ความคิดเห็นที่ 1   เด๋วให้ผู้รู้มาตอบ.. ผมรู้แต่ lcd พลาสม่า ประหยัดพื้นที่ในการวางได้แน่นอน !!!!!!!!! จากคุณ : lcd เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:26:12 A:58.64.72.144 X: TicketID:199554

ความคิดเห็นที่ 2 32 นิ้วหมื่นนิด ๆ จากคุณ : Wolf_eel เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:36:51

ความคิดเห็นที่ 3   LCD TV นี่ดูผิวเผินเห็นบาง ๆ เบา ๆ แต่ก็กินไฟพอสมควรเลยนะครับ ผมจำเลขได้แม่นเลย ไปดูฉลากหลังเครื่องมาครับ Samsung 32 นิ้ว กินไฟ 180W Samsung 42 นิ้ว กินไฟ 230W Samsung 46 นิ้ว กินไฟ 270W หากเทียบกับ TV SONY 29 นิ้วของผมซึ่งเป็นรุ่นเก่าประมาณ 5 ปี กินไฟ 145W ผมจึงไม่แน่ใจว่าจะตอบ จขกท.อย่างไรดี ว่าจะประหยัดกว่าหรือไม่ บางท่านก็บอกว่าประหยัดกว่าจากการใช้งานจริง เพราะภาพส่วนใหญ่โทนสีขาวไม่มากนัก เราสามารถปรับ parameter ของภาพให้กินไฟน้อยได้ ,ผมเองก็ไม่เคยทดลองสักทีครับ ส่วน Plasma TV นั้นกินไฟอย่างดุเดือดมาก เช่น ขนาด 42 นิ้ว กินไฟถึง 300W เลย !! รายละเอียดของ LCD , Plasma และ LED TV อ่านได้ที่นี่ครับ http://news.phuketindex.com/lifestyle/lcd-led-plasma-174241.html ขอสรุปเพิ่มเติมให้นะครับ 1. ในขนาดที่เท่ากัน LCD กับทีวีธรรมดากินไฟต่างกันเยอะขนาดไหนครับ - จากตัวเลขการกินไฟตามฉลาก ผมคิดว่าหากต้องการประหยัดไฟจริง ๆ ควรซื้อ LCD TV ขนาดแค่ 32 นิ้ว ซึ่งจะกินไฟน้อยกว่า CRT ของเดิมแน่นอนครับ แต่หากจะซื้อ LCD ขนาด 42 นิ้ว หรือใหญ่กว่านั้น ผมว่า อาจจะกินไฟเท่าเดิมหรือมากกว่า 2. ทีวี Plasma กับ LCD และ LED มันต่างกันยังไง และแบบไหนให้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ - ข้อแตกต่างก็ตามลิ้งค์ข้างบนนี้ครับ ส่วนประสิทธิภาพสูงสุด ก็ต้องเป็น LED TV (แอล อี ดี TV) แน่นอน เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ กินไฟน้อยกว่าทุกประเภทแน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 53 11:51:17 จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:43:09

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าภาพมันสบายตา คุณจะดูทีวีนานขึ้น ค่าไฟอาจจะเพิ่มมากกว่าที่มีอยู่เดิมอีก แต่หยั่งว่า ต้องทันยุค ทันสมัยกะเค้าบ้าง แต่เลือกหน่อยแล้วกัน มันมีรายละเอียดที่เยอะแยะหยุมหยิม บางทีซื้อแล้วอาจไม่รองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงเกือบรายวัน จากคุณ : Obram เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:54:10

ความคิดเห็นที่ 5 จอหลอด ทนกว่าครับ ... แต่ถ้าเป็นที่ผลิตตอนนี้ ไม่รู้เหมือนกัน ของเก่า ใช้ให้มันเสียๆก่อน แล้วค่อยซื้อใหม่ เป็นจอ LCD ส่วนหนึ่ง ก็ช่วยลดมลภาวะ - โลกร้อน ... จากคุณ : kasimasi เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:00:27

