ความคิดเห็นที่ 1   อืม......มีเหตุผล ขอสงสัยด้วยคน จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:34:13

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะถามที่ห้องสมุดนะครับ จากคุณ : @jirayu (wsteven) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:46:46

ความคิดเห็นที่ 3 เกิดโรคระบาดครับ แล้วก็เลยย้ายเมือมาสร้างเมืองใหม่ที่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยตั้งชื่อเมืองว่า "กรุงศรีอยุธยา" จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:51:09

ความคิดเห็นที่ 4 ปัจจัยอื่นน่าจะเป็นความแห้งแล้งกระมัง จากคุณ : Mr.Warut เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:54:30

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเห็นด้วย ประเด็นแห้งแล้ง น่าสนใจมาก เพราะพอแห้งแล้ง อะไรมันก็ตามมาหมด ไม่ว่าจะขาดอาหาร โรคระบาด จากคุณ : nohead เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:56:36

ความคิดเห็นที่ 6   ความเสื่ิอมของสถาบันการปกครองมั้งครับ สมัยนั้นการปกครองไม่ได้เข้มแข็งเหมือนสมัยนี้และคำว่ารัฐชาติก็ยังไม่เกิด อีกอย่างขอมเป็นรัฐทาสด้วย ความรักในชาติบ้านเมืองก็คงจะน้อย ดูอย่างกรุงศรีสิ พอเมืองแตก พลเมืองส่วนใหญ่ก็หนีเข้าป่าหมด ขนาดการปกครองดีกว่าเป็นระบบกว่าเสียอีก พลเมืองเป็นล้านถูก ชาติเล็กโจมตีแตกก็มีมากมายนักแหละ ดูอย่างจักรวรรดิโรมันสิ สมัยรุ่งเรืองสุดๆ มีอาณาเขตกว้างใหญ่ พลเมือง 50 กว่าล้าน ทหารอาชีพประจำการนับแสน (แตกต่างกลับพวก เกณฑ์มาลิบลับ) มีกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ แต่พอมาถึงจุดตกต่ำสิ ถูกอนารยชนตีแตก จนล่มสลาย มีจุดสูงสุดก็ต้องมีดับละน่ะ จากคุณ : Pannakon เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:59:41

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าจำไม่ผิด เรื่อง พระร่วง ที่ไม่ส่งส่วยน้ำให้ ขอม อีก แต่ก็แปลก ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ ทะเลสาบเขมรมากกว่า  ..... แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 19:15:53 จากคุณ : ..... (@Ble) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:14:50

ความคิดเห็นที่ 8   ^ ^ น่าคิดแฮะ....เพราะ นครวัด นครธม อยู่ไม่ห่างจากโตนเลสาบเท่าไหร่นัก... หรือว่าจะเกิดโรคระบาด....ตายกันหมด แล้ว ชนชาติเขมร ก็เขามายึดครอง... แล้วชนชาติเขมรก็ไม่รู้ว่า นครวัด นครธมอยู่จุดไหน จนฝรั่งเศส ไปเจอ -*- ยิ่งคิดยิ่ง งง แฮะ.... จากคุณ : TonTon1977 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:32:13

ความคิดเห็นที่ 9 นครวัด ค่อย ๆ ล่มสลายมานานแล้วครับ นครวัดเป็นนครที่สร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ และอาศัยระบบชลประทานนั้นในการเลี้ยงดูผู้คน ถึงขนาดเปลี่ยนทางเดินของน้ำ ขุดบารายขนาดใหญ่ เป็นการดัดแปลงธรรมชาติอย่างมาก ซึ่งในที่สุดธรรมชาติก็เอาชนะมนุษย์ ทำให้ทรัพยากรน้ำ ไม่เพียงพอต่อคนจำนวนมาก เกิดความอดหยาก นอกจากนั้นจากการที่เกณฑ์ผู้คนไปสร้างปราสาทใหญ่โต เป็นการใช้ทรัพยากรไปในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ คนก็ค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ เกิดความเสื่อมสลาย การที่อยุธยาไปตี เป็นการปิดฉากเท่านั้นเอง จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:32:53

