ความคิดเห็นที่ 1 หากแต่เซลล์มะเร็งที่ว่านั้นไม่ได้เจริญบนร่างกายที่ไร้ชีวิตของ Henrietta Lacks เนื่องจากในระหว่างการผ่าตัดเพื่อพิสูจน์ชิ้นเนื้อมะเร็ง (cervical biopsy) มีชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมะเร็งหลงเหลือ ชิ้นส่วนดังกล่าวซึ่งยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์และยังมีความสามารถในการเจริญเติบโตได้ถูกส่งต่อไปยังนายแพทย์ George Gey ผู้เป็นหัวหน้านักวิจัยในโรงพยาบาล Johns Hopkins ในขณะนั้น ซึ่งมีขอบเขตความสนใจเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ มะเร็ง และไวรัสวิทยา เซลล์มะเร็งของ Henrietta Lacks ได้ ปลุกความทะเยอทะยานของ Dr.Gey ที่คาดหวังถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของวิทยาการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (tissue culture หรือ cell culture) เนื่องจากเซลล์มะเร็งเป็นเซลล์ที่สามารถเจริญพัฒนาได้อย่างไม่สิ้นสุดหากมีการควบคุมสภาวะแวดล้อมอย่างเหมาะสมและมีอาหารหล่อเลี้ยงเพียงพอ การดำรงอยู่ของเซลล์มะเร็งของ Henrietta Lacks จะนำไปสู่การศึกษาและค้นพบกระบวนการทางชีววิทยาของเซลล์มะเร็ง-ซึ่งอาจนำไปสู่หนทางในการพิชิตเซลล์มะเร็งในอนาคตข้างหน้า Dr.Gey ประกาศเป้าหมายอันสูงส่งดังกล่าวต่อหน้าสาธารณชน (โดยนำ”เซลล์มะเร็ง”ของ Henrietta Lacks ใส่หลอดทดลองออกอากาศทางโทรทัศน์ด้วย) และเดินหน้าเพาะเลี้ยง ศึกษาเซลล์มะเร็งของ Henrietta Lacks อย่างต่อเนื่อง (‘the isolation and maintenance of normal and malignant or otherwise diseased tissues as temporary or stable organoids or as derived cell strains.’) Dr. George Gey คนขวาด้านบน จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:01:37

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้ที่ไม่ได้เรียนชีววิทยาระดับมหาวิทยาลัย จึงจำเป็นต้องอธิบายเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือ การเพาะเลี้ยงเซลล์ (tissue culture หรือ cell culture) อย่างคร่าวๆ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อคือการแยกเซลล์ชนิดเดี่ยวจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งมาเลี้ยงโดยควบคุมสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมและให้สารอาหารหล่อเลี้ยงเซลล์ วัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษาระดับเซลล์ในงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ในแขนงต่างๆทั้งวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ (การศึกษาวงจรเซลล์, การศึกษาด้านอณูชีววิทยาหรือพันธุกรรม, การศึกษากระบวนการทางชีวเคมี ฯลฯ) และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (การทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพของสารเคมี, การศึกษากลไกการเกิดโรค, การผลิตโปรตีน ฯลฯ) ปัจจุบัน การเพาะเลี้ยงเซลล์ถือเป็นเครื่องมือพื้นฐานและมีการใช้อย่างกว้างขวางในการศึกษาทางชีวภาพ เซลล์เพาะเลี้ยงสามารถแบ่งตามต้นกำเนิดได้เป็นสองชนิดหลักคือ Primary cell line และ Continuous cell line Primary cell line คือเซลล์ที่แยกจากสิ่งมีชีวิตหรืออวัยวะของสิ่งมีชีวิตโดยตรง เช่น เซลล์ตัวอ่อนไก่ (Chicken embryo cell) เซลล์ไตสุนัข (Dog kidney cell) ข้อดีของ cell line ชนิดนี้คือ มีคุณสมบัติเหมือนเซลล์ที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกประการ สามารถใช้เป็นแบบในการศึกษาสรีรวิทยาปกติในอวัยวะนั้นๆได้ แต่ข้อเสียก็คือเลี้ยงได้ไม่นานนัก เซลล์จะมีกระบวนการแก่ชราและตายไปในที่สุด (สาเหตุคืออะไรจะอธิบายต่อไป) Continuous cell line คือเซลล์ที่มีคุณสมบัติแบ่งตัวได้ไม่สิ้นสุด จึงสามารถเลี้ยงต่อไปได้เรื่อยๆไม่มีวันตายเช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสบางชนิด จากคุณสมบัติดังกล่าวจึงอาจกล่าวได้ว่าเซลล์เหล่านั้นเป็นอมตะ ซึ่งจะเพิ่มสะดวกอย่างมากในการศึกษาวิจัย เนื่องจากสามารถเลี้ยงเซลล์ต่อไปได้เป็นร้อยๆรุ่น และไม่ต้องมีกระบวนการยุ่งยากในการแยกเซลล์ออกจากสิ่งมีชีวิตหรืออวัยวะ แต่ข้อเสียก็คือเซลล์ดังกล่าวมักมีการกลายพันธุ์ไปจากเซลล์ปกติ ดังนั้น การวิจัยจาก continuous cell line จึงมีขอบเขตจำกัดอยู่บ้าง โดยมากมักใช้ศึกษากระบวนการพื้นฐานทั่วไปของเซลล์ซึ่งไม่มีความแตกต่างกันระหว่างเซลล์ปกติกับ immortal cell แน่นอนว่า เซลล์มะเร็งของ Henrietta Lacks จัดเป็น continuous cell line และเป็นเซลล์อมตะแรกๆของโลกเสียด้วย รูปตัวอย่างการเตรียม cell line จาก embryonic stem cell จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:02:35

