ความคิดเห็นที่ 1 ธนู ของกองทัพเจงกิสข่าน ไม่ได้ ตีจากแร่เหล็ก....ดำ เหมือนกระบี่ดำของเอี้ยกว้ย ไม่ได้ ตีจากเหล็กน้ำพี้ หรือเหล็กไหล จากบ้านเรา ไม่ได้ตีจาก แร่อัลลิฮาโลกอห์น เหมือนอย่าง ดราก้อนเควส ไม่ได้ตีจากแร่ มิสทริล จากเมืองคนแคระ แต่ ตีจากแร่เหล็กธรรมดา... ที่หาได้จากทั่วไป แต่กรรมวิธี ที่ตี นี่สิ แปลกกว่าที่อื่น(จากบันทักประวัติชาวมองโกล) นั่นคือ ตีเหล็กแล้วไปแช่....ใน น้ำเกลือ.... ขณะที่ประเทศอื่นเมื่อตีแล้ว จะแช่ในน้ำธรรมดา จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:27:49

ความคิดเห็นที่ 2 ปาดก่อน จากคุณ : อินทรีย์ผยอง เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:31:37

ความคิดเห็นที่ 3 จากกระบวนการ ตีหัวธนู ด้วยเหล็กร้อน (ไม่รู้ ชนชาติใดสอน) แล้ว นำไปแช่ในน้ำเกลือ ทำให้ หัวธนู นั้นจึง แข็งเป็นพิเศษ กว่า หัวธนู ทั่วไปในยุคนั้น ด้วยความที่แข็งมากๆ  รวมกับ คันศรที่ถูกตึงด้วยเอ็นของวัว และม้า (วัวและม้าแถวนั้น คงเหนียวเป็นพิเศษมั้ง) ทำให้ เมื่อ ยิงธนูแต่ละครั้ง จึงไปได้ไกล... รวมทั้งเร็วมาก มีคนคาดการณ์ไว้ว่า ธนู ที่ยิ่งจากกองทัพม้า นั้น.... เร็วเท่าๆกับปืนเล็ก ในสมัยปัจจุบัน(โอ้ว) นอกจาก  การยิงธนู... ที่ทั้งเร็ว ทั้งแรง และไปได้ไกล กว่าชาวบ้าน แล้ว(โกงสุดๆ) การยิงธนู แต่ละครั้ง...ของทหารมองโกล  สามารถ ยิงดอกต่อไป ได้ในช่วงไม่กี่วินาที แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 22:46:20 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:39:45

ความคิดเห็นที่ 4 ธนูเค็มจนกัดเกราะทะลุ O_o' เคยได้ยินว่าเป็นเพราะยิงบนหลังม้าด้วย อาศัยแรงม้า + แรงธนู จากคุณ : ดีจ้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:40:25

ความคิดเห็นที่ 5 //แอบมาอ่าน จากคุณ : katasaro เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:41:04

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจาก การโกง....กันสุดๆ ไม่ว่าจ ธนูเจาะเกราะ....แบบพิเศษ ยิงเร็วเท่าลูกปืน ยิงไกลกว่าธนูทั่วไป สามารถสับดอก เพื่อยิงอี่กครั้งในชั่วสองสามวินาที แล้ว กองทัพม้าปีศาจมองโกล ยังมี ลูกเล่นสุุดยอด อีกครั้ง คือ เทคนิคการ ยิงบนหลังม้า... กองทัพม้ามองโกล ทหารมองโกลจะถูกสอนให้ ไม่ว่า จะ  ยิง ทาง ซ้าย ยิงทางขวา หันหน้ายิง หันหลังยิง.... หรือกระทั่ง  เอียงตัวไปกอดม้าข้างๆแล้วยิง อัตรา ความแม่น ของ ธนู ต่อเป้าหมาย ของทหารม้ามองโกล เมื่อเทียบกับกองทัพ ประเทศอื่นๆ ขนาดนั้น [:จากคุณ Amon: อาวุธสำคัญที่มองโกลใช้นอกจากม้าก็คืออาวุธง่าย ๆ อย่างธนูคับ ธนูที่ มองโกลใช้ เรียกว่า Composite Bow ทำขึ้นจากเขาสัตว์ เอ็นสัตว์ กับไม้ผสมเข้าด้วยกัน ต่างจาก Longbow ที่ใช้เฉพาะไม้ ธนูแบบมองโกลนี้ ใช้แรงง้างน้อยกว่าครึ่งของธนูไม้ ขนาดเล็กกว่ามาก แต่ให้พลังรุนแรงกว่า นับเป็นสุดยอดภูมิปัญญา อีกอย่างนึงคือ มองโกลจะมีวิธียิงธนูแบบพิเศษ ซึ่งผู้เชียวชาญล้วนยอมรับกันว่าเป็นท่ายิงที่แม่นยำที่สุดในโลกด้วย แต่ก็ฝึกยากที่สุด วิธีการจับออกจะอธิบายยากนิดหน่อย เลยเอารูปมาให้ดูกันน่าจะดีกว่า ] ทั้ง 3 แบบนี้คือวิธียิงธนูที่นิยมที่สุดแล้ว อัตราแม่น ชนะขาดลอย (โกงโคดๆๆ) นี่เป็นอีกสาเหตุที่ ทำไม.... ทหารมองโกล ถึงแข็งแกร่ง และน่ากลัวกว่า กองทัพทหารประเทศอื่นๆในยุคเดียวกันอย่างขาดลอย การยิงธนู โดยการ หันหลัง เอียเตียง ดริฟซ้ายขวา  หรือลงไปกอดข้างๆตัวม้าแล้วยิงธนู ยังกลายเป็น กีฬาประจำชาติของ ชนชาติมองโกล ในปัจจจุบัน แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 10:17:29 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:45:47

ความคิดเห็นที่ 7 ยังๆๆๆ อย่าคิดว่า มีดี แค่ ธนู.... เท่านั้น อีกหนึ่ง ที่ ทหาร มองโกล มีพิเศษ ใส่ไข่ กว่าใครคือ "มวยปล้ำ" มวยปล้ำ ที่ เด็กยันแก่ ของมองโกล ในยุคนั้น คือ มวยปล้ำที่ เอากันถึงตา มวยปล้ำ จะถูกสอนให้ตั้งแต่เด็ก การปล้ำแต่ละครั้งนั้น จะเน้น จับหัก บิด...จุดตาย ต่างๆ... สามารถที่จะฆ่าคนด้วยมือเปล่าได้อย่างรวดเร็วและฉับไว.... ดังนั้น ถ้าคิด ว่า ทหารมองโกล ธนูหมดแล้ว จะจิ๊บจ๊อย (ไม่เคยได้ยินว่ามองโกลมีเพลงดาบหรีือกระบี่สะท้านภพ)   ขอโทษ... สู้ตัวๆ กับทหารมองโกล แบบไม่มีอาวุํธ จะโดยจับฆ่าในไม่กี่วินาที *มวยปล้ำเป็นกีฬาประจำชาติของมองโกล ที่ถูกบรรจุในกีฬาโอลิมปิก ไม่ใช่มวยปล้ำที่บรรจุในตู้ทีวีของ America* ไม่ต้องไปฝึกกำลังภายใน วิชาึเก้าอิมจิน เก้าเอียง ดรรชนีสุริยัน ...มือเปล่านี่หละจับหักบิด...ปุํ๊บ หลับสบาย... จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:53:32

ความคิดเห็นที่ 8 ูู ^ ^ เรน ชัดๆ จากคุณ : มู้ดดี้ แม้ดอาย เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 22:57:12

ความคิดเห็นที่ 9 ทหารมองโกล นอกจาก มีฝีมือ การขี่ม้า ยิงธนู มวยปล้ำ.... ครบสูตรแล้ว ยังมี ยุทธวิธี การเข้าโอบล้อมตี ที่ไม่เหมือนใคร (เขาว่ามา) นั่นคือ ประทัด ควัน(คิดค้นจากเมืองจีน) ทหารมองโกล จะติดระเบิดควัน ไว้กับตัว เมื่อยามที่เจอ กองท้พฝ่ายตรงข้าม ที่มีกำลังมากกว่ามากๆๆๆ เข้าตี กองทัพม้ามองโกล จะทำการปล่อยควัน แล้ว ควบม้าทำเป็นหนี เมื่อกองทัพฝ่ายตรงข้ามได้ใจ ก็จะ บุกเข้าหา เพราะว่าเชื่อว่า กองทัำพ ที่มากกว่าเป็น สิบเท่า จะบดขยี้ ได้ คิดผิด เมื่อฝ่ากองควันไป สิ่งที่รออยู่ คือ กองธนู ของกองทัพเจงกิสข่าน.... ธนูบิน...มิดพลาดเป้า กองทหารเกราะหนัก(ยุโรปในสมั้ยนั้น ชอบใส่เกราะหนักๆ ใหญ่้ๆหนาๆ แต่เคลื่อนพลลำบาก)   ก็ถูก ธนูชุด พุ่งเข้าหา เจาะเกราะทะลุไม่เหลือ มาเป็นหมื่น กลับไปเป็นสิบ... ขณะที่ ทหารม้ามองโกล กลับแทบไม่เสียไพร่พล ยั้งกับใช้ Action Replay นอกจาก นี้ ระดับหัวหน้าทัพมองโกล จัดว่าเป็น นักแม่นธนูชั้นต้นๆ จะชอบ สอย พวกแม่ทัพนายกอง กองทัำพฝ่ายตรงข้ามเป็นพิเศษ ในสงคราม ยึดตี ฮังการี.... ออสเตรีย และประเทศ ในแถบยุโรป เหล่า บรรดา เคาท์... ลอร์ด  ราชวงส์ ในดินแดนต่างๆ ก็ต่างตายด้วย ห่าธนูของ มองโกลมากมาย จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:04:33

ความคิดเห็นที่ 10   ใน คห 9 ธงรูปอะไรน่ะ จากคุณ : devil amature2 (devil amature2) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:09:26

