ความคิดเห็นที่ 1 เพลงนี้หลายคนคงชอบ เนื้อเพลงเกี่ยวกับเด็กที่กำลังจะตายค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/Bohemian_Rhapsody แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 17:08:52 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:08:33

ความคิดเห็นที่ 2 พฤติกรรมความเป็นแม่ ความรักท่วมท้นจนแทบตายแทนได้ของพ่อและแม่มาจากไหน งานวิจัยในสัตวแสดงให้เห็นว่าขณะที่ตั้งท้อง และหลังคลอด เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมอง และสารในสมองมากมาย จากการทดลองในแม่หนู พบว่าสมองส่วน Medial preoptic area (mPOA) เป็นสมองส่วนสำคัญที่ควบคุมพฤติกรรมการเลี้ยงดูลูกในหนูทดลอง  โดยมีฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหลายชนิด เช่น เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน โปรแลคติน อ๊อกซิโตซิน และเมื่อแม่หนูมีลูก ตัวรับ (receptor) ของฮอร์โมนเหล่านี้ในสมองบางส่วนจะมีจำนวนมากขึ้น (upregulation) อ๊อกซิโตซินเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญในการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างแม่-ลูก ขณะที่แม่หนูตกลูก ฮอร์โมน Oxytocin จะหลั่งมากขึ้น และไปกระตุ้นสมองหลายบริเวณ เช่น mPOA, nucleus accumbens (NAcc), ventral tegmental area (VTA), ventral bed nucleus of stria terminalis (vBNST), paraventricular nucleus (PVN), สมองที่เกี่ยวข้องกับการรับกลิ่น (olfactory bulbs), lateral septum (LS) และ amygdala ทำให้เริ่มเกิดพฤติกรรมการเป็นแม่               หากเรายับยั้งไม่ให้ฮอร์โมนนี้ทำงานในสมอง พบว่าแม่หนูจะไม่มีพฤติกรรมการเป็นแม่ค่ะ กลิ่นของลูกก็สำคัญต่อพฤติกรรมการเป็นแม่ โดยกลิ่นของลูกหนูสามารกระตุ้นพฤติกรรมการเป็นแม่ ในหนูสาว และหนูที่กำลังตั้งท้องได้ ทำไมเมื่อเห็นหน้าลูก แม่จะรู้สึกเป็นสุข และอิ่มเอม? เกิดจากวงจรประสาทส่วน reward system ถูกกระตุ้น ซึ่งวงจรนี้เป็นวงจรประสาทที่เมื่อถูกกระต้นแล้วจะทำให้รู้สึกเป็นสุข เมื่อถูกกระตุ้นโดยตัวกระตุ้นที่ดีต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เซ็กส์ รวมถึงความรู้สึกเป็นสุขยามที่เราเสพย์ยาเสพย์ติด ก็เกิดจากการกระตุ้นวงจรนี้เช่นเดียวกัน     ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการเป็นพ่อนั้น ยังมีการศึกษาค่อนข้างน้อย จึงไม่ขอนำเสนอในบทความนี้ค่ะ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:17:31

ความคิดเห็นที่ 3 หากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ ลูกถูกทำลายลง อาจเกิดโศกนาฎกรรมกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือการฆ่าลูก ในอาณาจักรสัตว์ การฆ่่ามักมาจาก... - ความปราถนาเพื่อให้เชื้อสายของตนสืบทอดต่อไป เช่น สิงโตตัวผู้หนุ่ม ฆ่าลูกที่เกิดจากจ่าฝูงตัวก่อน - ฆ่า และ/หรือ กินลูกที่เป็นโรค พิการ หรือตายแล้ว เพื่อ ให้ลูกที่ยังเหลือมีชีวิตต่อไป - เลี้ยงลูกไม่เป็น สัญชาติญาณการเป็นแม่หายไป แต่ในสังคมมนุษย์ เหตที่ทำให้ฆ่ามีหลากหลาย ฆาตกรรมในครอบครัว (Family homicide) อาจแบ่งเป็น: - Intimate partner: คู่สมรส หรืออดีตคู่สมรสฆ่ากันเอง - Filicide: พ่อ แม่ หรือพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ฆ่าลูก หรือลูกเลี้ยง - Parricide: ลูก ฆ่าพ่อแม่ - Siblicide: การฆ่ากันระหว่างพี่น้อง หรือในหมู่เครือญาติ บทความนี้จะกล่าวถึงการฆ่าลูกค่ะ (Fillicide) การฆ่าลูก เกิดขึ้นมาคู่กับประวัติศาสตร์ รายละเอียดหากใครสนใจ เข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/Filicide Ivan the Terrible and His Son Ivan on November 16th, 1581., a painting of the filicide by Ilya Yefimovich Repin. จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:28:55

ความคิดเห็นที่ 4   ปูเสื่อแต่เช้ามืด จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:29:48

ความคิดเห็นที่ 5 เหตุที่ทำให้ฆ่า.. การฆ่าลูกแบ่งตามแรงจูงใจได้ 6 ประเภท (Resnick's  classifications) Category 1: การฆ่าด้วยความรัก (Altruistc filicide ) แบ่งเป็น - ฆ่าลูกเพราะผู้เป็นพ่อ หรือแม่ ต้องการฆ่าตัวตาย แต่ไม่อยากทิ้งลูกไว้เบื้องหลัง เช่น กรณีแม่ที่เป็นมะเร็งวางยาพิษเพื่อฆ่าลูก และฆ่าตัวตาย - ฆ่าเพื่อให้ลูกพ้นความทรมานจากความเจ็บป่วย Category  2. ฆาตกรมีอาการทางจิต (acutely psychotic filicide) Category  3. ฆ่าเพราะไม่ต้องการลูก (unwanted child) Category  4. เด็กตายด้วยอุบัติเหตุจากความประมาท (accidental filicide) Category  5. ฆ่าเพราะต้องการล้างแค้นคู่สมรส (spousal revenge filicide) Category  6. ฆ่าเด็กแรกเกิด อายุน้อยกว่า 24 ชั่วโมง (Neonaticide) เกิดจากแม่อายุน้อย ที่มีสุขภาพจิตปรกติ ฆ่าลูกเพื่อปกปิดการมีลูก (แก้ไขข้อมูล ที่มา และเอารูปออกค่ะ) แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 18:01:21 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 17:40:32 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 13:55:51 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:35:32

