ความคิดเห็นที่ 1 ชอบนั่งน่ะครับถ้าบรรยากาศในรถดีกว่านี้นิดนึง แล้วไม่ต้องลุ้นว่าจะถึงรึป่าว เพราะการได้นั่งรถโดยสาร เราสามารถ ดูวิถีชีวิตของคนอื่นทั้งบนรถและข้างทาง จากคุณ : dust su เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 08:06:33

ความคิดเห็นที่ 2 ถามว่าสิ้นเปลืองมั้ย ก็คิดว่าไม่หรอกครับถ้าเราขับแบบไม่เร็วเกินไป เพราะอะไร?? ก็เพราะว่าสาเหตุที่เราต้องนั่งรถมันมาจากการที่เราเดินไปไม่ไหว หรืออาจจะไหวแต่ใช้เวลานาน เราก็เลยเอาทรัพยากรน้ำมันมาใช้ เพื่อแลกกับทรัพยากรเวลา ซึ่งทรัพยากรเวลานั้นมีค่ามากเหมือนกัน ไม่ได้ด้วยไปกว่าราคาค่าน้ำมันเลย อย่าลืมว่าเวลาของมนุษย์นั้นมีจำกัดเหมือนกัน จึงจำเป็นต้องใช้ให้คุ้มค่า ผมจึงมองว่ามันไม่ได้สิ้นเปลืองเลยครับ จากคุณ : Sleeper MoNKeY 2nd เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 08:18:12

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ mint_la คิดถูกแล้วครับ โลกของเราได้ถึงยุคหายนะ ตั้งแต่เมื่อมนุษย์ได้เริ่มพัฒนาเครื่องจักรหรืออุตสาหกรรมแล้วล่ะครับ เพราะเครื่องจักร เป็นเครื่องทุ่นแรงได้มาก การใช้งานก็สะดวกสบายและง่ายขึ้น และที่สำคัญ ประสิทธิภาพในการทำงานของมัน สามารถให้ประสิทธิผลได้มาก ได้ในเวลาอันสั้น เช่น มนุษย์ก่อนที่จะมีเลื่อยตัดไม้ ก็ใช้ขวานตัด การใช้ขวานตัด ต้องเหนื่อยมากๆ กว่าจะได้ต้นไม้แต่ละต้น ดังนั้น ทำให้มนุษย์ในสมัยนั้นคิดว่า ตัดมากก็เหนื่อยมาก เหนื่อยมากก็หิวบ่อย ดังนั้น ตัดมาเท่าที่จำเป็นต้องใช้ดีกว่า ดังนั้นต้นไม้ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ จึงสามารถเจริญเติบโตมาได้ทัน          แต่สมัยนี้ พอมีเลื่อยตัดไม้หรือเครื่องจักรที่ออกแบบมาสำหรับการตัดต้นไม้โดยเฉพาะ มาแทนที่ มันสามารถตัดต้นไม้ 1 คนโอบได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ และคนๆนึง วันนึงตัดแบบนี้ได้เป็นร้อยๆต้น และดังนั้น จึงเกิดความคิดที่ว่า ในเมื่อสามารถทำผลผลิตได้มาก ก็นำไปค้าขายในเชิงพาณิชย์ซะเลย และในเมื่อนำมาทำในเชิงพาณิชน์ ซึ่งความต้องการมีทั่วโลก ทรัพยากรต่างๆที่มีอยู่อย่างจำกัด ก็ต้องหมดลงไปอย่างรวดเร็วตามไปด้วยนั่นเอง และการผลาญทรัพยากรโดยใช้เครื่องจักร และยิ่งนำทรัพยากรนั้นมาทำในเชิงพาณิชย์ ผมฟันธงได้เลยว่า ไม่มีทรัพยากรไหนจะเจริญงอกงามหรือฟื้นฟูตัวเองได้ทันครับ ลองนำหลักการนี้ ไปคิดกับการกระทำอื่นๆดูก็ได้ครับ มนุษย์ยุคเครื่องจักรเครื่องจักรนี่แหล่ะ สำหรับโลกแล้ว ถือเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริงของโลกเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 08:26:24 จากคุณ : Styer เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 08:22:51

ความคิดเห็นที่ 4 การได้มองสองข้างทาง การดำเนินชีวิต อาคารบ้านเรือน เป็นสิ่งที่ถ้าขับรถเองคงทำได้ลำบากครับ ผมแทบจะไม่เคยหลับเลย  แต่รถเมล์เลือกนั่งแบบแอร์ตลอดครับ คันใหม่ๆหน่อย รู้ตัวว่ามีปัญหากับสภาวะบนถนนกรุงเทพจริงๆ ถ้าระยะสั้นๆ 4-5 ป้ายรถไม่ติดนี่พอไหว แต่ถ้าเส้นทางยาวๆ รถติด กลับถึงบ้าน อ่อนเพลีย มึนๆ ไปเลยทีเดียว จากคุณ : ปัจเอนก เจกชน เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 08:25:29