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ที่ส่งมันน้ำศักดิ์สิทธิไรสักอย่างนี่แหละครับ ไม่ใช่นำกิน พวกนักบวชมันจะเอาไปพิธีไรสักอย่าง จากคุณ : sayanjo65 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:34:58

ความคิดเห็นที่ 11   อ่อ.....ยังงี้นี่เอง จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:37:16

ความคิดเห็นที่ 12 เดี้ยนอ่านมาจากนิตยสารNGของสองสามเดือนล่าสุดนะค่ะ เขมรเนี่ยสร้างปราสาทต่างๆ แล้วก็จะขุดบาราย(สระน้ำ)ขนาดใหญ่ไว้รอบๆ เพื่อกักน้ำใช้หน้าแล้งใช้เพาะปลูกเลี้ยงปลาดำเนินชีวิตสารพัด มีการทำชลประทานตัดหินขวางน้ำ เบี่ยงกระแสน้ำลงบารายเยอะแยะ การที่มีคนอยู่ 1 ล้านคนได้เพราะมีน้ำไว้เพาะปลูกมีอาหารแจกจ่ายให้กินกันได้ทั่วไป แต่มันมีช่วงแล้งจัดติดต่อกันหลายปี น้ำก็น้อยลงไป กระเพาะปลูกไม่ได้ผล ไม่มีน้ำกินไม่มีข้าว คนก็เลยอพยพย้ายไปที่อื่น แล้วก็มีเรื่องการเมือง ศาสนามาเกี่ยวด้วย สุดท้ายก็เลยล่มสลายไป ไม่ได้ล่มเพราะโดนอยุธยายกทัพบุกแน่ๆค่ะ นครธมและอยุธยามันคนละสมัยกัน นครธมเก่ากว่าเยอะเลยละ ตามที่นิตยสารบอกสาเหตุหลักคือฤดูแล้งที่ยาวนานค่ะ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 20:00:56

ความคิดเห็นที่ 13   กษัตริย์ขอมยุคแรกๆตลอดมาจนมาถึงสมัยของชัยสุริยะวรมัน ทรงพระปรีชาในการจัดการน้ำครับ ความเจริญของขอมในยุคนั้นมีบันทึกใว้ในประวัติศาสตร์จีนว่า ขอมมีโรงเรียน มีถนน มีโรงพยาบาล อยู่ทั่วทั้งราชอาณาจักร พอมากษัตริย์ขอมยุคหลังๆทรงขาดพระปรีชาในเรื่องน้ำ เดี๋ยวอุทกภัยบ้าง ภัยแล้งบ้าง จนเศรษฐกิจอ่อนแอ แล้วการเข้าตีของสยามก็เป็นฟางเส้นสุดท้าย ความล่มสลายของอาณาจักรขอมมาพร้อมกับการเริ่มรุ่งเรืองขึ้นแห่งอาณาจักรอยุทธยา ปล. คนเขมรไม่ใช่ชาวขอม เหมือนที่ชาวอิตาลีไม่ใช่ชาวโรมัน แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 20:06:57 จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 20:05:30

