ความคิดเห็นที่ 1 . . อพยพย้ายถิ่น (migration) การอพยพย้ายถิ่นเป็นวิธีหนึ่งค่ะ ที่สัตว์หลายชนิดใช้ในการหลบเลี่ยงภัยหนาวเย็นที่มาเยือน ปลาบางชนิดว่ายน้ำจากกระแสน้ำเย็นไปยังกระแสน้ำที่อุ่นกว่า นก แมลง บินเป็นระยะทางหลายพันไมล์ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดก็มีการอพยพย้ายถิ่นกับเขาด้วย เช่น เจ้ากวาง Caribou แห่งยูค่อน (Yukon) ในแคนาดา ที่อพยพข้ามธารน้ำแข็งเป็นระยะทางกว่า 700 ไมล์ลงใต้เพื่อหนีภัยหนาว การอพยพของสัตว์เป็นสิ่งซึ่งน่ามหัศจรรย์มากนะคะ.. สัญญาณอะไรที่จะเป็นตัวบอกว่า “ถึงเวลาเดินทางไกลกันแล้ว เตรียมตัวได้” อะไรทำให้เหล่าสรรพสัตว์เหล่านี้เดินทางข้ามเขา ข้ามฟ้า ข้ามทะเล ข้ามทวีปมาไกลถึงเป็นพันพันไมล์กันเลยทีเดียว อะไรที่บ่งบอกว่า ณ.ดินแดนที่กำลังจะเดินทางไปนี้มีอากาศดีกว่าที่นี่ และอะไรที่ทำให้สัตว์เหล่านี้เดินทางกลับมาที่เดิมทุกครั้งทุกปี ในฤดูกาลนี้ สัญชาตญาณ แต่เพียงอย่างเดียวหรือ.. มีการศึกษาเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวางมากค่ะ พบว่านอกจากสัญชาติญาณ และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายนอกแล้ว ยังมีปัจจัยภายในตัวของสัตว์เองอีกที่ส่งสัญญาณว่าถึงเวลาจะอพยพกันแล้ว... เช่นในการศึกษาการอพยพของนกบางชนิด นักวิทยาศาสตร์พบว่าก่อนมีการอพยพคือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต่อม Hypothalamus จะหลั่งสารเคมีบางชนิดออกมากระตุ้นให้นกเกิดความอยากกินอาหารมากกว่าปกติ นกจะเริ่มตั้งต้นกิน กิน แล้วก็กิน กินมากเดิมถึงกว่า 40% ทีเดียว และกินติดต่อกันไปเป็นเวลาเกือบ 2 อาทิตย์ (อยากเป็นนกขึ้นมาเลยเชียวนะคะเนี่ย..) แล้วนกกินเยอะแยะแบบนี้ไปทำไม ที่นกกินเยอะแยะขนาดนี้ก็เพื่อจะเอาอาหารส่วนเกินที่กินเข้าไปนั้นไปแปรรูปเป็นไขมัน เก็บไว้ใต้ผิวหนัง ที่กล้ามเนื้อปีก และ ที่ช่องท้อง เพื่อใช้เป็นพลังงานในการที่จะต้องบินข้ามเขาข้ามทวีปในตอนอพยพนั่นเองหล่ะค่ะ... ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เป็นตัวส่งสัญญาณเพื่อเตรียมการอพยพของเหล่าสรรพสัตว์เหล่านี้ แต่จขกท. ก็ยังค้นไม่หมดเลย..สารภาพเจ้าค่ะ (ไว้วันหลังเอามาเล่าให้ฟังกันใหม่นะคะ แอบแปะไว้ก่อน ) ว่าแล้วก็ไปดูการอพยพย้ายถิ่นที่น่าสนใจกันดีกว่าค่ะ... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 20:53:01

ความคิดเห็นที่ 2 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : นายสีซอ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 20:54:54

ความคิดเห็นที่ 3 . . นกนางนวล (Gull) .......นกนางนวล จัดเป็นนกน้ำในวงศ์ Laridae เป็นนกที่สวยงามบินหาอาหารอยู่เหนือผิวน้ำ ตามชายฝั่งทะเล และแม่น้ำใหญ่ๆ  กินพวก แมลงบางชนิด ปลา ปู หอย  รวมไปถึงเมล็ดและยอดอ่อนของพืชด้วยค่ะ .......ถิ่นกำเนิดจริงจริงของเจ้านกนี้ โดยมากมักอยู่ในแถบอากาศหนาวเย็น เช่นแถบทางเหนือของเนปาล  มองโกเลีย ทะเลสาบบนเทือกเขาปามีร์ ในประเทศทาจิกิสถาน ทิเบตรวมถึงทางตอนเหนือของอินเดีย .......แต่เมื่อเข้าฤดูหนาว ในราวเดือนตุลาคม พฤศจิกายน นกนางนวลฝูงใหญ่เหล่านี้กลับเตรียมตัวเดินทางไกล จากบ้านเกิดเมืองนอนไปหลายพันไมล์กันเลยทีเดียวนะคะ เขาไปไหนกัน... นกนางนวลกำลังบินลงใต้ค่ะ .......บินลงมาตามแนวชายฝั่งทะเล ตั้งแต่แถบประเทศอาหรับ อินเดีย ศรีลังกา  จนถึง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยของเรานี่ด้วยหล่ะค่ะ นกจะบินข้ามน้ำข้ามทะเลเป็นระยะทางหลายไมล์ ฝ่าอากาศที่หนาวเย็นเพื่อมาหาความอบอุ่น อาหาร หรือแม้แต่อาจมาหาคู่กันด้วยนะคะ .......บางปู สมุทรปราการของประเทศเราถือเป็นแหล่งสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่นกนางนวลอพยพหนีหนาวจากแดนไกล เข้ามาอาบแดดพักผ่อนค่ะ ไม่ว่าจะเป็น พวกนกนางนวลใหญ่ เช่น นกนางนวลธรรมดา (Brown-headed Gull)  นกนางนวลขอบปีกขาว (Black-headed Gull) หรือจะเป็นนกนางนวลหายากเช่น นกนางนวลหางดำ (Black-tailed Gull) นางนวลหลังดำพันธุ์รัสเซีย(Heuglin's Gull) ก็ยังพบได้ที่บางปูของเรานะคะ .......เจ้านกที่บินมาตากอากาศนี้ก็จะมีทั้งนกวัยละอ่อนที่ยังโตไม่เต็มที่ และนกที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวแล้ว .......การจะแยกว่านกนางนวลตัวใดวัยละอ่อนหรือตัวเต็มวัยนั้น ก็มีหลายหลายจุดให้สังเกตค่ะ ซึ่งถามพี่พี่ที่เป็นนักดูนกมายังบอกว่า ยากส์..มากๆๆ ค่ะ นั่งดูลักษณะกันตาปวดเลยทีเดียว..แต่โดยทั่วไปก็มักจะสังเกตจากสีที่ปลายปีก ปลายหาง หรือแม้แต่สีจากปลายปาก รวมไปถึงชุดขนที่จะผลัดกันด้วย .......ครั้นพอเข้าสู่หน้าร้อน ราวเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ฤดูกาลท่องเที่ยวหาอาหารก็จะจบลง เหล่าเจ้านกน้อยเหล่านี้ก็จะเริ่มบินเกือบ 3000 ไมล์ (ไกลมากๆ นะคะ) กลับไปยังถิ่นกำเนิด  เพื่อผสมพันธ์ทำรังวางไข่ โดยจะวางไข่ครั้งละ2-3ฟอง   ในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม ใช้เวลาฟักราวราว 20วัน เมื่อลูกนกอายุได้ประมาณ 1 เดือนก็จะเริ่มหัดบิน จากนั้นเมื่อความหนาวเย็นมาเยือนก็จะเริ่มตั้งต้นบินย้ายถิ่นกันอีกครั้งเป็นเช่นนี้ไปปีแล้วปีเล่า..ตลอดไป สายลม ระยะทางที่แสนไกล ก็ไม่อาจต้านแรงกายแรงใจ ที่จะดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ น่าอัศจรรย์จริงจริงใช่ไหมคะ.. ที่มาภาพ ขอบคุณภาพสวยสวยจากฝีมือถ่ายภาพของพี่ freefeel  ค่ะ จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 20:55:31

