ความคิดเห็นที่ 1 แล้วแต่เงื่อนไขการให้คะแนนที่ได้ตกลงกันไว้ก่อน จากคุณ : Practical x 2 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:14:30

ความคิดเห็นที่ 2 คุณเดินเข้าร้านอาหาร สั่งข้าวผัดไก่ แต่เขาทำข้าวผัดหมูมาให้คุณ แล้วบอกกับคุณว่า ข้าวผัดเหมือนกัน คุณว่าเขาทำถูกมั้ยละ จากคุณ : ค.คนไทย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:17:26

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้างั้นต้องตอบครูว่า ครูครับ แมวสีไหนก็จับหนูได้เหมือนกัน หุหุ จากคุณ : ถึงหนูจะไม่สวยแต่หนูก็จนนะคะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:25:52

ความคิดเห็นที่ 4 ก็เค้าบอกให้หารยาว เค้าเรียกฝ่าฝืนคำสั่ง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด สมควรพักการเรียน แต่ในทางคณิตศาสตร์โจทย์คือ ให้หาคำตอบโดยใช้วิธีหารยาว(ใช้การเชื่อมและ) แยกได้ - วิธีหารยาว           - คำตอบถูก ต้องเป็นจริงทั้งคู่ถึงจะได้ "ถูก" แต่คุณทำถูกแค่คำตอบ ก็เลย "ผิด" ป.ล. อย่าจริงจังมากนะครับ จากคุณ : Blackion เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:35:22

ความคิดเห็นที่ 5   เพื่อนผมขี้เกียจเขียนยาว <---- ผิดกติกา ผิดวิธีการ เพราะขี้เกียจ สมควรให้ผิด จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:37:00

ความคิดเห็นที่ 6 ผิด เพราะครูต้องการดูวิธีการ,ขั้นตอนที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่ต้องการดูคำตอบอย่างเดียว จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:43:03

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเขาให้คะแนนแค่คำตอบ  ก็ไม่ผิดครับ แต่ถ้าเขาให้คะแนนวิธีทำ เพราะเขาต้องการดูลำดับวิธีการคิด เพื่อนคุณก็ต้องตกครับ อีกอย่าง เขาให้คุณทำ  ก็ไม่น่าฝืนครับ เหมือนคุณเดินอ้อม  กับเดินลัดสนามนั่นหละ มันถึงเหมือนกัน  แต่ระหว่างทางมันผิดกัน คนที่ให้คุณเดินอ้อม  เขาอาจจะตั้งใจให้คุณเดินไกลขึ้น เพื่อฝึกให้กล้ามเนื้อขาทำงานดีขึ้น  วันข้างหน้า  เวลาคุณวิ่ง  กล้ามเนื้อคุณจะดีขึ้น  เพราะฝึกมาดี อีกอย่าง  ถ้าทุกคนทำอะไรตามใจกันไปหมด บ้านเมืองคงจะโกลาหลกันไปหมดครับ จากคุณ : specimen เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 17:45:46

ความคิดเห็นที่ 8 วิธีที่ถูกคือนำนักเรียนคนนั้นมา ให้แสดงวิธีทำต่อหน้า ถ้าเขาทำได้ ก็คือให้ถูก อาจตัดคะแนน แต่ต้องอธิบายเหตุผลที่ต้องให้ทำวิธีนั้นไปด้วยว่าเพื่อดูวิธีการคิด เป้าหมายของโจทย์คือใช้เพื่อพิสูจน์ความสามารถที่นักเรียนจะทำได้ ถ้าผู้สอนให้ผิดเพราะแค่ใช้วิธีการที่ก้าวหน้าเกินไปและไม่อธิบายเด็กก็คือขาด จิตวิญญานความเป็นครู สรุป ผู้สอนให้ผิดได้ครับ เป็นสิทธิตามนั้น แต่คนๆนั้นขาดความเป็นครู จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:07:55

ความคิดเห็นที่ 9 #2 ถ้าลูกค้าคนนั้นเป็นอิสลาม ผิดไหมละครับ ผมมองว่า ข้าวผัดหมู ไม่เท่ากับ ข้าวผัดไก่ ครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กคนนั้นจะทำผิด จากคุณ : StoneHoof เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:08:01

ความคิดเห็นที่ 10 ผิดครับ ไม่ทำตามคำสั่งที่กำหนดไว้ ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ครูอาจคิดได้ว่าเด็กคนนี้หารยาวไม่เป็น เลยจัดศูนย์คะแนนไปเลยหนึ่งดอก ถ้าผมเป็นครูผมจะให้ศูนย์เหมือนกันแน่นอนครับ จากคุณ : Sleeper MoNKeY 2nd เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:13:18

ความคิดเห็นที่ 11 เล่นฟุตบอล กรรมการเป่าให้ลูกโทษนอกเขต 2 จังหวะ แต่ผู้เล่นอัดตูมเดียวตุงตาข่ายโดยไม่โดนใครเลย ต่อให้ยิงสวยงามแค่ไหน แต่กรรมการก็จะไม่ให้เป็นประตูอยู่ดี เพราะถือว่าผิดคำสั่ง!!! ถ้าคิดว่าทำอย่างไรก็ได้ขอให้ถึงจุดหมายแล้วกัน พวกนักวิ่งสองร้อยเมตร คงวิ่งตัดสนามมาหาเส้นชัยกันหมดแล้วครับ เพราะระยะทางมันใกล้กว่าที่ต้องวิ่งตามลู่เป็นไหนๆ จริงไหมครับ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:21:57

ความคิดเห็นที่ 12   ถ้าโจทย์ตั้งว่า     "จงหาคำตอบโดยวิธีหารยาว" แสดงวิธีหารสั้นมา ก็น่าจะผิดนะครับ มันอยู่ที่โจทย์ และการตกลงกันระหว่างครูกับนักเรียนนะ  ไม่งั้นผมใช้เครื่องคิดเลข ได้คำตอบ  แต่วิธีทำไม่ใช่ มันก็ควรจะถูก จริงไหม จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:24:40

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 11 ยกตัวอย่างแบบนั้นคงไม่จะไ่ม่ค่อยเข้าซักเท่าไหร่เพราะกีฬามันมีกติกาวิธีการและกรรมการกำหนดเป็นหลักสากลชัดเจนอยู่แล้วมันไม่ใช่ิวิธีการหาคำตอบ คนละจุดมุ่งหมายกัน เห็นด้วยกับ คห ที่ 12 ถ้าโจทย์กำหนดมาชัดเจนหรือครูกำหนดว่าให้ใช้วิธีการหาคำตอบแบบใด เค้าดูวิธีการหาคำตอบก็น่าจะผิด แต่ถ้าไม่ได้มีการกำหนดไว้ เด็กไม่ผิด และครูก็ไม่ควรให้ผิด แย้งได้เลยเพราะไม่ได้กำหนด เป็นท้ายบทเรียนแล้วด้วยไม่ใช่ระหว่างบทเรียน ซึ่งก็คงเรียนมาแล้วทั้งหารสั้นหารยาว  ถ้าให้ผิดครูนั้นต้องทบทวนตัวเองเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 20:26:46 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 18:40:06 จากคุณ : Hello_The_Rain เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:32:27

ความคิดเห็นที่ 14 กระบวนการไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ความวิบัติได้โดยง่าย หลายครั้ง หลานผม เอาเลขมาถาม แล้วถามว่า สามข้อนี้ ตอบอย่างนี้ใช่ไหม ผมดูแล้ว เห็นว่า คำตอบนั้น ถูกทุกข้อ (หลงดีใจ ว่าหลานเก่ง จิงๆ) พอไล่เรียงไปถึงวิธีทำ  ผลคือ ทำผิดทุกข้อ แต่บังเอิญได้คำตอบมาถูก อย่างนี้ถ้าผมเป็นครู ผมคงไม่ให้คะแนนดอก แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 18:53:06 จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 18:52:18