ความคิดเห็นที่ 14   มันเป็นส่วยน้ำเพื่อแสดงอำนาจเหนือดินแดนครับ ลองดูเรื่อง 300 สิ เปอร์เซียส่งทูตมาบอกให้ลิโอนิดัสยอมแพ้โดยจะต้องส่งดินกันน้ำไปเป็นเครื่องแสดงความสวามิภักดิ์ ส่วนการล่มสลายเป็นไปได้หลายสาเหตุเช่นเกิดโรคระบาดหรือภัยแล้ง หรือเกิดแย่งอำนาจกันในหมู่เครือญาติฝ่ายที่แพ้อพยพหนีมาตั้งเมืองอยุธยา พอรวบรวมกำลังได้ก็ยกทัพกลับไปแก้แค้น พออีกฝ่ายแพ้ก็ต้องอพยพหนีอีก เมืองก็ค่อยๆร้างไป จากคุณ : น้ำศักดิ์สิทธิแท่งทอง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 20:12:49 A:202.176.137.156 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 15   คือ วันนี้พึ่งสอบวิชา ประวัติศาสตร์ไปเอง --^ ตามในหนังสือเรียนเราเขาบอกว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างปราสาทบายน หรือ นครธม พระองค์ทรงเกณฑ์ประชาชนไปสร้าง ทำให้ประชาชนเกิดอ่อนแอ และสร้างความลำบากให้แก่ประชาชนมาก หลังจากสมัยของพระองค์ก็ไม่มีกษัตริย์เขมรที่ยิ่งใหญ่ รัฐที่เคยสวามิภักดิ์ก็เกิดกบฏ และทำให้กรุงศรีอยุธยาสามารถไปตีนครวัดมาได้สำเร็จ จากคุณ : มนุษย์บนโลก เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 20:54:33 A:110.164.103.139 X: TicketID:240324

ความคิดเห็นที่ 16 จากที่อ่านมา นครวัด ไม่ได้ล่มสลายในวันเดียว แต่เป็นเพราะความแห้งแล้งที่ต่อเนื่อง ขาดน้ำ ขาดอาหาร ทำให้คนค่อยๆอพยพออกไปจากเมืองไปอยู่ที่อื่น ย้ำว่า คนเขมรปัจจุบัน ไม่ใช่ชนชาติขอมโบราณ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 21:09:39

ความคิดเห็นที่ 17 เคยดูสารคดี จำไม่ได้ว่าช่องอะไร แต่เค้าบอกว่า สาเหตุมาจากระบบชลประทานไม่ดี ทำให้ขาดน้ำครับ จากคุณ : pmailive เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 21:52:17

ความคิดเห็นที่ 18   ผมขอลองนำเสนอข้อมูลมุมใหม่ๆบ้างรึกันคับ อีกส่วนนึงที่ มองข้ามไม่ได้ ส่วนนึงนั้นเป็น เพราะ ระบอบ เทวราชา   คับ การ ทำตนในฐานะ สมมุติของ เทพ  ทำให้ประชาชาที่ปกครองต้องตกภายใต้การขูดเร้น   อย่างมหาศาล  ถ้ามี กษัตริย์ ที่ ปรีชา อย่าง  ชัยวรมันที่ 7  ก็แล้วไป แต่ถ้า  ผู้น้ำ ที่ไม่มีที่มีบารมี พอถึงขนาดนั้น สิ่งที่จะตามมา คงหนีไม่พ้น การก่อกบฏ  การ แย่งชิงบัลลังฆ์     สิ่งดังกล่าวทำให้ สั่นคลอนความรุ่งโรจน์ ของอาณาจักรขอมโดยตรง นอกจาก  การเติบโตอย่างรวดเร็วของ กรุงศรีอยุธยา ที่เข้ามาครอบงำมีอิทธิพลในภูมิภาคนี้แล้ว จามปา (เวียดนาม) ก็เป็นอีกพวกนึง  ซึ่งชนชาตินี้ เป็นศัตรูคู่แค้นของขอม แต่ไหนแต่ไรแล้ว   โจมตีอีกทางนึงด้วย แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 22:09:30 จากคุณ : การินช่า เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 22:07:02

ความคิดเห็นที่ 19   ปราสาทนครวัตตั้งอยู่ได้ด้วยน้ำ การเกิดภัยแล้งยาวนานตัดได้เลย เพราะถ้าได้ดูสารคดีการสร้างปราสาทนคร ถ้าขาดน้ำตัวปราสาทจะพังทลาย ไม่คงเหลือสภาพให้เห็นในปัจจุบันได้ สถาปนิคสมัยโบราณยอดเยี่ยมมาก สมควรแก่การยกย่องให้เป็นมรดกโลก จากคุณ : ชัยวรมัน เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 22:39:37 A:58.9.94.158 X: TicketID:245112

