ความคิดเห็นที่ 1 จะทดลองโดยใช้ Notebook Video Scaler และจอ LCD (มี dvi input) เนื่องจากผมไม่มีจอ LCD ที่ input เป็น HDMI และสาย HDMI จึงใช้สาย DVI >> HDMI ซึ่งมาตรฐานสัญญานเหมือนกัน จะทดสอบโดยปรับความละเอียดของภาพ output ที่ส่งใหนจอ LCD สูงขึ้นเรื่อย ๆ ดูว่าสายมันจะรับได้แค่ใหนครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 14:49:06

ความคิดเห็นที่ 2 F 5 รัว กำลังรอชมครับ จากคุณ : latissier เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 14:53:00

ความคิดเห็นที่ 2 ทดสอบปรับความละเอียดที่ Scaler แต่จอที่เอามาใช้มัน ไม่ support ความละเอียดอื่นเลยครับ นอกจาก 1024 x 768  -_-" กำ จอนี้ซื้อเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จอ 15 นิ้ว มี DVI หายากมาก เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 14:51:03

ความคิดเห็นที่ 3 แอบอู้งาน วิ่งไปหาจอ มาใหม่ ฝ่ายผมไม่มีที่รับ DVI ได้เลย ไปยืมอีกฝ่ายมา เป็นจอ Samsung ใหม่ ๆ เลย จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 14:56:29

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ต้องไล่ความละเอียดเพิ่มละ เอามันสูงสุดเลย สูงสุดที่ Scaler ทำได้ก็ 1920 x 1200 pixel จัดไป !!!! ผลปรากฤว่า จอรับได้ แฮะ สาย DVI >> HDMI ก็ใช้ได้ไม่เพี้ยนเช่นกัน จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:01:57

ความคิดเห็นที่ 5 ทีนี้มาดูรายละเอียดการส่งสัญญาณกันบ้าง อย่างที่ผมบอก ความเร็วในการส่งสัญญาณในสาย มันจะขึ้นอยู่กับ resolution และ refresh rate ยี่งมากก็ต้องยิ่งใช้ CLK ความถี่สูง ตามภาพเลย CLK ที่เห็นตรงนี้เป็น CLK ในการส่งสัญญาณของแต่ละ Pixel (ทีละ 8 bit x 3 สี) เวลาส่งเป็น serial ก็คูณ 10 (8 bit + 1,2 spacial bit) ไปโดยประมาณ เพราะมันต้องเพิ่ม bit พิเศษในการส่งไปด้วย แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 15:06:12 จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:03:54

ความคิดเห็นที่ 6 ทีนี้มาดู 720p กันบ้าง LCD TV ขนาดไม่ใหญ่ ส่วนมากก็ support เท่านี้ บางรุ่นบอกว่า suppurt ถึง 1080p แต่ก็รับไปแล้ว Scale ภาพลง ให้เท่ากับ (native) resulution ของตัว LCD module จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:08:22

ความคิดเห็นที่ 7 รอดูผลการทดลอง ครับ.. จากคุณ : BLUE SONIC เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:08:25

ความคิดเห็นที่ 8 มารอชม ครับ จากคุณ : i_nam เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:09:33

ความคิดเห็นที่ 9 ความถี่ในการส่งก็ประมาณ 1.48 Ghz ในสาย HDMI มี data 3 channel  R G B รวมแล้ว ทั้ง 3 channel มันก็ 1.48 x 3 ~ 4.4 Gbps  (เผื้ออยากรู้) ผิดรูปครับ ดูอันล่าง แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 15:16:10 จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:15:00

ความคิดเห็นที่ 10 รูปของ คห. บนครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:16:49

ความคิดเห็นที่ 11 ทีนี้ผมลองเพิ่มความถี่ในการส่งสัญญาณขึ้นไปอีก มันขึ้นไปได้แค่ 165 Mhz ตัว Scaler มันจำกัดใว้แค่นี้ครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:18:10

ความคิดเห็นที่ 12 ผมนั่งจ้อดูจออยู่เกือบนาที ไม่มีถาพผิดเพี้ยนสักนิดเดียว ผมลองทั้งสาย 1.8 เมตร 350 บาท และ 3 เมตร 280 บาท ได้ผลเหมือนกัน ไม่มีภาพเพี้ยนสั่นใหวแม้แต่นิด จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:19:37

ความคิดเห็นที่ 13 มาตรฐาน 1080p ใช่ความถี่การส่งประมาณ 1.5 Ghz ทีนี้มาดูมาตรฐาน 720p กันบ้างครับ ความถี่ในการส่งข้อมูล(แค่)  72 Mhz เท่านั้นเอง ในสาย HDMI ก็ประมาณ 720 Mhz เทียบกับ 1.5 Ghz ของ 1080p แล้วครึ่ง ๆ เลย แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 15:23:19 จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:21:00

ความคิดเห็นที่ 14 รายละเอียดของข้างบน 720p @ 60Hz จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:21:47

ความคิดเห็นที่ 15 โฮ่ะๆๆๆ  หูทอง  ตาทิพย์  ร้อนผ่าว จากคุณ : foduck เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:22:36

ความคิดเห็นที่ 16 จิงๆพวกตาทิพย์เค้าก็บอกว่าจอต้อง 36 นิ้วขึ้นถึงจะเห็นในบางจังหวะโดยเฉพาะตอนภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ นี่คุณเล่นเอาจอคอม 8 บิตมาเทสมันก็ไม่ใช่ case เดียวกับที่พวกตาทิพย์เค้าบอกนะคับ ถึงจะไม่มีจอยังไงก็น่าจะลองเปิดหนัง hi-def หรือเล่นเกมเทสดูซักหน่อยก็ยังดีกว่าเปิดหน้าเวปค้างไว้แล้วดูว่าภาพกระตุกป่าวนะคับผมว่า จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:30:23

ความคิดเห็นที่ 17 หมดแล้วครับ ผมสรุปให้ดังนี้ถ้าใครไม่เห็นด้วยก็แย้งได้ ถ้าเห็นด้วยขอ gift หน่อยนะ อิอิ สายราคาถูก สามารถรับ bandwidth ได้น้อยกว่าสายราคาแพง การใช้งานในลักษณะ ที่ไม่เกิน bandwidth ของตัวสาย ส่าย HDMI ราคาถูก สามารถ ให้คุณภาพของวีดีโอ เท่าสายราคาแพง ผมเอาข้อมูลมายืนยันแล้ว ว่าสายราคา สามร้อยบาท สามารถรับสัญยาณวีดีโอ 1080p ได้ ( 720p นี่ชิล ๆเลย ) ถ้าท่านซื้อมาเพื่อใช้กับวีดีโอที่ไม่เกิน 1080p สามารถใช้ได้ไม่มีปัญหาด้านคุณภาพ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:31:36

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 16 ตามความเห็นของผม การ test mี่ภาพนิ่งเนี่ยมอง ง่ายสุด เพราะการส่งสัญยาณภาพมันส่งไปซ้ำ ๆ กันตลอดเวลา ที่ผมลอง refresh 60 Hz ถ้ามันเพี้ยนจะเห็นได้ง่ายมาก ที่ว่าดูจอ 43 นิ้วแล้วเพี้ยน กระตุก มันอาจเพี้ยนจาก source ก็ได้ครับ แผ่นสกปรกอ่านไม่ทัน decode เพี้ยน ไรประมาณเนี้ยแล้วมาโทษสาย  อิอิ เรื่องกระตุก ส่วนการ HDMI ไม่น่าจะมีทางกระตุกได้ครับเพราะส่งสัญยาณภาพต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เลย ถ้ากระตุกต้องบังเอิญจริง ๆ ดันรับข้อมูลไม่ได้ pixel แรก จนถึง pixel สุดท้าย พอดี ๆ จึงจะกระตุก ถ้านอกจากนั้นจะเห็นภาพเละ ๆ มั่ว ๆ ครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:38:36

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ผลการทดสอบนี้มีแต่ภาพ ไม่มีเสียง ใช่ป่าวครับ อยากทดสอบเสียงด้วยจัง ว่าสายถูกๆสัก 2-300 บาท มันจะวิ่งได้กี่ Gbps กัน ถ้าได้ถึง v1.3 (340MHz, 10.2Gbps) นี่แจ่มเลยครับ สายแพงๆคงค้อนขวับเลยเชียว อันนี้ได้จาก wikipedia ครับ - v1.0-1.2 จะเป็น 165MHz 4.95Gbps (ภาพ+เสียง) - v1.3 จะเป็น 340MHz 10.2Gbps (ภาพ+เสียง) - Audio สูงสุด 36.86Mbps ทั้ง 1.0,1.2,1.3 <-- ไม่รู้มันคืออะไร เพราะ Dolby TrueHD lossless 24-bit/96 kHz ยังแค่ 18Mbps, DTS++ ก็แค่ 24Mbps เอง เท่าที่หาข้อมูล bandwidth ของเรื่องเสียงนะครับ - Dolby TrueHD lossless 24-bit/96 kHz at 18Mbps - DTS++ at 24Mbps - 7.1 channels of 96/24 PCM at 18.4Mbps (in both Hi-def DVD formats) - HD DVD's two channels of 192/24 PCM at 9.2Mbps - Blu-ray's optional 6-channel uncompressed 192kHz/24-bit PCM at 27.6Mbps แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 15:50:08 แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 15:48:00 จากคุณ : SuperToy_nc เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:38:44

ความคิดเห็นที่ 20 --" จากคุณ : Bad_Maru เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:46:51

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 19 ข้อมูลเสียงมันนิดเดียวเองอะครับ เทียบกับสัญญาณภาพ แล้วความถี่ในการส่งเท่าเดิมเลย ผมไม่มีอุปกรณ์ที่จะลองอะครับ สายที่ผมซื้อมา 300 นี้ก็ได้ถึง 165 Mhz 1.65 Gbps ( 4.95 Gbps ) แล้วนะ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 15:58:21

ความคิดเห็นที่ 22 นักวิจัยตัวจริง จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:09:56

ความคิดเห็นที่ 23 มันเป็นวิธีการขายแบบว่าเอานั่นเอานี่มาทำให้สายดูดีมีราคา ขายให้กับท่านเทพ........หูทิพย์ตาเทพ เหมือนเป็นความสุขทมางใจที่จะซื้อ ยังไงผมก็ยังคิดว่า สัญญาณดิจิตอล มันก็ถ่ายทอดแค่ 0 - 1 สลับกันไป ถ้าสายไม่ดี หรือเสีย นั่นหมายถึงจะไม่ปรากฏภาพเลยแม้แต่น้อยเพราะส่งสัญาณไปหาตัวรับไม่ได้ แต่ถ้าสายสัญญาณแบบอนาลอคแบบเก่า ไม่เถียงครับ คุณภาพมันตามสายนั้นจริง สายHDMI ขอ "โวนี่" สายเส้นเป็นพัน เอาเหอะใครจะซื้อ ผมซื้อที่ขายในโลตัสเส้นร้อยสองร้อยพอละ ดูกับ40" มันก็ชัดเป๊ะ จากคุณ : Air_graphic เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:10:20

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่า ถ้าเอามาใช้กับคอม ไม่น่าจะแตกต่างเท่าไหร่ ต้องลองเอาไปเล่นเกม ps3 xbox360 ไม่ก็หนัง HD อีกที ลืมอีกอย่าง อายุการใช้งานอาจจะแตกต่างกันนะ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 16:24:03 จากคุณ : StreamRider เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:22:26