ความคิดเห็นที่ 15 ู^ ถ้าไม่ได้กำหนด เป็นผมจะลองให้หลานส่งไปแบบนั้น ถ้าให้ผิดผมจะไปคุยกับครูคนนั้นเอง 55 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 20:20:51 จากคุณ : Hello_The_Rain เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 19:14:57

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเน้นที่วิธีทำ ยังไงก็ผิดค่ะ บอกให้ทำหารยาว แต่ทำหารสั้นมาส่ง ฝ่าฝืนคำสั่งเห็นๆ จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 19:16:37

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วแต่ว่าครูต้องการวัดอะไร มันจะมีกำหนดไว้ในแผนการสอน ถ้าข้อสอบข้อนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัดว่าเด็กหารเป็นหรือไม่ ก็ต้องให้ถูก ถ้าข้อสอบข้อนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัดว่าเด็กใช้วิหารยาวเป็นหรือไม่ ก็ต้องให้ผิด จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 19:33:56

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเค้าบอกว่า  จงแสดงวิธีหารยาว ก็น่าจะผิดนะ  แต่อาจารย์ไม่น่าจะโหดร้ายกับชีวิตขนาดนั้น สมัยก่อน  เรียนพวกแยกตัวประกอบ  หรืออะไรซักอย่าง  จำไม่ค่อยได้ ทำวิธีอื่นไปส่ง  อาจารย์ก็ไม่ว่านะ  แต่เค้าให้ทำขึ้นกระดาน  - -" ประมาณว่าบอกวิธีใหม่ให้อาจารย์และเพื่อนๆ จากคุณ : กางเกงเลสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 19:34:34

ความคิดเห็นที่ 19 "โจทย์บอก ว่า ให้หารยาว" อ่านโจทย์ให้ดีๆ ก่อนทำ จากคุณ : mr.wisdom เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 19:35:33

ความคิดเห็นที่ 20 โจทย์สั่งให้หารยาว ก็ต้องหารยาวครับ แต่ถ้าโจทย์ไม่สั่งว่าวิธีอะไร ก็ต้องไปคุยกับอาจารย์ให้เคลียร์ จากคุณ : LunaticNeko เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 20:07:41

ความคิดเห็นที่ 21 ต้องรอบคอบและละเอียดค่ะ มันก็เหมือนว่า ให้หาข้อมูลของ....ด้วยสมการ XXX แต่ปรากฏว่า คุณไปทำด้วยสมการ YYY คำตอบถูก แต่มันก็ไม่ได้ตรงจุดประสงค์ว่า คุณรู้เรื่องสมการ XXX แค่ไหนน่ะ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การให้คะแนน บางครั้ง วิธีการได้มันมา สำคัญกว่า คำตอบ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 20:12:10

ความคิดเห็นที่ 22 ในการเรียน บ่อยครั้งที่เค้าต้องการ Process มิใช่ Product จากคุณ : CARAGIO เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 20:47:59

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเคยใช้ ตรีโกณ ธรรมดา แก้ สมการ Complex (i j z) อาจาร์ยให้เต็ม ผมเคยใช้ สมการความเร็วธรรมดา แก้โจทย์ dynamic อาจาร์ยให้ ศูนย์ ทั้้งๆที่คำตอบออกมาถูก แต่โดน ข้อหา ไม่ยอมใช้ อินทิเกรตแก้ ผมเคยใช้ วิธีเว็คเตอร์ ของ link dynamic แก้โจทย์ dynamic อาจาร์ย ให้ ศูนย์ ข้อหา ใช้วิธีที่สูงเกินไป ผมเคยใช้ Difference Equation แก้โจทย์ Vibration ที่มีจุดรองรับเกินกว่า สามจุด อาจาร์ยให้ครึ่ง เพราะอาจาร์ยออกโจทย์ผิด ซึ่งจะไม่สามารถทำ ได้ ถ้าใช้ วิธีกลศาสตร์ สรุป มันขึ้นอยู่กับอาจาร์ยครับ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:05:56

ความคิดเห็นที่ 24 เรียกมาหา และให้ลองทำโจทย์เดิมโดยใช้วิธีหารยาว หากทำได้ ----> ให้คะแนน พร้อมกับเตือนให้อ่านคำสั่งให้ดีก่อนทำในคราวต่อไป และเเจ้งว่า ในครั้งต่อไปจะไม่มีการเรียกมาให้ทำอย่างนี้อีก จะตัดคะแนนไปเลย เพราะต้องการดูวิธีทำแบบหารยาว หากทำไม่ได้ ----> แจ้งนักเรียนคนนั้น ว่าวิธีทำผิด และตัดคะแนนข้อนั้นไป โดยให้นักเรียนรับรู้และยินยอมก่อน ตัดคะแนนไปเลยไม่ได้ค่ะ เพระาเด็กคือเด็ก การตัดคะแนนทั้งๆที่เค้ารู้สึกว่าเค้าทำถูกเป็นเรื่องที่รุนแรงมากสำหรับเขาค่ะ ต้องอธิบายก่อน และให้โอกาสเค้าแก้ตัว ไม่อย่างนั้น เด็กอาจเกิดความรู้สึกไม่ชอบการเรียนวิชานี้ หรือ เกิดความรู้สึกดูถูกครูผู้สอนได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 21:13:24 จากคุณ : คนภูธรGO ONนครบาล เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:10:55

ความคิดเห็นที่ 25 จากประสบการณ์สอบข้อเขียนที่เคยทำมา ตอบถูกแต่ไม่แสดงวิธีทำ จะได้คะแนนน้อย ถ้าตอบผิดแต่แสดงวิธีถูก อาจจะได้คะแนนเต็ม เพราะโจทย์ที่ต้องทำเนี่ย ถึงใช้เครื่องคิดเลขและให้โอเพ่นบุ๊ค ยังทำถูกกันไม่ได้เลย โจทย์มันทั้งยากและยาว สองหน้าก็ยังเขียนวิธีทำไม่หมด ดังนั้นการสอบแบบนี้ทำให้รู้ว่าเข้าใจถึงวิธีการหรือไม่ ถ้าตอบมาเฉย ๆ ไม่รู้หรอกว่าลอกคนอื่นมาหรือมั่วถูกเองหรือเปล่า จากกรณีนี้ คิดว่าตั้งหารสั้นควรจะให้ถือว่าเด็กทำผิด จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:17:35

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ^ นี่แหละผมก็เคยทำ อิอิ ลอกเขาทุกข้อแต่สายตาสั้นเลยมองเบลอ ๆ เขียนเกินไปหลายตัววิชาเคมี ผมได้ 5 เต็ม แต่เพื่อนผมที่ผมลอกได้ 4.5 อุอุ จากคุณ : สายลับ>>>มีด เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 22:05:50

ความคิดเห็นที่ 27 คำว่า"ผิด"ฟังดูรุนแรงจัง ยังงี้ไงเด็กไทยถึงไม่ค่อยกล้าแสดงออก กลัวทำผิด ทั้งๆที่มันถูก ไม่มีวิธีอื่นที่จะบอกกันแล้วหรอ ฟันธงไปเลยว่าผิด เด็กเค้ารู้สึกแย่นะ เสียความมั่นใจหมด จากคุณ : neelapan เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 22:47:27

