ความคิดเห็นที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8819409/X8819409.html#62        <<  จาก คุณ  จะซวยมั๊ยเรา  ******* ขอกราบผู้มีใจอันเป็นกุศลช่วยนำข้อความนี้ไปให้ อ.เจษด้วยครับ ..อยากให้อ.ได้อ่านจริงๆ อาจจะยาวไปหน่อยหรืออาจจะซ้ำกับใครก็ขอโทษด้วย เนื่องจากดูรายการช่อง 3 ช่วงเย็นมีการสัมภาษณ์ หมอ.ผ่าศพคนนึง ที่รู้ไปหมดทุกเรื่อง.. มีการร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัดในการต่อต้าน อ.เจษ.ผมอยากตอบคำถามแทน อ.เจษ ครับ เพราะผมเป็นผู้ใช้เครื่องมือนี้ มา2 ปีแล้ว ผมรู้ดีว่ามันคืออะไร เรื่องราวมันเริ่มจากไหน .. ทำไมบางคนถึงได้ศรัทธามันนัก รวมถึง หมอ.ผ่าศพ ผมเคยเห็นเครื่องนี้ตั้งแต่ มันมาแรกๆ ชื่อมันคือ mole (โมล) ที่ทัพฟ้า รูปร่างมันคล้ายจีที200 แต่มีสายพร้อมกล่องใส่การ์ดอยู่ที่เอว เท่านั้นเอง ตัวการ์ดแบนๆเหมือน ใบขับขี่รุ่นเก่า (บาง) เค้าให้ทดลองเดินดูก็ชี้บ้างไม่ชี้บ้างแต่ไม่ได้สนใจ จนกระทั่ง หน่วยงานผมได้นำเจ้าจีที200 เข้ามาใช้ มีการอบรมจากบริษัทโดยมีเจ้าหน้าที่ทัพฟ้ามาช่วยแนะนำ การเรียนก็จะเรียนในห้องก่อน 1 วัน ก็เป็นการอธิบายหลักการทำงาน ว่าเป็นอย่างไร ใครสงสัยอะไรก็ถาม เช่น ในเครื่องมีอะไรอยู่ข้างใน...คำตอบคือไม่มีอะไร.. ในการ์ดมีอะไรอยู่ข้างใน.....ตอบไม่สามารถบอกได้เป็นความลับ... แต่มีคนเคยเอาการ์ดไปเอ็กซ์เรย์ดู มันก็ไม่มีอะไรในการ์ด.... แต่ตัวเครื่องผมยังไม่ได้เอ็กเรย์ดูครับ หลังจากนั้นก็เรียนนอกห้อง การฝึกของเค้าคือ อันดับแรกต้องฝึกสมดุลในการถือการเดินโดยยังไม่ได้ใส่การ์ด พอมีความคุ้นเคยก็จะใส่การ์ด แล้วนำระเบิดไปวางให้มองเห็น ให้เราเดินผ่าน ซึ่งบางคนก็ชี้บางคนก็ไม่ชี้เค้าก็อธิบายว่า คนที่ไม่ชี้ไฟฟ้าสถิตย์ไม่พออาจจะนอนไม่พอ ฯลฯ แล้วคนที่ชี้ได้ถูกต้องล่ะเพราะเหตุใด คำตอบคือ ตั้งใจเอียงให้มันชี้เพราะเราเห็นของแล้ว,บังเอิญชี้ตรงพอดีไม่ตั้งใจ, พอจบแล้วเค้าก็อธิบายว่าต้องมั่นใจในเครื่องมือ( เหมือนกับบังคับให้เราเชื่อไว้ก่อน) ถ้าใครไม่ชี้ก็จะโดนแซวว่าไม่มีไฟ ทำให้บางคนตั้งใจเอียงใส่ให้มันชี้เห็นๆเลย อีกวันก็จะเป็นการค้นหาแบบซ่อนไม่ให้เห็นแต่บอกพื้นที่คร่าวๆ แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่เจอนอกจากจะมีการบอกใบ้โดยครูฝึก.. แล้วก็เหมือนกับการหลอกให้เราดีใจว่าเราหาได้หาเจอเป็นการใช้จิตวิทยาอย่างนึง มีการใช้แผนที่คร่าวๆในการหาวัตถุ...ต่างๆ อย่างที่อ.เจษเคยพูดไว้ไม่ผิดเลยครับว่า ถ้าไม่ได้ทำในระบบปิดมันไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้หรอกครับ จากการเรียน5 วัน ผมมีความมั่นใจมากกับเครื่องมือตัวนี้ เพราะระหว่างการฝึกเค้ามักสร้างสถาณการณ์ให้เรารู้สึก ว่าเราทำได้เราเป็นคนที่ใช้เครื่องมือนี้ได้ เพราะเค้าก็บอกก่อนอบรมแล้วว่าเครื่องมือตัวนี้ไม่ได้ใช้กันได้ทุกคนบางคนเท่านั้นที่ใช้ได้ .. จนเมื่อปี 50 ผมได้ลงไปทำงานภาคใต้ และต้องใช้เครื่องมือตัวนี้ในการทำงานพื้นที่เดียวกับที่คุณ หมอ ... กล่าวอ้างน่ะแหละครับ เคยทำงานร่วมกันด้วยหลายครั้ง แต่หมอไม่รู้จักผมหรอกครับ ผมเริ่มสงสัยในการทำงานของเครื่องเมื่อผมเจอเหตุเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย แล้วเครื่องมันไม่ชี้ ไม่ใช่ผมคนเดียวแต่หน่วยอื่นๆก็ไม่ชี้ ..อย่าบอกว่าผมไม่ชำนาญนะครับ เพราะผมใช้เครืองนี้มาเป็นปีๆแล้ว ส่วนเรื่องไฟฟ้าในตัวผมไม่รู้ครับเพราะไม่มีมิเตอร์ติดที่ตัวผมรวมถึงคนอื่นๆในทีมด้วย ลืมบอกไปอย่าง เวลาใช้เครื่องเราไม่ได้ให้ใครคนนึงใช้คนเดียวนะครับ ในทีมใช้ได้ทุกคนฝึกมาแล้วทั้งนั้น เมื่อมีการชี้หรือไม่ชี้ก็ตามเราจะให้อีกคนเดินอีกครั้ง( เปลี่ยนคน) เพื่อกันความผิดพลาด เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีใครเดินแล้วชี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อตรวจสอบ โดยเดินเข้าไปดูในท่อ กลับเจอถังดับเพลิงบรรจุอยู่ในท่อ 1 ถังครับ แล้วเราก็ดำเนินการทำลายตามวิธีของเรา หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นผมได้ทำการทดลองเครื่องมือตัวนี้กับเพื่อนๆ 5 คน โดย 1.เราวางวัตถุระเบิด ทีเอ็นที ไว้ให้เห็นๆเลยระยะ 10 เมตร แล้วใส่การ์ดทีเอ็นทีให้คนที่จะเดินเห็นด้วยว่าเราใส่การ์ดอะไร จากนั้นก็ให้เดิน ปรากฏว่าชี้ได้แม่นยำติดต่อกัน3 ครั้ง( แสดงว่าผู้ใช้มีไฟสามารถใช้ได้) จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนใน ข้อที่ 2. วางทีเอ็นทีเหมือนเดิมระยะ 10 เมตร แต่ไม่ให้คนถือเครื่องรู้ว่าเป็นการ์ดอะไร รวมถึงคนใส่การ์ดด้วย โดยคว่ำหน้าการ์ดลงแล้วสับไพ่ ( เหมือนการสับไพ่ครับ ลืมบอกไปว่าการ์ดเรามี 20 การ์ดครับ แต่เป็นสารคนละชนิดกันรวมทั้งยาเสพติดด้วย) พอสับจนเป็นที่พอใจแล้วก็ใส่การ์ดเข้าไปหนึ่งแผ่นแล้วให้เดินตรวจผ่านระเบิดทีเอ็นที เดินจนพอใจ มันไม่ชี้ ก็ถอดการ์ดออกดูปรากฏว่าเป็นการ์ดทีเอ็นทีครับ( ก็งงว่าทำไมมันไม่ชี้)... จากนั้นเราก็สับการ์ดใหม่และก็ใส่เข้าไปใหม่เหมือนเดิมครั้งละ 1 แผ่น แล้วให้เดินจนพอใจปรากฏว่าชี้ครับที่ทีเอ็นที .. พอเปิดเครื่องดูการ์ดปรากฏว่าเป็นสารเสพติดครับ.( เริ่มมั่วแล้วลองเปลี่ยนคนดีกว่า).. จากนั้นเราก็เปลี่ยนคนถือเครื่องใหม่วิธีเดียวกันทุกอย่าง ผลก็ออกมาเหมือนกันทุกอย่างครับแม้แต่ตัวผมเอง... ถ้าอ.เจษได้อ่านหรือใครก็ตามที่อ่านแล้วคงเข้าใจนะว่าเพราะอะไร.. จิตใจไงครับมันชี้นำพอเราเดินใกล้ถึงวัตถุที่เราตรวจถ้าเสาเคลื่อนเล็กน้อย ( อาจจะเคลื่อนเพระลมพัดหรือเราไม่นิ่งพอ) ถ้าใจเราเราชี้นำเราก็จะปล่อยให้มันเอียงไปเรื่อยๆจนมันชี้ นี่คือเรื่องจริง... บางครั้งผมยังเคยหลอกเพื่อน(แกล้ง) เอาบัตรประจำตัวใส่เข้าไป แล้วให้มันเดินมันก็ยังชี้เลยครับ เพราะจิตใจมันชี้นำไปแล้ว... ผมกล้าท้าเลยครับทุกหน่วยงานที่คิดว่ามันใช้การได้ตามทีกล่าวอ้างไว้ตามคู่มือถ้าผมซ่อนคุณหาไม่พบหรอกครับ เพราะเคยมีกรณีอย่างนี้มาแล้วซ่อนแล้วหาไม่เจอ... *************   จัดหน้าโดยคุณ แหวะ จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 01:47:25

