ความคิดเห็นที่ 1 ปัจจุบันนี้ก็คิดเสมอว่าตายแล้วสูญ ทำดีก็ไม่ได้หวังบุญ แค่ไม่ให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อนเป็นพอ จากคุณ : สายน้ำตะวันออก เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 21:28:59

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจะถกกันเพื่อหาสาระความจริง อย่ามัวตั้งคำถามสมมุติจ้ะ เพราะจะเป็นสาระไปตามความรู้สึกนึกคิดที่หลงเพลินไปกับเรื่องสมมุติ  แต่ไม่ใช่สาระของการคลี่คลายความจริงเอาเสียเลย  -_-" แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 21:44:44 จากคุณ : ผู้ศึกษา เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 21:41:35

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าครับ ดีกว่า เกิดมาแล้วเปลืองอากาศหายใจ จากคุณ : จอร์ด บางขัน เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 21:42:24

ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่เคยเชื่อนรกสวรรค์มาตลอดเพราะเชื่ออยู่เสมอว่าตายแล้วหมดสิ้น แต่ก็เชื่ออีกอย่างว่าการละเมิดต่อผู้อื่นจะมีผลร้ายกับตัวเองแค่นี้ก็คลอบคลุมศีลห้าแล้วเพราะการฆ่าและการลักทรัพย์และกาเมเป็นการละเมิดโดยตรงส่วนการโกหกเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นในการรับรู้ความจริง และการดื่มสุราเป็นการละเมิดต่อความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิดในรูปแบบอื่น จึงดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ไม่ละเมิดใครโดยไม่ต้องมีการอ้างนรกสวรรค์ จากคุณ : Cyber Sage เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 21:44:54

ความคิดเห็นที่ 5 นรกคืออะไร? สวรรค์คืออะไร?ยังมีคนมากมายตั้งคำถาม แต่ไม่มีใครตอบได้มีแต่คำกล่าวไร้ซึ่งหลักฐานพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ถ้านรกคือตัวแทนของความเลวทรามสาระพัดอย่าง สวรรค์คือตัวแทนของความดีสาระพัดอย่างเช่นกัน ผมว่าสสารมันไม่ได้หายไปจากโลกหรอก มันแค่เปลี่ยนเป็นพลังงานรูปอื่น ผลการกระทำเช่นกันมันก็ไม่ได้หายไปหรอกเพียงแต่มันเปลี่ยน สถานะและเปลี่ยนเวลาไปเท่านั้น ผลจากการกระทำปัจจุบัน จะกลายเป็นอดีต และ จะส่งผลไปในอนาคต มันเกี่ยวโยงกันเป็นลูกโซ่ กรณีตัวอย่างทางวิทยาศาสตร์ เดินไปตีหัวจิ๊กโก๋ปากซอยสลบเหมือดไปเมื่อสองวันก่อนมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ซึ่งเวลาตอนนั้นมันเป็นปัจจุบันของสองวันก่อนนู้น แต่อีกสองวันโดนจิ๊กโก๋ดักแทงตายอนาถหน้าปากซอย นั่นคือผลที่มันจะตามมา หรือไม่โดนแทงตายต้องย้ายบ้านหนีมันแต่ผลของมันก็ยังคงเป็นลูกโซ่เจอหน้ามันเจอหน้าเมื่อไหร่มันก็เอาตายเหมือนเดิมเห่อๆๆนี่คือสมมุติฐานของวิทยาศาสตร์ แต่ทางศาสนาเรียกการ บรรยายอันน่าปวดหัวง่ายๆว่า เวรกรรม ดังนั้นไม่ต้องคิดให้ปวดกบาลหรอกทำดีแหละดีที่สุดแล้วไม่เดือดร้อนใคร ไม่ต้องร้อนใจ จากคุณ : wan_p เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:40:48

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ยังทำเหมือนเดิม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เห็นผลทันตา ไม่ต้องรอชาติหน้า อยู่แล้ว จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:45:10