ความคิดเห็นที่ 4 . . ภาพ นกนางนวลธรรมดา (Brown-headed Gull) ค่ะ.. นกนางนวลชนิดนี้พบได้มากที่สุด เยอะที่สุด เรียกได้ว่าเป็นเจ้าถิ่นของบางปูกันเลยทีเดียวค่ะ ลักษณะเด่นเด่นก็คือในตอนที่ยังเป็นนกในขวบปีแรกแรก หัวจะเป็นสีน้ำตาลค่ะ แต่พอเข้าสู่วัยเจริญพันธ์ สีน้ำตาลที่หัวก็จะจางหายไป สีดำที่ปลายหางก็จะหายไปด้วย เป็นนกที่มีดวงตาใส มองแล้วเพลินตาเพลินใจมากเลยนะคะ ในภาพนี้จากที่ได้สอบถามข้อมูลมา เป็นนกหนุ่มสาวแล้วนะคะ สังเกตได้ว่า ปลายหางจะไม่มีสีดำแต้มอยู่แล้ว... ขอบคุณภาพจากพี่ freefeel  เช่นเดิมค่ะ.. จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 20:58:02

ความคิดเห็นที่ 5 . . ภาพเส้นทางการอพยพของเจ้านกนางนวลแสนสวยพวกนี้ค่ะ.. ลูกศรสีแดง คือ เส้นทางอพยพที่เจ้านกนางนวลบินข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาในบ้านเราค่ะ (เส้นทางอพยพสายเอเชียตะวันออก) พื้นที่สีม่วง คือ ถิ่นทำรังวางไข่ของนกนางนวลขอบปีกขาว (Black-headed Gull) วงกลมเขียว คือ พื้นที่ทำรังวางไข่ของนกนางนวลธรรมดา (Brown-headed Gull) ที่มาภาพ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=521484 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 20:59:42

ความคิดเห็นที่ 6 ... ลงชื่อ .. จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:00:10

ความคิดเห็นที่ 7 . . ผีเสื้อ Monarch (Monarch butterfly) .......ผีเสื้อ Monarch เป็นผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อขาหน้าพู่ (Family : Nymphalidae) สกุล(Genus) Danaus ซึ่งเป็นผีเสื้อที่สะสมพิษไว้ในตัวเอง เพราะเมื่อเป็นตัวหนอนนั้นมันกินใบพืชที่มีพิษค่ะ .......เจ้าผีเสื้อชนิดนี้วางไข่บนใบของต้นของพืชหลายชนิดที่มียางน้ำสีขาว ไม่ว่าจะเป็นไม้ในวงศ์ดอกรัก (Family Asclepiadaceae) เช่นต้น Common Milkweed  ไม้ในวงศ์ลั่นทม (Family Apocynaceae) เช่นต้น Indian Hemp เป็นต้น .......หนอนผีเสื้อก็จะกินใบไม้ของต้นเหล่านี้ ซึ่งเป็นพืชมีพิษ พิษจากน้ำยางสีขาวเหมือนน้ำนมนั้นสามารถฆ่าสัตว์ขนาดเล็กได้เลยนะคะ แล้วพิษนี้ก็จะสะสมไว้ในตัวของเจ้าหนอนนี้ นกหรือศัตรูไม่รู้มากินเจ้าตัวหนอนเข้าไปก็อันตรายเชียวค่ะ .......ผีเสื้อ Monarch ไม่พบในประเทศไทยหรอกนะคะ เพราะถิ่นกำเนิดเขาอยู่แถบอเมริกาเหนือโน่นเชียวค่ะ เป็นผีเสื้อที่มีความมหัศจรรย์มากมาก เพราะเขาสามารถบินข้ามเทือกเขาเป็นระยะทางหลายพันไมล์เพื่อหลบหนีความหนาวเย็นไปสู่เขตที่อบอุ่นกว่า.....เพื่อเริ่มต้นวงจรชีวิตใหม่ .......ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงย่างเข้าฤดูหนาว ประมาณเดือนกันยายน อากาศทางแถบอเมริกาเหนือจะหนาวเย็นมาก  ฝูงผีเสื้อ Monarch นับหมื่นนับแสนตัวจะพากันบินด้วยความเร็วประมาณ 45 กม./ชม. ที่ระดับความสูง 1.5 กม.เลยทีเดียวนะคะ (เคยมีรายงานว่านักบินเจอเจ้าฝูงผีเสื้อนี้ขณะบินด้วย..โอ้วว ) .......ผีเสื้อเหล่านี้บินไปไหน คำตอบคือ บินไปหาความอบอุ่น ไกลถึงข้ามประเทศกันเลยทีเดียวค่ะ พวกที่อาศัยอยู่ทางตอนกลางและฝั่งตะวันออกของอเมริกา ส่วนหนึ่งอพยพไปแถวชายหาดมลรัฐฟลอริดา ในขณะที่อีกพวกหนึ่งข้ามชายแดนไปไกลถึงตอนล่างของเม็กซิโกโน่นเลยค่ะ .......ส่วนผีเสื้อที่เคยอาศัยอยู่แถบเชิงเขาร็อกกี้ก็จะบินข้ามเขาฝ่าความหนาวเย็นมายังชายฝั่งตะวันตกในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มวงจรชีวิตอีกรุ่นหนึ่งริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก .......เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ในราวเดือนมีนาคม อากาศทางด้านอเมริกาหนือเริ่มอบอุ่นขึ้น ผีเสื้อ Monarch รุ่นต่อไปก็จะเริ่มบินกลับไปยังที่ที่บรรพบุรุษได้อพยพหลบภัยลงมา เป็นเช่นนี้ไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า..... เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้ให้เราค่ะ... ที่มาภาพ http://static.panoramio.com/photos/original/5636951.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:00:41

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมภาพเลยนะคะนะ.. จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:01:25

ความคิดเห็นที่ 9 . . ภาพหนอนผีเสื้อ Monarch กับผีเสื้อตัวเต็มวัย  ค่ะ ที่มาภาพจาก http://coyotescall.files.wordpress.com/2009/09/monarch_butterfly_0101.jpg http://en.wikipedia.org/wiki/File:Monarch_Butterfly_Danaus_plexippus_Vertical_Caterpillar_2000px.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:02:49

ความคิดเห็นที่ 10 . . ภาพเจ้าผีเสื้อกำลังออกจากดักแด้ สวยจังเลยนะคะ.. ที่มาภาพจาก http://www.scienceprojectlab.com/image-files/monarch-butterfly-born.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:03:47

ความคิดเห็นที่ 11 . . มีคลิปวีดีโอให้ดูด้วยค่ะ..ตอนเจ้าผีเสื้อกำลังออกจากดักแด้ สวยมากมากค่ะ.. จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:04:38

ความคิดเห็นที่ 12 . . ภาพวงชีวิตของเจ้าผีเสื้อ Monarch ค่ะ.. ที่มาภาพ http://www.answersingenesis.org/assets/images/articles/am/v3/n2/monarch-life-cycle-large.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:05:23

