งผลไปที่แกนโลกทำให้ลักษณะการไหลเวียนของของเหลวในแกนโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และมีการกระตุ้นสนามแม่เหล็กโลกให้ปั่นป่วน ....ผลสรุปแบบลัดๆ ที่หนังมันโม้คือ โลกจะเหมือนโดนอุ่นด้วยไมโครเวฟ จนเกิดการปะทุของลาวาจากภายในอย่างรุนแรง แล้วแผ่นดินที่เป็น Plate รอยเลื่อนจะโดนอุ่นจนลอย และแยกขึ้นจากเปลือกทวีปที่แข็ง หลังจากนั้นก็อาจจะเปลี่ยนตำแหน่งไปมากันรอบโลก... ประเด็นต่อมาทางวิทยาศาสตร์ที่หนังกล่าวถึงคือ ... เพราะเกิดการเรียงตัวของดวงดาว เลยทำให้ขั้วแม่เหล็กโลกปั่นป่วน จนเกิดการวางตัวสนามแม่เหล็กโลกใหม่ตรงกับแนวเส้นการเรียงตัวของดวงดาวที่ลากผ่าน ...ผลก็คือ ขั้วโลกใต้เลื่อนขึ้นมาอยู่ทวีปอเมริกาแถวๆ วิสคอนซิล (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ...และหลังคาโลกใหม่ จะได้ยอดเขาที่สูงที่สุดจากการยกตัวของทวีป (ซึ่งให้เดาก็น่าจะเป็นส่วนที่โดนกระตุ้นจากลาวาใต้ดินมากกว่าการปะทะของแผ่นทวีป ...มันเว่อร์มาก) ...ยอดเขาที่ว่าอยู่ในอเมริกาใต้หรือไงเนี่ย... ..... ส่วนไอ้ซึนามิ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่แผ่นดินระดับทวีปโดนกระตุ้นให้หลุดลอยขึ้นมา เมื่อมีการยกตัวระดับนั้น ก็ไม่แปลกที่จะเกิดการ Shift ของแนวใต้น้ำไปทั่วจนเกิดซึนามิแบบโคตรๆ ได้... แต่ก็นะ... มันยกจนเกิดคลื่นขนาดกิโลแมตรครึ่งวิ่งเข้าใส่แนวเขาหิมาลัยได้เนี่ย ... ลองกางแผนที่ดูแล้ววิเคราะห์ทางด้านธรณีวิทยากับภูมิศาสตร์กันดูก่อนละกันว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างไร ส่วนไอ้การระเบิดใหญ่ ... มันไม่ได้เกิดจากภูเขาไฟ แต่เกิดในเขตอุทยานแห่งชาติ เยลโล่สโตน ... อันนี้ข้าเจ้าไม่ได้อ่านประวัติทางด้านธรณีฯ ของพื้นที่นั้นมาก่อน ...ท่านอื่นลองไปหาอ่านแล้ววิเคราะห์ที ...แต่หนังก็พยายามสื่อให้เห็นว่า มันก็มีภูเขาไฟที่ทะลักจริงๆ นะ... คือ แผ่นดินรัฐฮาวายไง ตรงนั้นก็พอเข้าใจอยู่ว่ามีภูเขาไฟทรงทั่งอยู่แล้ว (ภูเขาไฟมีหลายแบบ ลองไปค้นดูว่าฮาวายมีรูปแบบไหนบ้าง)... แล้วถ้าไปดูในหนังจริงๆ ... นอกจากทฤษฎีที่พอกล้อมแกล้มให้คนครึ่งๆ กลางๆ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้คล้อยตามได้บ้าง ... คนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่องทางนี้เลยก็จะเกิดอาการหลงประเด็น ไปนึกว่าเป็นการทำนายของปฏิทินโบราณอยู่แล้ว จนละเลยประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่หนังพยายามสร้าง หรืออาจจะตามไม่ทันไปเลย แล้วก็คิดว่า "ไปดูเอา CG"... หนังพยายามโน้มน้าวคนดูกลุ่มนี้ด้วยศัพท์ง่ายๆ ว่า "โลกถูกเปลี่ยนให้เป็นเตาไมโครเวฟ" จนอุ่นของเหลวในเปลือกโลกให้เดือด แล้วเกิดการปะทะจนดันแผ่นทวีปให้ลอยตัวไปมา .... จขกท. เปิดประเด็นเรื่องความเชื่อเกี่ยวปีสิ้นโลก 2012 มาก่อน ...ข้าเจ้าไม่แน่ใจว่าได้ไปดูหนังหรือยัง แต่ก็ต้องขอบคุณที่อุตส่าห์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวทฤษฎีนี้มาแชร์กัน ... ห่วงแต่คนที่อยากจะดราม่า หรือมาแลกเปลี่ยนความคิดโดยเอาหนังเรื่องนี้มาถกด้วย... คุณไปดูหนังเรื่องนี้มาก่อนแล้วหรือยัง...? ไม่ได้เชียร์หนังนะฮะ ... แค่อยากบอกว่า มันอาจจะเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดออกไปได้  2 แนว ... แนวนึงคือแลกเปลี่ยนกันประเด็นความเชื่อที่ไม่ได้อิงตัวหนังเป็นหลัก ... มันจะไปคนอย่างกับที่ดูหนังมาแล้วมาแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงวิทยาศาสตร์ที่หนังแสดงให้เห็น... พอ Get กันมั้ยฮะ..? ถ้าจะเอาหนังเรื่องนี้มาถกกันให้เข้ากับหว้ากอแบบที่ไม่ต้องเกิดคำถาม "ลากให้เข้าให้ได้ว่ามันต้องเกี่ยวหว้ากอ" ... ก็ต้องไปดูมาก่อนแล้วดูปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หนังมันเสนอ ก่อนมาดูว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์แบบไหน เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ...มีปัจจัยอะไรส่งเสริมได้บ้าง... ไม่ใช่เอาความเชื่อหรืออะไรที่มันเลื่อนลอยฟอร์เวิร์ดเมลมานั่งดราม่าใส่กัน ... มันดูวุ่นวาย... รวมทั้งการเกิดการตั้งกระทู้จะเอาหว้ากอให้ได้แบบบางทีคนถามยังแยกไม่ออกว่าที่จะถามมันเป็นหว้ากอ สวนลุมฯ หรือไปๆ มาๆ มันไป ราชดำเนินซะฉิบ... เดี๋ยวนี้เข้าใจนะ ว่ามันยากที่จะแยกคำถามด้วยตัวเอง ขึ้นอยู่กับประสบการณ์หรือจริตของแต่ละคนที่จะตั้งกระทู้ ... ก่อนที่จะเกิดกระทู้เกลื่อนเมืองจนวุ่นวาย... อยากให้ตั้งสติกันนิดนึงว่าตัวเองเป็นแบบไหน...? - อยากรู้คำตอบแต่ไม่เข้าใจคำถามของตัวเอง - อยากรู้เฉยๆ ว่าคิดกันยังไง ซึ่งมันมีห้องเชิงนอกเรื่องหรือเฮฮาฯ จัดไว้แล้ว.. แบบว่าคุยไปเรื่อย ไม่รู้ว่าจะตั้งห้องไหน - อยากป่วนเอามัน...!!! (หวังว่าคงไม่ค่อยมีนะฮะ..) อย่างน้อย... ช่วยกันคิดซักนิดนึงก่อนที่กระทู้ดราม่าจะทำให้บรรยากาศห้องน่าเบื่อเอาได้... จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 05:38:23

