ความคิดเห็นที่ 1 2 จากคุณ : desmothenes เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:28:27

ความคิดเห็นที่ 2 3 จากคุณ : desmothenes เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:30:03

ความคิดเห็นที่ 3 4 จากคุณ : desmothenes เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:30:55

ความคิดเห็นที่ 4 ขออภัยสำหรับรูปแรก ๆ ด้วย พอดีย่อรูปผิดพลาดไปหน่อย จากคุณ : desmothenes เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:32:26

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่อ่านรู้สึกข้อสอบบางข้อจะไม่เป็นปัญหาเท่าที่คิด เวลาอ่านโจทย์เต็ม แล้วจากหน้าสุดท้าย ปีหน้าข้อสอบยิ่งกว่านี้อีก ขนาดนี่แค่ 10-20% ปีหน้ายีงมีเพิ่มอีก จากคุณ : desmothenes เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:37:55

ความคิดเห็นที่ 6 เก็บค่าสอบแพงเป็นพัน แต่ ประหยัดเนื้อที่ การออกข้อสอบ กันหงุมหงิม (ช้อยไปตัว หัวข้อคพถามไปตัว) เพื่อให้ประหยัด กระดาษแผ่นต่อแผ่น มากที่สุด....เวร จะสอบที ต้องพลิกไปพลิกมา(มันเสียสมาธิมาก) สุดยอด(บัดซบ) การวาง เพลต การออกข้อสอบจริงๆ ข้อสอบก็งงงวย ใช้ภาษาก็ไม่ชัดเจน(ใช้คำพร่ำเพรื่อ ไม่รวบรัดจับใจความ)  การวาง lay out กระดาษ ก็ มั่วซั่ว เกิดมาทั้งชีวิตเพิ่งเคย เจออะไรที่มัน อ่านตามยากขนาดนี้ ไม่เปนไปตาม logic สมอง จากเหตุไป ผล เลย... ใครมัน ออกแบบ รูปแบบ การวางข้อสอบแบบนี้ เด็กไม่จบมหาลัย ยังวางให้อ่านง่ายกว่านี้อีก เวรชิ๊ปหาย ขอ ให้ สศท. เอารายชื่อ ผู้ออกแบบ lay out  ข้อสอบ มาให้ดูหน่อยได้ใหมอยากเห็น.... ข้อสอบ  ว่า อ่านลำบากแล้ว วาง lay out มั่วแบบนี้ มันผ่าน คณะกรรมการ ตรวจสอบ มาได้ไงฟะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 13:53:29 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:46:37

ความคิดเห็นที่ 7 29-30 คิดดีๆพอไหวแต่ 28 นี่ซิ ผมงงจริงๆ เพื่อนต่างชาติผมมันมากันทีไรแต่ล่ะชาติชอบไม่เหมือนกัน ญี่ปุ่นมันมามันร้องหาผัดไืทยๆๆ เพราะว่าคงเป็นเส้นๆแบบนู๊ดเดิ้ลที่มันชอบ เพื่อนเกาหลีร้องกินแต่ของเผ็ดๆ คงต้องห่อหมกปลา เพื่อนฝรั่งเศสกินแต่ของจืดๆ เลือกไม่ถูกส่วนผ้าปูโต๊ะนี่มันตามใจชอบจริงๆ ผมไม่สามารถเลือกให้ได้ จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:51:49

ความคิดเห็นที่ 8   พอเห็นข้อสอบตัวจริง ที่ไม่ใช่จำมาครึ่งๆ กลางๆ แล้วรู้สึกว่าจริงๆ มันไม่ได้ยากเย็นขนาดที่ drama กันมาหลายกระทู้นะ จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:53:13 A:202.183.130.67 X: TicketID:102477

ความคิดเห็นที่ 9 แม่เกิดวันศุกร์ชวนให้เลือกสีผ้าสีฟ้าหรือเปล่านะ จากคุณ : ท่านประธานบริษัท เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 13:58:41