ความคิดเห็นที่ 13 . . เส้นทางการอพยพของเหล่าผีเสื้อ Monarch และวงจรชีวิตของเธอเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์มากมากค่ะ. ผีเสื้อ Monarch จะเริ่มต้นบินอพยพออกมาจากความหนาวเย็นของอเมริกาในราวเดือนกันยา-ตุลาของทุกปี เข้าสู่เม็กซิโก หรือชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในทางตอนใต้ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วเข้าสู่ระยะพักตัวชั่วระยะเวลาหนึ่ง.. ในราวเดือนกุมพาพันธ์ เจ้าผีเสื้อแสนสวยเหล่านี้จึงจะตื่นจากอากาศหลับใหล เริ่มต้นเริงร่า จับคู่วางไข่ แล้วก็จะตาย พอถึงเดือนมีนาคม ผีเสื้อ Monarch รุ่นแรกจะถือกำเนิดขึ้น เมื่อเริ่มฤดูใบไม้ผลิผีเสื้อรุ่นแรกจะบินจากเม็กซิโกกลับขึ้นทางเหนือสู่อเมริกาถิ่นกำเนิด ในช่วงที่บินกลับนี้เหล่าผีเสื้อในรุ่นที่ 1 นี้จะบินไปวางไข่และตายที่แถวมลรัฐเท็กซัส (Texas) ให้กำเนิดผีเสื้อในรุ่นที่ 2 ในราวเดือนพฤษภาถึงมิถุนายน ผีเสื้อในรุ่นที่สองนี้ จะไปทิ้งร่างวางไข่อีกครั้งในราวเดือนกรกฎาคม แถวบริเวณทะเลสาบ Superior เกิดเป็นผีเสื้อในรุ่นที่ 3 ผีเสื้อในรุ่นที่ 3 จะบินออกจากทะเลสาบกลับไปยังอเมริกาให้กำเนิดผีเสื้อรุ่นที่ 4 ในราวเดือนกันยายนที่บ้านเกิดเมืองนอน ผีเสื้อรุ่นที่ 4 นี้จะไม่ตายค่ะ รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่อพยพหนีหนาวลงมายังตอนใต้เข้าสู่เม็กซิโกนั่นเองค่ะ เป็นวัฎจักรการบินเช่นนี้ทุกปีไป ไม่มีวันสิ้นสุด.... ภาพเส้นทางการบินอพยพของผีเสื้อ  Monarch ค่ะ.. ที่มาภาพจาก http://www.fs.fed.us/monarchbutterfly/migration/images/fallmigrationmap.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:07:03

ความคิดเห็นที่ 14 มาถึงการหลบหนาวอีกแบบหนึ่งกันบ้างค่ะ.. . . การจำศีล (Hibernation) การจำศีลเป็นอีกหนทางหนึ่งในการช่วยให้สัตว์ผ่านช่วงเวลาอันหนาวเย็นทรมานนั้นมาได้ค่ะ.. การจำศีลที่แท้จริงนั้น(true hibernators) สัตว์จะทำโดยขุดโพรง หรือหลุม หาที่ซ่อนในช่วงฤดูหนาว ร่างกายจะมีการเผาผลาญ (metabolism) ลดลงมาเรื่อยเรื่อยจนในที่สุดก็คงที่ อุณหภูมิและอัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ร่างกายจะมีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุด  บางชนิดถึงกับหยุดหายใจ แล้วหลับลึกไปเลยค่ะ การจำศีลของสัตว์แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดค่ะ เต่า และ ปลาบางชนิดจะลงไปหมกฝังตัวอยู่ในโคลน ทราย ก้นทะเลหรือก้นแม่น้ำ กบบางชนิดเช่น กบ spring peeper (Hyla crucifer)  จำศีลในร่องของท่อนไม้ หรือซอกหินท่ามกลางความหนาวเย็นจนมีเกล็ดน้ำแข็งจับตัวไปทั่วร่างกาย แต่เจ้ากบก็ยังไม่ตายค่ะเพราะร่างกายมีกลไกลปรับตัวป้องกันการแช่แข็งไว้อย่างดี กบจะหยุดหายใจไปเลยค่ะ แต่พออากาศอุ่นขึ้น หัวใจและปอดก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ลั้ลลาได้ตามปกติ..โอ้วว มหัศจรรย์... แมลงก็เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งค่ะที่มีการพักตัวจำศีล แมลงบางชนิดหลบหนาวภายใต้เปลือกของต้นไม้ แมลงในเขตหนาวบางชนิดมีการพักตัว (diapause) ในระยะหนึ่งของวงชีวิต เช่นหนอนผีเสื้อบางชนิดจะพักนิ่งไม่กินอาหารและไม่เข้าดักแด้ด้วย คือไม่ ไม่ และไม่ทำอะไรเลย (อิจฉาจัง..) เป็นเวลานานหลายสัปดาห์หรืออาจจะถึงหลายเดือน กว่าจะเข้าดักแด้ แล้วรอจนกว่าจะเข้าฤดูใบไม้ผลิวงจรชีวิตจึงจะเริ่มต้นอีกครั้งค่ะ สัตว์ในตระกูลฟันแทะหลายชนิดในเขตหนาวก็จำศีลเหมือนกันค่ะ ไปรู้จักเจ้าสัตว์เหล่านี้กันดีกว่าค่ะ.. จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:09:31

ความคิดเห็นที่ 15 . . เเพร์รี่ด็อก (Prairie dog) .......เจ้า prairie dog ( Cynomys spp.) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมค่ะ อยู่ในวงศ์  Sciuridae (วงศ์เดียวกับกระรอกบ้านเรานั่นเองค่ะ.. แต่แอบชื่อเหมือนสุนัขนะเนี่ย) .......ในบ้านเราไม่เจอเขาในธรรมชาติหรอกนะคะ เพราะเขาไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของเราค่ะ ถิ่นอาศัยเขาอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ แถวแถวเม็กซิโก แคนาดา นั่นหล่ะค่ะ.. แต่ตอนนี้ผู้ที่นิยมเลี้ยงสัตว์แปลกๆ สัตว์นำเข้า ก็มีการนำ prairie dog มาเลี้ยงกันในบ้านเราเหมือนกันนะคะ .......prairie dog มีขนสีน้ำตาลอมเทา ตาโต เล็บยาว หางสั้น ตัวก็ไม่ใหญ่ไม่โต ยาวแค่ 30-40 ซม.  น้ำหนักประมาณกิโลกว่ากว่าเองค่ะ (ตัวเท่าชิวาวาตัวเล็กเล็กเลย....)   .......นิสัยปราดเปรียว รวดเร็ว และเป็นสัตว์สังคมอีกชนิดหนึ่งที่มีการแบ่งวรรณะ และหน้าที่กันค่อนข้างชัดเจน ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงในบริเวณทุ่งหญ้า ออกหากินเวลากลางวันชอบกินพวกหญ้า ยอดอ่อนของต้นไม้ แล้วก็สัตว์ตัวเล็กเล็ก เวลาตัวอื่นๆออกไปหาอาหาร ก็จะมีเจ้าตัวที่ทำหน้าที่เป็นยามออกมายืน 2 ขาคอยเฝ้ามองศัตรูเช่น นกเหยี่ยว หรือตัว Black-Footed Ferret ศัตรูตัวฉกาจ แล้วก็คอยส่งสัญญาณเตือนบอกพรรคพวกครอบครัวในฝูงให้รู้  น่าทึ่งเลยใช่ไหมค่ะ .......พอตกกลางคืนก็เข้าไปอยู่ในโพรงที่ขุดไว้เป็นทางเชื่อมต่อกันใต้ดิน โพรงของ prairie dog จะน่ามหัศจรรย์มาก เป็นทางสลับซับซ้อนยาวเป็นใยแมงมุมอยู่ใต้ดิน หลายครั้งจึงทำให้ทำลายชั้นดินและพืชผลทางการเกษตรไป ในบางประเทศจึงต้องมีการกำจัดเจ้า prairie dog อยู่บ้าง (แอบสงสาร) .......ในฤดูหนาวประมาณเดือนตุลาคม prairie dog จะเข้าสู่ภาวะจำศีลค่ะ วันทั้งวันจะเอาแต่นอนแทบไม่เคลื่อนไหวร่างกายเลย อุณหภูมิร่างกายจะลดลงหัวใจเต้นอ่อนมาก ไม่กินอาหารและน้ำใดใด เหมือนไร้ชีวิตเอามือไปแตะก็คงไม่ขยับนะคะเวลานั้น.. จนถึงประมาณเดือนมีนาหรือเมษา จึงจะออกจากภาวะจำศีล. แต่มี prairie dog บางชนิดเช่น black-tailed prairie dog ไม่เข้าไปจำศีลเหมือนกับชนิดอื่นๆค่ะ แปลกพวกนะเนี่ย.. เวลาเจ้า prairie dog ตกใจเขาจะเห่าเหมือนเสียงสุนัขเลยค่ะ (มิน่า ถึงชื่อ prairie dog).. ที่มารูปภาพ.. http://home.comcast.net/~epollak/prairie-dog-rapture.jpg http://www.southdacola.com/blog/wp-content/uploads/2009/01/prairie-dog.jpg http://www.funnychill.com/files/cool-pictures/prairie-dog-kiss.jpg แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 08:51:36 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:12:05

