ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขเพื่อเรียบเรียงประโยคให้ดีขึ้น (รีบส่งเพราะกลัวไม่ได้ที่ 1) อยู่กับมนุษย์ไร้อารมณ์อาจจะน่าเบื่อ แต่หากต้องใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ไร้เหตุผล เมื่อมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง อาจเกิดกรณีพิพาท ถึงขนาดเป็นบ้าและฆ่าคนได้... เพราะไม่ทราบว่าจะจัดการกับมนุษย์ไร้เหตุผลอย่างไร ยกตัวอย่าง การใช้คนทำงาน มนุษย์ไร้อารมณ์น่าจะสามารถทำงานตามที่สั่งได้ ขอเพียงให้เหตุผลที่ดี หรือสร้างแรงจูงใจให้ทำงาน แต่มนุษย์ไร้เหตุผล หากเกิดปัญหาใดๆขึ้น ระหว่างที่ต้องทำงานร่วมกัน คงยากที่จะจัดการแก้ไข ทั้งนี้ทั้งนั้น หมายถึงในกรณีที่ *มนุษย์ไร้อารมณ์มีเหตุผล มีสติปัญญา เพียงแต่ไร้อารมณ์ เฉกเช่นหุ่นยนต์ ไร้ความยินดี เศร้าโศก โกรธขึ้ง *มนุษย์ไร้เหตุผล คือ ปุถุชนธรรมดา ที่ทำทุกอย่างตามอารมณ์ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนรอบข้างและผลกระทบต่อตนเองในภายภาคหน้า ไม่ใช่แค่ไร้เหตุผลเล็กน้อย แต่หมายถึง ไร้เหตุผล ขาดสามัญสำนึกอย่างถึงที่สุด (เช่นเดียวกับผู้ป่วยทางจิตที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้) ตามนั้น... ความเห็นส่วนตัว ที่หนึ่ง เย้ๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:15:55 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:09:14

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่มีเหตุผลแย่กว่าครับ อันตรายในหลายๆอย่าง ตั้งแต่ตอนเจอหน้ากันอาจชักปืนมายิ่งซะเฉยๆก็ได้เพราะไม่มีเหตุผล ส่วนไม่มีอารมณ์ก็แย่เหมือนกันเช่น เวลาชวนไปไหนต่อไหน หน้าตาไร้ความรู้สึกทำให้เซ็งได้ครับ แต่รวมๆแล้วก็ดีกว่าไม่มีเหตุผลตั้งมากมาย จากคุณ : b_b (blacklimpbizkit) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:17:17

ความคิดเห็นที่ 3 สมมติเหตุการณ์เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น สมมติว่าเรือลำหนึ่งประกอบด้วยมนุษย์ที่มีเหตุผลแต่ไร้อารมณ์ทั้งหมด 10 คน และเด็กวัยห้าขวบหนึ่งคน เรือกำลังจะจม ทุกคนบนเรือต่างทิ้งสิ่งของไม่มีค่า ไม่จำเป็นหมดแล้วเรือก็ยังจะจม แต่บรรดาผู้มีเหตุผลบนเรือได้คำนวณแล้วว่าหากทิ้งน้ำหนักลงน้ำไปสัก 10 กิโลกรัมเรือก็จะยังพอทรงตัวได้ถึงฝั่ง ทุกคนจึงตัดสินใจโยนเด็กห้าขวบลงทะเลไปเพราะเด็กไม่มีประโยชน์ที่สุด ช่วยตัวเองไม่ได้และเป็นภาระ ขณะที่เสบียงและน้ำสะอาดบนเรือต่างจำเป็นต่อการรอดชีวิตมากกว่า สำหรับมนุษย์ที่ใช้อารมณ์แต่ไม่มีเหตุผลนั้นมีตัวอย่างให้เห็นมากมายเหลือคณานับอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสารขัณฑ์ จึงไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องสมมติเพิ่ม แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:27:53 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:27:15

ความคิดเห็นที่ 4 คงไม่มีใครใช้อารมณ์หรือเหตุผลล้วนๆในการตัดสินใจหรอกค่ะ คนทุกคนใช้ทั้งอารมณ์และ เหตุผลอยู่ตลอดเวลา เพราะธรรมชาติของคนเราเป็นแบบนั้น อารมณ์เป็นปฏิกิริยาอย่างแรกสุด ที่สมองของเรามีปฏิกิริยาต่อสิ่งเร้าภายนอก ส่วนเหตุผล ป็นพัฒนาการพิเศษสุดของสมองคนก็ว่าได้ ทำให้เกิดความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ทำให้เราปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น แต่ละคนก็มีวิธีการใช้อารมณ์และเหตุผลที่ต่างกันไป คงขึ้นอยู่กับพื้นฐานการเลี้ยงดู วิถีชีวิต สภาพแวดล้อม การศึกษา ฯลฯ เมื่อมีเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตเราหรือคนที่เรารัก บางคนอาจจจะใช้อารมณ์นำหน้าเหตุผล แต่บางคนจะใช้เหตุผลนำหน้าอารมณ์ คนที่ใช้แต่เหตุผล ชีวิตก็คงแห้งแล้งน่าดู... ใครใช้แต่อารมณ์ชีวิต ก็คงง่อนแง่นไม่มั่นคง มีคำกล่าวว่า "ชีวิตจะสมบูรณ์ได้ เมื่อชีวิตตั้งอยู่บนเหตุผล และพลิ้วไหวไปตามอารมณ์" นั่นคงจะจริงที่สุด ^ ^ ปล.ตอบไม่ตรงคำถามแต่อยากตอบค่ะ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:31:29

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ แก้ไขข้อความ จิ้มทะลุคุณหมอหมูเหมียว ขอค้านครับ ขอค้าน!!! ต้องแยกระหว่างไร้อารมณ์กับศีลธรรมด้วยนะครับ... ตัวอย่างของ จขกท.นั้น มี factor อีกหลายประการ ถ้าคิดในแง่ดี บางทีเด็กคนนั้นอาจเป็นศาสดาของศาสนาใหม่ บันดาลให้ภัยพิบัติสงบ+รักษาโรคได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส แล้วจะทิ้งไปได้เยี่ยงไร? ปล.สำหรับข้าพเจ้า ถ้าเด็กคนนั้น... ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับข้าพเจ้า โยนก็โยน(วะ) คงบอกหนูน้อยว่า หนูจ๋า เราคงต้องลาจากกันตรงนี้แล้ว มีอะไรจะบอกกับน้าไหม แต่ถ้าเป็นลูกข้าพเจ้าและภรรยาข้าพเจ้าก็อยู่บนเรือด้วย ข้าพเจ้ากระโดดลงน้ำเองก็ได้(ว่ะ) เพราะ นน. ข้าพเจ้า คงมากกว่า 10 กิโลแน่นอน แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:33:26 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:32:37

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าไม่มีอารมณ์ มนุษย์อาจสูญพันธุ์ได้นะครับ จากคุณ : จุ๊บยางเป็ดน้อย เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:40:55

ความคิดเห็นที่ 7 #5 ในเมื่อเป็นมนุษย์ที่ใช้แต่เหตุผล ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก ก็ต้องเลือกหนทางที่เหมาะสมที่สุดตามหลักของเหตุและผล ใครจะไปตรัสรู้ว่าเด็กคนนั้นต่อไปจะมีอนาคตอย่างไร ชีวิตผู้ใหญ่ที่เหลือต่างมั่นคงและแน่นอนกว่า และหากไม่โยนเด็กทิ้งตอนนั้นทุกคนคงต้องตายเพราะเรือล่ม หรือถ้าเลือกทิ้งสเบียงก็อดตายได้ ตัวเองลืมไปแล้วเหรอว่าจริยศาสตร์แบบ Utilitarianism นั้นไม่ได้ตำหนิหากชีวิตของคนคนหนึ่งต้องถูกละทิ้ง เพื่อประโยชน์มวลรวมที่มากกว่า ดังนั้นประเด็นเรื่องศีลธรรมกรณีนี้ก็ยังเป็นเรื่องของเหตุผลอยู่ดี ดังนั้นเค้าคิดว่าตัวอย่างที่ยกมานั้นถูกต้องแล้ว คือเป็นการตัดสินใจโดยใช้เหตุผลล้วนๆไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยว ดังนั้นเค้าไม่เปลี่ยนตัวอย่างสมมตินี้ ปล.ความจริงแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ อยากให้ถกในประเด็นตามหัวทู้มากกว่า แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:41:45 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:41:04