ความคิดเห็นที่ 25   ผมก็รู้มากกจาก thaidvd นานแล้ว แต่หายคนเค้ายังชเื่อว่าเส้น 3พันมันดีกว่าเส้น300 ที่จริงคุณ ดาวเทียมสปุกนิกน่าจะหายืมสายเส้น3พันมานะครับ จากคุณ : สนุกดี เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:26:36 A:118.173.65.86 X: TicketID:249573

ความคิดเห็นที่ 26 ^ #23 ช่วยไปซื้อสายโวนี่เส้นเป็นพันมาลองให้ดูหน่อยได้มั้ยเอ้ยม่ายช่ายยย... ผมว่าถ้าหูทองตาทิพย์มาบอกว่ามันต่าง เราก็อย่าเพิ่งไปสรุปจากการนิรนัยจากข้อมูลที่เรามีอยู่หรือสามารถหามาได้เลยว่ามันจะต้องไม่ต่างแน่ๆ บางทีมันก็อาจจะมีอะไรแปลกๆที่เราไม่รู้อยู่บ้างทั้งๆที่เราทำงานด้านฮาร์ดแวร์ภาพอ่ะนะคับ ผมว่ามันก็เหมือนกับคนมาบอกว่า "ดาวเสาร์มีวงแหวน" ที่เค้าเห็นมันก็เพราะเค้ามีกล้องฮับเบิลถ้าคุณมีกล้องดูดาวกาลิเลโอคุณก็คงจะบอกเหมือนกาลิเลโอว่าดาวเสาร์เป็นวงรี ดังนั้นผมว่าคงสรุปแบบฟันธงฟันทิ้งอะไรไปเลยไม่ได้มากถ้ายังใช้เครื่องมือวัดคนละตัวกันอยู่น่ะคับ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 16:32:20 จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:31:38

ความคิดเห็นที่ 27 ได้ความรู้อีกเยอะเลย จากคุณ : นาย Online เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 16:43:06

ความคิดเห็นที่ 28 ต่างกันตอนใช้เวลาสายยาวๆด้วยครับ จากคุณ : ท่านโอ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 17:07:25

ความคิดเห็นที่ 29 ควรใช้ จอ 50 นิ้วขึ้นไปในการเทสนะครับ และ จขกท  ทราบได้อย่างไรว่าสีไม่เพี้ยน??  ควรจะมีเครื่องวัดนะครับ สายที่ no name จากจีน มันก็สามารถรองรับ Bandwidth ได้ตามมาตรฐานอยู่แล้วครับ เพราะการจะทำสาย hdmi มาขายนี่ ต้องซื้อ ลิขสิทธิ์ นะครับ และต้องผลิตให้ได้ตามมาตรฐานที่สมาพันธ์เขากำหนดด้วย  และนี่ยังไม่รวมถึง เวอร์ชั่นของสาย ที่มี แบนด์วิธด์ ต่างกันด้วย ดังนั้น ถ้าสายไม่ขาดใน จะถูกหรือแพง มีภาพออกแน่นอนครับ ...การเทสครั้งนี้ผมว่า ยังอ้างอิงอะไรไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณในความขยันครับ หากจะทดสอบจริงๆ ควรใช้สาย ความยาว มากกว่า 20 เมตร มาลองครับ จอ ใหญ่ๆ เทียบดูเลย สายแพงมียี่ห้อ กับสาย no name ทั่วไป และมีเครื่องวัดด้วยจะดีมาก ความแตกต่างของสายแพง อาจจะมาจากหลายๆอย่าง เช่น ชนิดตัวนำ โครงสร้างสาย การชีลด์สาย วัสดุที่ใช้ทำ ค่าการตลาด แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 17:15:35 จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 17:10:27

ความคิดเห็นที่ 30   ผมตาถั่วครับ แยกไม่ออก ใช้สายยี่ห้อโซนั่นยาว 1 เมตร ที่แถมมาฟรี กับ สายโนเนมจีนแดง 2 เมตรราคาเส้นละ 250 ซื้อบ้านหม้อ เอามาดูกับ พลาสม่า 42 นิ้ว แยกไม่ออกครับ แต่ สายโซนั่นยาว 2 เมตร เขาขายเกือบ 2000 !!! จากคุณ : อารยกรรมโซนั่น เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 17:20:27 A:58.64.73.227 X: TicketID:199554

ความคิดเห็นที่ 31 ผมอ่านดูข้อมูลเกี่ยวกับว่าดิจิตอลกับอานาลอกแล้ว  ดิจิตอลมันส่งสัญญานให้เป็นตัวเลขตามคาบเวลา ฉะนั้นผมว่าจะสายอะไรถ้านำไฟได้ผมว่าก็เหมือนๆกันแหละ ปล. ผมโหวตให้นะครับ จะได้เป็นกระทู้ตาสว่างอีกหนึ่งกระทู้ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 19:24:25 จากคุณ : กบินทร์บุรี เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 17:21:06

ความคิดเห็นที่ 32 ในกระทู้นี้ หัวข้อในการทดสอบของผมคือ สาย ราคา 300 บาท สามารถส่งข้อมูลสัญญาณภาพได้ 100 % ซึ่งผมได้ทดลองแล้วสามารถส่งได้ถึง 1080p คือ 1920 x 1080 @ 60 Hz bandwidth  1.65 Gbps / channel รวม 4.95 Gbps ตามมาตรฐาน hdmi 1.0 - 1.2 ตามที่ # 19 บอกมาเป้ะ ๆ ซึ่งถ้าคนที่ศึกษาหาความรู้  และเข้าใจระบบ digital ก็จะเข้าใจได้ว่า ที่ผมทำมานั้น มันยืนยันได้ ว่าสายที่ผมนำมาลองมัน ทำงานได้ถึง 1.65 Ghz ครับ ผมไม่ได้เถียงเลยว่าสายแพง ๆ มันจะไม่ดีกว่า แต่ผมเถียงว่า ที่ ณ ความละเอียดนึง ๆ สายถูก และสายแพง ให้คุณภาพของภาพออกมาเท่ากันคือ 100% ซึงสายที่ผมมาลองก็ได้ถึง 1080p   อาสายเส้นละ 3 พันมาใช้ที่ความละเอียดนี้มันก็ ไม่ได้ภาพดีขึ้นมาหรอกครับ แต่ที่ความละเอียดมากกว่านี้ สาย 300 บาทอาจใช้ไม่ได้ครับ เพราะ bandwidth มันไม่พอ ผมสามารถเขียนโปรแกรมบอร์ดข้างล่างนี้ ให้ส่งสัญยาณภาพออกมาเป็น pattern ที่แน่นอน ออกทาง port DVI ด้านบน และรับกลับ เข้าทาง port DVI ด้านขวา เพื่อกลับมา check ข้อมูล ว่ามันกลับมาเป็น pattern เดิมหรือเปล่า !! และเพิ่ม speed การส่งไปเรื่อย ๆ จนมัน bit error เยอะ ๆ  เพื่อหา bandwidth ของสายนั้น ๆ ถ้าผมว่างจะเขียนโปรแกรมมาลองให้ดูกันนะครับ แต่หลาย ๆ ท่านจะยอมเปิดใจเชื่อผมหรือเปล่าละครับ หรือต้องไปลองกับ LCD sony 50 นิ้ว เครืองเล่น blu-ray จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 17:30:59

ความคิดเห็นที่ 33 #32 มาเชียร์ครับ บางคนตังค์ก็ไม่ช่้วยออกซักบาท ขอนั่นขอนี่ไปเรื่อย -__-" ถ้าสายที่ทดสอบ ส่งข้อมูลที่ป้อนออกไปได้ตรงกับความเป็นจริงทุกประการแล้วท่าน บอกว่าภาพเพี้ยนอีก ก็ต้องโทษเครื่องแล้วล่ะครับ หรือว่าเสียบสายแพงๆแล้วทำให้ เครื่องขยันขึ้นได้หว่า ? จริงๆผมไม่ข้องใจอะไรทั้งนั้นครับ ได้ข้อสรุปไปนานแล้ว แต่ก็เชื่อว่าการทดลอง แบบนี้จะทำให้มีคนตาสว่างขึ้นอีกเพียบ (ส่วนที่เหลือก็คงเกินแก้แล้วล่ะครับ) จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 17:48:16

ความคิดเห็นที่ 34 #32 ป่าวหรอกคับผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องเทียบกับ lcd 50 นิ้วกับเครื่องเล่นบลูเรย์+ps3 การทดสอบแบบนี้มันก็เป็นวิทยาศาสตร์ดีมีข้อมูลที่มาหลักฐานแน่ชัดใช้อ้างอิงได้ แต่ก็อยากจะบอกว่าจะดูแต่ข้อมูลหลักฐานฝั่งเราฝั่งเดียวแล้วไม่สนใจข้อมูลฝั่งเค้า แล้วก็มาสรุปว่าฝั่งเค้าผิดจากข้อมูลฝั่งเราฝั่งเดียวมันก็ออกจะเข้าข้างตัวเองไปหน่อยน่ะคับ... จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:10:09

ความคิดเห็นที่ 35   เอ้า สบายใจกันแล้วนะ ก็ดูสายเส้นละ300กันต่อไป สำหรับผมก็ดูเส้นละ 3000 ต่อไปเหมือนกัน เพราะตาผมแยกออก สายดีสายห่วย จากคุณ : mon เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:26:35 A:58.64.82.149 X: TicketID:111025

ความคิดเห็นที่ 36 คือกระผมไม่มีปัญญาซื้อ TV 50นิ้ว Full HD หรอกครับ และไม่มีความจำเป็นอะไรมากถึงขั้นต้องซื้อสายยาว20เมตร เพื่ออะไรครับ TV กับเครื่องเล่น มันก็วางข้างกันนั่นแหละ ซึ่งภาพและสี มันก็ออกมาชัด ผมถึงบอกไงว่ามันมันเป็นการทำตลาดเพื่อความสบายใจและพอใจของคนมีตังค์จะซื้อ ส่วนผมผู้มีรายได้น้อยก็ซื้อตามราคาเหมาะสมในตลาดและตัวเอง คุณภาพไม่ทำตาบอดokละครับ ปล.ผมเคยส่อง Telescope ตัวใหญ่ๆ มองเห็นวงแหวนดาวเสาร์และดาวบริวารครับ ไม่ได้เห็นเป็นวงรี แต่จะไม่แยกริ้วสีวงแหวน จากคุณ : Air_graphic เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:47:13

ความคิดเห็นที่ 37 #32 น่าสนใจครับ จะรอดูผลนะครับ ผมก็อยากได้ข้อสรุปชัดๆ เหมือนกัน จากคุณ : LunaticNeko เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 18:59:14

ความคิดเห็นที่ 38 http://www.popularmechanics.com/technology/upgrade/4235717.html จากคุณ : underground1 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 19:44:17

ความคิดเห็นที่ 39 บางเรื่องจริงๆ ก็เป็นไสยศาสตร์นะครับ   เรื่องนี้พวกเซียนจะมองแบบว่ามันต่าง เค้ารับรู้ได้ แต่เค้ารับรู้ด้วยความรู้สึก แต่ของแบบนี้ถ้าสามารถวัดให้ออกมาเป็นค่าตัวเลขเปรียบเทียบกันได้ก็จะเป็นข้อมูลที่เอามาโต้แย้งพวกเซียนได้ดีครับ ปล พวกเซียนจริงก็มีนะครับ แต่เซียนเก๊ก็เยอะ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 19:45:57

