ความคิดเห็นที่ 1 ... เพราะคนไทยบางส่วนไม่เคยคิดที่จะสนับสนุนและนิยมว่าของชาติตัวเองมีรสนิยม จากคุณ : monixe เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 05:23:09

ความคิดเห็นที่ 2 brand ดีๆหนะมีครับ แต่ทำส่งออกนอก ซะเยอะ คุณเลยไม่ค่อยเห็น.... สินค้า Made in Thailand ไปเดินเจอ ขายที่ต่างประเทศ ... คุณอาจจะร้อง ทำไมคนไทย ไม่มีสิทธิใ้ช้บ้าง จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 05:53:01

ความคิดเห็นที่ 3 ลบดีไหมเนี่ย?  มีให้โหวตลบด้วย เรื่องนี้อาจารย์ที่สอน QA เคยเล่าให้ฟังว่า.. คนไทยเป็นคนที่พอเพียง  ตั้งโรงงานรับออเดอร์จากต่างประเทศ ก็ได้กำไรมากแล้ว  จะต้องไปเสี่ยงทำตลาดเองทำไม คนผลิตสินค้าขายของไม่เก่ง  ทำไปเจ้งได้ง่ายๆ ทีนี้ก็ติดนิสัยกลายเป็นว่าไม่ยอมผลิตสินค้าของตัวเอง รัฐบาลก็เห็นว่ารับจ้างเขาผลิตก็ได้เงินดีอยู่แล้ว เลยไม่สนับสนุนอะไรมากมาย พอมีปัญหาว่าต่างประเทศย้ายไปผลิตที่อื่น   ทีนี้จะให้มาเริ่มทำเบรนของตัวเองก็ไม่ทันแล้ว จารย์เล่าให้ฟังแบบนี้ล่ะ   ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้นะ  อาจจะเพราะะกลัวความเสี่ยงก็ได้ จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 06:05:15

ความคิดเห็นที่ 4 กำลังซื้อในประเทศต่ำมั้งครับ ของแพงขายไม่ได้ จะปั้นแบรนด์เองก็ยาก ส่งไปขายฝรั่งรุ่งกว่า ของที่ จขกท.ว่ามาเนี่ย ทำขายคนไทยอย่างเดียวคงเจ๊งแน่นอนครับ เพราะมันแพง และไม่ใช่ของจำเป็น จากคุณ : Tungsten เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 07:53:42

ความคิดเห็นที่ 5 ขอตอบว่า ที่ทำไม่ได้ ก็เพราะคนไทยขึ้กลัว และเงื่อนไขจ้อจำกัดทางวัฒนธรรม กล่าวคือ ข้อแรก ก็คือ คนไทย........กลัวฝรั่ง พอคนไทยเห็นฝั่งเข้ามาติดต่องานในที่ทำงาน พนักงานคนไทยรวมทั้งระดับผู้บริหารด้วย ก็จะวิ่งหนึหรือหลีกเลี่ยง........... มันก็เลยทำให้คนไทย กลายเป็น........... กบอยู่ในกะลาครอบ ข้อที่ 2 คนไทยกลัวภาษาอังกฤษ ซึ่งก็สมควรจะกลัวนะ เพราะคนไทยร้อยละ 99.99 รู้ภาษาอังกฤษแบบงู ๆ ปลา ๆ รู้แบบกระด๊อกกระแด๊ก ไม่ถึงขึั้นใช้งานได้จริง ข้อที่ 3 คนไทยไม่รู้.......... เรื่องกฏแหมายลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ ซึ่งเป็นกฏหมายของพวกฝรั่งต่างชาติทั้งหลาย ถ้าคนไทยคิดดจะไปจ้างสำนักกฏแหมายฝรั่ง ก็แพงโคตร ........... และมีสิทธิที่จะถูกฝรั่งหลอกอีกด้วย ข้อที่ 4 รัฐบาลไทยและสภานทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ก็มีอัตตาสูง มีความนิยมไทยสูง ......... และมีความคิดแบบอยู่ในกะลาครอบพอ ๆ กัน จึงไม่มีปัญญาและไม่มีศักยะภาพ ที่จะช่วยอะไรในเรื่องนี้ได้มากนัก สรุป ก็คือ คนไทยแท้ ๆ นั้น.........หมดโอกาส.......... พวกที่ทำได้บ้าง ก็คือ พวกลูกครึ่งที่มีญาติเป็นฝรั่งคอยช่วยเหลือ หรือที่คนที่แต่งงานกับคนต่างชาติ คนพวกนี้ มีความคิดความอ่าน และมีคอนเน๊คชั่น ดีกว่าคนไทยทั่วไป จึงสามารถแหวกวงล้อมและข้อจำกัด ทางวัฒนธรรมและเงื่อนไขต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นออกไปได้ สวัสดี จากคุณ : kongsilp2000 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 08:03:25

ความคิดเห็นที่ 6 แค่รัฐบาล สนับสนุน นิดหน่อย คิดหรือว่าจะสู้ต่างชาติไม่ได้? สนับสนุน บ้าง + กับ คุณภาพที่ดี สู้กับของนอกได้จริงๆ ยังไงก็รอด จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 09:10:28