ความคิดเห็นที่ 7 ตามทษ.เก่าว่าสสารเที่ยง อะตอมของดาลตันบอกว่าวัตถุเที่ยงไม่สูญสลายไปไหนคงที่ถาวรอยู่เสมอจึงเกิดลัทธิวัตถุนิยมขึ้นใช่ไหม แต่ทษ.ใหม่ว่าสสารไม่เที่ยงมันตายแล้วไปไหน สสารไม่เที่ยงมันเปลี่ยนแปลงไปเป็นพลังงานตามที่ไอน์สไตน์บอกไว้ E=mc^2 ตามทษ.เก่าว่าจิตวิญญาณเที่ยง จิตวิญญาณตายแล้วไปไหนก็จะล่องลอยไปรอเวลาไปจุติใหม่นั้นเองแล้วเกิดใหม่ต่อมาก็ตายอีกเป็นวัฎจักรไม่สิ้นสุดเกิดลัทธิจิตนิยมขึ้นใช่ไหม หรือรอเวลาวันพิพากษาพร้อมกัน หรือส่งไปนรก-สวรรค์ด้วยก็ได้ ตามทษ.ใหม่บอกว่าจิตวิญญานไม่เที่ยง จิตวิญญาณตายแล้วไม่สูญ มันเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งอื่นเพราะขาดเหตุปัจจัยมาประชุมกัน ทษ.ใหม่นี้ไม่ได้ปฎิเสธนรก-สวรรค์ แต่บอกว่าสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ดังนั้นการกำจัดกิเลสโดยการฝึกปฎิบัติดีปฎิบัติชอบเพื่อให้เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ใช้แนวทางนี้ไปเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตคงดีกว่าเหตุผลส่วนตัวเทานั้นจริงไหม ระวังเดี๋ยวเขาว่าคุณเป็นพวกวัตถุนิยมจริงๆไปเลยก็ได้นะครับ จากคุณ : DDDDd เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:49:47

ความคิดเห็นที่ 8 ทุกสิ่งบนโลก ย่อมเป็นเช่นนั้นเอง ทุกสิ่งบนโลกเรากำหนดเอง ทุกสิ่งบนโลกถ้าเราไม่กำหนดซะ มันก็จะไม่มี... Everything empty.. ปล.ผมก็ดำเนินชีวิตปกติครับ เพราะไม่ยึดติดเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่ทำเลวนะครับ ^_^ จากคุณ : PJladd เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:01:42

ความคิดเห็นที่ 9 แลกเปลี่ยนมุมมอง - ตายแล้วสูญ คือ ยังเชื่อว่าปัจจุบัน"มีตัวตนอยู่จริง" แต่พอตายแล้วตัวตนสูญไป - ตายแล้วไม่สูญ คือ ยังเชื่อว่าปัจจุบัน"มีตัวตนอยู่จริง" พอตายแล้วตัวตนก็ยังมีต่อไปอีก ทั้งสองแบบมีส่วนเหมือนกัน คือ ยังเข้าใจอยู่บนพื้นฐานความเชื่อว่า ปัจจุบันนี้"มีตัวตน"อยู่จริงๆ จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:06:37

ความคิดเห็นที่ 10 เราตอบ ... รักษาชีวิตไว้อย่างเหนียวแน่น และ พยายามหาทางทำให้ตัวเองตายช้าที่สุด ทำไมคนตอบเหมือนเราน้อยจังแหะ จากคุณ : Pretty_Cute_Girl เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:09:29

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็ทำชีวิตนี้ให้มีความสุขมากที่สุด ไม่ต้องไปสนใจคนรอบตัวใครจะทุกข์จะเดือดร้อนช่างมัน ขอแค่ให้เรามีความสุข ถ้าเราทำดีแล้วไม่มีคนเห็นคนชื่นชม จะทำไปเพื่ออะไร?? ไร้สาระสิ้นดี จากคุณ : OFF_KUB เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:14:04

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนเดิมแหละ  ไม่รู้จะเปลี่ยนไปทำไม จากคุณ : isiss12 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:26:23

ความคิดเห็นที่ 13 ทำตามทาง พระพุทธเจ้า ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร จากคุณ : กล้องจ๋าขาโจ๋ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:35:33

ความคิดเห็นที่ 14 ปัจจุบันที่ทำในสิ่งที่คิดว่าดีและเหมาะสมที่สุดแล้วในการใช้ชีวิต ทั้งในฐานะคนๆหนึ่งและสมาชิกคนหนึ่งของสังคม จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:40:30

ความคิดเห็นที่ 15   ผมเป็นคนตั้ง poll แต่ตัวเองดันนึกไม่ออกว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงจะทำยังไงต่อ.. จากคุณ : คนเบอร์เก้า เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:50:43