ความคิดเห็นที่ 20 อับดุล.... จากคุณ : รู้น้อยไปหน่อย เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 22:39:50

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่มี นครธม ก็ไม่มีพวกเราในวันนี้ จากคุณ : porn89 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 23:20:36

ความคิดเห็นที่ 22 ที่คห. บนๆกล่าวมาว่าแห้งแล้ง จริงๆแล้ว เขมรน้ำท่วมครับ ไอ้ระบบบารายทั้งหลาย ขุดๆกันไว้กันน้ำจากโตนเลสาปท่วมขึ้นมา แบบโครงการแก้มลิงของในหลวงเรา ต้องอาศัยอำนาจ ในการเกณฑ์แรงงานคนขุดลอก ไม่ให้มันตื้น ทีนี้พอกษัตริย์กัมพุชเทศอ่อนแอลงหลังจากชัยวรมันที่ 7 แล้ว ไม่มีใครไปลอกบาราย มันก็ตื้น พอตื้น ก็รับน้ำไม่ได้ มันก็ท่วม ใครไปเห็นทะเลสาปเขมรตอนท่วม คือมันท่วมจริงๆ กลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดมหึมา ในพงศาวดารเขมร ยังกล่าวถึงเรื่องเมืองพระนครน้ำท่วมอยู่เลย อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ โลกในพุทธศตวรรษที่ 18 เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มองโกลตีอาณาจักรพุกามแตก หันมาทวงส่วยกับเขมร (ซึ่งก็ต้องส่งในสมัยชัยวรมันที่ 8) ในอินเดีย มุสลิมตั้งราชวงศ์โมกุลขึ้น อำนาจศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธในอินเดียเหนือเสื่อมลง การค้าในโลกเจริญขึ้นมาก เพราะความก้าวหน้าทางการเดินเรือ แต่ก็นำเอาโรคระบาดใหม่ๆเข้ามาด้วย ซึ่งก็คือกาฬโรค บ้านเมืองในยุโรปต้องเผชิญกับโรคนี้ ซึ่งมาพร้อมกับกองทัพของมองโกล ซึ่งในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าการล่มสลายของอาณาจักรใหญ่ๆในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเขมร การระบาดของกาฬโรคอาจมีส่วนด้วย ดังที่เราทราบกันดีว่า พระเจ้าอู่ทองทรงย้ายเมืองหนีโรค"ห่า" ซึ่งแต่เดิมเชื่อกันว่าเป็นอหิวาตกโรค แต่เมื่อดูจากช่วงเวลานี้ กาฬโรคกำลังระบาดไปทั่วโลกทีเดียว จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 00:51:41

