ความคิดเห็นที่ 1 ป.ล. อีกอย่างหนึ่ง ที่ผมมาถามนี้ก็เพราะว่า ผมเคยเห็นข่าวที่ว่า มีคนญี่ปุ่นที่ทำงานหนักจนตายคาออฟฟิศปีหนึ่งๆตั้งหลายคน ผมจึงคิดว่าประโยคนี้น่าจะเป็นเท็จ จากคุณ : พระนักรบ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 06:29:26

ความคิดเห็นที่ 2   วลีนี้เคยได้ยินมานานแล้ว ส่วน มหาวิทยาลัยไหนจะเอาไปเป้นคำขวัยก็ไม่ทราบได้ ต่างคนต่างมุมมอง เขาคงหมายถึง ทำงานหนัก แล้ว มีประสิทธิภาพด้วย มั้งครับ จากคุณ : คิดมากทำไม เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 06:53:17 A:124.121.83.233 X: TicketID:155104

ความคิดเห็นที่ 3   เท็จครับ จากคุณ : ฤาจะไร้ดวงใจหทัยชื่น เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 06:53:53

ความคิดเห็นที่ 4   นมัสการหลวงพี่ครับ ขอโทษครับหลวงพี่ ช่วยไปดูที่ผมแนบมาให้หน่อยซิครับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8873523/X8873523.html พอดี หลวงพี่ เข้าห้องผิดหรือเปล่าครับ อยากนิมนต์ไปคุยที่ห้องราชดำเนินได้ไหมครับ ด้วยความเคารพ ครับ จากคุณ : เณรแอ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 06:55:00 A:125.0.170.120 X: TicketID:247238

ความคิดเห็นที่ 5 (ทำ)งานหนักอาจจะทำให้ได้ตายหรือพิการได้ค่ะ มีคนรู้จัก สามีทำงานหนักมาก เช้า7โมง เลิก1ทุ่มก็ไม่3-4ทุ่ม เครียดจนผมร่วง มีคนเเนะนำให้จนเวลาเข้างานเลิกงานไว้ทุกวัน เผื่อเป็นอะไรจะได้เอาไปอ้างได้ว่าโดนใช้งานหนัก หุหุหุ ส่วนตัวก็ทำงานหนัก บ้าทำ ชอบทำ จันทร์ถึงอาทิตย์ เเฮ่ๆ^^ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:05:59

ความคิดเห็นที่ 6 คำขวัญปลุกใจ ใยต้องหาความจริงเล่า ^^ จากคุณ : nutxnut เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:09:04

ความคิดเห็นที่ 7 เรียนคุณเณรครับว่า  คำถามนี้ผมถามตรงไปตรงมา ถามในแง่มุมของวิทยาศาสตร์ล้วนๆเลยนะครับคุณเณร ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : พระนักรบ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:12:46

ความคิดเห็นที่ 8 .....            ทำงานหนัก ไม่ตายมั้งครับ แต่เหนื่อย       และ จะคิดถึง วันเสาร์ วันอาทิตย์ และถ้าเย็นวันศุกร์ล่ะ จะเป็น       แบบนี้ครับ เย็นวันศุกร์                                                                                     จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:15:28

ความคิดเห็นที่ 9 มันคงไม่ตายแบบเฉียบพลันมั้งครับ แต่ค่อยๆ เสื่อมลงๆ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:25:51

ความคิดเห็นที่ 10 นักปราชคนหนึ่งบอกงานหนักไม่เคยฆ่าคน แต่เคเนดี้บอก ทำไมต้องเสี่ยง สาเหตุที่งานหนักไม่เคยฆ่าคนเพราะงานหนักมันก็แค่งานแล้วแต่คนจะเลือกทำหรือไม่ทำเท่านั้น ซึ่งอันนั้นขึ้นอยู่กับสปิริตของคนคนนั้นนั้นแหละ แต่ชีวิตจริงในวัยทำงาน เจ้านายจะเอางานด่วนตอน 6 โมงเย็น ไงก็ต้องทำแม้ไม่อยากทำ จริงใหม ปล.ผมเรียนมหาลัยที่เชียงใหม่ที่มีคำขวัญนี้แหละ จากคุณ : babu_radio เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:42:04

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับท่าน จขกท.ครับ กระผมทำงานในสนามบินมา14ปี รู้จักเพื่อนๆสายการบินที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัทที่ผมทำงานอยู่  พี่แกคนนี้รับโอทีตลอดเพราะก่อนหน้าที่สายการบินนี้จะทรุด โอทีของสายการบินนี้เปิดกว้างมาก พี่คนนี้ก็ทำโอทีตลอด ติดต่อกันหลายปีเลย ได้เงินเก็บแบบเป็นกอบเป็นกำ มีทุกอย่างที่สามัญชนจะมีได้ แต่ทุกวันนี้เงินที่ทำทีมาได้ก็เอามารักษาตัวเพราะสุขภาพทรุดอย่างหนักและมีเพื่อนๆอีกหลายคนที่แก่ก่อนวัย(บางคนตอนหนุ่มๆหล่อมากๆๆๆๆ) เครียดจนแฟนทิ้ง เก็บตัวไม่สุงสิงกับใครก็มีหลายคน   ทุกๆอย่างถ้าอยู่ในความพอดีพอควรมันก็จะลงตัวไปในทางที่ดีเสมอ บางครั้งคำขวัญหลายๆอย่างก็ควรมีการตีความกันบ้าง ไม่ใช้เอาซาบซึ้ง น้ำตาคลอเบ้าเร้าใจเข้าว่า.... จากคุณ : jim bowies เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 07:49:03

ความคิดเห็นที่ 12 คำขวัญ แค่ต้องการบอกว่า เหนื่อยนัก พักเหนื่อยก็หาย ไม่ถึงตาย งานหนัก ไม่ใช่งานที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใช้งานที่ไม่มีประสิทธิภาพนะครับ คนละเรื่องกัน อย่างหมอผ่าตัดก็ถือว่าเป็นงานหนักเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่จับกังแล้วต้องทำงานหนัก จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:04:23

ความคิดเห็นที่ 13   แม่โจ้ แม่โจ้ของเรา...... เห่อะๆ ม.ผมเองคับ จากคุณ : Sakutaro_MZT เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:07:03 A:10.100.1.125 X:112.142.6.140 TicketID:189434

ความคิดเห็นที่ 14 เขาสื่อว่า อย่าไปกลัวงานหนัก ครับ สอนให้สู้งาน ไม่เกี่ยงงาน ปล. ผมเรียนที่เดียวกับ คห. 10 จากคุณ : sayanjo65 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:09:31