ความคิดเห็นที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8819409/X8819409.html#73   <<  จากคุณ จะซวยมั๊ยเรา ************** ท่านทั้งหลายรู้ไหมว่าทำไมเครื่องมือนี้ถึงมีคนเชื่อ ว่ามันมีประโยชน์ในสาม จว.ภาคใต้ อยากจะเฉลยให้ฟังครับ... เชื่อไม่เชื่อก็ลองอ่านดูนะครับ ว่าด้วยใน พื้นที่ๆอันตราย (อันตรายจากการถูกลอบยิง วางระเบิด) ใครบ้างไม่กลัวไม่มีหรอกครับ (แต่ไม่ใช่กลัวจนตัวสั่นแค่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย) แต่เครื่องมือนี้ส่วนใหญ่ใช้เกี่ยวข้องกับระเบิดเป็นส่วนใหญ่ในพื้นที่... ใช้ในกรณีใดบ้าง 1.ปิดล้อมตรวจค้น 2.ตรวจสถานที่ที่ได้รับแจ้งวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นระเบิด (ยานพาหนะ กล่องวัตถุต่างๆ) 3. ตรวจสอบพื้นที่หลังเหตุระเบิด (กลัวโดนลูกสองสาม) และอีกหลายภารกิจ ผมจะอธิบายเป็นข้อๆดังนี้ 1.ปิดล้อมตรวจค้น หมู่บ้าน (เอ..แล้วมันหลังไหนล่ะจะรู้ได้ไง) ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของผู้ต้องสงสัยหรือบ้านญาติๆของเขา มีการชี้เป้าให้เราแล้ว จากนั้นเราก็เดินชี้บ้างไม่ชี้บ้าง แต่... ยังไงก็ต้องตรวจค้นอยู่ดี... ส่วนใครจะเจตนาทำให้มันชี้หรือไม่อันนี้ผมไม่ทราบได้... 2. ตรวจวัตถุต้องสงสัยไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ มอไซต์ กล่อง... อันนี้แหละตัวปัญหา... ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะถ้ามันมีระเบิดแล้วมันไม่ชี้ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนประมาทอาจพลาดได้ แม้ว่าบางคนจะบอกว่ามันเป็นเครื่อง มือชี้เป้าอย่างคร่าวๆเท่านั้น แต่... บางคนไม่คิดเช่นนั้นครับ บางคนก็ศรัทธามันมากเหมือนพระเครื่องยังไงยังงั้นเลย แล้วถ้ามันชี้ล่ะหมายความว่าไง ผมบอกได้เลยว่า เพราะสถานการณ์แบบนี้ใครมาเดินส่วนใหญ่จะชี้เกือบทุกคนครับ เพราะการที่มันชี้แล้วดำเนินการตรวจสอบ แล้ว ไม่มีอะไรไม่มีระเบิด ก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด ไม่มีความผิด แต่ถ้าเดินแล้วไม่ชี้แล้วเกิดระเบิดขึ้น... ซวยครับ เป็นผม ผมก็ต้องบังคับให้มันชี้ไว้ก่อนไม่เสียหายตรงไหนจริงมั้ยครับ ดังนั้น จุดนี้เองที่ทำให้เครื่องมือนี้ได้รับการเชื่อถือว่าทำงานได้ เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่เป็นผู้น้อย กลัวพลาดครับกลัวจะมีความผิดเลยให้มันชี้ไว้ก่อน ถึงจะมีหรือไม่ก็ไม่เสียหาย ตรงไหน... ผมเคยเจอกับตัวเองครับ รับรองได้ 3. ตรวจพื้นที่หลังเหตุระเบิด อันนี้ก็คล้ายๆกับข้อสองครับ แต่จะลดความตรึงเครียดลงหน่อย ส่วนใหญ่ที่ผมไปมักจะไม่ชี้ครับ เพราะมันมีสิ่งบอกเหตุที่คอยชี้นำจิตใจเรา เช่น มีเจ้าหน้าที่อื่นๆอยู่เต็มไปหมด ถ้ามีลูกสองคงโดนไปแล้ว อีกอย่างหน่วยงานที่เข้ามาตรวจเค้าก็มีเครื่องมือจีทีเหมือนกัน สรุป คือ มีการตรวจหลายครั้งแล้ว ประมาณว่า เค้าเดินกันเป็นสิบคนแล้วไม่ชี้ แต่เราดันชี้คนเดียว( เราใจไม่นิ่งหรือเปล่า แน่ะ) เลยมีการชี้นำว่าไม่ให้มันชี้ก็เท่านั้นเอง สรุป ถ้าเครื่องมันใช้ได้ ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใดในโลกมันก็ต้องใช้ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องลงไปทดสอบในพื้นที่เสี่ยงหรอกครับ ไร้สาระ เหมือนกับของใช้อย่าอื่นเช่น ทีวี วิทยุ หม้อหุงข้าว ถ้ามันไม่เสีย เราเอามันไปใช้ที่ไหนก็ได้ครับที่มีไฟฟ้า เอ... หรือว่าหมอ.........ไม่รู้ ปล.ผมพิมพ์ไม่เก่งเวลาอ่านจะลำบากหน่อย โทษที **************    จัดหน้าโดยคุณ ปิยะรักษ์ จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 01:50:09

ความคิดเห็นที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8823708/X8823708.html#16 ***************** อยากให้ทุกคนได้อ่านข้อความนี้แล้วบอกต่อๆกันไป ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการตรวจรับ ถ้าใครทราบแล้วก็ขอโทษด้วยครับ จีที200 จัดเป็นยุทโธปกรณ์ อย่างหนึ่ง การจัดซื้อของพวกนี้จะมีการกำหนดคุณสมบัติ ตามที่หน่วยงานต้องการ เช่น ตรวจหาอะไรได้บ้าง ระยะเท่าไหร่ บริการหลังการขายฯลฯ และเมื่อมีการจัดส่งมอบของแล้วก็จะมีการ ตรวจรับ เพื่อดูความเรียบร้อยของอุปกรณ์นั้นๆว่า มีประสิทธิภาพตาม ที่ต้องการหรือไม่ การตรวจรับที่หน่วยผมทำก็คือ เปิดคู่มือ ดูว่าอุปกร์ครบมั้ย ถ้าครบก็เริ่มทดสอบมันตามคู่มือ โดยนำทีเอ็นทีวางระยะ 5 เมตรให้เห็นในที่โล่ง แล้วให้เจ้าหน้าที่เดินผ่านถ้ามันชี้ ก็โอเคผ่าน..ก็เท่านั้น คงไม่สามารถทำการทดลองเป็นจริงเป็นจังได้ เพราะต้องทำตามคู่มือการใช้งานเท่านั้น ดังนั้นหากมีการทดสอบ แบบอื่นๆแล้วผลออกมาว่ามันใช้งานไม่ได้ ก็ไม่มีผลอะไรกับบริษทผู้นำเข้าแต่อย่างใด เพราะได้ผ่านขั้นตอนการตรวจรับมาแล้วนั่นเอง เหมือนกับเราไปซื้อรถป้ายแดงไงครับ.. ถ้าเราขับออกมาจากศูนย์แล้วสองวัน เพิ่งมาพบรอยบุบ หรือปัญหาอื่นๆ เค้าก็ไม่เปลี่ยนคันใหม่ให้เราหรอกครับ เราก็ต้องก้มหน้าใช้มันไป ส่วนประเด็นการห้ามใช้หรือยังให้ใช้เครืองนี้หรือไม่ เมื่อมีการพิสูจน์กันแล้วก็แล้วแต่นโยบาย ของแต่ละหน่วยครับ แต่80หรือ90 เปอร์เซ้นต์ของผู้ใช้ ในพื้นที่เค้ารู้ดีครับ ว่ามีก็เหมือนไม่มี การที่มีคนชอบกล่าวอ้างว่า ถ้าไม่ใช้จีที200 แล้วทำให้เจ้าหน้าที่หมดกำลังใจนั้น ขอยืนยันครับว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมว่าจะเพิ่มขวัญและกำลังใจมากกว่า เพราะเค้าอึดอัดกับเครืองมือตัวนี้มานานแล้ว ที่ถือๆกันอยู่ก็เพราะทำตามคำสั่ง แล้วมีใครมั้ยที่อยากจะใช้เครืองมือนี้ ก็อาจจะมีบางคน นะครับที่ยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมือใหม่หัดถือ คิดว่ามีของวิเศษอยู่ในมือ ยอมรับว่าแรกๆผมก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้น ที่ศรัทธามันมาก แต่เมื่อใช้ไปนานๆ แล้วทุกคนจะเข้าใจมันเองว่าเป็นอย่างไร หลายครั้งนะครับ ที่เจ้าหน้าที่เรา ต้องสูญเสียและบาดเจ็บเพราะเครืองมือตัวนี้ เพราะไปเชื่อมันมากเกินไป แต่เค้าปิดข่าวกันก็เท่านั้นเอง จากคุณ : จะซวยมั้ยเรา จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 01:53:50