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจาสาเหตุที่มาจากจริยธรรมของผู้เป็นพ่อ แม่ ยาเสพย์ติด โรคทางจิตแล้ว ยังมีสาเหตุทางกายที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการก่อเหตุแม่ฆ่าลูกด้วย ยกตัวอย่างเช่น อารมณ์ซึมเศร้าหลังคลอด หรือ  Post-partum (maternity) blues พบ >50% ในผู้หญิงหลังคลอดสองถึงสามวัน หรือหลังคลอด 3 เดือน (10–13%) สาเหตุอาจมาจากการเปลี่ยนระดับฮอร์โมนหลายชนิด เช่น cortisol, oestrogen, progesterone และ allopregnanolone (progesterone’s neuroactive metabolite) กลไกการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ที่เกี่ยวข้องมีหลายกลไก ยกตัวอย่างเช่น หลังคลอดมีการเปลี่ยนระดับของ Allopregnanolone  สารที่มีผลลดความกังวล และลดอารมณ์ซึมเศร้า สารนี้มีผลต่อสารที่ควบคุมอารมณ์ เช่น serotonin, endogenous-opioid, oxytocin และ corticotropin-releasinghormone (CRH)  โดย ตอนตั้งท้อง allopregnanolone กระตุ้นสารที่ทำให้อารมณ์เป็นสุข   (feeling good) serotonin และ opioid และยับยั้ง สารที่ทำให้อารมณ์เศร้า (feeling low) คือ CRH หลังคลอด หลังคลอดลูก สารที่ควบคุมอารมณ์ในสมองของแม่จะสูญเสียความสมดุล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด อารมณ์ที่ไม่มั่นคง และซึมเศร้าของแม่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเหตุฆาตกรรมทารกได้ โดยเฉพาะแม่ที่ถูกสามีทิ้ง หรือไม่มีญาติพี่น้อง จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:44:01

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เพียงแต่แม่เท่านั้น พ่อก็เป็นฆาตกรได้ ตารางเปรียบเทียบการแบบแผนการฆ่าโดยพ่อ (Paternal fillicide) เมื่อเทียบกับแม่ (Maternal filicide) (Bourget D 2007) จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:48:57

ความคิดเห็นที่ 9 จากตารางข้างบนจะเห็นได้ว่าพ่อจะฆ่าโดยใช้วิธีการที่รุนแรงกว่า เหยื่อเป็นเด็กที่อายุเฉลี่ยมากกว่า ซึ่งแรงจูงใจของการฆ่าอาจมาจากโรคจิต และอารมณ์ซึมเศร้าก็ได้ (Bourget D 2007) จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:52:23

ความคิดเห็นที่ 10 .....  ที่ญี่ปุ่น เยอะมากครับ แม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าแม่ แล้วตัดหัวแม่              ไปโยนไว้ที่หน้าโรงเรียน ดังนั้น หากมีการฆ่ากรรมขึ้นมา              เมื่อไร ตำรวจมักสันษฐานคนในครอบครัวก่อนครับ                                                                                       ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:54:02

ความคิดเห็นที่ 11 คดีการฆ่าลูกไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว เราพบโศกนาฏกรรมนี้ทั่วโลกทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว และยังไม่พัฒนา เรามาดูสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ในประเทศต่างๆกัน ออสเตรเลีย ข้อมูลจาก  Australian Institute of Criminology ช่วงเดือนกรกฎาคม 1989 ถึง มิถุนายน 2002 - จากคดีฆาตกรรม   4,112 ราย ฆาตกร 4,501 ราย และเหยื่อ 4,421 ราย - พบว่าเหยื่อ 1,671 (38 %) รายตายด้วยน้ำมือคนในครอบครัว ที่มา Australian Institute of Criminology, National Homicide Monitoring Program, 1989-90 to 2001-02 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 05:59:25

ความคิดเห็นที่ 12 Filicide "abominable crimes“ in Australia จากสถิติการฆ่าลูก ตั้งแต่ 1 กค. 1989 ถึง 30 มิย. 2002 พบว่าเด็กถูกฆ่าเฉลี่ยปีละ 25 คน กราฟแสดงจำนวน และอายุของเด็กที่ถูกฆ่า (Victim) กราฟเส้นทึบแสดงถึงเด็กที่ถูกฆ่าโดยพ่อ หรือพ่อเลี้ยง กราฟเส้นจางแสดงถึงเด็กที่ถูกฆ่าโดยแม่ หรือแม่เลี้ยง (ที่มา Australian Institute of Criminology, National Homicide Monitoring Program, 1989-90 to 2001-02) แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 06:02:35 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:02:19

ความคิดเห็นที่ 13 กราฟ.. จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:06:04

ความคิดเห็นที่ 14 อาวุธที่ใช้ - ใช้แรงจู่โจม (assaultive force (46 %))   - ใช้มีด หรือของมีคม (13 %) - ใช่พิษ (10 %) ได้แก่  carbon monoxide poisoning จากเครื่องยนต์ โดยการใช้พิษมักพบในกรณีที่พ่อ แม่จงใจจะฆ่าตัวตายพร้อมลูกด้วย แรงจูงใจในการฆ่า - การทะเลาะกันในครอบครัว และความหึงหวงระหว่างคู่สมรส - ปํญหาทางจิตก่อน หรือขณะเกิดเหตุฆาตกรรมโดยพบว่า หนึ่งในสามของฆาตกรหญิงมีปํญหานี้ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 06:17:00 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:09:43