ความคิดเห็นที่ 6 พอดีไม่ได้อยู่บ้าน คือทีวีเก่าหลอดภาพเริ่มเสื่อม เลยคิดจะเปลี่ยนให้แม่ดูครับ เรื่องทันสมัยคงไม่ต้อง เพราะถึงติดจานดาวเทียมแต่ส่วนมากก็ดูช่องปกติอยู่ดี (^^) คุณ James Cook ขอบคุณสำหรับ link ที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายครับ จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:40:09

ความคิดเห็นที่ 7 LCD TV กินไฟมากกว่าจอแก้ธรรมดาขนาด 29 นิ้วทุกตัวครับ จากคุณ : freefeel เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:40:31

ความคิดเห็นที่ 8   ***** ถ้าเป็นจอแก้วที่ไม่ใช่โซนี่ด้วยแล้วจะประหยัดกว่าจอแก้วโซนี่เกือบเท่าตัวก็มีนะครับ อยากรู้ว่ากินไฟแค่ไหน จขกท เดินไปหลังเครื่องอ่านฉลากก็รู้แล้วละครับ 666 ***** จอ LCD กินไฟฟิกเรท เพราะ หลอดฉายแสงต้องเปิดตลอดเวลา สวนพลาสม่า กินไฟไม่คงที่ มาก ฤ น้อยขึ้นอยู่กับภาพตอนนั้นว่า สว่าง ฤ มืด เพราะ แต่ละดอทกำเนิดแสงด้วยตัวเอง ไม่ใช่ใช้การปิดเปิดบังแสงแบบ LCD ครับ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอ่อนของจอ LCD ที่ไม่สามารถทำภาพให้มืดได้สนิทและความเร็วในการตอบสนองต่ำกว่าพลาสม่าเยอะ และไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้น ตอนนี้เลยต้องออกระบบใหม่เป็น LED หลักการทำงานก็จะคล้ายๆ พลาสม่า แทนครับ  666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:44:56

ความคิดเห็นที่ 9 การกินไฟ ใช้งานจริงแล้วต่างกันไม่มากหรอกครับ ลองคำนวณดูได้ครับ (คิดเฉพาะค่าไฟตามบ้านทั่วไป) แต่สิ่งสำคัญคือทั้ง LCD,LED,PLASMA  มันสบายตากว่าจอCRT เยอะครับ จากคุณ : kasumikenshiro เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:51:01

ความคิดเห็นที่ 10 ผมอยากเพิ่มอีรกคำถามครับ เทียบระหว่าง จอแบนธรรมดา กับ LCD และน้องใหม่ LED อันไหนประหยัดกว่ากันครับ (พอดีทีวีเสียจะซื้อสิ้นเดือนนี้พอดี) แน่นอนว่าน้องใหม่ LED นั้นภาพสบายตาโคตรรรรรรรรรรรรรรร (ไปยืนเทียบมาแล้ว เป็นชั่วโมง พนักงานคงรำคาญสุดๆ) เรียกว่าความคมชัด และถนอมสายตา LED กินขาด ป.ล. สำหรับคนที่ไม่รู้  Sony ไม่ได้ผลิตทีวีเองแล้วนะครับ แต่เป็น Samsung ที่ผลิตให้ ดังนั้น หากเลือกซื้อ มั่นใจ Samsung ได้เลยครับ คุณภาพไม่น่าห่วง แถมได้เปรียบตรงที่ผลิตเอง ขายเอง ราคาจึงเบาลง ไม่ต้องไปบวกค่าจ้างผลิตเพิ่มเหมือน Sony จากคุณ : Blasphemy เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:55:05