ความคิดเห็นที่ 28 มันไม่ถูกครับ สมัยผมเรียน ถ้ามีโจทย์หนึ่งโจทย์ ถึงจะมีการเข้าถึงคำตอบได้หลายทาง แต่ถ้าบอกวิธีมา ก็ต้องทำตามนั้น แต่ผิดวิธีการอาจจะไม่ใช่ผิดเลย จะเป็นการหักคะแนน เช่นข้อนี้ 10 คะแนน อาจเหลือแค่ 8 กติกาจะประมาณนี้ - ไม่ทำตามวิธี ก็จะโดนหักคะแนน - ถึงทำตามวิธี แต่หน่วยผิด (ทั้งๆที่ค่ามันเท่ากัน) ก็จะโดนหักคะแนน - หน่วยถูกหมด ค่าก็ถูก แต่ทศนิยมเค้าให้แสดง 4 ตำแหน่งแต่ดันแสดงแค่ 3 ตำแหน่งก็จะโดนหักคะแนน - ถึงจะทำได้ไม่จบข้อ ทำมาได้แค่ครึ่งเดียว ก็อาจมีคะแนนได้ แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจอาจารย์ (ส่วนใหญ่จะน้อยมาก แต่ก็มีได้) - ดังนั้นถึงจะทำมาถูกหมด มาผิดบรรทัดสุดท้าย ก็มีคะแนนได้ (แต่ก็มักจะน้อยมากเหมือนกัน) การมีความรอบคอบหรือสมาธิ กับความฉลาด นั้น ควรจะควบคู่กัน ในการสอบ ย้ำ ในการสอบ เพราะมันคือการสอบ ไม่ใช่ความเป็นจริง ในการสอบต้องการดูทั้งคำตอบ และกระบวนการคิดพร้อมๆกัน จึงมีคำสั่งว่าให้ใช้วิธีไหน ไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องเข้าเรียนช่วงแรกๆก็ได้ เนื้อหาวิธีการแก้โจทย์ในช่วงแรกๆมักจะเป็นวิธีเบสิกยากๆเสมอ แล้วมันค่อยมีวิธีลัดลง ให้คิดได้ง่ายๆ ในช่วงหลัง "คุณก็ไม่ต้องเรียนช่วงแรก มาเรียนช่วงหลังๆ แล้วบอกว่า วิธีลัดก็คิดได้เหมือนกันทำไมอาจารย์ให้ผมผิด อาจารย์ย่อมจะถามเช่นกันว่าแล้ววิธีเบสิกช่วงแรกๆนั้นเธอมีความเข้าใจหรือไม่ ครูแค่ต้องการรู้ แต่เธอไม่มีคำตอบในวิธีนี้แต่ใช้วิธีอื่น ครูก็ย่อมตีความได้ว่าเธอไม่เข้าใจเนื้อหาในช่วงนี้จึงตอบไม่ได้ และใช้วิธีการอื่นมาแทน ดังนั้น การตอบด้วยวิธีนี้จึงย่อมผิดในข้อนี้" เพราะถ้าแค่อยากรู้คำตอบโดยไม่เลืกวิธี ครูคงไม่สั่งว่าให้ทำวิธีไหนมาหรอก ที่ทำอย่างนั้น เพราะเค้าอยากรู้วิธีนี้ ไงครับ มีการบ้านให้คิด หากคุณลองเป็นอาจารย์ดูแล้วลองให้คะแนนกรณีนี้ดูบ้างคุณจะทำยังไง สมมุติว่าข้อสอบเป็นแบบนี้คุณจะให้คะแนนเพื่อนคุณยังไง 1. ให้แก้โจทย์หนึ่งโจทย์ บลาๆๆ ว่าไป 1.1 แก้ด้วยวิธีหารสั้น 1.2 แก้ด้วยวิธีหารยาว แล้วเขาตอบ 1.1 เป็นหารยาว ตอบ 1.2 เป็นหารสั้นสลับกัน คุณคิดว่าจะให้คะแนนอย่างไร อีกอัน สมมติมีโจทย์ คำสั่ง จงวงกลมข้อที่ถูกต้อง แต่นักเรียนที่ทำกลับกากบาท หรือทำสี่เหลี่ยมๆมา คุณคิดว่าจะให้คะแนนอย่างไร ฉลาดแบบที่ควรจะเป็น ดีกว่าคนฉลาดแกมโกงนะจ๊ะ ^_^ จากคุณ : Echoes ACT III เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:09:52

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าเป็นผมจะเรียกเด็กคนนั้นมาเอาโจทก์ใหม่ไปทำ โดยให้ตัวตั้งเป็นเลข12หลักและตัวหารเป็นเลข5หลัก ดูซิยังจะทำหารสั้นมาอีกหรือเปล่า ซึ่งถ้ายังทำอยู่ก็ให้เอากระดาษทดมาให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่านี่คือเหตุผลที่ทำไมเขาถึงให้ใช้วิธีหารยาวเพราะตัวเลขที่คุณทดอยู่ในกระดาษทดนี่มันจะได้อยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยตรวจดูได้ในที่เดียวกัน ผมว่าถ้าครูทุกคนรู้จักใช้วิธีสอนกันด้วยเหตุผลตามที่ผมกล่าวในทุกวิชาที่สอน การศึกษาไทยก็จะไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จากคุณ : Cyber Sage เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:15:14

ความคิดเห็นที่ 30 เขียนโจรว่าไงหละ   ถ้าเขียนว่า  จง ตอบว่า  40/2  = ? เดกก็ไๆม่ผิดดนี้ถึงว่าเราเคยอสนแต่หารยาว แต่ถ้าโจรท์กำหนดว่า  จงแสดงวิทีทำด้วยหารยาว เดกผิด ตอนเด็กๆ   ทำข้อสอบ   ถามว่า นรเรียนถ่ายอุจาระเวลาไหน ก  ตื่นนอน   ข  หลังอาหารเช้า   ค เที่ยง   ง เย็น รุ้ทั้งรุ้ว่า  ควร  อึตอนเช้า  แต่ โจทร์ถามแบบนี้ ไอ้เรากะ ครี่ ก่อนอนด้วย เลย  ตอบ   ง คุณว่าผมผิดไหมหละ จากคุณ : i-sho เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:16:37

ความคิดเห็นที่ 31   โจทย์ต้องการวัดวิธีการหาร โดยการหารยาว ต้องการทราบว่าเด็กทำได้ หรือไม่ได้ การหารสั้นได้ ก็ต้องเข้าใจการหารยาว และคำตอบถูกต้อง แสดงว่าความสามารถ ผ่านเกณฑ์ที่ต้องการวัด คณิดศาสตร์คือการแก้ปัญหา เป็นผม จะให้ถูก ครับ แต่ถูกครึ่งเดียว เพราะไม่สมบูรณ์ในวิการที่โจทย์บังคับ ถ้าให้ผิด เราอาจเสียโอกาสให้เด็กกล้า คิดสร้างสรรค์ กล้าขี้เกียจแต่มั่นใจ ยังดี แต่จะเขียนเหตุผลไว้ให้เด็กอ่านตอนตรวจด้วย หรือเรียกมาสอบถาม หรือแนะนำเรื่องการทำตามคำสั่ง เพราะเป็นสิ่งสำคัญ ในการเรียนรู้ แบบฝึกหัดท้ายบท แต่ถ้าเป็นข้อสอบจริง ก็คงอยู่ที่วิธีให้คะแนน จากคุณ : mm เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:25:59 A:180.183.1.231 X: TicketID:207667