ความคิดเห็นที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8824673/X8824673.html **********************  อีกแง่มุมหนึ่งของเครื่องตรวจระเบิด GT 200 ที่พวกเราไม่เคยนึก       โดยส่วนตัวแล้วรู้จักเครื่องตรวจเนี่ย ตั้งแต่รับราชการอยู่ที่จังหวัดน่าน วันนั้นได้มีโอกาสได้นั่งรับประทานสุรากับพี่ทหารพรานที่ชอบพอกัน (เค้ามีหน้าที่เฝ้าด่านตรวจยา ตรวจลาว อะไรประมาณนั้น) และก็มีน้องทันตแพทย์อีกคนอยู่ด้วย พอเมาได้ที่ คุณพี่ทหารก็อวดสรรพคุณของเครื่องตรวจระเบิดราคาแพง (ที่แกได้รับมอบหมายให้ดูแล) ด้วยความภูมิใจ ไอ้เราสองคนก็อยากดูเด่ะ นึกว่าจะไฮโซ ประมาณ CSI ก็เลยคะยั้นคะยอให้พี่เค้าเอามาโชว์หน่อย แกก็อ้อมแอ้ม ไม่อยากให้เราเล่นเพราะว่ามันแพง (เป็นแสนๆ) ตอนนั้นก็ไม่เชื่อนะครับ ซักพักแกก็ไปหยิบมาให้เราดูจากหลังรถกระบะ ผ่างงงงง พอได้เห็นกันเท่านั้น สองหมอ ก็หัวเรากันน้ำหูน้ำตาไหล เนื่องจากประเมินแล้ว ไม่แบตตียุงที่บ้านยังจะมีกลไกซับซ้อนและน่าเชื่อถือมากกว่า แต่พอพี่ทหารทำหน้างอนๆ จริงจัง สองหมอ เลยสงบปาก สงบคำ (อ้าว ซีเรียสเรอะเนี่ย -_-") กับไอ้เครื่อง ง้องๆแง้งๆ เนี่ย ราคา แม่มเท่าเครืองตรวจ EKG สองเครื่อง แต่ทำไมมันเป็นอย่างเงี้ย และก็มีการทดสอบ ใส่การ์ด อะไรไปบ้าๆบอๆ ตามเรื่อง แต่เปล่งพลัง ออร่าเท่าไหร่ ไม่ว่าจะ ทหาร หมอไม่ฟัน หมอฟัน เครื่องก็ชี้ไปตามเรื่องตามราว สงสัยพวกเราคงเปล่งพลังกันไม่พอ เส้นพลังออร่า แตกพล่าน เพราะเมา อีกทั้งพวกเราก็ไม่มีใครพกยาบ้ามากินเหล้า ผลเลย negative พี่แกว่างั้น ก็เลย BY THE WAY เอวัง จากกินเหล้าม่วนๆ จะตีกัน(อย่าลืมว่าแกมี HK ด้วยนะ) ก็เลยออกอุบายเลิกสนใจครับ บอกพี่เก็บเหอะ เดี๋ยวพวกผมทำของหลวงพัง พี่ใช้ตังค์ทั้งปีก็ไม่หมด จบ ภาค1 สี่ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ถึงจะมีคนกล้าออกมาเปิดโปง แต่ทำไมไม่มีคนเปิดโปงเร็วกว่านั้น หรือไม่ค่อยมีคนรู้จัก ทั้งๆที่ ทหาร ตำรวจทั่วประเทศเค้าก็มีการใช้เครื่องนี้กัน แล้วจะไม่มี คนที่พอจะรู้อะไรๆ เอะใจหรือไง หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น เช่นประเด็นที่ว่า มันเป็นมากกว่าอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ???? ใช่แล้ว ผมกำลังจะบอกว่า ไอ้เครื่องเนี่ย มันกำลังทำหน้าที่ประดุจ อุปกรณ์ทางไสยศาสตร์หรือเครื่องรางรึเปล่า สมมุติว่าคุณเป็นพลทหารคนนึง ซึ่งต้องไปเดินลาดตระเวนหาระเบิด หรือล่อระเบิด และให้ไปตัวเปล่า ไม่มีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ติดตัวไปเลย มันจะเสียวไม๊ การพกดุ้น GT 200 จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ อุ่นใจ..... ถ้าคุณจะไปตรวจระเบิด คาร์บอม ให้ไปตัวเปล่ากับปืน M 16 จะไปหาอะไรที่ไหน แต่ถ้าพก ดุ้นไป เออ อาจจะตะล่อมวงที่ต้องตรวจ (จากบริเวณของทั้งโลก ลงมาเหลือที่ไอ้เสาของดุ้นมันชี้ไป) ค่อยมีจุดหมายในชีวิตหน่อย พอมีคนมาเปิดโปง ทุกอย่างพังภิณฑ์ เหมือนกับคุณมาบอกกับผมว่า พระรอดที่ ผมห้อยอยู่ตั้งแต่ลงมาทำหน้าที่ มันเก๊ว่ะ เมิงต้องโดนระเบิดเดี้ยงแน่ๆ ตะกรุดที่พกอยู่เนี่ย เก๊ทั้งเพ พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ อ้าว สราด แล้วตรูจะทำไง หนีกลับบ้านเลยดีไม๊ วันพรุ่งนี้ก็ต้องออกไปปฎิบัติงานกับไอ้เครื่องนี้ ที่ผู้บังคับบัญชาเค้าไม่อยากออกมาชี้แจงก็ด้วยเหตุผลพวกนี้รึเปล่า หรือเป็นเหตุผลที่เอาเงินหลวงไปถลุง ถ้าซื้อเครื่องจริงก็ได้เยอะโขอยู่นะครับ ปล.ถ้ารพ.ผมได้ไอ้เครื่องนี่มา จะแกะเสาเอาไปต่อทีวีที่ OPD ครับ เสาหักพอดี จากคุณ : หมอตา จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 02:25:58

ความคิดเห็นที่ 5 โหวตค่ะ! จากคุณ : poppu เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 02:58:27