ความคิดเห็นที่ 5   คิดแล้ว...เดินตามพ่อหลวงของเราก็ดีนะครับ "เศรษฐกิจพอเพียง" อยู่อย่างพอดี มีอย่างพอใช้ มากไปก็แบ่งกัน จากคุณ : T.M.master เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 08:30:15

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ชี้ไปที่ 4 สงสัยคุณคงโดนกระเป๋ารถเมล์มอมยาแล้วล่ะ   ถ้าได้นั่งรถเมล์ในต่างจังหวัดจากอำเภอนึงไปอีกอำเภอนึง จะได้บรรยากาศมากเลย  ไม่เชื่อลองดูได้  รถไม่มีแอร์ด้วย จากคุณ : bermAggie เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 08:32:49

ความคิดเห็นที่ 7 #3 ตอนนี้คุณยังใช้เกวียนอยู่รึปล่าว จากคุณ : zardic เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:04:01

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ผมว่าการยืนรอเกินครึ่งชั่วโมง และต้องต่อรถ 3 ต่อ ก็เป็นสิ่งที่เป็นข้อเสียใหญ่ของระบบขนส่งมวลชนแบบไทยๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องดิ้นรนที่จะขับรถกันไปเองน่ะสิครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:21:22

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเลือกได้ ขอเป็นปั่นจักรยานครับ ได้ออกกําลังกายด้วย สมองปลอดโปร่งไม่ง่วง จากคุณ : pendulum swings เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:21:46

ความคิดเห็นที่ 10 ไปนั่งสาย 8 ได้ครบ ทั้งวิทยาศาสตร์ และศาสนา จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:24:22

ความคิดเห็นที่ 11 นั่งรถเมล์มาตลอด เพิ่งจะขับรถมาสี่ปี ตอนนี้รถเพิ่งเข้าอู่สองสามอาทิตย์แล้ว ต้องกลับมาขึ้นรถเมล์อีกครั้ง เจอเหตุการณ์บนรถเมล์น่ากลัวๆแทบทุกวัน เมื่อวันมะรืน มีคนทะเลาะกันบนรถเมล์มีทำร้ายกันด้วยเลือดไหลเต็มเลย ต้องลงจากรถกันหมด เราก็วิ่งแจ้นไปหาตำรวจในป้อมก็ไม่มี ต้องโทรไป 1644 ขากลับเจอคนรอรถเมล์สติแตก ไล่ด่าคนขับรถเมล์ กับกระเป๋า เพราะรถเมล์สายนี้ไม่ยอมจอดรับหลายคัน วันก่อนก็ช่างกลตีกัน วันก่อนนู้นก็ผู้โดยสารทะเลาะกันอีก วันก่อนกระเป๋าทะเลาะกับผู้โดยสาร แถมยังมีคนสติไม่ดีขึ้นรถเมล์รบกวนคนบนรถอีก -"- ฯลฯ รู้สึกไม่ปลอดภัยเลย สมัยนี้คนอารมณ์รุนแรงกันจัง แต่มันก็ประหยัดดีนะ ชอบขึ้นรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนอะ ช่วยแบ่งเบาภาระคนเงินเดือนน้อยได้เยอะแยะเลย แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 09:42:58 จากคุณ : นังหนูซู่ซ่า เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:40:58

ความคิดเห็นที่ 12 นั่งรถเมล์แล้วไม่โดนแท็กซี่มอมยา จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:44:35

ความคิดเห็นที่ 13 เจอผู้หญิงน่ารัก บนรถเมล์สาย 556 เมื่อวาน ^^ แต่ก็แค่นั้น ถ้าคนนั้นเข้ามาอ่าน อยากบอกว่า คุณน่ารักจังเลยยยย ที่คุณนั่งมองผมเล่นโทรศัพท์อยู่ง่ะ จากคุณ : LinkinArt เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:49:44

ความคิดเห็นที่ 14 ประหยัดเงินและช่วยประหยัดพลังงานชาติครับ นั่งหลายๆ คนด้วยกันดี ได้เดินไปป้ายรถเมล์ออกกำลังกาย ได้มองวิถีชีวิตของผู้คนในรถเมล์ด้วย แต่ที่ไม่ชอบอย่างเดียวที่สิงคโปร์นี่คือ กลิ่นตัวจากบางชาติครับ รุนแรงมากเกินไป อ้อให้มองเป็นข้อดีก็ได้ ฝึกความอดทนอดกลั้นต่อกลิ่น หึหึ จากคุณ : Kristianto Engorgio เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 09:54:13