ความคิดเห็นที่ 10   ข้อ 28 เรื่องอาหารนั้นเขาบอกว่าเป็นอาหารที่เป็นที่รู้จักดีในหมู่ชาวต่างประเทศซึ่งหากมีความรู้รอบตัวก็ต้องเลือกผัดไทยอยู่แล้ว choice อื่นๆ ไม่ได้มีความดังเลยในต่างประเทศ ดอกไม้จากใน list ที่พอจะเกี่ยวข้องกับความรักก็มีแค่กุหลาบที่เป็นสากล ผ้าปูโต๊ะหากต้องการบรรยากาศหวานๆ ก็มีแค่ชมพูที่พอจะเข้าท่า หรืออาจเป็นแดง ตรงนี้มีปัญหานิดนึงแต่ choice อื่นๆ มันตัดได้ง่ายพอสมควร หากดูจาก choice ที่ให้มา (ไม่ใช่ก่อนหน้านี้ที่ข้อมูลไม่ครบ) จะเห็นว่าผู้ออกข้อสอบให้ choice มาให้เลือกได้ชัดพอสมควรนะ จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:00:20 A:202.183.130.67 X: TicketID:102477

ความคิดเห็นที่ 11 แปลกแฮะ ทำไมผมกลับรู้สึกว่า ชอบทำข้อสอบแบบนี้มากกว่า ข้อสอบแบบนี้เหมือนข้อสอบ กพ ที่ใช้วัดการวิเคราะห์ และสังเคราะห์ ได้ใช้ความคิดมากกว่า จำคำตอบมาตอบ ผมรู้สึกว่า นี่อาจจะเป็นข้อสอบที่ดีในการวัดความสามารถในการนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง แต่ข้อเสียคืออาจจะเร็วไปหน่อยสำหรับเด็ก และไม่เคยชินกับข้อสอบแนวนี้ จึงเกิดดราม่าขึ้น แต่อย่างว่า การให้คะแนนยังมีปัญหาเนื่องจากใน 1 ข้อต้องตอบให้ถูก ทุกอย่าง ลดการมั่วได้จริง แต่ อย่างที่ท่านอื่นเคยว่าไว้ คนที่รู้ 2/3 ได้ 0 คะแนน เท่ากับคนที่ไม่รู้คำตอบเลย จากคุณ : rijjina เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:07:55

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องสีผ้าปูโต๊ะ มองว่าเป็น Art มากกว่าเป็น Logic นะครับ อันอื่น ยังพอเข้าใจได้  แต่หากเลือกกุหลาบแดงแล้วผ้าปู้โต๊ะเป็นสี่น้ำตาลก็สวย หรือฮันนีมูนต้องสีชมพูอย่างเดียว......มันดูไม่แน่นอนนะครับ แต่ถ้าให้ตอบเพื่อให้รู้ว่าคนส่วนใหญ่นิยมอะไร ก็คงสีชมพู อะครับ จากคุณ : วอหลักสี่ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:09:29

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อ 27 แม่เกิดวันศุกร์ ไม่ได้หมายถึงแม่ต้องชอบสีประจำวันเกิดด้วยนี่นา (แม่ชอบสีชมพู แต่ลูกจะจัดสีประจำวันเกิด อุวะ จะตามใจแม่หรือจะตามใจคนจัดโต๊ะที่ทฤษฎีแน่นปึก) วิชาศิลปะ นี่ การเลือกใช้สีมันตายตัวเลยหรือคะ อยากทำตะโก้ใส่ในกรวยแหลม ทำไม่ได้ มันผิด คนออกข้อสอบไม่เคยเห็น ตกลงจะประยุกต์หรือไม่ให้ประยุกต์ จากคุณ : กระบองเพชรยังตาย เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:11:31

ความคิดเห็นที่ 14 เท่าที่อ่านดู ข้อสอบไม่ได้เลวร้ายเท่ากับที่ด่ากันไปก่อนหน้านี้นะครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:14:06