ความคิดเห็นที่ 11 ทีวี LED   ก็คือ ทีวี LCD  แต่เปลี่ยนหลอดฟลูออเรสเซนต์ ที่ให้กำเนิดแสงด้านหลัง มาเป็น LED LED มีประสิทธิภาพสูงกว่า หลอดฟลูออร์ฯ เล็กน้อย จึงกินไฟน้อยกว่า ซึ่งมันกินไฟคงที่ ไม่ว่าภาพจะมืด หรือสว่าง หลอด CRT  และ Plasma จะกินไฟ มากน้อยตามความสว่าง Plasma เปลืองไฟมาก เพราะมีการสูญเสียเป็นความร้อนที่วงจรขับจุดพลาสมาแต่ละจุดจำนวนมาก ( น่าจะขายพ่วง ทีวีพลาสมา กับเครื่องอบผ้าซะเลย  โดยเอาความร้อนที่ออกมาจากทีวี  ไปอบผ้าได้สบาย  ใครเป็นนักประดิษฐ ลองทำดูสิ   ) จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:19:31

ความคิดเห็นที่ 12 ความประหยัดไฟน่าจะ LED ดีกว่า CRT ดีกว่า LCD ดีกว่า plasma แต่ราคา LED ก็ยังแพงเทพอยู่ ถ้าซื้อตอนนี้ LCD รุ่นที่ไม่เก่าเกินไปนักน่าจะดีนะครับ จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:52:13

ความคิดเห็นที่ 13 Plasma ผมกินไป 440w ครับ แต่ว่าดูสบายตากว่าจอหลอดอ่ะครับ จากคุณ : HanTuKi เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:04:03

ความคิดเห็นที่ 14 Plasma กินไฟที่สุดครับ LCD กับ จอแก้ว พอๆกันครับ เมื่อก่อนใช้ 21" จอแก้ว กินไฟ 120w LCD 32" กินไฟ 135w แต่ถ้าเปิด eco mode เหลืออยู่ 75watt ตอนดูตอนกลางคืนสบายตาดีครับ กินไฟพอกัน แต่ได้ขนาดจอที่ใหญ่กว่า ร้อนน้อยกว่าจอแก้วด้วย สรุปพอใจกับอัตราการกินไฟครับ จากคุณ : ^Nobi^ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:54:40

ความคิดเห็นที่ 15   ถูกต้อง ตามที่ คห.14 บอกใว้ครับ ว่า ปัจจุบันทุกรุ่นน่าจะมี Eco mode ซึ่งจะทำให้อัตรากินไฟลดลงเหลือต่ำกว่า 100W (หรือ 100 ต้น ๆ ) แม้ว่า TV จะใหญ่ถึง 42 นิ้ว และจะขอเรียน จขกท.อีกข้อหนึ่ง คือ ภาพที่เห็นโชว์ตามห้างนั้นไม่ใช่ภาพจากรายการทั่วไปครับ แต่เป็นภาพจากแหล่งกำเนิดแบบ HD โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อแสดงออกทาง LED LCD Plasma แล้วจะชัดระดับรูขุมขน แต่พอเราเอามาดู free TV แล้ว ภาพที่ได้จะแตกมากกว่าที่เราเห็นในห้าง รวมทั้งอัตราส่วนจะผิดไปด้วยครับ คือภาพจะถูกยืดออกในแนวนอน เพราะว่าจอภาพ LED LCD Plasma นั้นเป็นขนาด 16:9 แต่ภาพที่ออกอากาศของ free TV จะเป็น 4:3 ดังนั้น ภาพจะแบนออกข้างครับ ยกเว้นเราจะปรับเมนูภาพให้แสดงในอัตราส่วนจริง ๆ ซึ่งทุกเครื่องทำได้อยู่แล้ว จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 15:54:05

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นตามความเห็น 15 ด้วยเหตุนี้เลยยังไม่อยากได้ LCD เท่าที่ควร เพราะรับความแย่ของภาพเมื่อดูทีวีไม่ได้ จะเอา plasma ก็เปลืองไฟ แนะนำให้รอ LED ถูกก่อนค่อยซื้อดีกว่า จากคุณ : DevilDoll เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:16:10