ความคิดเห็นที่ 16 ทำแบบเดิมแหละครับ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เชื่อเรื่องโลกหน้าอะไร แต่เชื่อว่าถ้าทุกคนทำตัวเลวหมด ชีวิตที่ดำเนินอยู่ทุกๆ วันนี้มันคงไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่น่ะครับ สรุปคือทำดีเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าครับ ไม่ใช่เพื่อโลกหน้า จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 00:23:29

ความคิดเห็นที่ 17 ตายแล้ว สูญ แล้วเมื่อไร จะได้ใส่แหวนไก่ย่างกัน จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 00:41:29

ความคิดเห็นที่ 18   ทำตัวเหมือนเดิมต่อไป เพราะ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เชื่อเรื่องชาติหน้า ชาติหลัง อะไรอยู่แล้ว คิดเเค่ว่าก็แค่เปลี่ยนจาก สสารไปเป็นพลังงาน หลังจากกระบวนการย่อยสลายซากศพเสร็จสิ้นก็เท่านั้น -*- และก็ไม่ได้เชื่อว่าวิญญาณมีจริงด้วย เพราะถ้ามีแล้ว มันคืออะไร? ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? แล้วมันมีคุณสมบัติยังไง? แตะต้องได้รึเปล่า แต่คงไม่ได้เพราะส่วนใหญ่เห็นบอกกันเป็นพลังงาน แล้วมันดำรงอยู่ได้ยังไงละ? 555+ พอดีกว่าเริ่มยาวซะละ จากคุณ : แมวโหดกระโดดกัด เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 00:56:38

ความคิดเห็นที่ 19 ทุกวันนี้ก็เชื่อว่าตายแล้วสูญครับ จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 01:17:45

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้านรกสวรรค์มีจริง แล้ว ถ้าพวก หมา แมว ทำผิด มันต้องลงนรกเดียวกับเราไหม -*- ส่วนตัว ยังไม่อยากตัดสินใจว่า นรกกับสวรรค์มีจริงไหม แต่ ถ้าให้เลือกตอบ ตอบข้อ 4 ครับ ทำไม่ดี ใจก็จะร้อน ทำดี ก็สบายใจ เป็นเหมือนเดิมดีและ จากคุณ : อยากรู้ (okaunkung) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 01:48:03

ความคิดเห็นที่ 21   ผมไม่อยากตายแล้วสูญอ่ะ เคยคิดเล่นๆ ขอตายแล้วกลายเป็นวิญญาณ ลอยไปไหนมาไหนดีกว่า ไม่ต้องมีคนเห็นก้ได้ ลอยไปเรื่อยๆ เที่ยวรอบโลก 55+ แต่พอคิดดูอีกที ลอยไปเรื่อยๆเด่วก้คงเบื่อ :D จากคุณ : MoMoZung เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 01:58:32 A:124.120.233.136 X: TicketID:234751

ความคิดเห็นที่ 22 ตัวคนตายแล้วดับสูญ แต่สิ่งที่ทำไว้ยังคงอยู่ จากคุณ : slamer เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 02:05:45

ความคิดเห็นที่ 23 ทุกวันนี้ที่ไม่ทำชั่ว ไม่โกงใคร ทำไปไม่ได้หวังว่าจะเก็บบุญเอาไว้ใช้ตอนตายสักหน่อย เราไม่สนหรอกว่าตายแล้วจะไปใหน จะมีนรก สวรรค์ใหม ที่ไม่ทำเลว ไม่โกง ก็แค่นึกถึงใจเขา ใจเรา ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 04:13:31

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเป็นการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ วันนี้พิสูจน์ได้ว่า ตายแล้วสูญ พรุ่งนี้อาจจะไม่ใช่ ยังไม่คุ้มพอ  ถ้าจะทำอะไรเลวๆลงไป แต่สมมติว่า ถ้าเป็นเป็นอะไรที่ชัดเจนแบบเป็นกติกาในเกม ทฤษฎีเกมก็ตอบไว้อย่างชัดเจน ว่าเกมที่เล่นครั้งเดียวจบ กับเกมที่เล่น ไม่รู้จำนวนครั้งที่จบ กลยุทธ์ในการเล่น มันต่างกันอย่างไร ประเดนสำคัญหนึ่งคือ เกมจบแล้วผลจะเป็นอย่างไร เรื่องนึง แต่จะเล่นเกมยังไง ให้สนุกที่สุด นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องนึง จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 09:21:31