ความคิดเห็นที่ 7 คนไทยไม่ใช่นักการตลาด อะไรที่ดีๆ มักมาจากการทำด้วยใจรักเป็นงานอดิเรก ไม่ได้ทำเพื่อปากท้องอย่างแท้จริง งานอดิเรกหลายอย่าง แปรกลับไปเป็นเงินไม่ได้ หรือไม่ก็กลายเป็นการพนัน อบายมุข มีแต่เสียกับเสีย ด้วยการเกษตรอุดมสมบูรณ์ ไม่ทำก็มีกิน ก็ไม่อดตาย เดิมพันมันต่างกันมาก เมื่อเทียบกับคนจีนที่อพยพมาแบบตัวเปล่าๆ มีคนไทยที่โชคดี ได้ไปทำงานกับญี่ปุ่น ตอนแพ้สงคราม เขาจะได้เห็นกับตา ทำกับมือ กลับมาเมืองไทยสร้างธุรกิจใหญ่เป็นเครือสหฯ xxx มีบริษัทลูกเกือบ 300 brand ประเทศแพ้สงครามที่เป็นซากปรัก ไม่มีทรัพยากร จำใจต้องสู้เพื่อความอยู่รอด ทางออกมีประตูเดียวคือเน้นส่งออกเท่านั้น ไม่งั้นไม่มีกิน ยุคนั้นและที่เป็นตัวอย่างที่ดีของ OTOP ที่ประเทศไทยเพิ่งมาทำเอาตอนยุคทักษิณ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 09:20:56

ความคิดเห็นที่ 8 เปล่าไม่ได้อยู่ที่ผู้ประกอบการอย่างเดียว คำตอบของผมคือ คนไทยส่วนใหญ่ชอบของถูก ถึงถูกมากที่สุด หากผลิตมาเป็นของดีมาก ราคาสูง ตลาดในประเทศในsegmentนี้มันเล็กมาก จนไม่คุ้มจะผลิต หากจะทำต้องส่งออกเป็นหลัก หากคุณรู้สึกว่าไม่จริง เราต้องการของราคาเหมาะสมคุ้มค่า ราคาแพงไม่ว่าขอให้เป็นของดี ขอให้รู้ว่าคุณเป็นคนส่วนน้อยในสังคมนี้ เคยมีการศึกษาพบว่าคนไทยอ่อนไหวต่อราคาสินค้ามาก จากคุณ : Megrim เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 09:21:08

ความคิดเห็นที่ 9 ง่ายๆเลย คนไทยไม่ชาตินิยม ครับ (แล้วใยคนต่างชาติจะมานิยม อะ จริงไหม) แบรนด์ ดังต่างๆมันมีจุดเริ่มต้นมาจาก ที่คนในชาติเขายอมรับกันเองมาก่อนแล้ว จากคุณ : อาท (chan ty) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:37:44

ความคิดเห็นที่ 10 กระทิงแดง??? Red Bulls???? จากคุณ : apiluckt เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:43:49

ความคิดเห็นที่ 11 แบรนไทยดังๆระดับโลกก็มีนะ เช่น Redbull Sponding ลูกบาสที่ใช้ใน NBA อุปกรณ์พวกหม้อแปลง จากคุณ : กบินทร์บุรี เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:47:21

ความคิดเห็นที่ 12 ยุคนั้นและที่เป็นตัวอย่างที่ดีของ OTOP แล้วมันก็ถูกทำลาย แบรนย่อยยับ  ด้วย การ รีแบรน  เป็น ไทยตำบล เอวัง จากคุณ : Night_Angel เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 10:48:27

ความคิดเห็นที่ 13 เสื้อผ้ายี่ห้อ ARROW นี่แบรนด์ไทยหรือเปล่าครับ เคยลองมาหลายยี่ห้อ แต่ผมว่า แบรนนี้สุดยอดแล้ว ทั้งคุณภาพ เนื้อผ้าและ ความประณีต ใช้ได้นานอีกต่างหาก    สมัยก่อนไปเรียนต่อเมืองนอก เพื่อนต่างชาติ ชมว่า เสื้อผ้ายู ดูดีจังเลย จนถึงปัจุบัน ชุดทำงานส่วนใหญ่ของผม ยังเป็นยี่ห้อนี้อยู่  อาจมีนอกใจบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจครับ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:24:36

ความคิดเห็นที่ 14 บางยี่ห้อก็เหมือนตั้งใจทำให้เหมือนแบรนต่างชาติ เช่นกระเป๋า ตราคนตีโปโล เอามาลดราคา จากราคาป้ายเป็นพัน ลดเหลือร้อยสองร้อย คนซื้อตรึม สุดท้ายคนใส่เกลือน เดินมาสิบ สะพายกระเป๋านี้สาม มีอยู่ใบนึง ไม่กล้าสะพายเลย จากคุณ : ballxjp เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:53:34

ความคิดเห็นที่ 15 คนไทยเก่งและฉลาดพอๆกับชาติอื่น สังเกตุจากที่ส่งไปสอบแข่งขันที่ต่างประเทศมักจะกวาดเหรียญรางวัลมามากมาย แต่เสียอย่างเดียว ถ้าทำงานเป็นทีมมักจะทำไม่ได้ดีเลย เหมือนสำนวน "ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" และคนเก่งมักจะแพ้ทางคนขี้อิจฉาเสมอ จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:57:36

ความคิดเห็นที่ 16 . ผมเห็นช้างไปโลดแล่นใน อังกฤษอะ และเคยเห็นคนอังกฤษสั่งช้าง แรกๆ งง ครับรู้จักช้างได้งัย พูดชัดอีกต่างหาก อ่อลืมไปว่าช้างไปติดอยู่เสื้อทีมหนึ่ง Redbull สุดยอดแล้วครับ ฝรั่งชอบครับ แค่ได้ใส่เสื้อ Redbull ฝรั่งเขาบอกว่าเทห์สุดๆ ครับ คนไทยไม่ยักเห็นใส่เลย? . จากคุณ : เป้าหมายมีไว้พุ่งชน (Thai_DeSeRT) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 11:58:51