ความคิดเห็นที่ 15 ญี่ปุ่น จากการรวบรวมสถิติกรณีฆ่าลูกในญี่ปุ่นช่วง 1994-2005 ทั้งหมด 933 กรณี ฆาตกร - แม่เป็นฆาตกร 511 ราย (54.8%) - พ่อเป็นฆาตกร 209 ราย (22.4%) - ทั้งพ่อและแม่ร่วมมือกัน 118 ราย (12.6%) เหยื่อ จำนวนเหยื่ออายุต่ำกว่า 15 ปี 1087 คน - เป็นเด็กชาย 552 คน (53.0%) - เด็กหญิง 490 (47.0%) คน ช่วงอายุของเหยื่อ - น้อยกว่า 1 ปี 379 ราย (35.0%) - 1 – 4 ปี 361 ราย (33.3%) - 5 - 9 ปี 228 ราย (21.0%) - 10–14 ปี 116 ราย (10.7%) จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:12:43

ความคิดเห็นที่ 16 พบการกระจายตัวของคดีการทำร้าย ฆ่าลูกทั่วญี่ปุ่น โดยพบมากในเมืองใหญ่ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:14:32

ความคิดเห็นที่ 17 และมีความสัมพันธ์กับอัตราการว่างงานด้วยค่ะ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:15:50

ความคิดเห็นที่ 18 นานาชาติ จากการรวบรวมสถิติกรณีพ่อฆ่าลูก ใน แคนาดา อังกฤษ ฟิจิ ฟินแลนด์ สกอตแลนด์ ตุรกี เวลส์ อเมริกา - พบว่าอายุของฆาตกรโดยเฉลี่ย 35 ปี (range 15 – 76  years) - อายุของเหยื่อโดยเฉลี่ย 5.5 ปี (range 1 day - 35 years) - อายุของเหยื่อที่เป็นทารก (infanticide) โดยเฉลี่ย 3.7 เดือน จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:19:35

ความคิดเห็นที่ 19 แบบแผนในการฆ่า จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:22:03

ความคิดเห็นที่ 20 จากสถิติที่ยกมาจะเห็นได้ว่าปัญหาการฆ่าลูก ความรุนแรงในครอบครัว สุขภาพจิตของพ่อ แม่ ไม่ใช่ปัญหาที่นานๆจะเกิดสักครั้ง การค้นคว้าด้านจิตวิทยา และประสาทวิทยา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว อาจเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกัน ตรวจสอบผู้กระทำผิด และเป็นทางออกของปัญหานี้ได้ค่ะ ที่มา สมองของแม่ Brunton PJ, Russell JA. The expectant brain: adapting for motherhood. Nat Rev Neurosci. 2008 Jan;9(1):11-25. Filicide Bourget D, Grace J, Whitehurst L. A review of maternal and paternal filicide. J Am Acad Psychiatry Law. 2007;35(1):74-82 Classifications and Descriptions of Parents Who Commit Filicide www.publications.villanova.edu/Concept/2005/Filicide.pdf  A Meta-Synthesis of Filicide Classification Systems: The Seminal Work: Classification of Filicide by Motive  http://www.medscape.com/viewarticle/508550_2 กรณีพ่อฆ่าลูก West SG, Friedman SH, Resnick PJ. Fathers who kill their children: an analysis of the literature. J Forensic Sci. 2009 Mar;54(2):463-8. Epub 2009 Jan 29 สถิติการฆ่านาชาติ Oberman M. Mothers who kill: cross-cultural patterns in and perspectives on contemporary maternal filicide. Int J Law Psychiatry. 2003 Sep-Oct;26(5):493-514 สถิติการฆ่าในครอบครัวในออสเตรเลีย http://www.aic.gov.au/en/publications/current%20series/tandi/241-260/tandi255/view%20paper.aspx สถิติกรณีฆ่าลูกในญี่ปุ่น Yasumi K, Kageyama J. Filicide and fatal abuse in Japan, 1994-2005: temporal trends and regional distribution. J Forensic Leg Med. 2009 Feb;16(2):70-5. Epub 2008 Oct 30 (แก้ไข เพิ่มข้อมูล) ----------------------------------------------------------------- บทความนี้มีจุดประสงค์อีกประการหนึ่ง คือ ... อยากให้ผู้อ่านได้คิดถึงเหตุผลของการกระทำของหญิงหรือชายคนหนึ่ง ยามเมื่อเราได้ข่าวการทิ้งลูก หรือการฆ่าลูก ... บางที อาชญากรรมก็ไม่ได้เกิดจากความชั่วร้ายในจิตใจของมนุษย์เสมอไปค่ะ... แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 18:04:13 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:33:34

ความคิดเห็นที่ 21 ปัจฉิมลิขิต.. วาเลนไทน์นี้ อย่าลืมโทรหา หรือกลับไปหาผู้หญิง และผู้ชายที่รักคุณมากที่สุดด้วยนะคะ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 06:39:29

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านแล้วเศร้า ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ ว่าแต่โรคซึมเศร้าที่มาหลังคลอดนี่ไม่ดีเลยนะคะ หลังคลอดน่าจะมีความสุขสิถึงจะถูก อย่างนี้ลูกที่เกิดมาก็มีความเสี่ยงเฉยเลย จากคุณ : pongpei เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 07:16:17