ความคิดเห็นที่ 40   > เอ้า สบายใจกันแล้วนะ ก็ดูสายเส้นละ300กันต่อไป > > สำหรับผมก็ดูเส้นละ 3000 ต่อไปเหมือนกัน เพราะตาผมแยกออก สายดีสายห่วย แน่ใจหรือเปล่าครับว่าดูออก double blind test หรือ ABX หรือเปล่า ของถามแบบหว้ากอหน่อย บางคนคิดว่ามองเห็น เพราะลองเอง เสียบสายเอง ในใจรู้อยู่ว่าสายดีกว่า ก็เลยคิดว่าดีกว่า ถ้าจะให้แน่ๆต้องไม่รู้ว่าตัวเองกำลังดูสายเส้นไหนอยู่ ไม่อย่างนั้น อาจจะ bias ได้ครับ สำหรับผมแล้ว สาย HDMI เส้นที่ทำดีๆขั้วต่อสวยๆทองๆ สายหนาๆหน่อยก็ใช้ได้แล้วครับ เช่นเดียวกับสาย digital coax ถ้าจะให้เสียเงินกับอะไร สายสัญญาณ analog (โดยเฉพาะสาย preamp) กับ สายลำโพง เป็นอะไรที่น่าลงทุนกว่ามากๆครับ พวกสาย HDMI แพงๆ มันเหมือนกับบอกว่า ซื้อสาย CAT5 แพงๆแล้ว transfer data จะดีกว่า jitter น้อยกว่า transfer file เร็วกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 19:59:09 จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 19:56:29

ความคิดเห็นที่ 41 ที่ว่าสีเพี้ยนนี่ไม่เกี่ยวสุดๆเลยครับ สีมันจะเพี้ยนได้ยังไง มันส่งมาเป็น 0 กับ 1 นะครับ จากคุณ : MamuangKus เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 19:56:55

ความคิดเห็นที่ 42 พวกคนขายสายยี่ห้อดัง คงยากที่จะยอมรับข้อเท็จจริงพวกนี้ เพราะมันเกี่ยวกับผลประโยชน์ของพวกเขา  เดี๋ยวหลอกขายสายdigital แพงไม่ได้สิครับ เห็นชอบโปรโมทในเวบบอร์ดกันจัง อวยกันเองก็บ่อย สาย HDMI ราคาสามพันเทพๆ สีอิ่ม หรือจัดจ้านนี่แหละ เหอๆ ยิ่งพวกอ้าง ต้องทดสอบกับจอใหญ่ๆ หรือ BD  แพงๆถึงจะเชื่อนี่แต่ละคนเคยลองจริงๆหรือเปล่า? แค่ digital protocol ทั่วไปยังไม่รู้ แต่ชอบอ้างจังของแพงๆที่ตัวเองไม่เคยเข้าใจว่ามันทำงานยังไำง อ้างแต่หลักการที่ฟังต่อๆกันมาชนิดคนเรียนวิชาดิจิตอลในการเรียนวิศวกรรมแท้ๆยังงง ถ้ามีที่บ้านเองจริงๆ ก็ช่วยถ่ายมาให้ดูเทียบกันหน่อยระหว่างสายแพงกับสายถูก ใช้กล้อง digital ธรรมดาถ่ายนี่แหละ ปรับความไวชัตเตอร์เท่ากัน รูรับแสงเท่ากัน WB เท่ากันถ่ายจากขาตั้งกล้อง มันก็คงพอเห็นความแตกต่างได้บ้าง หากมันต่างกันจริงๆนะ   ไม่ต้องพูดถึงเครื่องเล่น BD ที่มีคนใช้ไม่มากหรอก เอาแค่VGA card ของ PC นี่แหละครับ ส่งสัญญาณละเอียดสูงกว่าจอทีวีเทพๆเสียอีก 1920*1200(มากกว่า 1080p) สองจอต่อแบบ extend desktop สายห่วยๆราคาสามร้อยยังทำได้ แล้วจะไปซื้อสายแพงๆทำไม? Dolby-TrueHD หรือ DTS-HD มีสักกี่คนที่เล่นจนต้องหาสาย 1.3 เทพๆมาใช้? (จริงๆสายจีนทั่วไปราคากลางๆมันก็ 1.3ได้หมดแล้ว) อ้อบางคนอ้าง PS3 xbox360 บอกเลยนะครับว่าเครื่องเล่นพวกนี้ส่งสัญญาณภาพแค่ 720p เท่านั้นแหละ เกมเดียวกันเล่นใน PC spec เทพปรับสุด PC ภาพสวยกว่าเยอะครับ ทีเรื่อง GT200/NF ฟ้าดเตอร์ ยังเรียกร้องให้ทดสอบ แต่กับเครื่องที่ตั้งในบ้านตัวเอง กล้าทดสอบอย่างรัดกุมบ้างไหม? ถ้าไม่มั่นใจ อยากจะใช้ความเชื่อกันต่อไป ก็อย่าได้มาแย้งในกระทู้วิทยาศาสตร์กันเลยครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:28:09

ความคิดเห็นที่ 43   บางท่านก็แปลกนะ คนแยกออกว่าสายดีสายห่วยก็ไม่เชื่อกัน ข้อมูลมัน 0 กับ 1 ก็จริง แต่รูปร่างสัญญาณต้นทางกับปลายทางมันก็อาจไม่เหมือนกัน เพราะวงจรแฝง(RLC)ที่อยู่ในสาย มันอาจทำให้รูปสัญญาณสี่เหลี่ยมสวยๆเปลี่ยนไป ค่า 0 อาจถูกอ่านเป็น 1 ได้ ถ้าความผิดพลาดมันไม่มากจนเกิดบล๊อค มันก็ทำให้การไล่สีหรือแสงไม่สมูท ภาพมันก็ออกมาแข็งหรือแบนๆหม่นๆได้ การรับส่งข้อมูลมหาศาลขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะถูกต้อง 100%หรอก ยิ่งพวกสายที่ใช้วัสดุไม่ดี ความต้านทานไม่แม็ทกัน พวกค่าต่างๆของสายไม่พอดีข้อมูลปลายทางมันก็เพี้ยนได้เยอะ เพราะพวกนี้ส่งแล้วส่งเลยไม่มีการมาขอส่งใหม่ จากคุณ : mon เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:28:48 A:58.64.82.149 X: TicketID:111025

ความคิดเห็นที่ 44   สัญญาณ Digital  ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ เรื่องความคมชัด   ถ้าเป็นสัญญาณ Analog นี่   อย่างสาย VGA ขนาด 10 เมตร   เส้นละ 100-300 กับเส้นละ 1000   ต่างกันลิบลับ จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:40:33

ความคิดเห็นที่ 45 แจ่มครับ แต่พอให้ซื้อ ก็ซื้อของแพงทู๊กกกที จากคุณ : NightWolf เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:41:44

ความคิดเห็นที่ 46 #43 เอ่อ การวัดข้อมูลทางดิจิตอล เครื่องมือวิทย์มีมากมาย ไม่นำมาใช้ตรวจวัดล่ะครับ สายตาดีสายตาห่วย ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณไม่ได้โม้เพื่อหลอกขายสายแพงๆ? หลักวิชาการ กับความเชื่อทางไสยศาสตร์ คงมาตอบในกระทู้เดียวกันไม่ได้นะครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 20:44:39

ความคิดเห็นที่ 47 ใช้อะไรก็ใช้ไปอย่างพอเพียงเถิด มีกะตังค์พอซื้อเส้นละ 300  ใช้ได้ซื้อไป ถ้ามีกะตังค์ซื้อเส้นละ 3000 แล้วตัวเอง ลูกเมีย เดือดร้อน ไม่มีกะตังค์กินข้าว อย่าซื้อ จากคุณ : สายน้ำตะวันออก เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:02:15

ความคิดเห็นที่ 48 คนที่บอกว่าแยกความอิ่มสีที่ต่างกันของสาย HDMI น่ะไม่ต้องไป Blind TEST หรอก เอาแค่ตอบคำถามให้ได้ทุก 10 วันว่าหลอดไฟ 36W ที่อยู่บนเพดานบ้านน่ะ วันนี้ให้แสงต่างไปอย่างไรให้ไ้ด้ก่อนแล้วค่อยมาคุยว่าแยกความแตกต่างออก สัญญาณมันแบ่งได้ 5000-20000 ระดับตามค่า Contrass ของจออยู่แล้ว ถ้ามองออกจริงจะต้องแยกความแตกต่างของไฟที่เสือมลงทีละน้อยจนมืดลง 50% ใน 2000 ชั่วโมงได้อยู่แล้ว ถ้าทำไม่ได้อย่ามาคุยเลย แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 21:07:31 จากคุณ : แม่น้องเกมส์ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:07:12

ความคิดเห็นที่ 49 เอ่อสงสัยอย่างนึงครับ ถ้าจอ 21" resolution 1920x1200 สีไม่เพี้ยน แต่พอทดสอบจอ 50" resolution 1920x1200 แล้วสีเพี้ยน จอหรือหรือสายที่ห่วยครับ ? ในเมื่อสายมันก็ส่งข้อมูลจำนวนเท่าเดิม resolution ก็ไม่ต่างกัน จากคุณ : noraneko เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:19:36

ความคิดเห็นที่ 50 ทำไมข้อมูลดิจิตอล กับ USB HUB มันถึงต่างกันเหรอครับ ผมใช้ USB HUB ของถูก ถ้าใช้กับเม้าส์ คียบอร์ด ไม่แตกต่าง แต่พอเอามาใช้ส่งสัญญาณจาก MODEM ที่ถ้าสัญญาณหายไปนิดนึงหลุดเลย ปรากฏว่าสัญญาณมาไม่ต่อเนื่อง ขาดๆหายๆ แต่อีกตัวนึงยี่ห้อดังกลับมาต่อเนื่องเหมือนเสียบเข้า PC โดยตรง ที่ผมซื้อของถูกๆมาลอง เพราะเข้าใจว่ามันน่าจะเหมือนกัน ส่วนเรื่องสาย HDMI ผมไม่ได้ใช้แฮะ มีจอ HD แต่ไ่มมีเครื่องเล่น เพื่อนบอกว่าสายถูกจะเห็นผลต่างเมื่อใช้สายขนาดยาวๆครับ เช่น ความยาวสัก 10 เมตร จะเริ่มเห็นความแตกต่างกับสายแพงๆ อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจริงไหมนะครับ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 21:29:28 แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 53 21:28:57 จากคุณ : moonoiz เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:26:45

ความคิดเห็นที่ 51 มีภาพออกมาให้ดูก็เอาแล้วมั้ง  ยังดูทีวี 21 นิ้วจอโค้งอยู่เลยครับ จากคุณ : bermAggie เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 21:55:18

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องที่ผมโพสใว้ใน คห 32. ทำไปก็ได้แค่ 165 Mhz / 1.65Ghz / 4.95 Ghz  เท่าที่ผมลองไปด้านบน max 1080p @ 60 Hz อยู่ดี เพราะว่าตัว chip ที่อยู่บนบอร์ดมันทำได้เท่านั้น ตาม datasheet ที่เห็นข้างล่างครับ ผม จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:03:14

ความคิดเห็นที่ 53 ลองหาข้อมูลดูแล้ว ยังไม่มี IC ตัวส่ง ที่ส่งได้สูงกว่า 1080p เลยครับ มีส่งได้มากกว่า 165Mhz ก็ขึ้นไปเป็น 225Mhz แต่ก็ยัง support แค่ 1080p อยู่ดี ผมดูหลาย ๆ ยี่ห้อแล้วเหมือนกันหมด ยังไม่มีเจ้าใหนทำได้ 340 Mhz ตามมาตรฐาน HDMI 1.4 เลยครับ ยกตัวอย่างของ ANALOG DEVICES มาให้ดูครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:09:09