ความคิดเห็นที่ 11 ยังมี ที่ประหลาดกว่านี้ ทหารมองโกล ชอบเคลื่อนทัพ โจมตี ตอน ฤดูหนาว!!!!! เป็นเรื่องที่แปลก  ฤดูหนาว ประเทศอื่นๆ จะยกเลิกการโจมตี เลิกทำสงคราม(เพราะสเบียงหมด)    นอกจาก หิมะที่หนาวเย็นมากๆๆๆๆๆ เดินทางลำบาก  อาหารการกินก็หายาก แต่ทหารมองโกลชอบครับ ชอบที่จะโจมตีเอามัน ช่วงฤดูหนาวนี่หละ ทหารยุโรป เจอช่วงหน้าหน้า อารมณ์จะรบก็ไม่มี เกราะก็เย็นราวน้ำแข็ง(มองโกลใช้เกราะหนังกันเยอะครับกันหนาวดี)  จะขยับตัวก็ลำบาก เจอ มองโกล ขนมาที.... เละครับ กองทัพครูเสด ที่แน่ๆ เจอมองโกล นี่.... กลายเป็นเด็กไปเลย จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:10:08

ความคิดเห็นที่ 12 ต่อครับ จากคุณ : burns_za เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:11:06

ความคิดเห็นที่ 13 แวะมาดูค่ะ จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:12:01

ความคิดเห็นที่ 14 สูตรลับ ก้นครัว ของทหารมองโกล อยู่ที่ สองสิ่ง คือ เนื้อแห้ง ....นึกไม่ออก ก็ เนื้อแดดเดียว บ้านเรานั่นแหละครับ เนื้อแห้ง มีทั้งเนื้อ วัว เนื้อแพะ....ถ้าหาไม่ได้ก็ เนื้อม้า..นี่หละครับ อีกเมนู หนึ่ง ที่ฮิต ...ติดทุกครัว   เอ้ยติดตัว ทหารมองโกล ทุกคนคือ นมเปรี้ยวววววว หรือ โยเกริต์   ที่เรากินกันนั่นแหละครับ ไม่รู้ว่า บัลแกเลียยี่ห้อดัชมิลล์ หรือ มองโกล ที่เริ่มก่อน แต่ เครื่องดื่มชูกำลัง อย่างดี ของทหารมองโกล ก็คือ นมเปรี้ยว นมบูดผสม L กอ ฮอ หมัก  นี่หละครับ พกพาไปใหนได้เป็นเดือนๆๆๆ...... จะร้อนจะหนาว พกใส่ถุงหนังแพะ....แกะกินได้ตามใจ ชอบ.... จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:16:17

ความคิดเห็นที่ 15 คห.๙ Isle of Man มั้งครับ แคว้นนึงของอังกฤษ เป็นเกาะเล็กๆ ~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:16:31

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าอดหยาก ไม่มีกิน ทหารมองโกล ก็เชือดม้า...กิน ครับ(จริงๆ กองทัพม้า ก็จะเป็นแบบนี้) แต่ ทหารมองโกล นี่ มีแทกติก กรณี ยังไม่หิวเต็มที่ พี่แกจะเชือดคอม้าเป็นแผลเล็กๆๆ...แล้วดูด เลือดม้า... แทนเครื่องดื่มชูกำลัง (ม้าไม่ตาย) แล้วจะรีบปากแผลด้วยสมุนไพรสูตรเฉพาะของมองโกล... เกิดเป็นม้า มองโกล นนี่..... แสนลำบาก ขี่ตรู วิ่งเป็นพันกิโล  อดหยากก็ดูดเลือดกรู.... ข้าวปลาไม่มี ก็เชือดกรูทำบาร์บิคิว อีก .... จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:21:13

ความคิดเห็นที่ 17   เกราะของมองโกลทำจากหนังแช่เยี่ยวตัวเองแล้วตากให้แห้ง แข็งแกร่งทนทาน การจัดทัพม้า จัดเป็นหมู่ละ 10 คุมกันดี แล้วแบ่งเป็นเป็นกองธงคล้ายทหารปัจจุบัน แถมยังสนใจเทคโนโลยีอาวุธ มีเครื่องยิงหิน ปืนใหญ่ มีการยิงศพอะไรอย่างนี้มั้ง (เคยอ่านว่างั้น) จากคุณ : ประมาณนั้น เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:26:25 A:58.8.108.6 X: TicketID:065895

ความคิดเห็นที่ 18 เรทท จากคุณ : varitpum2 เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:27:00

ความคิดเห็นที่ 19 นอกจาก ที่ ทหาร มองโกล จะ มี ธนู เจาะเกราะ   แม่นเร็ว..ไกล แถม เอียงตัวซ้ายขวาหลังยิงได้ ระเบิดไฟ ระเบิดควัน <<--- ได้มาจาก ประเทศจีน ม้าวิ่งเร็วอึดทนเป็นพิเศษ(ม้าที่นี่ผสมายพันธุ์กับม้าโลหิต แบบม้าเซกซ์เทาว์) <<--- ในมังกรหยกก็มีพูดถึง มวยปล้ำ <<--- ปล้ำกันตาย กองทัพมองโกล...ยัง มี พิชัยสงคราม ทมิฬ อีกชุด(ไม่รู้ใครสอน) เวลาไปรบ บ้านใคร จะเอาเชลย ประเทศเดียวกัน นำหน้า... ไม่ว่า จะเป็น คนแก่ เด็ก สตรี   และเจ้าเมือง  เป็นกำแพงมนุษย์ เดินนำหน้ากองทัพ เล่นแบบนี้ ทหารอีกฝ่ายยง่อยเปลี้ยไปเลย พี่แกเล่นแผนนี้ เอาบ่อยๆ ...และประสบความสำเร็จด้วยดีทุกครั้ง (แต่ถ้าใครจับทหาร มองโกล...มาเล่นกำแพงมนุษย์บ้าง ทางมองโกลบอกว่า จะถือว่า ไม่ยอมแพ้ ถ้าเข้าตีเมืองเมื่อไหร่.... จะฆ่าหมดทั้งเมือง... ทำนองกรูทำได้ คนอื่น ทำบ่อได้) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:29:42

ความคิดเห็นที่ 20 เอ๊ะ การแช่น้ำเกลือนี่มันทำให้เกิดโครงสร้างอะไรซักอย่างหรือป่าวครับ คุ้นๆในวิชาวัสดุ จำไม่ได้หล่ะ จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:34:46

ความคิดเห็นที่ 21 อีกสูตร ที่ มองโกล ชอบทำ คือ เครื่องยิงทิ้งทุ่นระเบิด แต่ มองโกล จะสับเปลี่ยน จาก หิน ...ถังน้ำมัน ถังระเบิด  แล้วก็ รวมทั้ง ศพ และ...คนเป็นๆ.... (คนในเมือง) โหด เข้าขั้น ศพ หรือ คนที่ถูกเครื่องทุ่นเข้ามา มักจะเป็น พวก ติดโรคระบาดใกล้ตาย และตายแล้ว โยนเข้าไปทีไม่ได้ หลักสิบ เป็นหลักร้อยหลักพันเลยครับ หลายเมือง นอกจาก จะอดตาย แล้ว ยังเจอโรคระบาด อีกต่างหาก มีรายงาน ว่า โยน ขี้....เข้าไปด้วย สูตรเดียวกับ คนประเทศแถวนี้ เลยแฮะ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 23:39:48 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:38:08

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆแล้ว เจงกิสข่าน ไม่ได้คิดจะ ตีไปถึง ยุโรปแต่แรก (หลักๆต้องการจะยึดครอง จงหยวน หรือ เมืองจีนตอนใต้มากกว่า) การตียุโรป นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน แต่เหตุการณ์ที่กลายเป็น  ความโง่หน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ เมื่อเจงกิสข่าน ส่งทูต และพ่อค้า มองโกล ไป อาณาจักร อาหรับ (เมืองหลวงชื่อ ซามาเหอคาน อยู่แถบ อัฟกานิสถาน) กลับถูกเจ้าเมืองที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของ จักรพรรดิ์อาหรับ ละโมบ ป้ายสีว่าพ่อค้าเป็นสายลับ(อาจจะเป็นจริงก็ได้ ) แล้ว ตัดหัว บรรดาทูต ทั้งหมด ส่งกลับมา เจงกิสข่าน เจอแบบนี้ ถือว่าประกาศสงคราม จึงระดม กองทัพ ทั้ง แดงสยาม เอ้ย ... มองโกล  จีน แขก.... กว่า สองแสน แล้ว ยกทัพจาก มองโกล ไปถึง ...อัฟกานิสถาน จนถึง อิรัก อิหร่าน(เดินโคดไกล) จัดเป็นการเดินทัพที่ไกล กว่า อเลกซานเดอร์ เคยทำไว้ การเดินทัพของเจงกิสข่าน เป็นอะไร ที่ มหัศจรรย์มาก (ดูแผนที่ก็รูว่าไกล) จักรพรรดิ์ ของ จักรวรรดิอาหรับ .."มูฮัมหมัด ชาร์"   เมื่อรู้ ว่าเจงกิสข่านจะยกทัพมา ก็วางแผนว่า คงมาถึง ภายใน  2 ปี... จึงเตรียมการ ว่า 2 ปี จะยกพลไป โต้ตอบ แต่ปรากฏว่า เจงกิสข่าน กลับยกทัพมาถึง ภายใน ไม่ถึง 1 ปี!!!! ตรงนี้หละครับ ที่ บรรลัย... แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 00:12:30 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:51:13

ความคิดเห็นที่ 23 กำลังมันเลย ต่อๆ จากคุณ : sunsy เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:51:32

ความคิดเห็นที่ 24 ปาดดดดด จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 23:58:26

