ความคิดเห็นที่ 1   เมื่อเกือบพันปีมาแล้วเกิดกาฬโรคขึ้นในยุโรป คนตายเป็นแสน ๆ ศพคนตายเกลื่อนทุกหนทุกแห่ง ด้วยความที่ผู้คนมีความรู้คับแคบ ก็คิดว่าถึงความแตกดับของโลกแล้ว หรือเมื่อสองร้อยปีมาแล้วมีอหิวาห์ตกโรคเกิดขึ้นในภาคกลางของไทย ศพคนลอยเกลื่อนตามแม่น้ำลำคลอง ผู้เฒ่าผู้แก่ก็คงคิดว่าคนคงตายกันหมดโลกแน่ เขาคิดกันอย่างนั้น เพราะเอะอะอะไรก็เอาความเป็นตัวตนของตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง บางท่านก็อ้างนักอ้างหนาแนวคิดจักรวาล ท่านลองเอาจักรวาลเป็นจุดศูนย์กลางบ้างสิครับ โลกทั้งใบไม่มีความหมายอะไรเลย อาจเคยมีกาแลกซี่อื่น ๆ ที่ใหญ่กว่าโลกเป็นล้าน ๆ เท่าระเบิดพินาศเป็นจุณไปเป็นล้าน ๆ ใบแล้ว โลกใบแค่นี้ชีวิตเดียวแค่นี้ จะทุรนทุรายกันไปทำไม ส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาวยิ่งไปกันใหญ่ ผมเชื่อว่าน่าจะมีสิ่งชีวิตอื่น ๆ อยู่บนดาวดวงอื่น ดาวที่มีชื่อพิลึกกึกกืออย่างไรก็ตั้งกันไป แต่ที่มาของมนุษย์นี่สิ คนถามกันมาก ก็เลยมีคนมาแถลงว่าจริง ๆ แล้วมนุษย์มาจากดาวดวงอื่น ตรงนี้ไม่อยากจะรู้หรอกครับ อยากจะรู้ว่าโผล่ขึ้นมาก็มีปากมีจมูกอย่างนี้เลยหรือเปล่า หรือวิวัฒนาการมาอย่างไรหรือมนุษย์ต่างดาวเขาปั้นมาจากดินเหนียว ถ้ามาจากดินเหนียวจริงก้อยากจะรู้ว่าเขาจินตนาการถึงรูปร่างหน้าตาขึ้นมาได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม มนุษย์ต่างดาวไม่น่าจะชอบคนที่นับถือศาสนาพุทธ คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธจะอ้างว่าได้พบมนุษย์ต่างดาวนั้นเขาโกหกทั้งเพ เพราะศาสนาพุทธสอนให้เราดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ใส่ใจกับการสิ้นดับของสังขารรูป กาย เราจะไม่เดือดร้อนทุรนทุรายกับมหันตภัยใด ๆ การตายเร็ว ตายช้าหรือตายก่อนไม่ได้เป็นเครื่องวัดว่าใครจะหลุดพ้นวัฏสงสาร การสำเร็จเป็นอรหันต์ถ้าทำในชาตินี้ไม่ทันก็ไปทำในชาติหน้าก็ได้ พระพุทธองค์ยังต้องเวียนว่ายตั้งแปดหมื่นสี่พันชาติ มนุษย์น้ำหน้าอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ จะหลุดจากความทุกข์ได้เพียงชั่วข้ามคืนได้หรือครับ และเมื่อเราเข้าถึงการหลุดพ้นที่แท้จริงแล้ว การมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่ใช่แก่นสาร และทำไมถึงรู้ว่าเขาไม่ชอบ ก็มนุษย์ต่างดาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดใช่ไหมครับ และมีอำนาจจิตด้วย เขาแค่มองเราเขาก็รู้แล้วว่าเรามีความเชื่อมีจิตวิญญาณอย่างไร ฉะนั้นชาวพุทธที่แท้ก็ต้องมีความเชื่อในเรื่องศีลธรรมและบุญกรรม และชาวพุทธที่แท้จะไม่ใช่ผู้ขอ ไม่ใช่ผู้บนบานศาลกล่าว และเชื่อว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนบุญกุศลของตนเท่านั้นที่จะบันดาลให้ตนเป็นอย่างนี้อย่าง นั้น ในฐานะผู้เจริญเขาจะไม่มาช่วยเราหรอกครับเพราะเป็นการขัดเจตนารมณ์ทางศาสนา ถ้าเขาทำเขาก็บาป ถ้าเราไปเห็นดีเห็นงามกับเขาก็เท่ากับเราไม่มีอิทธิบาทสี่ เขาจะช่วยเฉพาะศาสนิกชนจอมปลอม แนวคิดเรื่องมนุษย์ต่างดาวมาช่วยชาวโลกน่าจะเป็นแนวคิดที่ลอก ๆ กันมาจากฝรั่งมากกว่า ทั้งจากนักวิชาการสิ้นคิด พุทธศาสนิกชนเก๊ และพวกบ้าหนังฝรั่ง เพราะฝรั่งเขาเคยชินกับความเชื่อเรื่องมีสิ่งเหนือธรรมชาติมาช่วย เรื่องพระเยซูมาสอนพวกมนุษย์ให้เชื่อมั่นในพระเจ้า เรื่องบัญญัติสิบประการ เรื่องน้ำท่วมโลก ล้วนเป็นเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติมาช่วยชาวโลกทั้งสิ้น แต่ในศาสนาพุทธนั้นไม่มี มนุษย์ต่างดาวเขาจะช่วยใครก็ต้องเลือกคนที่พูดง่ายไว้ก่อน เพราะถ้ามาช่วยคนที่นับถือศาสนาพุทธจะฉุดมือขึ้นจานบินอยู่แล้ว พ่อดันสะบัดมือหลุดบอกว่าขอตายชดใช้กรรมที่ทำมาทั้งชาตินี้และชาติที่แล้วดีกว่า ถ้าขืนมีชีวิตอยู่ต่อไปก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรตามมาทวงหนี้ไม่สิ้นสุด มนุษย์ต่างดาวเขาจะพานเสียอารมณ์เปล่า ๆ ปี พ.ศ.2392 อหิวาต์ระบาดหนักในกรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิต 40,000 คน จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:13:35

ความคิดเห็นที่ 2   กลัวแต่ว่า มนุษย์ต่างดาว อาจจะเห็นพวกเราเป้นแค่ จอมปลวก ที่ทำรังบนผืนแผ่นดิน ที่เขาต้องใช้ จากคุณ : กาแฟสามถ้วย เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:18:01