ความคิดเห็นที่ 3 เซลล์มะเร็งของ Henrietta Lacks นั้นถูกตั้งชื่อใหม่ว่า HeLa (Henrietta Lacks) ตัว Dr.Gey นั้นมีความปรารถนาชื่อเสียงจากงานวิจัยดังกล่าวหรือไม่ก็ยากจะคาดเดา แต่การกระทำของเขาก็สร้างคุณประโยชน์นานัปการด้านวิทยาการเพาะเลี้ยงจวบจนปัจจุบัน Dr.Gey ได้แจกจ่ายเซลล์มะเร็งดังกล่าวให้กับนักวิจัยอีกเป็นจำนวนมาก HeLa จึงแพร่กระจายไปทั่วโลกในเวลาไม่ช้า ถูกส่งต่อจากห้องปฏิบัติการหนึ่งไปยังอีกห้องปฏิบัติการหนึ่ง จากนักวิจัยคนหนึ่งไปยังนักวิจัยอีกหลายคน จนมีคำกล่าวว่ายุคดังกล่าวเป็น ‘ยุคของ HeLa’ (HeLa era) และการใช้ประโยชน์จาก HeLa cell ก็ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางการแพทย์อย่างก้าวกระโดดดังที่ Dr.Gey คาดคะเน มีงานวิจัยจำนวนมากที่ศึกษาชีววิทยาระดับเซลล์โดยใช้ HeLa cell และทำให้เกิดการค้นพบ ความเข้าใจสิ่งใหม่ๆ เป็นต้นว่า กลไกการเกิดเซลล์มะเร็ง กลไกการติดเชื้อ HIV ผลของรังสีและสารพิษต่อเซลล์ การทำแผนที่ยีน (gene mapping) และความสำเร็จที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ การผลิตวัคซีนโปลิโอแบบฉีดใน HeLa cell โดย Dr.Jonas Salk (ดังนั้นวัคซีนดังกล่าวจึงถูกเรียกว่า Salk polio vaccine) จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:03:17

ความคิดเห็นที่ 4 แต่กระนั้น Henrietta Lacks ก็ไม่ได้รับการอ้างถึงใดๆในฐานะที่เป็นเจ้าของเซลล์แม้แต่น้อย (ในเวลาดังกล่าว HeLa cell ถูกเข้าใจผิดว่ามาจากชื่อเต็ม HeLen Lane หรือ Harriet Lane ด้วยซ้ำ) อันที่จริงแล้ว เซลล์มะเร็งของเธอถูกนำไปใช้โดยปราศจากความยินยอมของเธอ (inform consent) และแม้แต่ญาติพี่น้องของเธอก็ไม่ได้รับรู้การกระทำดังกล่าวด้วยซ้ำจนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายต่อหลายปีหลังจากที่ Dr.Gey เสียชีวิตไปนานแล้ว และความพยายามที่จะปกปิดชื่อแท้จริงของ HeLa นั้นต้องเป็นอันสิ้นสุด บางคนอาจเกิดคำถามในใจว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องผิดจริยธรรมหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวถูกนำมาพิจารณาครั้งหนึ่งในศาลแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียและได้รับการตัดสินว่า “ชิ้นส่วนเนื้อเยื่อของบุคคลใดๆที่ถูกทิ้ง ไม่ถือเป็นสมบัติของผู้นั้นอีกต่อไป และสามารถถูกนำมาใช้ในเชิงการค้าได้” ดังที่กล่าวมา ต้นกำเนิดของ HeLa นั้นเป็นเพียงชิ้นส่วนเนื้อเยื่อที่หลงเหลือจากการผ่าตัด แน่นอนว่าจากคำตัดสินดังกล่าวคงสร้างความกังขาแม้กระทั่งชาวหว้ากอที่กำลังอ่านกระทู้นี้ ประเด็นหนึ่งที่น่าคิดคือโรงพยาบาล John Hopkins เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ HeLa cell ก็ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล…หากลองพิจารณาตามทฤษฎีประโยชน์นิยมก็…อืม…นะ (อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าลูกหลานของ Henrietta Lacks ไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าไรนัก และพวกเขาก็ค่อนข้างเจ็บปวดกับการปิดบังความลับนานนับสามสิบปีดังกล่าว) รูปโรงพยาบาล John Hopkins วิทยาลัยทางการแพทย์ชื่อดังระดับโลก แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:58:38 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:04:19

ความคิดเห็นที่ 5 เซลล์มะเร็งคือเซลล์ที่เกิดการกลายพันธุ์ของยีน เป็นผลให้สูญเสียการควบคุมกรแบ่งตัวเพิ่มจำนวนตนเอง เซลล์มะเร็งสามารถถูกกระตุ้นให้เกิดได้จากปัจจัยหลายประการเช่น การบาดเจ็บของเซลล์ รังสี สารเคมี เชื้อจุลินทรีย์บางชนิด HeLa cell มีชิ้นส่วนจีโนมของไวรัส Human papilloma virus (HPV) อยู่ในสารพันธุกรรม ซึ่งแน่นอนว่า Henrietta Lacks ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่และเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นมะเร็ง HPV นั้นได้รับการพิสูจน์มาเป็นเวลาช้านานแล้วว่าเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในมนุษย์ (จนกระทั่งบริษัทยาแห่งหนึ่งกล้าเคลมว่า หากมนุษย์ทุกคนได้รับการฉีด HPV vaccine แล้วไซร้ มะเร็งปากมดลูกจะถูกกำจัดจากโลกนี้โดยสิ้นเชิง บริษัทไหนไม่รู้ลองไปค้นหาดูเองนะจ๊ะ) ด้วยคุณสมบัติความเป็นมะเร็งของ HeLa cell นั้นเองทำให้มันเป็นอมตะและสามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่สิ้นสุด HPV เป็นสาเหตุในการเกิดมะเร็งปากมดลูก แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:58:49 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:05:09