ความคิดเห็นที่ 15 ผมมีรถขับ แต่ก็ยังชอบนั่งรถเมล์อยู่ เพราะเวลาเดินทางไปไหนที่เป็นแหล่งธุรกิจ  พอรถจอดป้ายแล้วผมก็โดดลงไปเดินได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถ ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดนะ วนไปเถอะ ครึ่งชั่วโมงอย่างต่ำ เวลารถติด ผมอยู่ในรถก็ได้แต่ฟังเพลงแก้เหงา แต่ถ้าอยู่บนรถเมล์ ผมสามารถอ่านหนังสือหรือเล่น NDS ไปได้ (เวลาเล่นเกมภาษา ช่วงเก็บเลเวลที่ดีที่สุดคือตอนผมอยู่บนรถเมล์) ยิ่งถ้าเป็นปอ.คนน้อย ๆ ไม่เปิดเพลงเสียงดัง วิ่งไกล ๆ นะ สวรรค์เลยล่ะ... จากคุณ : Verm เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 10:49:50

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับผมแล้ว นั่งรถเมล์ทำให้จำเส้นทางกรุงเทพฯได้ง่ายกว่าขับรถเอง อยากรู้เส้นทางต่างๆก็นั่งรถเมล์เปลี่ยนสายไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จำได้เอง ผมชอบนั่งรถเมล์ก็ตรงนี้นี่เอง จากคุณ : ปรานทยา เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 11:05:03

ความคิดเห็นที่ 17 เราว่านั่งรถเมล์แล้วจะจำเส้นทางได้ดีมากๆ นะ เพราะว่า เราเองนั่งรถเมล์หลายต่อ ได้โอกาสสังเกตว่า แยกไหนเลี้ยวไปทางลัดตรงไหนได้บ้าง ถ้าขับรถเองเราก็ต้องตาม gps อย่างเดียว มันนำทางผิดออกบ่อย 555++ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 11:19:31

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยครับ ถ้า  "ได้่นั่ง" จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 11:30:09

ความคิดเห็นที่ 20 ขึ้นรถเมล์ไทยทำให้ไม่แก่ เพราะอาจตายก่อนแก่ ถ้าคนขับซิ่ง จากคุณ : pla2 เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:04:01

ความคิดเห็นที่ 21 ประเด็นที่จะพูด คคห.14 พูดไปหมดแล้วครับ ^^" แต่ตอนนี้ เจอราคาน้ำมันบ้าเลือดเข้าไป ก็ต้องกลับมานั่งรถเมล์เป็นหลักอยู่ดี -_______-" จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:09:06