ความคิดเห็นที่ 8 คนที่ไม่มีเหตุผลและชอบใช้อารมณ์ผิงว่าแย่กว่านะ คนพวกนี้คุยแล้วเหนื่อย คิดว่าตัวเองถูกเสมอ ไม่รับความจริง ส่วนคนที่ไร้อารมณ์ผิงว่ายังพอปรับจูนเข้าหากันได้ อย่างน้อยเค้าก็ไม่เห็นแก่ตัวเหมือนคนพวกแรก ปล จุ๊บยาง ฝากตอบว่า ถ้าไม่มีอารมณ์ มนุษย์อาจสูญพันธ์ได้นะครับ เพิ่ม ปล แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:42:33 จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:41:10

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบตามประเด็นคือ - คนที่ยึดมั่นในเหตุผล สามารถดำรงชีวิตรอดได้ แต่ไร้ซึ่งความรื่นรมย์ ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า และตายในที่สุด (ยกตัวอย่าง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์) - คนที่ยึดมั่นในอารมณ์ แต่ไม่มีเหตุผล น่าจะตายเร็ว หรือไม่ก็ไปมีอนาคตในคุก (ซึ่งก็โดนขาใหญ่จิ้มตายอยู่ดี) สรุปคือ พวกแรก ตายช้า พวกหลังตายเร็ว.. จขกท. ถามคล้ายตรรกะนี้เลยนะ... คนสองคน คนหนึ่งยึดมั่นในวิทยาศาสตร์ โดยไม่มีศาสนา อีกคน งมงายในศาสนา โดยไม่เงยหน้ามองวิทยาศาสตร์ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:50:12 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:44:14

ความคิดเห็นที่ 10 มีเหตุผลแต่ไร้อารมณ์.....ไร้อารมณ์เหมือนกัน แต่เหตุผลอาจอาจไม่เหมือนกันก็ได้นี่คะ... จะบอกได้ยังไงว่าเหตุผลใครดีที่สุด ในเมื่อต่างคนต่างก็คิดว่าเหตุผลตัวเองสำคัญกันทั้งนั้น... จากตัวอย่างที่ยกมา ... ใน 10 คนไร้อารมณ์ใดใด เห็นตรงกันว่าต้องฆ่าเด็กเสียเพื่อกำจัดน้ำหนักบนเรือ. คนหนึ่งบอก ทำไมต้องโยนทิ้งไปเฉยๆหล่ะ ถ่วงน้ำไว้ก็ได้นี่เอาไว้ตัดเนื้อทาน (โหดไปไหมค่ะเนี่ย...เง้อ) มีเหตุผลเหมือนกันใช่ไหมค่ะ อีกคนอาจจะบอกโยนลงไปเฉยๆก็พอ ต่างคนก็ต่างว่าเหตุผลตัวเองดีทั้งนั้น จะเชื่อใครดีค่ะ.... ในขณะที่มนุษย์ผู้ใช้แต่อารมณ์ อาจจะอารมณ์โกรธ อารมณ์เศร้า อารมณ์สุข อารมณ์เหล่านี้เพียงแค่ใช้ความรักความเข้าใจ ก็คงสามารถเปลี่ยนแปลงกันได้....ควบคุมได้ด้วย.. ให้เลือก ของเลือกมนุษย์ที่ไม่ไร้อารมณ์ค่ะ...เพราะนั้นคือสิ่งที่เป็นมนุษย์ โลกนี้คงแห้งแล้งน่าดูค่ะ ถ้ามีแต่คนฉลาดมีเหตุผลแต่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดใด..... ปอลิ่ง ตอบคุณคลิป ถ่วงน้ำไว้ไม่ได้อยู่บนเรือนะคะ...(อุปส์...โหดอ่า) แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:51:02 จากคุณ : ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ค่ะ ^^ (primjang) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:46:15

ความคิดเห็นที่ 11 #9 false analogy หรือเปล่าครับ ผมหมายความว่ามันไม่น่าจะเปรียบเทียบกับคำถามของกระทู้นี้ได้ เพราะศาสนาและวิทยาศาสตร์ยังมีส่วนที่คาบเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง (มุ่งหาความจริงแท้) แต่อารมณ์กับเหตุผลนี่เหมือนคู่คนละขั้วกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งสองทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ #10 พริมจัง เก็บศพเด็กเอาไว้เรือก็ล่มสิ โอ๊ยๆๆๆ พอๆ ไม่น่ายกตัวอย่างเลย อย่าสนใจตัวอย่างเลย ถกตามประเด็นตามหัวทู้นะครับนะ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 22:49:20 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:47:37

ความคิดเห็นที่ 12 ใน #3 คนทั้ง 10 นั้น น่าจะอยู่ในอารมณ์ "กลัวตาย" เต็มที่มากกว่านะคะ ^ ^ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:48:25

ความคิดเห็นที่ 13 #11 มันเป็นการเปรียบเปรย ที่คนจะยกขึ้นมาเกือบทุกครั้งที่เจอตรรกะแบบจขกท.ว่าไง อีกอย่าง เวลาคนยกคู่ศาสนา-วิทยาศาสตร์ ขึ้นมาในห้องนี้เมื่อไหร่ กลิ่นดราม่าจะโชยมา จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:55:52

ความคิดเห็นที่ 14 มาเห็นด้วยกับ #6   ^^ จากคุณ : ปิดไปเหอะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:56:51

ความคิดเห็นที่ 15 ไปนอนแล้วเด้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านเหตุผลแต่ละท่าน ทุกท่านอ่านคห.3 แล้วทำเป็นลืมๆมันก็ได้ครับ กลับมาถกตามหัวกระทู้ต่อนะพลีสสสสส กลัวกระทู้เบี่ยงประเด็น ปล.พริมจัง ถ่วงเอาไว้ใต้น้ำเฉยๆ น้ำหนักมันก็ถ่วงเรืออยู่ดีไม่ใช่เหรอ งงนะ? ว่าจะไม่วกเข้าประเด็นเดิมแต่อดไม่ได้ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 22:57:34

ความคิดเห็นที่ 16 เตรียมกางใบ...เดี๋ยวออกทะเลแน่ ถ้าถือว่าทุกคนบนเรือมีเหตุผลตรงกัน สมมติฐานที่จขกท.ยกมานั้นใช้ได้เลย แต่ถ้าทุกคนบนเรือมีเหตุผลต่างกัน ก็น่าจะลำบากอยู่นะ คิดเหมือนพริมจังที่น่ารักว่า เหตุผลแต่ละคนต่างกัน... เด็ก 5 ขวบ น้ำหนักอย่างน้อยก็ 15 กิโลล่ะ ดีไม่ดีถึง 20 กิโลด้วยซ้ำ โยนทิ้งไป ศพเด็กลอยน้ำ น้ำหนักก็ต้องเบาลงอีก หรือไม่... ก็เฉือนเด็กออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งทิ้งน้ำ (10กิโล) อีกส่วนเก็บไว้กินได้ *ตัวอย่างนั้นเค้ายกขึ้นมามั่วๆเฉยๆ เพื่อที่จะอธิบายเรื่องเหตุผลนั่นล่ะ แก้ไขเพิ่มเติม พริมจังน่าจะเข้าใจว่า จับเด็กถ่วงน้ำ เด็กจะเบาลงเนื่องจากแรงลอยตัว จขคห.นี้ก็คิดเหมือนพริมจัง แต่ขอเสนอว่า จับเด็กเฉือนเป็นสองส่วนเข้าท่าที่สุด !! ส่วนหนึ่งทิ้ง ที่เหลือเก็บไว้เป็นเสบียงยามฉุกเฉิน แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 23:02:46 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:00:34

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ คุณลูกเป็ดที่รักคะ....เอิ่ม รู้สึกว่าเราสองคนจะไม่โหดกันเลยนะคะเนี่ย... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:25:04

ความคิดเห็นที่ 18 ผมอยากเป็นคนที่มีเหตุผลแต่ไร้อารมณ์มากกว่า ผมยินดีที่จะอยู่ในโลกที่คนไร้อารมณ์มากกว่า อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าคนอื่นคิดอะไร และจะทำอะไร จากคุณ : Megrim เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:31:34