ความคิดเห็นที่ 15 "หมอผ่าตัดก็ถือว่าเป็นงานหนักเหมือนกันนะครับ" ถูกต้องครับ แล้วเท่าที่ผมทราบ หมอผ่าตัดนี้และครับที่ต้องตายก่อนอายุ60เยอะมาก จากคุณ : พระนักรบ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:09:44

ความคิดเห็นที่ 16 "Work hard but not work smart" ทำงานหนักเป็นโรคไหลตายเอาง่ายๆ คนญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามโลกทำงานหนักจนเป็นโรคไหลตายไม่ใช่น้อย คำขวัญนี้ผมว่าโหดร้ายเอาเรื่องเลย มันดีสำหรับนายจ้าง แต่สำหรับลูกจ้างมันหมายถึงชีวิต จากคุณ : HonLin เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:29:11

ความคิดเห็นที่ 17 ได้รับคำเตือนด้วยความโกรธแค้น มาจากบางท่าน เราจึงขอลบข้อความเดิม และขอเรียนว่า เราขออภัย ถ้าไม่ถูกใจท่าน เราไม่ได้หมายถึงสถาบันใดสถาบันหนึ่ง เราเพียงแต่เขียนข้อความเลียนทวนข้อความที่เป็นกระทู้เท่านั้น เพราะกระทู้ก็ไม่ได้ระบุชื่อมหาวิทยาลัย ไม่ได้บอกว่าเป็นของมหาวิทยาลัยอะไรแต่อย่างใด สวัสดี แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 15:08:09 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 15:05:54 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 14:56:30 จากคุณ : kongsilp2000 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:40:13

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับ คห16 มันเหมือนคำขวัญของนายจ้างมากกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแนวคิดหลายอย่างของม.แห่งนี้ จากคุณ : Cigarette Smoking Man เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:51:20

ความคิดเห็นที่ 19 ที่โรงงานผมหลับแล้วไม่ยอมตื่น ปีละหลายคน เข้างาน 7.30 เลิกงาน  22.00 เป็นมาตรฐานครับ ผมทำโอที่เฉลี่ยเดือนละกว่า 100 ชั่วโมง เคยทำมาที่สุด 200 กว่าชั่วโมง ตอนเข้างานมาได้ 3 เดือนแรกฟิตจัด คูณตัวคูณเข้าไปก็ปาไป 300 กว่าชั่วโมง มากกว่าเงินเดือนอีก ตอนนี้ สุขภาพแย่ครับ ทั้งร่างกายและจิตใจ เหนื่อย โพดๆ แต่ละวันเลิกงานก็กรอบเป็นข้าเกรียบ ไม่เหลือสมองไว้คิดเรื่องอื่นที่จะทำให้ชีวิตดีกว่านี้สักเท่าไหร่ วันหยุดไม่คิดอยากไปไหน หรือทำอะไรเลย นอกจากนอน นอน นอน แฟนก็งอน 4 ปี ที่ทำงานที่นี่ผมเลิกกับแฟน ไป 2 คนแล้ว คนปัจจุบัน ไม่รู้เค้าจะทนได้นานแค่ไหน ปล. ที่ยังไม่ลาออกเพราะที่นี่แอบเล่นพันทิปได้นี่แหละ เหตุผลเดียวจริงๆ จากคุณ : Tread'em all เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:54:14

ความคิดเห็นที่ 20 งานแต่ละยุคมันไม่เหมือนกัน เมื่อก่อน - เหนื่อย"แทบ"ตาย ตอนนี้    - เครียด "ตายชัก" ใครว่างานนั่งโต๊ะสบาย ผมว่าไม่จริงเสมอไปนะครับ แต่ผมน่ะสบายจริง 555+ จากคุณ : สมบัติดี เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:58:15

ความคิดเห็นที่ 21   ผมว่าทำงานหนักตายนะเยอะมากครับ   และไหนจะตายผ่อนส่งอีก  โรคหัวใจ  ความดัน แต่ผมว่าประโยคที่ว่า"งานหนักไม่เคยฆ่าคน"  ผมว่าไม่ผิดนะ  อยู่ที่คนนำไปใช้     ช่วงย่อหย่อนก็ใช้ประโยคนี้       ส่วนช่วงไหนหนักเกินไป ก็ต้องรู้ตัว   ก็ต้องลดลง   ต้องรู้จัก หนักเบา  สั้นยาว    จะกำไปใช้ตะบี้ตะบันนั้น  ถือว่าขาดสติ ปัญญา คุ้มครองตัวครับ จากคุณ : Pier Gerlofs Donia เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:07:35

ความคิดเห็นที่ 22   เป็นการให้กำังใจน่ะครับ  คนที่ท้อจากการทำงาน ได้ยินมันก็รู้สึกว่า ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน มันก็ไม่ถึงตาย ถ้าไม่ประมาท   ดีกว่าไม่มีงานทำ แล้ว อด ตาย จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:10:21

ความคิดเห็นที่ 23   แสดงว่าคำขวัญนี่หลอกลวง สมควรเลิกใช้แล้ว ทำงานหนักไป ก็สุขภาพเสื่อม หัวใจวาย ไหลตาย เครียดตาย ไม่ทำงาาน ก็อดตาย ก็ต้องหาทางสายกลาง งานทำแต่ไม่หนักจนตัวตาย และเลี้ยงตัวเองได้ด้วย จากคุณ : NormalHuman เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:18:43 A:125.24.208.35 X: TicketID:250418

ความคิดเห็นที่ 24 "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" ในแง่หนึ่งก็ถูกนะครับ เพราะที่ตายๆกันไปก็ด้วยอาการแทรกซ้อนเท่านั้น เหมือนกันที่ว่า "คนเป็นเอดส์ ไม่ได้ตายเพราะเอดส์ แต่ตายเพราะโรคแทรกซ้อน" หรือ "ขับรถเร็ว ไม่ตายครับ แต่ถ้าชน หรือแหกโค้ง  หรือพลิกคว่ำ จะตายได้" จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:22:08

ความคิดเห็นที่ 25 **  เป็นคำขวัญสร้างกำลังใจ   อย่าท้อ    เวลาท้อนึกถึงคำขวัญทำให้เกิด กำลังใจ      เวลาตีความคำขวัญควรตีไปทาง บวก   ตีไปในทางที่ดีครับ เมื่อใดที่ตีไปทางลบคำขวัญไหนก็ไม่ดีไม่ถูกดอกครับ      เช่น" ประเทศเป็นบ้าน   ทหารเป็นรั้ว "   ถ้าตีความไปในทางลบ ก็จะได้ว่า  รั้วทำไมมาอยู่กลางบ้าน  ไม่อยู่รอบๆบ้านล่ะ......ดังนี้ จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:46:40