ความคิดเห็นที่ 25 มองแบบพุทธบ้าง ผมว่า ยังเป็นการยาก ที่จะให้คนที่ฝึกการดูจิตมา เชื่อว่า กายดับแล้ว จิตจะต้องสลายตาม ลองถามตัวเองดูว่า ตลอดเวลาที่ คุณรู้สึกว่ามีตัวตนคุณอยู่ จำเป็นต้องมีร่างกายมั้ย จะบอกว่าจิตเป็นผลมาจากสมอง มันก็ไม่ได้พิสูจน์ได้ว่า ไม่มีสมอง แล้วจะไม่มีจิต ประเดนนี้ ผมก็ยังเห็นไม่ชัด ขอข้ามไปก่อน แต่ก็เอาง่ายๆว่า ถ้ามองจิตแยกออกมาจากสมอง ก็เป็นไปได้ ที่จะถ่ายจิต ไปยังอีกสมองหนึ่ง หรือไปยังสมองเทียม หรือไปยังอย่างอื่น ที่คุณสมบัติใกล้เคียงกัน นี่อาจทำให้มองเป็นเรื่องเป็นราวได้ว่า เพราะมันต้องย้าย ถ่ายข้ามชาติไป ทำให้ความทรงจำหายไป ที่ยังคงเหลืออยู่ได้ อาจจะเหลือแต่กรรม มาพูดเรื่องการถ่ายจิต กับเรื่องตัวตนซักหน่อย เพราะคุณเกิดมาพร้อมกับร่างกาย อยู่กับมันตลอด สามารถบังคับมันได้ ก็คิดว่ามันเป็นตัวตนของคุณ ถ้าคุณเกิดมาพร้อมกับดาบ อยู่กับมันตลอด ในลักษณะเดียวกัน มันเป็นตัวตนของคุณ หรือจะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับอะไรมากๆเข้า ก็ไปติดว่าเป็นตัวตนของเค้า คนฝึกจิตมาดีมากๆ จะเห็นว่าร่างกายไม่ใช่ตัวตนให้ยึดติด ไม่ต่างกับว่าเป็นดาบ หรือเป็นคนอื่นๆ ที่จะต้องเสื่อมสลาย วันนึงก็ ไม่สามารถบังคับได้ เลยเถิดมาอีกนิด คงเคยเห็นการถูกบังคับ คือคนนึงไปบังคับอีกนึง คือถ้าสามารถกำหราบจิตเค้าได้หมด จนเค้าไม่สามารถบังคับอะไรเองได้เลย อันนี้ก็ยังเป็นการเข้าไปบังคับร่างกายทางอ้อม จากการไร้ตัวตน ยังอาจจะไปเรื่องจิตสากลต่อ คือมันจะได้เห็นจิตที่หลุกจากกาย ออกมามากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งหมดอาจจะเป็นแค่ตัวหลอก ที่วิทย์พิสูจน์ได้ เป็น สูญในมวล3% ไปอยู่ในสสารมืด หรือพลังงานมืด หรือไปอยู่ในมิติที่23ต่อหรือเปล่า /// กลับมาตอบคำถาม จะพิสูจน์ทางพุทธ คงเป็นว่าต้องฝึกถึง อนาคามี หรือ สกิทาคามี ซึ่งควรจะระลึกชาติได้ สมมติว่า เชื่อได้อย่างมั่นใจในทางพุทธว่า ไม่มีชาติก่อน ชาติต่อไป อาจจะมีการผิดหลักสูตรซักหน่อย เข้าใจว่าระดับนี้ยังมีรักหลงอยู่ อาจจะย้อนกลับมาเป็นคนธรรมดา มีกิเลสต่อไปได้ แต่ถ้าโชคดียังเดินหน้าไปต่อได้ เป็นพรหม หรืออื่นๆ น่าจะไปย้อนกลับมาได้ ที่ใช้คำว่าโชคดี คือ หลายๆคนอาจจะคิดว่า พระคือคนที่ไม่รู้จัก ทางโลก แต่อยากบอกว่า คนที่ฝึกจิตมาดีๆนี่แหละ สัมผัสได้หนัก กว่าคนทั่วๆไป อย่าบอกว่าเค้าเอาแต่เชื่อตำราโดยไม่คิด บางคนก็ทำตามๆกันไป แต่หลายๆคน ก็คิด ด้วยความมี สติ มากๆ กว่าคนทั่วๆไป ที่เน้นเรื่อง สติ เพราะคนที่มี สติ ดีมากๆ ก็ไม่ต้องมาบวชหรอก คุณดีของคุณเองอยู่แล้ว แต่ก็มีกับดักข้อนึง คือ สติคุณ ดีพอที่จะเห็น ความน่ากลัวจากตัวตนของคุณเองหรือเปล่า จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:05:04