ความคิดเห็นที่ 17 คห.3 "ส่วน Plasma TV นั้นกินไฟอย่างดุเดือดมาก เช่น ขนาด 42 นิ้ว กินไฟถึง 300W เลย !!" คห.11 Plasma เปลืองไฟมาก เพราะมีการสูญเสียเป็นความร้อนที่วงจรขับจุดพลาสมาแต่ละจุดจำนวนมาก ( น่าจะขายพ่วง ทีวีพลาสมา กับเครื่องอบผ้าซะเลย  โดยเอาความร้อนที่ออกมาจากทีวีไปอบผ้าได้สบายใครเป็นนักประดิษฐ ลองทำดูสิ ) จริงเหรอ....ผมใช้ทีวีพลาสม่า Samsung 42 นิ้ว รุ่น PS450 B1 กินไฟสูงสุด 240 W. แต่ก็ไม่ได้กินไฟขนาดนั้นตลอดเหมือน LCD TV. ซึ่ง คห.8 ได้อธิบายไว้แล้ว  ส่วนความร้อนที่ว่าเอาไปอบผ้าได้ไม่รู้ว่าเป็นทีวียี่ห้ออะไร ถ้ามันร้อนขนาดนั้นก็อย่าไปซื้อเลย ของผมเปิดติดต่อกัน 5 ชม. เอามือไปอังหน้าจอก็แค่อุ่น ๆ เท่านั้น ถ้าจะเอาไปดูทีวี Plasma จะเหมาะกว่า LCD แต่ก็ต้องควบคุมแสงในห้องไม่ให้สว่างเกินไป เพราะถ้ามีแสงสว่างจากภายนอกมากเกินไปจะเกิดแสงสะท้อนที่จอ  แต่ถ้าตั้งใจจะเอาไปดูหนังจากเครื่องเล่นมากกว่าดูทีวี LCD น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เมื่อก่อน Plasma แพงกว่า LCD มาก แต่ปัจจุบันราคาพอ ๆ กัน ไม่แตกต่างกันมากนัก ลองไปเดินดูตามร้านที่เขาเปิดโชว์ดีกว่า ชอบใจแบบใหนก็เลือกเอา แต่ขอเตือนสักนิดว่าอย่าไปเชื่อเซลล์มากนัก ของทุกอย่างที่เขาขายดีกว่ายี่ห้ออื่นทั้งนั้น จากคุณ : คนข้างถนน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 17:20:10

ความคิดเห็นที่ 18 Plasma มีข้อดีกว่าในเรื่องสีสด สีดำ และ response time ครับผม แต่จะมีข้อเสียเรื่องของความร้อน การกินไฟ และอาจจะเกิด burn (สมัยนี้คงมีเทคโนโลยีมาป้องกันแล้ว) ส่วนตัวผมชอบ LCD TV มากกว่า (LED ยังแพงไป) ตัวที่ผมใช้ 40" มันก็มีโหมดปรับแสงให้เหมาะสมตามรอบข้างครับ ส่วนความคมชัดผมว่าแค่ดู DVD ก็ชัดดกว่าจอแก้วแล้วครับ จากคุณ : moonoiz เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 18:21:14

ความคิดเห็นที่ 19 ผมมันคอเกม เลยต้องลงกับ LCD ไปนั่นแหล่ะดีที่สุด จากคุณ : neopeax เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 19:39:01

ความคิดเห็นที่ 20   จะ LCD หรือ LED เทคโนโลยีอะไรที่ใหม่ๆัเสียง่ายทั้งนั้นคับสมัยนี้ ประกันหมดเสียทันทีเหมือนกลายเป็นสัจธรรมของโลกไปแล้ว ถ้าอยากใช้ทนใช้นานผมว่า CRT ทนสุดๆ จากคุณ : Rie-Saruwatari เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 21:17:57