ความคิดเห็นที่ 23 สาเตุและปัจจัยเสี่ยงตามรูปคคห. 7 ค่ะ สาเหตหลักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของบรรดาฮอร์โมนต่างๆหลังคลอดค่ะ คือตอนท้องเนี่ย ร่างกายของแม่ต้องปรับตัวเพื่อแบ่งพลังงานสารอาหารให้กับลูก รวมถึงสารต่างๆในสมองด้วย พอหลังคลอดปุ๊บ ลูกออกมาแล้ว ไม่ต้องแบ่งพลังงาน สารอาหาร ฯลฯ อะไรให้ใครอีก ฮอร์โมน สารต่างๆในร่างกายเลยเสียสมดุลไปชั่วคราวค่ะ ทำไมต้องมี? ก็คงเหมือนเหตุผลที่มนุษย์ต้องมีความผิดปรกติ หรือเป็นโรคต่างๆกระมัง คือ natural selection คัดเลือกมนุษย์รุ่นต่อไปที่แข็งแกร่ง และเลี้ยงลูกได้ดีที่สุด... แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 07:43:43 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 07:33:46

ความคิดเห็นที่ 24   เสพเสร็จก็ลงชื่อ จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 07:52:31

ความคิดเห็นที่ 25   ในไทย หึงหวงสูง จากคุณ : แมวไม่กินปลา เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 07:56:46

ความคิดเห็นที่ 26   พึ่งรู้ว่า เพลง โบฮีเมี่ยน โซราฟตี้ มันมีเนื้อหาเศร้านะเนี่ย จากคุณ : devil amature2 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:25:36

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบพระคุณอย่างสูง สาระเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม โหวตให้แล้วนะครับ จากคุณ : HonLin เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:34:06

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบมากครับ บทความทำให้เราเข้าใจ หลายๆอย่างมากขึ้น จากคุณ : sutja เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:40:25

ความคิดเห็นที่ 29   ดีที่ผมรักไม่เป็น - - จากคุณ : บัตรผ่านเวอร์ชั่น -0- เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:43:23 A:124.121.97.41 X: TicketID:223361

ความคิดเห็นที่ 30 เพิ่งรู้เนื้อเพลง bohemian rhapsody เหมือนกันครับ ขอบคุณสำหรับเนื้อหา จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:47:38

ความคิดเห็นที่ 31 . จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ลึกดั่งหนึ่งห้วงทะเลเหวภูผา คดเคี้ยวเลี้ยวลดเหลือคณา ยากต่อการคาดเดาว่า....ใครคิดยังไง.. . . จากคุณ : อ่านบทความแล้วนึกถึงเพลงนี้ค่ะ (primjang) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:48:37

ความคิดเห็นที่ 32 สะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ข่าว พ่อฆ่าลูก เเม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อ ลูกฆ่าเเม่ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:57:31

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วหิวข้าว.... เอ้ยเศร้า จากคุณ : หมีมีคิ้ว (bugpop) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 08:57:52

ความคิดเห็นที่ 34   ขอบพระคุณอย่างสูง สำหรับกระทู้ดี ๆ และอุตส่าห์ตั้งแต่เช้ามืดเลย จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 09:34:49

ความคิดเห็นที่ 35 เพลง Bohemian Rhapsody ของวง QUEEN เคยฟังจนร้องได้เมื่อนานมาแล้ว ชอบมากๆ ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนฟังเพลงเล่าเรื่อง พร้อมดนตรี Opera Guita Solo เพราะจับใจ รวมไปถึงสะเทือนใจ มีรัว ให้ตื่นเต้น  มีช่วงเศร้า ไอ้อรรถรสมากๆ เพลงค่อนข้างนานด้วย 5.55 นาที จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 09:40:34

ความคิดเห็นที่ 36 ลงชื่อค่ะ ^^ จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 09:45:18

ความคิดเห็นที่ 37 """ วินาทีที่ ฆ่าลูกเพราะ ไม่อยากให้ลูกอยู่ต่อไปอย่างลำบาก .. วินาทีที่ลงมือเพราะความรัก .. ย้อนไป เห็นลูกวิ่งเล่น  ..หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ..  ช่วงเวลาที่ลูกยิ้ม .. กอดแม่ .. คิดถึงวินาทีนั้น ..  คิดไปถึงลูกตัวเอง ตอน 4 ขวบ ..น้ำตาผมไหล... นะ .. จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 10:32:51

ความคิดเห็นที่ 38 มาลงชื่อว่า... อ่านแล้วเศร้าใจ ครับ จากคุณ : say a words เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 10:45:36

ความคิดเห็นที่ 39 เฮ้อ...เศร้าใจ จากคุณ : blackbunny_kori เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 10:52:51

ความคิดเห็นที่ 40 อยากให้ cen รูปที่5สักนิดนึงนะครับ คาดตาก็ยังดี จากคุณ : alek149 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 11:26:59

ความคิดเห็นที่ 41 น่าเศร้ามากนะครับ... จากคุณ : อนุภาคกลูออน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 11:41:52

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณมากๆค่ะ จริงๆแล้วกลุ่มโรคทางจิตใจหลังคลอด (Postpartum psychiatric disorder) นั้นมีอยู่ 3 แบบ ค่ะ 1. Baby Blue หรือ Postpartum Blue 2. Postpartum Depression และ 3. Postpartum Psychosis อย่างสุดท้ายเจอน้อยมากราวๆ 1-2 ใน 1000 แต่รุนแรงกว่าเพื่อน   Postpartum blue เจอมากกว่า 50% ของผู้หญิงหลังคลอดบุตรในบางรายงานเลยทีเดียว  และมักจะหายเองในสองอาทิตย์โดยไม่ต้องทำอะไร  Postpartum depression จะมีอาการมากกว่า และนานกว่า (ส่วนใหญ่ถือกันว่า ถ้าเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ ก็จะเรียกว่า เป็น Postpartum depression ไม่ใช่แค่ Blue)  มีอาการซึมเศร้ารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า รู้สึกผิด นอนไม่หลับ อาจทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้ ส่วนแบบสุดท้าย คำว่า Psychosis นี่หมายถึง “บ้า” คือมี  “Out of Reality” คือหลุดไปจากโลกความเป็นจริง เช่น  เห็นภาพหลอน คิดว่ามีคนมาทำร้าย หูแว่ว  เป็นต้น มีใครเคยทราบไหมคะ? ว่า   Brooke Shields ดาราดังของฮอลลีวู้ด ซึ่งเคยได้รับการยกยกย่องว่าเป็นคนสวยที่สุดในโลก เคยประสบปัญหาเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเช่นกัน หนังสือที่เธอเขียนชื่อ  Down Came the Rain: My Journey Through Postpartum Depression เป็นแม่คนนี่ไม่ง่ายเลยนะคะ ... จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 12:37:28