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อ  4ครับ  อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด จากคุณ : the last wizard of the century เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:16:42

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบ จากคุณ : praphrut608 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 11:13:27

ความคิดเห็นที่ 28 ทำดีเหมือนเดิมแหละครับ ทำให้สังคมน่าอยู่ มิเช่นนั้นลูกเราคงต้องเกิดมาอยู่ในสังคม*[^_^] จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 11:25:52

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่เคยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ คิดมาตลอดว่าตายแล้วสูญ เพราะมนุษย์เรา ก็แค่สิ่งมีชีวิตธรรมดาชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนโลกซึ่งเป็นแค่ดาวเคราะห์ธรรมดาดวงหนึ่ง ที่อยู่ในระบบสุริยจักรวาลธรรมดาระบบหนึ่ง ที่สังกัดอยู่ในดาราจักรธรรมดาดาราจักรหนึ่ง ฯลฯ เราไม่ได้วิเศษวิโส หรือยิ่งใหญ่ขนาดที่จะต้องมีโลกหน้าใด ๆ มารองรับ แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น ก็ยังคงรักษาแนวทางเดิมในการดำรงชีวิตของตนเอาไว้ ยังคงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้การช่วยเหลือ และแบ่งปันความสุขให้ผู้คนรอบข้างต่อไป เพราะหากเราไม่ช่วยกันทำอย่างนั้น คงไม่มีโอกาสใช้ "ชีวิต" ที่อุตส่าห์ได้รับมาอย่างคุ้มค่า ในสังคมที่สงบสุขเป็นแน่ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 11:28:12

ความคิดเห็นที่ 30 ก็ทำตัวเหมือนเดิมปกติเช่นปัจจุบัน เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การทำดี หรือทำเลว มันส่งผลต่อตัวเราและคนส่วนรวม ไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว ผลกรรมต่างๆมันเห็นกันชาตินี้แหล่ะ เดินไปชกหน้าคนอื่น คนอื่นก็สามารถชกหน้าเรากลับได้ทันที ถ้าเราสร้างปัญหาแก่สังคม คนในสังคมก็จะลงทัณฑ์เราเองแหล่ะ อยู่ที่จะช้าหรือเร็ว นรก-สวรรค์ เป็นกุศโลบาย อย่างหนึ่ง เพื่อใช้ในการ ชั่งคิด ก่อนจะทำอะไรลงไป ทำดี-มีคนชื่นชม คือ สวรรค์ ทำชั่ว-มีแต่คนด่า คือ นรก จากคุณ : อาท (chan ty) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 11:45:24

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าพิสูจน์ได้ว่าตายแล้วสูญ เชื่อว่าคนจะฆ่าตัวตายมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวจากปัจจุบัน จากคุณ : NattaNT เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 13:23:46

ความคิดเห็นที่ 32 ตั้งแต่เรียนวิทย์มา ก็มีความเชื่อเฉพาะตัวเองมาตลอดว่า ตายแล้วสูญ ทุกวันนี้ก็เลย.....ลั้ลล้า.... จากคุณ : vpo-14 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 18:48:12

ความคิดเห็นที่ 33   ผู้ใดยังเชื่อว่า ตายแล้วสูญ หรือ มันสูญมาแต่แรก กรุณามาอ่านคำสอนของท่านพุทธทาสเรื่องนี้ด้วย http://whatami.ob.tc/-View.php?N จากคุณ : พรรณ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 20:54:38 A:125.25.126.166 X: TicketID:247959

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่สนใจว่าตายแล้วเป็นไง ทำตัวเหมือนเดิมนี่แหละทำไม่ดีก็ไม่สบายใจเลยไม่ทำ แต่เรื่องเลวบางเรื่องทำแล้วสบายใจก็ทำ 555 จากคุณ : DevilDoll เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 22:59:13

ความคิดเห็นที่ 35   หาสาวอึบให้หนำใจ จากคุณ : ิอิอิ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 23:38:12 A:119.31.31.178 X: TicketID:209656