ความคิดเห็นที่ 6 ในเซลล์ปกติจะมีกระบวนการแก่ชราของเซลล์ (cell senescence) ซึ่งทำให้เซลล์สามารถแบ่งตัวได้อย่างจำกัดจำนวนครั้ง กระบวนการหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญคือการหดสั้นของเทโลเมียร์ (telomere shortening) หากยังไม่ลืมชีววิทยาม.ต้นกันไปหมด เทโลเมียร์คือหน่วยพันธุกรรมส่วนปลายของโครโมโซม และเนื่องจากข้อจำกัดบางประการของกระบวนการเพิ่มจำนวนสารพันธุกรรม (DNA replication) จะทำให้เทโลเมียร์มีการหดสั้นลงทุกครั้งในแต่ละรอบของการแบ่งเซลล์ (หากอธิบายต่อจะซับซ้อนมาก ถ้าสนใจลองค้นคว้าดูเองโดยใช้ key word “end replication problem” ซึ่งเกี่ยวกับ Okasaki’s fracment) การหดสั้นลงของเทโลเมียร์ทำให้สารพันธุกรรมทั้งหมดของเซลล์ไม่สมบูรณ์ และทำให้เซลล์ตายในที่สุด ในเซลล์มะเร็งหลายชนิดรวมถึง HeLa cell จะมีเอ็นไซม์ telomerase ซึ่งไม่พบในเซลล์มนุษย์ปกติ (ยกเว้นเซลล์สืบพันธุ์ เซลล์ต้นกำเนิด (stem cell) ในบางระยะ) ทำหน้าที่ต่อสายเทโลเมียร์ที่หดสั้นลงแต่ละรอบของการแบ่งเซลล์ ทำให้เทโลเมียร์มีความยาวคงที่ และกระบวนการแก่ชราของเซลล์ทุกยับยั้ง นี่เป็นสาเหตุที่ HeLa cell สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:05:41

ความคิดเห็นที่ 7 และเนื่องจาก HeLa cell ถูกส่งต่อและมีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน อาจกล่าวว่า HeLa cell มีอายุมากกว่าเจ้าของร่างของมันเสียแล้ว จำนวนเซลล์ทั้งหมดก็คงมากกว่าเซลล์ที่ประกอบเป็นร่างกายของ Henrietta Lacks ไม่รู้กี่ร้อยที่พันเท่าเช่นกัน (เป็นเรื่องยากมากที่จะคำนวณว่า HeLa cell มีการแบ่งตัวมาแล้วกี่ครั้งนับจากวันแรกที่ถูกแยกออกจากเจ้าของร่าง นอกจากต้องนับห้องปฏิบัติการที่มีอยู่ทั่วโลกแล้วยังต้องรวมถึงการส่งต่อ HeLa cell อย่างไม่เป็นทางการ-ให้เปล่าจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่ง-ด้วยไมตรีต่อกันของนักวิจัยในห้องปฏิบัติการเดียวกันอีกด้วย) ซ้ำร้าย HeLa cell ได้ก่อปัญหาสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ คือ การปนเปื้อนระหว่างเนื้อเยื่อ (tissue culture contamination) การปนเปื้อนระหว่างเนื้อเยื่อ คือ การปนเปื้อนของเนื้อเยื่อชนิดหนึ่งในเนื้อเยื่อชนิดหนึ่ง โดยอาจเป็นสปีชี่ส์เดียวกันหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์และเป็นปัญหาที่สำคัญมากในการศึกษาวิจัยที่มีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ อันเกิดขึ้นได้ในห้องปฏิบัติการที่ไม่มีการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพหรือเกิดจากเทคนิคอันสะเพร่าของผู้วิจัย หรือแม้จะระวังสักเพียงใดก็ตามการปนเปื้อนก็ยังอาจเกิดขึ้นได้อยู่ดี! การปนเปื้อนของเนื้อเยื่อจะทำให้ผลการศึกษาที่ได้นั้นไม่ถูกต้องและไม่น่าเชื่อถือ (ต้องการผลการทดลองในเซลล์ชนิดหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นผลการทดลองในเซลล์อีกชนิดหนึ่ง) ในยุคที่ HeLa cell มีการใช้อย่างแพร่หลาย cell line อื่นๆจำนวนมากในยุคดังกล่าวจึงถูกปนเปื้อนไปด้วย HeLa…เช่นเดียวกัน การปนเปื้อนดังกล่าวเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง…ทั่วโลกนี้ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:06:50

ความคิดเห็นที่ 8 ในปี 1967 Stanley Gartler ได้พัฒนาวิธีตรวจสอบการปนเปื้อน HeLa cell ใน cell line อื่นๆ เขาทำการตรวจสอบโปรตีน 2 ชนิดคือ glucose-6-phosphate dehydrogenase (G6PD) และ phosphoglucomutase (PGM) ซึ่งมีความแปรผันทางพันธุกรรมอันมีลักษณะจำเพาะในสตรีชาวแอฟริกัน-อเมริกัน Henrietta Lacks เป็นลูกครึ่งแอฟริกัน-อเมริกัน ดังนั้นฟีโนไทป์ของโปรตีนทั้งสองชนิดในเซลล์ของเธอจึงมีความจำเพาะ และสามารถใช้เป็น marker ตรวจวัดการปนเปื้อนใน cell line อื่นๆได้ การปนเปื้อน HeLa ส่งผลกระทบต่อวงการวิทยาศาสตร์หลากหลายแขนงที่มีการใช้เซลล์เป็นเครื่องมือศึกษา ตัวอย่างหนึ่งคือการศึกษาด้านรังสีวิทยา เมื่อนักรังสีวิทยาทำการทดสอบความสัมพันธ์ของขนาดของรังสีกับการตายของเซลล์มนุษย์ โดยใช้เซลล์ไตมนุษย์ในการศึกษา เขามีอันต้องประหลาดใจเมื่อเซลล์เพาะเลี้ยงดังกล่าวปนเปื้อน HeLa ผลการทดลองที่ได้จำเป็นต้องถูกโยนทิ้ง เพราะแทนที่จะได้ผลของรังสีต่อเซลล์มนุษย์ปกติ กลับได้ผลของรังสีต่อเซลล์มะเร็ง   อย่างไรก็ตาม ปัญหาการปนเปื้อน HeLa ในปัจจุบันเป็นที่น่าวิตกกังวลน้อยลง เนื่องจากความก้าวหน้าทางวิธีการตรวจสอบซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การตรวจฟีโนไทป์ เทคนิคอื่นๆอย่าง karyotyping และ chromosome band analysis ก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตรวจสอบเช่นกัน ร่วมกับการควบคุมการปนเปื้อนในห้องปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันพบว่า 42 ใน 252 human cell lines (18%) มีการปนเปื้อน HeLa รายการ contaminated cell line จะเห็นว่ามี cell line จำนวนเยอะมากที่มีการปนเปื้อน HeLa cell พอย่อรูปแล้วมันก็เล็กเกิน - -" ให้สังเกตคอลัมภ์ที่ 4 ครับ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 08:16:46 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:07:18

