 |
ความคิดเห็นที่ 13 |
ถามแค่ตัวเราตรงนี้ กลุ่มตัวอย่างยังแคบมากครับ เอาง่ายๆ แค่ว่าถ้าคน 10 ล้านคนในกทม.และปริมณฑลไม่ใช้รถไทยเลย ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่น้องที่ต่างจังหวัดอีกกว่า 50 ล้านคนจะไม่ใช้เลย
"ความจำเป็น" & "ความต้องการ" ของคนกรุงกับคนตจว.มันต่างกันครับ
คนตจว.ที่ต้องซื้อมอเตอร์ไซด์รุ่นใหม่ๆ ราคา 40,000 บาทขึ้นไป สู้ซื้อรถไทยราคา 2-3 แสนไม่ดีกว่าหรือ
ที่ยกตัวอย่างตลาดคนต่างจังหวัด เพราะผมคิดว่าคนกลุ่มนั้นเป็นตลาดที่เจาะง่ายกว่าครับ คนกรุง ว่ากันตรงๆ แล้วค่อนข้างเรื่องมาก จุกจิก เพราะตัวเลือกมาก มีแบรนด์เนมมาก และที่สำคัญ มีรายได้มาก ทำให้พวกเขามีทางเลือกเยอะ
ซึ่งมันต่างจากคนต่างจังหวัด ในหลายๆ จังหวัดคนต้องการมีต้องการซื้อสินค้า "เพื่อใช้งาน" ดังนั้นถ้ามันใช้งานได้จริงและมีคุณภาพที่สมเหตุสมผล พวกเขาก็ยินดีจะซื้อครับ เพราะพวกเขาก็ไม่ได้มีรายได้มากมายขนาดจะมีตัวเลือกมากมายนัก และพวกเขายังไม่ได้อยู่กับสินค้าแบรนด์ต่างๆ ที่รายล้อมรอบตัวคนกรุงอีกต่างหาก
ชาวนา ถ้าต้องซื้อรถไถระหว่างยี่ห้อ คูโบต้า กับ เบนซ์ แทบทั้งหมดก็ซื้อคูโบต้านี่ล่ะครับ
คือ คิดว่าถ้าจะมีการทำรถยนต์กันจริง ก็พนันได้ว่าคนต้นคิดต้องคิดจะเจาะฐานคนตจว.ก่อน เพราะมันง่ายกว่า อย่างที่บอกว่าคนตจว.ไม่ติดแบรนด์มากเท่าคนกรุง (ติดเหมือนกันแต่ไม่มากเท่า) และด้วยความจำเป็นในขอบเขตของรายได้คนตจว.ทำให้โอกาสที่พวกเขาจะหันมาสนใจรถไทยราคาถูกๆ ย่อมมีมากตามไปด้วย
ถามว่า ถ้าจะมีการทำรถยนต์สัญชาติไทย จะเจาะตลาดคนกรุงได้มั้ย ตอบว่าจริงๆ ก็อาจจะได้ แต่มันจะยากมาก เพราะอยากที่บอกว่าสังคมเรามันขึ้นอยู่กับกระแส ถ้าต่างชาติบอกเราว่าอะไรดี เราก็ว่ามันดี แล้วก็แห่กันไปซื้อ เช่น BB ที่ฮิตกันมากมายในตอนนี้
ทั้งที่เอาเข้าจริง หลายๆ คนก็ "ซื้อเกินตัว" ฟังค์ชั่นอะไรก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง
ถ้ามีรถยนต์ไทยจริง คนที่จะใช้รถยนต์ไทยก็คงมีแค่ไม่กี่กลุ่ม..
1. พวกคนวงในหรือไม่ก็พวกช่าง, คนรักรถ รู้ว่าของดีจริง คุณภาพดี ก็เลยอุดหนุนโดยไม่ยึดติดกับยี่ห้อ
2. พวกคนไม่ค่อยรู้อะไร แต่เลือกมากไม่ได้ เงินน้อย ก็เอาของถูก อาจจะไม่มั่นใจแต่ก็เลือกไม่ได้
3. พวกคนที่รู้ครึ่งไม่รู้ครึ่ง รู้แค่ว่าตัวเองมีตัวเลือกแค่ไหนด้วยเงินในมือ และใส่ความมั่น&เชื่อใจลงไปในสิ่งที่กำลังจะซื้อ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สุดท้าย เรื่องการสนับสนุนแบรนด์ของเรา โดยการปิดกั้นหรือลดโอกาสทางการค้าของคู่แข่ง (ที่ว่าอัพภาษี ทำให้ราคารถนอกแพงขึ้น) ผมไม่รู้ว่าเราทำได้หรือปล่าวนะ เพราะมันน่าจะมีกฏหมายป้องกันการกีดกันทางการค้า ไม่งั้นเผลอๆ เค้าก็จะเล่นเราคืน เช่นว่าขึ้นภาษีสินค้าการเกษตรของไทยในญี่ปุ่น เราก็เจ็งเหมือนกัน
สู้กันแบบแฟร์ๆ ไปเลยก็ได้ครับ ภาพมันชัดเจนอยู่แล้วว่าใครเจาะตลาดระดับไหน รถนอกก็เจาะคนมีตังค์ กลาง-สูง , รถไทย ก็คงต้องเริ่มเจาะตลาดล่าง-กลาง ไปก่อน
เรื่องของการขายสินค้าราคาแพงๆ ในไทยนั้น มันอยู่ที่ "ความมั่นใจ" ของคนไทยครับ ถ้าเราทำให้สังคมเชื่อได้ว่าสินค้าดีจริง ถึงจะคนไทยทำก็ขายได้ เช่น สมมุติว่า ถ้ารถไทยชนะการแข่งขันรถอะไรสักอย่าง หรือได้รับคำชมจากต่างชาติ เดี๋ยวเราก็สูตรเดิมคือแห่ตามกระแสไปเองครับ
แต่แรกเริ่มเลย คงเป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆ แบรนด์สักแบรนด์จะได้รับความไว้วางใจเลย ก็ต้องใช้วิธีการ "ซื้อใจ" กันไปเลยครับ เช่นว่า มีศูนย์บริการทุกจังหวัดและซ่อมฟรี 5 ปี อะไรอย่างนั้นไปเลย
จากคุณ |
:
art_sarawut
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ธ.ค. 52 20:45:08
|
|
|
|
 |