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ กองทัพอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร ของตะวันตก(แขก) กับ ตะวันออก ของมองโกลมาเจอกัน ..... ตามกำหนดการ กองทัพอาหรับ นั้นได้เปรียบทุกอย่าง ไม่ว่า จะกองพลที่มากกว่า 3-4 เท่า พื้นที่ ในบ้านตัวเอง ที่ดีกว่า แถม เมื่อ มองโกล มาถึง ก็มาแบบเหน็ดเหนื่อย... เมื่อยล้า ตรงนี้หละครับ เป็นการตัดสินใจผิดพลาดอย่างรุนแรง ของกองทัำพฝ่ายอาหรับ... แทนที่จะมาตั้งรับ ที่ปากแม่น้ำ(จำชื่อไม่ได้ครับ) ซึ่ง ว่ากันว่า ถ้าตอนนั้น กองทัพอาหรับ... มาตั้งรอคอยอยู่แล้ว จะสามารถตี เจงกิสข่าน พ่ายแพ้ ย่อยยับ...กลับ กลับไป ตั้งกองทหาร อยู่ในเมือง แว่นแคว้นของตัวเอง (ให้มองโกลกระจายตี แล้วอ่อนกำลัง)ล ทหารมองโกล ระดม ตีทีละเมือง.... แต่ละเมือง ก็ย่อยยับ และพลเมืองถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม.... อณาจักรอันยิ่งใหญ่ ของ อาหรับ ก็ถูก....ทำลายทีละเล็กละน้อย โดยที่กองทัพหลัก กลับไม่ตามไปช่วยเหลือ ต่างฝ่ายต่างรักตัวเอง ไม่คิดจะช่วยเหลือใคร สุดท้ายประเทศชาติก็ เตรียมล้มสลาย สุดท้าย จักรพรรดิ์อาหรับ เชื่อมั่นตัวเองมากไป และไม่คิดถึงชีวิตราษฎร  ที่ครอบครอง ตั้งแต่ ปากีสถาน..อัฟกานิสถาน จรดไปถึง อิีรัก อิหร่าน และ ส่วนหนึ่งของ ซาอุดิอาระเบีย ก็ พ่ายแพ้ และ หนีหัวซุกหัวซุน.... ไป ต่างแดน (คุ้นๆแฮะ) โดยโดนทหารม้ามองโกลไล่ตามตลอดทาง และประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งอันเศร้าสลดของ จ้าวนครอาหรับที่เคยยิ่งใหญ่ ก็ไปตรอมใจเสียชีวิตอย่างอนาถ โดยตาย บนเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง แถบ ทะเลอาหรับ (หลังจากตายแล้วต้องฝังอย่างเงียบๆเพราะกลัว ทหารมองโกลรู้ว่าอยู่ี่ใหน) และ เกาะแห่งนี้ที่เคยฝังศพ ปัจจุบันเกาะแห่งนี้ จมอยู่ใต้ทะเลไปตลอดกาล ปิดฉากอย่างน่าอดสู สำหรับ จักรพรรดิ์ที่เคยยิ่งใหญ่เทียบเท่า เจงกิสข่าน .....ชีวิต แสนเศร้า จะเหมือนคนแถวนี้มั้ย จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:02:30

ความคิดเห็นที่ 26 ต่อๆ จากคุณ : ผียังงง (tumman) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:16:17

ความคิดเห็นที่ 27 เยียมยอดครับ ต่อๆ อยากรู้จังว่าทหารม้าของอาหรับจะสู้ทหารม้ามองโกลได้ไหม จากคุณ : REFRIG เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:16:58

ความคิดเห็นที่ 28 โหวตตตตตตต จากคุณ : Lord BoBo Of Sarkhanland เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:17:35

ความคิดเห็นที่ 29 หลักจาก ศึก สอง จักรพรรดิ์ มูฮัมหมัดชาร์ แห่ง จักรวรรดิ์อาหรับ  และ เจงกิสข่าน จบลง เหมือนจะจบ แต่ไม่จบ สองจอมพลไร้พ่าย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ เจงกิสข่าน จอมพลชีเป เนยอน (อาจารย์ของ ก้วยเจ๋ง มังกรหยกไงจำได้มั้ย)  ซึ่งเป็นนักธนูที่แม่นที่สุดกองทัพ(กิมย้งเลยให้เป็นอาจารย์สอนธนู ก้วยเจ๋ง) และ จอมพลตาเดียว...สุโบไต บาร์ฮาดูร์ ของกำลังพลไม่กี่หมื่น จาก เจงกิสข่าน เพื่อไปยึดตีดินแดนละแวกกใกล้ๆนี้ ตามม ปณิพาน ของเจงกิสข่าน ที่ว่า "จะยึดครองแผ่นดิน ตะวันออก จนตะวันตก จะไม่ให้มี ที่ใหนที่ ม้าของมองโกล ไม่สามารถขี่ไปได้" ว่าแล้ว สามเกลอ เอ้ย สองเกลอ ก็ ยกพลม๊อบมองโกล แยกตัวไป บอกว่าใกล้ๆ แต่ ใครจะเชื่อว่า สองคนนี้ นำกองกำลังไม่กี่หมื่นของมองโกล ตีไปจาก อิรัก..ไปถึง !!!!!!  ออสเตรีย ฮังการี  และ คาบสมุทธ บอลข่าน พี่ท่าน อุดมการณ์แรงกล้าจริงๆ หลังจาก นำกองกำลังอันน้อยนิด ปะทะ กองกำลัง สหภาพยุโรป (มาจากเยอรมัน ออสเตรีย ฮังการี โรมาเนีย และชาวสลาฟแถวบอลข่าน) จาก Action Replay ตามสูตร ทหาม้ามองโกลที่ร่ายยาวมา กองทัพ ยุโรปภพ่ายย่อยยับ (ซ้ายสุดของแผ่นที่ คือ ที่มองโกลยกไปถึง) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:21:55

ความคิดเห็นที่ 30 จริงๆ เดี๋ญวจะ แยก เรื่อง การทำสงคราม ระหว่างทัพเจงกิสข่าน กับ อาณาจักรอาหรับ กับ เจงกิสข่าน และ อาณาจักรยุโรปอีกทีนะครับ เพราะปลีกย่อยเยอะ กลับมาถึง กองทัพอีกสายที่ แยกทัพไปอีกทัพ คือ ทัพของ ลูกชายคนโต "จูชิ" ของเจงกิสข่าน(ว่าที่ข่านคนต่อไป) แยกไปตี เคียฟ ของ ยูเครน และ...มอสโคว์ ของรัสเซ๊ย แน่นอน ครับ ตีแตก แหกกระเจิง (แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าตามมาของลูกชายคนโตของเจงกิสข่านที่ไม่ได้กลับมาที่้บ้านเกิดเมืองนอนอีกและเกือบถูก จับว่าเป๋นกบฏ) หลังจากทะเลาะกับ คนรอง ไอโคโต แล้ว จูชิแยกตัวไปทำสงครามยึดครอง ยูเครน และรัสเซีย แต่  เนื่องจากมีศึกภายในสองพี่น้อง รวมทั้งโดนเนรเทศ และมีข่าวว่า จูชิ  กำลังตั้งตัวเป็นกบฏ ที่ เคียฟและมอสโคว์ เจงกิสข่าน ส่งศาสน์ ให้ จูชิ กลับมา หลายครั้ง แต่ จูชิ อ้างว่า ป่วย และ ที่ปรึกษา ฝ่ายลูกคนรอง ก็ ตั้งข้อหา ว่า กบฏแน่ เจงกิสข่าน จำใจ ต้องยกทัำพใหญ่ อีกครั้งเพื่อ ยกไปตี จูชิ ลูกชายคนโตของตัวเอง แต่ก็ ส่งสาส์น ครั้งสุดท้าย... จูชิ ก็คงไม่กลับมา แต่ที่กลับมาคือ หลาน..ของตัวเอง.และแจ้ง ให้ เจงกิสข่านรู้ว่า ป่วย(ตรอมใจ)ตาย แล้ว เจงกิสข่าน ลมจับ....ครับงานนี้ คิดว่า ลูกคนโต (รบเก่งที่สุดในบรรดาลูกๆ) จะหักหลังตัวเอง แต่ ป่วย(ตรอมใจ)ตายเพราะ คำสั่งตัวเอง งานนี้ โดนเมีย ด่าอีกครับ ที่ไม่ไว้ใจ ลูกตัวเอง ส่วน โอไกโต คนรอง... งานนี้ โดนหางเล่ ส่งไป ไกลๆ ไปมีอาณาจักรตัวเอง ที่อินเดีย อาหรับ.... ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องภายในอีก (ถูกแล้วที่แยก คนป่ววนความสามัคคีไปไกลๆ) แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 00:39:43 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:32:48

ความคิดเห็นที่ 31 ขำคุณเรน ค.ห. 7 มากมาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:34:21

ความคิดเห็นที่ 32 อยากทราบเรื่องที่กองทัพมองโกลรบแพ้เขมรและอินโดฯตามที่ คห.บนๆเกริ่นไว้อ่ะครับ แล้วไทยเรารอดมาได้ไงอ่ะครับ จากคุณ : sanchai0045 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:43:23

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่าที่เขาถามถึงธงในความเห็น9นี่   เขาคงหมายถึงธงอะไรทำไมมันพิลึกพิลั่นขนาดนั้นมากกว่านะ       มีหัวอยู่กลางมีขา3ข้างออกมาเป็นแฉก ว่าแต่สงสัยครับ     ว่าแผนที่จักรวรรดิมองโกลเท่าที่เคยๆเห็นมา   ทำไมเขาไม่รวมอินเดียเข้าไปด้วยเหรอครับ    เพราะอินเดียก็ตกอยู่ใต้ราชวงศ์โมกุล-มองโกลเหมือนกันนี่ จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:44:41

ความคิดเห็นที่ 34 เท่าที่จำได้มองโกลไม่เคยรบกับเขมรนี่ครับ   ที่สงสัยน่าจะเป็นอาณาจักรในเวียดนามตอนใต้มากกว่า    กับอาณาจักรทางแถวชวารึสุมาตรานี่แหละ แต่เอาจริงๆมองโกลไม่ได้รบแพ้ทั้งเวียดนามกับอินโดนีเซียหรอกครับ     ก็แค่ยกทัพมายังไม่ทันรบกันเต็มที่อีกฝ่ายก็เผาเมืองทิ้งหลบไปอยู่ตามป่า     มองโกลเลยไม่รู้จะไปรบกับใคร    อยู่ต่อก็ไม่มีเมืองให้พัก   แถมโดนซุ่มโจมตีอยู่เรื่อยๆเลยยกทัพกลับ      ส่วนอีกที่ก็อยู่ในทะเล   ซึ่งมองโกลก็ไม่ค่อยถนัดยุทธนาวีเท่าไหร่    รบๆกันไปก็ตีไม่แตกซะที    เลยถอยทัพกลับ   แล้วส่งมาใหม่ทว่าก็ไม่สามารถชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด         ในที่สุด2อาณาจักรที่ว่าก็ยอมส่งบรรณาการให้มองโกลจนได้   เรื่องเลยจบ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 00:54:28 จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:49:58