ความคิดเห็นที่ 17 เคยใส่ครับ เสื้อกระทิงแดง รุ่นอีสารเขียว นี่แหละ  แบบมีแยะ ใส่ที่เกาะเต่า  ฝรั่งเห็นแล้วทัก ขอซื้อต่อ  บอกที่บ้านเขามันไม่มีแบบนี้อยากได้ หาซื้อไม่ได้ เลยให้ไป ตัวนึง พอดีเอามาสองตัว เป้นเล่นนะครับ เสื้อกระทิงแดงนี่ของมีราคาเชียวนะ จากคุณ : Night_Angel เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 12:05:04

ความคิดเห็นที่ 18 . เพิ่งเห็น ว่า กระทิงแดง ของต่างประเทศทำผลิตภัณท์ดีครับ เป็นป๋องๆ จากคุณ : เป้าหมายมีไว้พุ่งชน (Thai_DeSeRT) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 12:06:08

ความคิดเห็นที่ 19 มีปัญหาเรื่องการตลาดมากกว่าค่ะ อย่างแบรนด์ไทยที่ไปดังในต่างประเทศเนี่ย  ไทยผลิตจริง แบรนด์ไทยจริง แต่คนทำการตลาดให้ดังหรือขายได้ไม่ใช่คนไทยน่ะเจ้า เห็นไทยทำการตลาดดีมีอยู่ที่เดียวจริง ธรรมกาย -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 12:21:13

ความคิดเห็นที่ 20 brain drain  ครับ  คนไทยเก่งๆไปช่วยเขาทำทั้งนั้น... จะดูว่าคนไทยเก่งไม่เก่ง ดูจากของ copy ครับ  copy ได้ทุกอย่าง.. ส่วน red bull นั้น  คล้ายๆว่า เป็นเจ้าแรกที่ทำเครื่องดื่มชูกำลัง แล้วฝรั่งมาเจอ ก็เลยขอชื่อขอสูตรไปทำ แล้วแบ่งเปอร์เซ็นให้ อีกอย่าง รสชาติในไทยกับต่างประเทศก็ต่างกันด้วย จากคุณ : คุณธรรมค้ำโลกา (gratitude) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 12:49:47

ความคิดเห็นที่ 21 อาจจะไม่เก่งเรื่องการสร้างเสน่ห์ให้กับตัวสินค้าครับ จากคุณ : =. ลางเนื้อเจือลางยา .= เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 13:06:19

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่า เป็นคำถามที่คุณเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ผมก็อยากตอบความเห็นนะครับ แต่มันก็เดิม ๆ ซ้ำ ๆ ผมว่า ไม่ต้องตั้งกระทู้ถามแล้วครับ งานนี้ ต้องตั้งกระทู้ ชี้แจงเลยว่า ทำไม คนไทยถึงไม่ค่อยซื้อสินค้าไทย ทำไมแบรนด์ไทยถึงขายได้แต่ตลาดต่างประเทศ จากคุณ : tolstoy เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 13:16:33

ความคิดเห็นที่ 23 ปัญหาอยู่ที่รัฐบาล เป็นหลักครับ ไม่ส่งเสริม ไม่ว่าหรอก แต่กีดกัน นี่มันทุเรศ จากคุณ : Professor เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 14:12:41

ความคิดเห็นที่ 24   รัฐบาลไม่สนับสนุน.. ไม่กระตุ้นให้ประชาชน.. หันมาเห็นความสำคัญ.. อีกส่วน.. คนไทยไม่ใช้ ไม่ซื้ออของไทย... ส่วนตัวเราซื้อนะ.. ซื้อเป็นบางอย่างที่เห็นว่าคุณภาพดีก็ซื้อ.. คนขายบอกว่า คนไทยทำก็จะซื้อ..เป็นบางอย่าง... เพราะที่ญี่ปุ่น ของเมดอินไทยแลนด์.. เยอะมากๆ.. ก็เลยรู้ว่า... คนไทยคิดจะทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยทีเดียวเชียว... อย่างรองเท้า ไนกี้ ลาคลอส ที่ขายในญี่ปุ่น.. เมดอินไทยแลนด์ นะค่ะ.. เพราะฉะนั้น รัฐบาล ควรส่งเสริม.. อย่างจริงจังเสียที.. จะได้ไม่เสียดุลย์การค้า ให้แก่ชาติใดๆในโลกเยอะแยะมากมาย.. อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้... ......ทำงานไม่เก่ง ..มีแต่สร้างๆๆๆ..ไม่มีเข้า.... มันก็น่าปวดหัว สำหรับ ประชาชนคนไทย เหมือนกันนะ.... ขอให้ทุกคนเคารพในความเห็นของผู้อื่นนะค่ะ... จากคุณ : ความเห็นส่วนตัว... (ผีแอะ) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 14:47:53