ความคิดเห็นที่ 16 . . มาร์มอต (Marmot) .......มาร์มอต เป็นสัตว์ฟันแทะวงศ์เดียวกับเจ้า prairie dog ค่ะ คือพวกวงศ์กระรอก (Family Sciuridae) แต่มาร์มอตตัวใหญ่กว่ามากมาก เช่นเจ้า  Alpine Marmot  มีน้ำหนักได้ถึง 8 กก. ตัวยาวได้เกือบ 60 ซม. เชียวค่ะ Marmot มีหลากหลายสปีชีส์ค่ะ กระจัดกระจายตามแหล่งที่อาศัยเลย .......Marmot ชอบอาศัยอยู่แถบภูเขาสูง อากาศหนาว จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Mountain Mouse" หรือ หนูภูเขา  พบพวกเขาได้ค่ะที่ แถบเขตภูเขาแอลป์ส  ทางเหนือของเทือกเขา Apennines หรือ แถวเทือกเขาร็อคกี้ในอเมริกา  ในทวีปเอเชียก็พบได้ในประเทศปากีสถาน เทือกเขาหิมาลัย แถบเมือง Ladakh ในประเทศอินเดีย ไม่พบในบ้านเราเหมือนกันค่ะ.. .......marmot ชอบวิ่งเล่นบนพื้นดิน กินพวกหญ้า, ลูกไม้, ไลเคน, มอส, รากไม้ และดอกไม้  เป็นสัตว์หากินกลางวันและขุดโพรงอยู่เหมือนกับเจ้าญาติสนิท prairie dog นั่นหล่ะคะ เป็นสัตว์สังคมเหมือนกัน แต่โพรงที่อยู่อาศัยนั้นไม่สลับซับซ้อนและมหัศจรรย์เท่า .......เวลาตกใจ หรืออยากสื่อสารกับฝูง ก็มักจะใช้เสียงเล็กๆ แหลมๆ เหมือนกับเสียงนกหวีดหวีดวิ้ว บอกกันให้รู้ แล้วเสียงนั้นก็จะยิ่งเล็กแหลมและดังยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ เมื่อตกใจสุดขีด หรือเตือนว่ามีภัยหรือศัตรูกำลังใกล้เข้ามาในฝูง .......ในช่วงประมาณเดือนกันยายนถึงเดือนเมษายน มาร์มอตจะเริ่มเข้าสู่ภาวะจำศีล คือจะเข้าไปอยู่ในโพรงใต้ดินซึ่งอาจลึกได้ถึง 4 เมตร โดยไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว .......จนกว่าจะเข้าฤดูร้อน ถึงจะออกมาวิ่งเล่นเริงร่า บนพื้นดินอีกครั้ง  จากนั้นก็จะผสมพันธ์ออกลูกออกหลาน หมุนเวียนเปลี่ยนไปแบบนี้ หลายครั้งที่เข้าฤดูหนาวแล้วแม่มาร์มอตยังเพิ่งคลอดลูกใหม่ๆ แม่ก็จะกกกอดลูกไว้แล้วพาไปจำศีลหลบหนาวพร้อมพร้อมกันเลยค่ะ... ที่มารูปภาพ. http://www.taiga.net/yourYukon/col306_1.jpg http://img.kapook.com/image/health/marmot1.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:13:51

ความคิดเห็นที่ 17 หอมกลิ่นดอกไม้หน้าหนาว....อยากบินได้แบบนกนางนวลจัง.. จากคุณ : เขิน เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:15:35

ความคิดเห็นที่ 18 . . อีคิดนา (Echidna) .......Echidna  หรือเจ้า ตัวกินมดหนาม (Spiky Anteater) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกชนิดหนึ่งนอกจากตุ่นปากเป็ด (Platypus) ที่ออกลูกเป็นไข่ค่ะ..อยู่ในอันดับ (Order) เดียวกันด้วย แต่คนละวงศ์ (Family) กัน โดย Echidna อยู่ในวงศ์ Tachyglossidae .......Echidna เป็นสัตว์ท้องถิ่นของออสเตรเลีย (สัตว์แปลกแปลกอยู่ออสเตรเลียเยอะมากเลยนะคะ ...) แต่ก็ยังพบได้ในนิวกินี แทสมาเนียอีกด้วย แต่เป็นคนละสกุลกันค่ะ .......รูปร่างคล้ายเม่น มีขนหยาบ และขนหนาม (spine) ปกคลุม (บางชนิดเช่น Tasmanian Echidna มีขนหยาบยาวจนแทบมองไม่เห็นขนหนามเลย) จมูกเรียวยาวยื่นออกมาโดดเด่นมาก มีอุ้งเท้าแข็งแรงสามารถขุดดินได้เก่งมาก ในปากไม่มีฟันแต่สามารถใช้ลิ้นเหนียวๆ กวาดอาหารเช่น พวก ปลวก มด และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังตัวเล็กเล็ก จากนั้นก็ใช้สิ้นบดอาหารกับเพดานปากแล้วถึงจะกลืนลงไป โห้..พยายามมาก... นอกจากขุดดินเก่งแล้ว เขายังว่ายน้ำเก่งอีกด้วยนะคะ...เก่งจัง .......Echidna ไม่ใช่สัตว์สังคมค่ะ เขารักสันโดษชอบอยู่ตามลำพัง ด้วยขนหนามที่ปกคลุมทั่วตัว และหูไว ตาไว จึงมีศัตรูทางธรรมชาติไม่กี่ชนิดเช่น หมาป่าดิงโก แต่ Echidna กลับมีจำนวนลดลงทุกทีโดยสาเหตุหลักหลักคือมนุษย์เรานี่เอง เรารุกล้ำพื้นที่อยู่อาศัยของเขา และในนิวกินีก็ถึงกับล่าเป็นอาหารอีกด้วย มนุษย์นี่น่ากลัวกว่าใครเลยนะคะเนี่ย... .......เมื่อถึงฤดูผสมพันธ์ คือในช่วงฤดูหนาว Echidna จะเริ่มจับคู่กัน จากนั้นตัวเมียจะวางไข่นิ่มนิ่มมา 1 ฟอง แล้วก็จะเอาไข่ใส่ไว้ในถุงหน้าท้องคล้ายจิงโจ้  ฟักไข่จนเป็นตัวอ่อนภายในถุงหน้าท้องนั้นค่ะ ในถุงหน้าท้องก็จะมีท่อที่ให้น้ำนมสำหรับลูกน้อย จนลูกน้อยอายุได้ซักเดือนกว่าๆ ขนหนามเริ่มจะขึ้น แม่ก็จะขุดโพรง เอาเจ้าเบบี้อีคิคนา นี้ไปใส่ไว้ในโพรงแล้วก็คอยหาอาหารมาให้จนกว่าลูกจะโตพอ.... .......เมื่อหิมะตก อุณหภูมิลดต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส Echidna จะเริ่มเข้าสู่สภาวะจำศีล โดยขุดโพรงลึกลงไปในชั้นหิมะ หรือในชั้นดิน ร่างกายจะไม่เคลื่อนไหว  metabolism จะลดลง หัวใจจะเต้นช้าลง เป็นระยะเวลาสั้นสั้นประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ ถึงแม้หลังจะปกคลุมไปด้วยขนหนาม แต่ด้านท้องกับอ่อนนุ่ม และถือเป็นจุดอ่อนที่สุดของเจ้า Echidna นี้เลยนะคะ .. ดูภาพแล้ว บอกไม่ถูกว่าน่ารักหรือเปล่าเลยนะคะ... ที่มารูปภาพ http://www.oceanwideimages.com/images/10590/large/24T5029-18D-short-beaked-echidna.jpg http://deography.com/images/echidna.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:15:58