ความคิดเห็นที่ 22 หลายคนอย่าปากว่าตาขยิบ ทุกวันนี้คุณใช้เทคโนโลยีอยู่หรือเปล่า ถ้าใช้อยู่ก็อย่าพูดเสียดีกว่า ยกเว้นคุณ จะใช้เกวียนแทนรถกับเดินเท้าไปทำงานทุกวัน ดื่มน่ำคลอง และจุดเทียนไขแทนหลอดไฟ ตรบใดที่เรายังใช้ เทคโนโลยีก็ต้องยอมรับอีกด้านหนึ่งของมัน ข้อดีของการนั่งรถเมล์ ผมว่าคงใช้ไม่ได้กับประเทศนี้ ถ้าคุณพึ่งระบบขนส่งมวลชนโดยเฉพาะรถเมล์ใน กทม. คุณมิอาจจะรู้ได้เลยว่า วันไหนคนขับตีนผีจะพาคุณไปทำความรู็จักกับเสาไฟฟ้าข้างทาง หรือเขียวนรกจะ ยกล้อข้ามไปเกาะฝั่งตรงข้ามเพื่อแนะนำให้รู้จักกับหน้ารถแคมรี่ที่ขับสวนมา หรือถ้าคุณขึ้นช้า ไม่ใช่เรื่องยาก เลยที่จะได้ไปนอนให้ล้อหลังทับ ที่สำคัญคือไม่มีใครมารับผิดชอบด้วยถ้าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น มีให้เห็น อยู่หลายครั้แล้วว่า ขสมก. ปัดความรับผิดชอบและบอกให้ผู้เสียหายไปฟ้องร้องเอาอีก คนที่ตายก็ตายไปนี่ ถ้าเป็นประเทศที่เขาเจริญแล้ว ไม่ใช่เจริญแต่ปากบอกว่าไม่เจริญทางวัตถุแต่เจริญทางจิตใจจริงเหรอ? คงจะ ฟ้องร้องเอา ขสมก. ล้มละลายไปแล้ว ชีวิตคนไทยมันราคาถูก ไม่มีค่าอะไร นอกเสียจากว่าคุณมีเงิน เงินทำ ได้ทุกอย่างแม้กระทั่งแต่งรถเลียนแบบตำรวจยังกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยได้ คนขับรถ และหลายคนที่ใช้รถ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าเหตุผลเดียวของคนที่ขับรถ หรือดิ้นรนให้มีรถให้ได้คือ ความสะดวกสบายเพียงอย่างเดียว ทำไมหลายคนเงินเดือนน้อยนิดแต่ก็ต้องกระเสือกกระสนให้มีรถขับให้ได้ ถ้าผมมีเงินมากพอผมก็อยากให้แม่ผมขับรถเหมือนกัน เพราะชีวิตผมมีค่ามากกว่าที่จะเอาไปฝากไว้กับคน ขับที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่ไหน เฉกเช่นเดียวกันกับชีวิตของคนในครอบครัวของผมด้วยเช่นเดียวกัน ผมซื้อ รถก็เพื่อประกันความปลอดภัยในการเดินทางของผมด้วย มิใช่แต่เรื่องความสะดวกสบายเพียงอย่างเดียว ขอยกตัวอย่างคำตอบที่เคยตอบมาแล้วให้อ่านกัน ระบบขนส่งมวลชนห่วยยังไม่เท่าไหร่ รถเก่า สกปรก ผุพัง แอร์ร้อน คนขับหรือกระเป๋าพูดจาไม่ดีนี่ยังยอมรับได้ แต่ความปลอดภัยที่หาไม่ได้เลยนี่ ทำให้คิดหนักเหมือนกันนะครับท่าน!!! ไม่ใช่เฉพาะแต่รถเมล์ ยังรวมถึงเรือและแทกซี่ด้วย คนที่พอจะมีทางเลือกบ้าง อาจจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือมีรายได้ในแต่ละเดือนมากพอที่จะเจียดไปส่งเงินค่า งวดรถเขาก็ไม่อยากไปเสี่ยงทั้งนั้นแหละครับ ชีวิตคุณ คุณจะยอมเสี่ยงกับระบบขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ไหม? ใครๆ ก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้นแหละครับ คุณเคยขึ้นรถเมล์เขียวนรกไหม? เวลามันขับปาดซ้ายทีขวาที แซงกันเหมือนจะอยู่ในสนามแข่ง คนขับก็ หน้าตาเหมือนเพิ่งออกมาจากคุก ไม่รู้ว่าวันไหนมันจะพาผมไปรู้จักกับเสาไฟฟ้าข้างทางหรือรถเมล์คันอื่น แบบถึงพริกถึงขิงถึงตายถึงพิการ ให้ตังค์ก็ไม่ทอนอ้างว่าไม่มีเศษสลึง ขึ้นลงรถช้าก็โดนด่าพ่ออีก เวลา ขึ้นก็ไม่รู้ทำไมจะต้องกระชากรถไปข้างหน้าตลอด คนมันเยอะทางก็แคบ คนลงก็มีจะให้ตูเหาะขึ้นไปหรือ อย่างไรจะได้เร็วทันใจพ่อประคุณคนขับหน้าโจร สมมติผมเป็นหญิงสาววัยทำงานอายุสัก 20 ปลายๆ หน้าตาดี คุณคิดว่าผมจะยอมเสี่ยงนั่งรถเมล์หรือ รถแทกซี่กลับบ้านคนเดียวไหม? วันดีคืนดีแทกซี่มันหื่นขึ้นมาโดลากไปข่มขืนฆ่าหมกป่าไม่รู้เรื่อง หรือ ไม่ก็โดนทำมิดีมิร้ายบนรถเมล์ นี่ยังไม่นับหลายๆ คนที่ต้องเข้าซอยลึกมาก พอสามทุ่มแล้วรถสองแถว หมด คุณจะให้นั่งรถเมล์มาลงหน้าปากซอยแล้วเดินเข้าไปเหรอ หรือว่านั่งพี่วินดีล่ะ พี่วินเองนะก็ใช่ย่อย ไว้ใจได้เสียเมื่อไหร่ หลายคนต้องอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้มีญาติพ่อแม่พี่น้องมาคอยรับหน้าปากซอยได้ ถ้าเขามีทางเลือกที่จะผ่อนรถเอาไปใช้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ทำไมเขาจะไม่เลือก พวกที่บอกว่าระบบขนส่งมวลชนแย่เป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจลองมาให้ญาติผู้หญิงของคุณมาเจอสถานการณ์ แบบนี้บ้าง ยังจะให้เขากลับเองอีกหรือไม่ ..คิดตื้นๆ จริงๆ คุณเคยเรียกแทกซี่ตอนชั่วโมงเร่งด่วน หรือในสถานที่ที่มีนีกท่องเที่ยวเยอะไหม?? คุณก็รู้ว่ามันไม่แยแส คนไทยเลย มองไม่เห็นหัวคนไทยเลยด้วยซ้ำไป แทบจะต้องกราบตีนมันเพื่อที่จะบอกว่า "คุณพี่ครับ กรุณาได้ โปรดเถิดพระเจ้าข้า ไปส่งข้าน้อยที่นั่นที่นี่หน่อย" แล้วมันก็หันหน้ามามองตั้งแต่หัวยันเท้าว่านี่คือคนไทย กูไม่ไปส่งหรอกเพราะกูฟันหัวแบะค่าโดยสารไม่ได้ ...เวรรร พ่อแม่ผมแก่เฒ่าจะเดินทางไปไหนก็ลำบาก จะให้ท่านนั่งรถเมล์ไปคนเดียวงั้นเหรอ คนแก่คุณก็รู้ว่าเดินช้า แถมงกๆ เงิ่นๆ ตามวัยเดี๋ยวรถเมล์มันออกตัวไวลากล้อหลังมาทับแล้วใครจะรับผิดชอบ? สู้ซื้อรถให้ท่านขับไม่ดีกว่าหรือ? ถ้าระบบขนส่งมวลชนมันดีจริง เขาก็คงไม่ต้องมากระเบียดกระเสียนจ่ายในแต่ละเดือนเพื่อผ่อนรถยนต์ ราคาแพงแถมต้องมาจ่ายค่าน้ำมันแพงๆ หรอก ขี้คร้านจะขี่จักรยานไปต่อ BTS แล้วไปทำงานกันเสีย ทั้งหมด ค่างวดรถและน้ำมันอันแสนแพงทำให้แทบจะต้องกินแกลบ แต่ถึงจะเป็นแกลบก็คงไม่ตาย นั่ง รถ ขสมก. สบายตายเร็วไม่รู้เรื่อง แต่คุณไม่รู้อะไร รถเมล์เป็นหม้อข้าวหม้อแกงของนักการเมืองหลายตัว ยังไม่รวมพวกข้าราชการระดับ บนอีกมาก ถ้าทำ BTS หรือพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางออกมาแล้ว รถเมล์ก็จะขายไม่ออก ใคร จะรู้ว่าเบื้องหลังระบบรถไฟฟ้าที่โดนดองมาเกือบ 10 ปีแล้วเพราะเรื่องอะไร...เรื่องเงินไม่เข้าออกนอก กับใครประชาชนคนไทยทำอะไรได้อย่างนั้นเหรออ ..ครับ คุณจะยอมเสี่ยงชีวิตกับระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทยไหม? หาคุณเลือกชีวิตที่ดีกว่าได้ เพื่อประเทศ ชาติแล้วประหยัดน้ำมัน ประหยัดพื้นที่ถนน แต่เมื่อคุณโดนรถเมล์ทับตาย ชาติหรือรัฐบาลรวมไปถึง หน่วยงานราชการได้กลับมาช่วยคุณบ้างหรือเปล่า พ่อแม่ลูกเมียนั่งทำตาปริบๆ ใครจะส่งลูกเรียน พ่อแม่ก็ พลอยลำบาก สำหลักครอบครัวอยู่ล้อหลังรถเมล์ จะมีใครมาช่วยครอบครัวคุณไหม?? ดูตัวอย่างพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนรถเมล์เขียวนรกทับกลางตัวจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ค่ารักษาพยาบาลเลย กทม. หรือ ขสมก. เองก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเลย ผมยังจำได้นะที่บริษัทรถเมล์บอกว่า อยากได้ค่าเสียหายให้มา ฟ้องเอาเอง.. ถ้าเป็นเมืองนอกรถเมล์หรือบริษัทนั้นโดนฟ้องล้มละลายไปแล้ว ...แต่อยู่เมืองไทยคิดเหรอว่าประชาชน ตัวเล็กๆ 1 ตัวจะฟ้องร้องเอาผู้มีอิทธิพลลงได้ ได้แต่ก้มหน้าตารับกรรมอันที่กูไม่ได้ก่อ คนขับติดคุกปีเดียว ออกมาขับทับคนตายอีก เหมือนวงจรอุบาทว์ เพื่อประเทศชาติแล้วผมก็ทำให้ได้ ...แต่ชีวิตผม ผมก็รักนะครับ จากคุณ : axquest เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:10:25

