|
ความคิดเห็นที่ 12 |
อีกอัน ที่มา http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=printpage&artid=440
งานวิจัยชิ้นใหญ่ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์การวิจัยเกี่ยวกับเตาไมโครเวฟ คืองานวิจัยของรัสเซียที่ค้นพบ คาร์ซิโนเจน (carcinogen) หรือสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์ นม และเมล็ดธัญพืช ที่ผ่านการหุงต้มด้วยไมโครเวฟ ส่วนวิตามินบี ซี อี ตลอดจนแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ก็ลดลงด้วย เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากโมเลกุลในอาหารจะสั่นสะเทือนด้วยความเร็วหลายพันล้านรอบต่อวินาที ทำให้เกิดการเปลี่ยนตำแหน่งขั้วบวกและลบ โมเลกุลบางส่วนเสียหาย บางส่วนผิดรูปผิดร่าง บางส่วนแตกกระจายกลายเป็นโมเลกุลหรือสารประกอบใหม่ที่ร่างกายเราไม่เคยรู้จัก
รัสเซียประกาศห้ามใช้เตาไมโครเวฟนับตั้งแต่ปี ๒๕๑๙ เป็นต้นมา อีก ๑๕ ปีต่อมา มีงานวิจัยชิ้นเล็กๆ แต่มีคุณภาพและยิ่งใหญ่ ทั้งในแง่สิ่งที่ค้นพบ และในฐานะที่มันสะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งผลประโยชน์ด้านธุรกิจมากกว่าการใส่ใจหรือรับผิดชอบต่อสุขภาพของผู้บริโภค ในวงการอุตสาหกรรมเตาไมโครเวฟ
ดร. ฮานส์ อุลริช เฮอร์เทล (Hans Ulrich Hertel) นักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำงานให้แก่บริษัทอาหารชั้นนำสัญชาติสวิส ได้ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโลซาน ศึกษาผลกระทบด้านโภชนาการของอาหารไมโครเวฟที่มีต่อเลือดและร่างกายของมนุษย์ โดยให้อาสาสมัคร ๘ คนกินนมและผักที่เตรียมด้วยวิธีต่างกัน คือ นมสด, นมชนิดเดียวกันแต่ต้มด้วยวิธีดั้งเดิม, นมพาสเจอไรซ์, นมสดที่ผ่านการต้มด้วยไมโครเวฟ, ผักสดจากฟาร์มอินทรีย์, ผักชนิดเดียวกันแต่ต้มด้วยวิธีดั้งเดิม, ผักชนิดเดียวกันแต่แช่แข็งและละลายในไมโครเวฟ และผักชนิดเดียวกันแต่หุงต้มในไมโครเวฟ มีการเก็บตัวอย่างเลือดก่อนกินขณะท้องว่าง และหลังกิน
ผลการทดลองปรากฏว่า พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในเลือดของผู้ที่กินอาหารที่ผ่านการหุงต้มด้วยไมโครเวฟ เช่น เฮโมโกลบินลดลง โคเลสเทอรอลชนิดดีลดลง เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น ซึ่งการที่เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น ในเชิงโลหิตวิทยาถือเป็นสัญญาณอันตราย กล่าวคือมีความผิดปรกติเกิดขึ้นในร่างกาย ร่างกายจึงต้องผลิตเม็ดเลือดขาวขึ้นมาเพื่อจัดการกับความผิดปรกติเหล่านั้น
ราวกับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ลงกลางวงอุตสาหกรรมเตาไมโครเวฟ ภายหลังตีพิมพ์ผลงานไม่นาน สมาคมผู้ค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและอุตสาหกรรมแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ที่รู้จักกันในชื่อ FEA ก็อาศัยอำนาจศาลสั่งให้ ดร. เฮอร์เทลยุติการเผยแพร่ข้อมูล ต่อมาในปี ๒๕๓๖ ศาลสวิตเซอร์แลนด์ได้พิพากษาว่า ดร. เฮอร์เทลทำลายการค้า พร้อมสั่งปรับและห้ามไม่ให้ตีพิมพ์ผลการวิจัยอีกต่อไป ทว่าในอีก ๕ ปีต่อมา ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปที่ออสเตรียได้พิพากษาว่า การสั่งห้ามไม่ให้ ดร. เฮอร์เทลพูดถึงอันตรายของเตาไมโครเวฟที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ทั้งนี้ได้สั่งให้ศาลสวิตเซอร์แลนด์จ่ายค่าชดเชยให้ ดร. เฮอร์เทลด้วย
จากคุณ |
:
หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 52 18:25:59
|
|
|
|
|