ความคิดเห็นที่ 19 โพสซ้ำเลย...ต้องขอโทษนะคะนะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:18:19 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:16:27

ความคิดเห็นที่ 20 . . ปิดท้ายเรื่องการจำศีล ด้วยภาพของเจ้ากบ spring peeper (Hyla crucifer) กบตัวน้อยในแถบตะวันออกของอเมริกาและแคนาดา ผู้สามารถแช่แข็งตัวเองในฤดูหนาวได้ค่ะ... น่ารักใช่ไหมหล่ะคะ.... ที่มาภาพ http://k53.pbase.com/o4/88/688888/1/65503870.jRqbwVlT.IMGP7505copy.jpg จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:20:11

ความคิดเห็นที่ 21 . . หลายครั้งสัตว์บางชนิดทำพฤติกรรมคล้าย hibernation ค่ะ คือยังคงซุกซ่อนตัวจำศีลในฤดูหนาวอันยาวนาน แต่อุณหภูมิในร่างกายไม่ได้ลดต่ำลงมากนัก อัตราการเต้นของหัวใจและการเผาผลาญแทบไม่ได้ลดลง หรือหยุดนิ่งเหมือนกับพวก กบ หรือพวกสัตว์ที่มีการจำศีลแบบแท้จริงค่ะ... หมีสีน้ำตาลก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ เข้าสู่ภาวะคล้ายคล้ายการจำศีล แต่ไม่ใช่ค่ะ.. งู  Garter snakes ในแถบอเมริกาเหนือ หลบหนีภัยหนาวไปอยู่ในโพรง หรือในซอกหิน ทับทมกันหลายตัวบางทีอาจถึง 100 ตัว พฤติกรรมคล้ายคล้ายการจำศีล  เพื่อให้ร่างการเสียดสีให้ไออุ่นซึ่งกันและกัน จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิโน่นหล่ะค่ะ เจ้างูถึงจะออกจากโพรงกันอีกครั้ง คำเตือน...ผู้ไม่ชอบงูเหมือนกับ จขกท. โปรดลากผ่านภาพนี้ไปโดยไวค่ะ...เง้ออ ที่มาภาพจาก http://cas.bellarmine.edu/tietjen/AnimalDiversity/garter02.gif จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:21:08

ความคิดเห็นที่ 22 . . จบเรื่องความหนาวเย็นของลมหนาว ด้วยกลิ่นหอมหอมค่ะ (เอ..หรือว่าอาจจะฉุนสำหรับบางท่าน) กลิ่นที่มักจะโชยมาบอกให้เราได้รู้สึกว่า นี่หล่ะ...เข้าหน้าหนาวแล้ว ทายซิคะว่ากลิ่นของลมหนาวที่โชยมานั้นเป็นกลิ่นของพืชชนิดใดกัน... . . พญาสัตบรรณ หรือ ตีนเป็ด (White Cheesewood ) ใช่แล้วค่ะ...กลิ่นหอมๆที่ว่าก็คือกลิ่นของ สัตบรรณ นั่นเอง .......สัตบรรณ หรือ กะโนะ , ยางขาว ในภาคเหนือ  ตีนเป็ดขาว ในภาคใต้ .......ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alstonia scholaris  (L.) R.Br.  เป็นไม้ในวงศ์ Apocynaceae  วงศ์เดียวกับลั่นทม ชวนชม ยี่โถ นี่หล่ะค่ะ ไม้ในวงศ์นี้ลักษณะเด่นๆก็คือ มียางน้ำสีขาวคล้ายน้ำนมเกือบทุกส่วนของพืช ไม่ว่าจะเป็นลำต้น ใบ หรือแม้กระทั่งดอก .......สัตบรรณเป็นไม้ยืนต้น ลำต้นตั้งตรงขนาดใหญ่สูงได้ถึง 30 เมตรค่ะ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงรอบข้อ (whorl) ข้อละประมาณ 6-9 ใบ ใบมีรูปร่างรี ถึงรูปหอก ขอบใบเรียบ เส้นใบขนานทำมุมฉากกับเส้นกลางใบและขอบใบ ใบมีลักษณะผิวเกลี้ยงเป็นมัน .......ดอกสัตบรรณจะออกรวมกันเป็นกระจุกสีขาวช่อใหญ่ตรงปลายกิ่งค่ะ และในแต่ละช่อนั้นจะแยก ออกเป็นก้านดอกอีก ลักษณะการแยกคล้ายกับซี่ร่ม ดอกจะมีจำนวนมากติดรวมกันอยู่เป็นกระจุกกลมๆ  ลักษณะของช่อดอกจะเหมือนฉัตร 3 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีกลุ่มดอกย่อย 8 กลุ่มๆละ 8 – 10 ดอกย่อย ดอกมีอยู่ 5 กลีบ พับกลับ สีขาวอมเหลือง โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบเลี้ยงเป็นรูปถ้วย ปลายกลีบมน ปลายแยกเป็นอิสระ 5 แฉก และมีขน .......เกสรกลางดอกมี 5 อัน เมื่อดอกย่อยบานจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม.  ดอกบานหลายวัน ดอกที่ใกล้โรยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองฟางข้าว ดอกสัตตบรรณมีกลิ่นหอมแรงมากค่ะ มากจนบางครั้งได้กลิ่นมากไป ทำเอาเวียนหัวได้เลย.. .......ในช่วงลมหนาวมาเยือนราวเดือนพฤศจิกายน บางครั้งเราอาจจะได้กลิ่นของดอกสัตตบรรณโชยมาไกลมากค่ะ บางทีบางแห่งเราก็เรียกกลิ่นนี้ว่ากลิ่นของลมหนาวกันเลยทีเดียว กลิ่นหอมเย็นๆของดอกสัตตบรรณ ให้ความรู้สึกเหมือนว่า ลมหนาวพัดโชยมาแล้ว ได้เวลาไปรื้อตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าพันคอ หรือเสื้อกันหนาวมาใส่รับลมหนาวกันได้แล้วค่ะ...       ที่มารูปภาพ http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/849/16849/images/alstonia_02-1.JPG แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 08:53:33 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:23:39 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:22:59