ความคิดเห็นที่ 23 เรารู้สึกชอบขับรถเองมากกว่าค่ะ ถึงแม้ว่าการเป็นคนนั่งเฉยๆมันสบายกว่ามีโอกาสมองวิวข้างทางได้ตลอดก็เถอะ การขับรถเองทำให้เราควบคุมอะไรได้หลายอย่าง ทั้งเวลา ความเร็ว และเส้นทางที่จะเดินทางไป แถมเบาะนั่งสบายไม่เมื่อย หรือถ้าเมื่อยก็จอดพักได้ ในขณะที่ขึ้นรถโดยสารเวลาเมื่อยเราก็ลุกไม่ได้ อยากเข้าห้องน้ำก็ต้องรอจนกว่าเขาจะจอดให้ โดยรวมแล้วสำหรับเรามันไม่สบายน่ะค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:18:18

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าคนใช้ขนส่งมวลชนมากๆ รถคงติดน้อยลง แท๊กซี่คงจอดแช่น้อยลง จากคุณ : ชาวบางนา เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:21:27

ความคิดเห็นที่ 25 พยายามนั่งรถฟฟ้าบ่อยๆ เพราะคิดว่าวันนึงอาจเจอเนื้อคู่หน้าตาแบบเหม่ยลี่ จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:52:45

ความคิดเห็นที่ 26 ผมนิยมขึ้นรถเมล์รถตู้มากกว่านะ ที่จอดรถหายาก ถ้าขับเอง นอนไม่ได้ -_-" ไม่ต้องเป็นหนี้จ่ายให้ ปตท. บ่อยๆ มีเงินเย็นเหลือไว้ลงทุน รถมันเต็มถนนอยู่แล้วไม่อยากซื้อไปถมให้มันแน่นกว่าเดิม แต่ข้อเสียก็มีเยอะแยะ เพิ่งไปรับหวัดจากผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ ฮ่าๆ นอนซมไป 2 วัน ป้าข้างหลังกดกริ่งรัวๆคนขับโมโหเหยียบเต็มที่เลย แถมไม่ยอมจอดด้วยแฮะ -_-" มีคนโทรมาหาคนขับรถตู้ แล้วคนขับบอกว่า "ใกล้ถึงอนุสาวรีย์แล้วครับ" ห๊ะ มันคนละทางกับที่เราไปเลยนี่หว่า! หลังจากนั้นคนขับเหยียบเต็มที่ปาดซ้ายขวา เหมือนจะพยายามไล่ผู้โดยสาร เฉลี่ยแล้วเจอกรณีแย่ๆอย่างที่บอก 3-4ปี ครั้ง เอาน่าหยวนๆ จากคุณ : chidkido เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 12:58:36

ความคิดเห็นที่ 27   เห็นด้วยคะ........... จากคุณ : M&M เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:11:18 A:58.9.86.17 X: TicketID:245570

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับหนูมิ้น อย่างยิ่ง แต่เพราะระบบขนส่งมวลชนของเรามันยังแย่มาก ทำให้หลายคนยังต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวด้วยความจำเป็น หวังว่า สักวันหนึ่ง  เราจะได้รัฐบาลที่มีวิสัยทรรศ มาปรับปรุงระบบให้ก้าวหน้าสักหน่อย ถ้ามองในส่วนรวมแล้ว ควรจะต้องมีระบบรถไฟฟ้า มากๆ  เพราะมีประสิทธิภาพที่สุด และต้องมี โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อจ่ายไฟให้กับระบบ ยิ่งทำได้เร็วเท่าไร เราก็จะช่วยให้โลกน่าอยู่ได้เร็วเท่านั้น (อากาศเสียน้อยลง) ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ใช้รถยนต์  ซึ่งต้องใช้น้ำมันหรือกาซ แล้ววัตถุดิบปิโตรเคมี ก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว (เอามาเผาเป็นพลังงาน) ไม่เหลือไว้ใช้สำหรับผลิตสิ่งอื่นที่จำเป็นกว่า จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:43:05

ความคิดเห็นที่ 29 มนุษย์เอาอำนาจเงินและความสบายส่วนบุคคลแลกมาด้วยภาระของโลก น่าละอายความเห็นแก่ตัวของมนุษย์จริงๆ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:54:47

ความคิดเห็นที่ 30   รถมอเตอร์ไซต์ประหยัดกว่าเร็วกว่า ชนะเลิศ จากคุณ : sevensunday เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 13:58:06

ความคิดเห็นที่ 31 สถิติเก่าแก่ไปหน่อย แต่อาจจะพอบอกอะไรได้ อันนี้เป็นข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุของรถประจำทาง ขสมก ครับผม (แม้ในตารางจะเขียนว่า บขส แต่จริงๆเป็นสถิติของรถที่เดินโดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก) จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:12:14