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆ แล้ว แบรนด์ไทยดีๆ มีเยอะนะคะ คุณเคยไปเดินงาน big & bih หรือเปล่า แบรนด์ไทยทั้งนั้น ดังทั้งในระดับประเทศ และดังในต่างประเทศก็มี ต่างประเทศก็ยอมรับในคุณภาพสินค้าไทยที่เป็นแบรนด์ไทยนะคะ เราถึงส่งออกได้ (อันนี้ตอบในฐานะผู้ส่งออกคนหนนึ่ง) ส่วนคนไทย ก็มีบางกลุ่มเท่านั้นที่จะรู้จักแบรนด์พวกนี้ และซื้อใช้เป็นประจำ เพราะของคุณภาพดี ราคาก็ค่อนข้างสูง คนส่วนใหญ่ก็รอไปซื้อตอนลดราคาในงานแสดงสินค้า เพราะถ้าไม่ลดราคา ก็ซื้อกันไม่ไหว ผู้ส่งออกก็ยินดีจะส่งออกมากกว่า เพราะขายได้ราคา ขายได้คราวละเยอะๆ ไม่ต้องมีร้านในประเทศก็ขายได้ อาศัยการออกงานแสดงสินค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศค่ะ จขกท ลองไปเดินดูงาน big&bih ดูนะคะ จะได้รู้ว่ามีแบรนด์ไทยดีๆ เยอะค่ะ ปีนึงจะมีงานสองครั้ง ประมาณเมษายนกับตุลาคมค่ะ จากคุณ : Angel4Phoenix เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 15:06:22

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท.มองโลกแคบไป หลายๆแบรนด์ก็ของไทย จขกท.ไม่รู้เอง แต่จะให้ทุกแบรนด์เป้นของประเทศนี้ก็เกินไป ในโลกนี้มีตั้ง200กว่าประเทศ ของไทยก็ต้องเบียดๆกับเขาไป บางอย่างเก่งบางอย่างไม่เก่ง ว่ากันไป จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 16:19:41

ความคิดเห็นที่ 27 คนไทยเก่ง ทำสินค้าดี และ brand คุณภาพก็มี แต่คุณรู้จักมั๊ยล่ะ (การตลาดไม่เก่ง) หรือรู้จักแล้วอุดหนุนมั๊ยล่ะ (local demand ไม่มีการพัฒนาไม่เกิด แข่งขันในตลาดโลกไม่ได้--ตามแนวคิด Diamond Model ของ Michael E.Porter) passaya กระเป๋าผ้า ขายดีมากๆ ในต่างประเทศ แต่คนไทยถือแต่อะไรล่ะ แอร์ไทยๆ (แต่เชื่อยี่ห้อไม่ไทยหรอก) ส่งออกไป ตอ.กลาง รวมถึงโรงงานก็รับ OEM ให้จ้าวดังๆ ทั่วโลก ชิ้นส่วนรถยนต์หรือชุดแต่งรถ ถ้าฝรั่งรู้ว่ามาจากเมืองไทยรีบคว้าเลย แต่เมืองไทยต้องการแต่อะไหล่จากประเทศผู้ผลิตไว้ก่อน รพ. เอกชนแห่งหนึ่งของเราดีที่สุดในอาเซียน (เค้า claim ว่าอย่างนั้น) แต่คนไทยไปรักษาเมืองนอก มหาวิทยาลัยของไทยมีคนเก่งไม่แพ้เมืองนอก หรือแม้แต่ซื้อหลักสูตรเข้ามาเปิดสอนในเมืองไทย แต่ถึงเวลาบ.เลือกจ้างงานคนจบนอกไว้ก่อน ฯลฯ จากคุณ : ascertain เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 16:27:58

ความคิดเห็นที่ 28   เมืองไทยมีหลายแบรนด์ค่ะ ที่เลิศเลยนะ อย่างพวกเครื่องสำอางค์โลชั่น harnn แต่ตั้งราคาสูงเว่อร์กำลังคนไทยส่วนใหญ่ค่ะ เลยขายได้ที่ต่างประเทศและล้มเหลวกับตลาดในประเทศ ปัญหา คือ นักธุรกิจ กี่คนที่สร้างของที่คุณภาพดีกว่าแบรนด์ต่างประเทศมากๆ แต่ยอมตั้งราคาให้เหมาะกับรายได้ไทย(มันเป็นสิ่งที่แย้งกันเองไง) ของที่ตั้งราคาต่างประเทศได้ ต้องไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย อย่าง pasaya คนยอมจ่ายเพราะไม่ใช่ของที่ซื้อทุกเดือน ส่วนกระเป๋าผ้าที่คนต่างชาติชอบซื้อนั่นคือ naraya นะคะ คนไทยไม่ชอบใช้เพราะชีวิตประจำเรามันไม่เข้าเหตุผลเท่าไรนัก มันเป็นของที่ไม่ใช่กลุ่มตลาดไทยเท่าไรนักในสายตาเรา เราเข้าไป เออ สวยนะ แต่จะซื้ออะไรล่ะ? กระเป๋า naraya ไม่ให้ตัวเลย ที่ใส่เหรียญของดีและถูกไร้แบรนด์ในไทยเยอะมากกกกกกกกก ที่ใส่ทิชชู่พกและอีกหลายอย่าง ไม่ใช่สิ่งที่คนไทย a must ต่างกับคนญี่ปุ่น หมอนและชิ้นใหญ่ๆในเมืองไทยกันเองมีของที่สวยกว่าไม่ใช่แบรนด์ถูกกว่าด้วย อย่าง pasaya นั่นแหละ หรือถ้าพวกตลาดสูงเลยก็ jim thomson ตลาดล่างกว่านั้นเค้าขอที่คงทนต่อเครื่องซักผ้าแล้ว มันเลยกลายเป็นว่า ไทยเก่ง แต่ไทยไม่ซื้อไทย เราเห็นว่าราคาไม่สมเหตุผลค่ะ ไม่โดนภาษีเข้า แต่ตั้งราคาซะ.. น่าเตะ จากคุณ : .. (MoonClock~*) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 17:02:56