ความคิดเห็นที่ 35   ได้ความรู้เยอะดีคับ จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:53:39

ความคิดเห็นที่ 36 ว่าจะตั้งกระทู้ใหม่ แต่ เอาต่อเลยดีกว่า ROAD TO WARS OF EUROP... พระเอก สองคนชื่อ ชีเป โนยอน... จอมทัพอันดับหนึ่งของ เจงกิสข่าน ประวัติคร่าวๆเคยเป็นนายทัพ เผ่ามองโกล ที่เป็นศัตรู กับเจงกิสข่าน เคยเกือบเอาธนูยิง เจงกิสข่านตายด้วย แล้วหลบหนี หลังจากพ่ายศึก(หนีคนเดียวท่ามกลาง กองทัพเป็นพัน เทพใหม) สุดท้ายมา ยอมเป็นแม่ทัพของเจงกิสข่าน คนนี้ ใครดู มังกรหยกภาำคแรกต้องได้เห็นแน่นอน และ จอมทัพ อันดับ 2 สุโบไต  จากเผ่า เคอเลี่ย...  สุโบโต มาขอร่วมเป็นทหาร เอง และ โชว์ฝีมือ...ด้วยการ แกล้งไปเป็นเชลย ให้เผ่าศัตรูของเจงกิสข่าน จับ และ ตายใจ หลอกให้ ทำตามแผนเจงกิสข่าน เลยชนะ   เอกลักษณ์ คือ มีตาขวาตาเดียว และชอบเอาลูกประคำมานับทำสมาธิ สองท่านนี้  แหละ บุกเบิก บุกยุโรป.... ถล่ม  กองท้พแข็งแกร่งลำดับ 2 ของยุโรป  บนดินแดนฮังการี หาภาพสองคนนี้ไม่ได้ เอารูป ศิษย์เอก ของ ชีเป โนยอน นาม "ก้วยเจ๋ง" ไปก่อนละกัน จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:56:37

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านสนุกมากเลยครับ แต่ผมขอแสดงทัศนะไว้แลกเปลี่ยนกันนะครับ ซาร์มาข่าน อยู่ในอุซเบกิสถานนะครับ ไม่ได้อยู่แถวอัฟกานิสถาน อาณาจักร ที่พูดถึงนั้นชื่อว่า จักรวรรดิควาเรซเมี่ยนครับ เป็นอาณาจักรอิสลามแห่งแรกที่โดนมองโกลโจมตี หลังจากโจมตีจักรวรรดิควาเรซเมี่ยน แล้ว กองทัพมองโกลก็กรีทาทัพหลายแสน เข้าทำลายนครแบกแดด แล้วก็ปลงพระชนม์คอลิฟองค์สุดท้ายของราชวงศ์อับบาสิยะ แล้วก็ยึดครอง นครต่างๆในตะวันออกกลางเรื่อยมา จนถึงอาณาจักรที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอิสลามคืออียิปต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทหารทาlกลุ่มหนึ่งทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากราชวงศ์ อัยยูบิด ทายาทของซุลต่าน ซาลาดิน พอดี ผู้นำคนทาสกลุ่มนี้ แทนที่จะยอมแพ้กลับเลือกที่จะต่อสู้ กับ มองโกล เกิดเป็นสมรภูมิไอญาลูต กองทัพอิสลาม มีทหารทาสมุมลูค นักรบที่แข็งแกร่งเป็นหน่วยหลัก มี อาร์มีร์ บัยบัล เป็นผู้นำ ฝ่ายมองโกล นำทัพโดยแม่ทัพคิตบูกา ทหารคู่ใจของ ฮูเลgu ข่าน ผลของสงคราม กองทัพอียิปต์เสียหายอย่างหนัก แต่กองทัพมองโกลถูกทำลายย่อยยับ คิตบูกา สิ้นชีพในที่รบ ผลของสงครามทำให้การยึดครองดะวันออกกลางชะงักงันไปหลายปี ที่สำคัญยังทำลายความเชื่อที่ว่า กองทัพมองโกล เป็นกองทัพไร้พ่ายอีกด้วย ปล ธงใน คห.9 ใครที่เป็นแฟนเกม medieval totalwar II คงรู้จักดี ธง kingdom of Sicily ครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 01:05:01 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 01:04:44 จากคุณ : honig เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:04:31

ความคิดเห็นที่ 38 จะติดตามต่อไปนะ สนุกมาก... กำลังอยากได้ข้อมูลพวกการรบสมัยโบราณพอดีเลย สู้ๆค่ะ จากคุณ : sunsy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:07:52

ความคิดเห็นที่ 39 การบุกยึดของ ชีเป กับ สุโบไต ในช่วงแรก เป็นประเภท ตีแหลก แล้วแหกด่าน ยังไม่ยึดถาวร แต่ก็ทำให้ นครวาติกันที่เป็นที่รวมศรัทธา ของ กองทัพยุโรป หนาวกันยิ่งกว่าหนาว เลยครับ ทัพ ที่ มาจาก ครูเสด (เยรูซาเล็ม) ผ่านศึก ครูเสดครั้งที่ 7(น่าจะ)ผ่านศึกสงครามมุสลิม มาไม่นาน รวมกับกองทัพฝ่าย ฮังการี ออสเตรีย สลาฟ เจอ กองทัพย่อย ของ ชีเป สุโบไต + Action Replay เข้าไป บรรดา เชื้อพระวงศ์ เจ้าชาย ท่านเคาท์ ท่านลอร์ด มากมาย ตายในสงครามครั้งนี้... ทหารม้ามองโกล กลายเป็น กองทัพผีห่าซาตาน กันเลยทีเดียว ระหว่างที่ทำศึกสำเร็จ ชีเป ก็ ป่วยตาย สุโบไต จึงเีัรียกรวมกองทัพ และเตรียม หักด่าน....เข้าไปถึงเยอรมัน !!! และแน่นอน ตีถึงนครวาติกันแน่ (ว่ากันว่าถ้าบุกต่อ จะตีไปถึงสเปน โปรตุเกส) แต่  เจงกิสข่าน สิ้นพระชนม์แล้ว กองทัพสุโบไต ที่เก่งกล้าที่สุด จึงยกทัพกลับ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:09:22

ความคิดเห็นที่ 40 #9 ธง  sicily ครับ จากเกม Medieval II Total War จากคุณ : Deamonicus เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:19:52

ความคิดเห็นที่ 41 หลัง จาก โอไกโด บุตรชายคนที่ 3 ขึ้นเป็นข่านต่อแล้ว จอมทัพอันดับหนึ่งสุโบไต ก็เตรียมยกทัพกลับมา สู่แดนยุโรปอีกครั้ง ครั้งที่จะไปนี้ ยกไป จอร์เจีย....ครับ บุกยุโรป ภาค จอร์เจีย...และหมดยุค การสร้างทหารม้าเกราะเหล็กหนาของยุโรป การบุกยูโรป นี้ได้รับการสนับสนุน จากท่านนายพลตาเดียวที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเจงกีสข่านมานานที่ชื่อว่า Subodei (ซุโบได) ทำให้โอโกไดข่านนั้นตัดสินใจบุกยุโรป อีกครั้ง การบุกของมอง โกลนั้นเป็นไปด้วยดีครับ ดียิ่งกว่าดีซะอีก เพราะว่าก่อนบุกนั้นมองโกลนั้นส่งทหารไปสืบข่าวครับ การหาข่าวของมองโกลนั้น ไม่ใช่เล่นๆนะครับ หาข่าวอย่างละเอียด รู้ไปหมดว่า มีคนกี่คน การเมืองเป็นยังไง ไม่ถูกกับใครบ้าง (มาลองของก่อนแล้ว ด้วย ชีเป และสุโบไต) ส่วนยุทธวิธีการรบนั้นก็เหมือน กับที่ผมได้เขียนไว้ในตอนที่ 2 ส่วนมากก็ คือการหลอกให้คู่ต่อสู้ตายใจแล้วก็ฆ่าทิ้ง การบุกยุโรปนั้นมีความ สำคัญมากครับ เพราะนี่เป็นการสิ้นสุดของยุคเกราะเหล็กเลยทีเดียว(ทำเกราะหนาๆมาให้ มองโกลส่องด้วย ธนูเจาะเกราะ หนักก็หนัก หนาวก็หนาว กลับโดนยิงทะลุ เลยไม่รู้จะใส่ไปทำไม) Dr. Weatherford(ผู้เขียนบทความนี้) เล่าว่าตอนที่บุกจอเจียนั้น พวกคริสเตียนได้รวมตัวกันต่อต้านมองโกล นำโดยเจ้าชายแห่งเมืองเคียฟ.... ทหาร จอเจียนที่มีมากกว่าทหารมองโกล 2 เท่า พอเห็นทหารมองโกลหนี เจ้าชายแห่งเมืองเคียฟนั้นก็สั่งบุกแหลก แต่ไล่เท่าไรก็ไม่ทันครับ จนมองโกลนั้นถอยไปเจอแม่น้ำสายหนึ่ง ทหารชาวจอเจียนนั้นดีใจยิ้มร่า ไล่มองโกลจนแล้ว เจ้าชายก็สั่งตั้งแถวครับตามประสาอัศวินยุโรป รบต้องมีศักดิ์ศรี ทหารจอเจียนนั้นก็ตั้งแถวไป แต่ภาพที่ทหารจอเจียนเห็นนั้น ไม่ได้มีท่าทีว่าทหารมองโกลจะดูกลัวหรืออะไรเลย กลับร้องรำทำเพลงไปเรื่อย ทหารจอเจียนคงคิดว่าทหารมองโกลนั้นทำใจดีสู้เสือครับ ทันใดนั้นเองค รับ พอธงโบก เสียงร้องรำทำเพลงของทหารมองโกลก็หยุดลง ทหารมองโกลนั้นก็รีบรุกเข้าไปโจมตีทหารราบของพวกจอเจีย ทหารมองโกลนั้นยิงธนูไปครับ แล้วระยะธนูทหารมองโกลนั้นไกลมาก ไกลขนาดที่พ้นระยะอาวุธทหารราบชาวจอเจียน พอเห็นดังนั้น เจ้าชายแห่งเคียฟ ก็รีบสั่งพลธนูยิงธนูครับ แต่โอละพ่อ ไม่ถึงทหารมองโกลอีกเหมือนกัน ดังนั้นทหารจอเจีย ก็มีแต่ถูกฆ่าครับ ความโกลาหลก็บังเกิดครับ ทหารจอเจียนก็หนี เจ้าชายก็หนี แต่เจ้าชายทรงเกราะเหล็กทั้งม้าทั้งคน ถ้านึกไม่ออกดูรูปครับ   แต่ ทหารมองโกลนั้น ใส่เกราะหนังเบาๆ เจ้าชายนั้นหนีไม่พ้นครับ ถูกเจื๋อนกลางสนามรบ เรียกว่าเกราะเหล็กนั้นแทบจะหมดยุคไปเลยทีเดียว Dr. Weatherford บอกว่า พวกจอเจียน อาเมเนียน ที่ถูกตีแตกไปนั้น ไม่รู้จักมองโกลครับ เชื่อว่าการแพ้เละเทะแบบ ไป 10 กลับมา 1 นั้นเป็นเพราะพระเจ้าท่านลงโทษ ถึงแม้การบุกยุโรปนั้นจะประสบความ สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์ทางการค้ากับมองโกล เรียกว่าสินค้านั้นไม่ ค่อยมีจะไปถึงมองโกลครับ โอโกไดข่าน ก็เลยบอกบุกจีนกับบุกยุโรป แต่การบุกจีนนั้นไม่ประสบความสำเร็จเลย ก็เลยต้องมาเน้นที่การบุกยุโรป (ตีจีนแตก ยุคกุบิไล) ที่มา http://gotoknow.org/blog/goreadabook/84000 แห่ กองทหารม้าเกราะหอกยาวๆแบบนี้หละครับ ทหารม้ามองโกลชอบ เป้าใหญ่ให้ส่องธนูเล่น หลังจาก โดนส่องตายกันเป็นว่าเล่น ยุคทหารเกราะหนา หอกยาว ที่ฮิต ช่วง สงครามครูเสด ก็....หมดลง แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 01:23:22 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:21:59