ความคิดเห็นที่ 23 . . อากาศหนาวมาเยือนแล้ว ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ.. ................................................................................................. ที่มาข้อมูล.. http://en.wikipedia.org/wiki/Prairie_dog http://library.thinkquest.org/TQ0312800/dog.htm http://www.jstor.org/pss/1381061 http://en.wikipedia.org/wiki/Marmot http://www.marmots.org/lifecycle.htm http://animalswallpaper.com/2007/08/alpine-marmot.html http://mammals.suite101.com/article.cfm/snow_echidnas_show_endothermy http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2 http://www.sciencedirect.com/science?_ob=ArticleURL&_udi=B6T2R-454TM94-5&_user=10&_rdoc=1&_fmt=&_orig=search&_sort=d&_docanchor=&view=c&_searchStrId=1106767895&_rerunOrigin=google&_acct=C000050221&_version=1&_urlVersion=0&_userid=10&md5=22bfe2b7dd33cb7750929ba2ff8a570e http://www.oknation.net/blog/charlee/2009/11/12/entry-1 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A5 http://www.enchantedlearning.com/coloring/Hibernate.shtml http://www.fs.fed.us/monarchbutterfly/migration/index.shtml http://en.wikipedia.org/wiki/Monarch_(butterfly) http://www.thaioctober.com/forum/index.php?topic=1080.45 http://www.monarchbutterflyusa.com/Cycle.htm http://www.dnp.go.th/botany/thaiplantname/default.aspx http://en.wikipedia.org/wiki/Alstonia http://en.wikipedia.org/wiki/Animal_migration http://en.wikipedia.org/wiki/Hibernation http://www.fcps.edu/islandcreekes/ecology/spring_peeper.htm http://www.sciencemadesimple.com/animals.html http://en.wikipedia.org/wiki/Spring_Peeper http://cas.bellarmine.edu/tietjen/AnimalDiversity/Excretory%20Systems.htm หนังสือพรรณไม้แห่งประเทศไทย ของ ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันท์ ขอบคุณคุณกวิวัฎ และ คุณ Due_n สำหรับการช่วยเหลือด้านข้อมูลค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:53:36 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:30:20 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:27:11 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:26:51

ความคิดเห็นที่ 24 จองที่ไว้ก่อน จากคุณ : oj_nui เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:29:34

ความคิดเห็นที่ 25 ดูแลสุขภาพ เช่นกันนะคะ คุณพริมจัง ขอถามนิดนึงภาพ #15 ขวาล่าง มันกำลังทำไรอยู่อ่อะคะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:35:51 จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:30:47

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ โพสเสร็จเพิ่งจะรู้ว่ายาวเหลือเกิน.. ป.ล. ขอบคุณค่ะคุณมิ้นท์ๆ รักษาสุขภาพเช่นกันค่ะ... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:33:45

ความคิดเห็นที่ 27 ผีเสื้อสวยอ่า~ จากคุณ : ปลาหมึกรสเลม่อน เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:36:53

ความคิดเห็นที่ 28 มาลงชื่อในกระทู้ให้กับคนที่คิดถึงเสมอครับ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:37:26

ความคิดเห็นที่ 29 สารภาพว่าเข้ามาเล่นห้องหว้ากอ . . . . . . . . . . . . . . . . . เนื่องจากจขกท.ครับผม ^^ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:38:28

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาใหใจโดยเฉพาะ .. จากคุณ : Fancy ง่าย เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:39:03

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับความรุ้ครับ แต่ตอนนี้อากาศที่กรุงเทพร้อนแล้วอะ ^^ จากคุณ : handghost เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:39:27

ความคิดเห็นที่ 32 ที่รัดดด เอาสาระมาฝาก  เย้   โหวตไป !! จากคุณ : ReNaris เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:56:07

ความคิดเห็นที่ 33 เนื้อหางาม ภาพสวยดีค่ะ จากคุณ : จะกดโหวตให้วันจันทร์นะ..^^ (โอ้ละหนอ) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 21:57:22

ความคิดเห็นที่ 34 อยากหนาว..   ใจจะขาด จากคุณ : tenno เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:06:34

ความคิดเห็นที่ 35 ติดไว้ก่อนนะคะ คืนนี้ทำการบ้านก่อน พรุ่งนี้มาอ่านค่ะ จากคุณ : pongpei เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:10:02

ความคิดเห็นที่ 36 ว้าววววววววววววววววววววววววววว เห็นภาพงูเยอะๆ แระแอบขนลุก >,< โหวตๆๆๆๆ จากคุณ : ฟินจัง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:10:03

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตโลดดดด จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:12:48

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตไป 1 จึ๊ก จากคุณ : หมีอ้วนขนนิ่มสมัครอมยิ้มมาเฮฮา เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:13:23

ความคิดเห็นที่ 39 ลูกเป็ดขี้เกียจเผลอกินกุ้งพร้อมวิตามินซีไปรึเปล่าเนี่ย - - จากคุณ : MoMelyz เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:15:45

ความคิดเห็นที่ 40 ^^ อพยพ หาหัวใจใหม่ ให้พักผิงบ้างดีกว่า จากคุณ : JohnnieWalker เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:24:13

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาโหวตจ้า กิฟหมด ติดไว้ก่อนนะตัวเอง จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:44:10

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาอ่านสาระน่ารู้ ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณที่รวบรวมมาให้อ่านครับ จากคุณ : freefeel เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:48:15

ความคิดเห็นที่ 43 ไว้พรุ่งนี้มากดโหวตนะครับ วันนี้กดไปก็เสียดาย ไว้โหวตพรุ่งนี้ทู้จะได้อยู่นานๆ จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 22:50:19

ความคิดเห็นที่ 44 กิฟหมด โหวตก่อนดีกว่า... จากคุณ : m_stay22 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 52 23:11:57

ความคิดเห็นที่ 45   อยากจำศิลได้มั่งคับ จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 01:59:29

ความคิดเห็นที่ 46 ... หนาวหน้าคงต้องอพยพหัวใจแล้วสิเรา ... จากคุณ : monixe เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 03:15:48

ความคิดเห็นที่ 47 อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าค่ะ....และขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ.. (เพิ่งรู้ตัวว่า ตัวเองเขียนได้ยาวมากมาก...) จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 06:59:29

ความคิดเห็นที่ 48 นี่ก็อพยพย้ายถิ่นฐานจากยุโรป ไปอเมริกาเหนือเมื่อหลายปีก่อน คาดว่า ภาวะโลกอุ่น จะทำให้เธอกับครอบครัวงงฤดู ย้ายกลับไม่ถูก จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 07:14:40

ความคิดเห็นที่ 49 อรุณสวัสดิ์ครับ จขกท.. หาอะไรดีๆมาให้อ่านอีกแล้วนะครับ ขอบคุณครับ... //ตามกลิ่นดอกพริมจังมาชมกระทู้.... จากคุณ : น้องคำหล้า เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 07:24:47

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาให้กีบ และโหวตจ้า เป็นกระทู้ที่ดีมีสาระมากเลย.. แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 08:51:39 จากคุณ : iamnid เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 08:50:52

ความคิดเห็นที่ 51 ทำไมไม่ตั้งห้องหลักล่ะก๊ะ อะย้อเย่นน ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่อุตส่าห์เสียสละเวลานะจ๊ะ แม่หยัว ด๊วพพ 1 ที จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 08:58:29

ความคิดเห็นที่ 52 .... ขอบคุณสำหรับบทความเนื้อหาดีๆ นะจ๊ะ จากคุณ : xaiind เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 09:02:59

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นชื่อกระทู้ก็เดาว่าพริมจังตั้ง เดาถูกเหมือนซื้อหวย จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 09:06:12

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามาดู จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 09:43:21

ความคิดเห็นที่ 55 ตามาจากเฮฮา จากคุณ : sassathx เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 09:47:01

ความคิดเห็นที่ 56 คุณพริม ...พรุ่งนี้จะมาให้กิ๊ฟนะครับ จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 09:58:13

ความคิดเห็นที่ 57 ติด กิฟไว้ก่อนนะฮะได้ใหม่แล้วจะมาแจก  ^^ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:06:01