ความคิดเห็นที่ 26 #20 ผมทำงานนั่งเก้าอี้ครับ ไม่เคยนั่งโต๊ะ จากคุณ : AW Milan เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 09:47:33

ความคิดเห็นที่ 27 มหาวิทยาลัยแห่งนั้น  เดิมที เป็นวิทยาลัยเกษตรครับ ดังนั้น  คำว่างานหนักนี่   ตีความหมายถึงงานที่ใช้แรงกายอย่างหนัก  เช่นการทำเกษตรกรรม  มั้งครับ ไม่ได้หมายถึงการโหมทำงานอย่างหนัก  หามรุ่งหามค่ำใน  office ยังไม่เคยเห็นชาวนาตายเพราะทำนา   ชาวสวนตายเพราะทำสวนเลยครับ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:00:08

ความคิดเห็นที่ 28 งานหนักไม่เคยฆ่าคน งานหนักในที่นี้ คืองานที่ใช้แรงอย่างหนัก มิใช่ การโหมทำงานอย่างหนักครับ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:02:06

ความคิดเห็นที่ 29   แสดงว่าเป็นการใช้คำกำกวม เลยสื่อความหมายผิดได้ น่าจะใช้ว่า งานเกษตรไม่เคยฆ่าคน (เพราะใครจะทำหนักหรือเบาก็แล้วแต่คน ทำหนักไปก็ตาย ทำเบาไปก็ไม่พอกิน ต้องทำพอดีๆ) จากคุณ : NormalHuman เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:11:09 A:125.24.225.108 X: TicketID:250418

ความคิดเห็นที่ 30 งานหนักไม่เคยฆ่าคน แต่ สมัยนี้ ต้องการคนที่ทำงานอย่างฉลาด มากกว่า สายบ้าพลังทำงานหนักครับ เมื่อก่อนโรงงานที่ผมเคยไปทำงาน (ญี่ปุ่น) ก็มีคนช็อคหามส่งโรงพยาบาล ไปแล้ว จนในโรงงาน (แผนก R&D นะนั่น) ต้องออกกฎยิบย่อย เกี่ยวกับการทำงานเกินเวลา อย่างเช่น ถ้าเกินไประดับนึง ..... หัวหน้าต้องเข้าไปดูแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น.... ถ้าต้องทำงานเกินเวลาจริง ก็ต้องทำ แต่จะมีลิมิตไว้อีกระดับนึง ถ้าถึงลิมิตเมื่อไหร่   ต้องไปหาหมอตรวจร่างกาย แล้วเดือนนั้น ห้ามทำโอที อีกเลย จนย้ายมาอยู่ ออฟฟิส  กฎพวกนี้ก็ยังตามมาใช้อยู่ดี ......... ถึงจะไม่ต้องไปหาหมอ แต่ก็ห้ามทำโอทีเกินเวลาที่กำหนด จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:11:34

ความคิดเห็นที่ 31 จากที่หลายท่านบอกมาครับ น่าจะเป็นการบอกว่าการทำงานหนัก ไม่เคยทำให้คนตายได้เป็นการเปรียบเปรยมากกว่าครับ แล้วมาจากแม่โจ้ซึ่งเป็นมหาลัยทางด้านเกษตรกรรม จากคุณ : @Server ! maN@ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:18:18

ความคิดเห็นที่ 32 เคยเห็นคนทำงานหนักแต่ไร้ประสิทธิภาพ พี่แกอยู่ดึกทุกวัน แต่ทำงานที่ออกมาได้แค่ระดับคนธรรมดาทำ 2-3 ชม ก็เสร็จ แถมตำแหน่งใหญ่ด้วยนะ บ.เอกชน ไม่ใช่รัฐ "งานหนัก"ในคำนั้นน่าจะหมายถึง"ความเพียรพยายาม"มากกว่า จากคุณ : Dequardo เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:30:37

ความคิดเห็นที่ 33 หมายถึง มีงานอะไรก็ทำไป  อย่าไปเลือกงาน   ตาม #14 น่ะแหละ จากคุณ : bglite เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:32:59

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนตัวคิดว่า ถูกครับ เพราะการทำงานหนักไม่ได้ฆ่าคน เพราะไม่งั้นทำงานหนักขึ้นมาหน่อย ก็คงตายไปแล้ว แต่ที่ฆ่าคือ ไม่รู้จักพักเมื่อเวลาต้องการ มองอีกนัยยะหนึ่งว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะหยุดทำงานหนักเมื่อไรก็ได้ สิ่งที่ฆ่าคุณก็คือการไม่รู้จักใช้สิทธิ์นั้น ก็ลองคิดดูว่าทำไมเราต้องทำงานหนัก อะไรที่ทำให้เรายึดอยู่อย่างนั้น สิ่งเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้เรา ไม่รู้จักหยุด และตายในที่สุด จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:46:17

ความคิดเห็นที่ 35 ^ คิดเหมือนกันครับ งานหนักไม่เคยฆ่าคน มีแต่คนที่ทำงานหนักน่ะแหละฆ่าตัวเอง รู้จักประมาณตน รู้จักความพอดี ถึงจะรักษาสุขภาพตัวเองไว้ได้ งานหนักฆ่าคน? งานมันจะมาฆ่าคนได้ไงครับถ้าคนนั้นเลือกที่จะไม่ทำ จากคุณ : donutpla2 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:54:52

ความคิดเห็นที่ 36   ##17## ใครเรียนที่ไหนย่อมรักที่นั่นนะครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจความหมายถ่องแท้อย่ามาพูดถ่อยๆ ดีกว่า แม่โจ้ไม่ได้สอนให้ใครเป็นทาส ทั้งนั้นครั้บ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 17:18:56 จากคุณ : แม่โจ้68 (พี่เป้าคนเดิม) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 10:57:08

ความคิดเห็นที่ 37 #17  แรงไปหรือเปล่าครับ   กรุณาให้เกียรติผู้อื่นบ้าง จากคุณ : 447 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 11:19:44

ความคิดเห็นที่ 38 คงจะ ปลูกจิตสำนึกความขยัน ให้นักเรียนนักศึกษา มั้งครับ แบบว่า ไม่ได้ตั้งใจจะบอก กับคนที่อายุ30+ หรือคนที่ ผ่านงานมาโชกโชน เค้าพูดกับ นักศึกษา ซึ่งกำลังริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต ว่าอย่าขี้เกียจ เข้าใจตาม คคห.#27 ครับ ที่ว่า คงกำลังพูดถึงงานเกษตร ... แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 11:31:25 จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 11:30:18