ความคิดเห็นที่ 54 ความคิดเห็นที่ 50 ถูกครับ ต้องสายยาว ๆ ถึงเห็นผล เดี๋ยวผมจะลองซื้อสายยาว ๆ made in chaina ถูก ๆ มาลองดูครับ ว่ามันจะวิ่งได้ถึง 1.65 Ghz หรือเปล่า จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:11:11

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท ทำงานอยูที่บริษัทไหนหว่า ใช้ VP-729 ด้วย ^^ จากคุณ : Sim Lim เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:13:24

ความคิดเห็นที่ 56 ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อก่อน Harddisk ใช้ interfacr แบบ ATA ก่อนจะมาใช้ SATA ATA(IDE)  ไม่มี checksum ไม่มีการทวนสัญญาณ เพราะเขาออกแบบมาให้มันส่งได้ 100% ครับ มันยังส่งข้อมูลได้มหาศาลโดยไม่ผิดเลยครับ แล้วทำไม HDMI จะทำไม่ได้ละครับ ประเด็นนี้ผมพูด ถึงการส่งข้อมูล digital มหาศาล ได้ถูกต้อง 100% โดยไม่มีการ checksum  ว่ามันสามารถทำได้แน่นอนครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:26:27

ความคิดเห็นที่ 57 ความคิดเห็นที่ 43   [แจ้งลบ]   บางท่านก็แปลกนะ คนแยกออกว่าสายดีสายห่วยก็ไม่เชื่อกัน ## อันนี้พูดยากครับ ข้อมูล มัน 0 กับ 1 ก็จริง แต่รูปร่างสัญญาณต้นทางกับปลายทางมันก็อาจไม่เหมือนกัน เพราะวงจรแฝง(RLC)ที่อยู่ในสาย มันอาจทำให้รูปสัญญาณสี่เหลี่ยมสวยๆเปลี่ยนไป ค่า 0 อาจถูกอ่านเป็น 1 ได้ ## แน่นอนครับ สัญญานดิจิตอลเองก็มีการผิดรูปได้ เลยต้องมีกระบวญการปรับปรุงสัญญานให้กลับมาเป็นเหลี่ยมสวยเหมือนเดิมไงครับ ถ้าความผิดพลาดมันไม่มากจนเกิดบล๊อค มันก็ทำให้การไล่สีหรือแสงไม่สมูท ภาพมันก็ออกมาแข็งหรือแบนๆหม่นๆได้ ## ถ้าไม่ผิดพลาดก็คือไม่ผิดพลาดครับ ถ้าผิดพลาด ผลก็ออกมาเป็นบล๊อคหรือภาพเสียไปเลย สัญญานในทางดิจิตอล ไม่มีการลดคุณภาพ แบบแสงลดลง คอนทราตลดลง หรือสีเพี่ยนนิดหน่อยหรอกครับ ถ้าให้เปรียบเทียบสองระบบนี้ให้ชัดเจนก็ดูที่การบันทึกเสียงด้วย เทปและ CD ครับ เทปในระบบอนาล๊อคนั้นพอมีการเสื่อม ก็มีอาการยืด เสียงไม่สดใส หรือลดคุณภาพลง แต่ถ้า CD มีปัญหารการเสื่อมอ่านค่าไม่ได้ จะเป็นเสียง จี๊ดๆ หรือสะดุดฟังไม่รู้เรื่องเลย ในระบบภาพก็เช่นเดียวกัน การ รับส่งข้อมูลมหาศาลขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะถูกต้อง 100%หรอก ยิ่งพวกสายที่ใช้วัสดุไม่ดี ความต้านทานไม่แม็ทกัน พวกค่าต่างๆของสายไม่พอดีข้อมูลปลายทางมันก็เพี้ยนได้เยอะ เพราะพวกนี้ส่งแล้วส่งเลยไม่มีการมาขอส่งใหม่ ##ครับ ผิดพลาดแล้วก็มีปัญหา แบบในคำถามข้างต้น สายสัญญานราคาแพง ย่อมจะมีผลดีกว่า ในกรณีที่สัญญานแบนวิตเยอะมากๆ ที่สายความยาวมากๆ แต่ถ้าที่ความยามไม่มาก ภาพที่ออกมาก็ไม่มีความต่าง แต่เรื่องความทนทานของสายนั้นก็ต่างแน่ๆ แนะนำให้ใช้สายที่คุณภาพดีระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้ความทนทาน ไม่ขาดใน หรือขึ้นสนิมง่าย แต่ก็ไม่ต้องใช้สายแพงเวอรหรอกครับ จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:30:41

ความคิดเห็นที่ 58   #46 ผมก็อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วนาว่าถึงสายจะนำสัญญาณได้ แต่ตัวข้อมูลที่ผ่านไปถึงปลายทางมันก็ผิดเพี้ยนหรือเปล่า สำหรับผม ผมดูออก คนที่ดูไม่ออกก็ถือว่าโชคดีไม่ต้องหาสายแพงๆมาใช้ จะลองวัดก็ดี ต้นทาง-ปลายทาง ดูว่าสัญญาณที่ออกมามันเพี้ยนไปจนน่าจะทำให้การอ่านค่าผิดพลาดได้หรือเปล่า จากคุณ : mon เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:31:24 A:58.64.83.216 X: TicketID:111025

ความคิดเห็นที่ 59   สายน่ะมันแสดงผลตามปกติล่ะน่ะ มีแค่ 3 อย่าง 0,1,error สี่จะเพี้ยนหรืออิ่มอยู่ที่ output และการ set up ป.ล ผมใช้ hdmi สายละ 250 ล่ะ มอนิเตอร์ใข้ LG LCDTV LU50 20กว่า ๆ นิ้ว... จากคุณ : devil amature2 (devil amature2) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:49:47

ความคิดเห็นที่ 60 #58 งั้นวิทยาศาสตร์อีกหน่อยสิครับ ว่าทำไมมันถึงเจาะจงเพี้ยนเฉพาะ Bit ต่ำๆ ทำไมไม่ไปเพี้ยนใกล้ๆ MSB บ้างล่ะ ? หรือว่า HDMI ที่คุณใช้ส่ง Bit สำคัญๆด้วย แรงดันสูงกว่า Bit ต่ำๆ ? แปลกนะครับ.... จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 22:52:05

ความคิดเห็นที่ 61   ความยาวสายน่ะมีผลแน่ๆอยู่แล้ว อันนี้มันเป็นเรื่องคุณภาพวัสดุ สายดีๆที่มีมาตรฐานการผลิตสูงกว่าวัสดุดีกว่าย่อมส่งข้อมูลระยะไกลๆได้ดีกว่า แต่ถ้ามันเพี้ยน มันก็จะเพี้ยนแบบที่จขกท.ว่ามานั่นแหละคือภาพเสียไปเลย ไม่ใช่สีหม่น สีอิ่ม สัญญาณ Digital มีแค่ 0..1 นะครับ ไม่ใช่ 0 กว่าๆหรือ 1 เศษๆเผื่อเอาไว้ แต่เรื่องที่ตลกกว่านั้นคือในระยะทางที่สายถูกๆกับสายแพงๆสามารถส่งข้อมูลได้สมบูรณ์เหมือนกันอย่างที่จขกท.ยกมา กลับมีพวกตาทิพย์บอกว่ามันต่างกันเฉยเลยแฮะ และพวกตาทิพย์ที่ว่าเนี่ยหลายๆคนก็ซื้อสายแพงๆมาโยงสายระหว่างเครื่องเล่นที่วางอยู่ในชั้นวางทีวีข้างใต้ทีวีเท่านั้นเอง แล้วก็มาอวดว่า "มันเทพกว่านะเว้ยยยย" จากคุณ : VeryBadman...Begins (คามิยามะมาเยือน!!!) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 23:02:52

ความคิดเห็นที่ 62 #50 ข้อมูลข้างบนๆ เขาก็บอกอยู่แล้วว่าถ้าสายยาวเกินมาตรฐานปกติ มันก็ต้องใช้สายคุณภาพดีๆไม่งั้นสัญญาณมันส่งไม่ถึง ย้ำคำว่ามาตรฐานครับ แต่ถ้าอยู่ในมาตรฐาน สายถูกหรือแพงก็ให้ผลลัพธ์(ภาพ) ไม่ต่างกันแน่นอน ถ้าคุณใช้สายแค่ 1.8 เมตร คุณจะไปซื้อสายเทพยาว 10 เมตรมาใช้ทำไมล่ะครับ การเปรียบเทียบต้องเลือกจุดประสงค์ให้ถูกด้วย จะใช้สายแพงในเฉพาะกรณีที่จำเป็น ก็ไม่มีแย้งหรอกครับ ส่วนUSB hub ถ้าห่วยไปมันก็เป็นแบบนั้นแหละครับ ส่งสัญญาณไม่ถึงก็ติดๆดับๆไปเลย ไม่มีหรอก สายห่วยแล้วทำให้โหลดเวบผิด จากเวบวิชาการ กลายเป็นเวบโป๊ไปได้ หรือโหลดมิยาบิกลายเป็น trap อันนี้คงไม่ใช่แล้วล่ะ จริงๆเคสการส่งข้อมูลคอมฯ เอามาเทียบกับการส่งแบบ streaming ของ HDMI ไม่ได้ เพราะ algorithm  ในการตรวจสอบข้อมูลและ error correction แตกต่างกัน ยกตัวอย่างมาเดี๋ยวจะเข้าใจไปคนละประเด็นได้ครับ #58 ปัญหาคือ คุณคิดเอาเองว่า ข้อมูลที่ผิดเพี้ยนทำให้สีสดแตกต่างกัน  ซึ่งมันไม่ใช่ในระบบการส่งภาพแบบ digital น่้ะสิครับ เอะอะก็อ้างว่าดูออก ผมสงสัยซะแล้วสิว่าคุณตาบอดสีอ่อนๆหรือเปล่า ถึงเห็นไม่เหมือนชาวบ้านและเครื่องมือวัด -_-" จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 23:10:57

ความคิดเห็นที่ 63 #60 จิงๆถึงบิตจะเพี้ยนแถวๆ MSB มันก็ไม่ได้เปลี่ยนสีไปคนละโลกขนาดสีแดงเป็นสีเขียวได้หรอกนะคับตามรูปข้างล่าง... -_-" #57 คงจะเข้าใจผิดแล้วนะคับ จากที่คุณ สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ อธิบายไว้ในกระทู้ข้างล่างนี้บอกว่าไฟล์ภาพจะถูกส่งมาเป็นข้อมูลทีละพิกเซลเรียงกันไม่มีการบีบอัด เมื่อจอไม่ต้องถอดรหัสภาพถ้าภาพเสียมันก็จะไม่เป็นบล๊อกเพราะถอดรหัสไม่ได้น่ะคับ ส่วนถ้าสัญญาณหายไปบางช่วงนี่จะเป็นบล๊อกหรือป่าวก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้ารับข้อมูลมาเพี้ยนประมาณระดับบิต สีก็จะเพี้ยน+มี noise ได้ตามรูปข้างล่างคับ (เพราะส่งข้อมูลสีมาเป็นพิกเซลเรียงกัน ถ้าบิตเพี้ยนก็คือสีเพี้ยนไป 1 พิกเซลแค่นั้นเองคับ) ปล. #58 เค้าก็บอกว่าจะให้วัดดูแล้วนิคับ ผมว่าไปลองดูจะได้เป็นการเปิดโลกทัศน์ทั้งสองฝ่่ายก็ออกจะดีนะคับ จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 23:44:55