ความคิดเห็นที่ 9 คุณสมบัติและความเป็นอมตะของ HeLa cell ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งพิจารณาว่ามันไม่ใช่ ‘เซลล์มนุษย์’ อีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์นามว่า Leigh Van Valen พยายามกำหนดให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์ใหม่ (Helacyton gartleri) ด้วยเหตุผลดังนี้ - โครโมโซมของ HeLa cell มีความแตกต่างจากโครโมโซมมนุษย์ปกติ (HeLa มีโครโมโซม 82 แท่ง และมีชิ้นส่วนของจีโนมไวรัส HPV18 แทรกอยู่ด้วย) - HeLa cell มีความสามารถในการเจริญเติบโต ซึ่งเหนือยิ่งกว่าการควบคุมของมนุษย์ที่ทำการเพาะเลี้ยง อย่างไรก็ตาม การระบุสปีชี่ส์ใหม่ของ HeLa cell นั้นไม่ได้รับการยอมรับในแวดลงนักวิทยาศาสตร์สากล แม้ว่าจะมีการใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มคนจำนวนหนึ่งก็ตาม จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:07:58

ความคิดเห็นที่ 10 ลองพิจารณาอีกมุมองหนึ่ง โดยย้อนรอยกลับไปที่ชื่อของกระทู้นี้ เราสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่า HeLa ก็ยังคงเป็น Henrietta Lacks และ Henrietta Lacks ยังคงมีชีวิตเป็นอมตะตราบเท่าที่ HeLa cell ยังแบ่งตัวต่อเนื่องอย่างไม่สิ้นสุด เพราะว่า HeLa cell นั้นครั้งหนึ่งก็เป็นเซลล์ในร่างกายของเธอ…เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอมิใช่หรือ คำถามนี้อาจเป็นคำถามปรัชญาที่ต้องขอยกคำพูดของนายแพทย์ Sir William Oslar ที่เคยปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก่อนที่ Henrietta Lacks จะเกิดด้วยซ้ำว่า ‘‘the individual is nothing more than the transient off-shoot of a germ plasm, which has an unbroken continuity from generation to generation, from age to age . . . ‘the individual organism is transient, but its embryonic substance, which produces the mortal tissues, preserves itself imperishable, everlasting, and constant.’ ’’ ทั้งนี้ขออนุญาตไม่แปลเนื่องจากอาจทำให้เสียใจความสำคัญ หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่มีความสามารถมากพอที่จะแปลประโยคซับซ้อนดังกล่าว…กร๊าก ข้อถกเถียงเกี่ยวกับจริยธรรมในการใช้ประโยชน์จาก HeLa cell โดยไม่มีการขอความยินยอม หรือการตั้งสปีชี่ส์ใหม่ให้กับ HeLa cell หรือความเป็นอมตะของ Henrietta Lacks ก็ยังคงเป็นที่น่ากังขาต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม HeLa cell ที่ Henrietta Lacks ได้หลงเหลือไว้ให้โลกนี้ก็ได้สร้างคุณประโยชน์ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างมากมาย ดังนั้น จขกท.ขอแสดงความเคารพเธอจากใจจริงมา ณ ที่นี้ครับ ปล. มีวันรำลึกแด่ Henrietta Lacks ด้วยนะ (Henrietta Lacks day) แต่กำลังสงสัยอยู่ว่าเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ (วันแรกที่ Henrietta Lacks เข้ารับการรักษา) หรือวันที่ 11 ตุลาคม (วันเกิดของ Henrietta Lacks) ของทุกปี -*- หมายเหตุ ชื่อกระทู้ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง The Immortal Life of Henrietta Lacks เมืองไทยไม่มีขาย อยากได้ต้องสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตนะจ๊ะ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:10:44

ความคิดเห็นที่ 11 Reference Lucey PB, Nelson-Rees AW, Hutchins MG. Henrietta Lacks, HeLa Cells, and Cell Culture Contamination. Arch Pathol Lab Med. 2009; 133: 1463-1467. O’Brien JS. Cell culture forensics. PNAS. 2001; 98(14): 7656-7658. Holt ES, Wright EW, Shay WJ. Regulation of Telomerase Activity in Immortal Cell Lines. Molecular and Cellular Biology. 1996; 16(6): 2932-2939 Smith Van. Wonder Woman: The Life, Death, and Life After Death of Henrietta Lacks, Unwitting Heroine of Modern Medical. [Online], Accessed 13 December, 2009 at http://www.citypaper.com/news/story.asp?id=3426 http://en.wikipedia.org/HeLa ------------------------------------------------------------------------------------ บทความนี้หวังว่าคงจะอ่านง่ายขึ้น เนื่องจากบทความก่อนๆหน้ามีหลายคนบ่นว่าอ่านยาก ไม่เข้าใจ แต่รู้สึกว่าเขียนยืดยาวเยิ่นเย้อไปหน่อย มีความเห็นอย่างไรติ-ชมได้ครับ และในห้องนี้ก็คงมีผู้มีประสบการณ์(วิจัย)กับ HeLa cell หลายคน ขอเชิญแลกเปลี่ยนความรู้กันตามสะดวก (จขกท.ก็เคยมีส่วนร่วมวิจัยเกี่ยวกับกลไกการทำงานของเซลล์โดยใช้ HeLa cell เหมือนกัน) แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:59:03 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 08:15:01 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:11:18