ความคิดเห็นที่ 42 บุกยุโรปต่อ ภาค เคียฟ แห่งยูเครน การบุกยุโรปครั้งนี้ นั้นนำโดย Batu (บาตู) ลูกชายของโจชิลูกชายคนแรกของเจงกีสข่าน (จอมพลที่มองโกลยกย่องให้เก่งลำดับ 3 จาก ชีเป สุโบไต)การบุกครั้งนี้ใช้ทหารมองโกล ห้าหมื่นคน ทหารพันธมิตร อีกประมาณหนึ่งแสน การ รบเริ่มจากการบุกเผ่าบัลการ์ (Bulgar) ตรงแม่น้ำวอลการ์ (Volgar) คราวนี้มองโกลนั้นพัฒนาแล้วครับ มียุทธวิธีใหม่ คือการแบ่งทหารออกเป็น สองกอง คุมเชิงสองเมือง ทำให้เมืองที่โดนคุมเชิงนั้น ไม่กล้าจะส่งกำลังให้กัน ไม่มีการเสริมกำลังก็เสร็จมองโกลสิครับ ต่อ จากชนะเผ่าบัลการ์ มองโกลก็บุกเคียฟ คราวนี้นั้นมองโกลก็มาแผนใหม่อีกรอบ คือสร้างกำแพงล้อมเมืองเคียฟอีกที ทำให้คนในเมืองนั้นสับสนวุ่นวาย ก่อการจราจล ส่วนมองโกลนั้น นู่นครับไปสร้างเครื่องดีดหิน เตรียมบุก เมืองอยู่ด้านนอกกำแพงที่ตนเองสร้างนู่น ไม่นานครับ เคียฟก็แตก นอก จากวิธีประหลาดๆแล้ว มองโกลยังสร้างระเบิดอีกนะครับ โดยการผสมผสานระหว่างเครื่องยิงไฟ (Flamethrower) กับดินปืนเข้าด้วยกัน ซึ่งเครื่องยิงไฟ หรือเครื่องพ่นไฟนั้นมาจากมุสลิม ส่วนดินปืนนั้นมาจากเมืองจีน แต่ขณะที่บุกอยู่ในยุโรปนั้นก็มีการ เรียกประชุมเพื่อหาว่าใครจะเป็นข่านสูงสุดต่อจากโอโกไดข่าน ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ตกลงกันไม่ได้ ระหว่างบาตู ที่ตอนนี้เป็นข่านหรือซาร์แห่งรัสเซียไปแล้ว กับลูกของโอโกไดข่านอีกสองคน ลูก ของโอโกไดข่านตกลงกับบาตูไม่ได้ ก็หนีกลับมองโกลไป พอโอโกไดข่านรู้นั้นก็ด่าแหลกครับ แล้วก็ไล่กลับไปข่วยบาตูรบที่ยุโรปต่อ บาตู ซาร์แห่งรัสเซียและเคียฟ สละที่จะเป็น ข่านคนต่อไป และ ต่อมา เป็นผู้สนับสนุน ให้ กุบิไลข่าน ยึดอำนาจ จาก ลูกพี่ลูกน้อง ของตัวเอง (ลูกของ โอโกไดข่าน) เรียกว่า บาตู เป็น ผู้ทรงอิทธิพล ที่สุดใน มองโกล (แต่ไม่ชอบเข้ามาวุ่นวาย) ที่รู้จักการวางตัว ที่มา http://gotoknow.org/blog/goreadabook/84000 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 01:31:17 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:30:24

ความคิดเห็นที่ 43 ธงของซิซิเลียนจ๊าา อยู่ใกล้ ๆ โรม ตอนนั้นยังแยก มิลาน เวนิช โรม ชิชิเลียน อยู่เลย จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:31:32

ความคิดเห็นที่ 44 การบุกยุโรปอีกครั้งอันนี้เป็นเรื่องแปลกเรื่องนึงในประวัติศาสตร์ครับ บุกยุโรปภาคฮังการี โปแลนด์ เยอรมัน การบุก ครั้งนี้นั้นมองโกลได้แบ่งกองทัพไปตี ฮังการี โปแลนด์และเยอรมัน การบุกนั้นก็ใช้วิธีเดิมคือหลอกให้ตายใจแล้วก็ฆ่า การรบครั้งนี้นั้นทหาร ยุโรปตายไปเป็นแสน สร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วยุโรป พวกนักบวชคริสตร์ ก็พยายามหาเหตุผลครับว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนักบวชก็คิดว่าทหารมองโกลนั้นเป็นคนยิว แล้วคิดว่าพวกทหารมองโกลนั้นจะมาเอากระดูกของ The three kings (นักบวชสามคนที่ไปเฝ้าตอนพระเยซูเกิด) ซึ่งพวกเยอรมันนั้นได้เอามาเก็บไว้ที่โบสถ์เมืองโคโลญจน์จากสงครามครูเสด แต่ แล้วอยู่ๆครับ คนยุโรปก็งงเป็นไก่ตาแตก เพราะว่ามองโกลไม่ไปเมืองโคโลญจน์ พวกนักบวชก็ต้องหาคำอธิบายใหม่ครับบอกว่า อ้ออออ ไอ้พวกนี้อ่ะ ยิวพลัดถิ่น ที่ต้องรีบกลับไปต้อนรับศาสดา แล้วรู้ไหมครับทำไมต้องพลัดถิ่น เพราะว่าจะได้อธิบายว่าทำไมทหารมองโกลนั้นพูดภาษายิวไม่ได้ไงครับ พอ คำอธิบายมั่วๆนี้ออกมา เกิดอะไรขึ้นทราบไหมครับ เกิดการฆ่าล้างชาวยิวขึ้นครับ เพราะคนยุโรปนั้นอยากล้างแค้นทหารมองโกลที่ได้ฆ่าทหารยุโรปไปเยอะเหลือเกิน น่าสงสารจริงๆนะครับ เผ่าพันธุ์ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกไว้เนี่ย http://gotoknow.org/blog/goreadabook/84000 งานนี้ บอกได้ว่าอย่าเชื่อข่าวลือมั่วๆ  ครับ... หลายคน ชอบปล่อย ข่าวให้คนตีกัน ฆ่ากัน แล้วก็เผ่นหนีไปต่างแดน มีทุกยุคทุกสมัย... แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 01:37:44 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:35:47

ความคิดเห็นที่ 45 สรุป สงครามยุโรปของมองโกล ไว้  ณ ทีนี้นะครับ มีโอกาส จะกลับมาเล่า สงคราม ของ ชาห์ จักรพรรดิ์แห่งนครอิสลาม และ เจงกิสข่าน ผู้ยิ่งใหญ่ แห่งทุ่งหญ้า มองโกล ครับ เจง เจง เจงกิซข่าน รุกไปที่ไหนใครอย่าขวาง รีบ เปิดทางรับ ฮู่ฮ่า.. *(ขุนทัพ)ผู้พิทักษ์มองโกลเกียงไกรฉกาจชาติขุนพล.. ฮู่ฮ่า... ผู้คนระบือ รือไกลพากันสยบเจงกิสข่าน.. ฮู่ฮ่าๆ.. ยกทัพราวีตะลุยบุก ทะลุทุกดินแดน ทั่ว แควนเกรงกลัวจนตัวสั่นไม่หันมาสู้ ต่างคนยอมชูว่าเค้าคือราชสีห์ ฮู่ ฮ่า **เจง เจง เจงกิสข่าน ลุกไปที่ไหนใครอย่าขวางรีบเปิดทางรับขุนพล เจ ง เจง เจงกิสข่าน พื้นดินสท้านไปทั่วทิศเด็ดชีวิตหัวมันกระเด็น ไล่เข่น ฆ่ามันส่ะ โฮ่ะๆๆๆ บุถล่มให้ล้มดิ้น ฮ่าๆๆๆ คลองแดนดินเขาคือเจ้าถิ่นโลก นี้(หรือคือเจ้าโลกา) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:44:16

ความคิดเห็นที่ 46   ขอบคุณครับ ได้ความรู้และสนุกมากเลยทีเดียว ทำไมไม่เอาเพลงเวอร์ชั่น berryz koubou มาเปิดล่ะ จะได้ครึกครื้นกัน  อิอิ จากคุณ : ลูกชายคนที่7ของลูกชายคนที่7 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:47:13