ความคิดเห็นที่ 23 มีหลากหลายสาเหตุครับผม 1. Little Ice Age ที่เริ่มเกิดขึ้นในราวๆศตวรรษที่ 11-12 ทำให้สภาพบรรยากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไป เขตศูนย์สูตรที่มีความชุ่มชื้นได้หดตัวลงใต้ไปครับ นั่นทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งในภาคเหนือของกัมพูชา ระบบชลประทานขนาดใหญ่ของเมืองพระนครจึงเริ่มมีปัญหา อย่างไรก็ตาม่พวกเขาก็คงพยายามต่อสู้กับธรรมชาติต่อไปด้วยความสามารถทางวิศวกรรมนั้นแล 2. การเสื่อมอำนาจของพระเจ้าแผ่นดินขอมพระนคร ทำให้ขอมพระนครไม่อาจจะมีทรัพยากรมหาศาลและแรงงานอันล้นเหลือ เพื่อมาตอบสนองต่อโครงสร้างทางวิศวกรรมชลประทานของพวกเขาได้อย่างเพียงพอ 3. เมื่ออำนาจของพวกขอมพระนครลดลงและเริ่มล่าถอยไปทางตะวันออก ทำให้หัวเมืองและรัฐเล็กๆในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน เริ่มแข็งอำนาจขึ้นมาครับ รัฐละโว้ รัฐสุวรรณภูมิ แคว้นพริบพลี รัฐสุโขทัย ก็เริ่มที่จะเรืองอำนาจขึ้นแทน 4. การเปลี่ยนแปลงไปของเส้นทางการค้าครับ ในช่วงศตวรรษที่ 13 เมื่อพวกมองโกลกำลังรุกรานอาณาจักรน้อยใหญ่ทั่วโลก ทำให้เกิดการสะดุดของเส้นทางการค้าเป็นพักๆเนื่องจากสงคราม พวกพ่อค้าชาวเปอร์เซีย อาหรับ อินเดีย และจีน เดินทางมาค้าขายกันได้น้อยลง ทำให้เส้นทางการค้าเปลี่ยนแปลงไป ในมะละกาได้เกิดการล่มสลายของอาณาจักรศรีวิชัย ที่เคยปกป้องน่านน้ำอันกว้างใหญ่ในทะเลครับ ทำให้น่านน้ำนี้เต็มไปด้วยโจรสลัดอีกครั้งและมีความอันตรายในการเดินเรือผ่านมากขึ้น พวกพ่อค้าจำนวนมากได้เปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือ โดยไม่ผ่านมะละกา แต่หันไปเข้าเมืองท่าทางฝั่งอันดามันแทน เช่นทวาย พะโค เป็นต้น ก่อนจะขนสินค้าทางบกเข้ามายังสุวรรณภูมิ การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้านี้เอง ทำให้ผลประโยชน์ของกัมพูชาในหัวเมืองริมทะเลลดลง แต่ความมั่งคั่งกลับตกไปอยู่ในมือของอาณาจักรที่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างหัวเมืองมอญในอันดามันและอินโดจีนแทน 5. การเกณฑ์แรงงานและทรัพยากรมาสร้างปราสาทหินต่างๆ 6. ด้วยคติความเชื่อของขอมพระนคร พวกเขานิยมตั้งเมืองบนที่ดอนและอาศัยระบบชลประทานสร้างคูส่งน้ำหรือตระพังต่างๆเข้ามากักเก็บในเมืองครับ ซึ่งหากต้องเผชิญกับภัยแล้งอย่างยาวนานและมีประชากรไม่พอจะรักษาระบบส่งน้ำนี้ไว้ได้ เมืองก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้ ด้วยปัจจัยทั้งหลายทั้งแหล่นี้แลครับ ทำให้อำนาจของขอมพระนครเริ่มเจือจางลง นิคมหรือเมืองในภาคอีสานตอนกลางและล่าง ซึ่งเคยอยู่ใต้อำนาจของขอมพระนครก็เริ่มถูกทิ้งร้าง เพราะความแห้งแล้งทำให้ชาวบ้านละทิ้งถิ่นฐานไป (เช่นเมืองต่างๆในภาคอีสานของเรา ที่เคยเป็นนิคมของขอมพระนคร แต่ต้องร้างไปหลายร้อยปี) เมื่อไม่มีส่วยหรือแรงงานจากเมืองออกมา เมืองหลวงอย่างพระนครก็เริ่มขาดแคลนเงินและคน เมื่อเงินและคนไม่พอ ก็ไม่สามารถรักษาระบบชลประทานขนาดใหญ่เอาไว้ได้ ผู้คนในส่วนกลางก็เริ่มอพยพหนีหาย ระบบชลประทานก็เริ่มถูกทิ้งร้าง เมืองก็หดลง อำนาจก็ลดลงไปด้วย วนไปเป็นวัฏจักรเรื่อยๆ ประกอบกับการเรืองอำนาจของสุโขทัย, อยุธยาและล้านช้าง ทำให้ผู้คนหันไปทางโน้นกันแทน และเมื่ออยุธยาเข้มแข็งพอจนเริ่มทำสงครามกับกัมพูชา และทำการปิดฉากเมืองพระนครในที่สุดครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 04:41:06

ความคิดเห็นที่ 24   ไม่แน่ว่าชาวขอมและอารยะรรมดั้งเดิมก็คือชาวอยุทธยาในเวลาต่อมา และกลายมาเป็นชาวรัตนโกสินธ์ในปัจจุบันนี้แล้วก็ได้ จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 05:52:51

