ความคิดเห็นที่ 1   1. สุขภาพสมบูรณ์พร้อมที่จะบริจาคเลือด อายุระหว่าง 17-60 ปี 2. นอนหลับเพียงพอไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง 3. มีอาการท้องเสีย ท้องร่วงภายใน 7 วันก่อนบริจาคเลือดหรือไม่ เพราะผู้บริจาคจะอ่อนแอรับประทานไป ส่วนผู้รับเลือดอาจได้รับเชื้อที่มากับเลือดได้ด้วย จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:32:36

ความคิดเห็นที่ 2   4. ใน 3 เดือนที่ผ่านมา มีอาการน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคเบาหวาน ธัยรอยด์เป็นพิษ เครียด วิตกกังวล ก็ไม่ควรบริจาคเลือด จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:33:58

ความคิดเห็นที่ 3   5. ภายใน 3 วันก่อนบริจาคเลือด คุณรับประทานยาแอสไพริน ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้ปวดข้อหรือไม่ เพราะอาจทำให้มีเกล็ดเลือดผิดปกติได้ เลือดแข็งตัวช้า บวมช้ำง่าย เลือดที่บริจาคไปก็จะไม่มีคุณภาพ 6. รับประทานยากแก้อักเสบภายใน 14 วัน หรือยาอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งต้องระบุ ให้ทราบ เพราะผู้บริจาคเลือดที่ได้รับยาแก้อักเสบแสดงว่ามีการติดเชื้ออยู่ ซึ่งอาจแพร่เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดของผู้รับเลือดและอาจทำให้แพ้ยาได้ จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:34:55

ความคิดเห็นที่ 4   7. คุณเป็นโรคหอบหืด ลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง ไอเรื้อรัง วัณโรค โรคภูมิแพ้ หรือไม่เพราะการบริจาคเลือดทำให้ต้องสูญเสียเลือดอย่างรวดเร็ว อาจจะกระตุ้นให้มีการกำเริบได้ จึงไม่ควรบริจาคเลือด โรคผิวหนังบางชนิด โรคติดต่ออย่างวัณโรค ไอเรื้อรังก็ไม่ควรบริจาคเลือด 8. เคยเป็นหรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคตับอักเสบ ผู้ที่เคยเป็นโรคตับอักเสบแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชนิดใด หรือไม่แน่ใจว่าหายขาดไม่มีเชื้อแล้วหรือไม่ ก็ควรเลื่อนการบริจาคเลือดออกไปจนกว่าจะทราบว่าเลือดของคุณปลอดเชื้อแล้ว จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:36:44

ความคิดเห็นที่ 5   9. เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ไต ธัยรอยด์ มะเร็ง โรคโลหิตออกง่ายหยุดยาก เป็นต้น เพราะโรคเหล่านี้ล้วนมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งต้องใช้ยารักษาควบคุมรักษาอย่างต่อเนื่อง และถ้าไม่ดูแลตนเองให้ดี อาจมีผลข้างเคียงของยาหรือมีโรคแทรกซ้อนที่ทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ ควรพิจารณาดังนี้ - โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานอนุโลมให้บริจาคเลือดได้ ถ้าใช้ยาควบคุมได้ดีอย่างอย่างต่อเนื่องและต้องเป็นเพียงโรคใดโรคหนึ่งเท่านั้น - โรคหัวใจทุกชนิดต้องงดบริจาคเลือด - โรคไตชนิดเรื้อรังต้องงดบริจาคเลือด ถ้าเป็นชนิดอักเสบเฉียบพลัน และรักษาหายขาดภายใน 1 ปี สามารถบริจาคเลือดได้ - โรคธัยรอยด์ชนิดไม่เป็นพิษต้องรักษาหายแล้ว ถ้าเป็นชนิดเป็นพิษแม้รักษาหาย และหยุดยาแล้วก็ไม่ควรบริจาคเลือด - โรคมะเร็งทุกชนิดไม่ควรบริจาคเลือด รักษาหายแล้วก็ตาม เพราะไม่สามารถทราบสาเหตุและตำแหน่งการกระจานหรือแฝงตัวของโรค - โรคโลหิตออกง่าย-หยุดยาก เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ ควรงดบริจาคเลือด เพราะมีโอกาสเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมากและเลือดหยุดยาก - โรคเรื้อรังอื่นๆ ควรงดบริจาคเลือด จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:38:39

ความคิดเห็นที่ 6   10. ถอนฟันภายใน 3 วันที่ผ่านมา เหงือกอาจจะอักเสบและมีบาดแผลในช่องปาก เป็นทางนำเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้ 11. คุณหรือคู่ของคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับผู้อื่น ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์สูง โรคบางชนิดมีระยะฟักตัวนาน อาจตรวจไม่พบเชื้อ เช่น HIV จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:40:04