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาตเล่าเรื่อง Brooke Shields หน่อยดีกว่า หนังสือเล่มนี้ เล่าถึงอาการที่เรียกว่า Postpartum Depression ซึ่งหมายถึง ภาวะซึมเศร้าของผู้เป็นแม่หลังคลอดบุตร ซึ่งตอนแรกเธอนึกว่า มันเป็นอาการปกติอย่างที่เขาเรียกกันว่า Baby Blue แต่เธอหงุดหงิดหดหู่ไม่เลิก และซึมเศร้ายาวนาน ไม่เกิดความรักและผูกพันกับลูก ไม่รู้สึกอยากกอด ไม่นึกจะอยากอุ้มลูก เกลียดจนไม่อยากชายตามอง นำมาซึ่งความรู้สึกแย่ และเกลียดตัวเอง สาเหตุมาจากความยากลำบากในการคลอด ที่ทำให้ Brooke เกือบตายเพราะเสียเลือดมาก ความเครียด ความกังวล ทำให้เธอโยนความผิดไปที่ลูกน้อย ประกอบกับฮอร์โมนและสารเคมีในร่างกายผิดปกติ เธอมองเห็นภาพของตัวเธอเองฆ่าตัวตาย และเห็นภาพของลูกน้อยถูกเหวี่ยงไปชนกำแพง !!! แต่ยังดีที่เธอไม่มีความคิดหรือกระทำการทำร้ายลูกน้อยจริงๆ Brooke ต้องกินยาเพื่อปรับสารเคมีในร่างกายให้เป็นปกติ พร้อมทั้งพบจิตแพทย์อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เธอบอกว่าทำให้เธอก้าวพ้นทุกอย่างมาได้ก็คือ ความกล้า เธอกล้าที่จะเผชิญความรู้สึกของเธอตรงๆ กล้าที่จะยอมรับว่าเธอมีปัญหา และไม่ยอมที่จะให้ความรู้สึกผิดและอับอาย มาขวางกั้นความพยายามที่จะแก้ปัญหานั้น ปัจจุบันเธอมีลูกน่ารักสองคนค่ะ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 12:38:43

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่ขอวิจารณ แม่ที่ทำละกัน ลงชื่อ ... ขอไปอ่านต่ออย่างละเอียด จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 12:43:56

ความคิดเห็นที่ 45 "ความกล้า เธอกล้าที่จะเผชิญความรู้สึกของเธอตรงๆ กล้าที่จะยอมรับว่าเธอมีปัญหา และไม่ยอมที่จะให้ความรู้สึกผิดและอับอาย มาขวางกั้นความพยายามที่จะแก้ปัญหานั้น " โดน ... เคยเป็นมาก่อน แต่ไม่ยอมรับตัวเอง ... ปล่อยให้ทุกอย่างเกือบจะสายเกินแก้ จากคุณ : หักหลบขวา (Virtual Machine) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 12:59:01

ความคิดเห็นที่ 46 ห้องศุภชลาศรัยเพิ่งมีเหตุการณ์เศร้าที่แตกต่างไปจากความซึมเศร้าในการฆ่าลูกตนเอง ด้วยการฆ่าตนเองที่หักห้ามใจไม่ได้ที่ต้องเสียลูกน้อยไป... ใครจะเข้าใจอย่างไรก็ได้น่ะ ขนาดคนจะฆ่าตัวตายเขาก็ยังมีเหตุผลที่บางทีมันก็หนักหน่วงแม้แต่ส่วนตัวก็ผ่านการคิดเรื่องนี้มาเหมือนกัน แต่เรื่องการฆ่าลูกไม่ว่าจะด้วยอะไรก็แล้วแต่หรือการให้เข้าใจอะไรก็แล้วแต่เอาว่าเป็นเรื่องราวที่แล้วแต่คนจะคิดกันไป การจะฆ่าเขาหลังจากที่มีเขามันผิดตรงที่ก่อนจะมีเขาได้คิดหรือยัง ... ผมไม่เข้าใจพวกเขาเหล่านี้ เพราะถ้าผมจะตายน่ะ ก็จะยอมตายเพื่อให้ลูกอยู่ ส่วนลูกจะอยู่อย่างยากลำบากอย่างไรมันคือสิ่งที่เขาต้องเจอ อย่างน้อยให้เขาได้เสี่ยงเองโดยที่เราไม่มีสิทธิไปฆ่าเขาแล้วปิดโอกาสเขา แต่ด้วยความเคารพก็แล้วแต่นานาจิตตัง ลองอ่านเรื่องนี้ดู กับภาพที่เกิดกับอดีตนักเตะทีมชาติเยอรมัน... เขามีลูกสาวและเขาก็รักลูกสาวของเขามาก ตลอดเวลาที่ลูกสาวมีเวลาในช่วงอันสั้นลูกสาวเขาจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ จะทรมานด้วยโรคอะไรก็แล้วแต่ แต่คนเป็นพ่อกลับพยายามทำอะไรให้กับพวกเขาอย่างเต็มที่ ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนที่เขายังอยู่กับลูกสาวที่มีสายช่วยหายใจตลอดเวลา เขาไม่เคยคิดว่าลูกสาวเขาด้อยกว่าคนอื่นและความรักของเขาน้อยกว่าใครหรือคิดสั้นๆ แค่ตัดสินใจปิดโอกาสลูกเขาใช้ชีวิตของเขาเองจวบจนลูกสาวเขาถึงวาระสุดท้าย แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 13:07:35 จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:06:03