ความคิดเห็นที่ 32   ถ้าผมเป็นครูคงยังไม่ให้คะแนนจนกว่าจะถามเด็กแหละคับ นี่ๆเจ้าหนูเอ๊ย ทำไมถึงทำหารสั้นมาล่ะ คำตอบก็ถูกนะ แต่ครูว่าครูให้หารยาวมานะ แล้วก็ลองคุยกับเด็กดู... ถ้าเด็กบอกว่าขี้เกียจ ผมก็จะถามว่าเหรอทำไมล่ะ แล้วมันก็จะยาวไปบลาๆๆ คิดจะเสียเวลาทุ่มเทให้กับลูกศิษย์เองรึเปล่า เท่านั้นเองคับคนเป็นครู ไม่ใช่เอะอะสั่งเอะอะสั่ง ยัดเยียดเธอไม่ทำแบบนี้เธอผิด เธอไม่ทำยังั้นยังงี้ บลาๆๆๆ แล้วก็ไปทำนายทายทักอนาคตของเด็กไปยังงั้นยังงี้ ... การลงโทษโดยการให้ศูนย์นั้น ก็เหมือนให้อนาคตที่เป็นศูนย์สำหรับเด็ก(ผมจะให้คะแนนแต่ก็ไม่ได้เต็มอยู่แล้ว) อย่าบอกผมนะว่าเป็นการทำให้เด็กทุจริตไม่ทำตามคำสั่ง วิชาอื่นก็มี ไม่ได้มีแค่เลข ที่สามารถสอนจริยธรรมให้เด็กได้คับ ขอโทษคับที่อาจะดูรุนแรงเพราะตอนเด็กผมก็ทำแบบนี้ แล้วเรื่องที่คุณ จขกท.เล่าดันตรงกับชีวิตวัยเด็กผมอีก เพราะตอนนั้น ผมหารยาวไม่เป็นคับ คะแนนที่ผมได้คือ 0 และ โง่ และน่าจะไปเรียนตัดเย็บผ้า(เพราะผมได้คะแนนวิชาฝีมือ วิชา กพอ. เยอะคับ) เหยียดหยามผมต่อหน้าเพื่อนทั้งชั้นและลามถึงพ่อถึงแม่ ครูคนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นครูอยู่รึเปล่าที่สอนผม แต่อยากบอกว่าทุกวันนี้ก็ไม่ได้เก่งเลขมากคับ แต่ชีวิตมีการมีงานที่ชอบมั่นคง เรียนจบปริญญา มีครอบครอบแสนสุขมากคับ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 23:40:02 จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:31:21

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นเราเราก็ให้ผิดนะ จากคุณ : เมฆก๊าซในกลุ่มดาราจักรวังน้ำวน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:40:31

ความคิดเห็นที่ 34 ผมเคยถามจากเพื่อนๆผมที่ได้ไปเรียนต่างประเทศมาด้วยกัน ผมไม่สงสัยเลยว่า ทำไมประเทศแถบตะวันตกถึงได้พัฒนา เพราะว่าเขาพัฒนาที่การศึกษาก่อน เพื่อนผมเล่าว่า "หากมีวิธีใด ที่ทำไปแล้วแปลกพิศดาร ไม่สนว่าจะสั้นหรือยาว เป็นวิธีที่นอกเหนือไปจากการเรียน ขอให้เป็นวิธีที่ถูก ได้คำตอบที่ถูก ยิ่งเป็นวิธีที่ทำแล้วเร็วขึ้น(ทำนองว่า สูตรลัด แต่ก็ไม่ใช่ อาจจะให้คิดสูตรลัดของตัวเองขึ้นมา) อาจารย์จะให้ extra point ทันที ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ความคิดของเด็กแตกฉาน คอยเสาะแสวงหาวิธีการใหม่ๆในการแก้ปัญหา หลายคนอาจจะลืมไปว่าวัตถุประสงค์ในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์คืออะไร... ไม่ใช่เพียงแค่เอาไว้คำนวน ค่าใช้จ่ายเวลาไปจ่ายตลาด แต่เป็นการฝึกทักษะการแก้ปัญหาต่างๆ อีกเรื่องหนึ่งที่เพื่อนผมเล่าให้ฟังคือ น่าจะเป็นประมาณ grade 4 ของที่ต่างประเทศ วันนั้นเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ วิชาเรขาคณิต เรื่อง วงกลม เมื่อมาถึง ขั้นตอนการหาพื้นที่ของวงกลม อาจารย์ของเค้าก็แจกวงกลมให้กับเด็กคนละอัน ไม่บอกอะไรเลย สั่งแต่ว่าให้หาพื้นที่ ้เด็กคนที่หนึ่งก็เอาเชือกมาล้อมรอบวงกลม แล้วค่อยกางเป็นสี่เหลี่ยม เพื่อหาพื้นที่ต่อไป เด็กคนที่สอง ค่อยๆบรรจงวาดสี่เหลี่ยมภายในวงกลม โดยมุมทั้งสี่นั้นจรดกับเส้นรอบวงของวงกลม เมื่อเกิดพื้นที่ว่างรอบสี่เหลี่ยม(เซกเมนต์ของวงกลมในตอนแรก)เด็กคนที่สองก็พยายามวาดสี่เหลี่ยมทับพื้นที่ที่เหลือไปเรื่อยๆ จนวาดให้พื้นที่ที่เหลือของวงกลมนั้นน้อยที่สุด แล้วค่อยนำสี่เหลี่ยมที่วาดแต่ละรูปมาหาพื้นที่แล้วค่อยหาผลรวม เมื่อเด็กทุกคนทำเสร็จส่งคุณครู ตอนท้ายคุณครูจึงสรุปที่มาของสูตรหาพื้นที่วงกลม หรือที่ทุกคนรู้จัก "พื้นที่=พายคูณด้วยรัศมียกกำลังสอง" อธิบายที่มาของสูตรและเหตุผล ว่า มันคืออะไรมาได้อย่างไร มองย้อนกลับมาดูห้องเรียนในเมืองไทย บนกระดานจะมี สูตรเขียนให้นักเรียน และโจทย์อย่างง่ายๆ ให้ลองทำ ให้เด็กลองแทนค่าต่างๆที่โจทย์ให้มา พื้นที่=พาย อาร์ ยกกำลังสอง ทำไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนทำได้คล่อง จบ ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้ บางทีโจทย์อาจจะหลอกด้วยการ ให้ เส้นผ่านศูนย์กลางมาแทน การให้ รัศมี มาเลย(ซึ่งไม่ต่างกับให้รัศมีมาเลย) จนถึงเดี๋ยวนี้ผมว่าลองถามเด็กชั้นประถมสี่ กว่าครึ่งห้องก็คงยังไม่รู้ว่า พายคืออะไร คงรู้แต่ว่าเป็นค่าคงตัวค่าหนึ่งซึ่งมีค่าเท่ากับ 22/7 หรือ 3.14 ทั้งๆที่ก็เป็นอัตราส่วนระหว่าง เส้นรอบวง ต่อ รัศมี ของวงกลม ในทางกลับกัน บางคนอาจจะถามครูฝรั่งว่า ให้เด็กมานั่งทำอะไรเสียเวลา ลองมองให้ึลึกลงไป ในสิ่งที่เด็กคนที่สองทำ คุ้นๆมั้ยครับ ว่าเค้ากำลังทำอะไร "หาผลรวมของพื้นที่ ซึ่งกำลังเข้าใกล้ศูนย์" มีซิกมา และ ลิมิตอนันต์ โผล่ขึ้นมาให้เห็น และ... การอินทิเกรตแบบง่ายๆครั้งแรกในชีวิต "ตอน ป.4" ผมว่ามันเป็นการฝึกความคิดเด็กให้แตกฉานนะ ไม่ใช่ยึดติดอยู่กับวิธีเดิมๆ พื้นที่เท่ากับพายอาร์กำำลังสอง พื้นที่เท่ากับพายอาร์กำำลังสอง พื้นที่เท่ากับพายอาร์กำำลังสอง พื้นที่เท่ากับพายอาร์กำำลังสอง พื้นที่เท่ากับพายอาร์กำำลังสอง พื้นที่เท่ากับพายอาร์กำำลังสอง พล่ามซะยาวเชียวเรา สรุปซะที ดังนั้นผมจึงสรุปว่า ถ้ามีเด็กทำหารสั้นมาให้ ทั้งๆที่ผมสั่งหารยาว ผมจะถามว่า วิธีหารสั้นนี่ ได้มาจากวิธีหารยาวอย่างไร และให้คะแนนเค้าถ้าเค้าทำถูก แสดงว่าเค้ารู้ที่มาที่ไปของการแก้ปัญหา ไม่ได้ท่องจำมาจากที่เรียนพิเศษ หรือถึงเรียนพิเศษมาก็ต้องเรียนมาอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ไปท่องจำมา แต่ถ้าเป็นตอนสอบ ผมคงให้เค้าแค่ครึ่งนึง เพราะว่าทำไม่ตรงตามคำสั่ง แต่ผมจะไม่ตอบว่า "ผิด" และให้ศูนย์ สำหรับผมการเีรียนพิเศษไม่ได้เป็นการทำลายการศึกษา ดูตัวอย่างญี่ปุ่น เรียนพิเศษเป็นบ้าเป็นหลังมากกว่าเมืองไทยซัก 5-6 เท่า คุณครูที่โรงเรียนควรจะตั้งคำถามกันก่อนว่า ที่เด็กไปเรียนพิเศษกันเี่นี่ย เพราะอะไรน้า? เราสอนได้ไม่ดีรึเปล่า ไม่ใช่ เอะอะก็โทษแต่เด็กว่าทำไมถึงไปเรียนพิเศษ เรียนจะเรียนอะไรที่ไหนก็ได้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องเรียนอย่างเข้าใจ ประยุกต์ใช้ให้เป็น สุดท้่าย เด็กฉลาด(ในทางที่ดี) ชาติเจริญ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 00:01:11 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 23:55:30 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 23:51:44 จากคุณ : Vor@emon (กล้องจ๋าขาโจ๋) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:47:55