ความคิดเห็นที่ 6   http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc51d8a39e487a&hl=th&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dgt200%26hl%3Dth&clk=wttpcts ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับ ที่ผมมาร่วมด้วยกระทู้นี้เป้นการแสดงประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ หลักการการทำงานก็เครื่องมือ GT-200 หาอ่านได้ทั่วไปครับ และมันจะดีมากครับถ้ามันทำได้ตามหลักการ ท่านเคยเห้น เคยสัมผัส เคยลองมันมาแล้วหรือยัง ท่านเคยลองส่องๆซนๆ แงะมันดูบ้างหรือยัง หลัก การที่เขาอ้างนะครับ เป้นหลักการดึงดูด ของสสาร ท่านสงสัยบ้างหรือไม่ว่าทำไม่ต้องอ้างถึงสสาร เพราะว่าเราๆท่านๆไม่สามารถเข้าใจได้ง่ายอย่างไรครับ เพราะ อาจจะพาลคิดไปถึงเรื่องวิทยาศาสและฟิสิก ไปโน้นเลยซึ่องเราๆท่านๆมองว่าเข้าใจอยาก ไกลตัว จะอธิบายว่าเครื่องมือชนิดนี้เป้นอย่างไร (รูปลักษ์) เจ้าเครื่องมือตัวนี้ก็จะทำจากพลาสติกซึ่งจะแสนธรรมดา เหมือนวัสดุของเล่นที่ทำจากประเทศจีน ฐานที่เขาไว้ใส่การ์ดอ่านสสารก็ไม่มีอะไรภายในเลยครับเช่นว่าเป็นช่องที่ทำ ไห้สามารถอ่านการ์ได้เช่นบัตร ATM .ไสการ์ดเข้าไปถ้าเรียกให้เราๆท่านๆเข้าใจคือ คลิ้งโค่โร่อยู่ในนั้นแหละคล้ายๆกล่องโล่งๆเขย่าก็จะมีเสียงดังๆของการ์ด ขยับไปมาไห้ได้ยินและรู้สึกได้(ได้แบบไม่ธรรมดานะครับ มากๆด้วย) ส่วนที่จับก้กลมๆข้างในกลวงเป็นท่อขึ้นไปสู่ส่วนหัวต่อไป ส่วนหัวซึ่งแสนจะธรรมดาหนักเข้าไปอีก มีเสาอากาศรับของวิทยุ FM ที่มีอยู่ตามบ้านเราๆท่านๆนั้นแหละครับ ตั้งฉากกับที่เราไว้จับเวลาตรวจหาสสาร(ตามที่เข้าอ้างตามหลักการ)เสาที่ว่า นี้จะอยู่บนจุดหมุนขนาดเท่าหัวแม่มือ นั้นก็เป็นรูปลักษ์ที่เราๆท่านๆเห็นได้ขณะผ่านจุดตรวจที่ผ่านเจ้าเครื่องมือตัวนี้ ที่นี้มาเอาแบบกระชับดีกว่านะครับ ถึงรูปแบบการทำงาน เขาอ้างว่า สามารถตรวจได้ไกล 700 เมตร ทั้งจากเครื่องบิน รถที่กำลังเคลื่อนที่ ฯลฯ ความเป้นจริง เครื่องมือ GT-200 ต้องใช้คน(จนท.)เป็นคนถือ เพื่อไห้มันทำงาน ซึ่งเขาก็อ้างอีกว่า ใช้ไฟฟ้าจากตัวคน(โอ้แม่เจ้า อะไรจะขนาดนั้น)เวลาตรวจถ้าเดิน เราๆท่านๆคิดตามนะครับ มือคนนั้นนะ จะมีความนิ่ง เที่ยงตรงไม่เอียงซ้ายเอียงขวาขนาดนั้นเลยหรือ (อันนี้ผมยืนยันว่าไม่มีทางแน่นอนเดี๋ยวผมจะบอกตอนท้ายว่าทำไม) แล้วถ้าเกิดมันชี้ไปทางไหนขึ้นมา มันก้จะเริ่มเอียงๆถ้าเราไม่หยุดเดิน มันก้จะดูเหมือนว่ามันกำลังยืนยันว่าชี้ไปตรงนั้นจริงๆ หลกความจริงอีก หน เราๆท่านๆลองทำเองที่บ้านก็ได้ครับ เมื่อวัสถุไดที่มีปลายด้านหนึ่งอยู่บนจุดหมุนถ้า ฐานมันเคลื่อนที่วัสถุที่อยู่บนจุดหมุนก้จะรักษาตำแหน่งของมันไว้ ก็ทำไห้เข้าใจว่า เครื่อง GT-200 มันชี้และยืนยันเป้าหมาย การตรวจหาบนเครื่องบิน(เฮลิคอปเตอร์)ยิ่งแล้วไหญ่ท่านลองนึกซิครับว่าวิเศษ ขนาดนั้นเลยหรือ ผมจะมาย่อยไห้ท่านได้เข้าใจดีขึ้นอีกครับ บางท่านมองข้ามไป --------- คนเราไม่สามารถรักษาระดับความเที่ยงตรงของมือที่ถือเครื่อง GT-200ได้ ความล้า ความกดดันจะสภาวะสิ่งแวดล้อม(อากาศร้อน ลมพัด ฯลฯและที่สำคัญที่สุด ความกดดันจากผู้บังคับบัญชา อันนี้สำคัญ ถ้าท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้น ท่านก็จะเข้าใจว่าหมายถึงความกดดันแบบไหน ท่านว่ามันต้องมี ลูกน้องก้ต้องว่ามี 55+) ---------ตรวจจากเฮลิคอปเตอร์ ยิ่งไปกันใหญ่ กระแสลมที่เกิดจากใบพัดไม่สามารถทำไห้สสารที่เขาอ้างฟุ้งกระจายหรือครับ สสารที่ว่านั้นมันสามารถทวนกระแสลมที่แรงได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ --------- ตรวจอาวุธ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจหรือ คนคุ้มกัน จนท.ที่ถือเครื่อง GT-200 ก้พกอาวุธครับ หรือเครื่องมือตัวนี้สามารถแยกแยะออกครับว่า นั้นฝ่ายเดียวกันตรูไม่ชี้ (55+) ---------อันนี้ฮ่าสุดครับ ตั้งแต่ผมเริ่มพบป่ะกับเจ้าGT-200 ผมก้เริ่มว่างแผนที่จะพิสจน์มันเงียบๆ การพิสูจน์ครั้งแรกของผม ผมแอบพก ระเบิดลูกเกลี้ยง(บอกไว้ก่อนนะครับ ผมก็เจ้าหน้าที่)เดียวจะหาว่าผมพกได้อย่างไร ไปรวมกลุ่มอยู่กับคนอื่นๆ ในขณะที่เขาเอาการ์ด ตรวจหาระเบิดใส่เข้าไปในเครื่องผมอยู่ห่างประมาณ 30 เมตร แปลกแต่จริง มันกลับชี้ไปบ้านที่เราทำการตรวจค้น(ผมแอบฮ่าซิครับตรูพวกเดียวกันมั้ง) บ้านหลังนั้น หลังจากเครื่องชี้แล้ว จนท.ก็ทำการตรวจค้นร่วม 1 ชม.ไม่พบเจอสิ่งผิดปกติแต่อย่างได ทำไงได้ละเครื่องชี้ไปแระ เจอก็เจอ ปุ๋ยไงครับ อยู่ใต้ถุนบ้าน เสียงดังกันใหญ่ เอ้ยๆๆปุ๋ยนี้เองที่ชี้ รอดตัวไป(GT-200 ทำตรูแระ)ชาวบ้านไม่ใช้พนักงานห้างใน กทม.เกษตกรก็ต้องมีปุ๋ยซิครับ ลองขึ้นไปภาคอื่นซิครับ บางบ้า ยูเรีย เป้น สิบกระสอบ ที่เก็บไว้ แต่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แค่ 1 กิโลกรับ ท่านก็มีสิทธิแล้วครับที่จะถุกเชิญตัวโดยเจ้าหน้าที่ และก้อีกหลายๆครั้งครับมันก้ไม่เคยชี้ระเบิดที่ผมพกแต่อยางได ผมพูดบางท่านอาจจะมองว่าผมปรักปรำ GT-200 เกินไป ได้ครับท่าน ผมเลยทำการทดลองเพื่อพิสูจน์อย่างจริงจัง อุปกรณ์ พระเอก(GT-200) 2 ตัว (ใช้ความสนิทส่วนตัวยืมเพื่อนๆครับแต่ไม่ขอบอกนะครับ ว่าหน่วยไหนบ้างเด๋วเพื่อนผมเขาจะซวยเอา ข้อหา นายไม่ได้สั่งที่ดันไปทำกันเอง) การ์ดสารพัดการ์ดที่มากับเครื่องมือ M-26(ระเบิดสงหารบุคคลหรือที่เรียกกันว่า ลูกเกลี้ยงนั้นแหละครับ) ปุ๋ยยูเรีย 1 ถ้วยแกง เสื่อผ้าที่ยังไม่ไดซักหลักจากไปยิงปืนที่สนามยิงปืนในวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันที่ ทดสอบ เป็นวันจันทรืครับ) น้ำมันดีเซลผสมกับปุ๋ยยูเรีย การทดสอบ เอาGT-200 ตั้งบนโต๊ะโดยมี จนท.ที่ผมรู้จักเป้นคนจับโดยเอาฐานของเครื่องยันใว้กับพื้นของโต๊ะ โดยมีผมเอาสิ่งต่างที่จะทำการทดลองเดินวนรอบๆเป็นวงกลม ระยะห่างที่เริ่ม เริมที่ระ 20 เมตร จทน.บอกว่าเอาการ์ที่ตรวจระเบิดก่อน จนท.ก้ทำการบรรจุการ์เรียบร้อย ผมเริ่มเดินช้าๆไปเรื่อยๆ แรกๆเครื่องมือยังเฉย นานๆไปเริ่มมีปกฺกริยาครับ แต่ไม่ใช่เครื่อง GT-200 ครับ แต่เป้นผมครับเหงื่อไหลครับ ไร้การตอบสนองจากเครื่องมือครับ เราทำการทดลองไปเรื่อยๆครับทุกอย่างผ่านหมด แต่ใร้ซึ้งการตอบสนองจากเจ้าเครื่องมือตัวนี้ ใช้เวลาทำการทดลอง 4 ชม.กว่าๆกับเจ้า GT-200 ทั้ง 2 ตัว ผลคือ ไม่ได้ผลแม้แต่ชิ้นเดียว หลุง จากนั้นผมเป้นคนจับเจ้า GT-200 เอง แต่ใช้วิธีเดิน แค่ผมขยับมือเอียงแค่นิดเดียวไห้ไปทางไหน มันเอียงไปทางนั้นอย่างไม่น่าเชือว่าจะชี้ไปได้ขนาดนั้น ซึ้งทิสทางที่ว่าไม่อะไรเลย ท่ายคงแย้งว่าก็เมื่อกี้ยังมีอุปกรณ์ทดสอบอยู่นิ ผมลืมบอกท่านไปครับว่า ผมเอามาเดินที่ สนามก๊อฟในค่ายแถวๆปัตตานี้นี้นแหละครับ โล่งแจ้งเตียน มันชี้ไปได้ตามที่เราต้องการที่ต้องการไห้มันชี้ 555+ สรุปได้หลายอย่างครับ ที่ ต้องการไห้มันชี้ แต่ที่สำคัยที่สุดคือคนที่อยู่ใต้สภาวะความกดดันจิตใต้สำนึกที่ถูกกระตุ้น โดยความกลัว กลัวว่าผู้บังคับบัญชา ท่านคงเห้นนะครับว่า คนที่ถือเครื่องมืนนั้นเป้นผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งนั้น หากว่าเขาทำอะไรไม่เข้าตาก็ย่อมมีผลต่ออนาคตของเขาด้วย อันนี้ผมเห้นใจครับแ และอยากจะฝากไปถึงทุกๆท่านนะครับที่แจ้งว่าผ่าน การอบรม มาแล้ว ท่านกล้าหรือเปล่าครับ ที่จะพิสูจน์เครื่องมือที่ท่านไปอบรมมา ต่อหน้าสื่อมวลชล ผมว่าท่านไม่กล้าหรอกครับเพราะท่านก็รู้อยู่ว่าความจริงคืออะไร อนาคตท่านดับแน่ๆครับ เขาซื้อมาเครื่อง 900,000-1,200,000 บาท ทั้ง 3 จชต.มีอยู่หลายร้อยเครื่องท่าน คูณเอาเองครับ ว่ามูลค่าเท่าไหร่ ค่า คอมผ่านใครม่งท่านไม่อยากรู้แน่ๆ เครื่องนี้ว่าแต่ 900,000-1,200,000 บาท เลยครับ ผมผ่านมันมาแล้ว ให้ฟรี ยังไม่เอาเลยครับ ที่มาเผยไม่ได้มีอคติไดๆเพียงแต่สงสารและเห้นใจกับเพื่อนๆ จนท.ที่ต้องแบกภาระที่ตัวเองไม่ได้สร้างขึ้นมาและเสี่ยงฝากความหวังไว้กับ เศษพลาสติดและเสาอากาศ วิทยุ FM ที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เพราะว่ามันทำงานไม่ได้จริงๆเลย ตรวจค้นแต่ละครั้งที่เจอ รถมา 1000 คัน ท่านตรวจทุกคัน มันก็ต้องเจอแหละครับ ไม่เจอปืน ก็ยาแก้ไอ แต่พอเจอท่านก็บอกว่าเพราะเจ้า GT-200 ท่านให้เครดิตมันหรือคนที่ซื้อเกินไปหรือปล่าวครับ ท่านเปลี่ยนการ์ดตอนไหน เพราะ ฉนั้นผมไม่ขอพูดว่าเจ้า GT-200 ทำงานผิดพลาด เพราะมันไม่ได้ทำอะไรเลย ข้อดีของมันที่ทำไห้ผมเห้นด้วยและยอมรับมันมีข้อเดียว คือผลทางจิตวิทยาต่อผู้ที่จะทำความผิดที่ไม่รู้เรื่อง GT-200 จริงๆเท่านั้น เขาจะแสดงออกมาในทางกาย ทำไห้เจ้าหน้าที่ มีมีความสังเกตุรอบคอบ ตรวจจับตรงนี้ได้ ไม่ใช่เพราะว่า GT-200 อะไรหรอกครับ ถ้าหากว่าเครื่องมือชนิดนี้มีผลทางจิตวิทยา ก้ไม่จำเป็นที่ ต้องจ่ายหลาย ร้อยล้านไห้กับต่างชาติคนที่ขาย GT-200 ผมว่ามันแพงเกินไปครับ เรียกไห้สวย ก็เสียโง่ค่าโง่นั้นแหละครับ แต่คนที่ได้ค่าคอมฯไม่สนใจ เพราะไม่ได้มานั่งมานอน กับ จนท.หรือประชาชนในฟื้นที่ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในส่วนที่ห่างไกลความเสี่ยง ดังที่พวกเราต้องเผชิญ ยืนยันครับ GT-200 มีค่าน้อยกว่าพัดลมตั้งโต๊ะครับ ยืนยัน โอกาสหน้าจะมาใหม่ครับ จากคุณ : ก้อปมา เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:03:15 A:203.82.66.200 X:

ความคิดเห็นที่ 7 จัดหน้าให้ใหม่ (โดยคงตัวสะกดต่างๆ ไว้) ************* http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc51d8a39e487a&hl=th&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dgt200%26hl%3Dth&clk=wttpcts ต้อง ทำความเข้าใจก่อนนะครับ ที่ผมมาร่วมด้วยกระทู้นี้เป้นการแสดงประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ หลักการการทำงานก็เครื่องมือ GT-200 หาอ่านได้ทั่วไปครับ และมันจะดีมากครับถ้ามันทำได้ตามหลักการ ท่านเคยเห้น เคยสัมผัส เคยลองมันมาแล้วหรือยัง ท่านเคยลองส่องๆซนๆ แงะมันดูบ้างหรือยัง หลักการที่เขาอ้างนะครับ เป้นหลักการดึงดูดของสสาร ท่านสงสัยบ้างหรือไม่ว่าทำไม่ต้องอ้างถึงสสาร เพราะว่าเราๆท่านๆไม่สามารถเข้าใจได้ง่ายอย่างไรครับ เพราะอาจจะพาลคิดไปถึงเรื่องวิทยาศาสและฟิสิก ไปโน้นเลยซึ่องเราๆท่านๆมองว่าเข้าใจอยาก ไกลตัว จะอธิบายว่าเครื่องมือ ชนิดนี้เป้นอย่างไร (รูปลักษ์) เจ้าเครื่องมือตัวนี้ก็จะทำจากพลาสติกซึ่งจะแสนธรรมดา เหมือนวัสดุของเล่นที่ทำจากประเทศจีน ฐานที่เขาไว้ใส่การ์ดอ่านสสารก็ไม่มีอะไรภายในเลยครับ เช่นว่าเป็นช่องที่ทำไห้สามารถอ่านการ์ได้เช่นบัตร ATM. ไสการ์ดเข้าไปถ้าเรียกให้เราๆท่านๆเข้าใจคือ คลิ้งโค่โร่อยู่ในนั้นแหละ คล้ายๆกล่องโล่งๆเขย่าก็จะมีเสียงดังๆของการ์ด ขยับไปมาไห้ได้ยินและรู้สึกได้(ได้แบบไม่ธรรมดานะครับ มากๆด้วย) ส่วนที่จับก้กลมๆข้างในกลวงเป็นท่อขึ้นไปสู่ส่วนหัวต่อไป ส่วนหัวซึ่งแสนจะธรรมดาหนักเข้าไปอีก มีเสาอากาศรับของวิทยุ FM ที่มีอยู่ตามบ้านเราๆท่านๆนั้นแหละครับ ตั้งฉากกับที่เราไว้จับเวลาตรวจหาสสาร(ตามที่เข้าอ้างตามหลักการ) เสาที่ว่า นี้จะอยู่บนจุดหมุนขนาดเท่าหัวแม่มือ นั้นก็เป็นรูปลักษ์ที่เราๆท่านๆเห็นได้ขณะผ่านจุดตรวจที่ผ่านเจ้าเครื่องมือตัวนี้ ที่นี้มาเอาแบบกระชับดีกว่านะครับ ถึงรูปแบบการทำงาน เขาอ้าง ว่า สามารถตรวจได้ไกล 700 เมตร ทั้งจากเครื่องบิน รถที่กำลังเคลื่อนที่ ฯลฯ ความเป้นจริง เครื่องมือ GT-200 ต้องใช้คน(จนท.)เป็นคนถือ เพื่อไห้มันทำงาน ซึ่งเขาก็อ้างอีกว่า ใช้ไฟฟ้าจากตัวคน(โอ้แม่เจ้า อะไรจะขนาดนั้น) เวลาตรวจถ้าเดิน เราๆท่านๆคิดตามนะครับ มือคนนั้นนะ จะมีความนิ่ง เที่ยงตรงไม่เอียงซ้ายเอียงขวาขนาดนั้นเลยหรือ (อันนี้ผมยืนยันว่าไม่มีทางแน่นอนเดี๋ยวผมจะบอกตอนท้ายว่าทำไม) แล้วถ้าเกิดมันชี้ไปทางไหนขึ้นมา มันก้จะเริ่มเอียงๆ ถ้าเราไม่หยุดเดิน มันก้จะดูเหมือนว่ามันกำลังยืนยันว่าชี้ไปตรงนั้นจริงๆ หลกความจริงอีกหน เราๆท่านๆลองทำเองที่บ้านก็ได้ครับ เมื่อวัสถุไดที่มีปลายด้านหนึ่งอยู่บนจุดหมุน ถ้าฐานมันเคลื่อนที่วัสถุที่อยู่บนจุดหมุนก้จะรักษาตำแหน่งของมันไว้ ก็ทำไห้เข้าใจว่า เครื่อง GT-200 มันชี้และยืนยันเป้าหมาย การตรวจหาบนเครื่องบิน(เฮลิคอปเตอร์)ยิ่งแล้วไหญ่ ท่านลองนึกซิครับว่าวิเศษ ขนาดนั้นเลยหรือ ผมจะมาย่อยไห้ท่านได้เข้าใจดีขึ้นอีกครับ บางท่านมองข้ามไป -- คนเราไม่สามารถรักษาระดับความเที่ยงตรงของมือที่ถือเครื่อง GT-200ได้ ความล้า ความกดดันจะสภาวะสิ่งแวดล้อม(อากาศร้อน ลมพัด ฯลฯ และที่สำคัญที่สุด ความกดดันจากผู้บังคับบัญชา อันนี้สำคัญ ถ้าท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้น ท่านก็จะเข้าใจว่า หมายถึงความกดดันแบบไหน ท่านว่ามันต้องมี ลูกน้องก้ต้องว่ามี 55+) -- ตรวจจากเฮลิคอปเตอร์ ยิ่งไปกันใหญ่ กระแสลมที่เกิดจากใบพัด ไม่สามารถทำไห้สสารที่เขาอ้างฟุ้งกระจายหรือครับ สสารที่ว่านั้นมันสามารถทวนกระแสลมที่แรงได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ -- ตรวจอาวุธ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจ หรือคนคุ้มกัน จนท.ที่ถือเครื่อง GT-200 ก้พกอาวุธครับ หรือเครื่องมือตัวนี้สามารถแยกแยะออกครับว่า นั้นฝ่ายเดียวกันตรูไม่ชี้ (55+) -- อันนี้ฮ่าสุดครับ ตั้งแต่ผมเริ่มพบป่ะกับเจ้าGT-200 ผมก้เริ่มว่างแผนที่จะพิสจน์มันเงียบๆ การพิสูจน์ครั้งแรกของผม ผมแอบพก ระเบิดลูกเกลี้ยง (บอกไว้ก่อนนะครับ ผมก็เจ้าหน้าที่)เดียวจะหาว่าผมพกได้อย่างไร ไปรวมกลุ่มอยู่กับคนอื่นๆ ในขณะที่เขาเอาการ์ดตรวจหาระเบิดใส่เข้าไปในเครื่อง ผมอยู่ห่างประมาณ 30 เมตร แปลกแต่จริง มันกลับชี้ไปบ้านที่เราทำการตรวจค้น (ผมแอบฮ่าซิครับตรูพวกเดียวกันมั้ง) บ้านหลังนั้น หลังจากเครื่องชี้แล้ว จนท.ก็ทำการตรวจค้นร่วม 1 ชม.ไม่พบเจอสิ่งผิดปกติแต่อย่างได ทำไงได้ละเครื่องชี้ไปแระ เจอก็เจอ ปุ๋ยไงครับ อยู่ใต้ถุนบ้าน เสียงดังกันใหญ่ เอ้ยๆๆปุ๋ยนี้เองที่ชี้ รอดตัวไป(GT-200 ทำตรูแระ) ชาวบ้านไม่ใช้พนักงานห้างใน กทม.เกษตกรก็ต้องมีปุ๋ยซิครับ ลองขึ้นไปภาคอื่นซิครับ บางบ้า ยูเรีย เป้น สิบกระสอบ ที่เก็บไว้ แต่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แค่ 1 กิโลกรับ ท่านก็มีสิทธิแล้วครับที่จะถุกเชิญตัวโดยเจ้าหน้าที่ และก้อีกหลายๆครั้งครับมันก้ไม่เคยชี้ระเบิดที่ผมพกแต่อยางได ผมพูดบางท่านอาจจะมองว่าผมปรักปรำ GT-200 เกินไป ได้ครับท่าน ผมเลยทำการทดลองเพื่อพิสูจน์อย่างจริงจัง อุปกรณ์ - พระเอก(GT-200) 2 ตัว (ใช้ความสนิทส่วนตัวยืมเพื่อนๆครับ แต่ไม่ขอบอกนะครับ ว่าหน่วยไหนบ้าง เด๋วเพื่อนผมเขาจะซวยเอา ข้อหา นายไม่ได้สั่งที่ดันไปทำกันเอง) - การ์ดสารพัดการ์ดที่มากับเครื่องมือ - M-26(ระเบิดสงหารบุคคลหรือที่เรียกกันว่า ลูกเกลี้ยงนั้นแหละครับ) - ปุ๋ยยูเรีย 1 ถ้วยแกง - เสื่อผ้าที่ยังไม่ไดซักหลักจากไปยิงปืนที่สนามยิงปืนในวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันที่ ทดสอบ เป็นวันจันทรืครับ) - น้ำมันดีเซลผสมกับปุ๋ยยูเรีย การ ทดสอบ เอาGT-200 ตั้งบนโต๊ะโดยมี จนท.ที่ผมรู้จักเป้นคนจับ โดยเอาฐานของเครื่องยันใว้กับพื้นของโต๊ะ โดยมีผมเอาสิ่งต่างที่จะทำการทดลองเดินวนรอบๆเป็นวงกลม ระยะห่างที่เริ่ม เริมที่ระ 20 เมตร   จทน.บอกว่าเอาการ์ที่ตรวจระเบิดก่อน จนท.ก้ทำการบรรจุการ์เรียบร้อย ผมเริ่มเดินช้าๆไปเรื่อยๆ แรกๆเครื่องมือยังเฉย นานๆไปเริ่มมีปกฺกริยาครับ แต่ไม่ใช่เครื่อง GT-200 ครับ แต่เป้นผมครับเหงื่อไหลครับ ไร้การตอบสนองจากเครื่องมือครับ เราทำการทดลองไปเรื่อยๆครับทุกอย่างผ่านหมด แต่ใร้ซึ้งการตอบสนองจากเจ้าเครื่องมือตัวนี้ ใช้เวลาทำการทดลอง 4 ชม.กว่าๆกับเจ้า GT-200 ทั้ง 2 ตัว ผลคือ ไม่ได้ผลแม้แต่ชิ้นเดียว หลังจากนั้นผมเป้นคนจับเจ้า GT-200 เอง แต่ใช้วิธีเดิน แค่ผมขยับมือเอียงแค่นิดเดียวไห้ไปทางไหน มันเอียงไปทางนั้นอย่างไม่น่าเชือว่าจะชี้ไปได้ขนาดนั้น ซึ้งทิสทางที่ว่าไม่อะไรเลย ท่ายคงแย้งว่าก็เมื่อกี้ยังมีอุปกรณ์ทดสอบอยู่นิ ผมลืมบอกท่านไปครับว่า ผมเอามาเดินที่สนามก๊อฟในค่ายแถวๆปัตตานี้นี้นแหละครับ โล่งแจ้งเตียน มันชี้ไปได้ตามที่เราต้องการที่ต้องการไห้มันชี้ 555+ สรุปได้หลาย อย่างครับ ที่ ต้องการไห้มันชี้ แต่ที่สำคัยที่สุดคือคนที่อยู่ใต้สภาวะความกดดัน จิตใต้สำนึกที่ถูกกระตุ้น โดยความกลัว กลัวว่าผู้บังคับบัญชา ท่านคงเห้นนะครับว่า คนที่ถือเครื่องมืนนั้นเป้นผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งนั้น หากว่าเขาทำอะไรไม่เข้าตาก็ย่อมมีผลต่ออนาคตของเขาด้วย อันนี้ผมเห้นใจครับ และอยากจะฝากไปถึงทุกๆท่านนะครับที่แจ้งว่าผ่าน การอบรม มาแล้ว ท่านกล้าหรือเปล่าครับ ที่จะพิสูจน์เครื่องมือที่ท่านไปอบรมมาต่อหน้าสื่อมวลชล ผมว่าท่านไม่กล้าหรอกครับเพราะท่านก็รู้อยู่ว่าความจริงคืออะไร อนาคตท่านดับแน่ๆครับ เขาซื้อมาเครื่อง 900,000-1,200,000 บาท ทั้ง 3 จชต.มีอยู่หลายร้อยเครื่องท่าน คูณเอาเองครับ ว่ามูลค่าเท่าไหร่ ค่าคอมผ่านใครม่งท่านไม่อยากรู้แน่ๆ เครื่องนี้ว่าแต่ 900,000-1,200,000 บาท เลยครับ ผมผ่านมันมาแล้ว ให้ฟรี ยังไม่เอาเลยครับ ที่มาเผยไม่ได้มีอคติไดๆ เพียงแต่สงสารและเห้นใจกับเพื่อนๆ จนท. ที่ต้องแบกภาระที่ตัวเองไม่ได้สร้างขึ้นมา และเสี่ยงฝากความหวังไว้กับเศษพลาสติดและเสาอากาศ วิทยุ FM ที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เพราะว่ามันทำงานไม่ได้จริงๆเลย ตรวจค้นแต่ละครั้งที่เจอ รถมา 1000 คัน ท่านตรวจทุกคัน มันก็ต้องเจอแหละครับ ไม่เจอปืน ก็ยาแก้ไอ แต่พอเจอท่านก็บอกว่าเพราะเจ้า GT-200 ท่านให้เครดิตมันหรือคนที่ซื้อเกินไปหรือปล่าวครับ ท่านเปลี่ยนการ์ดตอนไหน เพราะ ฉนั้นผมไม่ขอพูดว่าเจ้า GT-200 ทำงานผิดพลาด เพราะมันไม่ได้ทำอะไรเลย ข้อดีของมันที่ทำไห้ผมเห้นด้วยและยอมรับมันมีข้อเดียว คือผลทางจิตวิทยาต่อผู้ที่จะทำความผิดที่ไม่รู้เรื่อง GT-200 จริงๆเท่านั้น เขาจะแสดงออกมาในทางกาย ทำไห้เจ้าหน้าที่มีมีความสังเกตุรอบคอบ ตรวจจับตรงนี้ได้ ไม่ใช่เพราะว่า GT-200 อะไรหรอกครับ ถ้าหากว่าเครื่องมือชนิดนี้มีผลทางจิตวิทยา ก้ไม่จำเป็นที่ต้องจ่ายหลายร้อยล้านไห้กับต่างชาติ คนที่ขาย GT-200 ผมว่ามันแพงเกินไปครับ เรียกไห้สวย ก็เสียโง่ค่าโง่นั้นแหละครับ แต่คนที่ได้ค่าคอมฯไม่สนใจ เพราะไม่ได้มานั่งมานอน กับ จนท. หรือประชาชนในฟื้นที่ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในส่วนที่ห่างไกลความเสี่ยง ดังที่พวกเราต้องเผชิญ ยืนยันครับ GT-200 มีค่าน้อยกว่าพัดลมตั้งโต๊ะครับ ยืนยัน โอกาสหน้าจะมาใหม่ครับ จากคุณ : poppu เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:24:49