ความคิดเห็นที่ 32 อันนี้เป็นสถิติการเกิดอุบัติเหตุ แยกตามชนิดของรถครับ รถส่วนตัวมีสถิติเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถของ ขสมก เกือบ 10 เท่าตัว ใครปลอดภัยกว่าก็สรุปกันเอาเอง จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:13:50

ความคิดเห็นที่ 33 สำหรับผม ถ้ารถไม่ติด ผมก็นั่งรถประจำทาง ขสมก และรถร่วมบริการเป็นหลักครับ แต่ถ้ารถติด ผมก็เดินเอา ถ้าไม่ใช่เที่ยงคืนตีหนึ่งหรือจุดที่ไม่มีรถประจำทางผ่าน พวกสามล้อ แท๊กซี่ หรือมอเตอร์ไซด์ไม่ได้กินเงินผมแน่นอน จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 14:15:34

ความคิดเห็นที่ 34 จาก 31,32 ถ้ามองจากสถิติจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ การใช้รถยนต์นั่งดูจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยกว่า แต่ถ้าเอาจำนวนรถยนต์ในกรุงเทพมาคิดด้วยแล้ว ผมคิดว่าโอกาสที่รถยนต์นั่งปกติจะเกิดอุบัติเหตุนั้นน้อยกว่ารถเมล์เยอะครับ โดยประมาณแล้วรถยนต์ส่วนตัวในกรุงเทพ (ปี 2543) มีประมาณ 1.5 ล้านคัน เกิดอุบัติเหตุราวๆ 26,000 ครั้ง หยาบๆ คือ โอกาสเกิดอุบัติเหตุราวๆ 1.72% จากคุณ : พบ เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 15:20:59

ความคิดเห็นที่ 35 ในขณะที่รถโดยสารใหญ่มีจำนวนราวๆ 26,000 คันเกิดอุบัติเหตุ 2,428 ครั้ง (ปี 2543) คร่าวๆ แล้วนั่งรถโดยสารใหญ่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุประมาณ 9% สรุปคือ ผมคิดว่าการที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งกว่าน่าจะเป็นเพราะมีจำนวนมากกว่ารถเมล์นะครับ แต่ถ้ามองจากความเป็นไปได้ต่อคันแล้วรถเมล์มีโอกาสเจออุบัติเหตุง่ายกว่ารถยนต์ครับ จากคุณ : ถ้าคำนวนผิดช่วยแก้ด้วยครับ (พบ) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 15:25:44

ความคิดเห็นที่ 36 ใช้ "จำนวนครั้ง" ที่เกิดอุบัติเหตุบอกไม่ได้ครับ เพราะปริมาณรถมีต่างกันมาก ต้องใช้ "อัตราส่วน" หรือ "ร้อยละ" ครับ ไม่งั้นผมอาจจะพูดได้ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ระบบสาธารณสุขแย่ที่สุดในประเทศ เพราะมีคนป่วยเข้าโรงพยาบาลมากกว่าจังหวัดอื่น แบบนี้คงไม่เม้คเซ้นส์ครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 17:35:32

ความคิดเห็นที่ 37 ข้อดีที่สุดของการนั่งรถโดยสารประจำทางของตัวเองก็คือ ถ้าหาที่นั่งได้ก็สามารถ "หลับ" ได้ครับ บางทีวันไหนรู้สึกว่านอนไม่พอ ขึ้นรถปุ๊บก็หลับยาวจนใกล้จะลงค่อยตื่น ได้นอนเต็มๆ อีกชั่วโมงกว่า หายง่วงหายเพลียไปได้เยอะเลย เหอๆ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 18:21:36

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณ คุณ ถ้าคำนวนผิดช่วยแก้ด้วยครับ (พบ) มากๆครับ ท่านใดพอมีสถิติใหม่ๆบ้างว่า ปัจจุบันเป็นเช่นใดแล้ว แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 19:00:43 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 18:52:46

ความคิดเห็นที่ 39 อันนี้เป็นสถิติปี 2547 ครับ แต่ผมไม่มีข้อมูลจำนวนรถยนต์จดทะเบียนในปี 2547 ของกรุงเทพมหานคร จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 19:10:59

ความคิดเห็นที่ 40 ของเดือนธันวาคม 2552 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 19:12:29

ความคิดเห็นที่ 41 เดือน 11 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 19:13:54

ความคิดเห็นที่ 42 เดือน 10 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 19:14:43