ความคิดเห็นที่ 15   ยากเกินไปครับ 1.คุณแม่เกิดวันศุกร์ ไม่จำเป็นต้องชอบสีฟ้า ไม่เคยมีในหลักสูตรไหนสอนว่า คนเกิดวันศุกร์ทุกคนชอบสีฟ้า หรือ คนที่เกิดวันศุกร์ชอบสีแดง ? 2.อาหารเช้าของไทยที่เป็นที่นิยม ข้อนี้จะตอบว่าอะไรครับ เพราะเป็นอาหารเช้า อาหารชาวต่างชาติที่นิยมคือ ผัดไทย แต่ ผัดไทยไม่ใช่อาหารเช้า แล้วข้อนี้ตอบว่าอะไร ? 3.สีผ้าปูโต๊ะเป็นสีอะไร ? ขึ้นอยู่กับว่าฝรั่งคู่นี้เกิดวันอะไรหรือเปล่า ? นี่เป็นตัวอย่างข้อสอบแค่เพียง 4 ข้อครับ ข้อสอบที่เป็นปัญหาจริงๆยังมีอีกเยอะ เช่น วิชาดนตรี จากคุณ : เด็กแอด53 เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:14:53 A:180.183.85.184 X:

ความคิดเห็นที่ 16 อยากดูเฉลยของ สทศ มั่ก ๆ จากคุณ : กระบองเพชรยังตาย เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:16:40

ความคิดเห็นที่ 17   ผ้าปูโต๊ะ ก็ต้องมาเดาอยู่ดี ในนี้เห็นบอกว่า ต้องเป็นสีชมพู เพื่อฮันนิมูน วันก่อนยังมีคนมาวิเคราะห์ เถียงกับชาวบ้านแทบตายว่าต้องเป็นสีขาว จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:18:28 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อสอบที่ออกมาเนี่ยมันมีประโยชน์กับเด็กมากน้อยแค่ไหน เปลี่ยนผ้าปูโต๊ะตามวันเกิด เพื่อ... คนเกิดวันไหนไม่จำเป็นต้องสีนั้นซะเมื่อไร ถ้าเปลี่ยนมาเป็นพ่อบ้างละ พ่อดันเกิดวันที่เป็นสีม่วงละ ร้านอาหารไทยในต่างประเทศมีเยอะมากครับ เขาไม่ได้แค่รู้จักผัดไทยกับต้มยำกุ้งหรอก และผัดไทยก็ไม่มีใครเขากินกันเป็นอาหารเช้าหรอก เนื้อหาที่ให้มาหาคำตอบที่ถูกต้องตามความจริงไม่ได้เลย ทำไมไม่ออกข้อสอบที่มันมีประโยชน์หน่อยละครับ จากคุณ : Cigarette Smoking Man เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:20:22

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อสอบเดาใจผู้ออก ก็แค่นั้นเอง จากคุณ : phonomenon เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:23:41

ความคิดเห็นที่ 20 สำหรับผมแล้วนี่อีกเรื่องหนึ่งที่น่ากลัวมากสำหรับการศึกษาไทย หากว่าข้อสอบมีแนวโน้มเป็นแบบนี้ นั่นคือแม้แต่รสนิยมส่วนบุคคลยังต้องมีการกำหนดเป็นคำตอบที่ถูกต้อง แม้ว่าบางสถานการณ์อาจจะต้องมีความเหมาะสม เช่น งานศพควรใส่ชุดดำ เป็นต้น แต่ในกรณีที่ออกข้อสอบมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานพิธีแต่อย่างใด ล้วนเป็นเรื่องที่ส่วนบุคคล หรือเป็นรสนิยมส่วนบุคคลทั้งสิ้น ทำยังกับคอมมิวนิสต์ไปได้ ที่นักเรียนต้องมีความเห็นที่ตรงกัน การศึกษาควรปูพื้นฐานในการยอมรับความหลากหลายได้ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ในกรณีที่มีผู้อื่นนอกจากเรามีความเห็นต่าง สำหรับผมแล้วความหลากหลายก็นับเป็นความงาม เหมือนดอกไม้ที่หลากสีสัน ถ้ามีแค่สีสันเดียวก็คงจืดชืดแย่ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:42:29 จากคุณ : poomni เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:27:11

ความคิดเห็นที่ 21 ข้อสอบที่ มาวัดความรู้ (ไม่ใช่วัดทัศนคติเด็ก) มันก็ควรจะมีอะไรมาอ้างอิง และ แน่ชัด ไม่ใช่ตามใจคนออก หนิครับ ไม่งั้นเด็กออกจากห้องสอบ มา ก็เถียงกันไป..ว่าใครถูก เพราะ ไม่มี มาตราฐาน ...ชี้วัด แบบนี้ แล้วจะอ่านหนังสือเรียน เดินไปเรียนที่โรงเรียนทำไมหละครับ? แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:28:47 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:27:35