ความคิดเห็นที่ 47   ขอบคุณครับที่นำความรู้มาแ่บ่งปัน แต่ไม่ค่อยชอบตรงที่เอาการเมืองมาเอี่ยว.. อ่านแล้วมันรู้สึกได้ จากคุณ : 47 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:39:10 A:124.121.21.183 X: TicketID:239218

ความคิดเห็นที่ 48   สนุก ได้ความรู้ดี ขอบคุณมากจ้า ^^ จากคุณ : [Miss Miss] ~ * เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:26:22 A:183.88.56.188 X: TicketID:238956

ความคิดเห็นที่ 49 จัดให้ ดูวิดีโอ#45 แล้วพลังชีวิตหดหาย จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:31:13

ความคิดเห็นที่ 50   โอ พลังชีวิตที่หดหายไปถูกเดิมกลับด้วยคลิป #49 จากคุณ : Chef_vee เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 06:55:55

ความคิดเห็นที่ 51 โอ ถ้าเจงกิสข่านได้เห็นคลิป 49 ญี่ปุ่นต้องย่อยยับแน่ๆ....ไม่ว่าจะสูญเสียเท่าไหร่ก็ตาม จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 08:15:43

ความคิดเห็นที่ 52   ^ ^ ^ ^ คห.51พูดถูกต้องที่สุดเลย555+  ท่านเจงกิสข่านต้องบุกญี่ปุ่นชัวเลย ขอบคุณสำหรับเนื้อหาสนุกๆครับ จากคุณ : KatuaKnight เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 08:31:10

ความคิดเห็นที่ 53 การตีเหล็กขณะร้อนๆ แล้วทำให้เย็นตัวทันที เป็นกรรมวิธีของการชุบแข็งครับ เหล็กจะมีความแข็งเพิ่มมากขึ้นนะครับ จากคุณ : นะนะ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 09:25:09

ความคิดเห็นที่ 54 สองที่นี่ มันเกี่ยวกันยังงัย แล้วสามขา มันหมายถึงอะไรครับใครรู้่มั่ง ^^ จากคุณ : nutxnut เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 09:28:19

ความคิดเห็นที่ 55 แจ่มแมวเลยครับน้า จากคุณ : ชื่อคุณยังไม่ได้ลงทะเบียน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 09:59:19

ความคิดเห็นที่ 56 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 10:29:51 จากคุณ : papikasoda เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 10:12:46

ความคิดเห็นที่ 57 ธงของ ซิซิลีครับ เล่น Mediaval II TOTAL WAR รอเปลี่ยนเทิน จนจำได้ เพราะมันแปลกกว่าชาวบ้านที่สุดเลย ใครชอบยุคกลางควรจะหามาเล่นอย่างยิ่ง ภาพใน คห.9 ก็คือเกมนั้นนั่นเอง ความหมายของ 3 ขากับหัวเมดูซ่า The flag of Sicily was first adopted in 1282, after the Sicilian Vespers of Palermo. It is characterized by the presence of the triskelion  (trinacria) in its middle, the (winged) head of Medusa  and three wheat ears. The three bent legs are supposed to represent the three points of the island Sicily itself. แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 10:30:26 จากคุณ : papikasoda เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 10:13:50

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านมามันส์ๆ ดู #49 แล้วของขึ้นเลย จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 10:40:28

ความคิดเห็นที่ 59 เจงกิสข่านไม่ได้บุกญี่ปุ่นครับ แต่หลานท่านกุบไลข่านยกทัพเรือไป แต่โดนสายลมเทพเจ้า Kamikaze พัดเอาทัพเรือยับขอรับ เลยโชคดีไป สงครามโลกครั้งที่สองญี่ปุ่นจึงเอาชื่อ Kamikaze นี้ใช้เรียกอาวุธสุดท้ายที่ต่อต้านพันธมิตร คือการใช้เครื่องบินเป็นขีปนาวุธครับ หวังว่า จะเหมือนสายลมเทพเจ้าที่จะหยุดผู้รุกรานแผ่นดินแม่ แต่....... เจอ nuke สองดอก ไงก็ต้องยอมแพ้ครับ จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 10:44:20

ความคิดเห็นที่ 60 ถึงจะโกง ด้วย action replay แต่ก็เป็นภูมิปัญญาจริงๆ แฮะ ... อ่านในชานาโอ (การ์ตูนน่ะ) ... ก็มีพูดถึงเทคนิกการขี่ม้า ดริฟต์  ... ยิงธนูบนหลังม้า ซ้าย ขวา หน้าหลัง เกาะใต้ท้องม้า อยู่เหมือนกัน ... ในเรื่องว่าไว้ว่า ชาวมองโกล จะถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับม้าคนละ 1 ตัว เป็นคู่ชีวิต กันเลยทีเดียว ทำให้เกิดสายสัมพันธ์ ระหว่างคนกับม้า ที่ชาวมองโกลสามารถเล่นท่าพิสดาร บนหลังม้าได้ นี่ก็เป็นเพราะ ม้าช่วย ด้วย! เช่นการชะลอความเร็วลงเล็กน้อย การไม่สลัดตัว ปัดจ๊อกกี้ เอ้ย ชาวมองโกลผู้ขี่ลง ขณะที่เกาะข้างตัวม้า ฯลฯ จริงแท้แค่ไหน นี่ไม่ทราบเหมือนกันแฮะ... สนุกดีครับ ยาวโพดๆ เดี๋ยวมาอ่านต่อ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:10:04

ความคิดเห็นที่ 61 ในศึกสงคราม กองทัพยุโรปกับทหารม้ามองโกล สิ่ง ที่เป็นเรื่องชี้ขาด ชนะกับความพ่ายแพ้ คือ ธนู....   แบ่งเป็น Cross Bow (หน้าไม้) , Long Bow และ Composite Bow ครับ จากที่เล่ามายืดยาว จากกระทู้มองโกล จะเน้นเรื่อง หัวลูกศร เจาะเกราะ ที่แช่ในน้ำเกลือแล้ว คันธนู ที่ ทหารยุโรปใช้ (LONG BOW )กับ คันธนูที่มองโกลใช้ (Composite Bow) Long bow เป็น ธนูในยุคเริ่มแรกตั้งแต่ มนุษย์เริ่มประดิษฐ์อาวุธล่าสัตว์กันเป็น....  ทำง่าย ใช้ง่าย Composite Bow เป็นธนู ที่ถูกชนเผ่้าเลี้ยงสัตว์ในเขตทุุ่่งหญ้า มองโกล (อาจจะมีมาตั้งแต่ยุค ชาวซงหนู ชาวฮวน) ความแตกต่าง ของ Bow ทั้งสอง คือ Composite แรงกว่า ไปได้ไกลกว่า และ ต้องใช้เทคนิคมากกว่า เห็นลักษณ์ความ ตึง...บนเส้นเอน ดูก็รู้แล้วหละครับว่า ใครเป็นต่ออ (Composite bow ของ มองโกล หลังจากนั้นถูกนำมาใช้ ในกองทัพต่างๆ แทน Long Bow ที่เริ่มสุญหายไปจากกองทัำพทำศึกในประเทศต่างๆ) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:18:29

ความคิดเห็นที่ 62 Composite bow  เริ่มมีการ บันทึกใช้ ว่าเริ่มประดิษฐ์จาก ชนเผ่าเลี้ยงสัตว์ บนแถบทุ่งหญ้า มาตั้งแต่ชาวซงหนู Cross Bow หรือ หน้าไม้  มีเรื่องบันทึกว่า ขงเบ้ง ในสามก๊ก เป็นผู้ประดิษฐ์ ส่วน Long Bow นั้น มีมาตั้งแต่ มนุษย์ยุคโบราณ ยังล่าสัตว์แล้ว Composite bow ปัจจุบันถูก นำมาสร้างเป็น รูปแบบ ของกีฬา ธนู.... ในยุคปัจจุบัน จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:18:55

ความคิดเห็นที่ 63 นอกจาก ธนูเจาะเกราะ คันธนู ชนิดพิเศษ ยัง มี เทคนิค การ ยิง ธนู ของ มองโกล ก็เป็น เอกลักษณ์ การจับ หัวลูกศร ก็ต่างกัน มองโกลจะมีวิธียิงธนูชนิดพิเศษ ซึ่งผู้เชียวชาญล้วนยอมรับกันว่าเป็นท่ายิงที่แม่นยำที่สุดในโลก(ในตอน นั้น)ด้วย แต่ก็ฝึกได้ยากที่สุด(ไม่รู้ว่ายากกว่ายังไงไม่เคยยิงเอง) วิธี การจับออกจะอธิบายยากนิดหน่อย เลยเอารูปมาให้ดูกันน่าจะดีกว่า ผม ไม่เคยยิงธนู ชนิดนี้ เลยไม่ทราบว่า เทคนิคยิงธนูของ มองโกลนั้น ทำไมมันจึง แม่น และ แรงกว่า เทคนิค ของที่อื่น ลองดูภาพ การจับหางธนุ ละกันครับ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:19:35

ความคิดเห็นที่ 64 นอกจาก นี้ เทคนิค การยิงธนูบนหลังม้า เนื่อง จาก ธนูของมองโกล เล็ก พกพาง่าย ในการ เอื้อยตัวไปง้างศร แต่ละครั้งจึงไม่ลำบาก ต่างกับ ทหารยุโรป ที่ จะใช้ Long Bow เวลา ในการง้าง ที่ต่างกัน แค่เสี้ยว วินาที มีผลต่อ ความพ่ายแพ้ และ ชีวิต เกมส์สงคราม พวกชอบใช้ กองทัพ ม้าธนู คงเข้าใจนะครับ ว่า โกงใช้ได้เลย [ในรูปคือ พกอาวุธมาเต็มยศ] จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:20:03

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านๆแล้วนึกถึงเพลงๆนึง คห 45 ก็เอามาแปะซะงั้นโดนใจเลย จากคุณ : pooktoon เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:26:25

