ความคิดเห็นที่ 1   กล้องพวกที่ถ่ายได้ FPS สูง ๆ จะมีประโยชน์ตรงนำมาทำ slow ครับ จะเห็น motion ที่นิ่มนวล หรือนำไปทำการทดลองทางวิทย์ ฯ ใด ๆ ได้จากการ slow ด้วย FPS สูงมาก ๆ ส่วนในวงการภาพยนต์ หรือ Home therter นั้น ไม่เห็นประโยชน์ของ FPS สูงกว่า 24 , 30 FPS เลยน่ะครับ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 22:59:09

ความคิดเห็นที่ 2   อย่างภาพนี้ 600 FPS .... เห็นยางบิดตัวชัดเจนมาก จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:04:09

ความคิดเห็นที่ 3   อันนี้ภาพจากกล้อง Casio EX-F1 ที่ 600 FPS จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:06:19

ความคิดเห็นที่ 4   มือถือยังทำ 120 f/s ได้เลย แต่ส่วนใหญ่ทำแค่ 30 f/s ก็พอ เกินกว่านี้สายตามองไม่ค่อยออก ก็เลยไม่รู้จะทำให้เปลืองเม็มทำไมกัน 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:13:08

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพยนตร์น่ะ น่าทำมากกว่า 24 ได้แล้วนะ.. เวลาแพนกล้องแล้วปวดกบาลมาก แต่เหตุผลที่ไม่ทำคิดว่าเพราะมันเปลืองมากกว่า ต้องมาเปลี่ยนทั้งระบบการถ่ายทำ การฉายภาพ แม้ทุกวันนี้จะเข้ายุคดิจิตอลกันแล้ว แต่โรงฉายฟิลม์ก็ยังใช้กันอยู่ จากคุณ : The Jia (MR.Pokkk) เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:30:00

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ผมมีจุดสังเกตอย่างหนึ่งกับหนังโรงที่ฉาย 24 FPS ครับ คือหนังโรงจะตั้งความไวชัตเตอร์ไว้ที่ระดับหนึ่งเสมอ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาเมื่อมีอะไรเคลื่อนไหวจะเห็นเบลอๆ (Motion Bru) มันทำให้เกิดความสมจริง(ในหนัง) สังเกตเบื้องหลังการถ่ายทำ เวลาชกเวลาเตะดูเหมือนคนเล่นกัน แ่ต่พอออกมาเป็นภาพในหนัง ดูเป็นต่อสู้สมจริงอย่างมากเลย อันนี้ผมว่าไม่ใช่แค่เรื่องแสงมุม แต่เป็นเรื่องของ 24 FPS กับ Motion bru สงสัยว่า ถ้าภาพเคลื่อนไหวอยู่ที่ 60 FPS มันจะยังดูสมจริงอยู่หรือเปล่า จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 00:10:43

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่ามันเยอะเกินความจำเป็นครับ จากคุณ : hukdern เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 00:33:51

ความคิดเห็นที่ 8 เออ ผมเห็นด้วยกับ คห.5 นะ  เวลาแพนกล้องไวๆแล้วปวดกบาลมากๆ แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 01:00:02 จากคุณ : กรุณาเก็บให้พ้นมือเด็ก เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 00:59:17

ความคิดเห็นที่ 9   จรีิงๆไม่ต้องอนาคตหรอก ปัจจุบันถ้าจะถ่ายให้มากกว่า 24fpsก็ได้ อาจเป็นเพราะมันเปลืองฟีล์ม แต่ถ้าฉายเป็นดิจิตอลถึงไฟล์จะใหญ่ขึ้นก็ไม่น่าจะเปลืองที่เก็บอะไรนัก ก็ไม่รู้มีผู้กำกับคนไหนกล้าเปลี่ยนระบบ เพราะมันอาจเสียบรรยากาศของหนังโรงไปก็ได้ แล้วถ้าถ่ายแบบ 60fps จะเป็นยังไง ก็คงคล้ายๆดูละครทางทีวีมั๊ง เพราะทีวีใช้ระบบ 50i,60i จากคุณ : Salted Egg เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 02:37:02

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเขามั่นใจว่าตลาดมีกำลังซื้อมากพอที่จะทำ ก็คงทำนั่นแหละครับ แต่ผมว่าคงไม่ใช่ เร็วๆนี้.... อ้อ กล้องที่เขียนว่า 60 fps ดูดีๆนะครับ บางอันจะเป็นโหมด Interlaced ซึ่งหมายถึง 60 field per sec ไม่ใช่ frame ซึ่งก็คือ 30 frame per sec (เพราะ Interlaced จะ Scan แบบ Field เส้นคู่และคี่สลับกันไป) จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 04:37:28