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ครับ ขอถามว่า มะเร็งของคนทุกคน จะสามารถแบ่งตัวอย่างนี้หรือไม่ ถ้าไ่ม่ใช่ทุกคน ถามต่อว่ามีจำนวนมากไหมครับ แล้วถ้าไม่ตัดเซลล์มะเร็ง (ของคนทั่วๆไป) ออกจากศพ เซลล์มันจะแบ่งตัวโดยเอาอาหารมาจากร่างกายได้ต่อไปอีกหรือไม่ จากคุณ : ped cad เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:32:12

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากๆครับ กระทู้ดี มีสาระน่าสนใจ สมกับการเป็นสมาชิกระดับคุณภาพของห้องหว้ากอครับ จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:21:55

ความคิดเห็นที่ 14 เยี่ยมยอด! อ่านเพลินเลยทีเดียว ^^ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 09:31:17 จากคุณ : Due_n เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 09:30:59

ความคิดเห็นที่ 15   บทความเยี่ยมมากครับ คุณ Cryptomnesia ผมไม่ได้เรียนมาทางนี้ แต่ก็พยายามอ่านครับ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:10:10

ความคิดเห็นที่ 16 อยากเห็นรูปจริง จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:12:44

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านเพลินไปเลยค่ะ... คงรู้สึกแปลกดีเหมือนกันนะคะ ที่ลูกหลานเหลนโหลนจะรู้สึกว่า ยังมีเสี้ยวหนึ่งของบรรพบุรุษของเรายังมีชีวิตอยู่ และยังเจริญเติบโตได้ต่อไปต่อไป... จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:37:04

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมอ่านแล้วนึกถึงพวกหนังซอมบี้นะ จากคุณ : MoonyuE เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:48:09

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านง่ายดีค่ะ ชอบค่ะๆ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ ตามเข้าไปอ่านที่ blog ด้วยค่ะ ขอเป็นสมาชิกหน่อยนะคะ จากคุณ : ทรายล้อมมุข เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:52:44

ความคิดเห็นที่ 20 #12 เซลล์มะเร็งส่วนหนึ่งถูกมานำมาเพาะเลี้ยงเป็น immortal cell line เช่นเดียวกับ HeLa cell ครับ แต่หากถามว่าเซลล์มะเร็งทุกชนิดหรือไม่ที่มีความสามารถในการเจริญเติบโตเหมือน HeLa ก็คงไม่ เพราะเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดก็มีความต้องการสารอาหารและปัจจัยในการดำรงชีวิตอยู่แตกต่างกัน บางเซลล์ต้องการฮอร์โมนเฉพาะเจาะจงในการเจริญเติบโต เป็นต้น หากถามว่าทุกเซลล์มะเร็งหรือไม่ที่สามารถทำเป็น immortal cell line จขกท.ไม่แน่ใจในคำตอบ และรบกวนผู้รู้ท่านอื่นช่วยตอบแทนครับ ถ้าไม่ตัดเซลล์มะเร็งออกจากร่างกายที่เสียชีวิตมาเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม เซลล์มะเร็งจะเจริญต่อไปได้หรือไม่? เซลล์มะเร็งก็เหมือนเซลล์ทั่วไปที่ต้องการพลังงาน อาหาร ออกซิเจน และมีกระบวนการกำจัดของเสียภายในเซลล์ เมื่อร่างกายดับสูญ ระบบไหลเวียนก็หยุดลงและก็ไม่มีเลือดมาเลี้ยงเซลล์มะเร็งอีกต่อไป ในที่สุดเซลล์มะเร็งก็ต้องตายครับ #17 แต่จากที่รีวิวมา ลูกหลานเหลนโหลนค่อนข้างช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่ค่อยปลื้มเท่าไรนักนะครับ (มีลูกหลานคนหนึ่งถึงกลับกล่าวว่า "เรื่องนี้เหมือนฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็น") รูป HeLa cell ธรรมดาๆและไม่มีอะไรน่าสนใจครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:56:15

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ผมว่า HeLa ของแต่ละ lab คงไม่เหมือนกันซักทีเีดียวอะ่ครับ มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะพอสมควร จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:09:36

ความคิดเห็นที่ 22 ลูกหลาน น่าจะดีใจที่ ต้นตระกูลเป็นผู้ช่วยชีวิตใครต่อใครหลายคนได้มากถึงขนาดนั้น จากคุณ : อาจจะแก่ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:30:39

ความคิดเห็นที่ 23 ต้นตำหรับ จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:48:12

ความคิดเห็นที่ 24 เยี่ยมมากครับ ใช้ HeLa cell บ่อย ๆ พึ่งรู้ประวัติของมันนี่ละ จากคุณ : Antares Kung เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:51:48

ความคิดเห็นที่ 25 พูดถึงการปนเปื้อนทำให้นึกถึงช่วงนึงที่มีข่าวเรื่อง stem cell ที่ทำการทดลองโดนปนเปื้อนเลยต้องยกเครื่องใหม่หมด.... เมื่อก่อนก็มีตัวอย่างนี่เนาะ ทำไมเดี๋ยวนี้ยังเป็นอยู่อีกหว่า  สงสัยรีบปั๊มเปเปอร์ จากคุณ : Munch เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:56:07

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้คุณภาพจริงๆ ขอบคุณ  คุณ Cryptom ที่นำมาให้อ่านนะคะ ความรู้ใหม่สำหรับเราที่ไม่ได้อยู่ในแวดวง ภาษาก็อ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ ให้ไปหาอ่านเอง คงเข้าใจยากกว่านี้เยอะ ว่าแต่เจ้าตัวคงจะดีใจที่ถึงแม้จะเป็นคนธรรมดาๆ และตายตอนอายุยังน้อย แต่ทำคุณประโยชน์ให้กับโลกได้ ยังดีกว่าตายไปแบบไร้ค่า ไม่มีอะไรน่าจดจำอยู่บนโลกเหมือนตัวเรา แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:03:57 จากคุณ : Pretty_Cute_Girl เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:02:06