ความคิดเห็นที่ 22   อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยครับ ญาติผมที่เป็นชาว มาเลเซีย ตอนมาเที่ยวประเทศไทย (ผมเป็นเชื้อจีนครับ ตอนบรรพบุรุษผม อพยพออกจากจีน ส่วนหนึ่งไปตั้งรกรากที่มาเลเซีย) มื้อเช้าเค้ายังอยากกินขนมปังกับกาแฟเลย เค้าบอกเพิ่งตื่นกินของหนักไม่ไหว(ความเคยชินของเค้าน่ะแหละ) ก็เลยต้องกินข้าวต้มแทน พอตอนมื้อเที่ยงน่ะเค้าถึงถามหาผัดไท จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:29:48 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 23   คห. 17 ก็สีขาวมันอยู่ใน choice ไหมเล่า คห. 18 ก็จริงว่าคนต่างประเทศรู้จักอาหารไทยหลายอย่าง แต่ choice อื่นๆ พวกข้าวต้มข้าวผัดนี่มันไม่ใช่สิ่งที่ชาวต่างประเทศถือเป็นอาหารไทยที่ดังนะครับ ข้อสอบนี้ผมว่ามันไม่ได้ต้องมีประโยชน์ในชีวิตหรอก มันเป็นการทดสอบความสามารถในการวิเคราะห์และหาคำตอบของปัญหาภายใต้ข้อมูลที่มีจำกัด หากทำข้อสอบตรงนี้แล้วจะมาอ้างว่าในโลกของความเป็นจริงมันอาจเป็นอย่างโน้นอย่างนี้มันก็ตอบไม่ได้สิครับ จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:31:34 A:202.183.130.67 X: TicketID:102477

ความคิดเห็นที่ 24   ว่าแต่ ตะโก้ นี่ปรกติเค้าใช้ดอกอะไรโรยหน้า หว่า จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:31:45 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 25 ดอกกุหลาบค่ะ อุ๊ยตาย มีดอกกุหลาบกับดอกกุหลาบมอญให้เลือกอีก ความรู้ของเราหยุดอยู่แค่ดอกกุหลาบวางบนตะโก้อ่ะ ต้องมาคัดอีกว่ามอญหรือไม่มอญ ขออภัย น่าจะมอญ เพราะกลีบมันเล็ก ๆ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:34:42 จากคุณ : กระบองเพชรยังตาย เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:33:11

ความคิดเห็นที่ 26   คห 23 คนที่มาเถียงว่าใช้สีขาวน่ะ เค้าบอกว่า ตามสากลโลก ถ้าไม่ใช้สีขาวก็สีเหลืองอ่อน นะ จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:33:29 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 27 โจทไม่ได้บอกว่าต้องเป็นอาหารไทยที่ฝรั่งรู้จักดี แต่คำถาม ถามแค่ว่าเป็นอาหารไทย !! หรือต่อให้กำหนดว่าต้องเป็นอาหารที่ฝรั่งนิยมทาน ผมถามต่อว่ามันนิยมทานกันมือไหน เช้า กลางวัน เย็น ????? โดยปรกติแล้ว พวกฝรั่งเค้าไม่ทานอะไรหนักๆ เป็นอาหารเช้า พวกผัดไทยหรือข้าวผัดต่างๆ นี่แทบจะตัดทิ้งจากเมนูอาหารเช้าได้เลย ผมมาเรียนอยู่กับพวกฝรั่ง แต่ถ้าให้ผมเลือก ผมก็เลือกข้าวต้ม หรือไม่ก็โจ๊ก ถ้าเลือกอาหารหนักๆมา รับรองพวกมันไม่กิน หรือกินก็แค่ทานแบบตามมารยาท ผมเคยเจอฝรั่งบางคน ถามผมด้วยความประหลาดใจด้วยซ้ำ ว่าคนไทยกินข้าวตอนเช้ากันด้วยเหรอ(หมายถึงอาหารที่เป็นข้าว/กับข้าว) ส่วนผ้าปูโต๊ะ นี่มันขึ้นกับบรรยากาศของร้าน การจัดไฟ สถานที่ etc. เอาอะไรมาฟันธงว่า ต้องสีชมพูหรือแดง ?? ถ้าใช้สีชมพูหรือแดง แล้วไม่เข้ากับบรรยากาศของร้านเลย มันก็ดูไม่เข้าท่าครับ ส่วนข้อจัดผ้าปูโต๊ะให้แม่ เอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ว่าคนเกิดวันศุกร์ต้องชอบสีฟ้าครับ มีทฤษฏีหรืองานวิจัยที่ไหนรองรับความคิดตรงนี้บ้าง แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 14:40:08 จากคุณ : Chanin.U เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:35:17