ความคิดเห็นที่ 25 จากการวิเคราะห์กัน ขอมคือกลุ่มคนในภาคพื้นทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำเพาะโดยเฉพาะกลุ่มคนตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง เพชรบุรี บางปะกง ไปจรดกัมพูชา ซึ่งพวกเขาได้รับเอาอารยธรรมฮินดู และพุทธศาสนาสายมหายานและวัชรยาน รวมไปถึงตันตระเข้ามาประยุกต์สร้างอารยธรรมครับ อาจจะแบ่งได้ว่า ในยุคที่พวกพราหมณ์และพ่อค้าจากอินเดียเดินทางมาถึงภูมิภาคนี้ ก็ได้เอาอารยธรรมมาทิ้งเอาไว้ให้กับชนพื้นเมือง ที่อาจจะเป็นพวกมอญ, เขมร, ลัวะ, จาม ฯลฯ ซึ่งพูดภาษาในตระกูลออสโตร-เอเชียติกครับ และชนพื้นเมืองนี้ก็รับเอาศาสนา วัฒนธรรมของพวกอินเดียมาประยุกต์สร้างอารยธรรมของตนขึ้นมา ในยุคแรกๆก็คือนครรัฐในกลุ่มทวาราวดีแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง นครรัฐมอญและปยุในพม่าแห่งลุ่มน้ำอิระวดี และอาจจะรวมไปถึงพวกเขมรยุคแรกๆที่ยังย้ายเมืองไปๆมาๆในดินแดนเขมรล่างแห่งลุ่มน้ำโขง และพวกแขกจามที่ปากแม่น้ำโขง ในยุครุ่งเรืองอารยธรรมของทวาราวดีคงจะแผ่ขยายไปได้ไกลมาก ทั้งในภาคอีสาน (อย่างที่ศรีเืทพ, ฟ้าแดดสองยาง) ภาคเหนือ (หริภุญชัีย) จวบจนอำนาจของทวาราวดีเสื่อมลงด้วยอะไรบางอย่าง อำนาจของพวกเขมรที่รวบเอาอาณาจักรเจนละทั้งสองเข้ามาก็เข้มแข็งขึ้น และขยายเข้าสู่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาแทน และกลืนเอาทวาราวดีไปครับ โดยแกนนำหลักๆคือพวกขอมที่อาศัยในดินแดนเขมรล่างตอนบน หรือก็คือขอมพระนครนั่นเอง (แต่ยุคแรกๆไม่ได้ตั้งเมืองหลวงที่พระนคร) ในยุครอยต่อของการหายไปของทวาราวดี และการเิริ่มเสื่อมอำนาจนครรัฐทางภาคเหนือของพวกมอญและลัวะ ก็ได้ทำให้ชนกลุ่มที่พูดภาษาในตระกูลไท-กะได ทั้งหลาย ทั้่งไทยและลาว อพยพเข้าแทรกแซงครับ อย่างตำนานของขุนลอที่ยึดเมืองชวาจากพวกลัวะ หรือตำนานเจ้าเมืองต่างๆในพงสาวดารเหนือ ซึ่งแสดงการเข้ามาของชาวไทยได้ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 11:38:27

ความคิดเห็นที่ 26 โอ้วน่าดูชม...ประวัติศาสตร์ในแง่มุมของวิทยาศาตร์ จากคุณ : Pigusto เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 15:41:50

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบมากๆ จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 20:13:16