ความคิดเห็นที่ 47 เขาไม่เคยยอมแพ้เลยแม้ว่าหนทางรอดของลูกสาวเขาจะแทบไม่มี จนสุดท้ายเขาก็เลยต้องเสียลูกสาวของเขาไป แม้ว่าภริยาหรือแม่ของลูกน้อยนี้จะได้พยายามไปหาเด็กมาเลี้ยงเพื่อพยายามทดแทนจิตใจของคนเป็นพ่อแต่ว่าความเศร้าและเสียใจมันล้ำลึกเกิน เป็นเหตุการณ์การฆ่าตัวตายที่มีคนเห็นใจมากและส่วนตัวก็เข้าใจเขาเช่นกัน เขาไม่สามารถเอาชนะความซึมเศร้านี้ได้และในทางตรงข้ามเขาคิดว่าวิธีนี้จะทำให้เขาได้เจอลูกสาวของเขาที่ล่วงลับไป เขาจึงได้ขับรถให้รถไฟชนสร้างความเศร้าเสียใจ ซึ่งหลายคนก็ได้สังเกตุแต่ไม่นึกว่ามันจะรุนแรงพอที่คุณพ่อคนนี้จะกระทำสิ่งเหล่านี้ลงไปได้ จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:10:29

ความคิดเห็นที่ 48 จำคุณพ่อคนนี้ได้ไหมครับ.. คุณพ่อวอเตอร์ ลีและน้องไซ เป็นตัวอย่างของการสู้ชีวิตและให้ชีวิตเติมเต็มที่สุดเพื่อให้เขาได้ทำเพื่อเขาเอง เอาว่าไม่ได้ตรงกับกระทู้เท่าไรแต่พยายามให้กำลังใจพ่อหรือแม่ที่ยากลำบาก เมื่อเรามีเขาขึ้นมา เขายังไม่ได้เริ่มต้นเดินหรือคิดหรือสู้เพื่อตัวเขาเองเลย เราอย่าเพิ่งปิดทางเลือกให้เขาแม้ว่าเราจะไม่รวยมีฐานะเท่ากับพ่อตัวอย่างแต่แนวคิดน่ะครับ ถึงได้ไม่พยายามเข้าใจสาเหตุการฆ่าแต่ให้กำลังใจเพื่อสู้ถ้ามันจะมีสาเหตุเพื่อให้ลูกน้อยสบาย จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:14:27

ความคิดเห็นที่ 49 จำชื่อพ่อแม่คู่นี้ได้ไหมครับ... Augusto และ Michaela Odone......... ที่ทำให้ลูกเขา ลูกชายที่มีปัญหาตั้งแต่วัยเยาว์และต้องอยู่กับโรคร้ายมาตราบจนทุกวันนี้ ถ้าใครไม่รู้จัก เรื่องราวผ่านหนังอย่าง Lorenzo's oil ลองไปหาดูเอากับสิ่งที่พ่อและแม่ต้องช่วยกันเองในการเอาชนะปัญหาลูก ปัญหารอบด้านรวมทั้งปัญหาอารมณ์กันเองกว่าจะเอาชนะกันได้ เขาเองก็จนและต้องเสียอะไรในชีวิตทั้งหมด ดังนั้นก็เลยแปะไว้เป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ที่กำลังประสบปัญหาแทนก็แล้วกัน อาจไม่ตรงกับกระทู้นี้เท่าไรแต่เอามาแนบๆ ไว้น่ะครับ เป็นเรื่องจริงน่ะครับ จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:20:42

ความคิดเห็นที่ 50 หรืออันนี้ที่คิดว่าทุกคนก็คงรู้จักอยู่แล้ว.... การสู้เพื่อลูก เพื่อความต้องการของลูก เหล่านี้อยากฝากไว้ คุณพ่อที่ดูทุกครั้งน้ำตาแทบจะไหล ด้วยความคิดที่ว่า ชีวิตเป็นของลูกไม่ใช่ของเรา... คาริน ยิบรานกล่าวไว้ดีน่ะครับ ลูกเกิดจากเราไม่ใช่ของเรา พ่อแม่ยุคใหม่หลายคนไม่เข้าใจเลยเอาลูกมาสนองอะไรบางอย่างของตนเองจนลูกไม่ได้มีชีวิตของเขาเอง...  ผมฝากลิงค์ไว้ เพราะแปะเองไม่เป็นจริงๆ http://www.youtube.com/watch?v=gq22PoDv5qQ เพราะพ่อเขาเชื่อว่าเขา can ครับ... ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก ที่ไม่ใช่หนทางแห่งการตัดหนทางใช้ชีวิตของลูกเขาเอง เพราะมันเป็นชีวิตของลูกเขา เขาวิ่งเพื่อลูก เขาว่ายเพื่อลูก เขาทำทุกอย่างเพื่อลูกเขา แล้วคุณๆ ล่ะ พร้อมหรือยังจะทำได้อย่างนี้ ถ้ายังคิดว่าตัดชีวิตส่วนตัวเพื่อการเสียสละไม่ได้แล้ว อย่าเพิ่งมีเขาไว้เพื่อความน่ารัก เพราะชีวิตคนมันยิ่งใหญ่มากกว่าสนุกกันจนเกิดมีเท่านั้นเอง ไม่ค่อยได้เขียนห้องนี้แต่ถ้าเรื่องความเป็นพ่อเป็นแม่และเพื่อเด็กๆ เพื่อชีวิตของเขาเองขอแจมด้วยเรื่องเหล่านี้ไว้ด้วยก็แล้วกันครับ จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:26:55

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาอ่านของคุณ danielle ค่ะ จากคุณ : pongpei เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:35:31

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคุณหมูเหมียวที่ช่วยเพิ่มข้อมูลเรื่อง postpartum psychiatric disorder ให้ค่ะ.. เคยดูลิงค์ของพ่อคนนี้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณ  danielle ที่เอามาฝากนะคะ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:38:33