ความคิดเห็นที่ 66 เสริม คคห. ๕๓ การตีเหล็กขณะร้อนๆ แล้วทำให้เย็นตัวทันที เป็นกรรมวิธีของการชุบแข็งครับ เหล็กจะมีความแข็งเพิ่มมากขึ้นนะครับ และการชุบในน้ำเกลือให้อัตราการเย็นตัวสูงกว่าในน้ำ จึงมีโอกาสที่ทำให้การชุบแข็งสมบูรณ์มากกว่าครับ จากคุณ : star_seeker เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:29:06

ความคิดเห็นที่ 68 ปัจจุบันนี้อารยธรรม ภูมิปัญญามองโกลที่ส่งผลมาในปัจจุบันบ้างครับ จากคุณ : เดอะหลอน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:37:30

ความคิดเห็นที่ 69 ส่วนเรื่องชาวมองโกลเนี่ย เมื่อ 2-3 เดือนก่อนผมดูรายการ TV ที่ช่อง 9 เอามาฉาย เป็นรายการญี่ปุ่น ค้นหาคนที่สายตาดีที่สุดในโลก ปรากฏว่าเป็นชาวมองโกล ที่มาสามารถมองไกลได้มากกว่าคนธรรมดาถึง 4 เท่า ทางรายการอธิบายว่า ถ้าคนธรรมดาเห็นแบบนี้ คนๆนี้จะมองเห็นได้ชัดกว่าถึง 4 เท่า และเมื่อทางรายการทดสอบกับชาวมองโกลทั่วไปตอนที่ออกมาจากสนามบิน ปรากฏว่า ชาวมองโกลที่เดินถนนทั่วไป สามารถมองแบบทดสอบสายตา มองเห็นตัวเลขแถวล่างสุดได้สบายๆทุกคน แถมยังบอกอีกว่า ถ้าจะเอาแบบสุดๆ ต้องไปทดสอบกับพวกที่เลี้ยงปศุสัตว์ เห็นแล้วทึ่งครับ เพราะพวกที่เลี้ยงสัตว์ เกิดมารู้ความก็ถูกฝึกขี่ม้าแล้ว บวกกับสายตาที่ดีกว่าคนทั่วไป และยังต้องใช้ธนูเป็นอาวุธตั้งแต่เด็ก จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่กองทัพมองโกลจะคับแน่นไปด้วยทหารม้าธนูคุณภาพคับแก้ว ยากที่ชนชาวยุโรปจะเอาชนะได้ครับ จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:41:19

ความคิดเห็นที่ 70 เกลือสมัยนั้น น่าจะแพงอยู่นะ ถึงกับเอาของกินมาตีเหล็กเลยนี่ ทัพมองโกลคงรวยน่าดู จากคุณ : A.R.T. เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 11:45:36

ความคิดเห็นที่ 71 ยอดเยี่ยมมาก ได้ความรู้มากมาย ชอบเรื่องธนูจัง ไว้ฝึกยิงมั่งดีกว่า อิอิ ส่วนเรื่องอื่นๆ ใครจะตีความยังไง ใครจะร้อนตัวอะไรยังไงก็ช่างเค้าเนอะ เราถือว่าเรามาให้ความรู้ จากคุณ : นกกระตั๊ว เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 12:05:21

ความคิดเห็นที่ 72 ดู #51 ล้างตา แล้วชื่นใจ ทำไมต้องส่องซะใกล้ขนาดนั้นก้อไม่รู้ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 12:18:41

ความคิดเห็นที่ 73 ทำไมเจ้าของกระทู้ต้องหาว่าเค้าโกงด้วยหละครับ ผมว่าเป็นการหาข้อได้เปรียบในการทำสงครามมากกว่า ถ้าเกิดคนอื่นรู้เคล็ดลับก็ทำได้เหมือนกันครับ ถ้าโกงก็ต้องพวก แฮ๊กแมพ อะไรอย่างนี้ อิอิ จากคุณ : joufo เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 12:27:36

ความคิดเห็นที่ 74   เกลือทำให้จุดต่ำของน้ำสูงขึ้นครับ ลองง่ายๆ แช่เบียร์โดยไส่น้ำแข็ง ไส่้น้ำเปล่า ไส่เกลือ แล้วก็เอาเบียรืแช่ 5 นาทีก็เย็นละครับ จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 12:31:03

ความคิดเห็นที่ 75 เอ่อ...เข้าเรื่องการเมืองซะแล้ว กำ -"- จากคุณ : Grain_G เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 12:34:16

ความคิดเห็นที่ 76   แจ่มมากกกกครับ มันส์ มันส์ จากคุณ : Pumimaru เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 13:03:48

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องชานาโอ นันพวกกิมก๊กนะ ตอนหลังก็โดนมองโกลกวาด พวกนี้เป็นแมนจู เป๋นเผ่าเลี้ยงสัตว?เร่ร่อนบนหลังม้าเหมือนมองโกล ได้ไปพิพิธภัณฯ ทางทหารที่ปักกิ่งมา มีปืนที่เก่าที่สุดในโลก ก็มาจากสมัยมองโกล จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 13:21:19

ความคิดเห็นที่ 78 ธงที่สงสัย จาก คห.9 คือธงของ ซิซิลี (Sicily) ครับ ในยุคกลางนั้น นับเป็นหนึ่งชนชาติของยุโรป ภายใต้การดูแลของรัฐแห่งสันตะปาปา ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Sicily จากคุณ : Don Malarkey เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:15:48

ความคิดเห็นที่ 79 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:55:34

ความคิดเห็นที่ 80 ^^ จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:35:04

ความคิดเห็นที่ 81 แล้วอณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของเจงกิสข่าน  ล่มสลายเพราะอะไรอ่ะครับ จากคุณ : TrojanTHM เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:42:05

ความคิดเห็นที่ 82 ได้ความรู้เพียบครับ..... เพลง....เจง เจง เจงกิซข่าน....มันทำให้ผมนึกถึง โฆษณาเก่าตัวนึงที่มีผู้หยิงใส่ชุดกระต่ายมาเต้นอ่ะครับ.... จากคุณ : nai_tin เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:01:11

ความคิดเห็นที่ 83 มันมากๆครับ อยากรู้ต่อน่ะครับ ว่าหลังจากนั้น "บาตู ที่เป็นข่าน หรือซาร์แห่งรัสเซีย" มีวิถีชีวิตยังไงต่อเหรอครับ ?? จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:27:53

ความคิดเห็นที่ 84 เยี่ยมครับ กระทู้คุณภาพคับแก้ว ถ้ายังไงวานบอกด้วยนะครับว่าที่มาของข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน เผื่อผมไปหาอ่านเพิ่มเติม :) จากคุณ : Iron-Spider เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:38:37

ความคิดเห็นที่ 85 จัดไปอีกอันสำหรับ Berryz Koubou - Jingisukan (Dschinghis Khan) จากคุณ : Iron-Spider เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:43:34

ความคิดเห็นที่ 86 kamikaze ของญี่ปุ่นตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่เป็นผลเพราะตัวเองเป็นฝ่ายไปโจมตีเค้าก่อนล่ะมั้ง สงสารทหาร จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:50:40

ความคิดเห็นที่ 87 จักรวรรดิมองโกลล่มสลายลงทีละนิดครับ   เริ่มจากอาณาจักรในส่วนต่างๆ  เริ่มไม่ยอมรับฟังคำสั่งจากจักรพรรดิ-ข่านใหญ่ที่ต้าตู-จีน     ค่อยๆแยกตัวเป็นเอกเทศไปเรื่อยๆ      จากนั้นอาณาจักรต่างๆก็ค่อยๆถูกคนพื้นเมืองขับไล่ไปทีละแห่ง     ไม่ว่ารัสเซีย   ตะวันออกกลาง   จีน    จนในที่สุดมองโกลก็กลับไปเป็นชนเผ่าเร่ร่อนเหมือนในอดีต      รู้สึกว่ามีอาณาจักรเดียวที่มองโกลครอบครองมาได้ตลอดคือ โมกุล-อินเดีย     จนมาถูกอังกฤษยึดเป็นอาณานิคมในภายหลัง    จับจักรพรรดิโมกุลองค์สุดท้ายเนรเทศไปอยู่พม่า   แล้วเอาพระเจ่าสีป่อกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่าเนรเทศไปอยู่อินเดีย จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:14:05

ความคิดเห็นที่ 88 เล่า ต่อครับ ศึก มองโกล VS เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรื่องนี้  เขาว่ากันว่า เป็น ทฤษฏี หนึ่ง ที่ทำให้ เกิดคนไทย ในปัจจุบัน ในยุคกุบิไล หรือ กุบไลข่านนั้น   หลังจาก ที่ ตี ต้าหลี่(แถบยูนาน) และ ต้าซ้อง(จีนตอนใต้) รวบรวมอาณาจักรได้ ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว กุบไลข่าน ได้ส่งฑูตไปตาม อาณาจักรด้านใต้ หลายที่ แต่ ที่ เด็ด คือแวะไปพม่า แล้ว โดน ราชาพม่า เชือดทิ้งครับ งานนี้ มองโกลถึือว่าประกาศสงคราม เอาละครับ.... ในสมัยนั้น การยอมรับไมตรี (คล้ายเป็นประเทศราชกลายๆ) ต้องส่งบรรณาการ มาให้ มองโกล ทุกปี (แบบนี้ เรียกเบ่ง) ส่วนใหญ่จะยอมส่งบรรณาการให้โดยดีครับ (พ่อขุนรามคำแหงเราส่งไปทุกปี) หลังจากนั้น กองทัพม้า มองโกล นำโดย นาเซอร์(ไม่ได้เป็นอะไรกับนาธาน)ก็เริ่มรุกลงใต้.... จุด แรกที่ ไปบุกตี คือ เขตแดนพม่าในปัจจุบัน  ที่เป็นที่อยุ่ของ ชาว พุกาม ไทยใหญ่  ไทยลื้อ ซึ่งรวมถึง เผ่าบรรพบุรุษ ของคนไทยส่วนนหนึ่ง (ทฤษฎี ที่ ว่าคนไทย อพยพ มาสู่ อาณาจักรขอม ก็เริ่มาจากนี้) เรื่องราวที่ มองโกล บุกพม่า(พุกาม) นั้น เป็นบันทึกของ ....!!! มาร์โคโปโล ครับ ไม่ใช่ ใครที่ใหน ในสมัย พุกาม ยุคนั้น พม่าเดิม มีราชา ชื่อ พระเจ้า นรธิหบดี   ได้เตรียมทัำช้าง 2,000 เชือก (เขาว่าบันทึก มาร์โคโปโล ใส่ไข่ ครับ) และ ทหารหม่อง 10000 คน (มองโกลยกมา 5000)   และแล้ว ศึก ช้างชนม้า ก็เริ่ม ขึ้น จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:18:14