ความคิดเห็นที่ 39 คำว่า Work Hard มีความหมายตรงกันข้ามกับอะไรครับ ผมเห็นว่า มันตรงข้ามกับ "ทำงานหยิบโหย่ง ขาดความเอาใจใส่ ไร้วินัย" ผมไม่เห็นว่า มันจะตรงข้ามกับ "ทำงานอย่างฉลาด" เลย ในขณะที่ Work Smart มีความหมายตรงกันข้ามกับอะไรครับ ผมเห็นว่า มันตรงกันข้ามกับ "ทำงานอย่างขาดสติ ไร้ปัญญา ไม่รู้จักแก้ปัญหา" ผมไม่เห็นว่า มันจะตรงข้ามกับ "ทำงานอย่างสุจริต ขยันขันแข็ง ตรงไปตรงมา" แต่คนในสังคมสมัยนี้ กำลังเห็นความหมายไปในทางอื่น จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 11:37:06

ความคิดเห็นที่ 40 ไปเอาคำขวัญ ที่แม่โจ้ เอามาถาม คนทำงานออฟฟิศ ในกทม. ผมว่าไม่ค่อยจะ เข้ากันซักเท่าไร งานหนัก ในที่นี้คงหมายถึง ออกแรงเยอะ เสียเหงื่อ ซึ่งก็สามารถ มีเวลา นอนหลับวันละ8-10ชั่วโมง (แล้วแต่อยากจะพักผ่อน) ต่างกับการ อดนอน ในออฟฟิศ .........? จากคุณ : Patriots เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 11:44:23

ความคิดเห็นที่ 41 แอบเศร้ากะคนตั้งถาม คิดได้ไง คนที่ทำงานจนตายผมว่าเค้าไม่คิด ในเมื่อไม่คิดก็สมควรครับ จบข่าว และการที่บอกว่า ม.สอนให้เป็นทาส ผมว่า แรง ไปนะครับ ผมเห็นคนที่จบจากที่นั้นมาเก่งเยอะแยะมากมายแถมไ่ม่ได้เปนทาสด้วยครับ ปล.ผมไม่ได้จบที่นั่นมาครับ แต่คนรู้จักจบที่นั่นเยอะครับ จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 11:54:32

ความคิดเห็นที่ 42 มันเป็นคำปลุกใจอย่างที่ข้างบนว่านั่นแหละครับ   ถ้ามองแบบตรงๆยังไงมันก็เท็จ  แต่ถ้าคิดตามความหมายที่เค้าต้องการจะสื่อมันก็จะจริงครับ จากคุณ : เมื่อกี้ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 12:03:38

ความคิดเห็นที่ 43   คนที่กล่าวคำนี้ออกมาได้ ก็เป็นแค่ "พวกอยู่บนหอคอยงาช้างที่ไม่เคยได้จับงานหนักจริงๆ" จากคุณ : หล่อเลิศ ฉลาดล้ำ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 12:13:03

ความคิดเห็นที่ 44 งานหนัก ไม่เคย ค่าคน จริงครับ แต่คนทำงานหนักจนตายนั้น คงจะเรียกว่าโง่ เพราะถ้าฉลาด ก็จะ Working Hard & Working Smart จากคุณ : Taradula (Taradula) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 12:15:57

ความคิดเห็นที่ 45 บริษัทผม Work Smart not Work Hard จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 12:40:50

ความคิดเห็นที่ 46 #43 คำพูดนี้มันไม่เหมือน 1+1 = 2 นะครับจะได้มองตรงๆอย่างเดียว - -" มองให้มันรอบสิครับ ความหมายแฝงที่เป็นความหมายหลักมันมีอยู่ ไม่น่ายากนะ จากคุณ : เมื่อกี้ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 12:44:54

ความคิดเห็นที่ 47   ก็บอกแล้วคำพูดมันกำกวม นิยามของคำว่า งานหนัก ของคนทั่วไปคือ งานเยอะ งานทีีใช้แรงมากๆ หามรุ่งหามค่ำ ดังนั้น งานหนักฆ่าคนแน่ น่าจะใช้คำที่มันไม่กำกวมแบบนี้ จากคุณ : NormalHuman เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 12:52:07 A:125.25.188.146 X: TicketID:250418

ความคิดเห็นที่ 48 มันเป็นคำขวัญ ครับ มันเป็นคำขวัญ เหมือนคำว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนั่นแหละ ในความเป็นจริงต่อให้ขี้เกียจขนาดไหนถ้าเหยียบขี้ไก่มันก็ฝ่อทั้งนั้นล่ะ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 13:40:14

ความคิดเห็นที่ 49   ถูกต้องแล้วครับ งานหนักไม่เคยฆ่าคน แต่การพักผ่อนไม่พอต่างหาก ที่ฆ่าคน จากคุณ : สิบเอกกองหนุน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 13:49:49 A:125.27.85.138 X: TicketID:136335

ความคิดเห็นที่ 50 วลีนี้..คนพูดชื่อ.. จอมพล ป. พิบูลสงคราม.. 1 ใน Propaganda ยุคแรกๆ เช่นเดียวกับ เพลงปลุกใจต่างๆ.. จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:15:33

ความคิดเห็นที่ 51 คำขวัญครับคำขวัญ คำขวัญย่อมต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม และความหมายที่อยู่คำขวัญนั้นๆ เพื่อให้คำขวัญนั้นสั้นๆง่ายๆ ของมช.เป็นบัณฑิตย่อมฝึกฝนตนเอง ก็ฝึกฝนตนเองแล้วเข้ามานั่งฟังครูสอนทำไม ไปอ่านมาเอง สงสัยแล้วค่อยมาถาม เห็นมั้ยครับ ตีความแบบผิดก็เลยกลายเป็นคนละเรื่อง งานหนักของแม่โจเค้าคงไม่ได้หมายความว่าให้คนทำงานหนักเป็นวัวเป็นควายหรือเป็นทาสขนาดนั้น ถ้าเรียนจนจบแล้วยังตีความคำขวัญอันนั้นไม่ได้ก็จง ทำงานหนักเป็นวัวเป็นควายหรือเป็นทาสไปเถิด จากคุณ : Ronachai (amscmu) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:19:57

ความคิดเห็นที่ 52 งานหนักไม่เคยฆ่าคน แต่งานหนักทำให้เราหมดความเป็นคน(กลายเป็นทาส) จากคุณ : jackmaster เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:32:08

ความคิดเห็นที่ 53 บรรดาเจ้าสัวที่ตั้งต้นจากการหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน ล้วนเคยผ่านงานหนักมาทั้งนั้น จากคุณ : DoraeMa เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:36:22

ความคิดเห็นที่ 54   การทำงานหนักเกินกว่า 48 ชม./สัปดาห์ ทำให้อายุสั้นลงจริงครับ...... จากคุณ : น้ำปลาเดือนห้าโดนแบนรอบสอง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:40:42 A:202.139.223.18 X: TicketID:183419

