ความคิดเห็นที่ 1 ไดโนเสาร์มันก็ สูญพันธ์ ตอนยังไม่มีมนุษย์   และเครื่องจักรแต่อย่างใดนะครับ ถ้าเทียบกัน ผมว่า พลังงานความร้อน และ แก๊สก๊าซ ต่างๆ จากฝีมือมนุษย์   มีแค่ส่วนเล็กมากๆครับ  อาจกระทบต่อมนุษย์  แต่ไม่กระทบถึงโลกได้หรอก จากคุณ : IRQ5 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:32:18

ความคิดเห็นที่ 2   ผมว่าพวกที่ไม่คิดว่าเป็นเพราะมนุษย์ทำ เป็นพวกที่นิ่งนอนใจ และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ครับ ก๊าซ CO2 รวมถึง CO ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก แล้วโลกมันจะไม่ร้อนขึ้นได้ไง ถ้ามนุษย์หายใจเฉยๆก็ว่าไปอย่าง (ผมก็สงสัยเหมือนคุณ จขกท ครับ เราก็พยายามใช้ชีวิตให้ไม่เบียดเบียนโลกสุดๆ แต่พอมีคนคิดแบบนี้ ไม่สนใจใครๆแล้วอดที่จะโมโหไม่ได้ครับ) #คห1 ครับ สำหรับกรณีไดโนเสาร์สูญพันธุ์มันคนละปัจจัยนะครับ ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไม่ได้เกิดจากภาวะโลกร้อนซะหน่อย ปล. คนสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุให้โลกร้อนนะ จากคุณ : Cool เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 14:52:33 A:58.8.136.225 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นดวงอาทิตย์ครับ ดวงอาทิตย์สามารถแปรผันพลังงานได้เล็กน้อย มีคาบประมาณสองร้อยปี แต่เชื่อว่ามีผลกระทบมหาศาลต่อบรรยากาศโลก ถ้ามองย้อนไปเป็นพันๆปี สภาวะโลกร้อน โลกเย็นเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และผูกพันกับวัฎจักรดวงอาทิตย์อย่างแนบแน่น ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ในขณะที่ CO2 เพิ่มนั้น activity ของดวงอาทิตย์ก็เพิ่มด้วย จนกระทั่งเข้าขั้นร้อนแรงที่สุดในรอบแปดพันปี นักดาราศาสตร์เรียกว่า modern maximum และสภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน เรียกว่า recent warm period จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:05:52