ความคิดเห็นที่ 64   ขอแจมอีกนิด > บางท่านก็แปลกนะ คนแยกออกว่าสายดีสายห่วยก็ไม่เชื่อกัน ไม่เคยบอกว่าไม่เชื่อครับ ถามแค่ว่าตอนบอกว่าดูออก ABX หรือเปล่า หรือว่าเสียบสายเองดูเอง ระวังมันจะ bias ครับ ในทางทฤษฏีแล้ว (ขออนุญาตลบที่คุณเขียนไว้นะครับ ไม่อยาก quote) เพราะว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ครับว่าจะเห็นสีเพี้ยน เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง ใน HDMI link สามารถส่งข้อมูลได้ 3 ชนิดคือ video pixel, packet (เสียง, etc) และ control data ทั้งหมดนี้ถูกส่งอยู่ในสายเส้นเดียวกัน link เดียวกัน ต่างกันที่ leading guard band และ trailing guard band ซึ่งจะเป็น header ของ stream ข้อมูลตัวบอกว่าตอนนี้กำลังส่งข้อมูลชนิดใดอยู่ อ่านอีกทีนะครับว่ามาใน pin เดียวกันเลย ไม่ใช่แยกเส้นกันมา พูดง่ายๆว่าส่งข้อมูลภาพสลับกับเสียงสลับกับ control ในข้อมูลชุดเดียวกัน ถ้าคุณเห็นสีเพี้ยนได้ไอ้ noise ที่คุณว่าเปลี่ยน 0 เป็น 1 ได้ แปลว่าอะไร แปลว่า noise นี้ต้องไปรบกวนตอนที่ HDMI encoder กำลังส่ง video pixel พอดี มิหนำซ้ำยังโดนตรงใกล้ๆ LSB (บิตต่ำๆ) ด้วยทำให้ไล่สีไม่สวย (เช่นจาก R=0 "00000000" กลายเป็น R=2 "00000010")ถ้า error ที่คุณว่านี่ไปโดนตรงบิตสูงๆ มันทำให้ค่าเปลี่ยนจาก R=0 ไปเป็น R=128 "10000000" ได้สบายๆ คือจากไม่แดงเป็นโคตรแดงว่างั้นเหอะ ลองคิดดูนะครับว่าถ้า magic noise อันนี้ไปโดนตรง bit pattern ที่เป็นของ leading guard band ที่บอกว่าข้อมูลต่อไปนี้เป็น video pixel นะ กรณีนี้ทำให้ภาพภายไปได้เลยครับ หรือว่าไปโดนตรงเสียงพอดี มันก็จะอาจจะทำให้เสียงหายไปเลยครับ สรุปก็คือว่าสายที่ห่วยๆไม่ได้มาตรฐาน หรือชำรุดจะเห็นภาพเละอย่างชัดเจนครับ สีจะผิดเพี้ยนอย่างมาก สัญญาณเสียงอาจจะขาดๆหายๆ หรือแม้แต่ภาพกระตุกๆ (ภาพหายทั้งเฟรม) ซึ่งเป็นเพราะอย่างที่ผมบอกครับว่า noise มันรบกวนตรงไหนของสัญญาณก็ได้ ไม่มีโอกาสที่จะเจอแค่สีเพี้ยนโทนสีไม่สวยเลยครับ ทั้งหมดที่พูดมานี้มันติดอยู่แค่ว่าครับ เจ้าของเงินถูกเสมอ ผมเคยพยายามอธิบายกับเพื่อนๆหลายคนว่าอย่าเปลืองตังค์เลย ในที่สุดได้ข้อสรุปว่า คนซื้อเครื่องเขารู้ราคาสายที่เสียบอยู่ครับ ถ้ามันถูกๆในใจก็จะคิดแต่ว่าตอนนี้ใช้สายห่วยๆไปก่อนนะ ถึงเวลามีตังค์จะซื้อสายใหม่ดีๆมาเสียบแทน ภาพจะได้ชัด ตราบใดที่ยังไม่ได้ซื้อก็จะคันมืออยู่อย่างนั้นแหละครับ ย้ำคิดย้ำทำอยู่ว่าภาพไม่สวยสีไม่สวยเพราะว่าสายไม่ดี ผมเคยคุยกับเพื่อนๆไว้หลายปีที่แล้วว่า สักวันนึงพวก entertainment ภายในบ้าน (หนัง, เพลงหรือเกมส์) จะถูกเก็บไว้ใน server กลางในบ้าน แล้วสามารถ stream ผ่าน wifi ไปยังห้องต่างๆภายในบ้าน ถึงวันนั้นพวกบริษัทผลิตสายคง invent อากาศบรรจุถัง หรือไม่ก็เครื่องฟอกอากาศ หรือไม่ก็เครื่องลบสนามแม่เหล็ก ที่ทำให้ข้อมูล wifi ผ่านได้ดีกว่าบ้านธรรมดาๆในปัจจุบันมาขายในราคาแพงลิบลิ่ว ถึงวันนั้นเชื่อได้ว่าก็ยังมีคนซื้อและเชื่อว่าทำให้ภาพสวยขึ้นด้วย จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:10:42

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ ^ เห็นอ้างความรู้ดิจิตอลจัง   สายสัญญาณถูกๆ ไม่มีทางที่จะมีประสิทธิภาพ เท่า สายแพงๆได้ แต่จะแตกต่างกัน ขนาดไหน แยกออกได้หรือไม่ ก็แล้วแต่ ความหู ตา ลิ้นถึงของแต่ละคน สายแต่ละยี่ห้อ รุ่น ทำมาจากวัสดุต่างกัน การshield การควบคุมการผลิต คุณภาพพนักงาน จะอ้างงูๆปลา 0 มืด 1 สว่างไม่ได้ มันมีbit error detect ครับ ก็แล้วแต่จะออกแบบกันไป ดังนั้น อย่าลืมเรื่อง Loss เพราะงั้น  เอาง่ายๆ โลหะ ที่นำไฟดีๆเช่น เงิน ทองแดง หาไม่ได้หรอกในสาย300  สมมุติ สายLossต่างกัน 5% เท่ากับ trafic หายไป-กลับ มากกว่า10%อีก(ทำไม?ยาว ขี้เกียจพิมพ์) สัญญาน ก็delayไม่ก็ ถูก simulateขั้นมาเลย  ซึ้งจะมีผลมากน้อยแค่ไหน กระทบการแสดงผลขนาดหรือไม่ แล่้วแต่ จากคุณ : Roninkung เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:12:30

ความคิดเห็นที่ 66   #58 รูปคลื่นสัญญาณปลายทางผิดเพี้ยนแน่นอนครับ ไม่ว่าสายจะราคาสักเท่าใดก็ตาม ความผิดเพี้ยนจะเป็นลิมิทเข้าใกล้ 0 แต่ไม่ใช่ 0 แน่นอน ..แต่ ในแง่ของความหมายของ ความหมายของสัญญาณความผิดเพี้ยน สามารถทำให้เป็น 0 ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Protocal ที่ใช่ส่งและรับสัญญาณ การแสดงผลของจอภาพที่ใช้สัญญาณ Digital ถ้าสายดี รูปคลื่นสัญญาณสวยแทบไม่ผิดเพี้ยน ภาพจะออกมาถูกต้อง แต่ถ้าสายไม่ดี รูปคลื่นสัญญาณผิดเพี้ยน โดยไม่ได้เพี้ยนไปจนผิดความหมาย ภาพก็จะออกมาถูกต้อง(ย้ำว่า ถูกต้อง) เช่นเดียวกันครับ ถ้าภาพมันเพี้ยน แสดงว่าเป็นปัญหาที่จอภาพ ไม่ใช่สายนำสัญญาณ จากคุณ : Aoitori เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:20:52

ความคิดเห็นที่ 67   > เดี๋ยวผมจะลองซื้อสายยาว ๆ made in chaina ถูก ๆ มาลองดูครับ อย่างที่ผมอธิบายข้างบน ถ้ามันใช้ได้ก็ใช้ได้ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนครับ คือจะเห็นเป็นแถบสีเพี้ยนๆเยอะแยะ หรือไม่ก็ภาพกระตุก ถ้าเป็นน้อยๆหน่อยก็เห็นเป็นภาพคล้ายๆ dead pixel เลอะๆ  ไม่มีกรณีว่าสายเส้นนี้สีสวยกว่าอีกเส้นนึงหรอกครับ ขอแซวแถมนิด อย่าให้ผมเริ่มเรื่อง สาย AC ที่เส้นละหลายบาท ทำให้ไฟ 220v นิ่งขึ้น ทั้งๆที่การไฟฟ้า,โครงการหมู่บ้าน เอาสายไฟอะไรก็ไม่รู้ ยาซากิก็ไม่ใช่ มาเดินจนถึงบ้านคุณหลายร้อยกิโล แต่แค่ลงทุนไม่กี่พันบาทซื้อสาย AC แบบ hifi ยาวเมตรกว่าๆทำใ้ห้เสียงดีขึ้นได้ ตะลึง!! แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 01:00:10 แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 00:33:34 จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:22:58

ความคิดเห็นที่ 68   ขอตาถั่วอีกคนกับการใช้สายราคาถูกยาวแค่เมตรจิ๊ด พอเพียงคับพอเพียง.. จากคุณ : ของถูกใช่ดีของดีใยต้องแพงเสมอ (gigaheart) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:27:25

ความคิดเห็นที่ 69 #63 ลองมอง 000000 สิครับ ถ้า Channel แรกเป็น 80 ก็กลายเป็นสีแดงเข้ม โผล่มา ใน Background สีดำ.... หรือมอง FFFFFF ในทำนองเดียวกัน ถ้า Channel แรกเป็น 80 ก็จะเป็นสีฟ้าบน Background สีขาว ก็เห็นอยู่ดี ลองดูสิครับ ฉายภาพขาวและดำสนิท ซึ่งพบความผิดปกติได้ง่ายมากๆ เอาสายห่วยสุดๆมาต่อเลย ขอให้ภาพขึ้นเป็นอันใช้ได้.... คนใช้ DVI สายแถมมากับจอทำงาน Graphics แท้ๆ ไม่เคยมีใครบ่นเรื่องมีจุด สีแปลกๆโผล่บนภาพนะครับ สายเจ๊งก็คือเละ ภาพดับ ไม่ใช่ว่าเพี้ยนนิดๆหน่อยๆ ต้องหูทองตาทิพย์ถึงจะมองเห็น -__-" ผมคนนึงล่ะที่ใช้ DVI บนจอ Res มากกว่า จอ Full HD 50 นิ้วที่ใครๆเรียกร้องกัน ก็ไม่เคยเจอจุดสีแปลกๆนะ.... หรือคุณดูเบื้องหลังหนัง Hollywood เขาใช้สายแถมมากับจอกันมั้ย ? หรือต้องเปลี่ยน เป็นสายเส้นละหลายหมื่นล่ะครับ ? นั่นคือ Studio ที่ผลิตหนังที่เอามาฉายบนทีวีที่คุณ ต้องดิ้นรนซื้อสายแพงๆมาดูนะ เขายังไม่เห็นจะใช้สายแพงๆกันเล้ย.... จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 00:53:16