ความคิดเห็นที่ 55 ตาม #24 ครับ เป็นปัจจัยทำให้ถึงชีวิตได้ แต่ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เรื่องที่ว่าเราควรทำงานให้ได้ประสิทธิภาพมากกว่า การทำงานหนักอาจเห็นผลระยะสั้น แต่ผมไม่เคยเห็นใครที่ทำงานหนักได้นานๆ แล้วประสิทธิภาพไม่ตกสักที จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:46:18

ความคิดเห็นที่ 56   #17 ระวังโจ้เก่าไปหานะคับ หึหึ อย่างน้อยผมก็คนนึงละคับที่ไม่ได้ถูกสอนให้เป็นทาสใคร หว้ากอนี่พี่ๆโจ้เยอะเหมือนกันนะคับเนี่ย..... -------------* "เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย ได้รับราชการในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ โรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ นับเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาแม่โจ้ไปสู่มิติใหม่ โดยการรับจำนวนนักศึกษาเกินกว่าที่กรมอาชีวศึกษากำหนด จึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า นักศึกษาเหล่านั้น มีความพร้อมและต้องการที่จะเรียนเกษตรจริงๆ ด้วยการทำงานหนัก หลังจากผ่านการทดสอบนักศึกษาใหม่ไปแล้วราวเดือนเศษ ท่านได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนักศึกษาที่เหลืออยู่ว่า การเรียนเกษตรที่แม่โจ้นี้ ต้องฝึกความทรหดสู้งานได้อย่างไม่ท้อถอย เพื่อจะได้เป็นลูกแม่โจ้ที่อดทน เข้มแข็ง ไม่กลัวงานหนัก ท่าน ขอให้จดจำคำพูดของท่านเสมอว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน ใครที่ตายเพราะทำงานหนัก จะสร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้ที่แม่โจ้" http://www.maejo.net/MaejoStory/MaejoStory21.html จากคุณ : Sakutaro_MZT เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 14:49:51 A:10.100.1.216 X:112.142.119.120 TicketID:189434

ความคิดเห็นที่ 57   เห็นด้วยกับ #56 ผมก็ลูกแม่โจ้เหมือนกัน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ มาอ่านแล้วเจอคนวิจารณ์ สถาบันเก่าตัวเอง ปรี้ด เหมือนกัน แต่ก็นะ ต่างคนต่างมุมมอง   ทุกสาถบันสอนให้เราเป็นคนดีครับ แล้วก็ ถ้าเจ้าของกระทู้อยากรู้ว่าแม่โจ้เป็นไงลองไปเรียนเองหรือ ส่งลูกหลานไปเรียนดูครับ อิอิ รับรอง มันส์พ๊ะย๊ะค๊ะ จากคุณ : ว่าไปเรื่อย (AvarBa) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 15:02:50

ความคิดเห็นที่ 58   เอางี้ ขยันแต่โง่ ฉลาดแต่ขี้เกียจ คุณชอบแบบไหน จากคุณ : เอ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 15:04:07 A:115.87.70.34 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 59   ไม่จริง เอาไว้หลอกคนให้เชื่อ ยิ่งเป็นลูกน้องเค้านะ... เอาใกล้ตัวผมที่สุดล่ะกัน สมัย ม.ต้น มีเพื่อนที่สนิทกันมากตั้งแต่ ม1(เรียนห้องเดียวกันจนจบ ม.3) ไปเล่นเกมส์บ้านมัน นานๆทีช่วงเสาร์-อาทิตย์) เพราะบ้านมันไกลกว่าผมพอควรและมันก็ไม่เคยมีเพื่อนไปบ้านมันมาก่อน(จนมาเจอผมกะเพื่อนอีกคน) พ่อเพื่อนผม ยังดูหนุ่มแน่นล่ำบึกแข็งแรงมาก ทำงานที่สนามบินดอนเมืองน่าจะเกียวกับการสื่อสาร ชอบมานั่งดูผมกับเพื่อนเล่นเกมส์ด้วยกัน ท่านก็จิบเบียร์สบายอารมณ์ไปดูลูกหลานเล่นเกมส์กันไป ในทุกๆวัน ท่านต้องไปกลับ ลพบุรี-รังสิต ด้วยรถไฟตลอด ทุกวันทุกๆวัน ไปตี4กลับถึงบ้าน 4-5 ทุ่ม เพราะบ้านอยู่ลพบุรี ผมจบ ม.3 กะลังจะเข้า ปี1 ปวช วันแรกๆของการเปิดเรียน(เข้าเรียนวิทยาลัยเดียวกันแต่คนล่ะคณะ)เพื่อนผมมาบอก พ่อ หัวใจล้มเหลว ตายแล้ว ผมงี้อึ้งไปเลย เพราะพ่อเพื่อนผมยังดูแข็งแรงมากล่ำๆด้วย พ่อมันใจดีด้วย เลยคิดใหนวะงานหนักไม่ทำให้คนตาย.... คห.ผมไม่เกี่ยวกะสถาบันเด้อ พี่น้อง แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 03:26:27 จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 15:29:26

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่จริงครับ ลงชื่อ มือปืนร้อยศพ (แทน) จากคุณ : น้องมะลิ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:36:42

ความคิดเห็นที่ 61 แม่โจ้ผมเคยไปครั้งนึง เพื่อไปดูที่เรียนให้น้อง..ร่มรื่นน่าอยู่มาก..ก็เห็นป้ายนี้เหมือนกัน "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" ผมเห็นด้วยนะ มันเป็นกุศโลบาย (จริงๆใครจะบ้าทำงานจนตายล่ะ จริงมั้ย) เพราะแม่โจ้เป็นสถาบันมีชื่อทางด้านการเกษตร (ซึ่งต้องเจองานหนักอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีเครื่องทุ่นแรงก็ตาม) เค้าก็เขียนเอาไว้ปลอบใจเวลาเจองานหนัก แล้วจะได้มีกำลังใจสู้ต่อ.. จนในที่สุดก็พบกับความสบายครับ.. ตัวอย่างก็มีให้เห็น  ว่าใครบ้างที่รวยๆในประเทศไทย หรือในระดับโลก ไม่มีใครที่ไม่ทำงานหนัก ก่อนที่เค้าจะสบายเค้าทำงานหนักกันทุกคนครับ..ในไทยเอาคร่าวๆก็คนก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ กสิกร อยุธยา เคยเป็นจับกังมาก่อนทั้งนั้น..ระดับโลกก็Bill gate ,Steve jobs นั่งเขียนโปรแกรมกันทั้งวันทั้งคืน.. ที่เราเห็นเค้าทำงานสบายๆ และมีประสิทธิภาพ ณ ขณะนี้นั้น นั่นเพราะเค้าผ่านจุดที่หนักๆมาแล้วครับ.. การที่แม่โจ้สอนให้คนสู้งานหนัก ก็เป็นกุศโลบายให้ได้พบกับความสบายนั่นเอง..เทียบได้คงประมาณนี้ "คนที่ไม่กลัวความเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยชั่วขณะ คนที่กลัวความเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยตลอดชีวิต" เดี๋ยวดูดิ ก็จะมีคนมาแย้งได้อยู่ดี จากคุณ : O-DED เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 16:52:02