ความคิดเห็นที่ 36   ผมเชื่อว่าคนเราจะทำดีหรือชั่วมันขึ้นอยู่กับสำนึกส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับว่าการตายนั้นดับสูญหรือไม่ การที่บอกว่าจะทำชั่วช้าเพราะถือว่าตายไปก็จบกันมันก็เป็นแค่การหาข้อแก้ตัวในการจะทำชั่วเท่านั้น ถึงตายไปแล้วจะดับสูญจริง การทำอะไรตามอำเภอใจไม่สนใจผู้อื่น คิดหรือว่าจะไม่โดนการลงโทษจากสังคม และถึงตอนนั้นแหละจะรู้สึกว่า นรกน่ะมีจริง!!! จากคุณ : VeryBadman...Begins (คามิยามะมาเยือน!!!) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 04:40:38

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าคนเชื่อว่าตายแล้วสูญ คิดว่าคนส่วนใหญ่จะกล้าทำบาปกันมากขึ้น ไม่มีเรื่องกรรม ไม่มีเรื่องบาปบุญคุณโทษ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 19:28:10

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วถ้า เกิด ว่าจริงๆแล้ว ตายแล้ว ไม่สูญ จะเปลี่ยนพฤติกรรมไม๊คะ จากคุณ : peachpeach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 10:14:17

ความคิดเห็นที่ 39 ตั้งแต่เด็กยันโต ผมถูกสอนมาตลอดว่า มีนรก และสวรรค์ เมื่อทำดี ตายไปจะไปอยู่สวรรค์ ทำชั่วจะไปอยู่ในนรก และ อีกแบบหนึ่งคือ ทำดี ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นมนุษย์อีก ทำชั่วจะได้เกิด เป็นสัตว์ต่างๆ แล้วแต่เค้า(ผู้คุมกฎ)จะพิจารณากันไป ซึ่งจะวนเป็นหลูป(Loop)เป็นชาติๆไป เมื่อโตขึ้นเรียนสายวิทย์ ผมคิดว่านั่นผิดหลักทางวิศวกรรมอย่างมาก ใครจะไปสร้างสวรรค์ได้บนฟ้า ด้วยสสารที่มองไม่เห็น (สสารมืดหรือเปล่านะ) และคิดว่่านั่น เป็นเพียงกุศโลบาย ให้คนทำแต่ความดี เมื่อคนเป็นคนดี โลกโดยรวมก็จะดีไปด้วย........ 2-3ปีมานี้ ความเชื่อของผมเกี่ยวกับความตายเปลี่ยนแปลงไป เป็นว่าตายไปก็เหมือนหลับลึก และไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ผมเลือกคือ ทำความดี(ที่อยากทำ และทำได้)ให้มันสุดๆไปเลย เพราะเกิดมาแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีชาติหน้าหรือชาติไหนอีกแล้ว.... จากคุณ : O-DED เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:32:20

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นหนังสือชื่อ ไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น อ่ะ น่าสนใจเลยซื้อมาอ่าน  (ปกติชอบอ่านหนังสือธรรมะอยู่แล้ว) แต่งโดย ทันตแพทย์สม สุจีรา ซึ่งได้นั่งวิปัสสนากรรมฐาน แล้วเจอเรื่องแปลกประหลาด จึงหาเหตุผลเชื่อมโยงระหว่างคำสอนของพระพุทธเจ้ากับวิทยาศาสตร์ โดยอ้างอิงถึงความสัมพันธ์ของสมการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทฤษฎีสัมพันธภาพ ความว่างในอะตอม  กับคำสอนของพระพุทธเจ้า สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้อย่างน่าทึ่ง เป็นหนังสือ Best seller   นี่เป็นบทความบางส่วนจากหนังสือ "ไอน์สไตน์ ไม่นับถือศาสนา ถ้ามีคนถามไอน์สไตล์ว่า นับถือศาสนาอะไร เขาจะตอบว่า เป็นคนไม่มีศาสนา แต่ถ้าถามต่อว่าเขาชอบศาสนาอะไรเป็นพิเศษ เขาจะตอบทันทีว่าศาสนาพุทธ เขาสนใจพุทธศาสนามาก อาจจะเข้าถึงมากกว่าคนที่นับถือศาสนาพุทธจริง ๆ ซะอีก บทความที่ไอน์สไตน์เขียนจะอ้างอิงถึงศาสนาพุทธบ่อยมาก เขาใช้คำว่า ศาสนาแห่งจักรวาล " ไม่รู้ดิ !!!  บางทีธรรมะกับวิทยาศาสตร์ ก็อาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 20:28:18 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 20:27:32 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 19:30:39 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 18:57:57