ความคิดเห็นที่ 53 อืม หรือความรักทั้งหลายก็แค่ปฏิกิริยาของสารเคมีในสมอง เฮ้อ จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:08:13

ความคิดเห็นที่ 54   ซึ๊งไปเลยค่ะ จากคุณ : สวย 3 มิติ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:27:04

ความคิดเห็นที่ 55 "ถึงหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าครอบครัวของหนูฆ่าตัวตาย แต่ที่จริงหนูไม่ได้ฆ่าตัวตายสักหน่อย แม่เป็นคนฆ่าหนูต่างหาก และถึงแม่อยากจะตาย ก็ไม่ได้แปลว่าหนูอยากจะตายด้วยสักหน่อย บางทีการที่คนคนเราฆ่าตัวตาย อาจจะเป็นเพราะไม่อยากโดดเดี่ยวก็ได้นะ" Tokyo Babylon จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:03:43

ความคิดเห็นที่ 56 altruistic filicide นี้ คือ ฆ่าเพราะรัก นะครับ เช่น แม่จะฆ่าตัวตาย ก็ฆ่าลูกไปด้วย เพราะไม่อยากให้ลูกอยู่คนเดียวในโลกอันโหดร้าย หรือแม่มีอาการทางจิต คิดไปเองว่าลูกเจ็บปวดทรมานอะไรสักอย่าง ก็ฆ่าลูก เพื่อให้ลูกหลุดพ้น เป็นต้นครับ จากคุณ : ราชาล่องหน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:33:17

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณที่ทักท้วงค่ะ เช็คแล้วข้อมูลผิดจริงๆ ได้แก้ไขข้อมูลจากแหล่งที่มาใหม่แล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 18:05:25 จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:42:01

ความคิดเห็นที่ 58 มาติดตามอ่าน  และแจกกีบนะครับนะ จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 18:26:32

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ จขกท สำหรับบทความและข้อมูลค่ะ อ่าน คห. 53 แล้วรู้สึกเจ็บแปล๊บๆยังไงไม่รู้ค่ะ จากคุณ : SmallLittleTrifle เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:07:34

ความคิดเห็นที่ 60   น้ำตาไหลครับ จากคุณ : BANGNAJA เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:16:11 A:125.27.235.157 X:

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านจบแล้วค่า กว่าจะผ่านพ้นมาเป็นแม่คนนี่ ต้องสู้หลายอย่างเหลือเกิน ภาวะฮอร์โมนนี่เป็นด่านที่โหดร้ายจังค่ะ แล้วก็คิดถึงหนังเรื่อง nobody knows ซะงั้น ไม่สปอยล์เนื้อเรื่อง แต่เอาลิงค์เรื่องจริงที่เค้าว่ามาให้อ่านแทนนะคะ http://en.wikipedia.org/wiki/Affair_of_the_four_abandoned_children_of_Sugamo ทำไมรู้สึกว่ามันไม่เข้ากับกระทู้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็เป็นเรื่องแม่ลูกเหมือนกันนะ จากคุณ : ด้วง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:19:42

ความคิดเห็นที่ 62 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:52:44

ความคิดเห็นที่ 63 Category 1: การฆ่าด้วยความรัก (Altruistc filicide ) - ฆ่าลูกเพราะผู้เป็นพ่อ หรือแม่ ต้องการฆ่าตัวตาย แต่ไม่อยากทิ้งลูกไว้เบื้องหลัง เช่น กรณีแม่ที่เป็นมะเร็งวางยาพิษเพื่อฆ่าลูก และฆ่าตัวตาย เราไม่ถือว่ามันเป็นรักนะคะ เป็นพวกจิตมากกว่า ลูกคนไหนอยากตายบ้างล่ะ?? พ่อกับแม่จะตาย ไม่เกี่ยวกับลูกเลยย มาฆ๋าตามอำเภอใจได้ไง จากคุณ : Pretty_Cute_Girl เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:32:07

ความคิดเห็นที่ 64 #63 ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการให้น้ำหนักแต่ละข้างนะครับ ข้างหนึ่งคือหากฆ่าลูก ลูกจะทรมานแค่ไหน อีกข้างหนึ่งคือหากลูกมีชีวิตต่อไปโดยไม่มีเรา ลูกจะต้องแบกรับภาระมากแค่ไหน และในบางกรณีที่ลูกอาจจะต้องตายอยู่ดีหากไม่มีเรา การฆ่าไปก่อนจะลดความทรมานจากการตายอย่างช้าๆ ได้แค่ไหน ถ้าการตายแบบฉับพลันมีความทรมานน้อยกว่า เป็นไปได้ที่การฆ่าลูกจะเป็นการทำด้วยความรักครับ ลองนึกถึงเรื่องการุณยฆาตสำหรับผู้ป่วยหนักอาจจะเข้าใจ จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:38:45

ความคิดเห็นที่ 65   ถ้าจะให้ตายด้วยเงื้อมมือของแม่ก็ไม่เป็นไร ยังไงลูกก็รักแม่อยู่ดี ลูกก็คือลูก จากคุณ : เดธซิทีนี้ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 21:12:52

ความคิดเห็นที่ 66 คห 63  Category 1: การฆ่าด้วยความรัก (Altruistc filicide ) เราเดาว่ารักลูกมากเลยไม่อยากให้ลูกลำบาก คนเเบบนี้เป็นคนมองโลกในเเง่ร้าย  เลยคิดไปต่างๆว่าจะมีเเต่เรื่องร้ายเกิดขึ้นกับลูกตนหากตัวเองไม่ได้อยู่ปกป้อง อ่านบทความนี้เเล้วนึกถึงเพลง I've never been to me ของ Charlene เเม่ฆ่าลูก  เศร้า จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:18:43