ความคิดเห็นที่ 70 ^ refresh rate มัน 60 Hz ไม่ใช่เหรอคับ ถ้าคุณสามารถมองเห็นสีแปลกๆบนแบล๊คกราวน์ขาว,ดำได้ผมว่าคุณน่าจะตาทิพย์แล้วนะคับ ถึงสีขาวจะเพี้ยนเป็นสีฟ้าบางจุดแต่ error มันก็ไม่ได้เกิดซ้ำที่เดิมตลอดแค่ไม่ถึง 0.02 วิสีเดิมก็กลับมาแล้ว ดังนั้นก็ไม่น่าที่จะมีใครทันมองเห็นว่าสีมันเพี้ยนนะคับ ใน studio หนังผมก็ไม่รู้ว่าเขาใช้สายจอคอมอะไรแล้วในขั้นตอนไหนจะต้องใช้สายไหน แต่ผมก็ไม่รู้ว่าแผ่นซีดีของผมตอนอัดมาแล้วใช้ลำโพงอะไรเทสผมก็ไม่เห็นต้องสนใจ ลำโพงผมเล่นแผ่นซีดีเสียงถูกใจหรือป่าวต่างหากที่ผมสนน่ะคับ จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 01:26:32

ความคิดเห็นที่ 71 กระทู้ดี ถกกันด้วยข้อมูล มีการทดลอง แต่ให้กิฟท์เพราะชื่อ จขกท. จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 02:00:13

ความคิดเห็นที่ 72   จริงๆ ผมก็สนใจพวก audiophile/videophile นะเพราะซื้อหนังสือมาอ่านบ่อยๆ ผมไม่ได้เป็นคนเล่นเครื่องเสียงนะครับ แค่สนใจมาแต่เด็ก ก็อยากศึกษาไว้ เผื่อจะซื้อมาใช้บ้าง ถ้าซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ทำงานจนหมดแล้ว เห็นราคาอุปกรณ์แต่ละอย่างนี่สุดๆจริงๆ อ่านรีวิวก็ ไม่รู้ดิครับ ไม่ใช่นักทดสอบอ่ะ อ่านประดับความรู้ไว้ บางอย่างก็แย้งความรู้สึก แต่ของพวกนี้ มันอยู่ที่ความพอใจครับ ลำโพงตัวละ 2 ล้านก็มีคนซื้อ สายสัญญาณเส้นละแสนก็มีคนซื้อ พวกนี้รวยๆเงินเหลือกินเหลือใช้ครับ เราดูที่ความจำเป็นของเราเป็นหลักดีกว่ามั้งครับ งบมีแค่ไหนก็ซื้อแค่นั้น มันก็ให้ความสุขเราได้นิครับ ไม่ต้องไปเถียงกับใครเค้าให้ปวดหัวเปล่าๆ จะดูหนังฟังเพลง แทนที่จะมีความสุข กลับดูไม่สนุกซะงั้น สายสัญญาณ ที่เจอมากับตัวคือ สาย usb 10m ราคา 300 กับ 1100 เส้นที่ราคาแพงกว่าใช้งานได้ สั่งงานอุปกรณ์จากคอมฯได้ ในขณะสายถูกกว่า คอมยังหาไม่เจอ ที่ซื้อแพงก็เพราะเอามาทำงานครับ ใช้ปรกติก็สายแถมทั้งนั้นอ่ะครับ ถ้าใครเอาลิ๊งค์ไปแปะเว็บพวก headphile, audiophile รับรองดราม่าแน่นอนครับ อิๆ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 02:11:45 A:58.9.41.102 X: TicketID:208348

ความคิดเห็นที่ 73   ไม่รู้เรื่องกะเค้าเท่าไหร่หรอก เข้ามาดูเพราะหัวกระทู้บอกว่ามี (ss) หน่ะครับ จากคุณ : อิ่มบุญครับ (กัปตันสมหมาย) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 02:51:33

ความคิดเห็นที่ 74   ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อิๆ ที่ผมสงสัยมาตลอดเวลาผมอ่านหนังสือพวก audiophile ที่ผมสงสัยที่สุดก็คือเจ้าสายไฟพร้อมปลั๊กที่เหมือนกับสายไฟที่เรามาต่อเข้า psu ใน PC ที่เราใช้เนี่ยแหละครับ ดูในนั้นสายราคา 2-3 หมื่น คนรีวิวบอกด้วยว่าเสียงต่างกันอย่างไง โอ้... จริงๆมีอีกเยอะนะ จำไม่ได้แล้ว มีคนเล่าให้ฟังว่าพวกหูทอง ตาทิพย์ นี่ลงทุนถึงขนาดสั่ง กฟน มาตั้งหม้อแปลงใหม่ แบบดีๆกว่าที่ใช้กันทั่วไปเลยมั้งครับ จำไม่ได้แล้ว ที่ผมสงสัยที่สุดคือ สายไฟต่อเข้าเครื่อง cd/ amp, pre-amp เนี่ยแหละครับ ใครรู้ช่วยตอบให้หน่อยนะครับ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 02:53:42 A:58.9.41.102 X: TicketID:208348

ความคิดเห็นที่ 75 ^ อันนี้ผมก็ไม่รู้ชัดแต่ระบบของเครื่องเล่นซีดี,แอมป์นั้นเป็นอนาล๊อคคับ สายทุกอย่างมีผลหมด สายไฟก็อาจจะเกี่ยวด้วยเพราะเครื่องเล่นอาจจะออกแบบไว้ที่ไฟฟ้า 220V 50 Hz ถ้าไฟมาเพี้ยนไปจากนี้หน่อยมันก็อาจจะส่งผลถึง output ที่เป็นเสียงได้น่ะคับ ทางทฤษฏีก็เหมือนว่าสายพวกนี้จะกรองสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นรูป sine โดยสมบูรณ์อะไรเนี่ยแหล่ะ แต่ผมลองสายไฟของเพื่อนผมกับสายไฟคอมเสียงมันก็ไม่ได้ต่างเลยนะคับ แต่ก็ไม่ได้ลองอะไรมากสายมีเส้นเดียวลองต่อกับแอมป์แค่นั้น ถ้ามีอีกเส้นต่อกับซีดีอาจจะเห็นผลป่าวก็ไม่รู้ แต่ผมมีประสบการณ์ส่วนตัวอันน่าเหลือเชื่ออยู่อย่างหนึ่ง คือปลั๊กตัวที่ผมใช้ต่อเครื่องเสียงมันมี 2 ช่องต่อกับแอมป์+ซีดี ทีนี้ถ้าจะรีดผ้าหรือใช้ปลั๊กทำอะไรก็จะทำไม่ได้ผมก็เลยไปซื้อปลั๊กพ่วงเซเว่นมาเสียบ ปรากฏว่า... เสียงต่างคับ... -_-" ต่อปลั๊กพ่วงแล้วเสียงดรอปลงไปนิดหน่อยสังเกตุเห็นได้ชัด... ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหูตัวเองเหมือนกันแต่ลองฟังดูหลายๆเพลงแล้วเสียงดรอปจิงๆ เลยลองเปลี่ยนกลับไปต่อไม่ใช้ปลั๊กพ่วงปรากฏว่าเสียงกลับมาดีเหมือนเดิมได้คับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม จากคุณ : Catwater (Catwater) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 03:10:41

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาให้ gift นับถือการอุทิศแรงกายครับผม จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 03:29:07

ความคิดเห็นที่ 77   เยี่ยมเลยคับ แต่ผมก็ใช้สายถูกๆ มานานแล้วคับ อิอิ จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 04:10:19

ความคิดเห็นที่ 78   ขอตอบในประเด็นที่ว่า การมองเห็นความผิดเพี้ยนของสีอาจฝึกได้ครับ ประสบการณ์จากเครื่องเสียง ที่แรกๆฟังอะไรก็ไม่ออก แต่พออยากจะฟังแล้ววิจารณ์ได้อย่างคนอื่นบ้าง จึงตั้งใจฟังแบบจับผิดและมีสมาธิ ซึ่งผลที่ได้ก็คือสามารถแยกแยะเสียงได้ในระดับหนึ่ง แต่ในตอนนี้เลือกฟังแบบนั้นแล้ว หันมาฟังเพลงแบบมีความสุขดีกว่า :) จากคุณ : ps_addict เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 05:13:44

ความคิดเห็นที่ 79   สายราคาต่างกันไม่มาก  บางที ทางร้านเขาก็ตั้งราคาเวอรืครับ  เอาสายถูกๆ มาตั้งซะแพง    แพงกว่าสายดีๆซะอีก จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 06:15:30

ความคิดเห็นที่ 80 ชอบกระทู้แบบนี้ แต่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก 55++ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:24:53

ความคิดเห็นที่ 81   #62 ยืนยันผมตาไม่บอดสี เพราะผมเห็นความแตกต่างของภาพระหว่างสายดีสายแพงได้ ผมก็ไม่ได้ไม่เชื่อเครื่องมือวัด ข้างบนก็วัดเฉพาะการส่งผ่านแค่นั้นว่าส่งได้หรือไม่ได้ แต่ไม่ได้วัดว่าต้นทางปลายทางมันเพี้ยนไปหรือเปล่า ก็รอคุณ สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ ทดสอบอยู่นี่แหละ จากคุณ : mon เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:26:56 A:58.64.83.216 X: TicketID:111025

ความคิดเห็นที่ 82 ผมก็เชื่อว่าสายมันก็เหมือนกันแหละครับ สัญญาณมันเป็นแบบดิจิตอลคุณภาพที่ได้ก็น่าจะเหมือนๆกัน ที่ผมเจอมากับตัวเองคือ ตอนผมซื้อ PS3 ก็คิดว่าสายสัญญาณถูกๆก็พอ เพราะภาพมันก็เหมือนกับสายแพงๆนั่นแหละ เลยซื้อสาย HDMI ยาว 1.8 เมตร ราคา 300 บาท มาใช้ ตอนเล่นที่ 720p ไม่มีปัญหา แต่พอขยับไปที่ 1080p ดันขึ้นว่าไม่สนับสนุน ไม่มีภาพซะอย่างนั้น ผมก็พยายามลองปรับหลายๆอย่างทั้งที่ TV และที่ PS3 แต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ซึ่งทั้งสองอย่างผมมั่นใจว่ามันรองรับ 1080p แน่นอน ผมจึงลอง serch ในเน็ตดูว่ามีคนเป็นอาการเดียวกับผมหรือไม่ หนึ่งในความเห็นที่ผมพบก็คือให้ลองเปลี่ยนสาย HDMI ใหม่ คราวนี้ผมเลยไปซื้อสายที่แพงขึ้นมาอีกหน่อย ยาว 1.8 เมตรเหมือนเดิม ปรากฏว่าสัญญาณออก 1080p ได้อย่างไม่มีปัญหา จากเหตุการณ์ที่ผมเจอด้วยตัวเอง ผมสรุปเอาเองว่าสายที่คุณภาพดีกว่าจะมี bandwidth ในการส่งสัญญาณมากกว่า ขณะที่สายที่คุณภาพด้อยกว่าจะมี bandwidth ในการส่งสัญญาณน้อยกว่า แต่เรื่องสีสันผมว่าทั้ง 2 เส้นไม่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งค่าใน TV ที่ใช้มากกว่า จากคุณ : kruto เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:31:56

ความคิดเห็นที่ 83 หึหึหึหึหึ นึกถึงกระทู้เก่าที่ผมเคยไปตอบไว้ หลักการเดียวกันเป๊ะๆเลย http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8745558/X8745558.html ประเด็นหลักก็คือ นิสัยบางอย่าง อาจเป็นความเคยชินที่่ติดมาจากยุค Analog ก็ได้ แต่ลืมไปว่า พอเป็นเทคโนโลยีดิจิตอลแล้ว ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพเสียง(และภาพ สำหรับกระทู้นี้) มันลดเหลือไม่กี่ตัวแล้ว เพียงแต่ความเคยชินเก่าๆมันยังตามมาหลอกหลอน(?)อยู่ซะมากกว่า จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:34:16

ความคิดเห็นที่ 84   ฝากไปดูและช่วยสรุปหน่อย การทดสอบสาย HDMI http://www.audioholics.com/education/cables/long-hdmi-cable-bench-tests จากคุณ : Salted Egg เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:34:18