ความคิดเห็นที่ 27 มาโหวตจ้าาา จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:07:51

ความคิดเห็นที่ 28 เอามาจากwiki ค่ะ ถ้าเป็นตามข้อมูลนี้ แปลว่าตอนนี้เซล์เหล่านี้ก็นับเป็นอีกวงศ์ไปแล้วเหรอคะ จากคุณ : คนภูธรGO ONนครบาล เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:08:53

ความคิดเห็นที่ 29 ตามมาอ่านครับ น่าสนใจจริงๆ มะเร็งก็ไม่ต่างจากเชื้อโรคหรือสิ่งมีชีวิตชนิดนึงดีๆนั่นเอง ถึงจะมีต้นกำเนิดจากร่างกายคนก็เถอะเนอะ พูดแล้วขนลุกปรื้อออออออ จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:12:28

ความคิดเห็นที่ 30 ยกไปห้องเฮฮาแล้วจ้า ^^ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8654693/X8654693.html แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 15:25:27 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:23:33 จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:14:22

ความคิดเห็นที่ 31 แม้ อ่านแล้วดีครับ ถ้าผมเป็นลูกเป็นหลานเจ้าของ ก็ดีใจนะครับ เมื่อได้รู้ความจริง ถึงแม้ตอนหลังก็ตาม แต่อ่านแล้วทำให้เกิดความคิด ว่า ความลับของการเป็นอมตะของมนุษย์อาจอยู่ที่ มะเร็ง ก็ได้ แต่คิดแล้ว หากเกิดการทดลองคงอาจทำให้เกิด เรื่องสยองขวัญ เปล่าหว่า เพราะมนุษย์ยังเข้าใจแต่กายภาพ แต่เรื่อง ความคิด จิต ไม่รู้เข้าใจไปมากหรือยัง ... ทำการโคลนนิ่ง เชลล์ ในร่างกายตัวเอง แทนเซลล์ที่ตายไป แต่จะควบคุมอย่างไง และไม่ให้กลายพันธุ์  หรือจะเป็นแบบหางจิ้งจก หรือ หลักของการลอกคราบ คงจะเป็นแบบเคล็ดวิชาไหมฟ้า ตาม คห 30  ฮ่าๆๆๆ หุๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 13:23:47 จากคุณ : ..... (@Ble) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:16:26

ความคิดเห็นที่ 32 ต่อจากคคห. 30 2025  ทางการสหรัฐค้นพบหลักฐานสำคัญที่ชี้ตัวไปที่นักวิจัยหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายจีนคนหนึ่ง  ซึ่งคาดว่ามีความเกี่ยวพันถึงโปรเจคทดลองอาวุธชีวภาพของจีน  ภายใต้รหัสลับ Nemesis  เธอชื่อ   ADA  Wong ข้างล่างช่วยต่อเนื้อเรื่องที จากคุณ : ไม่งงครับ ไม่งง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 13:39:26

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณครับ กำลังสงสัยเรื่องนี้พอดีจากกระทู้อื่นๆ ไปอ่านในวิกิแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจ คราวนี้รู้เรื่องเลย จากคุณ : วันที่อ่อนไหว... เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:18:21

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ mint ยกไปห้องเฮฮาดีกว่า ได้กลิ่นเกลือลอยมาแล้วว โหวตให้คุณพี่ขลิบ ขอรับ เจ๋งเหมือนเดิม จากคุณ : nOnG_WinZ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:40:41

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าจะบอกว่ายังเป็น cell มนุษย์หรือไม่ มองตามจำนวนโครโมโวม มันอาจจะไม่ใช่แล้วล่ะ ดูเหมือนจะมีการกลายพันธ์ไปไกลกว่าเซลมนุษย์แล้ว แต่ถ้าแยก เซล์จนกระทั่ง เหลือ cell ของ เฮนเรียตต้า โดยไม่มีการปนเปื้อนของ HPV ได้ แสดงว่า cell ของ เฮนเรียตต้า ยังมีชีวติอยู่ภายใต้การเจริญเติบโตของ HeLa เรื่องสปีชีส์ใหม่นี่ ไม่รู้แฮะ อยากคิดตามแต่ความรู้ยังไม่พอ จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:41:31

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านจนถึง สิทธิของเจ้าของเซลล์ทำให้นึกถึง Next ของ Michael Crichton เลย จากคุณ : กฤตยฎีกา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 15:56:06

ความคิดเห็นที่ 37 พาราไซท์ อีฟ จากคุณ : -APEM เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 16:07:41

ความคิดเห็นที่ 38 #37 ใช่เลย ชอบมากๆ อ่านตอนเด็กๆ เหลือแต่ตับแม่คุณยังออกมาเป็นตัว จากคุณ : ผียังงง (tumman) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 17:21:23

ความคิดเห็นที่ 39 พาราไซท์ อายะ เจ๋งกว่าเยอะ ^0^ จากคุณ : PromMasamune (PromZero) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 17:27:39

ความคิดเห็นที่ 41 #40 รบกวนใช้ภาษาให้เกียรติเจ้าของเซลล์บ้างครับ เนื่องจากมีการใช้ HeLa ในการศึกษากันเยอะมาก มีงานวิจัยที่ใช้เซลล์นี้เยอะทำให้ database สำหรับใช้อ้างอิงเยอะ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 18:42:46

ความคิดเห็นที่ 42 พาราไซท์ อีฟ  + the x file ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากครับ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้... จากคุณ : popoing เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 19:02:23