ความคิดเห็นที่ 29   ทำมาแล้วช่วยซื้อสิ ไทยไม่ซื้อ ก็ขายฝรั่งเท่านั้น (แล้วฝรั่งก็เอามาขายไทยอีกที -> บอกว่าของดีอีก) แถมอีก สินค้าที่ต้องตั้งชื่อ ฝรั่ง ตั้งชื่อ ญี่ปุ่น ให้คนเข้าใจว่าของนอก เพื่อที่จะขายออก รู้สึกทุเรศมั่งป่ะ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 17:17:02

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 25 ครับ บริษัทที่ผมทำก็ไปออกงานที่งาน big&bih ทุกปีไม่ได้โอ้อวด แต่ได้อยู่ในส่วน design highlight ด้วยซึ่งบริษัทเองไม่ได้จองเพื่อจะไป แต่กรมส่งออกเตรียมที่ไว้ให้ไปร่วมทุกปี แต่ก็แค่ไปอย่างงั้นแหล่ะครับพูดตรงๆ งานBIG หน่ะบริษัทที่ไม่ใช่หน้าใหม่เค้าไม่อยากจะไปกันแล้ว จีนคุณภาพงานสูงขึ้น ถูกกว่าเป็นกอง จนงาน big กลายเป้นงานร้างๆไปแล้ว trader หนีไปจีนกันหมดเมื่อเดือนที่แล้วก็มีงานใหญ่ที่จีน ถ้าดูย้อนหลังหลายๆบริษัทที่เคยมีบูต 5-6 unit ติดกัน เดียวนี้ลดเหลือแค่ 1-2 เอง ลดลงมาอย่างงี้3ปีแล้ว จนหลังๆงาน BIG จนมุมถึงกระทั้งต้องนำรถไปรับคนจากสวนจตุจักร มาส่งให้ฟรี ทั้งๆที่วันนั้นเป้นวัน trade แท้ๆ จำเป็นต้องทำครับ ถ้าไม่ทำงานจะเงียบมาก เปิดดักยุง อายเค้า.... และอีกอย่างกระทิงแดงที่คุณกำลังพูดถึงไม่ใช่ของไทยนะครับ เค้าซื้อแค่สูตรเราไป ตัวบริษัทและการทำตลาดต่างจากเราสิ้นเชิง เรียกว่าเป็นบริษัทต่างชาติที่ใช้แบรนด์ไทยผมรู้สึกสนิธใจกว่า ผมเองมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วหล่ะครับ แค่อยากจะตั้งกรทู้ขึ้นมา ให้บางคน หรือน้องๆเยาวชนถ้าได้เข้ามาอ่านได้ลองฉุกคิดดูว่า เอ๊ะ ทำไมแค่ไฟฉาย หรือกระเป๋าดีๆ แค่เนี้ยเราถึงทำไม่ได้กันนะ นี่คือประเดนครับ บางทีอย่าพึ่งคิดเรื่องยากเกินตัวครับ ทำของง่ายๆเนี่ยแหล่ะครับให้ดีที่สุด ถามตัวเองว่า "เราทำได้หรือยัง" ? ทราบว่ามี brand ไทยแจ๋วๆอยู่เหมือนกัน แต่แค่จะบอกว่า คนไทยหลายคนก็อยากใช้ของไทยนะ ของง่ายๆอย่างกระเป๋า Northface ถ้าไทยจะทำแข่ง ให้ที่ราคาต้นทุนเท่ากัน ผมว่าเราให้คุณภาพได้มากกว่าเค้าเกือบเท่าตัวนะ เวลาดูข่าวก็จะเจอแต่นโยบายที่รัฐสนับสนุนให้เราเป้นฐานการผลิต เรื่องลดค่าเงินบาททุกวันเลย จากคุณ : modeller เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 17:27:27

ความคิดเห็นที่ 31 ธานินทร์ ไงครับ เมื่อก่อนก็พอจะขายได้แต่ตอนนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จากคุณ : lostdream เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 17:32:13

ความคิดเห็นที่ 32 แต่ที่เห็นแบรน์ต่างประเทศ  ก็ไทยทำทั้งนั้นนะครับ จากคุณ : mootomoosun เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 18:09:17

ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆ ก็ไม่อยากเห็นถึงขนาดเป็นแบรนด์ระดับสากลอะไรหรอกนะ แค่อยากเห็นประเทศเราผลิตสินค้าเอาไว้ใช้เองได้บ้าง นี่เปิดทีวีดู พบแต่โฆษณาสินค้าของต่างประเทศ แม้แต่ของใช้ในครัวเรือนอย่างน้ำยาล้างจาน, ผงซักฟอก, สบู่, น้ำยาปรับผ้านุ่ม, ผ้าอนามัย, น้ำยาซักผ้า และอีกมากมายๆ ๆ แม้แต่อาหาร ทุกวันนี้ยังเห็นของต่างประเทศเยอะเหลือเกิน แต่อันนี้อาจจะมองได้ว่าไม่กระทบเท่าไหร่ ด้วยเพราะคนไทยส่วนใหญ่ก็กินร้านข้าวหน้าปากซอย คงมีแต่ระดับไฮๆ หน่อยที่กินอาหารมีแบรนด์กันบ่อยๆ แต่คำว่า "อาหาร" ก็ไม่ได้หมายถึงเฉพาะแค่ "อาหาร 1 จาน" แต่หมายถึงวัตถุดิบ, ผลิตภัณฑ์เสริม ฯลฯ ไม่ว่าจะนม, ผลไม้, ขนมขบเคี้ยว และอีกมากมาย ส่วนตัวแล้วผมอยากให้คนไทยเราผลิตสินค้าที่ระดับเทคโนโลยี&ทรัพยากรของเราพอจะทำได้ ทำใช้กันเอง เช่น รถ แน่นอนว่าคงจะขายไม่ออก ใช่ แต่ผมอยากให้รัฐฯนี่แหละ สนับสนุน ผลิตเอง (ร่วมทุนกับเอกชน) แล้วก็ใช้เองโดยรัฐฯ เป็นรถตำรวจ, รถดับเพลิง, รถใช้ในราชการทั่วไป ฯลฯ เท่านี้ก็เยอะแล้ว และเมื่อคนทั่วๆ ไปเห็น ก็จะช่วยเพิ่มแนวโน้มที่จะขายรถที่เราผลิตเองได้ เป็นต้น สังเกตุเห็นว่าประเทศต่างๆ ที่พัฒนาแล้วก็ล้วนยืนอยู่บนพื้นฐานง่ายๆ คือ ทำเอง ใช้เอง แล้วอันไหนที่มันไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยซื้อ กลับกัน อันไหนที่เราผลิตเองแล้วเหลือ ก็ขาย ญี่ปุ่น, เกาหลี, จีน ผลิตรถใช้เองมานานขนาดไหนแล้ว ทำไมเราจะต้องซื้อแต่รถพวกนี้ไปเป็นร้อยๆ ปี ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างก็ผลิตรถใช้เองกันมากมาย แม้แต่ในเอเชีย ตามลิ้งค์นี้ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Asian_cars ที่ยกตัวอย่าง รถ ขึ้นมาก็เพราะมันเห็นภาพง่าย สินค้าจำเป็น มีมานาน เทคโนโลยีไม่สูงจนเกินเหตุ ไม่ได้พูดถึงชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ด้วยซ้ำ คิดว่าถ้าตราบใดเรายังพึ่งพาแต่เกษตรกร พึ่งพาแต่การส่งออกข้าวอย่างนี้เรื่อยไป มันต้องมีสักวันที่ตัน ไม่ว่าจะด้วยเพราะภาวะเศรษฐกิจผันผวน, วิกฤติอาหารโลก ฯลฯ ประเทศที่พัฒนาแล้วก็ล้วนแต่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรมกันทั้งนั้น ของเราอาจจะเป็น กึ่งเกษตรกรรม-กึ่งอุตสาหกรรม ก็ได้ เพราะการเกษตรเราดี แต่จะพึ่งแต่การเกษตรอย่างเดียวคงไม่ได้ จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 18:43:42

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าจะทำรถเอง เอาเหล็กจากที่ไหนครับ? จากคุณ : Tungsten เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 19:15:48

ความคิดเห็นที่ 35 โปรดสังเกตุเนคไท ท่านนายกครับ ไม่เคยเห็นยี่ห้อไทยแล้วจะสนับสนุนสินค้าไทยได้อย่างไร ผมพิมพ์ไม่เกี่ยวกับการเมือนนะครับ โปรดอย่างดึงเข้าเรื่องการเมือง จากคุณ : inven เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 19:18:02

ความคิดเห็นที่ 36 # 31 ธานินท์เท่าที่รู้ตอนนี้ทำตัวเก็บประจุขายอย่างเดียวมั้ง ธานินท์เอลน่า อยู่ที่เชียงใหม่ ไม่แน่ใจลองเช็คข้อมูลดู จริงๆแล้ว มันขาดความต่อเนื่องมั้งครับ เราเคยจะเป็นนิคอะไรนั่นนานแล้ว แล้วก็นิ่งๆ สุดท้ายก็เลยโดนคนอื่นเขาทิ้งให้เราอยู่ข้างหลังกับประเทศอินโดจีนต่อไป จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 20:49:29

ความคิดเห็นที่ 37 แบรนด์ไทย จริง ๆ ก็มีแฝงตัวอยู่ในตลาดเยอะนะครับ เพียงแต่คุณไม่รู้มากกว่า เพราะพวกบริษัทนี้เค้าคงไม่อยากเน้นจุดขายว่าเป็นของไทยอ่ะครับ อย่างสินค้าอุปโภคเนี่ย เครือ bsc กับ bio manufacturing ก็ของไทยครับ หรืออย่าง Essence, Hygiene, Fineline, Teepol, Exit, 12plus, บลา ๆ ๆ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็เยอะครับแต่ชอบใช่ชื่อฝรั่งไม่ก็ญีปุ่น อย่าง Hatari, Saijo Denki, Fujika, Fujiko, Soken, Turbora, EVE, Amena, Central Air, Astina, i-mobile(มือถือยี่ห้อนี้ผมว่าเริ่มดังแล้วนะ ขายได้ปีละ 3-4 ล้านเครื่องแล้ว มีเจาะตลาดต่างประเทศด้วย อ่านข่าวมาว่าจะเปิดโรงงานที่บราซิลเพื่อจะตลาดอเมริกาใต้แล้วด้วย) เสื้อผ้าก็มีมากมายเลยนะ แต่จะอยู่ตลาดระดับบนหน่อยอ่ะครับ คนส่วนใหญ่คงไม่ค่อยซื้อกัน อย่าง Jaspal, CC-OO, CPS Chaps, Greyhound, Sretsis(ยี่ห้อนี้ ตัวละเป็นหมื่น ดาราฮอลลีวู้ดใส่ออกงานหลายคนเลย) Disaya, Fly now บลา ๆ ๆ รถยนต์ก็มี Thairung(ดัดแปลงรถกระบะ กับ ทำรถทหาร) Cherdchai(ทำรถบัส รู้สึกจะเป็นบริษัทของเจ๊เกียว) Chaiseri (ทำำรถถัง กับชิ้นส่วนรถถัง) มอเตอร์ไซค์ ก็มี Tigerครับ คอมพิวเตอร์ก็มี SVOA, Atec ครับ อันนี้แค่เท่าที่ผมนึกออกนะ จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 21:45:13