ความคิดเห็นที่ 89 ทัพช้าง 2000 เชือก ของราชาพุกาม ก็ เข้าตี กองทัพม้า ของมองโกล ปกติ ม้าของ มองโกลไม่ค่อยกลัวอะไรครับ แต่เจอ พี่ช้างมีมากกว่า สองเทา บุกมาแบบนี้ ม้ากระเจิง ครับ แรกๆกองทัพม้ามองโกล เจอ ช้างพุกาม บุกตี จนแตกพ่าย แต่ นาเซอร์ แม่ทัพ ใจแข๋งครับ กวดม้าหนี แล้ว รวมตัวกัน ยิงห่าธนูเพลิง.... ช้างเจอธนูไฟเข้าไป กองทัพช้าง ก็ โกลาหล ไล่้ฟัดตีพวกเดียวกันเอง สุดท้าย กองทัำพช้างพุกาม ก็ แตกพ่ายไป เพราะ ธนู มองโกล เหมือนประเทศอื่นๆ แต่ ด้วยเหตุจาก เส้นทาง ที่เดินทัพ เข้าพม่า นั้น นอกจาก ที่สูง ป่าดิบชื้น  ที่ ทหารมองโกล ไม่ถนัด ก็ยกเลิกเข้าตีเมืองหลวง ก็ตีตามรายทางไปเรื่อย (ไทยใหญ่ ยะไข่ รวมทั้ง บรรพบุรุษชาวไทย ก็แตกหนีลงใต้กันแบบที่เห็นหละครับ) และ ทัพม้ามองโกล ที่ไม่ถนัดบุกป่า ก็....ยกทัพกลับ มองโกลชนะ แต่ชนะไม่สุดครับ พื้นที่ราบถนัดใช้ ม้า แต่เจอ ป่า นี่ ต้องจูงม้าเข้าไป โดน ลอบโจมตี ดูแล้วยังไงก็ไม่คุ้ม  นาเซอร์ สั่งถอยทัพ และ งานนี้ นาเซอร์บอก "จะไม่กลับบ้านมือเปล่า" ....  คุ้นๆเนอะ บันทึกมาร์โคโปโล บอกว่า มองโกล เก็บช้างเชลย ไปถวาย กุบิไล 200 เชือก (แต่พงศาวดาร บอก 12 เชือก) และ เชลยชายแดน พุกาม อีก 112000 ครอบครัว ผ่านศึก พม่า...แล้วเดี๋ยว ไปต่อ เีิ้รื่อง มองโกล อาณาจักรอันนัม และ จัมปา หารูป ทหารมองโกล ชน ช้างพม่าไมได้ เอารูป อเลกซานเดอร์ เจอช้างอินเดียไปก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 17:49:35 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:34:13

ความคิดเห็นที่ 90 ู^ รูปประกอบข้างบน น่าจะเป็นการรบระหว่างกองทัพกรีกของอเลกซานเดอร์ กับ กองทัพอินเดียมากกว่าครับ. จากคุณ : LittleTiger เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:45:00

ความคิดเห็นที่ 91 ปี 1252 กุบไลข่าน ทำสงครามกับต้าหลี่ ตอนนั้นบรรพบุรุษคนไทย ใกล้สถาปนากรุงสุโขทัยแล้วนะครับ และก่อนหน้านั้น ก็มีอาณาจักรหริภุญชัยแล้วด้วย เพราะฉะนั้น บรรบุรุษคนไทย เดินทางมาถึงที่นี้ก็หน้านั้นนานมาแล้วครับ ปล. บรรบุรุษคนไทย เอาว่านับคือ กลุ่มคนที่พูดภาษาตระกูลไตกะไดละกัน กลุ่มอื่นไม่นับ จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 18:09:18

ความคิดเห็นที่ 92 ถ้าจำไม่ผิด เหล็กร้อนๆ พอโดนน้ำเกลือ(เย็นๆ) ผิวมันจะเปราะมากๆ ฉะนั้น ถ้ายิงโดนอะไร ผิวเหล็กจะแตกออก และส่งพลังงานทั้งหมด เข้าไปที่แกนเหล็กตรงกลา่ง ทำให้เพิ่มแรงทะลุขึ้นอีกมาก ทำงานแบบเดียวกับกระสุนเจาะเกราะสมัยใหม่เปี้ยบ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 18:47:13

ความคิดเห็นที่ 93 ดู45กับ49แล้ว เพิ่งรู้ว่านรกกับสวรรค์ห่างกันแค่เอื้อม(ไม่กี่คห.)จริงๆครับ จากคุณ : neoultema เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 20:23:44

ความคิดเห็นที่ 94 เมื่อไหร่มาต่อ อย่าทำให้อารมณ์ค้างครับ สงสารหน่อยเหอะ // ฮ่า ฮ่า จากคุณ : mojihead เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 20:45:50

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณครับ เคยคิดว่า การรบของทัพเจงกิสข่าน ไม่มีอะไร น่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ แต่คิดผิด เพราะคนเล่าต่างหาก กระทู้นี้ทำแล้วอ่านง่ายดี ไม่รกสมองมากไป ไม่ใช้ตัวติดพืด เยี่ยมเลยครับ จากคุณ : MondayCool เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 21:10:04

ความคิดเห็นที่ 96 มองโกล บุก จัมปา(เวียดนาม) และ อันนัม(ลาวและกัมพูชา) หลังจาก กุบไลข่าน ระเริงกับอำนาจ ของ ข่าน ก็เริ่มติดต่อประเทศ แถบอินโดจีน นอกจาก จะส่งทูต มาแล้ว ยัง ขอให้ พระเจ้าตรันถั่น ราชา ของ จัมปา และ พระเจ้า ชัยอินทรวรมัน แห่ง  อันนัม ไปเยี่ยมเยือน ต้าตู(เมืองหลวงปักกิ่ง) ของ กุบไลข่าน แบบเดียวกับที่ มาเชิญ พ่อขุนรามคำแหง แน่นอน...งานนี้ ใครจะไป (พ่อขุนรามยังไม่ไปเลยครับ) เมื่อขอ แล้วไม่มา งั้น...ขอ เชิญ ลูกชาย โอรสเจ้าชาย ไปละกัน แน่นอนครับ ...(เมิงส่งมาบ้านกรูเองดิ) ไม่มีแน่ ได้แต่ส่ง บรรณาการไป ช้าง แรด...และ เพชรพลอย แต่ก็ส่งบ้างไม่ส่งบ้าง กุบิไล โมโห ครับ บอก ทำแบบนี้ ไม่ต้องส่งมาแล้ว เชิญ ราชา ไม่ก็ โอรส มาแทน ดีกว่า ไม่มีคำตอบ กุบิไล ก็โมโห แบบไร้เหตุผล (เขาส่งบรรณาการแล้ว แล้วก็ไม่มี ราชา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สักคนเลยที่ไป ต้าตู) จึง ส่งกองทัพมองโกล นำโดย แม่ทัพโชตู นำกำลังพล 5000 และ กองเรื อ 100 ลำ (น้อยกว่า  300 ลำที่เขาว่าจะมาเจ้าพระยาอีกแฮะ) ตีมาจาก ทางเวียดนาม และ อ้อมมาทางทะเล จาก ทะเลจีนใต้ ศึก...ใหญ่ ของมองโกล  กับ จัมปา และ  อันนัม กำลังจะเริ่ม.... ผมว่าสงคราม ครั้งนี้มันออกจะ ไร้เหตุผล นะ จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 21:23:40

ความคิดเห็นที่ 97 มากด F5 รอครับ จากคุณ : NHN เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 21:28:00

ความคิดเห็นที่ 98 ไม่มีของรอยัลสไปรท์เหรอครับ ดู clip แต่ละอัน อันแรกก็ตลกเกิ๊น อันหลังๆนี่ก็คิกขุสุดขีด จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 21:29:22

ความคิดเห็นที่ 99 จุดอ่อน ที่สำคัญ มากๆๆๆ ของ กองทัพม้า มองโกลคือ ทหารม้ามองโกลไร้กระเ่ีทียมทาน.. ในทุ่งหญ้า.... ที่ราบกว้าง ที่ใหนที่ม้าวิ่ง ได้ ทหารมองโกลเป็นต่อ ตลอด แต่ เจอ ดินแดน ที่เป็นป่า ม้าเข้าลำบาก ยิงธนู ก็ติด..ต้นไม้ แบบ พม่า เวียดนาม ลาว เข้าไป.. มองโกล ก็ ซีดครับ ทหารมองโกล ยกทัำพใหญ่ไป คาดว่า จะเจอ กองทัพ ช้าง ม้าวัวควายม าให้การต้อนรับ แบบ พม่า ครับ แต่คิดผิดครับ อันนัม นี่ เล่น ทัำพกองโจร ตลอดครับ.... เจอแบบนี้ กองทัำพ  5000 คน จะเหลือไม่ถึงครึ่ง กุบไลข่าน จึงนำกำลังเสริม มาอีก 15000 .......  นำโดย แม่ทัพอะตาไฮ แต่อย่างที่บอก ครับ ทหารมองโกล ชอบ หนาวจัด ร้อนจัด แต่เกลียด ร้อนชื้น ครับ.... เกลียดมาก เจอไข้ป่า ไข้มาลาเลีย  โรคท้องร่วง อาหารบูด เป็นพิษ (อาจจะโดนผสมปลาร้า ให้กิน) สงคราม ระหว่าง อันนัม กับมองโกล ยืดเยื้อมาก สุดท้าย กุบไลข่าน ยกทัพใหญ่มาเองครับ..... กะ มาถล่ม จำปา กับ อันนัม ให้ราบ (จำปา อยู่แถบลาวเขมร จึงต้องตีผ่านอันนัม ซึ่งคือ เวียดนามก่อน) จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 21:33:10