 |
ความคิดเห็นที่ 9 |
จริงๆในสมัยต้นราชวงศ์ซีฮั่น ตำแหน่งอ๋องก็มีอำนาจปกครองแคว้นจริงๆครับผม
ตอนแรกๆที่หลิวปังรวมแผ่นดินมาได้นั้น ยังคงมีอ๋องตระกูลต่างๆทั้งที่มาจากขุนนางของหลิวปังเอง (เช่น ฉีอ๋อง หานซิ่น) และพวกอ๋องของแคว้นพันธมิตร (เช่นอ๋องแคว้นจ้าว, แคว้นเว่ย, แคว้นเยี่ยะ) เป็นต้น ซึ่งหลิวปังก็ไม่ค่อยสบายใจนักที่แม้ตนเองจะเป็นจักรพรรดิ แต่ต้องแชร์อำนาจกับชาวบ้านหน่ะครับ จึงค่อยๆกำจัดอ๋องต่างตระกูลจนหมดเกลี้ยงภายในรัชสมัยของพระองค์
แต่ทว่าแผ่นดินจีนนั้นกว้างใหญ่ จำเป็นจะต้องมีคนช่วยดูแลแว่นแคว้นที่ห่างไกลต่างพระเนครพระกรรณครับ หลิวปังก็เลยต้องตั้งเหล่าอ๋องจากพระญาติพระวงศ์ทั้งหลาย ขึ้นมาปกครองแคว้นต่างๆ โดยเหล่าอ๋องมีอำนาจและทหารในมือ รวมถึงดินแดนที่กินเมือง แต่มีหน้าที่ซึ่งจะต้องจงรักภักดีต่อจักรพรรดิและช่วยกิจการของราชสำนักครับ โดยหลิวปังหวังว่าการที่ตำแหน่งอ๋องและโหวแคว้นต่างๆ เป็นพระญาติพระวงศ์หมดจะช่วยให้บัลลังก็ยังไงก็อยู่ในมือของคนแซ่หลิวนั้นแล
กาลเวลาผ่านไปหลายรัชกาล เหล่าอ๋องและโหวหัวเมืองก็ยังคงสืบทอดตำแหน่งอยู่ครับ และพวกเขานั้นแม้ต่างคนจะมีดินแดนและกองทัพไม่มาก แต่หากเกิดจับมือสามัคคีกันขึ้นมาก็มีกองทัพและกำลังพลมากกว่าทหารส่วนกลางเสียอีก นั่นทำให้เกิดกรณีที่เหล่า 7 อ๋องชุมนุมพลบีบจักรพรรดิจิ้งตี้ครับ
เมื่อจักรพรรดิหวู่ตี้ขึ้นครองราชย์นั้น พระองค์ก็ตระหนักดีถึงอำนาจของเหล่าอ๋องหัวเมือง ซึ่งเป็นการทำให้ราชสำนักไม่อาจจะระดมหรือควบคุมพลได้อย่างเต็มที่ เพราะอำนาจมันกระจัดกระจายไปอยู่ในมือเหล่าอ๋องหัวเมือง พระองค์ก็เลยออกแผนการย่อยสลายอำนาจเหล่าอ๋องครับ โดยเมื่ออ๋องแคว้นในสิ้นลง ลูกชายจากภรรยาเอกทุกคนจะได้รับแบ่งดินแดนของบิดาในสัดส่วนเท่าๆกันไปครับ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพวกเหล่าอ๋องน้อยทั้งหลายมาก เนื่องจากพวกเขาได้ประโยชน์นั่นเอง แต่โดยเนื้อแท้แล้ว การที่ต้องแบ่งอำนาจของบิดาให้บุตรหลายๆคน มีส่วนทำให้เหล่าอ๋องหัวเมืองอ่อนแอลงครับ และพอผ่านไปหลายๆชั่วคนเหล่าอ๋องหัวเมืองก็ไม่มีกำลังเข้มแข็งพอจะก่อกบฎใหญ่ได้อีก และทำให้ราชบัลลังก์ของจักรพรรดินั้นไม่มีเหล่าพระญาติช่วยพิทักษ์ เปิดโอกาสให้หวางหมั่งยึดอำนาจมาได้ โดยเหล่าอ๋องแซ่หลิวไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ครับ
จากคุณ |
:
อุ้ย (digimontamer)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันสิ้นปี 52 20:49:30
|
|
|
|
 |