ความคิดเห็นที่ 43 นอกจาก HeLa แล้วยังมี - K562 ... ได้มาจากคุณป้าอายุ 44 เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด erythroleukemia - A549 ... ได้มาจากคุณลุงเป็นมะเร็งปอด - SH-SY5Y .... ได้มาจากเซลล์ในระบบประสาทของหนูน้อยที่ตายตอน 4 ขวบ - Jurkat และ Daudi ... ได้มาจากเด็กที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดทีและบี ...และเซลล์อื่นอีกมากมาย แต่ที่พูดถึงคือที่ผมได้ใช้ ปล. ในแล็บ Cell culture ผมมีพวงมาลัยไหว้ HeLa ด้วยนะเออ มีรูป Henrietta Lacks แปะอยู่ด้วย จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 19:38:38

ความคิดเห็นที่ 44 Henrietta Lacks แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 52 10:24:17 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 19:41:35

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาอ่านความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : RAW 264.7 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 20:46:47

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณค่ะ อ่านสนุกมากเลยค่ะคุณอา จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 21:18:36

ความคิดเห็นที่ 47 เยี่ยมไปเลยครับ อ่านรู้เข้าใจง่ายขึ้นมากๆ ชอบๆ ปล. คห. 40 เขียนผิดรึเปล่าครับ จาก "ของ" เป็น "หอย" จากคุณ : qooqung เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 21:25:38

ความคิดเห็นที่ 48 สนุกดีครับ อ่านแล้วจินตนาการไปถึงห้องแลปของ umbrella เลยครับ จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 21:45:07

ความคิดเห็นที่ 49 ได้ความรู้ดีครับ หลังจากที่ผมงงกับชื่อนี้มาตั้งแต่อาทิตย์ก่อน 55 จากคุณ : มีดีที่หน้าตา เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 22:13:16

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องชนิดเซลล์อื่นๆ ที่ใช้ก็ตามคุณ CuSO45H2O ว่าไปครับ เทียบเฉพาะอันทีเ่ป็น epithelial cell เหมือนกันก่อน อย่าง HeLa กับ A549 นี่จุดประสงค์การใช้ก็ต่างกันนิดหน่อย เนื่องจาก A549 เป็น epithelium จากปอด ดังนั้นเซลล์ A549 มักจะใช้ศึกษาที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจมากกว่าที่จะเลือกใช้ HeLa ครับ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 22:23:32

ความคิดเห็นที่ 51 ลองไปอ่านคลังสยองขวัญสิจะมีเรื่องแนวๆนี้อยู่ ไม่รู็ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องนี้รึป่าว จากคุณ : Ksan เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 00:14:02

ความคิดเห็นที่ 52 ขอถามเกี่ยวกับ คห.6 หน่อยครับ สมมติถ้าเราทำให้เทโลเมียร์ไม่หดสั้นลงได้นี่ มนุษย์จะเป็นอมตะใช่ไหมครับ จากคุณ : แก้วตะวัน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 10:11:41

ความคิดเห็นที่ 53 ^ ^ มนุษย์ก็จะเป็นมะเร็งหรือโรงทางความไม่เสถียรของโครโมโซมแทนครับ เพราะยิ่งอยู่นานกลไก DNA repair ยิ่งเสื่อมลง กลไกการหดสั้นของ Telomere มันดุลกันกับความสามารถของ DNA repair อยู่แล้วครับเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเกิดเซลล์ที่กลายพันธุ์ เรื่อง DNA repair เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 10:23:15

ความคิดเห็นที่ 54 ลงชื่อ ^^ อ่านแล้วนึกถึง Residence Evil อะ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 52 10:52:37 จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 10:50:27

ความคิดเห็นที่ 55 อ่า...ชีวิตอมตะเป็นเช่นนี้ฤ จากคุณ : ทำเสียงเหมือนตัวร้ายหน่อย (skullman) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:19:08

ความคิดเห็นที่ 56   ที่เมืองไทยก็มีนะคะ เป็นเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีที่คนอีสานเป็นกันมาก เราก็เลี้ยงเซลล์พวกนี้อยู่ แยกมาจากก้อนมะเร็งที่ทำการผ่าตัดมาจากผู้ป่วยอ่ะ มีประโยชน์มากนะ เราใช้เซลล์พวกนี้แหละ เอามาทดลองกับยาคีโม เพราะปกติการทำเคมีบำบัดมีผลข้างเคียง คนไข้มักจะทนไม่ไหว ทำให้ได้รับยาไม่ครบ แต่จากการทดลองกับเซลล์พวกนี้ เราก็ได้วิธีที่จะทำให้คนป่วยได้รับเคมีบำบัดในปริมาณน้อยลง แต่มีประสิทธิภาพเท่าเดิม ตีพิมพ์ไป 2 เปเปอร์แล้ว ได้ Ph.D. มา 1 ใบ จบมาทำงาน ก็มานั่งเลี้ยงเซลล์พวกนี้ต่อ ต้องเอาใจใส่คอยดูแล ไปไหนไม่ได้เลยล่ะ จากคุณ : DrMiha เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:41:43

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านแล้วนึกถึง bio hazard เลย ไอ้เรื่องแบ่งตัวได้เรื่อยๆไม่มีสิ้นสุดนี่ มันจะกลายเป็นตัวแบบ nemesis ที่ต้องถึงขนาดเอาเรลกันยิงถึงจะตายรึเปล่าหว่า ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : unholy เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 11:44:31

ความคิดเห็นที่ 58 พาราซิด อีฟ จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 12:28:56

ความคิดเห็นที่ 59 มาลงชื่ออ่านกระทู้ดีๆ ขอบคุณมากนะครับนะ จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 18:09:27

ความคิดเห็นที่ 60 โอ้ ตอนเลี้ยงก็ไม่รู้ว่า ที่จริง Hela นี่มาจากคนเหมือนห้าสิบปีที่แล้วเลย ยอดเลยครับ จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 18:39:42

ความคิดเห็นที่ 61 เรื่องน่ารู้ของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว.. ขอบคุณที่รวบรวมมาให้อ่านค่ะ..^^ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 19:54:32