ความคิดเห็นที่ 4   อ่า เห็นในห้องหว่ากอ ส่วนใหญ่จะพูดถึงโลกร้อนว่า เป็นการกีดกันทางการค้าของพวกฝรั่ง จากที่นั่งๆคิดดู ผมยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เลยได้ความเป็นไปได้มา 3แบบ ช่วยอธิบายให้หน่อยก็ดีครับว่าแบบไหนจริง 1. โลกร้อนจริง แต่พวกฝรั่ง ถือโอกาสเอามาใช้กีดกันทางการค้ารุนแรงเกินจริง 2. คาร์บอนมีผลให้โลกร้อนจริง แต่ไม่รุนแรงเท่าที่เค้าประโคมข่าวกัน พวกฝรั่งก็เมคข้อมูลเพิ่ม เพื่อใช้กีดกันทางการค้าหรือเอาเปรียบเอเชียได้ง่ายๆ (แต่ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรระวังตัวก่อนที่มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ดีกว่ามั้ย?) 3. ทุกอย่างเป็นเรื่องยกเมฆ :-)แบบไม่มีเค้าความจริงเลย ข้ออ้างเอาเปรียบชาวบ้านของพวกฝรั่ง (แต่นอกจากเล่นงานชาวบ้านแล้วเห็นตัวฝรั่งเองส่วนหนึงก็พยายามตรงนี้อยู่เหมือนกันนี่ หรือรัฐบาลพวกนั้นหลอกประชาชนตัวเอด้วย) จาก3ข้อข้างบนนี้เป็น เป็นอย่างไหนหรือครับ ช่วยอธิบายด้วย ปล.อยากถามนานแล้วแต่เป็นแค่บัตรผ่านเลยมาฝากถามกระทู้นี้ละกัน จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:06:49 A:58.64.90.163 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 5   คุณเจ้าของกระทู้เข้าใจผิดแล้วครับ ระหว่างเรื่องของสภาวะโลกร้อน กับเรื่องของสภาวะแวดล้อมเป็นพิษ พยายามทำความเข้าใจใหม่นะครับ ไอ้ที่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มออกมาประโคมเรื่องของสภาวะโลกร้อนนั้นเค้าบอกว่ามีสาเหตุมาจากน้ำมือของมนุษญ์ อันนี้จริงหรือไม่จริงเราก็ไม่รู้ (แต่ทีเรารู้ก็คือตัวเลขต่างๆที่เค้าเอามาประโคมนั้นน่ะ "บิดเบือน" ในขณะที่ปัญหาสภาวะแวดล้อมเป็นพิษอันมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นอของประชากรมนุษย์อย่างขนานใหญ่ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาทำให้ธรรมชาติขาดสมดุลย์ที่โลกจะหล่อเลี้ยงมนุษย์ได้อย่างสุขสบายอีกต่อไป ถ้าหากว่า co2 ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้โลกสูญเสียสมดุล แต่เราดันไปแก้ปัญหาโดยการรณรงค์ลด co2 ในขณะที่ประชากรมนุษย์ยังคงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณต่อไป สุดท้าย เมื่อประชากรโลกเพิ่มเป็นสองหมื่นล้านคนและ พิสูจนืได้ว่า co2 ไม่ใช่สาเหตุหลักของปัญหา ถึงตอนนั้นเราจะเอายังงัยกับประชากรโลกสองหมื่นล้านคนที่โลกไม่สามารถแบกรับใว้ได้อีกต่อไปไม่ทราบครับ จับมาเดินเรียงแถวลงมทะเลมหาสมุทรฆ่าตัวตายให้หมดหรือครับ แล้วใครจงลงไปตายก่อน ใครจะลงไปตายทีหลังก็ต้องมานั่งเถียงกันอีก จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:07:41

ความคิดเห็นที่ 6 สภาวะโลกร้อน กับ เกาะร้อน ต่างกันนะครับ ทุกวันนี้ที่เรารู้สึกว่า อากาศบ้านเราร้อนขึ้นกว่าแต่ก่อน เกิดจาก สภาวะ เกาะร้อนครับ คือต้นไม้ใบหญ้าไม่เยอะเหมือนสมัยก่อน การถ่ายเทอากาศในเกาะก็เป็นไปได้อยากกว่าแต่ก่อนครับ ไม่ได้เกี่ยวกับโลกร้อน จากคุณ : Artaria EpisodeII เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:19:31

ความคิดเห็นที่ 7 ตามที่ผมเข้าใจแบบงูๆ ปลาๆ ถ้าจะพูดรวมๆ เรื่อง climate change ผมว่ามนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องปรากฏการณ์เกาะร้อน (Urban Heat island) ที่คุณกาละมะชนเคยว่าเอาไว้ คือการที่อากาศใกล้พื้นดินในเขตชุมชนเมืองที่มีตึกรามบ้านช่องอยู่เป็นจำนวนมาก มีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณที่เป็นป่าไม้ที่อยู่ถัดออกไปรอบๆ เชื่อว่าปรากฏการณ์เกาะร้อนนี้ทำให้อุณหภูมิในเขตเมืองนั้นสูงขึ้นถึง 2-5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่มนุษย์เรารู้สึกได้ว่ามันร้อนขึ้นจริงๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับส่วนหนึ่งของภาวะโลกร้อน (global warming) จริงๆ แต่การที่ฝรั่งดันเอาเรื่องการปล่อยก๊าซมีเทน และก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเกิดจากการทำเกษตรกรรมของประเทศกำลังพัฒนามาเก็บตังค์ค่าคาร์บอนเครดิต ซึ่งไม่น่าเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนมากนัก มันเป็นการเอาเปรียบประเทศกำลังพัฒนา ในขณะที่ประเทศตัวเองต่างหากที่ทำให้เกิดภาวะเกาะร้อน เป็นหลัก มันก็เลยทำให้ดูเหมือนว่า พวกนี้กำลังใช้วาทกรรมโลกร้อนมาครอบงำเราไงครับ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:19:41