ความคิดเห็นที่ 85 ดูแล้ว ที่วัดค่าเนี่ย จากการแสดงผลของวินโดว์ ทั่ว ๆ ไป ยังไงลองดูหนังพวก Hidef ก่อนครับ งมงายกับวิทยาศาสตร์มากเกินไปหรือเปล่าครับ บางทีมันเห็นจะ ๆ ว่าแตกต่าง แต่พอวัดผลมันก็เหมือนกัน จริง ๆ สายสั้น ๆ แค่นั้นไม่มีผลมากอะไรหรอก และถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากจะใช้หรอกไอ้เส้นละเป็นพัน ๆ แต่ก็อยากให้หา "ความพอดี" ไม่ใช้ด้อยคุณภาพแบบเว่อร์ ๆ หรือแพงจนสุด ๆ มันเกินไป ลองถอยสักก้าวสิครับ แล้วมองดูตัวเองดี ๆ แล้วค่อย ๆ ทำอย่างมีสติ ค่อย ๆ ทดลองอย่างมีขั้นตอน และ เจาะประเด็นให้ถูก ว่าที่เขาบอกว่า สายแพงกว่าดีกว่า มันดีด้านไหน ตีให้แตกครับ จากคุณ : {M}-มดนะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:43:06

ความคิดเห็นที่ 86 หว้ากอ มาม่าแว้ว จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 08:46:37

ความคิดเห็นที่ 87 OK ครับ ท่านที่ยังไม่เชื่อก็จะแย้งว่า ข้อมูลที่ส่งมามันต้องมีเพี้ยนไปบ้าง ซื้อตาผม อาจไม่สามารถที่จะดูออกได้ทัน ผมเป็นประเภทไม่ยอมแพ้ด้วย 555 งั้น ผมจะไม่ใช้ตาดูละครับ เดี๋ยวผมจะอู้งานช่วงเช้านิดนึง เพื่อแก้โปรแกรมของบอร์ดที่ผมใช้อยู่ โดย ผมจะให้ PC ส่งสัญญาณภาพออกมา แล้วให้ตัวบอร์ดรับข้อมูล และเปรียบเทียบข้อมูลดูว่ามันมีเพี้ยนไปบ้างสักกะนิดนึงหรือเปล่า ผมไม่สามารถ ส่งออกมาเป็น pattern ได้ เพราะจะใช้เวลานาน ผมจะส่งข้อมูล RGB = AA:AA:AA (hex)  ออกมา แล้วให้ตัวบอร์ด ตรวจสอบว่ามันส่งออกมาเพี้ยนบ้างรึเปล่า ถ้าเพี้ยนให้ส่งออกมาทาง serial port เข้าคอม ซึ่งผมจะใช้โปรแกรม hyper terminal จับ ง่าย ๆ แล้วท่านจะยอมรับผลการทดสอบผมหรือเปล่าครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 09:38:42

ความคิดเห็นที่ 88 เพิ่งเข้ามาดูครับ เชียร์ จขกท. ปล.ผมเป็นต้นเหตุรึเปล่านี่ แค่ตั้งคำถามว่าว่าจะใช้ ถูกรึแพงดีฦ ดันเป็นเรื่องราวซะใหญ่โตเลย จากคุณ : lucifer777 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 09:53:30

ความคิดเห็นที่ 89 สอบถามเพิ่มเติมนะครับ ตอนี้ผมใช้จอ 1920x1200 ดูหนัง 1080p จากคอมอยู่ ใช้สาย VGA ธรรมดา เพราะ การ์ดจอออนบอร์ดไม่มี DVI-HDMI บางครั้งมันกระตุก เป็นเพราะคอมใช่มั้ยครับ คอมผมไม่แรงเท่าไหร่นะครับ จากคุณ : Phantom thief เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:03:00

ความคิดเห็นที่ 90   > คราวนี้ผมเลยไปซื้อสายที่แพงขึ้นมาอีกหน่อย ยาว 1.8 เมตรเหมือนเดิม ปรากฏว่าสัญญาณออก 1080p ได้อย่างไม่มีปัญหา สายไม่ได้มาตรฐาน จะเห็นปัญหาได้ชัดเจนแบบนี้ครับ ภาพไม่ขึ้นเลยบ้าง ภาพเละไปเลยบ้าง ไม่ใช่สีไม่อิ่ม ไม่จัดจ้าน บลาๆๆ ในกรณีที่เป็นน้อยๆ ถ้าเปิดภาพจากแผ่น blu-ray ค้างไว้ที่จอดำๆ อาจจะมีภาพซ่าๆคล้ายๆหิมะตกไปทั่วๆ รับรองครับว่าสังเกตง่ายจริงๆ ถ้าสายได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร เราจะได้ภาพเหมือนกันทุกประการครับ ทนไม่ได้กับประโยคนี้ > งมงายกับวิทยาศาสตร์มากเกินไปหรือเปล่าครับ ไม่งมงายกับวิทยาศาสตร์ ที่ทุกอย่างอธิบายได้ ด้วยกฏ ทฤษฏี สมมติฐาน การทดลอง แล้วจะให้เชื่อแบบไม่มีเหตุผล แบบที่คนขายเขาบอกก็เชื่อหรือไงครับ ถ้าจะทดลองด้วยตัวเองก็ต้องมีหลักเกณฑ์แน่นอนด้วยครับ พยายามพูดหลายทีแล้วว่าจะทดลองอะไร เรื่อง bias (ลำเอียง) ชองผู้ทดสอบสำคัญมากๆครับ ลองคิดถึงที่ใครบางคนทดสอบ NP-faster ตอนแรกแล้วเขียนเป็นเอกสารระบุว่าใช้ได้สิครับ ในเมื่อ process มันไม่ถูกต้อง มันเสียบอยู่ไฟกระพริบๆให้เห็น คนทดสอบก็ bias ได้ ผลลัพท์ที่ได้ก็ไม่ถูกต้องครับ > บางทีมันเห็นจะ ๆ ว่าแตกต่าง แต่พอวัดผลมันก็เหมือนกัน นี่แหละครับที่เรียกว่า BIAS ครับ Double blind หรือว่าอย่างน้อย blind หรือเปล่า แต่เครื่องมือมันไม่ bias เหมือนคนเราคับ มันไม่รู้หรอกว่าสายที่ test อยู่เส้นละเท่าไร ใช้เงินทองแดงทองมาเป็นส่วนประกอบเยอะแค่ไหน หรือพูดง่ายๆว่าแพงกว่าขนาดไหน ลองเปรียบเทียบกับ breathalyzer ที่จับแอลกอฮอล์ในลมหายใจคนเมา ไม่ว่าลูกนายพลลูกนักการเมืองที่ไหนมาวัด ก็ไม่ทำให้ค่าระดับแอลกอฮอล์เปลี่ยนไปได้ครับ แต่ถ้าแค่ใช้ตำรวจจับจากท่าทางการเมา ตำรวจอาจจะ bias และตัดสินใจว่าไม่เมาได้ครับ > หรือแพงจนสุด ๆ มันเกินไป ลองถอยสักก้าวสิครับ > แล้วมองดูตัวเองดี ๆ แล้วค่อย ๆ ทำอย่างมีสติ > ค่อย ๆ ทดลองอย่างมีขั้นตอน และ เจาะประเด็นให้ถูก > ว่าที่เขาบอกว่า สายแพงกว่าดีกว่า มันดีด้านไหนให้แตกครับ เหมือนคนที่ใช้และเชื่อ NP-faster แล้วบอกว่าประหยัดน้ำมันใช่ไหมครับ เชื่อเพราะว่าลองแล้วทดสอบแล้ว หรือชาวบ้านที่ไปเอาน้ำใน sink hole มากินแล้วบอกว่ารักษาโรคได้ หรือคนป่วยที่ไปหาคนทรงเจ้านวดน้ำมัน แล้วอาการป่วยหายเป็นปลิดทิ้ง ขอบเขตของการให้คิดอย่างมีสติทดลองอย่างมีขั้นตอนอยู่ตรงไหนครับ จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:08:25

ความคิดเห็นที่ 91   > สอบถามเพิ่มเติมนะครับ > ตอนี้ผมใช้จอ 1920x1200 ดูหนัง 1080p จากคอมอยู่ > ใช้สาย VGA ธรรมดา เพราะ การ์ดจอออนบอร์ดไม่มี DVI-HDMI > บางครั้งมันกระตุก เป็นเพราะคอมใช่มั้ยครับ ใช่ครับ สาย VGA ส่งสัญญาณเป็น analog ถ้าถูกรบกวนก็เหมือนทีวีสัญญาณไม่ชัดครับ ไม่ใช่ drop frame ถ้ากระตุกแปลว่า เป็นที่ CPU ประมวลผลไม่ทันมากกว่าครับ จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:12:58

ความคิดเห็นที่ 92 คราวหน้า ต่อ 2 เครื่อง เปิดหนังเรื่องเดียวกัน เครื่องนึงสายแพงๆ เครื่องนึงสายจีนก๊อป พร้อมกัน ให้เทียบกันจะๆ เลย ว่ามันเพี้ยนรึเปล่า แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 10:20:30 จากคุณ : Yippie เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:18:56

ความคิดเห็นที่ 93 ผมใช้ซัมซุงซีรี่ส์3 42 นิ้ว กับ ดีวีดีซัมซุง ใช้สาย HDMI ที่แถมมากับเครื่องกับสายของ Transparent ลดราคาเหลือเส้นละพันกว่าบาท ที่เพื่อนเอามาให้ลอง ผมไม่มีเครื่องมืออะไรเทสหรอกครับ แต่จากการสลับสายไปมา พบว่า ภาพจากสายที่แถมมาสีจะจัดๆจ้านๆคมๆเหลี่ยมๆ พอเปลี่ยนใช้สายราคาแพงพบว่าภาพมันนวลขึ้น แฟนผมที่ไม่เคยรู้เรื่องเครือ่งเสียงแม้แต่น้อยกลับมาตอนเย็น เธอไม่เห็นผมตอนเปลี่ยนสาย ยังมาถามว่า ทำไมวันนี้ลำโพงทีวีมันกรุ๊งกริ๊งจัง ถ้าจะเอาตัวเลขสัญญานดิจิตอลที่เป็นค่าตัวเลขเป็นตัวทดสอบ แบบนี้เครื่องเล่นดีวีดีจีนแดงคลองถม ก็คงสามารถให้คุณภาพได้เท่ากับเครือ่งเล่นดีวีดีญี่ปุ่นตัวล่ะหลายๆหมื่น จากประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ ผมเชื่อว่า คนที่บอกว่าสายดิจิตอลอะไรๆก็เหมือนกัน น่าจะยังไม่เคยลองเทียบด้วยสายตาและหูตัวเอง บางทีต้องแยกกันนะครับ ว่าดูได้ฟังได้ กับ ดูได้ดีฟังได้ไพเราะ มันต่างกันหรือเปล่า จากคุณ : ajibjoy เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:22:54

ความคิดเห็นที่ 94 อ่านดูแล้ว เป็นกิเลสที่ต่างคนต่างอยากจะบอกว่าชัดเจน ชัดแล้ว ชัดกว่า ชัดกว่าจริงๆ ของตรูสิชัดกว่าของจริงอีก  แหม่ว่ากันไป จะชัดกันไปถึงไหนคร้าบ เอาให้เห็นรูขุมขนเลยรึไง.. จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:38:33