ความคิดเห็นที่ 28 จับแพะัชนแกะกันมันดี ดูtimeline กันบ้างครับ โดยเฉพาะวาทกรรมที่ว่า เขมรไม่ใช่ขอม เออ แล้ว สุโขทัย อยุธยา ทวารวดี ศรีัวิชัย ไม่ใช่คนไทยด้วยไหมล่ะ?(ถ้ามองในแง่ว่าไม่ใช่ลูกหลานกันเลย ไม่ใช่เรื่องของรัฐชาติ) ชนชาติในลุ่มโขง/เจ้าพระยา ล้วนแล้วแต่ผสมผสานกันมานาน รบกันทีก็แลกเปลี่ยนกวาดต้อนไปที คนอยุธยาแท้ๆไปอยู่พม่าก็แทบครึ่งเมืองได้ ไม่คิดเหรอว่า คนขอมโบราณก็กระจายไปทั่วแดนสุวรรณภูมิกันหมดแล้วนั่นแหละ จะไทยหรือเขมรก็เป็นลูกหลานห่างๆของชนชาติขอมกันทั้งนั้นมาแขวะแบ่งแยกกัน เพียงเพราะยอมรับว่าเพื่อนบ้านเราเคยยิ่งใหญ่ในอดีตไม่ได้หรือไงกัน ทั้งๆที่ก็เป็นอาณาจักรโบราณบรรพบุรุษของคนแถบนี้่ทั้งหมดนี่แหละ! จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 21:04:16

ความคิดเห็นที่ 29 คนในอาณาจักรแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีประชากรเป็นล้านก็ตาม ผมเคยอ่านประวัติศาสตร์พอทราบได้ว่ามีหลายประการที่ทำให้อาณาจักรแห่งนี้ล่มสลายลง 1.เนื่องด้วยโรคระบาดไม่แน่ใจว่าเป็นโรคอะไร(ลืมไปละ)แต่ก้ทำให้อาณาจักรนี้ล่มได้ง่ายๆเลยทีเดียวเพราะขาดซึ่งการรักษาและยังไม่มีวิธีรักษาที่ถูกต้อง 2.ถึงแม้ว่าความยิ่งใหญ่ที่แสดงให้เห็นต่อชาวโลกในปัจจุบันของอาณาจักรนี้โดยเฉพาะ  ปราสาทต่างๆ  ความยิ่งใหญ่เหล่านี้แลกมาด้วยเลือดเนื้อของคนในอาณาจักร  การเกณฑ์แรงงานของกษัตริย์เพื่อไปสร้างปราสาท  ทั้งที่ปราสาทแห่งนี้อยู่ในความเชื่อของศาสนาฮินดู  แต่ประชาชนที่สร้างเชื่อในพุทธศาสนามากกว่า  จึงทำให้ผู้นำและผู้ตามไม่สามารถที่จะไปด้วยกันได้ดีนัก  เลยทำให้การกดขี่ของผู้นำเพื่อไปสร้างปราสาททำให้อาณาจักรอ่อนแอ  และความแตกแยกของคนในดินแดนอีกด้วย เท่าที่ทราบก็มีประมาณนี้ ท่านใดสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แนtนำหนังสือของD G E HALL จากคุณ : zawaafaps เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:21:25

ความคิดเห็นที่ 30 เคยไปอ่าน ประวัติ ลาว เขาว่า จุดเริ่มต้นจากขุนบรม มีลูกชาย 7 คน ส่งไปปกครองเมืองแถบนี้ทั้งหมด ไล่จาก พม่า มาถึง เวียดนาม จากคุณ : ..... (@Ble) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 23:42:12

ความคิดเห็นที่ 31 มองโกล และ ไทย ประมาณ ชัยวรมันที่8 แถวๆนั้น จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 01:14:52

ความคิดเห็นที่ 32   อียิปต์ ... บาบิโลน ... โรมัน ... นครธม ... จิ๋นซี ... โมกุล ... ล้วนเป็นอนิจจัง ... กรุงเทพฯเราอายุแค่ 200 ปี ตอนนี้ดูอาการร่อแร่เต็มที ... อนิจจัง . จากคุณ : ปัญวัฒน์ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 07:41:33