ความคิดเห็นที่ 8 # 2 แล้วคุณจะทำยังไงครับ ไม่พูดถึงเรื่องเครื่องปรับอากาศ เรื่องการเดินทาง เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมขอถามแค่ คุณไปเซเว่นคุณ ถือถุงผ้าไปหรือป่าว? ถ้าไม่คุณ แล้วคุณต่างจากผมยังไง? จากคุณ : Artaria EpisodeII เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:22:13

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าอย่างนั้นเราควรทำอย่างไร ช่วยแนะนำวิธีการอย่างที่ท่าน  คห 2 ทำอยู่หน่อยสิครับ จากคุณ : kiamour เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:31:02

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ลดการใช้ทรัพยาการที่ทำให้ป่าไม้ลดลงจากป่าไม้ เป็นทางออกที่ดีครับ แต่เลือกเอาต้นที่รากมันไม่ไปทำลายท่อระบายน้ำให้น้ำท่วมนะครับ อ้อ อันนี้วิธีการแก้ภาวะเกาะร้อนนะครับ ไม่ใช่โลกร้อน แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 15:52:14 จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 15:51:00

ความคิดเห็นที่ 11 ..เริ่มรู้สึกถึงความดราม่า และรู้สึกว่า ไดโนเสาร์ ไม่ได้ตายเพราะโลกร้อน แต่โลกเคยร้อนขึ้นในยุคไดโนเสาร์ ..จะบอกว่าตัวการคือไดโนเสาร์ หรือไดโนเสาร์แอบดูดบุหรี่ดีละครับ ในเรื่องของการโต้แย้งกัน ผมคิดว่า แสร้งให้ใจเป็นกลางเพื่อเปิดรับฟังความคิดด้านอื่น ดีกว่าการมาเถียงๆสรุปๆว่ามันเป็นอย่างที่ตนเองเชื่อ ถึงจะไม่ได้คำตอบสุดท้าย แต่อย่างน้อยก็ได้เปิดสมองรับรู้แนวความคิดอื่นๆเพิ่มนะครับ ..แวะมาตอบนอกเรื่องอย่างเดียว เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากความคิดเห็นนี้ จากคุณ : เครื่องทำน้ำขุ่น เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:01:39

ความคิดเห็นที่ 12 หากคำถามของ เจ้าของกระทู้ ถามว่า ถ้ามนุษย์ไม่ใช่สาเหตุ แล้วอะไรทำให้เกิด Climate Change? คำตอบก็คือ.......อมนุษย์ อมนุษย์ ที่ว่าก็คือ พวกนายทุน พวกนักลงทุน ที่ ว้อนท์ อยากรวย อยากควบคุมระบบการเงินโลก ด้วยการปั่นราคาเชื้อเพลิง สร้างเรื่องทุกอย่าง เพียงเพราะอาศัยการปรับตัวของโลกตามรอบของเค้า อ้างอิงจากพื้นฐานคำโกหกหลอกลวง แล้วก็บ่มให้คนทั้งโลกเกิด พารานอย ผ่านกระบวนการสร้างสงคราม การก่อการร้าย น้ำมันจะหมดโลกบ้างล่ะ เชื้อไวรัสบ้างล่ะ พวกตัวเองก็ laundry ทุกอย่างในตลาดหุ้น ทำอย่างเนี้ยทุกวัน หลอกให้กลัว อ้างวิทยาศาสตร์ แบบไร้ขื่อแป จะได้เกิดการลงทุน นั่นหมายถึงการกู้เงินมาลงทุน สุดท้ายก็เป็นหนี้ตลอดชีวิต หนี้ที่ไม่มีวันหมด ก็เท่ากับ Slaves มันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ซักอย่าง จากคุณ : รามอรุณ (เด็กคน) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:23:53