ความคิดเห็นที่ 35 รูปครับ จริงๆแล้วสี่เหลี่ยมจะต้องเป็นไปในอัตราส่วนเดียวกัน แต่ขี้เกียจอะครับ จากคุณ : กล้องจ๋าขาโจ๋ (กล้องจ๋าขาโจ๋) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:59:31

ความคิดเห็นที่ 36   สมัยเรียน ผมยอมได้ศูนย์ทุกครั้งที่อาจารย์สอนผิด... เพราะไม่อยากตอบผิดเพื่อเอาคะแนน ถึงแม้เกรดจะน้อยก็ไม่เคยแคร์สื่อครับ - - อย่าเชื่อเพียงเพราะเค้าเป็นอาจารย์ จากคุณ : วมแย์ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 00:35:44 A:125.27.8.38 X: TicketID:199878

ความคิดเห็นที่ 37 ต้องดูข้อตกลงของโจทย์ครับ ถ้าเขียนไว้ชัดเจน ว่าให้ใช้วิธีการหารยาว ---> ผิด ถ้าแค่ให้หาคำตอบ ---> ไม่ผิดครับ จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 01:13:40

ความคิดเห็นที่ 38 "ถ้าครูสอนการตั้งหารยาว" แล้วเด็กทำแบบฝึกหัดด้วยวิธีตั้งหารสั้นมาส่ง จะถือว่าเด็กทำผิดมั้ยครับ "สอนการตั้งหารยาว"   แล้วทำอย่างอื่น  ผมว่าผิดนะ ถ้าบอกว่า  "สอนการหาร" ไม่มีคำว่า "หารยาว"  ก็ถือว่าถูก จากคุณ : TreeAmath เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 03:29:01

ความคิดเห็นที่ 39   ถ้านี่เป็นการบ้านหรือข้อสอบของเด็กประถม และป๋มเป็นคนตรวจจะไม่ให้ศูนย์ฮะ จะให้ 2 เต็ม 5 ปกติแล้วของเด็กประถม เค้าจะกำหนดว่าให้ 5 คะแนนจากการแสดงวิธีทำ 1 ข้อ แบ่งเป็น เขียนประโยคสัญลักษณ์ถูก ให้ 1 คะแนน มีคำตอบสรุป ถูกให้ 1 คะแนน ส่วนของแสดงวิธีทำ 3 คะแนน ซึ่งปกติแล้วไม่มีใครใจร้ายขนาดตรวจปุ๊บให้ 0 เลยหรอกฮะ หารสั้นหารยาวของเด็กประถมนี่ ปล. จากประสบการณ์ตรงแม่ป๋มสอนป.2 นะฮะ จากคุณ : Little Bean Sprouts* เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 03:40:08

ความคิดเห็นที่ 40 - ข้าวมันไก่ (ไก่บ้าน / ไก่ตอน) ผลลัพธ์ออกมาหน้าตาเหมือนกัน สรุปว่า ใช่อย่างที่สั่งหรือเปล่า ผิดหรือถูก ** ก็ขึ้นอยู่กับว่า อยากจะได้ไก่แบบไหน - จงหาผลลัพธ์จากโจทย์ต่อไปนี้ โดยแสดงวิธีทำในรูปแบบหารยาว 100/5 = 20 ด.ช. A ทำวิธีหารสั้น ด.ช. B ทำวิธีหารยาว โหยยย  20 เท่ากันเลย ใครคะแนนใครดี หรือให้ทั้งสองคน ??? คิดเอาเอง (ยกเว้นโจทย์ไม่ได้บอกให้แสดงวิธีคิดแบบใด) จากคุณ : Chenm เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 09:21:08

ความคิดเห็นที่ 41 งั้นต้องเจอแบบของผมแล้วละ ให้โจทย์ ให้คำตอบ หาวิธีทำ จงแสดงวิธีการหารแบบยาวที่แสดงว่า  1024 / 4 = 256 จากคุณ : master foo bar เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 09:48:03