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนอันนี้ มอเตอร์ไซค์ของ tiger ผมว่าสวยไม่แพ้ของญี่ปุ่นอ่ะ ราคาถูกกว่าเกือบเครื่องนึง อย่างคันนี้ 70,000 กว่าบาทเอง ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นในระดับนี้ 140,000 อัพ แถม Tiger เป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องยนต์เองด้วย จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 21:46:54

ความคิดเห็นที่ 39 ล่าสุด ตามกระแส Blackberry ก็มีกับเค้าเหมือนกันครับ แถมดูทีวีได้ด้วย ราคา 5,000 กว่าบาทเอง ไม่รู้จะแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้เยอะป่าว จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 21:51:36

ความคิดเห็นที่ 40 อันนี้เครื่องซักผ้า ยี่ห้อ Astina ครับ จริง ๆ ยี่ห้อนี้ทำเกือบครบวงจรเลยทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เตา เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องดูดควัน แต่ท่าทางงบการตลาดจะไม่เยอะเท่า ค่ายเกาหลี ญี่ปุ่นน่ะ คนไทยเลยไม่ค่อยรู้จัก รุ่นนี้แพงมากครับ 40,000 กว่าบาท แต่ใหญ่มาก ถังซักถอดเป็นตะกร้าได้ด้วย จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 22:06:07

ความคิดเห็นที่ 41 ส่วนอันนี้แบรนด์ Central Air ครับ หน้าตาทันสมัยไม่แพ้แบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่นเลย แต่คนไทยส่วนใหญ่ จะติดแอร์ก็จะนึกถึงแต่ Mitsubishi ก่อนเลย แต่ประเทศไทยผลิตแอร์ส่งออกเป็นอันดับ 3 ในโลกเลยนะครับ เป็นรองก็แค่ ญี่ปุ่น กับ อเมริกา เพราะฉะนั้น คุณภาพ ผมว่าไม่น่าเป็นปัญหา จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 22:10:50

ความคิดเห็นที่ 42 ส่วนอันนี้รถบัสของ Cherdchai ครับ เป็นเครื่องยนต์ NGV ของยี่ห้ออื่น แต่บริษัทนี้ทำ chassis กับตัวถังเอง ผมว่าดูดีกว่ารถเมล์จีนแดงสีเหลือง ๆ ที่วิ่งอยู่ใน กทม นะ จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 23:00:36

ความคิดเห็นที่ 43 พูดไปก็เหมือนด่าตัวเองครับ ^^" จากคุณ : lets_kick_off เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 23:01:18

ความคิดเห็นที่ 44 เฮ้อ... หากว่าวันหนึ่งคนไทยคงจะชาตินิยมมากกว่านี้ จากคุณ : วันที่อ่อนไหว... เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 23:01:29

ความคิดเห็นที่ 45 ส่วนอันนี้รถฮัมวี่ ของ Thairung ครับ ไส้ในคือ toyota hilux vigo แต่ดัดแปลงตัวถังให้เป็นรถทหาร คันนึงเกือบ 2 ล้านบาทครับ เพราะตัวขายจริง จะทำให้กันกระสุนด้วย จากคุณ : xxx (Severus Snape) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 52 23:06:07

ความคิดเห็นที่ 46 ผมไปต่างประเทศผมยังเจอท่อน้ำไทยเลย หุหุ จากคุณ : RX7 (fusect) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 02:24:45