ความคิดเห็นที่ 28   ถ้าเค้ากำกับมาว่าให้จัดโต๊ะ ด้วยสีตามสีวัดเกิด คุณแม่ หรือสีที่แสดงถึงความรัก ก็ว่าไปอย่าง แต่เล่นตั้งโจทย์มาแบบแล้วแต่การตีความ จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:36:53 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าไม่มีประโยชน์จะออกมาทำขี้เกลืออะไร มันวิเคราะห์ตรงไหน ท่องจำละซิไม่ว่า คนเกิดวันศุกร์=สีฟ้า ความรัก=สีแดง จากคุณ : Cigarette Smoking Man เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:39:27

ความคิดเห็นที่ 30 เราว่า ข้อสอบมันไร้สาระ แล้ว เกิดวันศุกร์ จะรู้ได้ไงว่าชอบสีฟ้า เราเกิดวันพฤหัสยังชอบสีชมพูเลย แล้ววันครบรอบแต่งงาน ผ้าปูโต๊ะก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสีชมพู ถ้าจะจัดให้สวย เอาผ้าปูโต๊ะขาว วางกุหลาบแดงให้ตัดกัน หรือจัดผ้าปูโต๊ะดำ กุหลาบแดงหรือขาวก็ยังได้เลย (คือ ถ้าคำเฉลยมันบอก ครบรอบแต่งงานต้องผ้าปูโต๊ะสีชมพู แสดงว่าคนออกข้อสอบเชยมาก และไม่ค่อยมีรสนิยมในการกินอาหารอ่ะ ครบรอบแต่งงานไม่จำเป็นต้องเป็นสีชมพู สีอื่นก็จัดให้สวยแบบมีคลาสได้ เผลอๆสวยกว่าสีชมพูอีก) แล้วดอกไม้วันเกิดแม่ จะจัดกล้วยไม้่ กุหลาบ แล้วมันยังไง มันต่างกันตรงไหน ตรงที่บอกว่าแม่ชอบกินผลไม้เบต้า ก็พอรู้ว่าอันไหน แม่มีปัญหาเรื่องคอเลส ก็พอรู้ว่าต้องเลือกอันไหน แต่ว่า มันเหมือนทายคำตอบจากคำใบ้อ่ะ ไอ้อาหารที่แบบ เบต้า หรือลดคอเลส อันนี้ยังพอเข้าใจ แต่อันอื่นนี่ ไร้สาระมากๆ เห็นแล้วเซ็ง ถ้าเราเป็นคนสอบ เจอแบบนี้เราก็เซ็งนะ ข้อสอบไร้สาระ จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:40:37

ความคิดเห็นที่ 31   หากจำกัด scope ข้อมูลเอาเฉพาะในแต่ละข้อก็จะได้คำตอบครับ เหมือนการแก้โจทย์ physics เราก็แก้โจทย์เท่าที่ข้อมูลในโจทย์บอกมา เช่นเรื่องพื้นเอียง หากเขาไม่ได้พูดถึงแรงลม เราก็ไม่เอามาคิด ไม่ใช่มาคิดเอาเองว่าในความเป็นจริงมันต้องมีลมต้านด้วย blah blah blah โทษทีนะคือพยายามยกตัวอย่างให้เห็นน่ะว่าเด็กที่ทำไม่ได้น่ะอาจจะแก้ปัญหาไม่ถูกต้อง มันต้อง focus กับข้อมูลที่มีอยู่จริงในโจทย์นั้นๆ ไม่ใช่เอาการคาดเดานอกเรื่องมาใช้น่ะ และขอบอกก่อนว่า เห็นใจเด็กนะ ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจ แต่เนื่องจากนี่เป็นหว้ากอ ขอถกเรื่องหลักการ ไม่ใช่เรื่องความรู้สึกสงสาร จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:43:41 A:202.183.130.67 X: TicketID:102477