ความคิดเห็นที่ 110 ยังไม่ได้ไปดูเลย จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 17:26:39

ความคิดเห็นที่ 111 ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้ อ่านแล้วสบายใจขึ้นนิดนึง แต่โดยส่วนตัวไม่ได้วิตกจริตอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆ ใครก็คงห้ามอะไรไม่ได้แล้ว ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าดีกว่าค่ะ การมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งดีนะคะ ^^ จากคุณ : noonaa_kade เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 17:55:19

ความคิดเห็นที่ 112 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆๆๆ สุดยอดกระทู้อีกกระทู้หนึ่งของหว้ากอเลยค่ะ.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 18:29:49

ความคิดเห็นที่ 113 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 19:29:56

ความคิดเห็นที่ 114 อ่านแล้วมึนปฏิทินมายา จังเลย  เรื่องอื่นพอเข้าใจ ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ค่ะ ^^ ไม่รู้เป็นยังไง ยิ่งอ่าน ยิ่งอยากไปดูหนัง ฮาๆ จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 19:48:05

ความคิดเห็นที่ 115 2012 = 2555 เป็นเรื่องที่คนไทยตลกมาก   จากคุณ : HamyLee     ......................................... ชอบอันเนี้ย ชอบๆ เข้ามาอ่านเอาความรู้คะ อ่านไปอ่านมาเริ่มดราม่า อารายเนี้ย (และแล้วก็หันไปเหยียบหน้าแฟน โทษฐานนอนท่ากวนโอ๊ย จากคุณ : Pimya_P เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 23:50:45

ความคิดเห็นที่ 116 รูปใน คห. 20 ผิดครับ จากคุณ : เขียวพันปี เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 01:09:11

ความคิดเห็นที่ 117 555 จากคุณ : -APEM เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 09:08:15

ความคิดเห็นที่ 118 อ้อ เข้าใจละ ไม่แปลกหรอก คนมันเก่ง แต่สันด_นเสีย แก้ไขไม่หายแล้วละ ถึงโลกไม่แตกปี 2012 แต่คาดว่าอาจมีบางคน ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้น ถูกปากของตัวเองฆ่าตัวเองตายซะก่อน จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 09:36:03

ความคิดเห็นที่ 119 สาระเต็มเปี่ยม เยี่ยมครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 10:35:14