ความคิดเห็นที่ 3   ส่วนเรื่องการใช้พลังจิตสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวนั้น เป็นไปได้ครับ แต่อ่านตรงนี้ก่อน รายงานและพยานบุคคลที่พบมนุษย์ต่างดาวส่วนใหญ่มาจากประเทศโลกตะวันตก แปลว่าชาวตะวันตกมีพลังจิตมากกว่าคนเอเชีย ท่านเห็นด้วยไหมครับ และมีแต่คนในโลกตะวันตกเท่านั้นที่มนุษย์ต่างดาวจับเอาไปทดลอง แปลว่าคนเอเชียไม่มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์เพียงพอที่จะถูกมนุษย์ต่างดาวจับเอาไป หรือไม่ก็ไม่มีคุณภาพทางจิตที่เหมาะที่เขาจะเอาไปทดลอง และพระสงฆ์เกจิทั้งหลายทำไมท่านไม่เคยออกมาประกาศบ้างละครับว่ามนุษย์ต่างดาวมากราบนมัสการ อย่าบอกนะครับว่ามีแต่ท่านปิดไว้ ก็แม้อ้างว่าเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิดหรือเป็นพระอรหันต์แล้ว หรือใบ้หวยได้บางรูปยังทำเลย และเทียบเมืองไทยกับอินเดียแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของโลก และที่ตั้งศาสนาสำคัญของโลกรวมถึงศาสนาพุทธ ท่านว่าเมืองไทยกับอินเดียประเทศไหนมีจำนวนคนที่มีพลังจิตมากกว่ากัน ทำไมคราวที่อินเดียเพิ่งทดลองอาวุธนิวเคลียร์ไป ไม่เห็นจะมีใครร้องขอให้จานบินออกมาอวดโฉมห้ามทดลองบ้างละครับ และประเทศธิเบตซึ่งมีพระสงฆ์ครึ่งประเทศทำไมไม่ใช้พลังจิตของมนุษย์ต่างดาวมาช่วยปลดปล่อยประเทศชาติให้หลุดพ้นจากการยึดครองของจีนล่ะ เรื่องปรากฏการณ์ทางจิตนี้ถูกเกี่ยวโยงไปกับเรื่องค้นคว้าเพื่อติดต่อการมนุษย์ ต่างดาว เมื่อประมาณปลายปี 2540 ถ้าหากจำกันได้มีชายคนหนึ่งอ้างว่านั่งทางสั่งมนุษย์ต่างดาวนั่งยานอวกาศมาพบได้ และจะมาพบโดยวิธีกันที่สิงห์บุรี เป็นที่สนุกสนานครื้นเครง วันที่ไอทีวีเอาเทปมาฉายให้ดูผมนั่งลุ้นอยู่ว่ามันจะบ้ากันใหญ่แล้ว ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ปรากฎว่าพอถึงเวลามีวัตถุลึกลับบินออกมาจริงทางฝากฟ้าตะวันออกไปตะวันตก คนฮือฮากันใหญ่ วัตถุที่เห็นนั้นอยู่ไกลมากจึงมองไม่ชัดว่าเป็นอะไร แต่กล้องทีวีจับภาพได้และซูมภาพเข้ามาใกล้ ปรากฏว่าหน้าตาคือไอ้นกเหล็กเราดี ๆ นี่แหละ มีปีกหน้าปีกหลัง คนเรานี่ชั่งงมงายกันจริง และอีกอันหนึ่ง อันนี้ถึงขนาดแพทย์ท่านหนึ่ง ( อ่านเรื่องของ ดร.เทพนม เมืองแมน ได้ที่ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/07/X8073652/X8073652.html ) ซึ่งทำการเชิญมนุษย์ต่างดาวมาบินผาดโผนที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมไม่บังอาจกล่าวว่าเชื่อถือได้หรือไม่ แต่มีหลายอย่างที่ขอตั้งข้อสังเกต คือ 1. ภาพที่ปรากฏบนฟ้า เป็นภาพแสงวงกลม เดี๋ยวก็เล็กเดี๋ยวก็ใหญ่และเคลื่อนไหวเหมือนลำแสงมากกว่าที่จะเคลื่อนไหว เหมือนวัตถุ วิวัฒนาการสมัยนี้มีแล้ว และหาซื้อไม่ยาก จะใช้กล้องขนาดใหญ่เหมือนไฟฉายที่ส่องลำแสงมีความเข้มสูงให้ปรากฏเป็นจุด เดียวบนท้องฟ้าได้ แม้ว่าระยะความสูงหลายกิโลเมตร ภาพล่าง จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:19:45

ความคิดเห็นที่ 4   ดร.ชนาธิป เขียนได้ถูกใจอะ จากคุณ : ง่วงป่าว เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:20:41

ความคิดเห็นที่ 5   ขอปาดดด จากคุณ : ลานกา เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:22:57

ความคิดเห็นที่ 6   2. ถ้าหากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นจานบินมนุษย์ต่างดาว นั่นแปลว่าเขาบินมาให้เราเห็นเขาต้องบินตะแคง เพราะจานบินบนท้องฟ้าเวลาบินมาจากสุดขอบฟ้า ในมุมมองของคนในพื้นโลกต้องเห็นเป็นเส้นตรงเส้นเดียวหรือมีส่วนโค้งเล็กน้อย เพราะจะเห็นที่ขอบและส่วนยอดของจานบินเท่านั้น ไม่ใช่เห็นจานบินเป็นรูปวงกลมเคลื่อนตัวเข้าหาเรา แล้วมนุษย์ต่างดาวคนไหนจะอุตริบินตะแคงอย่างนี้ 3. ถ้อยคำมนุษย์ต่างดาวที่นายแพทย์ท่านนั้น เปิดเทปให้ฟังในรายการฟังดูน่าสงสัยมาก เช่นมนุษย์ต่างดาวใช้คำว่า แป๊ปนึง หรืออะไรทำนองนี้ ผมไม่แน่ใจ นั่นแปลว่ามนุษย์ต่างดาวพวกนี้เก่งเกินเหตุ รู้ถึงขนาดศัพท์แสงที่ไม่ปรากฏอย่างเป็นทางการในพจนานุกรม ถ้าเปรียบเทียบง่าย ๆ เราคงไม่เชื่อถ้ามีคนหน้าตาฝรั่งมาบอกเราว่า เขาอยู่เมืองไทยมานับสิบปีแต่เขาเกิดเมืองฝรั่ง แล้วรู้จักความหมายและใช้คำพูดเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เช่น เส็งเคร็ง ฉลุย ซกมก งี่เง่า ตามซอย ชะเลีย ลามกจกเปรต ไอ้เบื๊อก แห้ว และแป๊ปนึง เพราะคำพูดเหล่านี้จะรู้จักความหมายที่ใช้ได้ถูกกาละเทศะจะต้องมีการสั่งสม ประสบการณ์ ต้องเป็นคนที่นี่เกิดที่นี่ถึงจะพูดเป็นและเข้าใจความหมาย ฉะนั้นมนุษย์ต่างดาวของท่านเก่งเกินเหตุ เพราะถ้าเขาเก่งกว่ามนุษย์และมีอารยธรรมจริง เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเขาพูดอยู่แบบหนึ่ง เราควรรู้ว่าเขาควรใช้คำพูดลักษณะไหน ไม่ใช่เลือกคำที่ลืมตัวแบบกันเองว่า แป๊บนึง อย่างนี้ 4. ทำไมเขาต้องมาพบคนไทย ถ้าเขาฉลาดจริงเขาต้องรู้อยู่แล้วว่าประเทศเราไม่มีความสามารถอะไรเลยที่จะไปกำหนดความเป็นไปของประชาคมโลก นิวเคลียร์เราก็ไม่มี ประชากรน้อย อาวุธเคมีก็ไม่มี ทหารก็มีน้อย อาวุธก็ไม่ก้าวหน้า คนฉลาดและเก่ง ๆ ก็น้อย เศรษฐกิจสังคมก็ไม่ก้าวหน้า และไม่มีอะไรเลยที่คิดเองสร้างสรรค์เอง ซื้อเข้ามาทั้งนั้น เราบริโภคเป็นอย่างเดียว ฉะนั้นประเทศไทยจะเป็นประเทศส่วนปลายของความเปลี่ยนแปลง เขาจะเสียเวลามาหาเราทำไม 5. นายแพทย์ท่านนั้นกล่าวทางทีวีว่า มนุษย์ต่างดาวขอให้ท่านทานเจนุ่งขาวห่มขาว ผมยิ่งสงสัยใหญ่ ถ้าคิดในแง่ว่าเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดมากจะไม่พูดอะไรสุ่มสี่ห้า ฉะนั้นเขาก็ต้องรู้ว่ากินเจนั้นต่างจากกินมังสวิรัติ เจของมนุษย์ต่างดาวกินไข่ได้หรือเปล่า และกินหอยนางลมได้ไหม แสดงว่าการกินเจนั้นเป็นยูนิเวอร์ซอล คือเป็นสากล ไม่ใช่เป็นที่ยอมรับกันเฉพาะบนโลกนี้ เป็นที่ยอมรับกันระหว่างดวงดาวเลยทีเดียว แปลว่าเขาก็มีคติความเชื่อแบบเดียวกับเรา เปิดร้านค้าติดธงเหลือง และมีเทศกาลกินเจเหมือนกัน และบนดาวของเขาต้องมีผักต้องห้ามห้าชนิดด้วย และก็ต้องมีหอยนางรมเช่นกัน แล้วคนที่เลือกกินมังสวิรัติล่ะ แปลว่าไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับคนต่างดาวใช่ไหม เพราะไม่ได้กินเจอย่างนี้พระพุทธเจ้าก็จะไม่ทรงมีโอกาสติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเพราะไม่ได้เสวยเจ แล้วพวกฝรั่งที่เห็นมนุษย์ต่างดาวกันโครม ๆ ก็แปลว่าเขาโกหกนะซี เพราะจะมีฝรั่งกี่คนที่กินเจ ถ้าถามว่าเป็นไปได้ไหมที่มนุษย์ต่างดาวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ตอบว่าเป็นไปได้ เพราะใหญ่กว่าโลกมีจักรวาล ใหญ่กว่านี้มีกาแลกซี่ และใหญ่กว่ากาแลกซียังมีอีก แปลว่ายังมีดาวอยู่เป็นล้านล้านล้านดวง เรายังอยู่ที่นี่ได้เลย เขาก็อาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสพบกัน และถ้าหากเขามาพบเราได้จริง ทำไมไม่มาให้เห็นกันจะจะไปเลย จะต้องทำมาเป็นเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากทำไม หรือมนุษย์ต่างดาวมีนิสัยเหมือนนักการเมืองบางคน นสพ.เดลี่ซันลงข่าววิดีโอการผ่าตัดศพมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องโกหก จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:25:51

ความคิดเห็นที่ 7   ปาดด ครั้งแรกในชีวิต ^^ จากคุณ : ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:31:30

ความคิดเห็นที่ 8   มนุษย์ต่างดาวไม่มีจริง วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ นักวิทยาศาสตร์ นักคิดตระกูล skeptics หลายท่านตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพบมนุษย์ต่างดาวว่า 1. ทำไมสิ่งทรงภูมิปัญญาที่เชี่ยวชาญทางฟิสิกส์และวิศวกรรมที่มีสติปัญญาข้ามระยะทางยาวไกลขนาดนี้ไม่รู้เรื่องทางชีววิทยาเลย ถึงต้องจับคนไปผ่า ถ้าพวกนั้นไม่ต้องการให้คนรู้ ทำไมไม่ลบความจำของคนที่เห็น ? หรือว่ายากเกินไป ? 2. ทำไมเครื่องมือที่ตรวจคนจึงเหมือนเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ตามคลินิกทั่วไป ? 3. ทำไมต้องเสียเวลาผสมพันธุ์ระหว่างคนกับมนุษย์ต่างดาวให้ยุ่งยาก ในเมื่อด้วยเทคโนโลยีระดับนั้น สิ่งทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวย่อมสามารถอ่านรหัสพันธุกรรมของคนจากเซลล์ได้ อย่างง่ายดาย มนุษย์โลกเราเองที่ยังไม่มีความสามารถเดินทางข้ามจักรวาลก็ยังสามารถโคลนสิ่งมีชีวิตได้เลย 4. ทำไมมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวไกลโพ้นและน่าเชื่อว่า มีสภาพทางกายภาพแตกต่างจากคน สามารถผสมพันธุ์กับคนได้ ทั้งที่สัตว์โลกที่ดูคล้ายกัน เช่น สุนัขกับแมว กระทั่งมนุษย์กับชิมแปนซี ไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ เผ่าพันธุ์มนุษย์จะเป็นผลลัพธ์จากมนุษย์ต่างดาวได้อย่างไรในเมื่อเราแชร์ยีน 99.4 เปอร์เซ็นต์กับลิงชิมแปนซี หรือว่าชิมแปนซีก็มาจากต่างดาว หรือมันก็ถูกมนุษย์ต่างดาวผสมพันธุ์ด้วย ? 5. ทำไมจู่ๆ จึงมีคนเชื่อว่าพบยูเอฟโอ ทั้งที่หลายศตวรรษที่ผ่านมาไม่มีใครรายงานการพบในลักษณะนี้ ไม่มียุคใดอีกแล้วที่ท้องฟ้าของมนุษย์ได้รับการมาเยือนจากมนุษย์ต่างดาวบ่อยเท่านี้ 6. ทำไมมนุษย์ต่างดาวหน้าตาเหมือนคนแทบทุกประการ 7. ทำไมยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวในรายงานมักเป็นทรงจานบิน 8. ทำไมต้องเป็นโลก ในจักรวาลที่มีดาวอย่างน้อยที่สุด 1020 ดวง ทำไมจึงเลือกมา "เที่ยว" ในโลก (ที่ไม่ค่อยน่าอยู่) ใบนี้ 9. ทำไมยูเอฟโอต้องเล่นซ่อนหากับมนุษย์ ถ้าจะมาช่วยโลกเพราะสงสารในความโง่เง่าล้าหลังของมนุษย์ ก็คงไม่จำเป็นต้องปิดบังร่องรอยของตนเอง (เพราะมีวิทยาการสูงกว่า) ถ้าอยากมาทำลายเหยียบคนเล่นแก้กลุ้ม ยิ่งไม่ต้องปิดบังตนเอง 10. ทำไมรายงานการพบยูเอฟโอมักเป็นที่อเมริกา ที่ซึ่งริเริ่มคำว่า ยูเอฟโอ มากกว่าส่วนอื่นของโลก 11. มีรายงานการพบยูเอฟโอมานานหลายสิบปี แต่ทำไมกลับไม่ปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สักเพียงชิ้นเดียว หลักฐานที่ว่าอาจเป็นเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ สักชิ้นของยานยูเอฟโอ หลักฐานไอโซโทปของวัตถุที่ไม่พบในโลกนี้ หลักฐานทางเคมี สารหนักที่ไม่มีในโลกเรา ฯลฯ 12.มีคนเคยบอกว่า สโตนเฮนจ์ พีรามิด หรือจะเป็นสถาปัตยกรรมอะไรก็ได้ ที่มันใหญ่ๆเว่อร์น่ะ มนุษย์เค้าไม่ได้สร้างหร๊อก มนุษย์ต่างดาวต่างหากที่สร้าง เหมือนดูถูกมนุษย์ด้วยกันเองเลยนะนั่น แหม..แล้วทำไมไม่คิดว่ากำแพงเมืองจีนที่ทั้งใหญ่และยาว เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้นมั่งล่ะ ? หน้าปกของนิตยสาร Skeptic เขียนไว้อย่างประชดประชันว่า "ปี 2012 โลกแตก (อีกแล้ว)" จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 01:43:13

ความคิดเห็นที่ 9   นอ.ฐากูร เกิดแก้ว ผู้อำนวยการโครงการศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (ลีซา) กล่าวกับสื่อเกี่ยวกับการพบเห็นวัตถุบินลึกลับว่า วัตถุที่จะทำให้เกิดแสงสว่างบนท้องฟ้าอาจเป็นได้ตั้งแต่ ดาวเทียม หรือสถานีอวกาศนานาชาติซึ่งมีความสว่างพอๆ กับดาวศุกร์ และจะเห็นได้ในตอนหัวค่ำหรือเช้ามืด ที่แผงเซลล์แสงอาทิตย์ทำมุมกับแสงอาทิตย์เกิดเป็นแสงสว่างจ้า บางครั้งจะเห็นสว่างอยู่แล้วก็หายไปเฉยๆ แต่หากตกดึกก็จะไม่เห็นแสงจากวัตถุ 2 ชนิดนี้แล้ว เนื่องจากเงาโลกบดบัง ซึ่งเราสามารถใช้ซอฟต์แวร์คำนวณได้ว่าจะเห็นแสงสว่างจากดาวเทียมและสถานี อวกาศได้เมื่อไหร่ ที่ไหน       "สำหรับดาวเทียมจะวิ่งเป็นทางยาวๆ ไม่เลี้ยว ความเร็วคงที่ เพราะต้องรักษาความเร็วในวงโคจร หากเป็นเครคื่องบินก็จะเห็นไฟแวบๆ เมื่อบินผ่นไปสักพัก จะได้ยินเสียงตามมา หากเป็นเฮลิคอปเตอร์ก็หยุดนิ่งได้ แต่บางทีก็มีภาพหลอกตา เมื่อเมฆเคลื่อนที่จะเห็นเหมือนดาวเคลื่อนที่ไป-มาได้"       "อย่างดาวศุกร์ ก็เคยมีคนทำภาพปลอมไปหลอกว่าเป็นจานบิน ( อ่านเพิ่มเติมได้ที่ กรณีภาพถ่ายปลอม http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8876437/X8876437.html )โดยปรับโฟกัสให้ได้ภาพดาวศุกร์ที่บิดเบี้ยว แล้วใช้กล้องสะท้อนแสง สร้างเทคนิคไม่ให้เห็นตรงกลางดาวศุกร์ ก็จะเหมือนจานบิน ซึ่งภาพนี้ได้ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยด้วย" นอ.ฐากูรกล่าว       นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้อาจเป็นบอลลูนหรือโคมลอย ซึ่งในเมืองไทยไม่ค่อยมีให้เห็น บางครั้งก็เป็นเครื่องบินบังคับวิทยุที่เปิดไฟแวบๆ หรืออาจจะเป็นดาวศุกร์ ซึ่งบางช่วงจะเห็นได้ในตอนเช้าและบางช่วงจะเห็นตอนหัวค่ำ ซึ่งเกิดจากการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวศุกร์ หรืออาวุธลับอย่างขีปนาวุธก็เป็นได้ แต่ไม่ค่อยได้เห็นง่ายๆ เพราะไม่มีการสู้รบกัน       "จริงๆ แล้ว ดาวเทียมนั้นเห็นได้ทั่วไป แต่คนไม่ค่อยได้เห็น ไม่ได้สังเกต พอเห็นแล้วก็ฮือฮา" นอ.ฐากูรกล่าว พร้อมแนะนำว่า หากเห็นปรากฏการณ์แสงประหลาดอีก ควรต้องใช้วิจารณญาณก่อนจะคิดว่าเป็นจานบินของมนุษย์ต่างดาวมาเยือน เพราะหากมนุษย์ต่างดาวมาจริง คงต้องมาอย่างฉลาด และมาอย่างมีเจตจำนงค์ ไม่ปรากฏตัวอย่างโง่ๆ วีนัส มีชื่อเล่นเป็น Queen of UFO จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 02:03:09

ความคิดเห็นที่ 10   ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล นักวิทยาศาสตร์ผู้จัดรายการวิทยุเกี่ยวกับวิทยาการต่างๆ เป็นอีกคนที่ได้รับแจ้งจากประชาชนที่เห็นแสงไฟประหลาดเหนือท้องฟ้ากรุงเทพฯ จำนวนมาก เขาจึงได้แนะนำให้ผู้ที่แจ้งเข้ามา ลองตรวจสอบกับสนามบินและวิทยุการบิน       ดร.ชัยวัฒน์เปิดเผยว่า หากเป็นเครื่องบินหรือยานอวกาศ ต้องเป็นโลหะซึ่งเรดาร์ตรวจจับได้ และถ้าเป็นเครื่องบินหรือยานอวกาศจริง จะเป็นเรื่องใหญ่ และเราต้องทราบก่อนที่ยานเหล่านี้จะมาถึง       ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อตรวจสอบได้ 3-4 ชั่วโมงแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ จึงแน่ใจว่าไม่ใช่ แล้วต้องหาคำตอบอย่างอื่น ภายหลังมีผู้แจ้งเข้ามาว่า เป็นลูกโป่งที่ปล่อยจากห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิร์ล       "ตอนนี้คงทราบแล้วว่าเป็นลูกโป่ง แต่ก็น่าสนใจดี เป็นตัวอย่างของ UFO วัตถุที่ไม่สามารถจำแนกได้ กลายเป็น IFO วัตถุที่จำแนกได้ เป็นตัวอย่างของ UFO ที่เห็นกันเยอะ แท้จริงอาจเป็นอะไรก็ได้ อาจเป็นมิราจหรือภาพลวงตา ที่แสงจากที่อื่น ไปหักเหในชั้นบรรยากาศที่มีอุณหภูมิต่างกัน เหมือนที่เกิดในทะเลทราย"       ทั้งนี้ ดร.ชัยวัฒน์ได้ยกตัวอย่างกรณี ที่เคยเกิดใกล้ๆ ในทะเล ที่ภาพโรงแรมหรือเกาะไปปรากฏบนท้องฟ้า แต่ที่เห็นบ่อยคือภาพดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพราะโคจรรอบโลกได้เร็วมาก และทางองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ได้ทำตารางว่าจะสังเกตเห็นตอนไหนบ้าง       "ส่วนดาวศุกร์ก็เห็นได้บ่อยมากแล้วเข้าใจผิดกัน จนได้ชื่อว่า "Queen of UFO" เพราะช่วงหัวค่ำหรือเช้าๆ จะเห็นโผล่ใกล้ยอดไม้ บางครั้งเวลาขับรถ เหมือนเห็นแสงวิ่งตาม" ดร.ชัยวัฒน์กล่าว       หากเห็นคนเดียวอาจเป็นภาพลวงตา ถ้าเห็นพร้อมๆ กันต้องสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งต้องมีความรู้พอสมควร สำหรับแสงจากดาวเทียมจะเคลื่อนที่เร็วในแบบหนึ่ง จะเห็นเส้นยาวแล้วหายไป ส่วนสถานีอวกาศก็จะเห็นเคลื่อนที่เร็วในแบบหนึ่ง ซึ่งจะเห็นเพียงไม่กี่วินาที ยาวที่สุด 3-4 นาที ซึ่งหากเห็นนานขนาดนั้นนับว่าโชคดีมาก       แต่หากไม่สามารถแยกแยะได้ วัตถุนั้นก็จะกลายเป็น "ยูเอฟโอ" ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว หากทราบแล้ววัตถุนั้นจะกลายเป็น "ไอเอฟโอ" และถ้าเป็นยานมนุษย์ต่างดาวจริงๆ ก็เป็นไอเอฟโอ       พร้อมกันนี้ นายวิทยา ศรีชัย พนักงานบุคคล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดและวิทยากรประจำสมาคมดาราศาสตร์ไทย ได้เล่าประสบการณ์ว่า พบแสงประหลาดระหว่างดูดาวหลายครั้ง และก็คาดหวังอยากให้เป็นยานมนุษย์อวกาศ แต่สุดท้ายแสงเหล่านั้นก็มาจากวัตถุต่างๆ ที่อยู่บนโลก เช่น บอลลูนตรวจอากาศ เครื่องบินที่มีเพดานบินสูง แสงไฟสปอตไลท์ที่ส่องขึ้นไปบนฟ้า หรือบางครั้งก็เป็นถุงพลาสติก       "ตอนเด็กๆ เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว สมัยทำกล้องดูดาวใหม่ๆ ยังเคยแปลกใจเลยว่า 7 โมงเช้าแล้ว ยังเห็นดาวสว่างอยู่กลางฟ้า งงเลย เพราะขนาดดาวพฤหัสที่สว่างมากก็จางจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว เลยรีบเอากล้องดูดาวหันขึ้นไปส่อง แต่กลับเป็นบอลลูนตรวจอากาศ และมีอีกครั้งเห็นบอลลูนตรวจอากาศเหมือนกัน ส่องกล้องขึ้นไปเจอและได้เห็นมันแตกด้วย ดีใจมากเลย ครั้งนั้น ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย ตอนยังเป็นลูกบอลลูนนะ จะคล้ายดาว พอแตกแล้วก็เป็นชิ้นๆ" วิทยากรประจำสมาคมดาราศาสตร์ไทยเผยประสบการณ์ กรณียูเอฟโอปลอมที่เฮติ จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 02:15:05

ความคิดเห็นที่ 11   อังกฤษปิดหน่วยตรวจสอบ UFO รับไม่มั่นใจมนุษย์ต่างดาวมีจริง เอเจนซี - หลังจากเปิดมากว่า 50 ปี กระทรวงกลาโหมอังกฤษได้ปิดหน่วยงานตรวจสอบยูเอฟโอ อ้างเหตุสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่สมเหตุสมผล       กระทรวงกลาโหม ระบุว่าพวกเขาไม่พบหลักฐานแห่งภัยคุกคามต่ออังกฤษและพิสูจน์ได้ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีอยู่จริง แม้มีประชาชนจำนวนมากได้ส่งรายงานนับพันเกี่ยวกับการพบเห็นยูเอฟโอมายัง ศูนย์สายด่วนและอีเมล์แอดเดรสของกระทรวงก็ตาม       ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมอังกฤษบอกว่าไม่ขอออกความเห็นเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลก และยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถระบุลักษณะของสิ่งที่ประชาชนแจ้งว่าพบเห็นได้       "ไม่มีประโยชน์ในเชิงกลาโหมจากการสืบสวนเช่นนี้ และมันอาจเป็นการนำทรัพยากรด้านป้องกันประเทศมาใช้อย่างไม่เหมาะสม" โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว "ภัยคุกคามใดๆต่อน่านฟ้าของประเทศสามารถตรวจสอบโดยเรดาร์และจัดการโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศอยู่แล้ว"       ทรัพยากรของประเทศควรพุ่งไปยังเป้าหมายที่สำคัญกว่า ในจำนวนนั้นรวมไปถึงสงครามในอัฟกานิสถาน ชาติที่ทหารอังกฤษ 9,000 นายถูกส่งไปประจำการเพื่อสู้รบกับกลุ่มหัวรุนแรงตอลิบาน และจะย้ายเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรายงานยูเอฟโอไปทำงานในตำแหน่งอื่น ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณได้ปีละ 44,000 ปอนด์ (ราว 2.4 ล้านบาท)โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุ ที่มา ufo.suite101.com/article.cfm/flying_saucer_probe_closed www.thaihypno.com หนังสือ ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล /วินทร์ เลียววาริณ www.thaiday.com สําหรับวันนี้ก็ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ.Terran จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 02:54:12

ความคิดเห็นที่ 12   คห.8 ไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับ ข้อ 8 ครับที่ว่า 8. ทำไมต้องเป็นโลก ในจักรวาลที่มีดาวอย่างน้อยที่สุด 10^20 ดวง ทำไมจึงเลือกมา "เที่ยว" ในโลก (ที่ไม่ค่อยน่าอยู่) ใบนี้ ถ้าคนเขียนจะกรุณาไปนั่งเฝ้า ดาวดวงใดดวงหนึ่ง ในจำนวนที่ว่า ไม่แน่ครับ อาจจะมีมนุษย์ต่างดาวลงหลักปักฐานอยู่แล้วก็ได้ จากคุณ : rasta-420 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 03:18:32

ความคิดเห็นที่ 13   ขอขอบคุณ ความคิดเห็นที่ 21 แก้ไข ดร.นี่คุณ. เรียน ระดับสูงแล้วครับ ถ้าท่านคิดแบบนี้ ผมก็จะเห็นด้วยกับข้อความของท่านที่ว่า "ประเทศไทยไร้คนเก่งและฉลาด " และขอเพิ่มเติมว่า "คิดหัวชนฝาเหมือนเด็กๆ คิดด้านเดียวจนเกินไป และคำถามของท่านแต่ละคำถามนั้นเหมือนออกมาจากปากเด็ก อนุบาล 2 ที่มักจะถามว่า นี่มันตัวอะไรครับคุณครู " แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 01:11:31 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 53 03:32:46 จากคุณ : เก็นโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 03:32:05

ความคิดเห็นที่ 14   12 ข้อของ มนุษย์ต่างดาวไม่มีจริง วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ครับ เค้ารู้ได้ยังไงว่ามนุษย์ต่างดาวน่าจะมีหรือไม่มีอะไร เค้าเคยไปดาวของมนุษย์ต่างดาวหรือป่าวครับ 1. รู้ได้ยังไงเค้าลบความทรงจำได้ 2. เห็นรูปร่างเครื่องมือแล้วหรือ 3.-4. ในรายงานก็มีหลายอ้างอิงรู้ได้ยังไงว่าแหล่งไหนจริงแหล่งไหนไม่จริงแต่ถึงยังไงก็อาจเป็นไปได้ทั้งนั้นการทดลองจำเป็นต้องมีขอบเขตด้วยหรือจักรวาลแสนกว้างใหญ่มั่นใจได้ยังไงว่าเป็นไปไม่ได้ถ้ามีตัวช่วยที่เราคาดไม่ถึง 5. เทคโนโลยีการสื่อสารและสื่อย่อมมีอิทธิพลอยู๋แล้วสมัยโบราณไม่มีความเข้าใจในด้านนี้ก็ตีความแตกต่างกันด้วยความไม่รู้ 6. เคยเห็นจริงๆไหมถึงเหมือนจริงๆ ก็หน้าแปลกใจด้วยเหตุผลหลายๆอย่างเช่น นั้นใช่รูปร่างจริงๆของเขาไหม หรือเค้าควรมีรูปร่างยังไงหล่ะ 7. แล้วควรเป็นทรงไหนหล่ะ ทรงกลมผมว่าเป็นทรงที่เสถียรที่สุดแล้วนะ 8. รู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่ไปดวงอื่น 9. รู้จุดประสงค์เค้าแล้วหรือ 10. จริงๆก็มีทุกประเทศ แต่อเมกาเป็นประเทศที่ใหญ่ และมีกระแส ufo มากไม่แปลกที่จะมีเรื่องจริงผสมเรื่องหลอก 11. ข้อนี้ผมก็สงสัย แต่อาจจะมีก็ได้แต่มีคนรู้น้อย หรือ ว่าไม่แปลกถ้าเค้าไม่ต้องการทิ้งร่องรอย วิทยาการขนาดเค้าก็อาจจะกลบร่องรอยได้ไม่ยาก 12. กำแพงเมืองจีนไม่ใช้ก้อนหินใหญ่เหมือนสโตนเฮนจ์ หลายๆปัจจัยก็ไม่เหมือนสโตนเฮนจ์ แต่ผมก็ไม่สรุปหลอกครับว่า เป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว แค่เป็นข้อสงสัยมากกว่า *12 ข้อนี้เป็นการตั้งข้อสงสัยแบบ nonsense มากๆ ** การค้นพบวิทยาการไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอน วิทยาศาสตร์ไม่มีขอบเขต สิ่งที่เขามีเราก็อาจไม่มี สิ่งที่เรามีเขาก็อาจไม่มี เรื่องจริงมี เรื่องโกหกก็มี ***ข้อมูลรายงานต่างๆมากมายจากหลายแหล่งที่มีมายาวนาน แต่เมื่อพบแหล่งข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง 1 ชิ้น ไม่สามารถ สรุป ข้อมูลทั้งหมดได้ว่า ไม่เป็นความจริงทั้งหมด สรุปได้แค่ข้อมูล 1 ชิ้น ******* รู้ได้ยังไงว่าเขาจะต้องคิดเหมือนเรา ********* ปล: ผมไม่ได้เป็นพวกคลั่งจานบิน(สาบาน) แต่สรุปง่ายๆทือๆแบบนี้ผมยังรับไม่ได้ ***ผมวิพากษ์วิจารณ์ วินทร์ เลียววาริณ ครับ ผมเป็น แฟนคลับ  Mr.Terran แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 53 19:34:50 จากคุณ : HiiDoL เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 03:48:43

ความคิดเห็นที่ 15   กลับเข้ามาในตัวเราดีกว่าครับ เพราะจะเกิดอะไรขึ้นก็หอบเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ซักอย่าง ลองถามผู้รู้ดูนะครับ ว่าอะไรที่มันเวียนว่ายตายเกิดเป็นวัฏฏะอยู่แบบนี้ เอวัง..... จากคุณ : NONRETURN เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 04:44:02

ความคิดเห็นที่ 16   มาลงชื่อไว้ก่อนเดียวมาอ่าน จากคุณ : Ja-Lam-Ka-Ko เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 07:20:59

ความคิดเห็นที่ 17   ถึงเวลาที่ต้องแปลงร่าง ปกป้องโลกแล้วหรือนี่ จากดาว M78 มาก็นานโข จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 08:08:42

ความคิดเห็นที่ 18   สนุกดีครับ จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 08:57:43

ความคิดเห็นที่ 19   มาแจกกีบ จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 09:36:12

ความคิดเห็นที่ 20   รับสามกิฟท์แรกของเดือนนี้ไปโลดพร้อมโหวตครับ จากคุณ : knine2five เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 09:46:36

ความคิดเห็นที่ 21   คห.13 ข้อความนั้นไม่ใช่ของ Mr.Terran แต่เป็นของคุณวินทร์ เลียววาริณครับ จากคุณ : adasiruk (marktwo) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 09:54:12

ความคิดเห็นที่ 22   มากิ๊ฟและโหวตตามธรรมเนียม จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 10:28:02

ความคิดเห็นที่ 23   ข้อโต้แย้งเหล่านี้เป็นเพียงความคิดเห็นของแต่ละคนแต่ละท่านที่ผมรวบรวมมาเพื่อให้มองอีกมุมนึงโดยไม่ใช่การรับข่าวสารด้านเดียวเหมือนที่ผ่านมาครับ เพื่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงอภิปรายและต่อยอดดังที่กล่าวไว้แต่ต้น ผมเคยอธิบายกลุ่มของผู้สนใจเรื่องยูเอฟโอเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆไว้ในกระทู้ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/01/X8794108/X8794108.html ซึ่งผมจะยกมาอีกทีล่ะกัน กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่เชื่อว่ามียูเอฟโออยู่จริง คนกลุ่มนี้ตีความหมายคำว่า ยูเอฟโอ (UFO-Unidentified Flying Object) จำกัดอยู่เพียงแค่ว่า มันเป็นรูปแบบของยานอวกาศจากต่างดาว และเชื่อถือว่า ในห้วงอวกาศอันไพศาล มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาปรากฏอยู่ คนพวกนี้เดินทางท่องไปทั่วจักรวาล รวมทั้งการมาเยือนโลกของเราทั้งในอดีตและปัจจุบัน กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ทั้งไม่ปฏิเสธ และไม่เชื่อแนวความคิดดังกล่าวข้างต้น คนกลุ่มนี้ตีความคำว่า ยูเอฟโอ อย่างเคร่งครัดตามนัยของคำในภาษาอังกฤษ ที่แปลเป็นไทยได้ว่า"วัตถุบินที่ไม่อาจจำแนกได้ว่าเป็นอะไร" การให้ความสนใจของกลุ่มนี้มักเป็นการสนใจในแง่ของการ "พิสูจน์" ในทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ยูเอฟโอ ในแต่ละกรณีว่ามีการพิสูจน์กันมากน้อยแค่ไหน จริงจังและถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เพียงใด หากกรณีใดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่อาจอธิบายได้ด้วยเหตุผลในเชิงวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ก็พร้อมที่จะยอมรับว่าได้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ในรูปของ "วัตถุบิน" ที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นอะไร มาจากไหน และ อย่างไร มากกว่าที่จะปักใจเชื่อว่า สิ่งที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นอะไรนี้ เป็นยานอวกาศจากภายนอกโลก กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มที่ไม่เชื่อ เชื่อว่าแท้จริงแล้วเป็นเรื่องของการ "แหกเนตร" กันมากกว่าอย่างอื่น สําหรับผม ผมอยู่ในกลุ่มที่ 2 ครับ จากคุณ : Mr.Terran เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 11:19:10

ความคิดเห็นที่ 24   ปาดดด ลงชื่อ อ่านต่อ จากคุณ : เตะฝุ่นฟุ้งกระจาย เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 12:03:37

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณสำหรับบทความครับ จากคุณ : zeromaster เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 12:16:27

ความคิดเห็นที่ 26   ดีครับๆๆ ได้อ่านทั้ง2กลุ่ม ไม่รู้จะไปอยู่สีไหนดี ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : teeaym เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 12:29:20

ความคิดเห็นที่ 27   ก้อคงมีจริงแหละครับ มนุษย์ต่างดาวอะไรพวกนี้ แต่คงไม่แบบที่ ดร. เทพพนม เมืองแมน ว่าหรอก ครับ แบบของดอกเตอร์เนี่ยมันรั่วๆงัยไม่รู้อ่ะ... จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 12:52:23

ความคิดเห็นที่ 28   ขอแย้ง จขกท นิดครับ ตรงข้อความที่ว่า "พ่อดันสะบัดมือหลุดบอกว่าขอตายชดใช้กรรมที่ทำมาทั้ง ชาตินี้และชาติที่แล้วดีกว่า ถ้าขืนมีชีวิตอยู่ต่อไปก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรตามมาทวงหนี้ไม่สิ้นสุด" คติแบบนี้ไม่ใช่คติของพุทธศาสนาครับ แต่เป็นหนึ่งในคติที่ถูกจำแนกออกมาว่าอาจมีคนเข้าใจผิดว่าเป็นคติของพุทธศาสนา คติในเรื่อง "กรรม" มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาตนให้ยิ่งขึ้นเป็นหลักใหญ่ มิได้หมายความว่ากระทำกรรมไว้แล้วรอเสวยผลของกรรม(ไม่ว่าดีหรือเลว)นั้นๆ อันนั้นจะถูกจัดเข้าไปอีกลัทธิหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 53 13:22:01 จากคุณ : nogreyzone (nogreyzone) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 13:20:24

ความคิดเห็นที่ 29   เข้ามาดู จากคุณ : Fumuchan เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 15:00:15

ความคิดเห็นที่ 30   -*- จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 15:14:01

ความคิดเห็นที่ 31   อ่านเพลินมากอะคับ อยากให้เป็นหนังสือจังจะได้พกไปไหนก็ได้ จากคุณ : civic coupe (punkskate208) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 17:03:55

ความคิดเห็นที่ 32   ตั้งแต่วิทยาการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้าก้าวหน้าไปมาก เดี๋ยวนี้ยานUFOไม่ปรากฏกันง่ายๆเหมือนสมัยก่อนโน้นแล้วคร้าบ เชยมาก ต้องแนบเนียนกว่านี้ (ปล.) ส่วนบทความที่นำมาลง อ่านเอาแง่มุมคิดหลากหลายดีครับ จากคุณ : ชัดๆเน้นๆ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 17:48:23

ความคิดเห็นที่ 33   อ.เขียนได้สะใจมาก 5555555555 ชอบๆ จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 20:58:01

ความคิดเห็นที่ 34   ส่วนตัวคิดว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงครับ มาหรือไม่มาโลกนั้นอีกเรื่อง เรื่อง UFO เห็นด้วยตามอาจารย์ฐากูร ครับ จากคุณ : nOnG_WinZ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:03:11

ความคิดเห็นที่ 35   กินเจ? :-)บ้า จากคุณ : liltonie เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:29:01

ความคิดเห็นที่ 36   แวะมาแจกกีบครับ ดูเหมือนบางคนในกระทู้นี้เข้าใจอะไรผิดอยู่นะครับ จากคุณ : กินข้าวหน้าคอม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:46:18

ความคิดเห็นที่ 37   ผมชักอยากเห็นมุมมองของมนุษย์ต่างดาวเกี่ยวกับศาสนาบนโลกของเราจริงๆเลย จากคุณ : in_my_metal เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:51:16

ความคิดเห็นที่ 38   ชอบๆๆๆๆ ปล. ส่วนตัวหนูคิดว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงค่ะ คนเราก็ยังมีได้ ทำไมดาวดวงอื่นกลมๆมันถึงมีบ้างไม่ได้ ชอบเขตของสสารอยู่ตรงไหนหรอ? จากคุณ : OhBoW เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 00:18:42

ความคิดเห็นที่ 39   ผมไม่เคยเชื่อมานานแล้วว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง จากคุณ : หนุ่มเทคนิค เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:12:32

ความคิดเห็นที่ 40   ไม่รู้สิว่ามีหรือไม แต่ทุกวันนี้แก้ปัญหาตัวเองทุกวี่ทุกวัน แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว เอาเรื่องส่วนตัวให้รอดก่อนคิดถึงเรื่องแบบนี้ดีเกว่าเรา จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:13:04

ความคิดเห็นที่ 41   ขอแก้หน่อยนะครับ #1 พระพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลา 4 อสงไขย กับอีกแสนมหากัปป์ นับชาติภพไม่จบสิ้นเลยครับ ( 1 อสงไขยไม่แน่ใจว่า เท่ากับ 10ยกกำลัง148 ปีหรือเปล่า) แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 20:39:36 จากคุณ : nutty8228 เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 20:27:31

ความคิดเห็นที่ 42   คห. 14 ผมก็ขอแย้งความเห็นของท่านครับ คุณวินทร์ เลียววาริณ เค้าไม่ได้บอกว่าข้อสงสัยหรือสมมุติฐานของเขาถูกครับ ถ้าสังเกตุ จะเห็นว่า ทุกข้อ เขียนว่า "ทำไม" อยู่ทุกข้อ ผมจึงมองว่า เป็นประโยคคำถาม เป็นการตั้งข้อสงสัยในประเด็นต่างๆที่คนเขียนสงสัยแค่นั้นครับ ดังนั้น ทั้ง 12 ข้อ ไม่ผิดสักข้อครับ 12ข้อที่โต้แย้งของคุณก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่เห้นด้วยที่คุณไปว่าข้อสงสัยเค้าหรือใครๆว่า nonsence ทุกๆคนย่อมมีจินตนาการ ย่อมมีมุมมองเป้นของตนเอง **ถ้าใช้ลักษณะการโต้แย้งของคุณ ผมก็แย้งได้เช่นกันเช่น 1.รู้ได้ไงว่าเค้าลบความทรงจำได้ ผมก็จะแย้งเป็นว่า คุณรู้ได้ยังไงว่าเค้าลบความทรงจำไม่ได้??? ขอออกตัวว่า ผมชอบอ่านงานเขียนของ คุณวินทร์ และกระทู้ของคุณ Mr.Terran เช่นกันครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 01:27:52 จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:25:15

ความคิดเห็นที่ 43   เข้ามาให้กีบ และโหวตให้ครับ ชอบอ่านแนวนี้อยู่แล้ว จากคุณ : วัวนม เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 02:06:44

ความคิดเห็นที่ 44   ไม่เคย เห็น เลย ไม่คิดว่า มีจริง โหวต และ เก็บไว้อ่าน จากคุณ : eping เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 10:00:13

ความคิดเห็นที่ 45   "สิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น" ผมมั่นใจว่ามีแน่นอน 100% ถ้าคิดจากขนาดมหึมาของจักรวาลและจำนวนดวงดาวที่มีนับล้าน ๆ ดวง มีดาวเคราะห์อีกนับไม่ถ้วนอยู่ในสภาพที่เอื้อต่อการเกิดสิ่งมีชีวิต หรือต่อให้มีสภาพแวดล้อมที่ไม่ใกล้เคียงกับโลกของเราเลยก็ตาม ก็ยังมีโอกาสกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่มีพื้นฐานแตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตบนโลกได้อยู่เช่นกัน แต่ผมไม่เชื่อว่ามี "สิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมระดับสูง" นั่งจานบินมาเที่ยวโลกนับพัน ๆ ครั้งจนมีรายงานการพบเห็นให้เกลื่อนอย่างทุกวันนี้ คิดตามหลักตรรรกะแล้ว ผมเห็นด้วยกับคุณวินทร์ทุกประการ แต่มนุษย์กิเลสหนาอย่างเรา ลองได้ "คลั่ง" อะไรเข้าไปสักอย่าง เหตุผลหรือตรรกะก็คงช่วยอะไรไม่ได้ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 12:02:12

ความคิดเห็นที่ 46   ดี ครับ แปลกดีเหมือนกัน จากคุณ : Hitokiri เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:06:46

ความคิดเห็นที่ 47   # เรียน คห.14 ข้อความของวินท์ เลียววารินทร์นั้น ถ้าจำไม่ผิด เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อหาทั้งหมดครับ  ตัวเต็มๆน่าจะมีที่มาจากหนังสือปลาที่ว่ายน้ำในสนามฟุตบอล  ก่อนที่จะมาเป็น 12 ข้อนั้น  เค้ายกบทความ เรื่องเล่า เหตุการณ์ บันทึกต่างๆเกี่ยวกัย UFO มาประกอบพอสมควร จากคุณ : ไทยมุงหรรษา เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:25:48

ความคิดเห็นที่ 48   แอบอ่านแบบเงียบๆ หุหุ จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:37:45

ความคิดเห็นที่ 49   ที่ดูไม่น่าเชื่อที่สุดก็รูปที่นัด UFO มาถ่ายนี่แหละครับ กรณีที่บังเอิญเจอแล้วรีบถ่าย หรืออยู่ไกลมากๆยังพอรับฟังได้ ไอ้นี้นัดมาถ่าย ดันถ่ายภาพเบลอ แล้วจะเอามายืนยันทำไมให้เสียคะแนนครับ นัดมาขนาดนี้ต้องเอากล้องคุณภาพสูง หรือกล้องวีดีโอมีขาตั้งซูมลึกๆมาด้วยแล้วครับ จากคุณ : Slynet (SlyNet) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 15:16:30

ความคิดเห็นที่ 50   มีความเป็นไปได้มั้ยครับที่มนุษย์ต่างดาวก็คือ...คนในอนาคตที่ขับ Time Machine มาดูอดีต... สงสัยครับ จากคุณ : hoho เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 17:57:57 A:124.120.120.173 X: TicketID:228371

ความคิดเห็นที่ 51   ผมเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกล่าวไว้ว่า ในกาแล๊กซี่ของเรามีดาวที่เป็นแบบเดียวกับโลกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ดวง จากเป็นล้านๆดวง ซึ่งท่านได้ใช้วิธีการนั่งสมาธินั่นแหละคับ จากคุณ : คุณชายตี๋น้อย เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 20:40:34

ความคิดเห็นที่ 52   พระพุทธเจ้าเคยบอก สิ่งเราคิดว่าไม่มีไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี ก็เหมือนกันแหละค่ะ อะไรที่เหนือความคาดหมายก็ไม่ได้หมายความว่ามันอาจจะเกิดขึ้นก็ได้.... จากคุณ : ไก่นะ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 22:21:42

ความคิดเห็นที่ 53   ผมสงสัยว่า ถ้ามนุษย์ต่างดาวมา แล้วทำไมต้องสนใจมาเจรจากับมนุษย์ ทำไมเขาต้องมองว่ามนุษย์คือตัวแทนของโลก มีอะไรบ้างที่เป็นตัวชี้วัดว่าเราคือผู้ปกครองโลกและเป็นตัวแทนของโลก เราอาจอ้างว่าเรามีรถรามีไฟฟ้าเราอ่านหนังสือเราผลิตเครื่องใช้ แต่ทั้งหมดนั่นก็ไม่ได้มีสาระอะไรเลยในความหมายต่อจักรวาล บางทีหอยทาก นก ปลา หรือแม้แต่สาหร่าย ใบไม้ อาจไม่ได้มองสิ่งที่เราเป็นว่านั่นคือความเจริญก็ได้? เราอาจอ้างว่าเราทำได้หลายสิ่งมากกว่าสัตว์โลกอื่นๆ แต่ที่จริงแล้ว กลับมีเป็นสารพัดสิ่งที่เราทำไม่ได้อย่างสัตว์โลกอื่นๆ ไม่แน่ว่าบางที มนุษย์ต่างดาวก็คือสสารอื่นๆที่ลอยเข้ามาในโลกและปฏิสัมพัณธ์สื่อสารกันกับ ตะไคร่น้ำ เห็ดรา ในโลกก็เป็นได้ เพียงแต่ว่ามนุษย์เฝ้ารอวันที่อยากจะพบสิ่งมีชีวิตที่มีวิถีคล้ายคลึงกัน มีการผลิตอุปกรณ์มีการหาอาหาร มีการใช้ตัวอักษรและเสียงในการสื่อสาร มันก็เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไรเลย ผมถามว่ามนุษย์ต่างดาวกับผี  อะไรคือเรื่องแปลกกว่ากัน ถ้ามองคำว่า จักรวาลคือสิ่งไม่มีวันสิ้นสุด ผมว่าจักรวาลนี่ล่ะมหัศจรรย์ที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับเรื่องผีนี่เรื่องผีกลายเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย เมื่อเทียบกับความแปลกประหลาดระดับเทพ ของจักรวาลที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่คนเราก็ยังมานั่งเถียงกันว่ามนุษย์ต่างดาวเอยผีเอยมีจริงหรือไม่ ทั้งๆที่เรื่องที่มันแปลกยิ่งใหญ่กว่านั้นกลับมีให้รู้กันโต้งๆ อย่างเช่นเรื่องหลุมดำในอวกาศเป็นต้น แล้วนับประสาอะไรที่เรื่องผีเรื่องมนุษย์ต่างดาวจะไม่มีโอกาสเป็นจริง แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 02:41:23 จากคุณ : ตึ๋งนิวเครียร์ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 02:39:20

ความคิดเห็นที่ 54   มนุษย์ต่างดาวส่วนใหญ่ เชื่อในกฏของจักรวาล ไม่แบ่งแยกวืทยาศาสตร์กับศาสนา  และมีความเชื่อว่ากฏของจักรวาลคือพระผู้สร้าง--อ่านได้ที่บล็อกผม จากคุณ : jesdath เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 07:10:08

ความคิดเห็นที่ 55   อ่านสำนวนการเขียน ของ ดร.คนนี้ดูแล้ว รู้สึกไม่น่าอ่านเลยครับ........... มีการใช้วาจา กระทบกระเทียบ , เสียดสี แบบไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา พี่แกก็แถเอาไปเกี่ยวกันจนได้ สงสัยว่าพี่แก คงจะไม่ชอบพุทธศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมีโอกาสเขียนบทความ พี่แกก็เลยด่ากระทบศาสนาซะเลย ...เฮ้อ...!! แล้วข้อความที่เขียนก็รู้สึกว่า ขณะเขียนจิตใจต้องกำลังไม่สงบ ไม่มีสมาธิ จิตใจกำลังคุกรุ่นด้วยความเคียดแค้นอะไรบางอย่าง ผมไม่ได้แกล้งว่านะ .....ใครลองอ่านบทความแกแบบดีๆ สิครับ ..... จะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ การเขียนบทความด่าว่าคนอื่น โดยที่ตนเองก็ยังไม่มีหลักฐานมายืนยันคำพูดของตนเองแบบนี้ ไม่สมควรเลยนะครับ ดร.เทพนม แกเคยเขียนบทความไปด่าใครที่ไหน ?  ใครเคยเห็นหรือเปล่า ? ช่วยบอกหน่อย ดร.ที่ไม่มีคุณธรรม  จะต่างอะไรกับโจรร้ายขี่ยานอวกาศ ติดขีปนาวุธ ...? แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 10:47:27 จากคุณ : SuperMox เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 10:43:10

ความคิดเห็นที่ 56   ผมก็เชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงครับ แต่ ข้อมูลหลอกๆมีเยอะกว่า เลยทำให้บางข้อมูลถูกทำให้หมดความเชื่อถือไปด้วย แต่ที่มนุษย์ต่างดาวไม่ได้ติดต่อโดยตรงกับมนุษย์ หรืออาจติดต่อในทางลับๆแล้วก็ได้ เพราะ ใน100ปีอาจจะมีการติดต่อจริงๆเพียงครั้งสองครั้งเองก็ได้ เนื่องจากการเดินทางที่ใช้เวลาหลายร้อยปีแสงกว่าจะมาถึง หมดอายุขัยพอดีกว่าจะมาถึง และคิดว่าไม่ได้เป็นรูปแบบที่เห็นๆกันอยู่ พวกหัวโตตาโปนอะไรแบบนี้หรอก ส่วนที่ ดร.เทพพนม นั่นน่ะ ผมว่าแกเพี๊ยนๆ เชื่อถือไม่ได้เลย จำได้ว่าแกบอกจะไปซื้อที่สูงๆแถวเชียงราย เพราะมนุษย์ต่างดาวมาเตือนว่า น้ำจะท่วมกรุงเทพจนถึงภาคกลางทั้งหมด แกก็ไปชวนญาติเพื่อนผมไปซื้อด้วย สงสัยจะทำบ้านพักตากอากาศซะมากกว่า555 นี่ผ่านมาหลายปีแล้วจากที่ทำนาย ก็ไม่เห็นท่วมซ๊ากกที เห็นแต่ทะเลาะๆแบ่งสีกันอยู่เนี่ยแหละ.... จากคุณ : antonio_o เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 12:55:08

ความคิดเห็นที่ 57   #47 ถูกแล้วค่ะ เรื่องนี้ อยู่ในหนังสือชื่อ "ปลาที่ว่ายน้ำในสนามฟุตบอล"   หนังสือเล่มนี้เป็นการตั้งคำถามเชิงปรัชญา มีแนวคิดทั้งวิทยาศาตร์และศาสนา *ส่วนตัวเป็นแฟนคลับลุงวินทร์ และติดตามกระทู้ของ Mr.Terran ด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : LoOkPlA3*12 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 13:21:44

ความคิดเห็นที่ 58   เฉยๆ ส่วนตัวไม่รู้สิเรื่องแบบนี้อ่านไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะบทความ + การรวบรวมของ Mr.Terran ติดตามมาตลอดส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาว.... อยากพบมนุษย์ต่างดาวมากก็..................... ไปหยิบ Star Trek ขึ้นมาดูซะ จากคุณ : citrus_tree เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 14:42:35

ความคิดเห็นที่ 59   คนจะไม่เชื่อ เค้าก็หาเหตุผลที่ ไม่เชื่อได้เสมอ แหละคับ เฉกเช่นเดียวกับคนที่เชื่อ เค้าก็สามารถหาเหตุผลที่เชื่อได้ เช่นกัน ไม่มีไรถูกไรผิด เช่นเดียวกับ เราไม่รู้จักไฟฟ้า เมื่อ ยุคหิน   ธรรมชาติมีไรที่เราไม่รู้อีกเยอะแยะ อย่าใช้ความรู้ที่เรามี ใน"แค่ปัจจุบัน"มาตัดสินขอบเขตของความคิดเลยครับ ปล่อยไปสบายๆ มานั่งคิดเรื่องทำความดี ยังจะมีประโยชน์กว่า เหมือนที่พระพุทธเจ้าเคยบอกไว้ว่า เรื่องนี้รู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร มันเป็นเพียงความรู้เท่ากับ ใบไม้1 ใบ ของต้นไม้ใหญ่ และโลกนี้มีต้นไม้กี่ต้นอ่ะคับ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 16:14:59 จากคุณ : Thuchy เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 16:07:12

ความคิดเห็นที่ 60   เป็นอะไรกันมากมั้ยว่างๆก็กินยากันบ้างนะเก่งกันจังคนหว้ากอ จากคุณ : นะ (จำใจทนมันไป) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 21:24:54

ความคิดเห็นที่ 61   ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 23:40:42

ความคิดเห็นที่ 62   ความคิดเห็นที่ 50     มีความเป็นไปได้มั้ยครับที่มนุษย์ต่างดาวก็คือ...คนในอนาคตที่ขับ Time Machine มาดูอดีต... สงสัยครับ จากคุณ : hoho   ---------------------------------- เป็นไปไม่ได้เลยครับ Time Machine สามารถย้อนไปไกลสุดได้แค่วันที่มีมันในโลกครั้งแรก ถ้ามันสามารถสร้างได้จริงๆนะ จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 23:39:52

ความคิดเห็นที่ 63   วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ มองได้มุมแคบมากๆเลย รางวัลซีไรต์ คงไม่ได้จากการเขียนเรื่องนี้หรอกนะครับ จากคุณ : Deadhunt เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 01:11:37

ความคิดเห็นที่ 64   เราเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง ไม่รู้ทำไมถึงเชื่อแบบนี้ เป็นความเชื่อที่มีมาแต่เด็กๆ แล้ว จำได้ตอนอายุประมาณสิบขวบ กลางคืน ชอบมองที่ท้องฟ้า บางคืนนั่งมองเป็นชั่วโมงๆ เลย มองเพราะเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง มองเผื่อจะฟลุ๊กเห็นจานบินของพวกเขา โลกยังมีพวกเราได้ ในกาแลคซี่ก็ต้องมีแบบพวกเราได้เหมือนกัน ตอนนี้ก็เลยยังเชื่ออยู่เช่นเดิมว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง :-) จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 11:25:51

ความคิดเห็นที่ 65   ตราบใดที่ดาวทุกดวงบนท้องฟ้ายังไม่ถูกสำรวจ ผมว่ายังไม่ควรสรุปว่ามนุษย์ต่างดาวไม่มีจริง มนุษย์ต่างดาวอาจจะมีก็ได้แต่อาจมีเหตุผลที่คนเรายังไม่ได้เห็นกันแบบโจ่งแจ้ง อย่างเช่น ระยะทางไกลเกินไป เทคโนโลยีในการเดินทางข้ามจักรวาลอาจะยังไม่ถึง หรือว่ามาถึงแล้วแต่ไม่อยากเปิดเผยตัว เขาคงไม่โง่ขนาดเอา ufo มาจอดลงกลางสยามแล้วลงเดิน shopping หรอกครับ การปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาวมันมีผลกระทบทางสังคม การเมือง การทหารตามมาอีกเยอะ อาจต้องรอให้มนุษย์พร้อมกว่านี้ จากคุณ : Alestir เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 11:39:46 A:24.130.163.100 X: TicketID:161509

ความคิดเห็นที่ 66   ผมว่าถ้ามีการมาจากมนุษยต่างดาว ควรต้องระวังให้ดี เพราะคงไม่มีสิ่งมีชีวิตบ๊อง ๆ แบบไหนที่ลงทุนมหาศาลเพื่อไปยังดาวอันแสนไกล และไม่รู้จัก เสี่ยงอันตรายร้อยแปด เพื่อ มาเที่ยว แหง ๆ เว้นแต่ยานอวกาศจะใช้พลังงานชนิดนี่สามารถโยนทิ้งได้ข้างทาง หรือยาวอวกาศนั้นไม่ได้ใช้พลังงานใด ๆ เลย ต้องดูอีกว่า สิ่งทิ่งมีชีวิตจากต่างดาวนั้นมีลักษณะใกล้เคียงเราหรือไม่ ถ้าไม่ก็เตรียมตัวโดนล้างเผ่าพันธ์ได้เลย(นั่นสิเรายังไม่มีเมตตาอะไรเลยนี่เนอะเวลากินน้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต)  หรือบางทีเขาอาจอนุรักษ์และส่งออกไว้ในสวนสัตว์ ของดาวดาวที่ต้องการผูกมิตรก็ได้นะ กฎของจักรวาล ไม่มีที่ว่างให้ผู้แพ้ ผมเชื่อเช่นนั้น จากคุณ : devil amature2 (devil amature2) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 18:46:12

ความคิดเห็นที่ 67   ลงทะเบียน จากคุณ : pooktoon เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 20:14:53

ความคิดเห็นที่ 68   อยากพูดบ้าง....ตามความคิดของตัวเองนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเกี่ยวกับมนูษย์ต่างดาว และก็อยากเจอมากๆ อิอิ แต่ก็ไม่ได้เพี๊ยน แค่เก็บไว้ในใจ ผมว่าที่มนุษย์ต่างดาวอยากมาที่โลก หรือเลือกมาที่โลก  ผมเขาไม่ได้เลือกมาหรอก เขาคงสำรวจเกี่ยวกับจักรวาลนี้เหมือนกันที่มันใหญ่โตมากเพราะมันเป็นธรรมชาติ  ขนาดมนุษย์เองยังออกสำรวจนอกเลย มันคือธรรมชาติจริงๆ  ธรรมชาติของจักรวาลนี้จริงๆ เขาอาจจะมีเทคโนโลยีที่สูงกว่าเราก็เป็นไปได้ แต่อาจจะไม่ใช่เพราะว่าเขาฉลาดหรือเก่งก็ได้  อาจเป็นเพราะเขาเกิดมาก่อนเรา เขามีอรยธรรมมานานกว่าเรา ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีไปได้ไกลกว่าเรา  อายุของจักรวาล 16,000 ล้านปี  แต่โลกเรามีอายุแค่ 4,700 ล้านปีเท่านั้น และอารยธรรมของเราก็เพิ่งเกิดมาแค่ล้านปี เท่านั้น ส่วนการพัฒนาเทคโนโลยีของเราก็แค่ หลายร้อยปี เท่านั้นเอง ถ้าเทียบกับจักรวาลที่มีอายุมากขนาดนั้น ฉะนั้น มันต้องมีดาวเคราะที่เกิดก่อนเรา และมีสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมมาก่อนเรา ฉะนั้นการพัฒนาไปไกลกว่าเราเยอะ จากคุณ : คนบ้า (vanink) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 16:32:11