ความคิดเห็นที่ 62   ตายชัวร์ครับ คำขวัญแบบนี้ออกมาเพื่อเอาใจนายทุน สถาบันนี้มุ่งรับใช้นายทุนไม่ใช่รับใช้สังคม จากคุณ : จริงมั้ย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:20:15 A:202.176.138.237 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 63 อะไรมันจะตรงขนาดนั้นครับพวกคุ๊นนนนนน เอ้อ - -   มีความสวยงามในชีวิตกันบ้างเหอะครับ  จะมีแต่วิทยาศาสตร์ๆๆๆ เหตุผลๆๆๆ ความถูกต้องๆๆ แค่นี้หรอครับในชีวิตน่ะ ถ้าทั้งโลกเป็นแบบคุณมันก็ไม่มีศิลปะแล้ว เพราะมันไม่มีประโยชน์  ตึกก็เป็นรูปทรงเดียวกันหมด  ทุกอย่างอยู่ในแบบแผนหมด  เจริญเหอะ จากคุณ : เมื่อกี้ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:40:10

ความคิดเห็นที่ 64 "งานหนัก ไม่เคยฆ่าคน"  ใครจะเข้าใจยังไงก็ช่าง แต่คำๆนี้สำหรับลูกแม่โจ้ พวกเข้าใจความหมายดี อย่างลึกซึ้ง.... และจะยึดเป็นแนวทางต่อไป...หนักเอา เบาสู้ เราไม่กลัวงานหนัก.. พวกเราคือลูกพระพิรุณครับ..... จากคุณ : เด็กชายแตงกวา เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 17:53:49

ความคิดเห็นที่ 65 ...propaganda นิดๆ จากคุณ : พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว (Cryptomnesia) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 18:43:38

ความคิดเห็นที่ 66 ดีนะ ผมไม่ได้เรียนแม่โจ้ ไม่งั้นคงสวนไปว่า "ถ้าผมตายคนแรก ให้แม่ผมแสนล้าน เอาไหม" จากคุณ : powerconduit เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 21:07:00

ความคิดเห็นที่ 67 คำกล่าวอันนี้ (ผมไม่ได้บอกว่าคำขวัญของมหาวิทยาลัยนี้นะ) มันต่อด้วยข้อความทำนองว่า ไม่ทำงานต่างหากเล่าที่จะอดตาย ไม่ใช่หรือ คือความหมายโดยรวม = มีงานดีกว่าไม่มีงาน ดังนั้นการยกมาแค่ครึ่งเดียว ย่อมฟังดูไม่สมเหตุสมผล อีกอย่างผมเห็นด้วยกับประโยคนี้ของ #12ครับ "งานหนัก ไม่ใช่งานที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใช้งานที่ไม่มีประสิทธิภาพนะครับ คนละเรื่องกัน" จากคุณ : อากง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 21:20:33

ความคิดเห็นที่ 68 ต่างคนก็ต่างความคิด ปรัชญาของแต่ละมหาลัยก็ต่างกัน ผมเข้าใจกับคำว่า "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" ของมหาลัยผมนะ เขาไม่ได้สอนให้ผมเป็นทาสใคร ไม่ได้สอนให้ผมเป็นข้ารับใช้นายทุน แต่สอนให้ผมอดทน สู้งาน ไม่กลัวลำบาก อะไรที่มันโถมมาใส่เราต้องฝ่ามันให้ได้ คนที่บอกว่ามหาลัยผมสอนให้เป็นข้านายทุน ถามหน่อยเถอะ บัณทิตจบมาจากทุกมหาลัยต่างๆทุกวันนี้ ตอนหางานทำกันนะ ไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทกัน ถาม? แบบนี้เป็นข้ารับใช้นายทุนกันไหม ผมก็ไม่ได้โง่ที่จะทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่พักจนตาย อันนั้นมันเรียกว่าโง่ คนทำงานเป็น ไม่มีใครบ้าทำขนาดนั้นหรอก ถามว่าทุกวันนี้เสียใจไหม ที่ได้ไปเรียนแม่โจ้ ตอนปีสองเอนฯ ใหม่ติด วนศาสตร์ มหาลัยเกษตร แต่ไม่เอา เรียนที่แม่โจ้ไป 8 ปี ผมไม่เคยเสียใจเลยที่เรียนที่นี่ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 21:33:30 จากคุณ : sayanjo65 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 21:31:26

ความคิดเห็นที่ 69 ผมเคยทำงานวันละ 18 ชั่วโมง (สามงาน) ได้นอนประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวัน ต่อกันสองสัปดาห์  เกือบตาย จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 22:15:28

ความคิดเห็นที่ 70 เป็นคำที่ต้องแปลความหมายที่แฝงไว้อีกครั้ง แต่จะแปลออกมาเป็นลักษณะไหน อยู่ที่ระดับความคิดของ ผู้อ่านครับ  อ่านไปเยอะ ๆ รู้สึกว่า มีหลายท่าน มาตอบแบบ เอาความมันส์เข้าว่านะครับ  ไม่ดีนะ จากคุณ : เปลืองน้ำตา เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 22:47:33

ความคิดเห็นที่ 71 แม่โจ้ หกสิบเอ็ดครับ ความเห็นสิบเจ็ดเขียนอะไรไว้ ใครจำได้หลังไมค์มาบอกกันหน่อย นะๆๆ กลับบ้านโอกาสดีๆ จะพา "ผี"ไปเยี่ยม (เดี๋ยวนี้ยังมีรึเปล่า น้องๆ หลังไมค์มาบอกที) จะบอกว่า "อยากรู้ มาเรียนเอง" ครับ พี่น้อง วลี "งานหนัก ไม่เคยฆ่าคน" จะต้องแปลอะไรกันอีกให้มันวุ่นวาย รู้จักใช้สามัญสำนึกกันมั่งสิพี่น้อง คนไทย ภาษาไทย อย่าเล่นแง่ดีกว่า แกล้งโง่ หรือ โง่จริงครับ วัยรุ่นสงสัย?? จากคุณ : ศิวะ ก. สี่ศูนย์หนึ่ง (ศิวะ ก. 401) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 23:19:20