ความคิดเห็นที่ 21   ป.ล. สำหรับคนที่ไม่รู้  Sony ไม่ได้ผลิตทีวีเองแล้วนะครับ แต่เป็น Samsung ที่ผลิตให้ ***** ถ้าพูดถึงจอแบนแต๊ดแต๋ละก็ บ.ที่ผลิตแผงพาแนล (แผงจอนะแหละ) เป็น บ.ร่วมทุนกันระหว่าง โซนี่กับซัมซุง นะครับ เรียกได้ว่า ทั้ง 2 ยี่ห้อเป็นเจ้าของร่วมกัน ส่วนแผงวงจรการทำงานต่างหากที่ออกแบบตัวใครตัวมาน 666 ***** ว่าแต่ ไพโอเนียร์เลิกทำพลาสม่าแล้ว แต่ระบบทั้งหมดโดนพานาซื้อไปแล้ว ถ้าพลาสม่ารุ่นใหม่ของพานา ใช้ระบบการทำงานของไพโอเนียร์ แต่ราคาของพานาละก็ โฮ่โฮ่โฮ่ ......... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 23:26:09

ความคิดเห็นที่ 22 #20 CRT สมัยนี้ก็ใช่ย่อย ลดต้นทุนกันหมดแล้ว ราคาขายเครื่องละ 2-3 พัน ถ้า CRT สมัยก่อนคงจะทนจริง จากคุณ : moonoiz เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 23:39:27

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องสี LCD แซงพลาสมาไปไกลแล้วครับ ยิ่ง LED ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ส่วนเรื่องการกินไฟ Plasma จะกินขึ้นๆลงตามความสว่างของหน้าจอ แต่โดยเฉลี่ยก็มีแนวโน้มจะกินมากกว่า LCD แต่ไม่มากนักหรอกครับ.... หมายเหตุ ผมใช้ Plasma จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 02:54:36

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาอ่าน ปีหน้าจะเปลี่ยนทีวีใหม่ เเฮ่ๆ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 06:43:24

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณทุกท่านครับ ถ้าไม่มีข้อคิดเห็นแตกต่างไปกว่านี้ ผมคงซื้อ LCD 32 นิ้วครับ จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 12:15:07

ความคิดเห็นที่ 26   ***** คห20 ถ้าเป็น จอแก้วสมัยก่อนทนจริงครับ ต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ไม่เชือลองไปเดินเล่นแถวร้านซ่อมก็ได้ จะเห็นว่า พวกจอแก้วสมัยก่อนนะ ถ้าถอดฝาหลังออกมาจะเห็นแผงวงจรเพียบ วงจรส่วนที่เกินก็คือ วงจรโปรเท็คส่วนต่างๆ ทั้งหลายนั้นเอง ส่วนจอแก้วรุ่นใหม่ๆ ถอดฝาหลังออกมา จะเจอแผงวงจรหลักแผงเล็กๆ แผงเดียว บึ้มที ไปเยอะ เพราะ ไม่มีวงจรป้องกันที่โดนถอดออกเพื่อลดราคาลงมานะแหละครับ 666 ***** คห25 ถ้าจะซื้อ แนะนำให้เอาหนังที่ชอบไปลองครับ ถ้าเป็นดีวีดี ก็ลองหาหนังแบบมืดๆ และมีการเคลื่อนไหวเร็วๆ เอาไปลองครับ เพราะ ่บางรุ่นบางยี่ห้อนี่ ฉากมืดๆ จะแย่อย่างเห็นได้ชัด บางรุ่น พอเคลื่อนไหวเร็วๆ จะมีภาพ ผีหลอกวิญญาณหลอน วิ่งตามเป็นเงาซ้อนภาพหลักด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอ่อนของ LCD จนต้องแปลงร่างมาเป็น LED นะแหละครับ ถ้าลองดูแล้วรับภาพได้ก็ลุยเลยครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 12:40:46