PANTIP.COM : X8957526 คุณคิดว่า "โหราศาสตร์" เป็นสาขานึงของวิทยาศาสตร์หรือไม่? [วิทยาศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 7

ถ้ามองในแง่ของการใช้พยากรณ์ ก็ต่างกัน

ในวิทยาศาสตร์ คนเราพยายามเข้าใจความเป็นไปในธรรมชาติ ความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ความเป็นเหตุเป็นผล เมื่อเราเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งต่างๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงของสิ่งหนึ่งเป็นต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงของสิ่งหนึ่ง เราก็สามารถใช้ทำนายหรือพยากรณ์สิ่งต่างๆ ว่าจะเกิดได้อย่างไร ในสภาวะไหน

ยกตัวอย่างเช่น แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ต่างๆ ที่เราต้องใส่ตัวแปรต้นเข้าไปสารพัดสารพัน ตามแต่เราค้นพบว่าเป็นต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรตาม ยิ่งใส่มากและละเอียดก็ยิ่งมีความแม่นยำสูง เราก็ใช้ทำนายปรากฎการณ์ต่างๆ ที่มีประโยชน์ได้ เช่น ทำนายภูมิอากาศโดยอาศัยข้อมูลประกอบ รวมทั้งการสอบเทียบและหาสิ่งแสดงความสัมพันธ์จากปรากฎการณ์จริงในอดีต

พูดง่าย บรรดาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์นั้นทำนายปรากฎการณ์ที่จะเกิดในอนาคตโดยอาศัยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต โดยอาศัยความสัมพันธ์ในสองรูปแบบคือ 1)ทราบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอย่างชัดเจน ก็สร้างสมการละเอียดได้ หรือ 2) ไม่ทราบความสัมพันธ์ที่ชัดเจน แต่มีหลักฐานหนักแน่นสนับสนุนว่ามันมีอิทธิพลต่อกัน ก็จะใช้แบบจำลองในลักษณะกล่องดำ (black box model)

ส่วนโหราศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ใช้ทำนายอนาคต โดยใช้ตัวแปรต้นในอีกชุดหนึ่ง (ต่างจากวิทยาศาสตร์) ที่ไม่สามารถหาเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่เป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก ว่าตัวแปรต้นนี้มีอิทธิพลต่อตัวแปรตาม โดยโหราศาสตร์นั้นไม่ได้ใช้วิธีการวิเคราะห์ความสัมพันธ์หรือค้นหาความจริงว่า ตัวแปรต้นนั้นมีอิทธิพลต่อตัวแปรตามอย่างไร แต่โหราศาสตร์ใช้สถิติในอดีต หรือข้อมูลในอดีตที่บันทึกไว้ บอกเล่ากันต่อมา หรืออะไรก็แล้วแต่ ในการสร้างความสัมพันธ์ในการเชื่อมโยงระหว่างตัวแปรสองตัวแปรเข้าด้วยกัน

เช่น ปีไหนฝนแล้ง ปีนั้นจะมีผู้มีบุญมาเกิดทางทิศตะวันตก (ฝนแล้ง = ตัวแปรต้น และ ผู้มีบุญมาเกิดทางทิศตะวันตก = ตัวแปรตาม)

ซึ่งจากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าความสัมพันธ์ข้างต้นมันอาจเกิดขึ้นจริง (อาจเพียงไม่กี่ครั้ง แต่มันเป็นที่โจษจัน) คนหลายๆ คนก็เชื่อว่ามันมีความสัมพันธ์ตามนั้นจริง

หรือ คนเกิดปีไก่จะชงกับคนเกิดปีหนู

ซึ่งจากสถติโบราณ มันก็อาจจะเป็นดังนั้นจริง (แต่ไม่รู้กี่เปอร์เซ็นต์) คนหลายๆ คนก็เชื่อความสัมพันธ์ตามนั้น

รวมไปถึงการผูกดวงต่างๆ โดยอาศัยข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงในอดีตที่คนโบราณได้สังเกตสังกาไว้ เป็นหลักหรือข้อมูลหลักในความพยายามที่จะทำนายอนาคต

แต่จะว่าไป การสังเกตสังกาของคนโบราณหลายๆ อย่าง ซึ่งสมัยก่อนนั้นหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ (พิสูจน์ได้) มาอธิบายไม่ได้ แต่มาสมัยนี้ เราเริ่มทราบแล้วว่า ปรากฎการณ์หลายๆ อย่างนั้น มันอยู่นอกเหนือความสามารถหรือประสาทสัมผัสของมนุษย์ที่จะพิสูจน์ทราบ (probe) ได้

ตัวอย่างง่าย การที่สัตว์อพยพหนีภัยหรือส่งสัญญาณเตือนเมื่อจะมีภัยพิบัติ มดทราบได้อย่างไรว่าฝนจะตก (ความชื้น ?) ตอนเกิดซึนามิ มีสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านริมทะเลทุรนทุรายอยู่ไม่สุข สัตว์เหล่านี้ทราบได้อย่างไรว่าจะเกิดคลื่นยักษ์

ข้อสรุปสุดท้าย เราเชื่อวิทยาศาสตร์เพราะมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ทราบได้จาก "ประสาทสัมผัส" ของคนเรา อะไรที่เราพิสูจน์ทราบไม่ได้ อาจเพราะว่ามันไม่มีเหตุผลจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะ "ประสาทสัมผัส" ของคนเราหยาบกร้านเกินกว่าจะรับรู้ได้ เราก็ไม่เชื่อว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์

โลกของเรา เป็นเพียงดาวดวงเดียวในจักรวาลอันใหญ่โพ้น ตอนดึกๆ ลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็จะเห็นดาวเป็นล้านๆ ดวง นับไม่หวาดไม่ไหว โลกเราเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก เรายังศึกษากันได้เท่าซีกกระผีก ประสาอะไรกับดาวอื่นๆ อีกเป็นล้านๆ ดวงในจักรวาลนั่น

สิ่งที่คนเราไม่รู้นั้นมีมโหฬารมากมายกว่าสิ่งที่เรารู้มากนัก

ที่บรรยายมา ไม่ได้หมายความว่าให้เชื่อโหราศาสตร์มากกว่าหรือเชื่อเหมือนกับวิทยาศาสตร์ เพียงแค่อยากบอกเล่าว่าในการพิจารณาเรื่องราวที่มาที่ไปอะไร อย่าตัดความน่าจะเป็นในสิ่งอื่นที่เราไม่รู้หรือไม่เคยรับรู้มาก่อน พึงทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วที่เปิดโสตประสาทพร้อมรับรู้ในสิ่งอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน

แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 53 20:00:40

จากคุณ : vandyman

เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 19:34:56