ความคิดเห็นที่ 33 สำหรับผม ขอมก็คือเขมรครับ และรวมไปถึงชาวบ้านในแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก และลพบุรีด้วย กล่าวคือ คนตั้งเมืองในยุคแรกๆอย่าง ละโว้ น่าจะเป็นพวกลัวะ (เชื่อกันว่า ละโว้ กร่อนมาจาก ลัวะปุระ หรือ เมืองของลัวะ), เมืองนครปฐมโบราณอาจจะเป็นของพวกมอญสายที่อาศัยในภาคกลางของประเทศไืทย (คนละพวกกับมอญฟากขะโน้นของตะนาวศรี), สุพรรณบุรี อาจจะเป็นชาติพันธุ์ใดกลุ่มหนึ่ง, พริบพลี ก็อาจจะเช่นกัน ในยุคแรกๆ พวกเขาอาจจะพูดภาษามอญเก่า, ภาษาลัวะ, ภาษาเขมร กัน และใช้ภาษาบาลี-สันสกฤตเป็นภาษาชั้นสูงตามแบบอิทธิพลของพุทธศาสนาและพราหมณ์ การมีนครรัฐที่อุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง และอยู่บนเส้นทางการค้านี้แล ทำให้เป็นที่ดึงดูดของประชากรจากที่อื่นๆครับ ชาวไทยยุคแรกๆก็น่าจะอพยพเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพราะแรงดึงดูดนี้แล และรวมกับชนพื้นเมืองเดิมสร้างสรรอารยธรรมต่อมา จวบจนเมื่อเกือบ 900 ปีก่อน กลุ่มชนชั้นปกครองเดิม ที่อาจจะเป็นพวกขอม (เขมรนั่นแล) เสื่อมอำนาจลง ชนชั้นปกครองใหม่ ที่เป็นลูกผสมระหว่างคนไทยยุคกระโน้นที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในย่านนี้กับคนพื้นเมืองเดิม สามารถยึดอำนาจปกครองมาได้ และค่อยๆเข้าแทนทีชนพื้นเมืองเดิม จนกลายเป็นคนไทยเรานี้แลครับ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้สม่ำเสมอในประวัติศาสตร์ไทยและสุวรรณภูมิ แม้แต่ในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาก็ตาม ยกตัวอย่างง่ายๆคือ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี และอำเภอวิเศษชัยชาญ ที่คนที่เคยอยู่แถวนั้นมาตั้งแต่ปลายอยุธยานั้น แทบจะหายไปหมดแล้วเนื่องด้วยการโจมตีกวาดต้อนของกองทัพพม่า ชาวบ้านที่อาศัยแถวนั้นในปัจจุบันอพยพมาจากถิ่นอื่นๆในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาแทบทั้งหมด ทั้งชาวจีนที่อพยพตามเส้นทางการค้าของแม่น้ำน้อยและแม่น้ำท่าจีนขึ้นเหนือไปตั้งรกราก, ชาวลาวที่โดนกวาดต้อนมาจากภาคอีสาน และอื่นๆ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 10:32:17

ความคิดเห็นที่ 34 เขมรกับขอม เป็นชนชาติเดียวกันครับ เพียงแต่เขาไม่เรียกตัวเองว่า ขอม เท่านั้นเอง ขอมเป็นคำที่คนไทยเรียกครับ เพราะสมัยนั้น คนไทยอยู่ทางด้านทิศเหนือ เขมรอยู่ทางใต้ลงมา ขอม ก็มาจาก กร๋อม แปลว่าต่ำลงมากว่่านั้น เขาเรียกตัวเองว่า กัมพุชเทศ คำว่าเขมร ปรากฏในจารึกสมัยหลังลงมาครับ ก็ ขะแมร์ นั่นแหละ จากคุณ : ปลาทองสยองเมือง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 08:52:16

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่เข้าใจทำไม่มีคนคิดว่าเขมรไม่ใช่ขอมเยอะเลย -_-' จากคุณ : dxxa เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:52:35

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ เ้ป็นการสอนหนังสือแบบฝังหัวในช่วงยุคทวงปราสาทพระวิหารบนศาลโลกครับ มีงานเขียนว่าเขมรไม่ใช่ขอมออกมาเยอะมากช่วงนั้น จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 22:08:35