ความคิดเห็นที่ 13   วิทยาศาสตร์ที่บิดเบือนข้อมูล มันก็คือลัทธิวิทยาศาสตร์ ไม่แตกต่างจากลัทธิเทวะนิยมอื่นๆ จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 16:48:42

ความคิดเห็นที่ 14 สูบบุหรี่ก็โลกร้อน เปิดไฟก็โลกร้อน เปิดแอร์ก็โลกร้อน ขับรถก็โลกร้อน กินเนื้อก็โลกร้อน บลาๆๆๆ งั้นก็อย่าหายใจด้วยเลยซิ โลกจะได้ไม่ร้อนขึ้นแม้แต่นิดเีดียว จากคุณ : เบื่อโลกจัง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 17:44:42

ความคิดเห็นที่ 15   เรื่อง Solar Activity นั้น โดนตีตก หลายครั้งมาก เชิญคุณ กาลามะชน อ่านเปเปอร์ พร้อมทั้งจับผิด เปเปอร์จากกลุ่มของนักวิจัยที่ Stanford U. และแปลให้ชาวหว้ากออ่านก็ดีนะครับ http://stephenschneider.stanford.edu/Publications/PDF_Papers/Laut2003.pdf http://www.realclimate.org/wp-content/uploads/PETERLAUT-ANALYSIS-CLIMATE-CHANGE-CPN1.pdf จากคุณ : ss เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 19:37:10 A:111.84.4.158 X: TicketID:221203

ความคิดเห็นที่ 16 "เรื่อง Solar Activity นั้น โดนตีตก หลายครั้งมาก" ฟังดูเหมือนคำโฆษณาชวนเชื่อทฤษฎีมนุษย์ทำให้โลกร้อน climategate ทำให้ผลงาน peer review คลายความศักดิ์สิทธิ์ไปเยอะครับ ฉบับไหนถูกรีวิวโดย 'เดอะแก๊งค์' ยิ่งเหมือนกับถูกประทับตราบาปว่าไม่ควรเชื่อด้วยซ้ำ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 20:48:59 จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:38:13

ความคิดเห็นที่ 17 คำตอบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ ก็ต้องบอกว่าไม่ทราบครับ เช่นเดียวกับที่เราไม่ทราบสาเหตุการเกิดยุคน้ำแข็ง และสาเหตุการสิ้นสุดยุคน้ำแข็ง แต่ที่แน่ๆคือ การเกิด climate change ในสเกลขนาดใหญ่มากๆในอดีต ไม่น่าจะเกี่ยวกับมนุษย์ แม้กระทั่งข้อมูลในปัจจุบัน ก็ยังน่าสงสัยว่าเป็นการร้อนขึ้นเนื่องจากการสิ้นสุดของ ยุคน้ำแข็งขนาดเล็กในช่วงหลังยุคกลางหรือเปล่า จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:23:20

ความคิดเห็นที่ 18 คุณกาลามะชน เรื่องทฤษฎีสมคบคิดว่ามีการกันไม่ให้นักวิทยาศาสตร์ฝ่ายต้านทฤษฎีโลกร้อนออกสื่อ ผมไม่ค่อยเชื่อนะ ผมว่าหลักฐานเขาอาจจะไม่แน่นขนาดนั้น อย่างดีก็สูสีกับฝ่ายเชื่อ อย่างที่อเมริกามีช่องทางให้ฝ่ายต้านออกมาพูดได้แน่นอน เช่น Fox News สื่อที่เอียงขวากะเท่เร่ แต่มีเรตติ้งคนดูสูงสุด มากกว่า CNN อีก มีคนออกมาต้านทฤษฎีโลกร้อนเต็มไปหมด แต่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ เป็นพวกคลั่งศาสนาบ้าง พวกทุนนิยมสุดขีดบ้าง เลยมีแต่คารมไม่มีหลักฐาน ไม่รู้นักวิทยาศาสตร์หายไปไหน เลยทำให้สังคมไม่ค่อยเชื่อฝ่ายต้านเท่าไหร่ ปล. Climate change ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ที่มนุษย์มีสมองใหญ่ขนาดนี้ได้ มีทฤษฎีหนึ่งเสนอว่าเป็นเพราะ Climate change ในอัฟริกาครับ เพราะช่วงที่มีการก้าวกระโดดของขนาดสมองของบรรพบุรุษมนุษย์ เป็นช่วงเดียวกับที่มีหลักฐานว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง เช่นน้ำท่วมสิบปีร้อยปี แล้วแล้งสิบปีร้อยปีสลับกัน จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:00:38