ความคิดเห็นที่ 32   นอกเรื่องอะไรครับ ถ้าไม่เชื่อ ลองจัดอาหารเช้าเป็นผัดไทยให้ฝรั่งกินดูสิ ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันอาจจะโดนด่ากลับมา จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:46:58 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 33 อืม จากที่ได้เห็นตัวข้อสอบจริงๆแล้ว ผมขอสรุปส่วนตัวดังนี้นะ (จะโดนด่าไหม หว่า) - เห็นด้วยว่าการจัด เลย์เอาท์ แบบนี้เด็ก เสียสมาธิ และเวลา และจิตหลุด ได้ เพราะมันไม่คุ้นเคย ส่งผลให้ ข้อสอบบางข้อมันไม่ยากเกินไป กลายเป็นรู้สึกว่า ยากเหมือนโดน ล่อหลอก ตัวเลือกตอบเยอะ -ไอ้ครั้นจะตอบ แบบสากล กรณี ผ้าปูโต๊ะ + กับฮันนีมูน แว๊บแรก มันก็ต้องสีชมพู ดิฟร่ะ แต่ดันมีสีมาให้เลือกเยอะมากไป(เพราะอาจจะใช้สำหรับเป้นคำตอบของข้ออื่นด้วย) มันสับสน นิหว่า.... - คำถามกำกรวม ไม่เมคเซ็น  อาหารที่คนต่างชาติรู้จัก (ก็ผัดไท ดิ แหงล่ะ) แต่ดันบอกว่าให้จัดเป็นอาหารมื้อเช้า ( อ้าว โจ๊กหมู อะเหมาะ แต่ฝรั่งมันรู้จักไหมเล่า) ไม่แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของข้อสอบแบบนี้มันวัดอะไร เพราะมันไม่ขาว ไม่ดำ มันออกเทาๆ นะเออ (เข้าใจน้องๆนะ) สมมุติ ลองเอาแก่นของข้อสอบแต่ละข้อ มาจัดเรียงเป็นข้อๆ แล้วมีคำถามชัดเจน มีตัวเลือก ก ข ค ง จ. แบบของใครของมัน น้องๆคงจะสบายใจ และมันใจในการทำข้อสอบ กว่านี้นะ สรุป ปัญหาที่รู้สึก คือ โจทย์ ใน1 ข้อมีคำถามรวมกัน 3-4 คำถาม แล้วยังให้เด็กกลับไปดู กลุ่มคำตอบ ที่มันมีย่อยไปอีกเยอะ แบบนี้ก็ต้องทดเวลา ทำให้คำถาม ง่ายๆอาจจะตอบผิดหรือสับสนได้ อะ และไม่เห็นด้วยกับการให้คะแนน ตอบถูกไม่หมด ฟาว เลยหรอ ก็ออกแบบข้อสอบให้มันสับสน อะ แบบนี้ ต้องการจะวัดอะไรด้านไหนของเด็ก... ปล.แอบเห็นด้วยกับ คห.23 นะครับ  เพราะให้โฟกัสที่โจทย์ อย่าเอา นานานจิตตัง นอกโจทย์ มาคิดปน นะเออ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 15:01:46 จากคุณ : อาท (chan ty) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:51:10

ความคิดเห็นที่ 34   คุณ Nova และคุณ Chanin.U มีประสบการณ์มาก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป ฝรั่งที่กิน breakfast แบบหนักก็มีไม่น้อย ร้านอาหารเช้าที่ให้ pancake มาทีละ stack ก็มีดาดดื่น เพื่อนผมที่ซัด t-bome steak and eggs เป็นอาหารเช้าก็หลายคน เอาเป็นว่าหากเรามีทางเลือกเช่นแม่ครัวทำอาหารได้แค่ใน choice และจาก keyword ที่ว่า "อาหารไทย" "เป็นที่นิยม" ของ "นักท่องเที่ยว" มันก็ตอบผัดไทย ถามว่าผมจะจัดให้เพื่อนผมกินมั้ยก็คงไม่มั้ง แต่การแก้ปัญหาในชีวิตจริงมันก็ต้องแก้ปัญหาตาม constraints อยู่แล้วนะ จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 14:59:55 A:202.183.130.67 X: TicketID:102477