ความคิดเห็นที่ 95   > ผมไม่มีเครื่องมืออะไรเทสหรอกครับ แต่จากการสลับสายไปมา พบว่า ภาพจากสายที่แถมมาสีจะจัดๆจ้านๆคมๆเหลี่ยมๆ > พอเปลี่ยนใช้สายราคาแพงพบว่าภาพมันนวลขึ้น แฟนผมที่ไม่เคยรู้เรื่องเครือ่งเสียงแม้แต่น้อยกลับมาตอนเย็น > เธอไม่เห็นผมตอนเปลี่ยนสาย ยังมาถามว่า ทำไมวันนี้ลำโพงทีวีมันกรุ๊งกริ๊งจัง คุณอาจจะไปเปลี่ยนค่าอะไรซักอย่างตอนเสียบเข้าเสียบออกสายใหม่ครับ แบบว่าโหยชัดขึ้น ไหนลองเพิ่มสีซิ ปรับคอนทราสต์สิ ไปเปลี่ยนตรงนี้สิ อะไรซักอย่าง ผมเห็นเพื่อนๆทำอย่างนี้มาหลายคนแล้ว อะไรที่สำคัญกว่าน่าจะซื้อ กลับไม่ซื้อ อย่างแผ่น Avia หรือ DVE กลับไม่เห็นรู้จัก THX Optimizer ที่แถมๆมาก้ไม่รู้จัก มีSPL meter ก็ไม่มีกัน ไม่รู้เซ็ตกันได้ยังไง จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:51:31

ความคิดเห็นที่ 96 โถ่ ผมก็อุตส่าห์ซื้อตั้งแพง 1.8 เมตร ตั้ง 450 แน่ะ รู้งี้ซื้อ 300 ดีกว่า (ถ้ามีถูกกว่านี้ก็จะซื้ออันที่ถูกที่สุดนั่นแหละ อิอิ) จากคุณ : เล็ก มหึมา (^oio^) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:52:45

ความคิดเห็นที่ 97 แค่คอมโพแน้นเราก็รู้สึกว่ามันชัดเจนประทับใจตั้งแต่ครั้งแรก เรารู้สึกว่าพอแล้วนะ ไม่ต้อง HDMI  หรอก และดูไม่ออกเลยว่า มันต่างกันยังไง บ้านเรามีสายหลายอย่างมากเลยนะ เพราะความไม่พอของคนในบ้านแหละ ถ้าแกจะต่อ AV ให้ฉานดู ฉานก้อดูได้นะยะ ว่าแต่ชื่อเจ้าของกระทู้ตอนตั้งได้แรงบัลดาลใจจากอะไรคะ จากคุณ : maikeet เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 10:54:37

ความคิดเห็นที่ 98 มาแว้ววววว เขียนโปรแกรมเสร็จแล้วครับ อันนี้ตัวบอร์ดที่ผมเขียน แอบอวดหน่อย อิอิ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:12:10

ความคิดเห็นที่ 99 จากนั้นใช้ paint เสียแหละ เทสี ให้เป็นสี RGB = AA:AA:AA  hex   AA (hex) = 170 (dec) save เป็น bmp ครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:13:35

ความคิดเห็นที่ 100 เสร็จแล้วผมจะตั้ง test ใว้จนถึงตอนเย็น ว่ามันจะมีเพี้ยนบ้างรึเปล่า ถ้ามีเพี้ยนจะมีตัว X ขึ้นมาที่ hypertermunal หน้าต่างสีขาว ๆ ด้านขวา ผมปิด screen saver ใว้แล้ว อิอิ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:16:22

ความคิดเห็นที่ 101 ผมมีวีดีโอมายืนยันว่ามันทำงานได้จริงครับ ถ้ามีข้อมูลแปลกปลอมที่ไม่ไช่ RGB = AA:AA:AA เข้ามา ตัวบอร์ดจะส่ง อักขระ X มาให้คอมครับ ผมทดสอบเลื่อนเมาส์เข้าไปก็มี X ขึ้นมาตรึมครับ ลองดู คราวนี้จะผิดแม้แต่   bit   เดียวก็จับได้ครับ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 53 11:20:41 จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:19:25

ความคิดเห็นที่ 102   บางอย่างพอจ่ายไปแพง มันจะสะกดจิตตัวเองว่าดี.. ต้องดี.. เฮ้ย นี่แหละเว้ย ดีที่สุด จากคุณ : Titleblock เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:27:39

ความคิดเห็นที่ 103 เป็นครั้งแรกในชีวิตนีเนี่ย ที่กระทู้ผมขึ้นกระทู้แนะนำ 555 จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:29:41

ความคิดเห็นที่ 104   จริงๆเรื่องสายแพงสายถูกที่เมืองนอกเขาบอกตอนขายชัดเจนครับว่าสายแพงน่ะแบนด์วิธมันสูงกว่า ผลก็คือมันจะส่งข้อมูลได้ดีกว่าในระยะที่มากขึ้น ความสามารถในการส่งข้อมูลที่มากกว่ามันก็ทำให้สามารถส่งข้อมูลภาพที่ความละเอียดสูงและเสียงระบบต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่มีโฆษณาใดๆในตัวแพ๊คเกจที่ยืนยันว่าสีจะสดใสกว่า สีอิ่มมากกว่าเลยครับ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อแบนด์วิธไม่พอก็คือภาพเสียไปเลยหรือเสียงแปลงๆดังรบกวน ไม่มีหรอกครับไอ้ที่ประเภทว่าภาพไม่สวยหรือเสียงไม่ใสกิ๊ง ไอ้พวกความแตกต่างทั้งหลายที่พวกหูทองตาทิพย์พยายามจะอธิบายน่ะ อุปโลกขึ้นมาด้วยอคติทั้งนั้นแหละว่าของแพงมันต้องดีกว่า เพราะไม่งั้นคงรู้สึกว่าตัวเองโง่ๆชอบกลที่จ่ายแพงกว่าเพื่ออะไรก็ไม่รู้ เท่าที่ผมคุยกับคนขายที่อเมริกา เขายอมรับตรงๆนะครับว่าคนที่ซื้อของแพงจริงๆก็แค่ต้องการความมั่นใจในคุณภาพการผลิต, คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้และการรับประกันที่ดีกว่า ไม่ได้ต้องการภาพหรือเสียงขั้นเทพกว่าจากราคาที่แพงกว่าแต่อย่างใด ถ้าผมไม่จู้จี้เรื่องพวกนั้นจะซื้อสายถูกๆมันก็ไม่ได้ทำให้ผมได้คุณภาพของภาพบนจอที่แตกต่างกัน จากคุณ : VeryBadman...Begins (คามิยามะมาเยือน!!!) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 11:55:49

ความคิดเห็นที่ 105 สายถูก สายแพงใช้ได้เหมือนกันหมดแหละ ยกเว้นว่าสายมันจะเสีย แต่ใช้แล้วพอใจกับมันรึเปล่าอยู่ที่คุณเองแหละ ผมเคยซื้อสายถูกมา (ตัดสินใจอยู่นาน อยากได้สายแพง แต่คิดหนักเพราะกลัวมันเว่อร์เกินไป) กลับมาบ้าน ยังคิดอยู่ว่าน่าจะกัดฟันซื้อสายแพงมาเลยแล้วกัน สุดท้ายก็ไม่สบายใจ กลับไปซื้อสายแพง ทั้งๆที่สายถูกมันก็ดีมากแล้ว แต่อุปทานไปเองว่าสายแพงมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ สรุปออกมา เหมือนกัน มันคือ กิเลส ครับ จากคุณ : Alice_Nine เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 12:47:41

ความคิดเห็นที่ 106 ลองเปิดต่อเนื่องมาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ยังไม่มี error bit สักนิดเลยนะครับ ตามที่เห็น ผมลองให้ดูว่าตัวบอร์ดมันยังทำงานได้ เลื่อนเมาส์ไปมันก็แจ้งว่าเป็น err bit กลับมา ปิดแล้วเปิด ใหม่ เดี๋ยวสัก 4 โมงจะมารายงานผลอีกรอบนะครับ จากคุณ : สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆ เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 12:50:34

ความคิดเห็นที่ 107 จริง ๆ แล้วคนที่ไม่เชื่อว่ามันไม่ต่างก็ไม่เชื่ออยู่วันยังค่ำแหละครับ ตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ๆ ครับ บางคนบอกให้ดูหนัง HD, เล่น Xbox, PS3 ผมลองมาหมดแล้ว (เพราะผมเล่นอยู่) ไม่เห็นความต่างในเรื่องสีครับ ไอ้ที่บอกว่าสี่จะอิ่มขึ้นสวยขึ้น นี่ผมเถียงหัวชนฝา แต่พูดไปก็จะมีคนบอกว่า System ไม่ถึง อันนี้ก็ไม่ทราบแล้วล่ะครับว่าจะเอาเครื่องเล่นเกมส์อะไรที่เหนือกว่า Xbox มา Test ดี บางคนอ้างว่าสายห่วยสัญญาณจะดีเลย์ ทำให้ความสว่างมันดีเลย์อะไรต่าง ๆ นา ๆ แต่ข้อมูล Spec ของ HDMI ที่ จขกท อธิบายไว้ในกระทู้ที่แล้วก็บ่งบอกชัดเจนว่า สายมันส่งข้อมูลที่ละ Byte หรือทีละ 1 Pixel เป็น Serial คราวนี้ TV มัน render ถ้าเอาแบบปกติ ๆ ก็บนลงล่าง ซ้ายไปขวา  แล้วไอ้ความสว่างมันจะไปดีเลย์ตอนไหน -*- ก็อย่างที่บอกแหละครับคนไม่เชื่อก็ไม่เชื่ออยู่วันยังค่ำ ก็ปล่อยเขาไปแหละครับ เรื่องสีผมไม่เชื่อ แต่เรื่อง Transfer Rate อันนี้ผมเชื่อครับสายแพงกว่าการลดทอนสัญญาณจะน้อยกว่า แต่ก็น่าจะมีผลที่ความยาวตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไปมากกว่า จากคุณ : vicious เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:19:47

ความคิดเห็นที่ 108 ล้ำลึกเกินเข้าใจ ผมว่าสายเส้นละ300 ที่ได้มาตรฐานก็คงไม่ต่าง แต่บางทีไม่เจอเส้น300 ที่ปกติขาย3000 แต่ไม่ผ่านมาตรฐาน เลยลดราคาขาย คงต่าง จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:35:37

ความคิดเห็นที่ 109 เอาล่ะครับ สายที่คุณ สปุ้กนิกปาปิยองกุ๊กๆใช้ (ชื่อยาวมาก ขอเรียกคุณ สปก. ก็แล้วกัน) สามารถทำงานได้ตาม Spec โดยไม่มีความผิดพลาดแม้แต่ Bit เดียว "ซึ่งพิสูจน์แล้ว ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์" ถ้าใครคิดว่าสายห่วยๆที่ตัวเองเคยหลงซื้อมานั้นจะมีปัญหาจริงๆ ผมขอแนะนำว่า ให้ส่งไปให้คุณสปก.ทดสอบเลยครับ ว่าทำงานได้ที่ระดับไหน ตรงตาม Spec จริงมั้ย มี Bit เพี้ยนไปหรือเปล่า กรณีนี้น่าจะเปิดเผยชื่อยี่ห้อสายได้ครับ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค (เฉพาะที่ไม่มีอคตินะ) จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:47:33

ความคิดเห็นที่ 110 สงสัยผมอยู่บ้านนอก ยี่ห้อแปลก ๆ เต็มเลย โวนี่ โซนั่น อะไรไม่รู้ ไม่รู้จัก จากคุณ : ด้วยจิตคารวะ (ด้วยจิตคารวะ) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 53 13:55:40