ความคิดเห็นที่ 42 ข้อสอบฟิสิกส์(ท่านจะใช้บารอมิเตอร์วัดความสูงของตึก ระฟ้าได้อย่างไร) ข้อสอบฟิสิกส์(ท่านจะใช้บารอมิเตอร์วัดความสูงของตึก ระฟ้าได้อย่างไร) >ผมมีเรื่องๆ หนึ่งขออนุญาตนำมาเล่าให้ฟัง เพื่อนชาวสถาปัตย์ท่านหนึ่งเป็นคนเล่าให้ผมฟังอ ีกที ผมฟังแล้วก็ชอบใจอยู่มาก เพราะมันให้ข้อคิดทั้งคนเป็นนักเรียนและคนเป็นครูได้ อย่างดี > >เรื่องนี้สนุกครับ ถึงจะมีสูตรมีศัพท์ทางวิทยาศาสตร์อยู่บ้าง ลองฟังดูครับ > >โจทย์ข้อหนึ่งในข้อสอบวิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยโคเ ปนเฮเกนมีดังนึ้ > >"จงอธิบายว่าท่านจะใช้บารอมิเตอร์วัดความสูงของตึกร ะฟ้าได้อย่างไร" > >รู้จักกันนะครับ บาร์รอมิเตอร์นี่ก็คือเครื่องมือวัดความกดอากาศนั่นเ อง (อธิบายเพิ่มเติมก็คงต้องบอกว่า อากาศนั้นมันมีน้ำหนักหรือมีแรงกดนั่น และแรงกดของอากาศนั้นเมื่ออยู่ในระดับความสูงที่เปลี ่ยนไป ความกดอากาศก็เปลี่ยนไปด้วย) > >นักศึกษาคนหนึ่งเขียนคำตอบลงไปว่า "เอาเชือกยาวๆ ผูกกับบารอมิเตอร์แล้วหย่อนลงมาจากยอดตึก แล้วก็เอาความยาวเชือกบวกความสูงบารอมิเตอร์ก็จะได้ค วามสูงของตึก" > >ฟังดูเป็นอย่างไรครับคำตอบนี้ ผมฟังครั้งแรกผมยังอมยิ้มเลยครับ แต่อาจารย์ที่ตรวจข้อสอบไม่นึกขันอย่างผมด้วย > >อาจารย์ตัดสินให้นักศึกษาคนนั้นสอบตก > >นักศึกษาผู้นั้นยืนยันต่ออาจารย์ที่ปรึกษาว่า คำตอบของเขาควรจะถูกต้องอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง และคำตอบของเขาก็สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร ์ > >ทางมหาวิทยาลัยจึงตั้งกรรมการชุดหนึ่งมาตัดสินเรื่อ งนี้ และในที่สุดคณะกรรมการก็มีความเห็นตรงกันว่า คำตอบนั้นถูกต้องอย่างแน่นอน แต่เป็นคำตอบที่ไม่แสดงถึงความรู้ความสามารถทางฟิสิก ส์ ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทางคณะกรรมการจึงให้เรียกนักศึกษาคนนั้นมา แล้วให้สอบข้อสอบข้อนั้นอีกครั้งหนึ่งต่อหน้า โดยให้เวลาเพียง 6 นาที เท่ากับเวลาในการสอบข้อสอบเดิม เพื่อหาคำตอบที่แสดงให้เห็นถึงความรู้ทางด้านฟิ สิกส์ > >หลังจากผ่านไป 3 นาที นักศึกษาคนนั้นก็ยังนั่งนิ่งอยู่ กรรมการจึงเตือนว่า เวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้วจะไม่ตอบหรืออย่างไร > >นักศึกษาหัวรั้นจึงตอบว่า เขามีคำตอบมากมายที่เกี่ยวกับฟิสิกส์ แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้คำตอบไหนดี > >และเมื่อได้รับคำเตือนอีกครั้ง นักศึกษาจึงเขียนคำตอบลงไปดังนี้ > >ให้เอาบารอมิเตอร์ขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกและทิ้งลงมา จับเวลาจนถึงพื้น ความสูงของตึกหาได้จากสูตร H=0.5g*tกำลัง 2 > >หรือถ้าแดดแรงพอ ให้วัดความสูงบารอมิเตอร์แล้วก็วางบารอมิเตอร์ให้ตั้ งฉากพื้นแล้ววัดความยาวของเงาบารอมิเตอร์ จากนั้นก็วัดความยาวของเงาตึก แล้วคิดด้วยตรีโกณมิติก็จะได้ความสูงของตึกโดยไม่ต้อ งขึ้นไปบนตึกด้วยซ้ำ > >หรือถ้าเกิดอยากใช้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์มากกว่ านี้ ก็เอาเชือกเส้นสั้นๆ มาผูกกะบารอมิเตอร์แล้วแกว่งเหมือนลูกตุ้ม ตอนแรกก็แกว่งระดับพื้นดิน แล้วก็ไปแกว่งอีกทีบนดาดฟ้า ความสูงของตึกจะหาได้จาก ความแตกต่างของคาบการแกว่ง เนื่องจากความแตกต่างของแรงดึดดูดจากจุดศูนย์กลางของ มวล คำนวณจาก T = 2 พาย กำลัง 2 รากที่ 2 ของ l/g > >ถ้าตึกมีบันไดหนีไฟก็ง่ายๆ ก็เดินขึ้นไปเอาบารอมิเตอร์ทาบแล้วก็ทำเครื่องหมายไป เรื่อยๆ จนถึงยอดตึก นับไว้คูณด้วยความสูงของบารอมิเตอร์ก็ได้ความสู งตึก > >แต่ถ้าคุณเป็นคนที่น่าเบื่อและยึดถือตามแบบแผนจำเจซ ้ำซาก คุณก็เอาบารอมิเตอร์วัดความดันอากาศที่พื้นและที่ยอด ตึก คำนวณความแตกต่างของความดันก็จะได้ความสูง > >ส่วนวิธีสุดท้ายง่ายและตรงไปตรงมาก็คือ ไปเคาะประตูห้องภารโรง แล้วบอกว่า อยากได้บารอมิเตอร์สวยๆ ใหม่เอี่ยมสักอันไหม ช่วยบอกความสูงของตึกให้ผมทีแล้วผมจะยกให้ > >นักศึกษาคนนั้นคือ นีล โบร์ ผู้ได้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปีค.ศ.1922 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:05:38

ความคิดเห็นที่ 43   ผิดครับ การเรียนคณิตศาสตร์ คงไม่ได้เรียนรู้เพียงแค่เพื่อให้ได้ผลลัพท์เท่านั้น แต่เรียนรู้ทฤษฎีและแนวคิดต่างๆด้วยนี่นา ส่วนเรียนจบออกมาทำงานแล้วจะถนัดแนวไหนก้ออีกเรื่องนึง จากคุณ : MSM69 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:56:17

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่าต้องดูที่วิธีทำ และความเข้าใจของคนตอบครับ เพราะถ้าจะเอาแค่วิธีการอย่างเดียว ดูจะจำกัดทางความคิดไปหน่อย แต่จะดูผลลัพธ์อย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะ เด็กเดี๋ยวนี้จำแต่สูตรลับ สูตรเฉพาะที่ทำำให้ได้ผลลัพธ์เร็ว แต่ขาดความเข้าใจก็มีเยอะแยะไป จากคุณ : Mr.Judy เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 14:29:46

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณ คห42 ครับ แหล่มเลย จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 16:26:54

ความคิดเห็นที่ 46   42ได้ใจมาก จากคุณ : รอมาสิบปีแล้วสินะ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 18:06:53

ความคิดเห็นที่ 47   เห็นด้วยกับ #8 , #24 .... เป้าหมายจะวัดความเข้าใจการหาร(ยาว) แต่เด็กทำหารสั้น ดังนั้นตรวจสอบไม่ได้ว่าบรรลุเป้าหมายหรือเปล่า จึงให้ผิดไปเลยไม่ได้ ส่วนทำผิดคำสั่ง อันนั้นก็ว่ากันไปอีกเรื่องนึง (ต้องแยกแยะ ไม่เหมารวม) อาจจะหักคะแนนโดยอธิบายให้เขาเข้าใจว่าทำไมต้องหักคะแนน แต่ถ้าเป้าหมายคือวัดระเบียบวินัยการทำตามคำสั่ง ก็ให้ผิดได้เลย จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 22:33:30 A:203.113.105.129 X: TicketID:238381