ความคิดเห็นที่ 72 #51 ผมก็ "บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกฝนตนเอง" ครับ อืม..ฝึกตนแล้วเรามาเรียนทำไมนะ.. งง เอาคำขวัญของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้ดู เผื่อได้แง่คิดดีๆ   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (จุฬาฯ) - ความรู้คู่คุณธรรม - เกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) - เป็นเลิศ เป็นธรรม ร่วมนำสังคม - ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์ สอนให้ฉันรักประชาชน - เหลืองของเรา คือ ธรรมประจำจิต - แดงของเรา คือ โลหิตอุทิศให้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) - ประชาชน คือ เจ้าของประเทศ เกษตรศาสตร์ คือ ภาษีของประชาชน - เกษตรศาสตร์ คือ ศาสตร์ของแผ่นดิน - จะมีซักกี่ครุยที่ลุยโคลน มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) - "อตฺตานํ อุปมํ กเร" เอาใจเขามาใส่ใจเรา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) - "สิกขา วิรุฬหิ สมฺปตฺตา" การศึกษา คือ ความเจริญงอกงาม (Education is Growth) มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) - Art longa vita brevis ศิลปะยืนยาว แต่อายุสั้น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) - "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นทั้ง สวนการศึกษาและสวนอุตสาห กรรรม ผลิตบัณฑิตและทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และคุณธรรม ทำงานวิจัย พัฒนาและให้บริการวิชาการเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต" สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (มจล.) -การศึกษา วิจัย ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ (มจพ.) - "พัฒนาคน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) - "อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา" บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกฝนตนเอง มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) - วิทยา คือ ความรู้ดี จริยา คือ ความประพฤติดี ปัญญา คือ ความฉลาด เกิดแต่การเรียนดี และคิดดี มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) - วิชาการเด่น เน้นคุณธรรม นำสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ (มทษ.) - ปัญญา จริยธรรม นำการพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) - ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) - การดำเนินชีวิตด้วยปัญญา เป็นชีวิตที่ประเสริฐที่สุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (มมจ.) - ใฝ่รู้ สู้งาน คิดเป็น - งานหนักไม่เคยฆ่าคน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) - ซื่อตรง สะอาด ประหยัด คือจริยวัตร ของ มทส มหาวิทยาลัยบูรพา (มบ.) +++ - สุโข ปญฺญาปฏิลาโภ (ความได้ปัญญาทำให้เกิดสุข) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) - ผู้มีปัญญา พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน (พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (มอบ.) - ครองตน – ครองคน – ครองงาน ที่มาจาก : wiki (จะมีใครแปลฮาๆอีกไหมเนี่ย) แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 23:54:41 จากคุณ : O-DED เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 23:34:01

ความคิดเห็นที่ 73 ความเห็นหกสิบสอง บอกผมหน่อย ที่ไหนมุ่งผลิตบัณฑิตที่ไม่รับใช้นายทุน :-)สมองสุนัข ปัญญากระบือ แก้ไขจาก คำเดิมบางคำ ที่อาจไม่ผ่านเซ็นเซอร์ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 53 23:46:45 จากคุณ : ดูในวงเล็บเอาเอง (ศิวะ ก. 401) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 23:44:48

ความคิดเห็นที่ 74   ^^ ^^ ^^ โจ้เก่าเพียบเลย ขอเลขรุ่นละกัน.... จากคุณ : Sakutaro_MZT เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:07:28 A:10.100.1.70 X:112.142.6.134 TicketID:189434

ความคิดเห็นที่ 75 ุ65 ครับ จากคุณ : sayanjo65 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:23:04

ความคิดเห็นที่ 76 คำขวัญ มันเอาใว้ใช้ให้ถูกคน ถูกโอกาสและกาละเทศะ งานหนักไม่เคยฆ่าคน   ใช้กับคนขี้เกียจ เหนื่อยนักพักก่อน  ใช้กับคนขยัน มีเวลานอนอีกเยอะในหลุมฝังศพ ใช้กับคนขี้เกียจ หมาเห่าใบตองแห้ง  ใช้กับหมา หรือเปล่าว จากคุณ : aungo8 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 00:41:48

ความคิดเห็นที่ 77 ยังไม่นอนกันอีก เอาด้วย หกหนึ่ง จากคุณ : ศิวะ ก. 401 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:05:16

ความคิดเห็นที่ 78 ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิงเซ่อ แบบนี้ละอ่อนใจแน่นอนครับ ทำไร ก็ทำไป ใช้สติ จะอึด ถึก อย่างเดียวคงไม่ไหว จากคุณ : แมวทะเล (แมวทะเล) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:10:50

ความคิดเห็นที่ 79   ผมว่าคำขวัญเป็นเรื่องของภาษาครับ "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" หากตีความแค่ว่า ต่อให้ทำงานวันละ24ชั่วโมง ก็ไม่มีวันตาย ก็คงจะตึความทำวรรณศิลป์ของประโยคนี้ในคุณค่าของคำขวัญไม่ค่อยตรงเท่าใดนัก หากแต่ว่า ตีความว่า งานหนักที่ว่ามีหลายมุมมองครับ งานหนักใจ งานหนักแรง งานหนักสมอง งานหนัก ที่ว่าเนี่ย ไม่เคยฆ่าใคร ถ้ารู้วิธีต่อกร ผมว่าเรื่องคำขวัญนี่ต้องตีความครับ ว่า จริงๆแล้วต้องการสื่อถึงอะไร ซึ่งจริงๆแล้ว ผมว่างานหนักไม่เคยฆ่าใครจริงๆนั่นแหละ การไม่ทำงานสิฆ่าเรา จากคุณ : RRR เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:39:24 A:124.120.103.124 X: TicketID:172353

ความคิดเห็นที่ 80   ผมจบมาจาก ม. ที่มีคำขวัญว่า นักธุรกิจคือผู้สร้างชาติ แหละคับ ยังคิดอยู่ตลอดที่เรียน อ่าว... อะไรฟร่ะ คนอื่นที่ไม่ใช่นักธุรกิจนี่ ตัวถ่วงเหรอ แค่คิดเล่นๆน่ะคับ ความหมายเป็น นัยยะ นี่เข้าใจอยู่แล้ว จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 03:29:09

ความคิดเห็นที่ 81 แค่โปรยหัวกะทู้ว่า งานหนักไม่เคยฆ่าคน แค่นี้รู้เลย ว่า ม.อะไร อ่านกะทู้นี้แล้วไม่ค่อยชอบใจเท่าไร บอกแค่นี้ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 05:04:24