ความคิดเห็นที่ 19   อะไรคือนิยามของอารมณ์และเหตุผลที่แน่ชัด ผมอ่านถึงคห.3-4  อ่านข้ามๆนะครับ ไม่ว่างเท่าไหร่ อาจจะดูเหมือนผมไม่ติดตามประเด็นในคห.ต่อๆมา ถ้าเหตุผลไม่ได้มีไว้ตอบสนองอารมณ์ นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลของมนุษย์ ผมไม่สามารถบอกได้แน่ชัด ว่าเป็นอย่างไร หมายความว่าสิ่งนั้นคือเครื่องจักร? ..มนุษย์เจ็บปวดได้เพราะเรามีอารมณ์ และสุขได้ด้วยมันเช่นกัน ถ้าไม่มีอารมณ์แล้วจะกลัวความตายได้อย่างไร และกลัวทำไม เพราะคิดแค่ว่าตัวเองต้องอยู่ต่อหรือ นั่นคือเป้าหมายหรือ ประโยชน์นั้นคืออะไร การคงอยู่ของกลไกลธรรมชาติ หรือ ความสุข หรืออาจเป็นอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่า การโยนเด็ก เพื่อให้คนรอด มันเป็นเหตุผลได้ ถ้าต้องตอบโจทย์ที่ว่ามวลของคนจะอยู่ได้อย่างไร ให้มากที่สุด?? การโยนผู้ใหญ่สักคน เพราะเด็กมีอายุได้ยาวกว่า อาจมีโอกาสสืบพันธุ์มากกว่า หรือมีอายุขัยอีกนานกว่า ก็เป็นเหตุผล ต้องถาหาว่าโปรแกรมเริ่มแรกของมนุษย์ มีไว้เพื่ออะไร  เป้าหมายอยู่ที่ไหน ทั้งอารมณ์ และเหตุผล ต่างร่วมมือกันตอบสนองเป้าหมายนี้ แต่อารมณ์เป็นเบื้องแรก และเหตุผลเป็นสิ่งที่พัฒนาต่อมา ไม่งั้นผู้มีเหตุผล จะเป็นแบบอินฟินิท คิดหาเหตุผลไปเรื่อยไม่สิ้นสุด หรืออาจจะสุดทางที่ความว่างเปล่า ผู้คนก็จะต่างสละชีวิตลงทะเล หรือจะยอมรับสิ่งที่จะเกิด หรือผู้มีเหตุผลจะรับรู้ว่า สังคมเป็นอย่างไร มีการศึกษามาก่อน และทบทวนว่าตนเองจะทำสิ่งใด เพื่อให้สังคมมีคุณค่ามากขึ้น และเหตุผล ก็จะไม่ใช่ลำแสงเส้นเดียว แต่เป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมาก บางครั้งมันอาจมาสิ้นสุดที่หลักปรัชญา ว่าจะเป็นอะไรนิยม(และมันก็ต้องใช้อารมณ์มาตัดสิน) มนุษย์มีโปรแกรมไว้ ผมเชื่อว่าสิ่งนั้นขัดแย้งกับโจทย์นี้ ทำให้ไม่สามารถหาความจริงนั้นได้ .............................................. แต่ถ้าต้องการคำตอบสุดท้าย ถ้าผมจินตนาการ ผมเลือกอยู่ในกลุ่มคนที่มีเหตุผล เหมือนกลไกลของนาฬิกา ที่จะยอมรับ ปรับเข้า เราจะเป็น1เดียวกับจักรวาล ไร้ตัวตน ถ้าหากมีแต่อารมณ์ สันดานดิบของเราจะกำเริบ และเราเจ็บปวด เพราะเรามีอารมณ์ ธรรมชาติสร้างให้เราแสวงหาเหตุผล เพื่อตอบสนองสันชาติญาณที่สำคัญที่สุด การอยู่รอดและความสุข เหตุผลจะเกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่มีมันแล้ว ถ้ามันมีขึ้นไม่ได้ เราแพ้แน่ มนุษย์มีเหตุผล เราต้องก้าวบนบันไดขั้นอารมณ์ ถ้าเราไม่อารมณ์ เราจะใช้เหตุผลเพื่อสิ่งใดกัน ถ้ามีแต่เหตุผล เราอาจเป็นเหมือนอรหันต์ เป็นดวงดาว หรือเหมือนเครื่องซักผ้า ในวัยนี้ผมยังไม่เห็นว่า3อย่างนี้จะต่างกันเท่าไหร่ และผมไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งเลวร้าย .................................................................. แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 23:41:56 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 23:38:57 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 23:38:08 จากคุณ : INFINITE ONE เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:37:17

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วแต่สถานการณ์ครับ ถ้าอยู่คนเดียว ควรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ แต่ถ้าอยู่กับผู้คนอื่นหรือร่วมกันในสังคม ควรใช้อารมณ์(ความเข้าใจในความรู้สึกของคนอื่น) มากกว่าที่จะใช้เหตุผลของตัวเอง แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 52 23:39:18 จากคุณ : Styer เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:37:43

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านคห. ของน้องลูกเป็ดกับน้องพริมจังแล้ว ต้องสอนให้เด็กห้าขวบที่บ้านว่าอย่านั่งเรือไปกับสาวๆแปลกหน้า เนอะ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:40:59

ความคิดเห็นที่ 22   อย่างไหนแย่กว่ากัน ระหว่างมนุษย์ที่ไม่มีเหตุผลกับมนุษย์ที่ไม่มีอารมณ์ ? แย่คนละอย่าง ถ้าถามว่าอย่างไหนแย่กว่ากัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับการยอมรับของแต่ละคน บางคนเลือกคนไม่มีอารมณ์ เพราะหัวอ่อน พูดง่าย เอายังก็ได้ ไม่เรื่องมาก ไม่ตอบโต้ แต่กลับไม่เป็นที่ชื่นชอบของบางคนเพราะรู้สึกเหมือนไร้ชีวิตชีวา กลับไปเลือกคนไร้เหตุผล (ซึ่งไม่จำเป็นต้องหมายถึงคนที่นิยมความรุนแรงเสมอไป) ลุยเป็นลุย เชื่อเป็นเชื่อ ศรัทธาเป็นศรัทธา ไม่ต้องคิดมาก ขึ้นอยู่กับการยอมรับของแต่ละคนครับ จากคุณ : Mr. k เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 52 23:47:32 A:58.11.36.88 X: TicketID:115608

ความคิดเห็นที่ 23 แฟนไม่มีอารมณ์นี่แย่สุด อะไรจะตายด้านขนาดนั้นนนนนนนนน!!!!!! จากคุณ : ด๋อยด๋อย เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 00:07:37

ความคิดเห็นที่ 24 #21 โดนพาดพุง กระซิกๆๆๆ มันเป็นเรื่องสมมติค่ะ เรื่องสมมติ!!! จขคห.นี้ ใจดี รักเด็ก สมกับเป็นนางงามค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น จขคห.ยอมสละชีพเพื่ออนาคตของเด็กๆค่ะ เพราะใช้ชีวิตมามากพอแล้ว ความตายเบาเหมือนปุยนุ่น คลื่นลูกใหม่ย่อมแรงกว่าคลื่นลูกหลัง เด็กๆย่อมมีอนาคตที่สดใสและงดงาม รวมถึงควรจะได้รับโอกาสเรียนรู้โลก และเติบใหญ่ต่อไปในภายภาคหน้า จากคุณ : เป็นนางฟ้าคู่กับพริมจัง (ลูกเป็ดขี้เกียจ) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 00:20:33

