 |
ความคิดเห็นที่ 78 |
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ กลับถึงสก็อตแลนด์และซ่อนตัวที่ฟาร์มของวิลเลียม ครอว์ฟอร์ดใกล้เอโควูด ฝ่ายอังกฤษได้ระแคะระคายจึงออกตามจับ แต่วอลเลซเอาตัวรอดได้หลายครั้งและถูกจับตัวได้ในที่สุดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 1848 โดยจอห์น เดอ เมนทีท อัศวินผู้จงรักภักดีต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด โดยจับตัววอลเลซมอบให้ทหารอังกฤษที่เมือง โรบรอยสตันใกล้กลาสโกว์และถูกส่งตัวไปลอนดอนถูกฟ้องในข้อหากบฏและฆ่าพลเรือนและนักโทษ วอลเลซกล่าวสู้คดีว่า "ข้าพเจ้า มิได้เป็นกบฏต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เป็นข้าแผ่นดินของพระองค์ พระเจ้าจอห์น บาลลิออล คือกษัตริย์ของข้าพเจ้า" และยืนยันไม่ยอมรับสารภาพ
ในวันที่ 23 สิงหาคม ปีเดียวกัน วอลเลซ ถูกเปลื้องผ้าในศาล ถูกม้าลากออกไปตามถนนในเมืองและถูกแขวนคอในลานเมืองสาธารณะที่ตลาดสมิทฟีลด์ (วิธีแขวนคอกบฎ ของอังกฤษโบราณด้วยวิธีเปลื้องผ้าใช้ม้าลากไปแขวนคอไม่ให้ถึงตายไปถึงกลาง ตลาดแล้วจึงหั่นอวัยวะออกที่ละชิ้นโดยเริ่มจากองคชาติแล้วเผาต่อหน้า เมื่อนักโทษตายจึงตัดคอและหั่นศพเป็น 4 ท่อนแล้วนำศีรษะไปทำไม่ให้เน่าเปื่อยก่อนนำไปปักประจาน- อังกฤษ: hanged, drawn and quartered) ศีรษะของวอลเลซถูกปักประจานที่สะพานลอนดอน ร่วมกับศีรษะของน้องชาย คือจอห์นและ ไซมอน ฟราเซีย ส่วนแขนขาของวอลเลซถูกแยกนำไปประจานที่นิวคาสเซิล เบอร์วิก สเตอร์ลิงและที่อาเบอร์ดีน
ดาบของวอลเลซถูกยึดไว้ที่ปราสาทลูดอนเป็นเวลานาน ปัจจุบันถูกนำไปจัดแสดงไว้ในพิพธภัณฑ์สถานแห่งชาติวอลเลซ ใกล้เมืองสเตอร์ลิง
จากคุณ |
:
Water Boy
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ธ.ค. 52 01:16:24
|
|
|
|
 |