ความคิดเห็นที่ 58 นู๋พริมน่ารัก จากคุณ : รักคนที่ชอบแมว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:30:31

ความคิดเห็นที่ 59 เราว่ากลิ่นดอกไม้นี่เหม็นมากเลยค่ะ จำฝังใจเลย ได้กลิ่นมันแล้วรู้เลยว่าถึงหน้าหนาวแล้ว เราตั้งชื่อเองไว้ว่า ฤดูดอกเหม็นบาน (อยากชวนเธอมาดอมดมด้วยกัน) จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:36:52

ความคิดเห็นที่ 60 โอ้วววววววววววว เจอรูปดอกตีนเป็ดเข้าไป... กลิ่นโชยออกมาจากคอมทันใด เหม็นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โดยเฉพาะถนนเส้นคลองชลประทานเชียงใหม่ อื้อหือ....สุดยอด จากคุณ : แพนด้า ณ เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:42:57

ความคิดเห็นที่ 61 นกนางนวล สุดยอดอ่ะ บินข้ามโลกเลยนะนั่น จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 10:44:40

ความคิดเห็นที่ 62 ชื่อเจ๊พริ้ม การันตีคุณภาพ... ...เรื่องดี รูปสวยเหมือนเคยครับ... จากคุณ : sivpeer เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:08:55

ความคิดเห็นที่ 63 หน้าหนาวทีไร คิดถึงบึงสีฐาน ชอบไปนั่งดูนกเป็ดน้ำที่ย้ายถิ่น (มาจากไหนไม่รู้ แฮ่...) นั่งดูอยู่ได้เป็นชั่วโมงๆ...ไม่เคยเบื่อ จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:19:37

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ที่มาพร้อมกับความหนาวครับ จากคุณ : Zantha เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:22:50

ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อวานไปตากอากาศ เอากากหมูให้นกนางนวลกิน มันไม่ค่อยกิน สงสัยจะอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก จากคุณ : AW Milan เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:41:17

ความคิดเห็นที่ 66 ดีกว่ากระทู้แนะนำดราม่าของสัปดาห์ที่แล้วเยอะเลย เอาไป 3 กีบเลยคุณพริม แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 11:52:10 จากคุณ : Bongiovi เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 11:51:39

ความคิดเห็นที่ 67 ความคิดเห็นที่ 25     . . ขอถามนิดนึงภาพ #15 ขวาล่าง มันกำลังทำไรอยู่อ่อะคะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 52 21:35:51 จากคุณ : mint_la     ................................................................................... ตอบคุณมิ้นท์ๆ ค่ะ เจ้าต้ว Prairie dog เนี่ย ชอบยืนสองขาทำหน้าบ๊องแบ๊ว จึงมีคนเอามาทำภาพล้อ เป็นภาพ Prairie dog กำลังยืนสองขา ชาบู ชาบู อะไรซักอย่างหนึ่งแน่เลยค่ะ.... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 12:37:11

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นแก็งค์งูแล้วนึกถึงเรื่องอนาคอนด้า จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 12:39:20

ความคิดเห็นที่ 69 ทำไมผมรู้สึกว่าเจ้าผีเสื้อ Monarch มันมีเหมือนแถวๆบ้านเลย มีหนอนสีแบบนี้ด้วยบนต้นดอกรักข้างรั้ว... เหมือนเด๊ะๆ..แต่ทำไมบอกว่าอยู่ที่เมกา ล่ะเนี่ย โฮะๆ ขอบคุณมากครับทั้ง คุณ primjang และคุณ กวิวัฎ เอาไปเลย 3กิ๊บ.....จะได้หายสงสัยสะที แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 13:52:24 จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 14:37:37

ความคิดเห็นที่ 70 ^^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 15:19:20

ความคิดเห็นที่ 71 แมวตัวนี้ก็เตรียมอพยพเหมือนกันครับ จากคุณ : pisitman เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 15:29:10

ความคิดเห็นที่ 72 ความคิดเห็นที่ 69     ทำไมผมรู้สึกว่าเจ้าผีเสื้อ Monarch มันมีเหมือนแถวๆบ้านเลย มีหนอนสีแบบนี้ด้วยบนต้นดอกรักข้างรั้ว... เหมือนเด๊ะๆ..แต่ทำไมบอกว่าอยู่ที่เมกา ล่ะเนี่ย จากคุณ : บุรี   ..................................................................................... ลวดลายบนปีกผีเสื้อเนี่ยคล้ายกันมากเลยค่ะ ยิ่งเป็นสกุลเดียวกันก็มีความคล้ายคลึงกันมาก ค่ะ ภาพด้านล่างเป็นภาพผีเสื้อหนอนข้าวสารลายเสือ (Danaus genutia) ผีเสื้อในสกุลเดียวกับผีเสื้อ Monarch ค่ะ แต่พบได้ในประเทศไทยเรานี้เอง ตอนเป็นตัวหนอนชอบกินใบของต้นข้าวสาร ค่ะ.. ป.ล. เรื่องผีเสื้อเดี๋ยวให้คุณกวิวัฏ มาตอบให้อีกทีนะคะ คงจะได้รายละเอียดกว่านี้.. ข้อมูลและภาพจาก http://www.malaeng.com/blog/?p=4210 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 16:47:46 จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 15:39:10

ความคิดเห็นที่ 73 ปรี้ดลงชื่อ เดี๋ยวกลับไปอ่านที่บ้าน จากคุณ : Register_AC เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 16:02:55

ความคิดเห็นที่ 74   ผมก็เคยเห็น และเคยใล่จับเจ้า Monarch ได้ตั้งหลายตัวครับ ตอนเรียนประถมฯ ที่แปลงดอกไม้ของโรงเรียนในวันหยุด โตขึ้นถึงรู้ว่ามันเจ็บถ้าไปจับมัน คุณ primjang น่ารักจังเลยครับ พูดเพราะและชอบค้นคว้าหาความรู้อยู่เสมอ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : wit101601 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 16:05:15 A:58.97.37.61 X:

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้วสนุกมาก หาข้อมูลเยอะดี แต่อย่าลืม อาบน้ำ ทานข้าวนะ อิอิ รักนะจ๊ะ แล้วจะแวะมาอ่านใหม่นะ อยากรู้ว่าแมวของความเห็นที่ 71 อพยพไปไหน จากคุณ : WholeInOne (SuJunYong) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 16:21:34

ความคิดเห็นที่ 76 ^ ^ บ้านผมแหงๆ จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 16:47:53

ความคิดเห็นที่ 77 ดีจังเลย ภาพสวย สาระดี น่าติดตาม จากคุณ : popepa เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 17:08:05

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 69     ทำไมผมรู้สึกว่าเจ้าผีเสื้อ Monarch มันมีเหมือนแถวๆบ้านเลย มีหนอนสีแบบนี้ด้วยบนต้นดอกรักข้างรั้ว... เหมือนเด๊ะๆ..แต่ทำไมบอกว่าอยู่ที่เมกา ล่ะเนี่ย จากคุณ : บุรี   ******************************************** ในประเทศไทย ก็มีผีเสื้อในสกุล Danaus เช่นเดียวกันครับ เป็นคนละชนิดกับผีเสื้อ โมนาร์ช Danaus plexippus ผีเสื้อในสกุล Danausที่พบในประเทศไทย มีทั้งสิ้น 4 ชนิด คือ Danaus chrisyppus    ผีเสื้อหนอนใบรักธรรมดา Danaus genutia         ผีเสื้อหนอนข้าวสารลายเสือ Danaus melanippus  ผีเสื้อลายเสือขีดขาว Danaus affinis          ผีเสื้อลายเสือมลายู ดังรูป เครดิตภาพ ผีเสื้อลายเสือขีดขาวDanaus melanippus จาก http://www.zoodesign.ru/Danaidae/Danaus%20melanippus.jpg ผีเสื้อลายเสือมลายู Danaus affinis  จาก http://www.malaeng.com/blog/wp-content/pictures/2008/05/affinis.jpg&imgrefurl=http://www.malaeng.com/blog/%3Fcat%3D18&usg=__amh9GSMKZCux2eyt86-v6IPcvx4=&h=400&w=600&sz=50&hl=th&start=11&um=1&itbs=1&tbnid=LJ1otf2_YyDbtM:&tbnh=90&tbnw=135&prev=/images%3Fq%3DDanaus%2Baffinis%26hl%3Dth%26sa%3DN%26um%3D1 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 18:23:58 จากคุณ : กวิวัฏ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 18:05:08