ความคิดเห็นที่ 25 ในแง่ของการใช้ชีวิต และดำรงอยู่เพื่อปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันและสิ่งมีชีวิตอื่น การเป็นมนุษย์ที่ไม่มีอารมณ์ อาจจะแย่ในมุมของสัตว์สังคม ที่ผูกมัดกันและกันด้วยอารมณ์ทั้งหลายทั้งปวง แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป มนุษย์ที่ไม่มีเหตุผล ดูจะแย่กว่าหลายเท่านัก อย่างที่หลายๆคห.พูดไปแล้ว ผมไม่พูดซ้ำประเด็นนั้นนะครับ จากตัวอย่าง คห.3 ผมจะไม่ทิ้งเด็ก 5 ขวบลงไปแน่นอน เพราะ 10 กก. จากเด็ก 1 คน แค่อาจจะพอทำให้เรือเล่นต่อไปได้ แล้ว? แล้วถ้าสมมติว่า แค่ 10 กก.ที่หายไป ถ้าจริงๆแล้วเป็นแค่การชลอเวลาจมของเรือล่ะ? ถ้าปัจจัยอื่นที่มีผลกับเรืออาจเป็นเหตุให้เรือจมได้ล่ะ? ถ้าเหตุผลคือการต้องเผื่อเหลือสำหรับแผน2ล่ะ? ความสมดุลและการกระจายน้ำหนัก น่าจะมีผลกับลอยบนน้ำของเรือ ลำพังเด็ก 10 กก. จะช่วยอะไรได้มากมาย ถ้าหากแล่นไปไม่นานก็ต้องประสบปัญหาเรือใกล้จะจมอีก มีต้องทิ้งคนที่ 2 เพื่อลดน้ำหนักอีกหรือ? อย่ากระนั้นเลย เราเลือกทิ้ง คนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดที่มีน้ำหนักมากที่สุดดีกว่า แล้วทำไมไม่ทิ้งเด็ก? อย่างที่กล่าวไป ไม่ใช่แค่น้ำหนักพอเหมาะที่จะพยุงเรือลอยน้ำได้ แต่ความสมดุลและการกระจายน้ำหนัก ก็มีผลเช่นกัน เห็นประโยชน์ของเด็กหรือยังครับ? การที่เด็กมีน้ำหนักแค่ 10 กก. อาจช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการกระจายน้ำหนัก หากต้องการย้ายจากจุด A ไปจุด B ลองนึกภาพผู้ใหญ่พยุงตัวลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนที่ กับเด็กที่ลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนที่ แรงกดเพื่อพยุงตัวจากใคร? ที่มากพอจะรบกวนสมดุลของเรือได้มากกว่ากัน ดังนั้น มีทางเลือก 2 ทาง โดยที่ เด็กหนัก 10 กก. ผู้ใหญ่ที่เหลือ 9 คน เฉลี่ย ประมาณ คนละ 60 กก. 1. หากทิ้งเด็ก ข้อดี     - น้ำหนักลดลง 10 กก. -----> เรือสมดุล แล่นต่อได้ (แต่อนาคตไม่รู้)           - ยังเหลือ 9 คน -----> มีแรงงานพายเรือ 9 แรง ข้อเสีย  - ยังไม่รู้อนาคตที่แน่นอน ไม่รู้ว่าเรือจะมีปัญหาเพราะน้ำหนักอีกเมื่อใด           - ปัญหาเรื่องการกระจายน้ำหนัก และเคลื่อยย้ายจุดจากการถ่ายน้ำหนัก 2. หากทิ้งคนอื่นที่ไม่ใช่เด็ก ข้อดี     - น้ำหนักลดลงไม่น้อยกว่า 50 กก.-----> เรือสมดุล แล่นต่อได้ อนาคตก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ มีส่วนต่างให้อุ่นใจเพิ่ม อีกไม่น้อยกว่า 40 กก.           - กระจายน้ำหนักได้สะดวกกว่า ข้อเสีย  - แรงงานพายเรือลดลง 1 แรง           - ยังไม่รู้อนาคตที่แน่นอน ไม่รู้ว่าเรือจะมีปัญหาเพราะน้ำหนักอีกเมื่อใด เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และผมเลือก ทางที่ 2 เพราะ 1. ถึงแม้จะการทิ้งผู้ใหญ่ จะทำให้แรงงานลดลง แต่ที่ได้มาทดแทนคือเรื่องการกระจายน้ำหนักเพื่อปรับสมดุล 2. แม้ทั้ง2ทางจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่รู้ว่า อนาคตจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักอีกหรือไม่ แต่ อย่าลืมว่า ยังมีส่วนต่างสำรอง อีกไม่น้อยกว่า 50 กก. ที่ถ้าบวกกับการความสามารถถ่ายน้ำหนัก ถึงแม้เรือจะแล่นช้าลง เพราะขาดฝีพาย 1 แรง แต่ก็น่าจะถึงฝั่งได้เหมือนกัน ผมถือว่าทางนี้จะให้โอกาสรอดสูงกว่า ทางที่1 อาจจะมีผู้แย้งข้อได้เปรียบที่กล่าวมาว่า 1. ถ้าสมมติว่า ส่วนต่าง 50 กก. ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะแล่นไปเรือก็จมอยู่ดีล่ะ? - มั่นใจเหรอ ว่าฝีพาย 9 คน จะอยู่รอดจนถึง 9 วัน ถ้าเรือมันล่มก่อนหน้านั้นล่ะ? กลับกัน ส่วนต่าง 50 กก. ถ้ามันจะช่วยยืดเวลาล่มได้ล่ะ เท่าไหร่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ช้ากว่า การทิ้งเด็กแน่นอน ถือว่า โอกาสรอดสูงกว่าได้ไหม? โดยเฉพาะถ้าน้ำหนัก 10 กก.ไม่ช่วยอะไร จะรักษาชีวิตที่เหลือต้องทิ้งน้ำหนักอีกคน อันนี้ไม่ยิ่งแย่เหรอ เพราะนอกจากจะไม่เหลือเด็กไว้ปรับสมดุลน้ำหนักแล้ว โดยที่จำนวนฝีพายเท่ากัน 2. ถ้าการที่ฝีพาย 9 คน ทำให้เรือถึงฝั่งได้ภายใน 9 วัน ในขณะที่ ฝีพาย 8 คนทำให้เรือถึงฝั่งได้ใน 10 วัน แต่เสบียงและน้ำบนเรือ พอประทังได้แค่ 9 วัน เกินไป 1 ชม.ก็ไม่ได้ล่ะ? - อย่าลืมว่า มีปัจจัยควบคุมที่ไม่ได้เพิ่มหรือลดตามตัวแปร 1 อย่างคือ เสบียงและน้ำ เพราะอะไร? เพราะถ้าหากว่า เราทิ้งเด็ก 1 คน แต่เราคงไม่ทิ้งเสบียงตามเด็กลงไปด้วยแน่ (ใช้เหตุผลไง) เหมือนกัน ทิ้งผู้ใหญ่ เราก็ไม่ได้ทิ้งเสบียงเหมือนกัน ดังนั้น เสบียงที่เพียงพอสำหรับ "ผู้ใหญ่" 9 คน มันก็ควรจะเกินพอสำหรับ"ผู้ใหญ่" 8 คน ส่วนเด็ก 5  ขวบ 1 คน คงไม่ใช้ทรัพยากรมากกว่า ผู้ใหญ่ 1 คนแน่นอน  ดังนั้นส่วนต่างของเสบียงที่เหลือเมื่อเฉลี่ยให้กับ 8 คน น่าจะพอประทังไปได้มากกว่า 8 วัน แต่จะถึง 9 วันหรือไม่ ไม่รู้ สรุป ถึงแม้ท้ายที่สุด ทั้งสองทาง อาจจะไม่รอดทั้ง 2 ทาง แต่ผมว่า ทางที่ผมเลือก โอกาสรอดน่าจะสูงกว่านะครับ จริงไหม? ทีนี้ กลับมาที่ จะทิ้งใครใน 8 คน ก็อย่างที่ผมบอกไว้ ใครก็ตามที่ ประสิทธิภาพต่ำสุดและน้ำหนักมากสุด คนนั้นแหละครับ และถึงแม้จะกลายเป็นว่า คนๆนั้นคือ ตัวผมเอง ก็ไม่มีปัญหา ยอมโดนจับโยนทิ้งน้ำอยู่แล้ว เพราะอะไรล่ะ? ย้อนไปที่โจทย์ มนุษย์ไร้อารมณ์ แสดงว่า ไม่มีอารมณ์ใดๆ ไม่ว่าจะ รัก ชอบ โลภ โกรธ เกลียด กลัว ดังนั้น ผมไม่ได้รักตัวเอง ชอบตัวเอง ผมไม่ได้โลภจะเอาตัวรอดคนเดียว ไม่ได้โกรธหรือเกลียด คนที่จับผมโยนน้ำ ไม่ได้กลัวความตาย ดังนั้น เมื่อผมไม่มีแรงขับดันทางอารมณ์ใดๆภายในตัว แล้วทำไมจะตายไม่ได้ ทำไมผมต้องดิ้นรนไม่ให้ตัวเองตาย? สรุปสั้น ถ้าในเรือ 10 คนเลือกที่จะทิ้งเด็กละก็ ผมว่า 9 คนนั้นนอกจากจะไร้อารมณ์แล้ว ยังจะไร้สมองสำหรับกรองหาเหตุผลอีกด้วยนะครับ จริงไหมเอ่ย??? จากคุณ : กวิวัฏ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 00:29:21

ความคิดเห็นที่ 26   ทารกอุแว้ๆ ไงมีแต่อารมณ์ เหตุผลคงยังไม่มี ถ้าคนโตๆ เป็นแบบนี้ก็หมดกันพอดี จากคุณ : แกะน้อย เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 01:49:55 A:124.121.40.66 X: TicketID:213816