ความคิดเห็นที่ 43 เฉพาะเดือน 10-12 ของปี 2552 จากรายงานของตำรวจนครบาลมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุึของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งสิ้น 2,526+2,213+2,288 = 7,027 คดี จากรายงานของตำรวจนครบาลมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุึของรถโดยสารขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 140+157+157 = 454 คดี จากจำนวนรถจดทะเบียนนั้น ปี 2553 มีรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง+เกิน 7 ที่นั่ง จดทะเบียนทั้งหมด 2,405,262 คัน จากจำนวนรถจดทะเบียนนั้น ปี 2553 มีรถโดยสารขนาดใหญ่จดทะเบียนทั้งหมด 34,723 คัน หากคิดเป็น % การเกิดอุบัติเหตุของรถยนต์ส่วนบุคคลขนาดเกินและไม่เกิน 7 ที่นั่งก็ 0.29% หากคิดเป็น % การเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารขนาดใหญ่ก็ 1.307% ยอมรับแล้วครับว่า รถยนต์ส่วนบุคคลเกิดอุบัติเหตุคิดเป็น % น้อยกว่าจริงๆในด้านจำนวนรถ แต่ถ้าเทียบเป็นต่อจำนวนเที่ยวและชั่วโมงการวิ่งต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุนั้น ท่านใดพอจะมีข้อมูลนำเสนอเพิ่มเติมบ้างครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 53 19:22:28 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 19:21:12

ความคิดเห็นที่ 44 จขกท  มองโลกได้ใสซื่อบริสุทธิมาก  คารวะสามจอก พร้อมยืนไว้อาลัยไห้อีกสามวิ.. จากคุณ : tenno เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 20:02:04

ความคิดเห็นที่ 45   อึม ... มีคนขับให้ก็นั่ง ก็มีเวลาคิดเหมือนกันน่ะ ... ส่วนเรื่องมวลหนักมากๆ หรือว่า นู๋มิ้น มีมวลหนักมากๆ ล่ะ ??? ส่วนเหตุผลจริงๆ ก็อาจจะเรื่องความปลอดภัย กรณีคนอยู่บ้านไกลหรือลึกๆ ยิ่งเป็นสาวๆ น่ารักด้วยแล้ว หนุ่มๆ เค้ายิ่งเป็นห่วง (ถ้าไม่น่ารักก็อาจจะตกปายย) ที่พูดมาไม่เกี่ยวกับอะไรเป็นเหตุผลทั้งนั้น ..... แป่ววว ถ้าระบบขนส่งมวลชนมันดีก็ว่าไปอีกเรื่อง แต่ถ้าต้องนั่งรถเมล์นานๆ รถติดๆ นี่ไม่ไหว มันเป็นเรื่องของการสุขกายสบายใจทั้งนั้นอ่ะ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 22:14:22 A:124.120.218.170 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 46 มันชอบลืมป้ายกะลืมผู้โดยสารอ่ะ อยากจะสนับสนุนนะ  แต่.... ทำไปเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีมากไปกว่านี้แล้ว ถ้าวันไหนอารมณ์ชิวๆก็นั่งชิวๆไป  ดูความเป็นจริงของสังคมอันแสนทุเรศไป แต่ถ้าวันไหนรีบก็มีหลายตัวเลือก  ทั้งรถยนต์เก่าๆของบ้าน มอเตอร์ไซค์ของน้อง หรือนั่งรถไฟไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนฟ้า แต่เหมือนว่า รถเมล์จะมาเป็นอันดับสุดท้ายแฮะ จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 05:30:47

ความคิดเห็นที่ 47   ชอบนั่งรถเมล์ที่โล่งๆมาก รถติดแค่ไหนไม่เป็นไร ไม่รีบ 55 แต่ถ้ารถติด คนเยอะ ร้อนอบอ้าว หงุดหงิดที่สุด อยากจะเตะทุกคนให้ลงไปจากรถ ดีที่ไม่ค่อยเจอรถที่ขับแบบท้านรก นานๆเจอที จากคุณ : aie เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 17:37:16 A:58.9.254.239 X: TicketID:182660

ความคิดเห็นที่ 48   จขกท หายไป!!!! จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 18:15:34 A:124.120.221.177 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ^ งานเยอะ ^^" จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 20:13:26

ความคิดเห็นที่ 50   ^ ^ จิงดิ ... อ๊อซซ... ไม่มีอะไร แค่คิดถึง.. จขกท. จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 01:11:11 A:124.120.221.177 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ จริงค่ะ ช่วงนี้งานหนักเยอะมาก  เพราะกำลังทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆๆๆ ทั้งเรียน ทั้งงานหลัก งานรอง เวลาเข้าพันทิป จริงๆแล้วไม่มีในตารางเวลา ^^ คิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเวปทุกๆคนเลยยยยยย แงแง ( สู้ต่อไป มิ้นๆ~ ) จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 05:31:39