ความคิดเห็นที่ 11   แต่เกมส์คอมส่วนใหญ่(ถ้าเครื่องคนเล่นไม่กาก) จำนวน FPS ก็เกิน 30-40กันเป็นปรกตินี่หน่า จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 05:08:19 A:124.157.137.63 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 12 หาชื่อคุณ Hana สิครับ เอาภาพสโลว์ มาให้พวกเราดูบ่อยๆ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:16:14

ความคิดเห็นที่ 13 #9 หมายถึงภาพเคลื่อนไหวครับ ทีวีถึงจะแสดงผล 120 FPS แต่ภาพเคลื่อนไหวที่ฉายก็อยู่ที่ 25-30 เหมือนเดิม (ส่วนเกมถ้าเครื่องของใคร render ได้ต่ำกว่า 60 FPS ถือว่ายังไม่ได้มาตรฐานนะ อิอิ) ภาพยนต์ 60 FPS เทคโนโลยีตอนนี้ทำได้สบายๆ แต่ที่อยากรู้คือมันจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภาพยนต์ในอนาคตหรือเปล่า หรือ 24,25,30 FPS มันจะกลายเป็นมาตรฐานของภาพยนต์ไปตลอด? จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:25:46

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเป็นมาตรฐานการฉายด้วยฟิล์ม คงยากที่จะไปทำอะไรได้แล้ว เพราะหมายถึงการต้องไปเปลี่ยนมาตรฐาน(ที่ใช้กันมา 60-70 ปีแล้ว)ของเครื่องฉายทั้งโลก เมื่อคำนึงถึงการที่กำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนถ่ายไปสู่การฉายด้วยระบบ Digital ในอนาคตอันใกล้(รึเปล่า?)ด้วยแล้ว คงไม่มีใครไปลงทุนกับตรงนี้เป็นแน่ แต่ถ้าเป็นยุคดิจิตอลสมบูรณ์แบบแล้ว ผมว่าน่าจะทำได้โดยไม่ยุ่งยากเกินไป -ตัว Hardware (เครื่องฉาย) น่าจะทำมารองรับ Frame rate ต่างๆกันได้อยู่แล้ว เหมือนมอนิเตอร์ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้แหละ -ตัว File ข้อมูล ก็(คาดหวังว่า)น่าจะทำให้มีลักษณะ backward compatible คือถ้าเป็นเครื่องฉายที่รองรับ Frame rate,resolution สูงสุด ก็คือแสดงผลได้เต็มที่ 100% แต่พอเอาไปเล่นกับเครื่องฉายรุ่นเก่า แม้Frame rate,resolution ของตัวเครื่องฉายจะไม่ถึง แต่ก็ยังสามารถเล่นได้อยู่ คุณภาพก็เป็นตามความสามารถของเครื่องไป ปอลอ 1 คคห.ส่วนตัวล้วนๆ ยังไม่ไ้ด้ค้นคว้าข้อมูลมายืนยัน ปอลอ 2 ใจจริงๆไม่ชอบระบบฉายดิจิตอลเลย ทั้งที่ต้นทุนระยะยาวถูกลง แต่กลับถูกใช้เป็นข้ออ้างในการขึ้นค่าตั๋วเฉยเลย --" จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 11:16:42

ความคิดเห็นที่ 15   ใช่แล้ว คุณ อะธีลาส คุณ Hana ใช้กล้อง Casio EX-F1 ถ่ายได้ 600 FPS ... slow นิ่ม ๆ เลยแหละ อยู่ญี่ปุ่นคงอากาศเย็นสบายดีแท้ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 11:47:37

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ กล้องตัวนี้ ยังมีขายอยู่ไหม ผมหามาหลายที่แล้วไม่เจอเลยง่ะ ค่อนข้างเก่าแล้วตั้งแต่ปี 2008 เลยแค่ 6 ล้าน pixel จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:36:11

ความคิดเห็นที่ 17 อยากได้ Hi-Speed Full HD 1920x1080 ที่ 600-2000 FPS แต่สงสัยคงหลายแสนถึงล้านบาท =_= แบบนี้... จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:54:50

ความคิดเห็นที่ 18 24P มันเป็นเสน่ห์ของกล้อง film ครับ ต่อให้ถ่ายด้วย digital จะ 30 60 p หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ยังมีบางคนที่ยังรักเสน่ห์ของมัน แปลงมันกลับเป็น 24p อยู่ดี จากคุณ : underground1 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:59:30