ความคิดเห็นที่ 27 ก่อนอื่นต้องมองก่อนว่าคำถามนี้ใช้ค่านิยมของอะไรมาตัดสิน แน่นอนว่าค่านิยมที่ต่างกันเช่น สังคมที่นิยมความมีเสถียรภาพ ก็บอกว่าไร้อารมณ์ดีกว่า ส่วนสังคมที่นิยมความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวไปมา ก็ย่อมบอกว่าไร้เหตุผลดีกว่า ดังนั้นถ้ามองในแง่ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ประเด็นจึงถูกเบี่ยงไปที่ใช้กรอบคิดอะไรมองอยู่ แต่ถ้าจะวัดกันแบบไร้กรอบคิดใดๆแล้ว ก็ยากยิ่งที่จะบอกว่าอะไรแย่กว่ากัน ทั้งมิติของการทำลาย และมิติของการสร้างสรรค์ หากแต่สามารถจำแนกได้ว่า ถ้าเกิดมนุษย์ไร้อารมณ์นั้น จะก่อให้เกิดภาวะเข้าสู่ความเสถียร เพราะชุดคิดของเหตุและผลต้องตั้งอยู่บนองค์ความรู้ซึ่งเป็นอดีตเสมอ จึงเข้าสู่การวนในวัฏจักรเดิม ถ้าเกิดสิ่งใดก็เกิดสิ่งนั้นเป็นนิจเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงเป็นไปได้ว่าถ้ามองในเชิงคณิตศาสตร์ มันก็เหมือน lim x->0 ส่วนหากมนุษย์ไร้เหตุผลแล้ว ความเสถียรภาพก็ถูกสั่นคลอน มีความแปรปรวนอยู่ต่อเนื่อง และไม่สามารถจำแนกได้ว่าสิ่งต่อไปในอนาคตจะเกิดขึ้นจากอะไร เพราะอารมณ์เป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว เมื่อมองเชิงคณิตศาสตร์มันดูเหมือน lim x->inf มาถึงตรงนี้ผมมองว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าอะไรถ้าเราเลือกไร้อารมณ์ ผมจะถามว่า ชีวิตคืออะไร? แล้วถ้าเลือกไร้เหตุผล ผมก็จะถามว่า อะไรคือความสงบสุข? จากคุณ : blueocynia เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 04:41:52

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่มีใครทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล เพียงแต่เหตุผลที่มี มันอาจไม่เป็นเหตุเป็นผลในมุมมองของผู้อื่น ไม่ว่าทำสิ่งใด ก่อนจะมีเหตุผล มันต้องมีจุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหมายที่ต้องการมักเป็นผลจากอารมณ์ งานที่กระทำโดยไม่ต้องใช้อารมณ์กำหนดจุดมุ่งหมาย มันก็คืองานที่ไม่ต้องใช้การตัดสินใจ เมื่อไม่ต้องใช้การตัดสินใจ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เหตุผล (พวกงาน routine ทำงานเหมือนเครื่องจักร) จากคุณ : มั้ง (คาเมะจัง) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 06:26:39

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นมนุษย์ย่อมมีสมดุลระหว่างการใช้เหตุผลและอารมณ์ อย่างไหนแย่กว่ากัน ระหว่างมนุษย์ที่ไม่มีเหตุผลกับมนุษย์ที่ไม่มีอารมณ์ ทั้งสองอย่างไม่ได้แย่ไปกว่ากัน แล้วแต่บริบทและทัศนคติของบุคคลดังกล่าว ไร้อารมณ์อาจนำมาซึ่งสิ่งที่ถูกต้อง (นิยามความถูกต้องแตกต่างกันอีกในแต่ละคร) ไร้เหตุผลอาจนำมาซึ่งความสุข ผมสนับสนุนให้ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่นครับ จากคุณ : ปัจเอนก เจกชน เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 07:02:44

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่มีเหตุผลแย่กว่า ผมเชื่อว่า การตัดสินใจที่ถูกต้อง เกิดขึ้นได้เมื่อ เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์(อาจต้องใช้ข้อมูลอารมณ์เป็นอินพุท แต่การตัดสินใจต้องเป็น rational) ดังนั้นถ้าให้เลือก ผมย่อมเลือกให้ผมมีเหตุผลสมบูรณ์ แต่ไร้อารมณ์ การที่บอกว่าขาดอารมณ์ย่อมไร้ความสุนทรีย์ใดๆ ชีวิตตกอับเศร้าสร้อย ก็จะไปสนอะไรล่ะครับ ในเมื่อ ไร้อารมณ์ ก็ย่อมหมายถึงไม่ต้องการความสุนทรีย์ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว การสูญเสียสิ่งที่ไม่จำเป็นก็เท่ากับไม่สูญเสีย ในขณะที่การสูญเสียเหตุผล(ซึ่งช่วยให้อยู่รอดได้) เสียหายกว่ามาก ปล. เหตุผลข้างบนโยนทิ้งไป ถ้าสภาพแวดล้อมเป็นป่า หรือ ยุคหิน จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 07:37:14

ความคิดเห็นที่ 31 ชอยส์ทั้งสองของจขกท. มันเป็นกรณีสุดโต่งในขั้วตรงข้าม ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้ โลกไม่มีแต่สีขาวหรือดำล้วน มีแต่เทามากเทาน้อย แล้วเทาไหนจะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นกับบริบทในขณะนั้น จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 08:22:06

ความคิดเห็นที่ 32 พูดถึงอารมณ์แล้วนึกถึงหนังเรื่อง Equilibrium (นักบวชฆ่าไม่ต้องบวช) หนัง Cult ปี 2002 ที่ผมชอบเรื่องหนึ่งเลย คอนเซปต์ของหนังคืออารมณ์เป็นสิ่งชั่วร้ายดังนั้นต้องหยุดอารมณ์ด้วยยา ใครที่ไม่กินยาหยุดอารมณ์ต้องถูกประหารชีวิต... (สปอยเยอะเ้ดี๋ยวดูไม่สนุก) ในความคิดผมถ้ามีเหตุผลแต่ไม่มีอารมณ์ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ถ้ามีแต่อารมณ์โดยไม่มีเหตุผลคงดำรงชีวิตอยู่ยาก จากคุณ : HonLin เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 08:48:15

ความคิดเห็นที่ 33 แวะมาอ่านตอนเช้าอีกรอบค่ะ... สมมุติว่าไม่มองตัวอย่างใดใดเลย มองแต่คำถามของคุณคลิป... ...ไร้เหตุผลกับไร้อารมณ์ อันไหนแย่กว่ากัน... ขอแยกเป็น 4 ประเภทก่อนค่ะ - ไร้เหตุผลแล้วมีอารมณ์ - ไร้เหตุผลไร้อารมณ์ - มีเหตุผลมีอารมณ์ - มีเหตุผลแต่ไร้อารมณ์ มองในแง่ที่ว่า เหตุผลที่มีนี่เป็นเหตุผลในเชิงสร้างสรรค์นะคะ ส่วนอารมณ์นี้มองในรูปแบบอารมณ์ที่ไม่เป็นที่พึงปรารถณา.. ไร้เหตุผลแล้วมีอารมณ์ --- อันนี้น่าจะทำให้ก่อปัญหามากที่สุด ไม่น่าเสวนาด้วยประการทั้งปวง เพราะนำพาไปสู่การทะเลาะวิวาทได้ง่ายมาก ไร้เหตุผลไร้อารมณ์ --- อันนี้น่าจะเป็นประเภท ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ ยังอาจพอรับได้ มีเหตุผลแล้วมีอารมณ์ --- ประเภทนี้ก็น่ากลัวไม่แพ้ประเภทแรกค่ะ เพราะอารมณ์ที่มีนั้นอาจบดบังเหตุผลที่ดีที่มีไปเสีย อันนี้เห็นได้บ่อยบ่อยเลย..เช่น อยากเสนอแนวคิดที่มีประโยชน์แต่พอมีการใช้อารมณ์เสียแล้ว แนวคิดนั้นก็แทบไม่มีใครสนใจ เพราะมัวแต่ไปวิวาทะกับอารมณ์นั้นเสีย.. มีเหตุผลแต่ไร้อารมณ์ --- อันนี้น่าจะเป็นลักษณะของผู้นำที่ดีนะคะ..คือไม่ควรปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุและผลใดใด...ค่ะ จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 09:19:39

ความคิดเห็นที่ 34 อารมณ์คือเหตุผล หนึ่งของมนุษย์ครับ เหตุผลของแต่ละปัจเจก ก็ต่างกันไป   ไร้อารมณ์  ก็คือ มีอารมณ์แบบนิ่งเป็นหินก็ได้ ไร้เหตุผล  ก็คือมีหตุผล แบบ เอาอัตตาเป็นที่ตั้งก้ได้ ไม่มีใครบอกว่าเหตุผลใดจริงแท้  เพราะเหตุผล มาจากตนเองก่อนก็ได้  ความรู้นำมาซึ่งเหตุผล แต่มนุษย์ไม่สมบูรณ์ จึงไม่มีเหตุผลที่ตรงกัน จากคุณ : นบนอบ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 09:22:49

ความคิดเห็นที่ 35 ปัญหาคือไม่มีมาตรวัดไหนเลย ที่จะวัดความ มีอะไร หรือ ไม่มีอะไร ของคนอื่น      เราวัดด้วยตัวเราเองทั้งสิ้น ในความเป็นจริงคือทั้งเหตุผลและอารมณ์จะถูกใช้ออกมาด้วยกัน   แต่จะในสัดส่วนมากน้อยแตกต่างกันไป ที่สัดส่วนแตกต่างกันมากๆ  เราก็จะตัดสินว่าคนๆนั้น  วิกลจริต ไป ดังนั้นคำตอบคือ   ไม่มีอะไรแย่กว่ากัน         ถ้าจะแย่คือตัวเราเองเท่านั้น จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 09:25:08