ความคิดเห็นที่ 8 http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc51d8a39e487a&hl=th&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dgt200%26hl%3Dth&clk=wttpcts *********************** จากคุณ  waaleaw   ถามดูว่าที่อกมาวิภาควิจารณ์กันทำไปเพื่ออะไรกันเคยรองจับแล้วรึยัง ได้เคยสัมผัสหรือเคยเห็นรึเปล่า   สำหรับตัวผเองได้ทำงานในพื้นที่เคยใช้เครื่องนี้แล้วถามตัวผมเองว่าหาได้มั้ย ผมตอบเลยว่าได้  แต่มันก็ได้เต็มร้อยอย่างที่คิดหรอกมันเป็นแค่บอกตำแหน่ง ลดเป้าหมายและของพื้นที่ให้แคบลง   เจ้าเครื่องนี้ผมได้ไปอบรมการใช้ขั้นสูงคุณๆลองคิดดูว่า  ผมไม่ทราบเลยว่า ของที่ต้องหาเป็นอะไรแล้วว่ามันซ่อนอยู่ที่ไหน  แต่ปรากฏว่าผมหาเจอและ ของที่หาได้ตรงกับที่ครูได้ตั้งโจทย์ไว้ทั้งที่ครูยังไม่ได้เฉลยอะไรเลยเป็นอย่างนี้ หลายครั้งมากและที่ว่าเครื่องเดินไม่เจอตามความคิดผมนะ   มันเป็นที่ผู้ใช้ เพราะว่าผู้ที่ใช้ส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหากันมากเพราะว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ฝึก หรืออบรมอย่างที่ถูกต้องเหตุเป็นเพราะว่าที่เราใช้เครื่องไม่ได้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุดป็นเพราะอะไร   เพราะตามหน่วยทหารต่างๆในพื้นที่มี เพียงเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนที่ไปอบรม  และเจ้าหน้าที่ที่ไปอบรมก้ไม่ได้เอาความรู้ ความสามารถที่ได้ไปอบรมมาๆใช้งาน  อย่างเช่นหน่วยของผมไม่ได้ให้ผมไปใช้ เจ้าเครื่องGT200แต่เอามาทำหน้าที่อื่น   อยากรู้ว่าเค้าใช้อะไรคิดกันเหมือนกัน เพราะคนที่อบรมไม่ได้ทำงาน   แต่เอาคนที่ไม่ได้อบรมมาใช้งาน.....ขอระบาย ความรู้สึกหน่อยและกัน   บอกตรงๆใช้คนผิดประเภทก็เลยเกิดปัญหาอย่างนี้หน่ะแหละ  และนักวิชาการณ์ออกมาบอกทำไมสมมุติว่าเครื่องนี้มันใม่ได้จริงๆแต่ก็ เป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ก่อการร้ายกล้าที่จะมาวางระเบิดหรือกระทำการอื่นๆ แต่ว่าต่อไปนี้คงจะไม่ได้  และโชคดีของโจรมันคราวหลังเห็นเครื่องนี้ก็คง ไม่สนใจอะไรและคิดจะวางก็วางตามใจชอบ  แหมถ้าผมเป็นโจรนะผมคงจะขอบคุณนักวิชาการณ์คนนี้มากกกกกกกกกกๆๆๆๆๆ เลย   ยังไงก้ช่วยพิจารณาด้วยและกันครับและหวังว่าจะช่วยเป็นสื่อให้หน่วย เฉพาะกิจในพื้นที่หันมาพิจารณาเอาเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถด้านนี้ไปใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีกว่าเอามาทำงานอะไรที่ถนัดดีกว่าจริงมั้ยครับ From .....ทหาร3จังหวัดชายแดนใต้(ของแท้ตัวเป็นๆ) ********************   ถ้าไปดูที่ทางลิงค์ต้นทาง จะมีบอกอีเมล์ นะ  ใครสงสัยไรก็ว่ากันตามไป ผมมีหน้าที่ไปก๊อปมาให้อ่าน  ส่วนอันไหนน่าเชื่อถือหรือไม่น่าเชื่อ ก็แล้วแต่ วิจารณาณแต่ละคนครับผม  ปล.  เข้ามาจัดหน้าให้อ่านง่ายครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 03:43:26 จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:36:48