ความคิดเห็นที่ 19   อย่าว่าอย่างนู้น อย่างนี้เลยนะครับ เวลาดูหนังในโรงหนัง ผมรู้สึกเลยว่า ภาพโคตรกระตุกครับ ยิ่งเวลาแพนกล้องดูแล้วปวดหัวอย่างแรง อารมณ์เหมือนดูจอที่ Refresh Rate 60 อ่ะครับ พูดถึง Refresh Rate ขอนอกเรื่องนิดนึง เข้าใจว่าอาการรำคาญแบบนี้จะเป็นกับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ เพราะ สายตาแยก Refresh Rate ได้ค่อนข้างชัดเจน อย่างผม Refresh Rate 60 นี่ใช้ไม่ได้เลย ปวดตาอย่างแรง ถามน้องที่นั่งดูอยู่ข้างๆว่ารู้สึกไหม คำตอบคือ ไม่เห็นรู้สึกเลย ขั้นต่ำของผมจะประมาณ 72-80 ถ้า 70 ใช้ได้ไหม ตอบว่าก็ใช้ได้ครับ แต่ถ้าใช้นานๆก็จะเริ่มรู้สึกเหมือนกัน จากคุณ : a1255 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:10:42

ความคิดเห็นที่ 20 แบบนี้ ที่หลายคนเวียนหัวเวลาเล่นเกมแนว FPS หรือดูหนังบางเรื่องเช่น cover field ก็มีสาเหตุมาจาก refresh rate เหมือนกันสิครับ? จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:47:40

ความคิดเห็นที่ 21 เล่นเกมแล้วเวียนหัวไม่เสมอไปครับ มันเกิดจากภาพในเกมด้วย ยกตัวอย่างเช่น Half Life 2 เป็นต้น เล่นแล้วเวียนหัว แต่กลับกัน CSS ใช้ Source Engine เหมือนกัน กลับเล่นได้สบายๆ จากคุณ : underground1 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 18:57:10

ความคิดเห็นที่ 22 มันเป็น speed play-back ที่ต่างกันเท่านั้นครับ ส่วนจะถ่ายตั้งแต่สปีด 1 ถึงแสน ยังไงเวลา play-back ก้อ VDO = 25 Film = 24 ครับ ไม่งั้นเวลาขั้นตอน post production จะวายป่วงพอควร แค่งานโฆษณา 30 วินาที for tvc เมื่อนำไปออนแอร์ตามโรงหนังเสียงยังไม่ค่อยตรงกับปากเลยครับ จากคุณ : sound engineer เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 22:11:59

ความคิดเห็นที่ 23 ความเร็วของฟิล์มฉาย ที่ได้ทดลองจนเป็นที่ลงตัวว่าเป็นอัตรา ความเร็วที่การเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติตรงกับที่ตามองเห็นที่ สุดคือ 24 - 25 เฟรมต่อวินาที แต่ได้เป็นที่ลงมติให้เป็นมาตร ฐานคือ 24 เฟรมต่อวินาที การเพี้ยนมาน้อยมากจนไม่สามารถ จับได้ด้วยสายตาและการฟังด้วยหูตามธรรมชาติ ถ้าฟิล์มวิ่ง 25 เฟรมต่อวินาที การมองเห็นยังใกล้เคียงกับธรรม ชาติ แต่จะทำให้ภาพยนตร์มีความยาวมากขึ้น (วินาทีละ 1 เฟรม และเสียงจะทุ้มขึ้นนิดหน่อย) เมื่อเทียบกับ 24 เฟรมต่อวินาที ความจริงฟิล์มจะวิ่งเป็น 1000 เฟรมต่อวินาทีก้อได้ แต่การเคลื่อน ไหวจะช้ามา ยิ่งมากเฟรมยิ่งช้าไปจนถึงกับจะนิ่งอยู่กับที่นั่นเลย ทีนี้ ถ้าลดเฟรมลง ภาพก็จะเคลื่อนไหวเร็วขึ้น เช่นเดียวกันกับ เสียง ก้อจะกลายเป็นระบบ ชิบมั้งไป...เหมือนหนังชาลี แชปปลิน ในสมัยก่อน ที่วิ่งเพียงแค่ 16 เฟรมต่อวินาที... เฟรมของทีวีกับฟิล์มมันไม่เหมือนกัน ทีวี ระบบ Pal คือ 25 เฟรม ต่อวินาที มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการสแกนให้เกิดภาพกับ เฮิร์ซของกระแสไฟฟ้า จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 15:22:12