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเริ่ม ด้วยการตอบง่ายๆ นะครับ สมมติใช้อารมณืกัน ทั้งหมดอาจจะตายหมด แต่ด้วยเหตุผลของผม ง่ายๆ อาจจะตัดแขนทิ้งคนละข้าง รีดน้ำหนักออกจากตัวมากที่สุด ตัดชิ้นส่วนเรือ เอาสเบียงออกลอยน้ำ หรือ สุดท้ายที่ผมคิดได้ ให้ลอยน้ำเกาะเรือเป็นระยะๆ ผลัดกันลงมาลอยน้ำก็ได้ มนุษย์ที่มีเหตุผล เค้าพัฒนากันไปไกลแล้ว ไม่ต้องมากอดคอกันตายกับปัญหาแบบนี้ ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ในทุกยุคทุกสมัย ถ้าเราเป็นหุ่นยนต์กันจริงๆ คงจะไม่ต้องสนใจเรื่องอารมณ์ แต่จริงๆเราเป็นคน เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ยังไงก็ต้องสนใจเรื่องนี้ ยิงประเดนเลย อารมณ์ดียังไง หลายๆคนพูดถึงว่า ไม่มีอารมณ์ แล้วจะไม่มีความสุข ศาสนาพุทธ สอนถึงเรื่อง การมีความสุข โดยไม่ต้อง พึ่ีงพาอารมณ์ ซึ่งเค้าเสนอว่า เป็นสุขอย่างมั่นคง มนุษย์โลกทั่วไป คงไม่ต้องถึงกับ สลัดอารมร์ทิ้งให้ได้ แต่ศึกษาเท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้น ปิดคำตอบผมด้วยประเดนว่า เราอยู่ในจักรวาลที่ พอจะมีเหตุผลอยู่ ก็เลยต้องมีเหตุผล ถ้าพื้นฐานจักรวาลของเรา ดำเนินไปตามอารมณ์ ดวงอาทิตย์ขึ้นทางนู้นบ้าง ทางนี้บ้าง ผู้ชำนาญทางการใช้อารมณ์อาจจะได้เปรียบกว่า อ้อ ลืมตอบความเห็นแรก อยากให้คนใช้อารมณ์ทำงาน ก็ทำให้เค้า อยู่ในอารมณ์ ที่อยากจะทำงาน อยากให้คนใช้เหตุผล สนุกไม่น่าเบื่อ ก็หาเหตุผลให้เค้า ทำตัวสนุก ไม่น่าเบื่อ ทำอะไรที่สอดคล้องกับ ธรรมชาติ มันจะจะมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเปลือง เรี่ยวแรง พลังงาน ทรัพยากรมาก สุดท้าย อาจจะไม่ใช่ว่า อะไรดีกว่า แต่ คุณ เหมาะกับอะไร มากกว่า อีกอ้อนึง ดูผ่านๆ เพิ่งเห็น ก็มีคนใช้เหตุผล แบบเป็นเรื่องเป็นราวอยู่เหมือนกัน จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 09:30:55

ความคิดเห็นที่ 37 แน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลแย่กว่า ไม่มีอารมณ์สามารถอยู่รอดได้ แต่ถ้าไม่มีเหตุผลไม่สามารถอยู่รอดได้ แต่ในความเป็นจริงเหตุผลเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เราอยู่รอดได้ ถ้าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว จากคุณ : kruto เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 09:38:30

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ INFINITE ONE ถ้อยคำสวยงามดีนะครับ ชอบ เสริม ความคิดเห็นที่ 25 กลายเป็นว่า คนไม่มีอารมณ์ที่สุด จะโดนโยนทิ้งซะ เหตุผลนึง ที่คุณควรจะดิ้นรนให้ตัวเองรอด คือ คุณอาจจะเป็นตัวหลัก ที่จะทำให้คนอื่นๆรอด จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 09:47:22

ความคิดเห็นที่ 39 นี่คงบอกคุณCrypt ได้เลยว่า การยกตัวอย่าง การสมมติ ให้กับคำถามที่เห็นภาพอยู่แล้วนั้น สร้างปัญหาได้ ผมตอบง่ายๆก็แล้วกันครับ "ผมชอบSpock มากกว่า Mccoy" จากคุณ : powerconduit เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 10:06:00

ความคิดเห็นที่ 40 #39 ถูกต้องนะคร้าบบบบ ผมก็ชอบ Spock มากกว่าเหมือนกัน น่าเบื่อจังอีตา Mccoy จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 10:24:50

ความคิดเห็นที่ 41 เปิดหน้าต่างค้า้งไว้แล้วก็ไปทำงงทำงาน รับโทรศํพท์ ธุระอื่นๆ นานมาก  กว่าจะได้มาจิ้มตอบ ตอบยาวๆไม่ค่อยเป็น... ขอตอบสั้นๆละกันนะ ยังไงก็เลือก ไร้อารมณ์แต่มีเหตุผล มากกว่าไร้เหตุผลนะ และถึงแม้บางเหตุผลนั้นจะเป็น เหตุผลที่เข้าข้างตัวเอง (ซึ่งมันคล้ายๆกับไม่มีเหตุผล) แต่ผลที่ตามมาก็จะคล้ายๆกับการไร้เหตุผลนั่นแหละ ไม่ชอบเลย คนไร้เหตุผล เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ชั้นต้องถูก ชั้นต้องชนะ เหอๆๆ อ่า... เพิ่งเจอมากับตัวเมื่อวาน.... เซ็งเล็กน้อยกับผู้ใหญ่ที่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เป็นศูนย์กลาง ชั้นตำแหน่งสูงกว่าชั้นใหญ่กว่า ทุกคนต้องเชื่อฟังชั้น ชั้นไม่ฟังใครเพราะชั้นอยากได้แบบนี้ ชั้นสั่งทุกคนต้องทำตาม ทั้งๆที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นแต่ชั้นอยากจะให้มันเป็น ใครมีปัญหามั้ย บลาๆๆ เหนื่อยใจมากทำงานกับหลายๆคนที่ไม่ค่อยมีเหตุผล ชอบเอาชนะเพราะกลัวเสียหน้า เสียฟอร์ม....ดูแล้วไม่ต่างจากเด็กเลย เหตุผลอยู่ตรงไหน.... ทำไมไม่ดึงขึ้นมาใช้ อย่างน้อยพิสูจน์วุฒิภาวะทางอารมณ์ของตัวเองด้วย...ดีกว่าทำตัวเป็นเด็กๆเป็นไหนๆ จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 11:13:28

ความคิดเห็นที่ 42 ผมชอบ Data มากกว่า Spock จากคุณ : The Absurdist เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 11:13:47

ความคิดเห็นที่ 43 มีเหตุการณ์นึง ที่เกิดกำลังเป็นประเด็นใน USA มีเด็ก 2 ขวบ กำลังถูกศาลสั่งไล่ออกนอกบ้าน เกิดจากตา ยาย รับหลานมาเลี้ยง เนื่องจากพ่อแม่เด็กติดคุก แต่พวกเค้าอยู่ในนิคมคนสูงอายุ ซึ่งทางสมาคมกำหนดไว้ว่า คนที่พักอาศัยอยู่ต้องมีอายุ 55 ปีขึ้นไป ทั้งตาและยาย ก้พยายามแก้ปัญหาด้วยการประกาศขายบ้านหลังนี้แล้ว เพื่อไปอยู่ที่อื่น แต่ยังขายไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงวิกฤติอสังหาริมทรัพย์อยู่ ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาล หากศาลตัดสินแล้ว จนท ต้องมาบังคับคดีไล่เด็กออกจากบ้าน ในนิคมนั้นความเห็นก็แตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายไร้เหตุผล บอกว่า ไม่สงสารเด็กหรือไร ฝ่ายไร้อารมณ์ บอกว่า กฏต้องเป็นกฏ *edit แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 11:29:33 จากคุณ : กระเพาไก่ไข่ดาว เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 11:19:55

ความคิดเห็นที่ 44 มีแต่ Spock ไม่มี Mccoy ...ไม่มี ดราม่า ให้เสพย์นะคะ เธอว์.... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 11:31:16

ความคิดเห็นที่ 45 มนุษย์ ไม่มีเหตุผล  --> น่ารำคาญ มนุษย์ไม่มีอารมณ์  --> น่าเบื่อ แค่นั้นล่ะมั้ง จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 11:42:17