ความคิดเห็นที่ 7   12. ได้รับการผ่าตัดใหญ่ภายใน 6 เดือนหรือผ่าตัดเล็กภายใน 1 เดือน เนื่องจากการผ่าตัดใหญ่ทำให้มีการเสียเลือดมาก ร่างกายต้องใช้เวลาและสารอาหารในการซ่อมแซม ควรงดบริจาคชั่วคราว ส่วนผ่าตัดเล็กที่เสียเลือดไม่มาก ควรรอให้แผลหายก่อนค่อยบริจาคเลือด 13. เจาะหู สัก ลบรอยสัก ฝังเข็ม ในระยะ 1 ปี มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อโรคติดเชื้อที่มีการส่งต่อทางเลือดและน้ำเหลือง ซึ่งผู้ที่ได้รับเลือดอาจติดไปด้วย 14. เคยมีประวัติยาเสพติดหรือพ้นโทษในระยะ 3 ปี มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อโรคที่มีการส่งต่อทางเลือดและน้ำเหลือง จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:44:31

ความคิดเห็นที่ 8   15. เคยเจ็บป่วยและได้รับเลือดจากผู้อื่นในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับเลือดคนอื่นจะมีการสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาในระบบโลหิต ถึงแม้จะมีการตรวจหากลุ่มเลือดหลักที่เข้ากันได้ แต่กลุ่มย่อยที่ไม่สามารถหาได้ตรงกันหมด ก็ยังคงเป็นปัญหาของผู้ได้รับเลือด 16. เคยฉีดวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือฉีดเซรุ่มในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา การฉีดวัคซีนเป็นการกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันโรคในช่วง 14 วัน จึงควรให้ร่างกายได้ทำงานเต็มที่ การฉีดเซรุ่มต้องติดตามดูโรคนั้นๆ 1 ปี 17. เคยเข้าไปในพื้นที่ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุมในระยะ 1 ปี หรือป่วยเป็นมาเลเรียในระยะ 3 ปี ถ้าไม่ได้รักษาให้หายขาด เชื้อสามารถแอบแฝงอยู่ในร่างกายโดยไม่ได้แสดงอาการรุนแรง จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:46:20

ความคิดเห็นที่ 9   18. คุณผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างรอบเดือน ไม่ควรให้ร่างกายมีการเสียเลือดซ้ำซ้อน ควรรอให้หมดประจำเดือนก่อน 19. คนที่คลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา จะมีการเสียเลือดมาก ร่างกายต้องการเวลาในการปรับตัวและสร้างเลือดขึ้นมาใหม่ ควรงดบริจาค 6 เดือน 20. อยู่ในระหว่างให้นมบุตรหรือตั้งครรภ์ น้ำนมผลิตขึ้นมาจากเลือด การเสียเลือดในการบริจาคจะทำให้น้ำนมลดน้อยลงหรือหมดไป จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:47:46

ความคิดเห็นที่ 10   พิจารณาจบ 20 ข้อนี้แล้ว สำหรับคุณที่ผ่านเกณฑ์ว่ามีเลือดมาตรฐานก็ยินดีด้วย แต่สำหรับคุณบางคนที่ยังไม่แน่ใจก็อย่าเสียใจที่ไม่ได้ทำกุศลยิ่งใหญ่นี้เลย เพราะยังมีอีกหลายทางให้คุณได้เผื่อแผ่บุญกุศลค่ะ ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today ปล. ขออภัยที่ตั้งที่หว้ากอ จริงๆ น่าไปตั้งที่ สวนลุม แต่ด้วยความเคยชิน - -" จากคุณ : โอชิน77 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 14:53:14

ความคิดเห็นที่ 11   ผมบริจาคอยู่ตามสะดวกน่ะครับ รู้สึกว่าถ้าเกิดตรวจเจอโรคอะไรขึ้นมา เขาจะแจ้งมาด้วยนะครับ PS ชอบรูปประกอบ คห6 XD จากคุณ : Porize เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:08:22

ความคิดเห็นที่ 12   กระทู้ อินเทรนด์ จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:17:17

ความคิดเห็นที่ 13   คห.12 ใช่1ล้านซีๆรึปล่าวครับ ^~^ จากคุณ : skullman เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:50:27

ความคิดเห็นที่ 14   เขาไม่ได้เอาไปบริจาคฮะ เขาเอาไปเทกระจาด คงไม่ต้องปฏิบัติตามข้อควรรู้ต่างๆ เหล่านี้ก็ได้มั้ง ปล. เห็น คห.6 แล้วอยากเป็นคนไปเจาะเลือดเขาแทน จากคุณ : Rskiz เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:56:28

ความคิดเห็นที่ 15   เห็น คห 6 แล้วอยากร้องเพลง จั๋งซี่มันต้องถอน ดีครับ เพราะผมก็บริจาคอยู่ สงสัยอยู่เหมือนกันว่า 20 ข้อที่ถามเนี่ย บางข้องงว่า มันเป็นความเสี่ยงอย่างไร เช่นการถอนฟัน เจาะหู... จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 15:58:27

ความคิดเห็นที่ 16   อิ อิ.... แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 16:06:07 จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:03:58