ความคิดเห็นที่ 35 ใครที่ว่าข้อสอบมันง่ายกว่าที่คิด เมื่อได้เห็นของจริง ผมว่าคุณต้องลองไปนั่งสอบแล้วรับแรงกดดันเหมือนน้องๆ ดูบ้างครับ ตัวเลือกในแต่ละชุด มีหลายข้อ แต่ต้องตอบให้ถูกเพียงข้อเดียว 1 ข้อใหญ่ มีให้เลือก 4 ชุด ต้องตอบให้ถูกทุกชุด ไม่งั้นไม่ได้คะแนนเลย ผมว่าถ้าจะใช้วิธีนี้ ก็ต้องมีการปรับวิธีการให้คะแนนกันใหม่ เพื่อความยุติธรรมครับ คนตอบผิด 1 ข้อ ถูก 3 ข้อ  ได้ศูนย์คะแนน  คนไม่ตอบเลยก็ได้ศูนย์คะแนน แล้วที่อุตส่าห์เก็บจำความรู้มาตอบ แต่บังเอิญจำได้ไม่ครบ ก็สูญเปล่า เท่าๆ กับพวกที่ไม่รู้อะไรเลยหรือครับ.. จากคุณ : c8jso7j'8;k,8bf (khamsiri10) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:01:19

ความคิดเห็นที่ 36 คำถามปลายเปิดให้วิเคราะห์ดี แต่ตัวเลือกดันปลายปิดตีกรอบความคิดซะงั้น ตลกดี เรื่องวันเกิดแล้วให้เลือกสีนี่ ยังกับคำถามอนุบาล ที่ตีกรอบให้ท่องว่าวันไหนสีอะไร ไม่ได้ให้วิเคราะห์เลยว่า แต่ละคนชอบสีไม่เหมือนกันไม่ขึ้นกับวันเกิดเลยสักนิด จริงๆโจทย์พวกนี้น่าจะอยู่ในวิชาสัีงคมม.ปลาย แล้วให้เขียนคำตอบพร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ(ซึ่งคงทำในระดับการสอบ o-net ไม่ได้) โดยถ้าเชื่อมโยงคำตอบได้อย่างมีเหตุผล ไม่ใช่เลือกมาผสมกันมั่วๆ ก็น่าจะได้คะแนนทั้งหมด เราไม่ได้่เรียนวิชา จารีตไทยโบราณที่จะต้องตีกรอบคำตอบแบบเดียวกันหมดนะครับ การที่มีสิ่งอ้างอิง เพื่อชี้วัดนั้นทำได้กับ รูปแบบที่มีคำตอบเป็นสากล เช่นกฎระเบียบ การคำนวณ ส่วนคำถามการเลือกใช้สิ่งของในชีวิตประจำวัน มันไม่ได้เป็นสากล เพราะมันขึ้นกับบริบทของสถานการณ์และประสบการณ์ของแต่ละคนตะหากล่ะ สิ่งที่พอจะวัดได้ คือการใช้เหตุผลประกอบ ไม่ใช่การท่องจำกรอบความคิดที่ถูกยัดเยียดมาตอบครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:03:03

ความคิดเห็นที่ 37 ผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าข้อสอบปลายเปิดพวกนี้ไม่ใช่ Multi Choice แต่ให้เป็น เขียบคำตอบ พร้อมทั้งอธิบาย เพราะมันจะช่วยให้เด็กได้วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดของตัวเองที่มีต่อโจทย์แบบนี้ออกมาได้ดีที่สุด แต่นี่อะไร ทะลึ่ง ออกมาเป็น Multi Choice เด็กก็ได้แต่เดาใจคนออกข้อสอบสิครับ ว่าแต่............. จัดกระทง มันเกี่ยวอะไรกับ สุขศึกษา ครับ(วะ) จากคุณ : FrostAvenger เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:03:21

ความคิดเห็นที่ 38 อย่างนี้เองเด็กเลยทำไม่ทัน เจอเข้าไปก็มึนตึ๊บเลยแบบนี้ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:08:09