ความคิดเห็นที่ 46   เหตุผล กับอารมณ์ต่างต้องการที่ยึดหลักบางอย่าง เหตุผลนั้น อาจอยู่ในกรอบของกฏ การรับรู้ และจารีต วัฒนธรรม หรือเหตุผลนั้นอาจไม่มีกรอบ แต่ต้องคิดหาจากธรรมชาติ และอาจหาที่สิ้นสุดไม่ได้ นั่นก็เป็นหนทางไปสู่นิพพาน ?? หรือไม่อย่างไร ตัวอย่างของ คห.43 ทำให้ผมนึกถึงความต่างของเหตุผล ว่าเหตุผลของแต่ละคนอาจจะอยู่ในกรอบๆหนึ่ง บางที ส่วนลึกอารมณ์นั้นก็จำเป็น ยิ่งกว่า เพราะมันหมายถึงสิ่งที่ตอบสนองกรอบของความรู้สึก ไม่มีอะไรที่เราต้องการมากกว่าอารมณื์นั้น หรืออารมณ์นั้นคือสิ่งจำเป็น เหตุผล ของคน กับของสมองอาจต่างกัน บางอย่างเราคิดได้ บางอย่างสัญชาตญาณสั่งมา เช่น คุ้นๆว่า อมิกดารา เป็นสมองส่วนเก่าแก่ มันถูกโปรแกรมไว้ให้คิดแบบไม่ต้องคิด (อารมณ์?) เมื่อเจอภัยคุกคาม จะสู้ หรือจะหนี จะบ้าบิ่น หรือหวาดกลัว ปกติ สมองส่วนอารมณ์จะมีกระแสประสาทไวกว่าการคิดแบบตรรกะ คนเราอาจผลั้งมือผลั้งไม้ได้ อารมณ์เป็นก็เหตุผลของธรรมชาติ แต่ในสังคมยุคใหม่ บ่อยครั้งมันจะนำความผิดพลาด สามี ตี ภรรยา เพื่อน ด่า เพื่อน ลูกฆ่าแม่ การมีเหตุผลอย่างสูง ที่สุดแล้ว จะต้องคำนึกถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย อาจคำนึงถึงผู้อื่น แต่กลับตัวเอง อาจคำนึงไม่ได้ เพราะว่าอารมณ์เราเองจะไปไวยิ่งกว่า เหตุผลเป็นของใหม่ จะให้รับใช้อารมณ์ก็สุข หรือจะให้มันว่าง ก็แล้วแต่ ที่เชียร์เหตุผล เพราะเหตุผลนั้นมักมีด้านเดียว เพราะเป็นเครื่องมือขั้นสูง (คงไม่มีใครคิดหาความวุ่นวายมาสู่ตนเอง และดลก ถ้าเ็นไปได้) แต่อารมณ์จะมี2ด้าน ส่วนตัว ผมคิดว่าทั้ง2สิ่ง ไม่ใช่อะไรที่เป็นคู่ตรงข้ามกัน หรือเกี่ยวพันกันอย่างที่สังคมบอก การเปรียบเทียบเลยยุ่งๆ จากคุณ : INFINITE ONE เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 13:14:13

ความคิดเห็นที่ 47   ไม่มีอารมณ์ ค่าเท่ากับ ศูนย์... ไม่มีเหตุผล หาค่าประเมินมิได้... ตามหลักทฤษฎีของ ผีแอะ... จากคุณ : ผีแอะ (ผีแอะ) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 13:37:12

ความคิดเห็นที่ 48 Spock... Mccoy ....ตกข่าวอีกแหงเลยเรา จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 13:44:28

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ผวนมาจาก spoil-mc-cock :P จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 14:46:59

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับคุณกวิวัฏนะคะ ถ้ามีเงื่อนไขแบบแค่มีเหตุผลแต่ไม่มีอารมณ์มาเกี่ยว คิดว่าคนบนเรือทุกคนมีเหตุผล ก็คงจะพยายามหาวิธีด้วยเหตุและผล เพื่อเอาตัวรอดทั้งหมดมากกว่า หรือแค่ ทำอย่างไรให้อยู่นานที่สุด หรือ  จากเหตุผลดังนี้แล้ว  เราไม่สามารถอยู่รอดได้ ก็อาจจะหาวิธีตายแบบไม่เจ็บปวด (แหะๆ) แต่เวลาเราอ่านเราไม่ตัดเฟคเตอร์ด้านอารมณ์ออกไปเลยรู้สึกว่าพวกที่ใช้เหตุผล ไร้มนุษยธรรม หรือเอาความคุ้นชินทางด้านศีลธรรมของเรามาเอี่ยวไปด้วย กลุ่มที่นิยมเหตุผลมันก็ดูแย่ เลือกอยู่กับคนที่ใช้เหตุและผลจริงๆ(มันก็มีพวกที่ใช้อารมณ์แต่แสร้งทำเป็นมีเหตุผลเพื่อเข้าข้างตัวเองก็มี) เพราะน่าจะปวดหัวน้อยกว่า.. จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 14:59:04

ความคิดเห็นที่ 51   ถ้าไม่มีเหตุผล มีแต่อารมณ์คงเป็นแบบนี้ http://www.youtube.com/watch?v=dJ7mMSNIz4w คำเตือน : มันสะเทือนใจ มันโหดร้ายนะ จากคุณ : เศร้า และสงสาร เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 15:41:39 A:125.27.98.19 X:

ความคิดเห็นที่ 52   สป็อกนี้ คงเป็นชื่อพระรองของสตาร์แท็ค ผมก็ชอบมากกว่าพระเอกนะ เท่ดี แต่ในหนังเขาบอกว่าไม่ได้ตายด้านนิ นึกถึงตอนนึง ที่สป็อกโมโห แล้วดดนปลดจากตำแหน่งชั่วคราว ตำราคลาสสิกว่าพวกผู้นำต้องรู้จักเก็บอารมณ์ และใช้แต่เหตุผล แต่สมัยใหม่คงต้องเป็น ผู้นำต้องรู้จักวาดลวดลายทางอารมณ์มากกว่า ในฐานะที่เรียนไมเนอร์การตลาด จริงๆสังคมทุกวันนี้ ต้องบอกว่าการจะทำอะไรเราต้องยิงสู่อารมณ์ทั้งนั้นแหละ เรื่องเหตุผล ก็ต้องสร้างมาเพื่ออารมณ์ในท้ายสุด สินค้า ผลิตภัณฑ์ แนวคิด ที่เน้นฟังชั่นการใช้งาน เน้นเหตุผล ในที่สุดแล้วมันจะต้องผ่านอารมณ์ก่อนเสมอ ผู้คนจะรับหรือไม่ จะสำเร็จหรือไม่ อารมณ์เป็นกรอบของมนุษย์ตลอด เป็นผิวหนังห่อหุ้มการตัดสินใจ ส่วนที่ต้องสัมผัสในขั้นท้าย ตราบเท่าที่เป็นมนุษย์ แม่แต่ตลาดองค์กร ขายเครื่องจักร ก็ยังต้องใช้อารมณ์ แต่เรื่องตัวละครผมชอบคนนี้มากกว่า เป็นพวกอารมณ์ถดถอย สาวทิ้ง ขออย่างเดียว เทพ จากคุณ : INFINITE ONE เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 15:51:16

ความคิดเห็นที่ 53 จำลองฉากบนเรือ ที่มีผู้มีแต่เหตุผล(ของตัวเอง) อยู่ 8 คน กับเด็ก 5 ขวบ 1 คน ด้วยเหตุและผล ทำให้ทั้ง 8 คน สรุปในขั้นแรกได้ว่า ด้วยน้ำหนักปัจจุบัน ผู้ใหญ่ 8 คน กับเด็ก 1 คน เรือจะจมแน่ๆ เพราะคลื่นทะเลก็สูง ลมก็แรง เสบียงก็น้อย ต้องทำให้เรือเบาลง และใช้เสบียงให้ได้ประหยัดที่สุด จึงจะมีโอกาสรอด ไปถึงเกาะ หรือรอจนมีคนมาช่วยได้ในที่สุด ทางออกจึงมี 1.จับเด็กโยนลงทะเล เพราะเด็กไร้ประโยชน์ที่สุดบนเรือ 2.จับผูใหญ่ 1 คน โยนลงทะเล ทางเลือก 1 ดูจะง่ายที่สุด แต่การโยนเด็กลงทะเล ก็แค่ช่วยให้เรือเบาขึ้นอย่างมากก็ 20กิโล และประหยัดอาหารในส่วนของเด็กไป ทางเลือกที่ 2 ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าทางเลือกที่ 1 แต่ คงไม่มีใครอยากตายแน่นอน ดังนั้น ถ้าจะเลือกข้อ 2 ก็ต้องหาวิธีฆ่าอีก 7 คนทีเหลือก่อน... มันจะเหมือนกับตัว Window ที่ถ้าฮาร์ดดิสต์เต็ม มันจะบังคับให้เราลบโปรแกรมอื่นทิ้ง แต่จะไม่มีตัวเลือกว่า ให้เราลบตัว window ทิ้งนั้นแหละ จากคุณ : ปูม้า16 (ปูม้า_16) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 16:11:19

