Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาแล้วภาพ X-RAY GT200  

ตั้งใหม่ครับ  ของเก่ารู้สึกจะพัง

ท่านที่ต้องการนำไปใช้ช่วยบอกแหล่งที่มาด้วย  ส่วนนักข่าวกรุณาขออนุญาตก่อนด้วยครับ ไม่งั้นฟันไม่เลี่ยง ให้เอาใช้ฟรีครับ

คำชี้แจงจากอาจารย์เจษฎา
คำบรรยาย ภาพผลการเอ็กซเรย์ดูด้านในของเครื่อง GT200 โดยชุมชนวิทยาศาสตร์หว้ากอ เว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ด็อทคอม

เรา ได้ใช้เครื่อง GT200 ที่ได้รับมาจากท่าน พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานองค์กรอุนาโลม ซึ่งได้รับเครื่องมาจากทางภาคเอกชนอีกทีหนึ่ง

เนื่องจากผ่าโดยตรงไม่ได้ จึงเอาไปเอ็กซเรย์ที่คลีนิกแห่งหนึ่ง พบว่าด้านในของเครื่องกลวงโดยตรง ตั้งแต่บริเวณด้านฐานที่เป็นช่องใส่การ์ด เทียบกับเวลาดูปรกติด้วยตาเปล่า จะเห็นอยู่แล้วว่าเป็นช่องกลวงๆ ไม่ได้มีหน้าสัมผัสอิเล็กทรอนิกส์กับการ์ดแต่อย่างไร

ส่วนการ์ดเองก็ เป็นแค่แผ่นพลาสติก 2 แผ่น ทากาวยางประกบกันแบบง่ายๆ พอแกะแงะทั้ง 2 แผ่นออกจากกัน ไม่พบว่ามีแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ มีเพียงเศษกระดาษสีชมพูเล็กๆ อยู่ข้างใน ภาพจากเอ็กซเรย์ ก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรอยู่ในการ์ดเช่นกัน เทียบกับรูปบนล่างซึ่งเป็นเครดิตการ์ดและบัตรประชาชน จะเห็นว่ามีตัวซิมชิพติดอยู่ที่การ์ด

ส่วนบริเวณด้ามจับบริเวณกลางเครื่อง ซึ่งเคยสงสัยกันว่าอาจจะมีอะไรอยู่ด้านใน ก็ไม่มีอะไร ว่างเปล่าเช่นกัน

บริเวณ ด้านบนสุดที่ต่อกับเสาอากาศวิทยุของเครื่อง พบว่าไม่มีอะไรอยู่ด้านในเช่นกัน และไม่มีอะไรที่จะไปบังคับต่อเชื่อมกับเสาอากาศ โดยความจริงแล้วเสา์อากาศแค่ขันน็อตติดกับแผ่นพลาสติกสีดำที่เสียบอยู่กับ แกนลวด สามารถโยกขึ้นลง หมุนซ้ายขวา ได้โดยง่าย

จึังสรุปได้ชัดเจน แล้วว่า เครื่อง GT200 ไม่อาจจะทำงานเองได้ ครบตั้งแต่ไม่มีความเป็นไปได้ในเชิงทฤษฎีวิทยาศาสตร์ (เรื่องไฟฟ้าสถิต/แม่เหล็กผลัก-ดูด) ไม่มีความเป็นไปได้ในเชิงกลไก (จากภาพเอ็กซเรย์ดูด้านใน) และไม่มีความเป็นไปได้ในเชิงประสิทธิภาพ (ทดสอบแล้วชี้เป้าไม่ได้ถูกต้องเกิน 13 จาก 20 ครั้งตามหลักสถิติ เืพื่อพิสูจน์ว่าเป็นการเดาสุ่มหรือไม่)

และทั้งหมดนี้เป็นหลักฐาน สนับสนุนสมมุติฐานว่า การที่เสาอากาศของเครื่องหมุนได้นั้น ไม่ได้เกิดจากหลักแม่เหล็กดูดผลักตามที่บริษัทกล่าวอ้าง แต่เป็นผลจากผุ้ใช้เครื่องทำให้เสาอากาศหมุนเอง โดยอาจจะเป็นการตั้งใจเอียงเครื่องเพื่อชี้ หรือจะเป็นความบังเอิญในการเอียงเครื่องเล็กน้อยระหว่างที่เดิน ซึ่งแรงเฉื่อยจากร่างกายผู้ใช้ ได้ส่งถ่ายต่อไปยังเครื่อง ทำให้เสาอากาศหมุนได้เมื่อเอียงออกนอกจุดศูนย์ถ่วงที่เสถียรของเครื่องได้

สรุป สุดท้ายว่า การที่เจ้าหน้าที่นำไปใช้แล้วหาวัตถุระเบิดได้นั้น น่าจะมาจากฝีมือและความสามารถส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ท่านนั้น ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในการตรวจหาพิรุธของการซุกซ่อนวัตถุระเบิด ประกอบกับมีการข่าวที่ดีนำมาก่อน ทำให้เมื่อเดินผ่านบริเวณที่ต้องสงสัยหรือมีการข่าวนำมาก่อน สมาธิและความช่างสังเกตของเจ้าหน้าที่ไปส่งผลใ้ห้จิตใต้สำนึกมีการสั่งการ ให้เครื่องเอียงเล็กน้อยโดยไม่รู้่ตัว และชี้เสาอากาศไปยังวัตถุต้องสงสัยได้ แม้ว่าจะซ่อนไว้ค่อนข้างดีก็ตาม

ด้วย เหตุนี้ จึงยังมีความเสี่ยงอยู่สูงมากๆ ที่จะนำเครื่อง GT200 และเครื่องที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น อัลฟ่า6 ไปใช้ในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย กระบวนการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ทั้งโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม

เราเสนอว่า ควรไปเน้นที่การข่าวที่ดี การใช้สุนัขตำรวจสุนัขทหาร และการให้สวัสดิการที่เหมาะสมแก่เจ้าหน้าที่ จะดีกว่าหวังพึ่งพาหาเครื่องมือมาทดแทนเครื่อง GT200 มาก เพราะยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถสร้างเครื่องมือวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่ตรวจหาระเบิดในระยะไกลได้ในขณะนี้

ดูรายงานข่าวเพิ่มเติมที่ "เช้านี้ที่หมอชิต" เช้าวันนี้ และ รายงานพิเศษของ VoiceTV เย็นนี้

แก้ไขข้อความ*-*

แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 53 19:49:15

 
 

จากคุณ : หัวปลาทู
เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 19:16:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com