ความคิดเห็นที่ 39 ชาวนาวีเกิดวันศุกร์ จากคุณ : Cigarette Smoking Man เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:10:29

ความคิดเห็นที่ 40   #11 ข้อสอบกพ.แบบนั้นแหละครับ ที่ทำให้เราได้บุคคลากรคุณภาพแบบทุกวันนี้ ให้มาแต่ตัวข้อสอบทำแป๊ะอะไร ช่วยลงเฉลยให้ด้วยครับ ยืนยัน multiple choice และวิธีการตรวจแบบนี้เท่ากับโกงจำนวนข้อสอบเด็ก ปล.ท้ายหน้ากระดาษมีกล้วยไว้ทำไมหว่า จากคุณ : temp เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:25:33 A:202.91.18.194 X:64.255.180.21 TicketID:003184

ความคิดเห็นที่ 41 อยากเห็นข้อสอบฉบับเต็ม และคำเฉลยพร้อมเหตุผลว่าทำไมตอบข้อนั้นค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:26:14

ความคิดเห็นที่ 42   โจทย์พวกนี้ต้องดูร่วมกับเฉลย จะได้ชมหรือด่าให้ตรงประเด็น เปิดเผยทั้งที ให้แต่โจทย์มาทำเกลืออะไร จากคุณ : temp เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:28:15 A:202.91.19.194 X:64.255.180.21 TicketID:003184

ความคิดเห็นที่ 43 โอ้ เห็นข้อสอบแล้วนี่มันต้องตอบเบบเดาใจคนออกข้อสอบเลยนี่ว่าชอบแบบไหน ถ้าตอบผิดมันจะเฉลยไหมว่าผิดยังไง ยิ่งถ้าเด็กตอบแบบที่สากลเขานิยมจัดอีก แล้วมันไม่ตรงใจคนออกข้อสอบแล้วผิดจะอธิบายอย่างไร แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 15:40:42 จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:34:31

ความคิดเห็นที่ 44 คห. 24 ตะโก้มีคนบอกไว้แบบนี้ค่ะ -------- http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8915368/A8915368.html ความคิดเห็นที่ 138     ตะโก้แบบโบราณ ใช้ใบเตยหอมมาขัดเป็นกระทงสี่เหลี่ยมค่ะ โีรยหน้าหรือตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบมอญ ห่อแบบขัดใบเตยเป็นก้นกระทงสี่เหลี่ยม เย็บติดมุมเดียว (อธิบายยาก) เราไม่ใช่เด็กสอบปีนี้นะ แต่เคยกินตะโก้แบบโบราณ (ที่สมัยนี้เอาใบตองมาห่อซะเยอะ) แบบในรูปเลย กระทงใบเตยแบบนี้ล่ะค่ะ จากคุณ : Zerbirus     เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 09:23:17   -- ไปถามที่ก้นครัว ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะตอบกันได้กี่คน จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 15:54:49

ความคิดเห็นที่ 45 ผมทันกินตะโก้ใบเตยน่ะ แต่สมัยนี้มันใส่ถ้วยพลาสติกหมดแล้ว ดูในรูบ #44 เค้าเอาแม๊กมาเย็บเลยเหรอ ตอนเด็กๆเค้าใช้กลัดด้วยก้านมะพร้าวเน้อ  น่ากัวสมัยนี้เห็นพวกอาหารแบบนี้เช่น ห่อหมก เย็บกระทงด้วยแม๊ก เราก็กินไปโดยไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 53 16:28:37 จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 16:23:05

ความคิดเห็นที่ 46 แม่ผมเกิดวันศุกร์ แต่ชอบผ้าปูโต๊ะสีเขียว จัดสีอื่นเป็นเรื่องแน่ ถ้าผมทำข้อสอบปีนี้ ผมต้องตกแน่เลยว่ะ เพราะแม่ดันชอบไม่เหมือนคนออกข้อสอบ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 17:49:43

ความคิดเห็นที่ 47 คำถามที่ยกมาว่าแย่แล้ว ที่ถามเรื่องดนตรีแย่ยิ่งกว่า ชอยส์แต่ละชอยส์ เฮ้อ มีโรงเรียนไหนบ้างสอนวิชาดนตรีได้ลึกขนาดนั้น จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 53 21:38:48