ความคิดเห็นที่ 9   http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000011977&#Comment ************ ยะลา - แม่ค้าเขียงหมูยะลา เหยื่อระเบิด จยย.บอมบ์ ตลาดสด เผยสาเหตุเอาตรวจรอด เพราะไม่เชื่อเครื่อง จีที 200 นางรุ่งอรุณ โนวัฒน์ อายุ 45 แม่ค้าขายหมู หัวมุมตลาดพิมลชัย ในตลาดสดยะลา เปิดเผย สาเหตุเอารอดได้จากระเบิด จยย.บอมบ์ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 52 ที่ผ่านมาว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังขายเนื้อหมูหน้าเขียงอยู่ มีชายวัยรุ่น นำรถมาจอดที่หน้าร้าน ตนได้ไล่ให้ไปจอดที่อื่น ชายคนดังกล่าว จึงนำรถไปจอด ที่ข้างเขียงของพี่สาว ตนจึงได้แจ้งให้ จนท.ทหาร เข้ามาตรวจสอบ เมื่อ จนท.ทหาร นำเครื่อง จีที 200 มาตรวจสอบ ปรากฏว่า เครื่องไม่ได้ชี้ ซึ่งแสดงว่าไม่มีวัตถุระเบิดถูกใส่ไว้ในรถ หลังจากปฏิบัติภารกิจเสร็จ ทหารกลุ่มดังกล่าวได้ออกไปจากพื้นที่ แต่ด้วยที่ตนเองไม่เชื่อในศักยภาพของเครื่องจีที 200 จึงได้นำวัสดุที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ลังพลาสติกใส่ผลไม้บรรจุกระดาษ และเศษไม้ที่หาได้เป็นที่กำบัง อีกประมาณ 10 นาที เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ร้านค้าเสียหาย แต่ตัวเอง และพี่สาวที่ระวังอยู่แล้วรอดตายอย่างปฏิหาริย์ ซึ่งมาวันนี้หลายคนออกมายืนยันว่า เครื่องดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล เหมือนที่ตนคิดตั้งแต่แรก จึงเป็นกระแสกันไปทั่วว่า มีราคาสูงเกินความเป็นจริง นางรุ่งอรุณ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า อีกว่า ความเสียหายของร้านที่เกิดระเบิดในครั้งนั้น ถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาแม้แต่บาทเดียว เพราะทางสำนักงานเยียวยาขอใบเสร็จของความเสียหาย แต่ตนไม่สามารถหามาได้ เนื่องจากสิ่งของที่เสียหายจะเป็นแค็บหมู ซึ่งตนทำเองที่บ้าน ซึ่งความเสียหายในวันนั้นไม่น้อยกว่า 3 หมื่นบาท จากคุณ : ก้อปมา เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:37:45 A:203.82.66.203 X:

ความคิดเห็นที่ 10 จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8824882/X8824882.html ค่ะ จากคุณ : poppu เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 04:06:57

ความคิดเห็นที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8694200/X8694200.html ผมนี่แหละไปอบรมสิบวัน  มาสองรอบแล้ว  ไม่ขั้นสูงพอรึไง  หาเจอแค่ตอนฝึกไม่ได้หมายความว่าใช้จริงจะเก่งนะ จากคุณ : Decepticon เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 09:52:14

ความคิดเห็นที่ 12   เข้ามาอ่าน จากคุณ : NormalHuman เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 09:54:58 A:125.27.42.156 X: TicketID:250418