ความคิดเห็นที่ 19   คุณว่า กองบรรณาธิการของ Nature เป็นเดอะแก๊งค์ ด้วยรึเปล่าละครับ ทำไมเค้าถึงคิดว่า สิ่งที่ฝ่าย skeptics คิดนั้น "laughable" ละครับ ?? จะให้เลิกเชื่อ Peer-Reviewed Papers แล้วมาเชื่อ Blog แทน ใช่มั๊ยครับ ผมอยากรู้ว่า มีฝ่าย skeptics คนไหน ออกไปขุดน้ำแข็ง เก็บข้อมูล ส่งดาวเทียมไปวัดอุณหภูมิอากาศ บ้าง ??? สิ่งที่ฝ่าย skeptics กำลังทำคือ ทำลายความน่าเชื่อถือของระบบวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดต่างหาก คือ อะไรก็เชื่อไม่ได้ทั้งนั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้เสนออะไรที่ "เชื่อได้" ออกมาเลย สรุปว่า ฝ่าย skeptics ยังตอบคำถามเจ้าของกระทู้ไม่ได้นะครับ เรื่อง solar radiation ถูกตีตกไปแล้ว http://stephenschneider.stanford.edu/Publications/PDF_Papers/Laut2003.pdf จากคุณ : sas เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:21:42 A:115.67.82.181 X: TicketID:221203

ความคิดเห็นที่ 20   ความเห็นของกองบรรณาธิการ Nature 3 December 2009 บอกว่า กรณีการแฮ็คอีเมล์ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเรื่อง Conspiracy แต่อย่างใด โดยบอกว่า การตีความของพวก denialists (พวกโลกร้อนไม่จริง) นี่ อาจจะเป็นเรื่อง “น่าขัน” “This paranoid interpretation would be laughable” แต่เชื่อว่าพวก ส.ว. หัวแข็ง ในสภาสหรัฐจะต้องหยิบยกมาโจมตีกฎหมายเรื่องโลกร้อน (climate bill) แน่นอน เรื่องโลกร้อน มีหลักฐานสนับสนุนมากมาย ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัย EAU ที่ถูกแฮ็ค ถ้า ลองอ่านอีเมล์พวกนั้นดีๆ จะเห็นว่านักวิจัยที่ EAU วิจารณ์งานของ S. McIntyre and R. McKitrick (skeptics ตัวพ่อ) อย่างเผ็ดร้อน และบอกว่าจะไม่ให้มีเปเปอร์พวกนี้อยู่ในรายงานของ IPCC แน่นอน แต่ความจริงคือ เอาเข้าจริงแล้ว รายงานของ IPCC ก็อ้างอิง papers ของทั้งคู่ ไม่ได้กีดกันแต่อย่างใด เรื่องอีเมล์ถูกแฮ็ค ทำให้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ฝ่ายโลกร้อน กำลังถูกปฏิบัติ (Harassment) อย่างไร และคาดว่า จะรุนแรงขึ้น เมื่อรัฐสภาสหรัฐเปิดอภิปราย climate bill ในปีหน้า http://www.nature.com/nature/journal/v462/n7273/full/462545a.html จากคุณ : sas เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:23:34 A:115.67.82.181 X: TicketID:221203