ความคิดเห็นที่ 54 คนอาศัยในบ้านเมือง คนมากๆเรียกว่าสังคม สังคมที่ใช้ แต่ เหตุผล กับ สังคมที่ใช้ แต่ อารมณ์ บ้านเมืองไหนน่าอยู่กว่า ในตัวสถานการณ์น้อยๆ บางครั้ง อารมณ์จะมีผลเหนือเหตุผล แต่เมื่อ คนมากๆแล้ว เหตุผล จะต้องมาก่อน อารมณ์ เสมอ ดังนั้น คำตอบ คือ คนไร้เหตุผล จะแย่กว่าเสมอ ปัญหาที่ยากในการใช้ชีวิต คือ เหตุผล มักจะเป็นข้ออ้างของอารมณ์ เสมอ ดังนั้น คำว่า เหตุผล ที่แท้จริง จึงต้องมาจาก เจตนา ที่ไม่มีอารมณ์ โลภ โกรธ หลง มาเกี่ยวข้อง สมมติว่าเรือลำหนึ่งประกอบด้วยมนุษย์ที่มีเหตุผลแต่ไร้อารมณ์ทั้งหมด 10 คน และเด็กวัยห้าขวบหนึ่งคน เรือกำลังจะจม ทุกคนบนเรือต่างทิ้งสิ่งของไม่มีค่า ไม่จำเป็นหมดแล้วเรือก็ยังจะจม แต่บรรดาผู้มีเหตุผลบนเรือได้คำนวณแล้วว่าหากทิ้งน้ำหนักลงน้ำไปสัก 10 กิโลกรัมเรือก็จะยังพอทรงตัวได้ถึงฝั่ง ทุกคนจึงตัดสินใจโยนเด็กห้าขวบลงทะเลไปเพราะเด็กไม่มีประโยชน์ที่สุด ช่วยตัวเองไม่ได้และเป็นภาระ ขณะที่เสบียงและน้ำสะอาดบนเรือต่างจำเป็นต่อการรอดชีวิตมากกว่า ^^ สมมุติว่า มีทางเลือกเดียวจริงๆ คือ ทิ้งเด็ก ทางเลือกอื่นๆขอพักไว้ก่อน จะทิ้งไหม ? เป็นผมผมทิ้ง เพราะไม่ว่า อย่างไรเสีย ทิ้งเด็กก็ไม่รอด ไม่ทิ้งเด็กก็ไม่รอด คิดตามผลประโยชน์แล้ว การทิ้งเด็ก เป็นทางเดียวที่ดีที่สุดกว่าการให้คนสิบคนตาย สู้ให้ เก้าคนรอดดีกว่า อย่างไรก็ดี นี่คือการวิเคราะห์จากเงื่อนไขว่า ต้องทิ้งเด็กเท่านั้นจึงรอด เช่น เรือต้องใช้ผู้ใหญ่ 9 คนเสมอ และรู้อนาคตแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราจะเลือกอย่างนี้ได้หรือครับ ในเมื่อเราไม่รู้อนาคต เรา เลือก เพราะ เรา คิดว่า การเลือกนั้น ดีที่สุด คำว่า ดีที่สุด แย่ที่สุด มันก็ คือ การใช้อารมณ์นั่นแหละครับ จากคุณ : the_architect เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 17:25:09

ความคิดเห็นที่ 55 spoil เข้าใจ แต่ -mc-cock  อารัยแว๊ ใบ้อีกนิดๆ นะ คุณลูกเป็ด จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 17:44:59

ความคิดเห็นที่ 56 ชาวหว้ากอ นี่ลูกทะเล ของแท้ เลยนะครับเนี่ย.... ผมก็เป็น แหะๆ ขอยกพระราชดำรัส มาใช้ ตอบคำถาม จขกท ครับ "ถ้าท่านทั้งหลายช่วยกันคิด ช่วยกันทำ – แม้จะมีการเถียงกันบ้างก็เถียงกัน แต่เถียงด้วยรากฐานของเหตุผล และเมตตาซึ่งกันและกัน – และสิ่งที่สูงสุดก็คือประโยชน์ร่วมกัน คือความพอมีพอกิน พออยู่ ปลอดภัยของประเทศชาติ ทั้งนี้ถ้าทำไปตามที่ว่านี้ก็เป็นของขวัญวันเกิด ที่ล้ำค่า (พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๗)" จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 17:49:02

ความคิดเห็นที่ 57 #55 ดันเชื่ออีก เค้าแค่เล่นมุกผวนคำน่ะ - -" คงเพราะเค้าเป็นคนดีสินะ ใครๆถึงเชื่อเค้าง่าย... จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 18:01:46

ความคิดเห็นที่ 58 #54 การประเมินไม่จำเป็นต้องมาจากอารมณ์นี่ครับ มาจาก decision tree หรือ expected value ก็ได้ ไม่เคยซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า แบบแกะฟีเจอร์มาตีราคา แล้วบวกกลับ โดยไม่ดูแบรนด์เหรอครับ ผมทำบ่อย เช่น ยี่ห้อ A ทำได้ ก ข ค ง ยี่ห้อ B ทำได้ ข ค ง ผมก็จะประเมินว่า แต่ละฟีเจอร์คิดเป็นเงินเท่าไหร่ คำนวณหาความคุ้มค่า + ความต้องการ แล้วก็จิ้มเลย ลงตัวไหนก็ตัวนั้น ผมเห็นแบรนด์หลังสุด ดังนั้น ผมตอบได้ว่า กระบวนการตัดสินใจผมไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง(มีแต่ utility + cost) จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 18:02:32

ความคิดเห็นที่ 59 เพิ่มนิด ผมว่าเหตุผลในที่นี้ ไม่ใช่ reason ครับ แต่เป็น rational คือระบบความคิด ที่ สมเหตุสมผล น่าจะตรงกับเจตนา จขกท มากกว่า จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 18:03:40

ความคิดเห็นที่ 60   น่าคิดจริงๆ ก็อยากจะเห็นด้วยกับประโยชน์มวลรวมต้องมาก่อน การทดลองในความคิด ถ้ามีเอเลี่ยนบ้าจี้อยากทดลองทางเลือก จับคนที่เรารักที่สุดไป แล้วให้เราเลือก ระหว่างมนุษย์ทั้งหมด กับ คนที่เรารัก เพียงหนึ่ง แม่จะทิ้งลูกได้ไหม เราจะทิ้ง พ่อ แม่ได้ไหม เหตุผล กับอารมย์ สป๊อค จะเลือกอะไร เดต้า จะเลือกอะไร กัปตันเคิร์กจะเลือกอะไร นีโอ จะเลือกอะไร จากคุณ : mm เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 23:41:11 A:180.183.3.234 X: TicketID:207667

ความคิดเห็นที่ 61 มนุษย์ไม่มีเหตุผลแย่กว่า การดำรงชีวิตมีคุณธรรมบางส่วนสัมพันธ์กับเหตุผล สาเหตุที่ผู้ใหญ่ควรลุกให้เด็กและคนชรานั่งบนรถเมล์ ก็เพราะว่าคนเหล้านั้นอ่อนแอกว่าตามธรรมชาติ นี่ถือเป็นเหตุผล ถ้าคนมีเหตุผลจะลุกขึ้นและให้คนเหล่านี้นั่ง ซึ่งเหตุผลนี้มันไปสัมพันธ์กัคุณธรรมในการใช้ชีวิตขึ้นมา แต่ถ้าคนที่มีแต่อารมณ์จะไม่แคร์สิ่งรอบกายเลย ทำตามใจตัวเอง ซึ่งคนปัจุบันเป็นบ่อย เกลียดมากพวกนี้...(นี่ไงอารมณ์โผล่และ) ดังนั้นคนมีเหตุผลเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะเป็นผลดีต่อคนรอบข้างมากกว่า จากคุณ : ชนวนกลาง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 01:29:34

ความคิดเห็นที่ 62 #60 เหตุผลไม่ใช่ประโยชน์ของมวลรวมต้องมาก่อนนะครับ #61 ผมไม่แย้งหรอกว่าโดยมากแล้วเด็กและคนชราจะอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่ ว่าแต่...เหตุผลในการลุกให้นั่งล่ะ ไม่ได้มาจากคุณธรรมหรอกหรือ มุมมองของผม คุณธรรมเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของเหตุผลที่คนจะนำมาใช้ จากคุณ : powerconduit เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 52 10:16:09