ความคิดเห็นที่ 47   ถ้าจะทำจริงๆก็ทำได้ค่ะแต่ทั้งนี้เอกชนจะต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้วย ญี่ปุ่นตอนแพ้สงครามใหม่ๆเค้าตั้งหน่วยงานผลักดันการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศขึ้นมาเลย ให้เงินบริษัทเล็กบริษัทน้อยไปลงทุนวิจัยพัฒนาและมีข้าราชการคอยติดตามงาน พอได้ผลิตภัณฑ์แล้วรัฐบาลก็ช่วยขายให้ในประเทศ ช่วยพีอาร์ และช่วยเหลือในการส่งออกเพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่เสียหายยับเยิน และเค้าก็ทำได้ อย่างของไทยเรา ถ้าเอกชนทำออกมาแล้วรัฐบาลไม่โอบอุ้มมันก็ยากที่จะแข่งขันได้ เพราะมันยากที่จะไปแข่งกับผู้ผลิตต่างชาติที่เค้ามีฐานตลาดแน่นหนาอยู่ก่อนแล้ว (กรณีญี่ปุ่นคือเค้าต้องแข่งกับสินค้าจากอเมริกาที่แพร่หลายทั่วโลกในยุคนั้น) ช่วงแรกๆรัฐบาลต้องช่วย อย่างเช่นล็อคสเปคเลยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในหน่วยงานรัฐบาล จะต้องเป็นสินค้าของบริษัทคนไทยเท่านั้น ขณะเดียวกันเมื่อรัฐช่วยเรื่องตลาดแล้ว บริษัทผู้ผลิตก็ต้องพัฒนาสินค้าอย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา สินค้าตัวไหนมีปัญหาก็ต้องเรียกคืนให้หมด พัฒนาสินค้าที่ดีกว่ารุ่นเดิมๆออกมาและต้องคิดว่าถ้าทำขายคนไทยต้องทำให้ดีกว่าขายเมืองนอก (คิดและทำแบบที่ญี่ปุ่นเค้าทำน่ะค่ะ ทัศนคติคนซื้อจะเปลี่ยนได้ ทัศนคติคนทำต้องเปลี่ยนก่อน) การได้รัฐมาช่วยจะทำให้บริษัทกล้าพัฒนาเพราะมีคนมาช่วยรับประกันว่าบริษัทจะไม่เจ๊งแน่ ช่วยกันไปกันมาแบบนี้ก็จะทำให้ได้สินค้าคุณภาพดี ราคาสินค้าก็ทำให้หลากหลายขึ้นกับเกรดสินค้า ขึ้นกับรุ่น คนไทยกลุ่มไหนชอบของถูกก็ซื้อรุ่นที่ฟังก์ชั่นน้อยๆการใช้งานไม่นาน ใครมีเงินก็ซื้อรุ่นดีๆฟังก์ชั่นอัจฉริยะ ทนทานนานปีหรือมีดีไซน์เก๋ไก๋ เมื่อเวลาผ่านไปคนไทยก็จะเคยชินกับแบรนด์ไทยซื้อของไทยไปเอง สรุปว่า รัฐบาลต้องส่งเสริมต้องช่วยค่ะ ปล่อยเอกชนทำกันเองจะมีใครเค้าเสี่ยงล่ะคะ ญี่ปุ่นที่ว่าทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ตอนแรกๆรัฐบาลก็ต้องช่วยเยอะเหมือนกัน เหมือนอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีตอนนี้ที่ดังในไทยขายได้เกลื่อนก็เพราะรัฐเค้าตั้งนโยบายส่งเสริม เอกชนทำเองลำพังไม่ได้หรอกค่ะ และการโทษตลาดโทษคนไทยว่าไม่ซื้อเองก็ ไม่เกิดประโยชน์เพราะในฐานะผู้บริโภคดิฉันก็ไม่รู้สึกว่าผู้ผลิตหวังทำตลาดในไทยอย่างจริงจังอะไร ทำเหมือนตลาดไทยเป็นผลพลอยได้เล็กๆน้อยๆมากกว่า ป.ล. ไอเดียการผลักดันโอท็อป เป็นความหวังไทยใช้ไทยทำไทยซื้อและไทยขายให้ต่างชาติที่บรรเจิด และเป็นรูปธรรมมากที่สุดตั้งแต่ดิฉันรู้จักสังคมไทยมา อันนี้ไม่ได้การเมืองนะคะแต่พูดตามที่รู้สึกจริง ถ้าเราไม่ขัดแข้งขัดขากันเอง เราไปได้ไกลแน่ๆ ฝีมือเรามีค่ะแต่ความมุ่งมั่นระดับมหภาคของเราต่ำมาก จากคุณ : รอซื้อของไทย เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 09:51:52 A:118.21.8.82 X: TicketID:166429

ความคิดเห็นที่ 48 #45 สะใจจริงๆ ทำไมต้องซื้อฮัมวี่ด้วยในเมื่อเราก็ทำได้ราคาถูกกว่าเห็นๆ  ไหนมีคนบอกว่าคนไทยทำเองไม่ได้เพราะราคาต่อหน่วยจะแพงกว่าซื้อเขาหละ จากคุณ : กบินทร์บุรี เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 10:56:30

ความคิดเห็นที่ 49 ที่ตลกกว่าคือแบรนด์ไทยหลายแบรนด์ ที่พยายามสร้างให้ตัวเองอินเตอร์ ไม่ใช้ชื่อที่เป็นภาษาไทย  ใช้เป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆกันหมด คนไทยจะรู้ได้ยังไง ว่าไทยทำได้!!!!! จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 17:48:50

ความคิดเห็นที่ 50 ที่จริงมอไซค์ไทเกอร์ที่ตำรวจซื้อไปแล้วมีปัญหาน่ะ น่าจะปล่อยนะ สงสารเจ้าของเค้า เพราะยังไม่เคยเห็นรถตำรวจ หรือรถราชการของเมืองนอกซื้อรถของต่างขาติเลยในกรณีที่ชาติตัวเองผลิตรถได้ จากคุณ : Medic1669 เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 52 19:00:09

ความคิดเห็นที่ 51 แบรนด์ไทยแท้ที่คุ้นเคยกัน แต่ไม่รู้ว่าเป็นของไทย ใครรู้จักแบรนด์ไหนบ้างมาช่วยกันโพสต์ จากคุณ : Bowling Bash เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 01:44:41

ความคิดเห็นที่ 52   คห. 50 หลักๆคือจะปัดแข้งขากันเองแหละครับ ถ้าเป็นพวก ยี่ห้อที่ ใหญ่ๆ ญาติดีกับนักการเมืองเช่น เครือไก่ ก็จะไม่โดนหรอก จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 02:39:28 A:124.122.162.2 X: TicketID:205742

ความคิดเห็นที่ 53   บ้านผมใช้ ตู้เย็น ธานิน ตั้งแต่ผม ก่อนผมเกิด ตอนนี้ผม 23  แล้ว ยังไม่พังเลยครับ จากคุณ : Napsterio เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 52 21:15:51