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณ จขกท. ค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ อ่านแล้วหดหู่นิดหน่อย แต่ก็ดีใจที่รอดมาได้ คนเป็นลูกยังไงก็รักแม่ สายสัมพันธ์ตัดไม่ขาดจริงๆนะ จากคุณ : หิ่งห้อยดาวพฤหัส เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:28:45

ความคิดเห็นที่ 68 ....โพสซ้ำค่ะ.... แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 12:31:50 จากคุณ : หิ่งห้อยดาวพฤหัส เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:29:53

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นกระทู้ดูเศร้ามากมาย เลยนำ  bohemian rhapsody?   อีก Version มาฝากกันครับ จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:04:44

ความคิดเห็นที่ 70 กิฟท์หมด อยากให้จังค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ น้ำตาซึม คคห.49 เคยดูหนังเรื่องนี้ค่ะ ถึงกับอึ้งในความสามารถของพ่อแม่คู่นี้ เกิดจากความรักอย่างแท้จริง แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 14:14:33 จากคุณ : pyramidas เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 14:11:31

ความคิดเห็นที่ 71 ลองดูเรื่อง Tokyo sonata ดูนะคะ ญี่ปุ่นนี่มันเครียดเอาเรื่องเลย ดูจบแล้วหดหู่ มีเรื่องเกี่ยวกับ พ่อที่เป็นคนหารายได้หลักของครอบครัวตกงาน ภรรยาเป็นแม่บ้าน เลี้ยงดูสามี กับลูก พอเริ่มจับได้ว่า สามีตกงานก็เริ่มมีอาการทางจิต รวมกับคนพ่อเริ่มมีอาการทางจิต ที่ไม่ต้องการให้สังคม และครอบครัวรู้ว่าตนเองตกงาน สุดท้ายลงเอยด้วยการฆ่าตัวตายหมู่ (แต่คนลูกโดนฆ่า) จำไม่ได้แล้วว่าคนพ่อเป็นคนลงมือ หรือว่าแม่ จากคุณ : ฮ่าๆๆComeback (โฮ่งฮับตังเม) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 20:24:00

ความคิดเห็นที่ 72 เพลง bohemian rhapsody ที่ผมเข้าใจคือ เด็กหนุ่มคนหนึ่งไปยิงคนตายแล้วหนีคดี ก่อนจะโดนประหารก็คร่ำครวญให้พระเจ้ามาช่วย ครับ จากคุณ : ม้าไม้เมืองทรอย เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 20:49:08

ความคิดเห็นที่ 73 กระทู้คุณภาพอีกกระทู้ของคุณโอ้ละหนอ.. คราวนี้มีหลายท่านมาแจม เล่นเอาน้ำตาซึมค่ะ.. อ่านแล้วสยองหน่อยๆ สารเคมีทำให้เกิดโศกนาฏกรรม..หดหู่จริง หรือฆาตกรรมเกิดเพราะสารเคมีในตัวไม่บาลานซ์.. มนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่ซับซ้อนจริงๆ เราจำLorenzo's oil ได้ ดูตอนนั้นยังไม่มีลูก ตอนที่มีลูก แล้วเขาป่วยเป็นโรคลมชัก ระหว่างรักษา เราคิดถึงหนังเรื่องนี้ตลอด ตอนที่เหนื่อย ท้อแท้และปวดร้าวกับอาการที่เขาเป็น เราบอกตัวเองว่า ต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็งให้ได้  นึกถึงเรื่องนี้ แล้วเราก็อดทนกับมัน และผ่านมาได้..ตอนนี้กลับไปนึกถึงวันที่ต้องร้องไห้กับอาการของลูก เรารู้สึกภูมิใจนะ ที่เราผ่านมันมาได้ ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญเลย ที่ทำให้คนเราอดทนและกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา บางเวลาต่อให้เก่งแค่นั้น  มนุษย์เราก็อยากมีใครสักคนที่อยู่เคียงข้างและมาช่วยผ่อนหนักจากใจให้เบาลงบ้าง   เคมีในร่างมันจะได้สมดุล.. โหวตให้ค่า จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 00:07:15

ความคิดเห็นที่ 74 #72..สงสัยจะใช่นะ จากเนื้อเพลงท่อนนี้ เขาเป็นคนเหนี่ยวไก... Mama, just killed a man Put a gun against his head Pulled my trigger, now he's dead Mama, life had just begun But now I've gone and thrown it all away จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 07:00:33

ความคิดเห็นที่ 75 รักษาได้ด้วยการกินยาอย่างเดียวเหรอคะ??? หรือการพักผ่อน และธรรมะช่วยได้ด้วยคะ จากคุณ : redaman เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 21:22:37

ความคิดเห็นที่ 76 จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 19:09:24

ความคิดเห็นที่ 77 ฆ่าลูก...เพื่ออำนาจ??  อีกประเภทหนึ่ง ที่ปรากฏขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์โลก เช่นกรณี สมเด็จพระนางเจ้าบูเช็กเทียนผู้เรืองอำนาจ กับการสิ้นพระชนม์ปริศนาของพระราชธิดาพระองค์แรก http://th.wikipedia.org/wiki/บูเช็กเทียน http://en.wikipedia.org/wiki/Empress_Wu_of_China จากคุณ : briarrose เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 19:42:57

ความคิดเห็นที่ 78 เฟรเดอกุนด์ผู้สังหารลูกของตนและทุกคนที่เข้ามาขวางชีวิตของพระนาง (Fredegund or Fredegunda ราชินีแห่งเนอสเตรีย ฝรั่งเศส Queen of Neustria, France) http://en.wikipedia.org/wiki/Fredegund หนังสื่อเรื่องประหลาดในราชสำนัก เอามาแปะด้วยกันเลย จากคุณ : briarrose เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 19:49:32

ความคิดเห็นที่ 79 เป็นพ่อแม่คนก็ไม่ง่ายเลยเนาะ จากคุณ : mokiga เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 21:19:25