นั่งรถตู้แถวอ่อนนุช แล้วอยู่ดีๆเมื่อยขา ผมโดนยารึป่าวครับ
|
|
ผมไปตรวจงานที่สมุทรปราการ ขากลับได้ติดรถเพื่อนมาลงที่อ่อนนุช หลังจากนั้น ผมได้นั่งรถตู้หน้าโลตัสอ่อนนุช เพื่อจะไปลงยังจุดหมายปลายทาง ขณะขึ้นรถตู้เป็นเวลา 15.17น.
ในรถตู้คันนั้นมีผู้โดยสารนั่งอยู่ก่อนแล้ว 3 คน (รวมผมก็เป็น4)
นั่งไปได้สักพัก ประมาณ20นาที
ผมเริ่มมีอาการเมื่อยขา ขณะนั้นได้นึกถึงฟอร์เวิร์ดเมล์ที่ได้รับว่ามีการวางยาในรถ taxi แต่นี่มันรถตู้นี่หว่า
ความสงสัยที่มาพร้อมกับความกลัว ผมจึงได้หันไปมองผู้โดยสารข้างหลังว่ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง
ปรากฏว่า 2ใน3 อยู่ในการอาการหมดสติ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาแค่นั่งหลับหรือหมดสติกันแน่ แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ(จิมมี่ คาร์เตอร์)เคยบอกไว้ว่า ให้เราคาดการณ์ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก่อน ผมจึงคิดว่าพวกเขาคงเมายาแน่ๆแล้ว
อาการเมื่อยขาของผมยังคงดำเนินต่อไป ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า ควานหาอาวุธมาป้องกันตัว ผมมีเพียงแค่คลิปหนีบกระดาษสองอัน คงเอาไปทำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นใจเสียแล้ว ยังดีที่ในกระเป๋ายังมีตลับยาหม่องอยู่ ผมคว้านเนื้อยาหมองมาเกือบครึ่งตลับ ทาลงไปที่น่อง หวังว่าจะช่วยบรรเทาความเมื่อยจากยาพิษร้ายได้บ้าง
ผมหันไปมองผู้หญิงข้างๆที่ไม่ได้อยู่ในอาการสลบ ตั้งใจว่าจะปรึกษากับเธอเพื่อหาแผนรับมือกับสถานการณ์วิกฤต ผมเรียกเธอเบาๆ(กลัวคนขับได้ยิน)ว่า "น้องๆ" "น้อง..พวกเราแย่แล้ว"
แต่เธอไม่ได้ยิน เพราะเธอฟังไอพอดอยู่
สถานการณ์เลวร้ายขึ้นทุกนาที ในขณะที่รถกำลังแล่นต่อไป ผมต้องรับมือกับสถานการณ์นี้แบบลำพัง ทั้งยังต้องช่วยคนอีก3คน ซึ่งเป็นคนหมดสติไปแล้วสอง ส่วนอีกคนก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่(ความตายมาเยือนแล้วยังไม่รู้ตัว) ส่วนผมเมื่อยขา
ผมตัดสินใจ บอกกับโชเฟอร์ว่า "โชเฟอร์ จอดรถเลย ผมจะลงแล้ว"
โชเฟอร์บอกผมว่า "ยังจอดไม่ได้ครับ มันไม่มีที่จอด ต้องจอดป้ายหน้าครับ" ขณะที่พูดมันได้เอามือมาหรี่เสียงวิทยุ
วินาทีนั้นผมแน่ใจแล้วว่า กูโดนยาแน่
วิเคราะห์ได้จาก 1.โชเฟอร์ไม่จอด แถมบอกจะจอดป้ายหน้า ซึ่งกูไม่เชื่อหรอก ป้ายหน้าคงเป็นนรกแล้ว ป่านนั้นกูคงตายไปแล้ว"
2.เอามือไปหรี่เสียงวิทยุ ต้องเป็นการเอายาสลบไปขยี้ที่ช่องปรับอากาศแน่นอน
ทั้งผมมองหน้ามันผ่านกระจกมองหลัง ผมสยิวไปทั้งตัว เพราะมันใส่แมส(หน้ากากกันไข้หวัดนกประมาณนั้น)อีกด้วย คาดว่าไว้ป้องกันยาของมัน
เสี้ยวขณะนั้น ผมนึกถึงแฟนเก่าทันที นึกถึงหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างที่ไม่ได้ทำให้เธอ จนเธอต้องเดินจากผมไป
น้ำตาจากไหนไม่รู้มันไหลออกมา อาการเมื่อยขาก็ยังไม่หาย
สักพักผมเผลอหลับไป ตื่นมาอีกที โชเฟอร์ก็เรียกผมว่าถึงป้ายแล้วครับ คาดว่ามันคงไหวตัวทัน เลยเลิกล้มแผนการร้ายทั้งหมด และผู้โดยสารอีก3คนก็ลงป้ายนั้นพร้อมกับผมด้วย
เท่ากับว่าวันนี้ผมได้ช่วยชีวิตคนถึง3ชีวิต
วันรุ่งขึ้นผมรีบไปหาหมอทันที หมอวินิจฉัยว่า ไม่น่าจะมีอะไร เบาะรถตู้มันคงแคบเกินไป อาจทำให้เมื่อยได้ บอกว่าเดี๋ยวก็หาย เอาเค้าท์เตอร์เพนไปทาก็พอ
ล่าสุดผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ ยาที่ผมโดนอาจเป็นยาชนิดใหม่ที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆให้ตรวจพบ ก็ฝากเพื่อนๆไว้ให้ระวังตัวกันด้วยครับ
ถ้านั่งรถตู้แล้วเกิดเมื่อยขา ให้รีบลงทันที
จากคุณ |
:
Cabriolet
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ธ.ค. 52 10:45:28
|
|
|
|