ความคิดเห็นที่ 17   นอกจากความพร้อมของผู้บริจาคแล้ว สถานที่และอุปกรณ์ก็สำคัญนะ อะไรแปลกปลอมที่เข้าร่างกายในระบบของเหลวคือการเปิดโอกาสให้เชื้อเข้าตัวผู้บริจาคและผู้รับบริจาคนั่นเอง ดังนั้นอุปกรณ์การบริจาคเลือดต้องเป็นแบบใช้แล้วทิ้งห้ามนำมาเวียนใช้อีก ห้องที่ใช้ต้องมิดชิดความสะอาดระดับหนึ่ง ไม่ใช่ทำกลางแจ้งได้ยกเว้นสภาพไม่อำนวยเช่นเหตุฉุกเฉินรอไปถึงห้อง ER ไม่ได้ก็แทงเข็มข้างถนนเลย ถามมาจากน้อง shoryuken คนข้างล่างนี่แหละ เธอว์บอกว่ารวมแล้วเธอว์รับบริจาคมาเป็นล้านซีซีแล้ว ไม่เกี่ยวกับล้านซีซีวันนี้เน้อ... ห้ามลากเข้าประเด็นร้อนโดยเด็ดขาด จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:05:20

ความคิดเห็นที่ 18   ^ บริจาคน้ำนมแทนดีกว่ามั้งครับ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:31:29

ความคิดเห็นที่ 19   ^ บริจาคน้ำนมแทนดีกว่ามั้งครับ จากคุณ : อั๋น ทรงวุฒิ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:37:52

ความคิดเห็นที่ 20   เข้ามาดูเลือด เหอๆๆๆๆ เลือดคั่ง จนคนดูคลั่งเลยนะนี่ จากคุณ : neungkung เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 16:43:54

ความคิดเห็นที่ 21   อยากให้กิ๊ฟเจ้าของกระทู้ คุณ: โอชิน77 -- แต่กระสุนหมดแล้วอ่ะครับ ขอขอบคุณความรู้ครับ จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:13:05

ความคิดเห็นที่ 22   ใครมีหลอดมั่ง มาดูดเอาเลือดจากรูจมูกผมออกไปหน่อย ตอนนี้มันคัดและหลั่งพรั่งพรูมาเต็มสองรูเลย จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:16:03

ความคิดเห็นที่ 23   บริจาคเลือดทากจมูก... เพราะภาพปลากรอบนี่แล จากคุณ : Mikegelo เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 17:58:20

ความคิดเห็นที่ 24   อ๊างงงง รูปประกอบมัน..... จากคุณ : เจไดน้อย ปี 3 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 18:02:24

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณครับ ชอบปลากรอบ จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 18:38:00

ความคิดเห็นที่ 26   ภาพประกอบแบบนี้ เลือดไหลเวียนดีนักแล จากคุณ : Rumbles เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 18:42:24

ความคิดเห็นที่ 27   ถ้าแบบคห.17นี่ ยอมให้เจาะทั้งตัวเลยครับ หุหุ จากคุณ : na_dol เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 19:18:37

ความคิดเห็นที่ 28   รูปประกอบอาจจะทำให้เลือกกำเดาไหลได้โดยไม่ต้องบริจาค จากคุณ : HunterCotarot เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 19:21:53

ความคิดเห็นที่ 29   อื๋อ....หมั่นไส้ผู้ชายแถวนี้จริงเชียว.. ปล.ถ้าเป็นเรา สิ่งแรกเลยต้องเตรียมทำใจอ่ะ.. เตรียมมาหลายเที่ยวแล้ว ไม่เคยได้บริจาคเลือดสักที... เวลาเห็นเข็ม ไม่รู้ทำไมหน้าซีดก่อนทุ๊กกกที.. จากคุณ : เขิน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 20:13:15

ความคิดเห็นที่ 30   17 เท่านั้น เอ่ออ ... อายุคนบริจาคนะครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่น ไม่ได้คิดอย่างอื่น จริงๆ นะ จากคุณ : BO Lovely เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 21:46:05

ความคิดเห็นที่ 31   สำหรับห้องหว้ากอ กระทู้นี้ เพิ่มเติ่มนิดนึงนะ เผื่อสับสน การบริจาคเลือดต้อง bleed เลือด (เอาเลือดออกมา) 350-450 ซีซี ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่จะเสียได้ต่อุครรั้ง ดังนั้น ครั้งละ 10 ซีซี ไม่ค่อยมีปัญหา (ถ้าไม่เจาะทุกวันติดกัน 35 -45 วัน) แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เชื้อโรคที่อยู่ในร่างกายแต่ละคน ซึ่งไม่ได้ทำการตรวจก่อนเจาะนั่นเอง จากคุณ : Isccy (tatatube) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 22:12:04

ความคิดเห็นที่ 32   เห็นรูปแล้วอยากบริจาคให้ซัก 3 ซีซี อิอิ... จากคุณ : FlyingChicken เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 23:00:30

ความคิดเห็นที่ 33   ไม่เกี่ยวกับเลือด แต่อยากรู้จักชื่อน้องใน คห. 17 ครับ จากคุณ : นายอ๋ำน้อย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 06:41:17