ความคิดเห็นที่ 48 ถ้าโจทย์บอกว่าจงแสดงวิธีหารยาว แล้วเค้าไม่ทำตามโจทย์ มันก็ผิด เห็นๆ ไม่ต้องเลี่ยงบาลี ถือว่า อ่านโจทย์ไม่ดี ผมเห็นแย้งกับคุณ Darth Prin น่ะครับ ผมว่าครูคนนั้นก็เป็นครูที่ดี ถึงแม้ว่าเค้าจะให้เด็ก 0 เพราะโจทย์ก็บอกอยู่ ทำผิดวิธีก็ผิดซะ ถ้าปล่อยไป วันนึง เด็กไปอยู่ในอีกสภาพแวดล้อมนึง สมมติไปเรียนเอก แล้ว advisor บอกว่า คุณต้องเขียนฟอร์มธีซิส แบบนี้ๆ แล้วคุณดันเขียนอะไรมาไม่รู้ เนี่ย มันจะไม่จบเอาน่ะผมว่า ผมมีประสบการณ์ส่วนตัวเลย กับครูเลขที่ผมเคารพรักที่สุด โจย์เกี่ยวกับตรีโกณประมาณว่า ให้พิสูจน์ ว่าขวาเท่ากับซ้าย cos2A + sin2A = 2cosecA    (ยกตัวอย่างเฉยๆ) ผมก็พิสูจน์ โดยผมทำการเปลี่ยนแปลง ทั้งซ้าย และ ขวา และสุดท้ายไปเจอกันตรงกลาง ทำไป 10 ข้อ ครูให้ผิดหมด   แล้วครูก็เรียกไปอธิบายว่า ต้องเปลี่ยนขวาของสมการอย่างเดียว ผมก็เถียงครู ก็โจทย์มันไม่ได้บอกอย่างนั้นนิครับ แต่สุดท้ายผมก็ต้อง ทำแบบที่ครูต้องการไปส่ง อิอิ  และตั้งแต่นั้นมาทำให้คิดได้ว่า ผมไม่จำเป็นต้องเชื่อครูไปทุกอย่าง จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 01:13:08

ความคิดเห็นที่ 49 เอ่อ...ขอนอกประเด็นนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็เป็นเรื่องเดียวกัน พ่อสอนลูกทำการบ้านคณิตศาสตร์ พ่อก็สอนให้คิดตามแบบที่เคยเรียนมา(เมื่อ 20 ปีที่แล้ว) แต่พอลูกเอาการบ้านไปส่งครู คำตอบที่ได้ถูกต้อง แต่วิธีการคิดไม่เหมือนกับที่ครูสอน ครูจึงถือว่าผิด ไม่ให้คะแนนเลย แม่สอนลูกสะกดคำในวิชาภาษาไทย ก็สอนตามแบบที่แม่เคยเรียนมา แต่ครูบอกว่าอ่านถูกแต่สะกดผิด...ก็ถือว่าผิด กลุ้มใจเลย....สมัยนี้จะสอนการบ้านลูก ก็ไม่มั่นใจว่าจะสอนถูกรึเปล่า คำตอบที่ถูกต้องได้ออกมาเหมือนกัน แต่วิธีคิดไม่เหมือนเดิมซะแล้ว  แถมยังทำให้ลูกขาดความเชื่อถือในตัวพ่อแม่อีก จากคุณ : แม่น้องมะปราง เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 10:04:50

ความคิดเห็นที่ 50   ตอบข้อสอบโดยใช้คำตอบของคนข้างๆ ผิดหรือเปล่า ก็คำตอบมันถูกนี่น๊ะ....คุณครูจะสนใจวิธีการไปทำไมว่าผมได้คำตอบมายังไง จากคุณ : ลิงจุ่น เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 13:44:14

ความคิดเห็นที่ 51   มีเพื่อนผมคนนึ่งเรียน เนติ. แล้ววันสอบ มีเงื่อนไขว่าให้ผู้เข้าสอบใช้ปากกา สีน้ำเงินหรือดำอะไรนี่แหละ  แต่ท่านไปใช้อีกสี ที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข    สอบเสร็จก็มาเล่าให้ฟัง บอกว่าทำได้ แต่สงกะสัยจะตกเพราะใช้ปากกาผิดสี หว่ะเพื่อน  แล้วก็ต้องไปสอบกันใหม่  ตอนนี้เป็นท่าน ผู้พิพากษาสบายไปแล้ว ครับ  เล่าให้ฟ้งพอจะเปรียบเทียบได้บ้างไหมครับ จากคุณ : มะค่าแต้ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:41:16

ความคิดเห็นที่ 52 ถึงแม้โจทย์จะระบุว่า ต้องแสดงวิธีการหารด้วยวิธีหารยาวเท่านั้น แต่ทั้งนึ้ทั้งนั้น อยากให้ผู้สอนคิดให้ลึกลงไปอีกว่า คณิตศาสตร์มิได้มีเพียงแค่โจทย์เพียงข้อเดียว และระบบการหารมิได้มีเพียงแค่การหารยาวเพียงวิธีเดียว ในเมื่อเค้าสามารถหาคำตอบได้ถูกต้อง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ถึงแม้จะไม่ถูกใจคนออกข้อสอบ แต่ไม่ผิดทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ ในความคิดดิฉัน ผู้สอนไม่ควรที่จะให้ศูนย์คะแนนในคำตอบข้อนั้นนะคะ ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า จะเรียกเด็กคนนั้นมาคุย และถามหาเหตุผลว่าว่าทำไมถึงทำหารสั้นมา และให้เค้าทำวิธีการหารยาวให้ดูด้วย เพื่อเป็นการบอกเค้าว่า สิ่งที่เค้าทำมานั้นไม่ผิด แต่ผิดวัตถุประสงค์ของข้อสอบ ซึ่งถึงแม้เค้าจะไม่ได้ศูนย์คะแนน แต่ก็เป็นเหตุให้เค้าต้องมาทำข้อสอบข้อนั้นใหม่อีกรอบ การเป็นครู มิใช่เพียงแต่แค่ออกข้อสอบ และตรวจข้อสอบว่าผิดหรือถูกเท่านั้น ต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับความเห็นของเด็กด้วย  อย่าขี้เกียจที่จะสละเวลาคุยกับเค้าถึงวิธีการต่าง ๆ แล้วทำแค่กากบาทผิดเลยค่ะ สงสารอนาคตของชาติ ถึงแม้เวลานั้นจะไม่ใช่เวลาสอน เป็นเวลาของการวัดผล (นั่นคือการสอบ) แล้วก็ตาม แต่การเป็นครูต้องไม่หยุดการสอนแค่จบบทเรียนนี่คะ อยากให้ระบบการศึกษาบ้านเราเข้าใจคำ ๆ นึงให้มากกว่านี้ คือ คำว่า "คิดนอกกรอบ" การที่เราจะบอกว่าเด็กคนหนึ่งผิด เพียงเพราะไม่ทำตามคำสั่งนั้น ดิฉันคิดว่า ผู้เป็นครูนั้นมีความคิดเห็นออกจะคับแคบเกินไปซักหน่อย เพราะหาลูกศิษย์ของท่านเรียนจบมา เมื่อออกมาสู่โลกกว้างในการทำงาน มันคงจะไม่มีโจทย์ตายตัวแบบนี้แน่นอนค่ะ สิ่งที่หัวหน้าสั่งลงมา สิ่งที่ลูกค้าต้องการ สิ่งที่เพื่อนร่วมงานต้องการเมื่อจะทำงานร่วมกับเรา ฯลฯ ล้วนมิได้ระบุมาอย่างตรงไปตรงมา หรือบางครั้งระบุอย่างเฉพาะเจาะจงก็จริง แต่ผลที่ได้รับกลับไม่เป็นตามที่คาด แล้วจะมาอ้างว่า ก็สั่งมาแบบนั้นเอง แบบนี้ไม่ควรนะคะ เพราะเมื่อเรารับคำสั่งมา เราต้องนำกลับมาพิจารณาอีกรอบหนึ่งว่ามีวิธีการที่ดีกว่านี้หรือไม่ หรือสิ่งที่เค้าต้องการ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด เราต้องกล้าที่จะเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเค้า ถ้าระบบการศึกษาของเราคุ้นเคยกับแค่ทำตามคำสั่ง เมื่อโตขึ้นไป เข้าไปอยู่สังคมการทำงาน เราก็จะคุ้นเคยกับการทำเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ ชีวิตคนไม่ใช่คอมพิวเตอร์นะคะ ที่จะได้มีแค่ 0 กับ 1 (ผิดกับถูก) จากคุณ : สายรุ้งกลางฟ้า เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:21:17

ความคิดเห็นที่ 53   เป็นผม ผมก็จะไม่ให้คะแนนนะ ผมว่าข้อสอบแต่ละข้อมันสร้างขึ้นมาเพื่อวัดอะไรบางอย่างที่อาจารย์ต้องการวัด ซึ่งถ้าอาจารย์สื่อสารอย่างชัดเจนแล้วว่า ต้องการวัดตรงนี้ แต่เด็กไปทำอีกอย่างหนึ่ง ก็ไม่น่าจะได้คะแนน และการไม่ได้คะแนนสอบ มันก็ไม่ได้แปลว่าคุณผิดเสมอไป มันก็แค่แปลว่าคุณไม่ได้คะแนน เท่านั้นเอง คือการให้คะแนนครึ่งเดียว ผมว่าก็ไม่แฟร์อ่ะ สมมติมีเด็ก 2 คน ทำหารยาวไม่เป็นทั้งคู่ แต่ทำหารสั้นเป็นทั้งคู่ เด็กคนนึงทู่ซี้เขียนหารสั้นไป ทั้ง ๆ ที่โจทย์สั่งหารยาว แต่อีกคนหนึ่งไม่เขียนอะไร เพราะจะเขียนหารสั้นไปทำไม ในเมื่อโจทย์ไม่ได้สั่ง แล้วเด็ก 2 คนนี้มีเหตุผลอะไร ที่จะได้คะแนนไม่เท่ากัน คือกิจกรรมที่จะใช้วัดความคิดสร้างสรรค์ของเด็กก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่ผมว่า ไม่จำเป็นที่ทุกกิจกรรมจะต้องเปิดโอกาสให้มีความคิดสร้างสรรค์เสมอไป ข้อสอบบางข้อ คุณอาจจะเปิดโอกาสให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ ข้อสอบอีกข้อ อาจจะต้องการวัดว่าเด็กคนนี้มีความรู้ในประเด็นนั้น ๆ ที่สอนไปหรือไม่ การที่สัดส่วนของการเปิดโอกาสให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์จะมากหรือน้อย ขึ้นกับดุลยพินิจของผู้สอน ถ้าองค์รวมแล้ว อาจารย์จะให้เด็กแทนค่าสูตรอย่างเดียว ทำตามวิธีที่อาจารย์บอกเท่านั้น อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่การที่ข้อสอบหรือแบบฝึกหัดบางข้อ อยากจะวัดว่าเด็กทำตามวิธีที่ครูสอนได้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย และถ้าเด็กไม่ได้ทำตามคำสั่ง ทั้ง ๆ ที่โจทย์บอกไว้ชัดเจนแล้ว เด็กก็ไม่สมควรได้คะแนน เพราะภายในเวลาและเนื้อที่ที่กำหนดให้ คุณไม่สามารถแสดงให้ผู้สอนเห็นว่าคุณบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ผมเห็นด้วยนะ ว่าควรจะเรียกเด็กมาคุย แต่ว่าผมคิดว่าควรจะให้คะแนน 0 ไปเลยในข้อนั้น เพียงแต่เรียกมาชี้แจงว่า ที่คุณได้คะแนนเท่านี้ เพราะคุณไม่ทำตามวิธีที่โจทย์สั่ง แต่ว่าวิธีที่คุณทำนั้นก็ไม่ผิด เพราะผมว่า ถ้าให้เด็กลองทำใหม่ด้วยวิธีหารยาว มันไม่แฟร์กับคนอื่น ๆ ที่ร่วมสอบด้วย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สุดท้าย เรื่องนีล โบร์ เนี่ย อิอิ ก็ตลกดีนะ แต่ผมว่านีลโบร์นี่ออกจะกวน ๆ ไปหน่อย อาศัยจากที่โจทย์อาจารย์ไม่รัดกุม ตอบคำตอบแปลก ๆ มา ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าอาจารย์ต้องการอะไร ถ้าผมเป็นอาจารย์ ผมก็คงจะให้ตกเหมือนกัน แล้วก็จะให้เหตุผลไปด้วยว่า คำตอบของคุณใช้ความยาวเชือกเป็นส่วนสำคัญในการวัดความสูงของตึก ไม่ใช่บารอมิเตอร์ สรุปคือ ถ้าผมเป็นอาจารย์ ผมก็ถือว่าผมใจกว้างพอที่จะยอมรับว่าเด็กไม่ได้ทำผิด แต่ว่าผมคงไม่สามารถให้คะแนนเด็กคนนั้นได้ ซึ่งเด็กก็ต้องใจกว้างพอที่จะเข้าใจตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ป.ล. 1 ถ้าใครเป็นนักศึกษาสังคมศาสตร์น่าจะเข้าใจ ว่าการทำถูกไม่ได้แปลว่าจะต้องได้คะแนนเต็มเสมอไป บางอย่างเราคิดตรงนั้นถูกแล้ว แต่เราข้ามไม่ได้เขียนอธิบายขั้นตอนที่เราคิดให้อาจารย์ฟัง เราก็โดนตัดคะแนน เพราะอาจารย์ถือว่า คุณไม่ได้เขียนตรงนี้ เราก็ไม่รู้ว่าคุณเข้าใจที่มาที่ไปตรงนี้หรือเปล่า การทำถูกไม่ได้แปลว่าจะต้องได้คะแนน และการไม่ได้คะแนนไม่ได้แปลว่าทำผิด ป.ล. 2 ค่าพาย น่าจะเป็นอัตราส่วนเส้นรอบวงต่อเส้นผ่านศูนย์กลางนะครับ ไม่น่าจะใช่รัศมี จากคุณ : HeTeRoSCeDaSTiCiTY เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 22:55:07 A:58.8.225.95 X: TicketID:230626

ความคิดเห็นที่ 54 ครูผิดตั้งแต่ตั้งโจทย์แล้วล่ะ.... ที่ไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้คิด เด็กทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องคิดเหมือนกัน เพราะจริงๆแล้วเด็กแต่ละคนต่างกัน ควรให้เขาได้มีโอกาสเลือก และคิดตามศักยภาพของเขา ถ้าคนเป็นครูตัดสินว่าเขาผิด ห้องเรียนก็ไม่ใช่ทางเลือกที่เด็กอยากอยู่ ห้องเรียนที่แม้แต่ครูก็รับความแตกต่าง ไม่ได้ แล้วประเทศชาติจะเป็นอย่างไร? ขอแค่เพียงคุณใส่ใจกับทุกการคิด เห็นพวกเขามีคุณค่า เขาก็อยู่ในห้องเรียนนั้นได้ ไม่ต้องถูกมองอย่างแตกแยก สิ่งที่จะเปลี่ยนห้องเรียนได้..คือ ครูต้องเปลี่ยน.. จากคุณ : noona เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 02:27:25