ความคิดเห็นที่ 82 แปลกใจกับความคิดแปลกๆ ของคนหลายๆ คน ชีวิตเป็นเรื่องที่มีความสุขมากมายแล้วครับ งานหนักไม่เคยฆ่าคน....มันเหมือนกับคำว่า หนักเอา เบาสู้ คือแค่ไหนก็ต้องผ่านให้ได้ ไม่ใช่งานหนักคืองานใช้แรง แต่งานหนักคือการแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง การเดินผ่านความกดดันได้อย่างสง่างาม คนที่คิดว่างานหนักเลยตาย คุณไม่รู้จักงานหนักครับ คุณแค่รู้จัก "งานเยอะ" จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 10:20:36

ความคิดเห็นที่ 83 เค้าหมายถึงให้อดทนกับความยากลำบากของงานค่ะ ไม่ได้หมายถึงให้ทำหามรุ่งหามค่ำอดนอนอดข้าวจนล้มป่วย เราไม่ได้จบที่นั่นนะ แต่พอจะรู้มาบ้าง จากคุณ : Psycho poet เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 12:35:36

ความคิดเห็นที่ 84 ที่ญี่ปุ่นมีโรคทำงานหนักจนตาย ลูกเมีย ฟ้องบริษัท  แบบว่าสามีกลับบ้านเพื่อมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปทำงานต่อ   นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นหลายๆคนก็เดี้ยงเพราะอดหลับอดนอน จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 12:57:55

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่ได้จบแม่โจ้ แต่เข้ามาบอกว่า เด็กแม่โจ้ โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆรุ่นพ่อรุ่นปู่รุ่นน้าทั้งหลายนั้น จะขึ้นชื่อในวงสังคมว่าอึด สู้งาน อดทน ไม่เกี่ยงงาน นี่คือที่มาของคำขวัญ ไม่ได้หมายถึงตามคำพูดจริงว่าทำงานแบบโหมนั้นไม่มีใครตาย แต่หมายถึงไม่ต้องเกี่ยงงาน  งานรุ่นเก่าๆของแม่โจ้เขาก็เรียนทางเกษตร และก็หนักจริงๆ ขนดิน ขุดดิน เข็นเกวียน ขุดบ่อปลา ไม่ใช่นั่งในห้องแอร์จิ้มคอมแบบอาชีพอื่นๆในโลกทุกวันนี้ ซึ่งรุ่นเก่าๆเขาก็มีชื่อเสียงจริงตามคำขวัญนี้แหละ เรียกว่าพูดจริงทำได้จริง ไม่เกี่ยงจริงๆ เป็นตัวอย่างที่ดีน่ะนะครับผมว่า ก็ดีกว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ส่วนที่จะตอบต่อไปนี้นอกประเด็น และไม่ตอบในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เพราะไม่เคยนับตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่มองตัวเองเป็นมนุษย์คนนึง โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการตั้งกระทู้แบบนี้เท่าไร ถ้าจุดประสงค์จริงๆคือต้องการถามว่าไม่เคยมีคนตายเพราะงานหนักจริงเหรอ สามารถตั้งกระทู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงถึงคำขวัญของสถาบันไหน ไม่รู้สิ ผมว่า มนุษย์หรือคน มีหัวใจและความรู้สึกประกอบด้วยครับ ไม่ใช่เครื่องจักรที่มีแต่เหตุและผล เพราะคนเรานั้นมีความรู้สึก มีหัวใจ จะพูดจะจาจะตอบอะไรก็เอาใจเขามาใส่ใจเราหน่อย เราไม่ชอบให้ใครดูถูกเรา ดูถูกสถาบันเรา คะนองปากกับสถาบันเรา เราไม่ชอบ เพราะเราคิดว่านั่นไม่ถูก นั่นแย่ คนที่ทำนิสัยไม่ดี คนอื่นก็คงเคยสอนเรามาอยู่เหมือนกันว่าแบบนั้นว่ามันไม่ถูก ไม่ดี เราก็ไม่น่าทำแบบนั้นกับคนอื่น ไม่รู้ว่าดีเลยทำก็พอให้อภัย แต่รู้อยู่แล้วว่าไม่ดี ไม่ชอบให้ใครทำกับเรา แต่เราทำกับคนอื่น ไม่ถูกต้องเท่าไร มันเหมือนลดตัวเองลงไปต่ำ นี่พูดถึงรวมๆ ไม่ว่าจะจบสถาบันไหนก็ตาม แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 15:28:39 แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 15:18:58 จากคุณ : น้ำใส เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 14:50:38

ความคิดเห็นที่ 86   ถ้าจบเท่ากัน ฉลาดเท่าๆกัน ไหวพริบเท่าๆกัน คนไหนทำงานหนักๆ เจ้าของกิจจะการจะเก็บไว้ให้ทำงาน ไม่ก้าวหน้า เพราะเก็บเอาไว้ใช้แบบคุ้มๆ ส่วนคนไหนทำน้อยกว่าได้เป็นหัวหน้า(ทำน้อยกว่าไม่ได้หมายถึงขี้เกียจนะ) จากคุณ : วมแย์ราจาอ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 19:35:30 A:125.27.65.241 X: TicketID:199878

ความคิดเห็นที่ 87 #62 ผมจบแม่โจ้ และผมเป็นข้าราชการฟ่ะ....... Editเพิ่ม ขอด่าหน่อย : "ไอ้บัตรผ่านงี่เง่า......" แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 53 12:54:46 จากคุณ : No.7 Legend เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 12:52:30

ความคิดเห็นที่ 88 เพิ่งอ่านเรื่อง Karoshi จาก Blog หมอแมวมาเองครับ งานหนักทำคนตายได้เหมือนกันครับ จากคุณ : sivpeer เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 18:45:07

ความคิดเห็นที่ 89   จขกท. ตีความหมายคำขวัญไม่ออก หรือไม่รู้จริง ๆ ค่ะ "'งานหนัก ไม่เคยฆ่าคน" เป็นคำขวัญมีไว้เพื่อปลุกใจลูกแม่โจ้ เพื่อที่จะสอนให้เป็นคนไม่เกี่ยงงาน ไม่เลือกงาน สอนให้เข้มแข็ง ส่วนความเห็นที่ 62 นี่ไม่รู้ว่าเอาสมองส่วนไหนคิด คิดมาได้ยังไงเสียดายเวลาที่ร่ำเรียนมา ถ้าคุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับแม่โจ้ คุณต้องมาเรียนเอง หรือไม่ก็ส่งลูกหลาน ญาติ พี่น้องมาเรียน เค้าจะได้กลับไปสั่งสอนคุณให้คุณเข้าใจอะไรได้มากกว่านี้ ไม่ใช่มาพูดอะไรผล่อย ๆ แบบนี้นะ จากคุณ : MJU mk 65 เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 00:08:56 A:114.128.11.212 X: