PANTIP.COM : X8957937 ดูหนัง หรือ anime ใช้สมองมากกว่ากัน []

ความคิดเห็นที่ 8

ในทางการทฤษฏีสื่อสารแล้ว ไม่ต่างกันครับ แต่ถ้าจะอธิบายว่าไม่ต่างกันอย่างไร
ต้องทำความเข้าใจกับแนวคิดเรื่อง Semiology ก่อนครับ

เนื้อหาของแนวคิดนี้คือ เมื่อเราเห็นภาพตัวแทนของไก่ (ตัวหนังสือเขียนว่า "ไก่" ภาพวาดไก่หรือรูปถ่ายของไก่)
ในหัวเราจะโยงไปถึง "ไก่" ที่เป้นตัวไก่มีชีวิตจริงๆ ครับ

ดังนั้นแม้ภาพตัวแทนจะเปลี่ยนไป เช่นฝรั่งเห็นตัวหนังสือว่า "Chicken" แต่คนไทยเห็นคำว่า "ไก่"
ในหัวของทั้งสองก็จะโยงไปหาไก่ตัวเป็นๆ เหมือนกัน
ใช้พลังสมองในการเชื่อมโยงไปหาของจริงเท่ากัน

วกกลับมาดูคำถามของจขกท. ที่ผมตอบว่าเท่ากันก็เพราะทั้งหนังและอนิเม
ต่างก็เป็นภาพตัวแทนที่ทำให้คนคิดเกี่ยวโยงไปถึงของจริง (แต่มันไม่ใช่ของจริง) เหมือนกัน
ถ้าเราสามารถเห็นภาพตัวแทนเหล่านั้นแล้วสร้างความเชื่อมโยงไปหาของจริงได้
ระหว่างดู สมองย่อมทำงานเท่ากันครับ

บางท่านอาจจะแย้งว่าอนิเมมันเป็นภาพตัวแทนที่ไม่เหมือนของจริง เราก็ต้องใช้สมองมากกว่าสิ
ขอบอกอย่างนี้ครับว่า การสร้างความเชื่อมโยงนั้นมันอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้ ซึ่งในส่วนนี้ภาพยนตร์เรียนรู้ง่ายกว่าอนิเมจริง
แต่ถ้าเราเรียนรู้มันจนสามารถเห็นภาพตัวแทนแล้วเข้าใจได้ หลังจากนั้นเราก็ไม่ต้องใช้สมองทำความเข้าใจเพิ่มแล้วครับ
(ซึ่งถ้าเรียนรู้ไม่ได้ก็ดูไม่เข้าใจไปเลยครับ ไม่ต่างจากการเห็นภาษาต่างชาติที่เราไม่รู้จัก)

กรณีนี้ผมอนุมานว่าจขกท.ถามในกรณีที่ดูทั้งหนังและอนิเมเป็นแล้ว เห็นภาพหนังหรืออนิเมแล้วโยงถึงของจริงได้ ผ่านขั้นตอนการเรียนรู้มาแล้ว ดังนั้นเวลาดูจึงใช้สมองเท่ากันครับ
(แต่ถ้าเติมคำถามลงไปว่า "ในการดูครั้งแรกนั้น" ก็ต้องตอบว่าอนิเมใช้สมองในการเรียนรู้มากกว่าครับ)

ป.ล.ส่วนที่คห. อื่นๆ ตอบมาว่าต่างนั้น น่าจะเป็นเรื่องการใช้สัญลักษณ์พิเศษสื่อความหมายมากกว่าครับ แต่ละเรื่องจะใช้ไม่เท่ากัน และหลังๆ อนิเมใช้เยอะมาก ทำให้ต้องดูไปตีความไปเยอะกว่า แต่ในเมื่อจขกท.บอกว่า "ถ้าเป็นเรื่องเดียวกัน" ประเด็นสัญลักษณ์พิเศษจึงไม่เกี่ยวข้องครับ
แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 01:18:04
แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 01:16:26
แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 53 01:15:42

จากคุณ : Neopunx

เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 01:14:36