ความคิดเห็นที่ 21   ขอโทษนะครับ พูดมาหลายรอบแล้วว่า ฝ่ายค้านไม่ได้ต้านว่าโลกไม่ร้อนนะครับ แต่เค้าตั้งประเด็นว่า 1 )มันร้อนขึ้นมากมายอย่างที่ข้อมูลที่บิดเบือนของฝ่ายโลกร้อนเอามาให้ดูละหรือ และ 2) ไอ้ที่มันร้อนขึ้นมันเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ล้วนๆ หรือว่ามันเป็นวัตตจักรของมันกันแน่ ตรงนี้ต่างหากครับ ที่เค้าลุกขึ้นมาเถียงกัน จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:58:25

ความคิดเห็นที่ 22 คือ ผมว่าประเด็น ณ ตอนนี้ คือการหาสาเหตุและแก้ปัญหาโลกร้อนนะครับ เพราะทุกวันนี้ โลกมันร้อนขึ้นจริง หลายๆท่านคงจะไม่เถียงนะครับ จากการที่ได้เห็นสถานที่ต่างๆในโลก เกิดการเปลี่ยนทางธรณีวิทยาอย่างชัดเจน เช่น น้ำแข็งในขั้วโลกเหนือละลายลงอย่างต่อเนื่องในปริมาณหลายล้านๆตันต่อปี ฯลฯ ดังนั้น สมมติว่า สาเหตุหลักมันมาจากน้ำมือของมนุษย์ เราก็จำเป็นที่จะต้องยอมรับและแก้ไขตรงนี้อย่างเร่งด่วนครับ เพราะทรัพยากรที่มีให้เราใช้ ก็ร่อยหรอลงไปทุกวัน แต่จำนวนประชากรของเผ่าพันธุ์เรา กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมว่า การปลูกต้นไม้เพิ่ม ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งนะครับ เพราะนอกจากช่วยดูดซับ CO2ในบรรยากาศแล้ว ยังทำให้ธรรมชาติอุมสมบูรณ์ขึ้น ระบบนิเวศน์ก็สมดุลตาม ทำให้มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ตาม ถือเป็นการเพิ่มอาหารให้กับจำนวนประชากรของเผ่าพันธุ์เราที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้อีกด้วยนะครับ จากคุณ : Styer เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:55:21

ความคิดเห็นที่ 23 นักวิจัยฝ่ายโลกร้อนต่างหากที่ทำลายตัวเองจนถึงแก่ความตาย ฝ่ายค้านแค่ช่วยจัดการงานศพให้ จากคุณ : กาลามะชน เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 07:46:21

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่มีใครตอบ หมีคั่วโลก เหรอ -*- จากคุณ : สุดโหดโครตโรแมนติก เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 16:03:00

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ทราบครับ แต่เคยเห็นข้อมูลว่ามีบางช่วงที่อุณหภูมิโลกเพิ่มหรือลดสวนทางกับคาร์บอนไดออกไซด์ หรือในอดีตที่อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นก่อนที่มนุษย์จะมีอารยธรรมซะอีก ถ้าอ้างว่าสาเหตุมาจากมนุษย์คงไม่ได้กระมัง แสดงว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก แต่ตอนนี้หลาย ๆ คนมองข้ามไปจนเหลือแค่ปัจจัยเดียวซะแล้ว จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:13:39

ความคิดเห็นที่ 26 ที่แน่ๆ กาลามะชน ไม่เคยมีข้อมูลงานวิจัยจริงๆที่จะมาค้านผลงานวิจัยเขาได้เลย ในวงการวิทยาศาสตร์ ถ้าคุณไ่ม่มีข้อมูลวิจัยมาค้านละก็ สมควรเงียบๆไว้ หรือมาโพสในหว้ากอ เพราะคุณหลอกได้แต่เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่เท่านั้น เห็นด้วยกับความเห็นที่ 19 ที่ว่า "สิ่งที่ฝ่าย skeptics กำลังทำคือ ทำลายความน่าเชื่อถือของระบบวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดต่างหาก คือ อะไรก็เชื่อไม่ได้ทั้งนั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้เสนออะไรที่ "เชื่อได้" ออกมาเลย" จากคุณ : ม้าหงอย เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 15:20:52