ความคิดเห็นที่ 13 1.ปิดล้อมตรวจค้น 2.ตรวจสถานที่ที่ได้รับแจ้งวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นระเบิด (ยานพาหนะ กล่องวัตถุต่างๆ) 3. ตรวจสอบพื้นที่หลังเหตุระเบิด (กลัวโดนลูกสองสาม) และอีกหลายภารกิจ ขอตอบหน่อยละกัน จากประสบการณ์ ก็เท่าที่ใช้ จีที 200 (เห็น ตำรวจไม่มีปัญญาซื้อหลอก งบน้อย แค่เบี้ยเลี้ยง ยังตกแล้วตกอีก) ผลการทำงานของมัน 50/50 เรารู้อยู่แล้ว เห็นมันตรวจเจอ ก็หลายครั้ง อย่างกรณี วางเคโมหน้า สภ.บันนังสตา มันก็ชี้ เลยวิ่งหลบแทบไม่ทัน ดีที่มันไม่ทำงาน แต่ที่ไม่ทำงานเลยก็มีหลายครั้ง ทั้งเหตุที่ ศาลา 8 เหลี่ยม eod เสียชีวิต 2 นาย หรือ ที่ตลาด ซึ่งทางชุดพิสูจหลักฐานหรือแม้แต่ ชุดเก็บกู้ก็ทราบดี แต่ นี้ก้เป็นเพียงอุปกรณ์ ส่วนควบเท่านั้น อุปกรณ์อื่น ก็จะใช้ร่วมด้วย และเท่าที่รู้ มันใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้นะครับ ที่จะจับกุมเขาได้ 1.การปิดล้อมตรวจค้น น้อยครั้งมากที่เราจะใช้ จีที 200 ร่วมในการทำการตรวจค้น เพราะ ตำรวจไม่มีใช้ครับ (มีเฉพาะ จนท.อีโอดี) เราจะมีบ้านเป้าหมาย ซึ่ง จะได้ด้วยอะไรมั้งนั้น ขอเป็นความลับในบางส่วน ที่แน่ๆ ก้คนในหมุ่บ้านนั้นละ โทรบอก หลายครั้งก็เป็น พ่อแม่ ลูกเมีย ของผู้ต้องสงสัยนั้นละโทรบอก จนท.ให้ไปเชิญตัวมา 2.ตรวจสถานที่ที่ได้รับแจ้งวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นระเบิด (ยานพาหนะ กล่องวัตถุต่างๆ) เราจะไม่ใช้ เจ้าจีที 200 เท่านั้นแน่นอน เพราะ เบื้องต้น เราจะหาเจ้าของก่อน  แจ้งเจ้าของให้เคลื่อนย้ายสิ่งของตัวเองจาก พท.ดังกล่าว ใช้คนในการมองหาวัตถุต้องสงสัย สุนัข(ซึ่งเจ้าตัวนี้ละ คือปัญหา เพราะ พท.ส่วนใหญ่เขาเป็น มุสลิม เขาเกลียดหมา และหมาก็ไม่ใช่ฝึกกันง่ายๆ เพียงพอต่อการลงพื้นที่ทุกจุดได้) เคยขอที่รอเป็น ชม.กว่าจะมา หมาเนี้ย (แต่ผมก็เชื่อหมามากกว่า เจ้า จีที 200 อีก เอางบประมาณมาฝึกหมาดีกว่า ซื้อเจ้าเครื่อง บ้าๆนั้นอีก) 3. ตรวจสอบพื้นที่หลังเหตุระเบิด (กลัวโดนลูกสองสาม) และอีกหลายภารกิจ มันเป็นสิ่งจำเป็น เพราะ เราแทบจะไม่มีอุปกรณ์อะไรเลยในการค้นหามัน (คงต้องกลับไปวิธีเดิมๆ ฝึกหมาลงมาทำงาน ถ้าจะดีกว่า) จากคุณ : foxloveth เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 10:27:06

ความคิดเห็นที่ 14 .. จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 11:50:00

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตทำลิงค์นะครับ  จะได้ตามหาอ่านได้ง่ายๆ  เพราะบางหัวข้อกระทู้ บางคนอาจจะข้ามไป  แต่มีผู้มาให้ข้อมูลที่ดีและมีประโยชน์จากตัวจริง http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8825668/X8825668.html จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:21:24

ความคิดเห็นที่ 16   ถึงคุณ foxloveth ขอตอบหน่อยละกัน จากประสบการณ์ ก็เท่าที่ใช้ จีที 200 (เห็น ตำรวจไม่มีปัญญาซื้อหลอก งบน้อย แค่เบี้ยเลี้ยง ยังตกแล้วตกอีก) ผลการทำงานของมัน 50/50 เรารู้อยู่แล้ว เห็นมันตรวจเจอ ก็หลายครั้ง อย่างกรณี วางเคโมหน้า สภ.บันนังสตา มันก็ชี้ เลยวิ่งหลบแทบไม่ทัน ดีที่มันไม่ทำงาน แต่ที่ไม่ทำงานเลยก็มีหลายครั้ง ทั้งเหตุที่ ศาลา 8 เหลี่ยม eod เสียชีวิต 2 นาย หรือ ที่ตลาด ซึ่งทางชุดพิสูจหลักฐานหรือแม้แต่ ชุดเก็บกู้ก็ทราบดี แต่ นี้ก้เป็นเพียงอุปกรณ์ ส่วนควบเท่านั้น อุปกรณ์อื่น ก็จะใช้ร่วมด้วย และเท่าที่รู้ มันใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้นะครับ ที่จะจับกุมเขาได้ 1.การปิดล้อมตรวจค้น น้อยครั้งมากที่เราจะใช้ จีที 200 ร่วมในการทำการตรวจค้น เพราะ ตำรวจไม่มีใช้ครับ (มีเฉพาะ จนท.อีโอดี) เราจะมีบ้านเป้าหมาย ซึ่ง จะได้ด้วยอะไรมั้งนั้น ขอเป็นความลับในบางส่วน ที่แน่ๆ ก้คนในหมุ่บ้านนั้นละ โทรบอก หลายครั้งก็เป็น พ่อแม่ ลูกเมีย ของผู้ต้องสงสัยนั้นละโทรบอก จนท.ให้ไปเชิญตัวมา 2.ตรวจสถานที่ที่ได้รับแจ้งวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นระเบิด (ยานพาหนะ กล่องวัตถุต่างๆ) เราจะไม่ใช้ เจ้าจีที 200 เท่านั้นแน่นอน เพราะ เบื้องต้น เราจะหาเจ้าของก่อน แจ้งเจ้าของให้เคลื่อนย้ายสิ่งของตัวเองจาก พท.ดังกล่าว ใช้คนในการมองหาวัตถุต้องสงสัย สุนัข(ซึ่งเจ้าตัวนี้ละ คือปัญหา เพราะ พท.ส่วนใหญ่เขาเป็น มุสลิม เขาเกลียดหมา และหมาก็ไม่ใช่ฝึกกันง่ายๆ เพียงพอต่อการลงพื้นที่ทุกจุดได้) เคยขอที่รอเป็น ชม.กว่าจะมา หมาเนี้ย (แต่ผมก็เชื่อหมามากกว่า เจ้า จีที 200 อีก เอางบประมาณมาฝึกหมาดีกว่า ซื้อเจ้าเครื่อง บ้าๆนั้นอีก) 3. ตรวจสอบพื้นที่หลังเหตุระเบิด (กลัวโดนลูกสองสาม) และอีกหลายภารกิจ มันเป็นสิ่งจำเป็น เพราะ เราแทบจะไม่มีอุปกรณ์อะไรเลยในการค้นหามัน (คงต้องกลับไปวิธีเดิมๆ ฝึกหมาลงมาทำงาน ถ้าจะดีกว่า) จากคุณ : foxloveth เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 10:27:06 ไม่ทราบว่าคุณเคยใช้เครื่องจีที200 หรือเปล่าและใช้บ่อยมั้ย การทำงานของแต่ละหน่วยงานจะแตกต่างกัน ของผมนั้นถ้ามีปิดล้อมเมื่อไร ก็ต้อง จีที200 เป็นพระเอก..ตามด้วย fido ทุกครั้งครับ ส่วนเหตุวัตถุต้องสงสัย นั้น การที่จะสงสัยว่ารถยนต์หรือสิ่งอื่นๆ เป็นวัตถุต้องสงสัยหรือไม่ เค้าก็ต้องตรวจสอบทะเบียน หาเจ้าของ ฯลฯ แล้วครับถึงจะแจ้งเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการต่อไป ซึ่งไอ้เจ้า จีที200 มันอ้างสรรพคุณว่าสามารถตรวจจับได้ระยะไกล เราจึงจำเป็นต้องใช้มันตรวจสอบก่อนเสมอ ทั้งๆที่รู้ว่า ไม่ว่ามันจะชี้หรือไม่เราก็ ไม่เชื่อมันอยู่ดี ( คือต้องไม่ประมาท) แต่ที่ยังใช้กันอยู่เพราะกลัว มีความผิด เพราะไม่ทำตามคำสั่ง ส่วนการตรวจพื้นทีหลังระเบิดนั้น ถึงแม้จะไม่มีจีที200 ก็ไม่เป็นอุปสรรคครับ เค้ามีหลักการ ทำงานอยู่แล้ว เช่นเครื่องตัดสัญญานต่างๆ ถ้ามีประสิทธิภาพจริงก็ช่วยได้เยอะ รวมถึง พวก mine detector ด้วย จะทำให้เราไม่เดินไปเหยียบกับระเบิด สำหรับผมแล้วไม่มีจีที200 ก็ทำงานได้ครับ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยสำหรับผม แต่คนอื่นผมไม่รู้..ว่าเค้าเป็นอย่างไร จากคุณ : จะซวยมั้ยเรา เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 14:11:25 A:118.172.243.80 X:

ความคิดเห็นที่ 17 จากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8825016/X8825016.html จากคุณ : poppu เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 14:19:56

ความคิดเห็นที่ 18 ส่งให้อ่านทาง FW Mail ดีกว่า ช่วยๆกันนะครับ จากคุณ : tihnov เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 14:34:55