ความคิดเห็นที่ 63 สามารถสกัด เอ็นไซม์ telomerase จาก HeLa cell มาฉีดเพื่อช่วยยืดอายุได้มั๊ย? จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 21:28:52

ความคิดเห็นที่ 64 อยากอ่านอีก ใครมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของเซลล์อีกมั้ยคะ รบกวนแปะที :D จากคุณ : ด๋อยด๋อย เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 21:47:29

ความคิดเห็นที่ 66 เป็นเรา เราก็ไม่ชอบนา เอาเซลล์มะเร็งเราไปใช้โดยไม่บอก ปิดบังอมพะนำได้อีก... ถ้ายังไม่ไปเกิด คงต้องมาหลอกหลอน ซะหน่อย ว่าเอาของใครมาใช้ หใครดิตซะบ้าง 555+ ถ้าเป็นกระทู้ ก็คงเทียบได้กับ เอาข้อมูลจากไหนมาซักแห่ง แล้วก็ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ทั้ง FWD mail แล้วก็เอามาแปะในกระทู้หว้ากอ ฯลฯ โดยที่ไม่ให้เครดิต เจ้าของข้อมูลก็อาจจะเคืองเอาได้ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 52 22:45:13

ความคิดเห็นที่ 67 กระทู้อันยอดเยี่ยม !! ได้ยินชื่อมานานแล้ว เพิ่งจะรู้ที่มาก็วันนี้เอง ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 10:41:15

ความคิดเห็นที่ 68 คห.66 เขาเรียกว่า FWD Cell สินะครับ คล้าย FWD Mail อิอิ จากคุณ : แก้วตะวัน เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 13:32:45

ความคิดเห็นที่ 69   เข้ามาอ่านครับ(ยังไม่จบ) อยากหาทางเป็นอมตะแบบมะเร็งบ้างจัง จากคุณ : INFINITE ONE เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 14:05:39

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านอย่างเดียว ขอบคุณ จขกท ด้วยครับ จากคุณ : สระนาฬิเกร์ เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 15:16:39

ความคิดเห็นที่ 71   แล้วก็เอาไปทดลองในปลิงกลายไปเป็น T-Virus ใช่ไหม จากคุณ : ธรรมดาไม่เคยมี เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 20:42:54

ความคิดเห็นที่ 72 คล้ายไวรัสคอมพ์ น่ากลัวจริงๆครับ จากคุณ : jesdath เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 22:21:19

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : TuXTa เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 00:54:23

ความคิดเห็นที่ 74 คห 43 คุณ CuSO45H2O    ครับ ปล. ในแล็บ Cell culture ผมมีพวงมาลัยไหว้ HeLa ด้วยนะเออ มีรูป Henrietta Lacks แปะอยู่ด้วย จากคุณ : CuSO45H2O     ผมอยากเห็นรูปที่ แล็บพี่ ที่มีพวงมาลัยไหว้อ่ะครับ ถ้าจะกรุณาครับ ... ผมรู้สึกชื่นชม แล็บพี่มากๆ ครับ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 11:42:52

ความคิดเห็นที่ 75 มันคล้ายกับการหา Monoclonal Antibodies หรือเปล่าครับ? จากคุณ : เราหล่อมาก เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 13:51:45

ความคิดเห็นที่ 76 ผมมองว่า cell HeLa ในปัจจุบันก็คงไม่ใช่คุณ Henrietta Lacks แล้วล่ะครับ คงเป็นแบบส่วนชีวิตน้อยๆที่แตกออกมาแล้วมีการต่อยอดไปในตัวเองนั่นเอง จะว่าไปแล้วชีวิตหนึ่งมันประกอบมาจากเซลจำนวนมหาศาลเลย ...แล้วจุดไหนตรงไหนคือตัวจริงๆของเรากัน ก้อนสมองหรือเปล่า จากคุณ : แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 15:29:56

ความคิดเห็นที่ 77 ผมเคยเลี้ยง A431 อยู่นานมาก   แต่ไม่เคยรู้ว่ามาจากไหนครับ จากคุณ : kugar เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 04:00:04

ความคิดเห็นที่ 78   แต่เซลล์นีี จะเลี้ยงที่ต้องดูแลเยอะเลยนะ สภาพแวดล้อมผิดไปหน่อยก็จะตายเอา จากคุณ : พะโล้ถ้วยไม่ใหญ่ส่ายไข่เป็ด เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 08:04:53

ความคิดเห็นที่ 79 คล้ายๆกับการทำ Monoclonal antibody แหละครับ แต่ Monoclonal antibody จะทำใน Hybridoma ซึ่งเป็นเซลล์บีหรือพลาสมาเซลล์ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 21:28:58

ความคิดเห็นที่ 80 #28 ความรู้จาก wiki ไม่ได้น่าเชื่อถือเสมอไปค่ะ เพราะว่าเป็น open source ใครสามารถเข้าไปเขียนอะไรก็ได้ ขืนทำงาน แล้วใส่ref เป็นwiki มีหวังโดน'จารย์ยิงเละ -*- ปอลอ เพื่อนเราเคยแกล้งเพื่อนอีกคนหนึ่ง เอาชื่อมันไปเขียนลงวิกิ แล้วบรรยายอะไรทุเรศๆ ปรากฏว่ามันรับด้วย     ใครไม่เชื่อลองเอาไปเล่นดูได้ จากคุณ : pinkiicake เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 02:25:24

ความคิดเห็นที่ 81 #80 ถ้า Wikipedia แป๊บเดียวก็ลบครับ แต่ถ้า Uncyclopedia ละก็ยาวครับ หึหึ จากคุณ : LunaticNeko เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:04:01

ความคิดเห็นที่ 82   CuSO45H2O ทำแลบเกี่ยวกะมะเร็งเม็ดเลือดเหรอ จากคุณ : Niger เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:19:04

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากครับ..... จากคุณ : รู้น้อยไปหน่อย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:45:34