ความคิดเห็นที่ 79 ส่วนหนอนผีเสื้อที่คุณบุรี หมายถึงคือตัวนี้ใช่หรือไม่ครับ ตัวนี้เป็นหนอนผีเสื้อหนอนใบรักธรรมดา Danaus chrisyppus ตัวหนอนจะกินใบของต้นรักเป็นอาหาร พบได้ทั่วไปในเอเชียเขตร้อน จากคุณ : กวิวัฏ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 18:06:49

ความคิดเห็นที่ 80 แต่ถ้าผีเสื้อตัวที่ใกล้เคียงกับผีเสื้อโมนาร์ชที่สุดเป็นตัวนี้ครับ Danaus ginutia  ผีเสื้อหนอนข้าวสารลายเสือ หนอนของผีเสื้อหนอนข้าวสารลายเสือDanaus ginutia จะกินใบของต้นข้าวสารดอกใหญ่ เป็นอาหารครับ ไม่ได้กินใบรักแต่อย่างใด จากคุณ : กวิวัฏ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 18:07:35

ความคิดเห็นที่ 81 โหวตให้แล้วนะครับ กระทู้ดีๆ มีสาระ :) จากคุณ : Steyr Commando เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 18:11:49

ความคิดเห็นที่ 82 ส่วนนี่เป็นหน้าตาของผีเสื้อหนอนข้าวสารลายเสือDanaus ginutia เปรียบเทียบกับผีเสื้อ โมนาร์ช Danaus plexippus ลักษณะค่อนข้างแตกต่างกันในรายละเอียดครับ เช่น ลักษณะของมุมปีกบนใน โมนาร์ชจะค่อนข้างเรียวและยาวกว่า - แถบสีขาวพาดขวางที่มุมปีกในผีเสื้อข้าวสารลายเสือ จะไม่พบในผีเสื้อโมนาร์ช และขณะเดียวกัน แต้มสีเหลือง 4 แต้มใบบริเวณเดียวกัน ก็ไม่พบในผีเสื้อข้าวสารลายเสือเช่นกัน - ลักษณะลายดำตามเส้นปีก ในผีเสื้อข้าวสารลายเสือจะเห็นชัดเจนกว่า และแถบเส้นจะหนากว่า - ต่อมเพศผู้สีดำ บริเวณปีกล่างทั้งสองข้างใน ผีเสื้อข้าวสารลายเสือจะมีขนาดใหญ่กว่าเกือบกลืนไปกับแถบสีดำ ในขณะที่ต่อมเพศผู้ในผีเสื้อโมนาร์ชจะเป็นตุ่มสีดำเล็กๆ - ผีเสื้อข้าวสารลายเสือ มีขนาดความกว้างมุมปีกจากซ้ายถึงขวาเฉลี่ย ประมาณ 60 - 80 mm. ในขณะที่ ผีเสื้อโมนาร์ช จะมีความกว้างมุมปีก 90 - 110 mm. ดังนั้น ผีเสื้อโมนาร์ชจะมีขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด - ผีเสื้อข้าวสารลายเสือ พบได้ตลอดทั้งปี ไม่มีการอพยพ และแทบไม่มีการพักตัว ยกเว้นช่วงเวลาอาหารขาดแคลนจะพักตัวในระยะดักแด้ ไม่เกิน 3 สัปดาห์ เครดิตภาพผีเสื้อโมนาร์ช http://www.butterflyutopia.com/BIG/019a-monarch_butterfly.jpg&imgrefurl= แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 18:37:11 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 18:36:17 จากคุณ : กวิวัฏ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 18:20:48

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณ คุณกวิวัฏ สำหรับข้อมูลเรื่องผีเสื้อค่ะ ละเอียดมากมากเลย... (แต่ติดกีฟท์ไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ได้กีฟท์เดือนใหม่แล้วจะมาให้ค่ะ..) จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 19:01:41

ความคิดเห็นที่ 84 แหล่มเลยครับคุณพริมจัง จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 19:40:58

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณมากครับคุณพริมจัง คุณกวิวัฏ ได้ความรู้เยอะเลยครับ ^ ^ จากคุณ : ChocolateMousse เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 19:42:21

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านไปปลื้มไป อิอิ แจก 2 กีบ สุดท้ายให้ 1.คุณพริม 2 กีบ 2.คุณกวิวัฏ 0 กีบ จะแจกแต่สาวๆใครจะทำไม ฮ่าๆๆๆ ปล.ถึง พี่คณะ ไม่พอใจไรมาเคลียร์กันหลังไมค์นะครับนะ จากคุณ : จุ๊บยางเป็ดน้อย เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 21:18:35

ความคิดเห็นที่ 87 ไหงแถวบ้านเรายังร้อน??? แฮ่กๆๆๆ จากคุณ : rrltai^^ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:29:14

ความคิดเห็นที่ 88 กีบแรกของเดือนนี้ให้น้องพี่นะคะ ^^ จากคุณ : *คุณวรมัน* เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 01:22:18

ความคิดเห็นที่ 89 ตามพี่สาวมาให้กีบพริมจัง... จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 08:30:26

ความคิดเห็นที่ 90 นิดนึงนะครับ คำว่า Monarch ออกเสียงเป็น mä-nərk, -ˌnärk ch ออกเสียงเป็น k เป็น โมนาค สุดเสียงตัว ค ทำเสียง เคอะ สั้นๆในคอครับ ถ้าเป็น Monarchy ก็เป็น โมนาคี่ จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 10:20:54

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณครับได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะ.. เมื่อวานมาไม่ทัน กิ๊บเหลือเพียบเนื่องจากงานยุ่ง...เสียดายมาก เอากิ๊บเดือนธันวาไปละกัน.... จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 13:56:31

ความคิดเห็นที่ 92 กิฟแรกเช่นกัน.. ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 14:05:04

ความคิดเห็นที่ 93 ลมหนาวมา แล้วก็อยากมีเมีย ครับ... T_T จากคุณ : คนเสาเล้า เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 21:33:03

ความคิดเห็นที่ 94 อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันฝนตกค่ะ..... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 08:41:16

ความคิดเห็นที่ 95 มู้คุณพริมเยี่ยมเสมอเลยนะครับ อิอิ จากคุณ : Time & Trust เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 16:53:34

ความคิดเห็นที่ 96 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 21:13:06

ความคิดเห็นที่ 97 ไม่คิดว่าจะมีงูด้วย กดผ่านจนเหงื่อซึมเลย ยึ๋ยยย ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะคะ จากคุณ : Fru Huldra เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 05:50:31

ความคิดเห็นที่ 98 กะทู้ถูกใจต้องให้กีรีบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : pooktoon เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 14:28:55

ความคิดเห็นที่ 99 ทำไมผมถึงเพิ่งเห็นกระทู้คุณพริมนี่   จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 18:11:30

ความคิดเห็นที่ 100 หนาวแล้ว  ไม่อยากอาบน้ำเองเลย จากคุณ : ที่จริงแล้วเป็นเทวดา เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 22:10:38