ความคิดเห็นที่ 1 ระยะทางนี้จะกำหนด ด้วยหน่วยใหญ่สุด คือ กิโลเมตร แต่ผมกลัวจะงงกัน ก็ขอเอาหน่อยย่อยลงมาอีกหน่อยนึงครับคือ เมตร เซนติเมตร และมิลิเมตร เราก็จะมาดูกันครับว่า ในการทำความเข้าใจกับระบบวัดแบบ ชาวเรือ กับคนบกนั้นก็จะมีวิธีง่ายๆ ดังนี้ครับ เมตร ซม มิล องศา ลิปดา ฟิลิปดา ที่นี้ข้อแตกต่างมันอยู่ตรงนี้ครับ จากเมตร ถึง เมตร มี 100 ซม จาก ซม ถึง ซม มี 10 มิล จาก องศาถึงองศา มี 60 ลิปดา จากลิปดาถึงลิปดา มี 60 ฟิลิปดา จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 19:42:15

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าใครที่ช่างสังเกตหน่อยก็จะเห็นว่าในระยะหนึ่งลิปดา ทำมัยมันไม่มีหกช่องหว่าใหนว่าจะเป็น หกสิบฟิลิปดางัยหละท่าน  มัยมันลงตัวที่สิบช่องอ่า คับ...... แล้วทำมัยพี่หน้าไม้บอกว่ามัน 60 อ้า.....แง๊.... คือที่เราท่องๆกันมานั้นมันเป็น อาขยานหน่วยวัดครับ ในชีวิตจริงมันง่ายกว่านั้นเยอะ  เรานับกันอย่างนี้ 1 องศามี 60 ลิปดา  และใน1 ลิปดา มี 10 เคเบิ้ล เห็นมัยครับง่ายออก ไม่ต้องเอาเป็นเอาตายกันที่ฟิลิปดาด้วย และก็จริงๆครับ วิชานี้บางทีมันก็โกงกันง่ายๆอย่างนี้แหละครับ ที่นี้ เมื่อเราพอจะมองออกถึงหน่วยใหญ่หน่วยย่อยกันแล้ว ก็จะมารู้จักกับวิธีวัดตำบนที่ ของวัตถุต่างๆในแผนที่เดินเรือกันครับ โดยผมจะใช้แผนที่เดินเรือฉบับ ราชนาวีไทย หมายเลข 142 โดยจะวันยอดเขาของ เกาะเหลี่ยม กันใครวัดได้เท่าใหร่ บอกด้วย แด๋วจะกลับมาตอบ รูปผิด รอแปร๊บ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 53 19:51:54 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 19:44:49

ความคิดเห็นที่ 3 อะรูปจริง จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 20:21:23

ความคิดเห็นที่ 4   ยอดเกาะเหลี่ยม Lat : 12ฐ 57' 24'' เหนือ ครับ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 22:17:43

ความคิดเห็นที่ 5 น่านมีคนตอบถูกด้วย แจ๋วสุดๆ มาดูกันครับ ถ้าใครวัดได้อย่างอื่นนอกเหนือจาก 12 องศา 57.4 ลิปดา เป็นอันว่าผิด 555 คือถ้าใครได้ 13 องศา กว่าๆ ผมก็ว่าไม่แปลกครับ ผมก็เคยตอบอย่างนั้น เพราะเราเห็น เลข 13 ก่อน แล้วเราก็วัดลงมา มันก็เลยผิดครับ ความจริงเราต้องวัดจากล่างขึ้นบน ครับ ถ้าสงสัยก็ให้ย้อนกลับไปดูกระทู้ที่แล้ว จะเห็นได้ว่ามันเริ่ม ศูนย์องศาที่เส้นสูตร หรือ อีเควฯ จากนั้นก็สูงขึ้นเรื่อยๆจนถึง 90 องศาที่ขั่วโลก ฉ่านั้น การวัดคราวนี้  เมื่อเราเห็นเลข 13 องศา ก็ให้เอาเลข 12 องศา ไว้ในใจเอ๊ย ม่ายช่ายยยย ให้เขียนลงไปก่อนกันพลาด ว่าแล้วก็ ใส่ก่อนไปเลย “12 องศา” จากนั้นก็ดูเลขลิปดาตัวที่ใกล้ที่สุด ได้เลข 56 จากนั้นก็ อ๊ะๆๆ อย่าพึ่งนะครับ จำได้มัยว่ามันมี 60 ลิปดา เป็นหนึ่งองศา  เหอๆ เอ้าต่อๆๆๆ 56 แล้วก็ต้อง 57 58 59   สุดท้าย 13 องศา เส้นของเรานั้นมันอยู่ระหว่างนั้น สังเกตอีกที่มันมีเส้นโปร่งกับเส้นทึบ ก็หมายความว่า โปร่งละหนึ่งลิปดา ทึบอีกหนึ่ง ลิปดา ของเรามัน 56 ไปอีกหนึ่งโปร่ง มันก็เป็น 57 ครับ กับเศษครับ ก็เขียนไปว่า “12 องศา 57 ลิปดา “ ที่นี้มันเหลือเศษอีกหน่อย สังเกตได้ว่าเกือบๆจะครึ่ง ก็ใส่ไปเท่ากับ 4 หรือจะเอาเป็นลิปดา ก็ไม่ยากครับ ครึ่งๆ ก็ 30 ฟิลิปดา นี่ไม่ถึงครึ่ง เอาซะ 24 ลิปดา ผู้การไม่ว่าหร๊อก จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 23:42:32

ความคิดเห็นที่ 6 พอได้แลตแล้ว ก็มาหา ลองติจูดกัน แต่ก่อนจะไปถึงนั้นต้องขอทวนอีกนีส์นุง คือ 12 องศา 57.4 ลิปดาเหนือนี้ หมายถึง เราอยู่ห่างจาก เส้นศูนย์สูตร 12 องศา 57.4 ลิปดา นะครับส่วน ลองนั้นมันก็มาอีหรอบเดียวกันครับ เพียงแต่ ต่างท่าทางเท่านั้นเอง จากแผนที่ เมื่อมองไปทางขวา ก็จะเจอที่ 101 องศาตะวันออก เหมือนเดิมครับ เอา 100 เขียนไปก่อนเลย เพราะตำบนที่ของเราอยู่ทางซ้าย ขององศาที่ 101 ก็แปลว่าไม่ถึง เมื่อไม่ถึง ก็ 100 องศาไว้ก่อน เมื่อมองไล่จากลิปดาที่ 34 ก็จะนับได้ว่า ทึบ โปร่ง ทึบ = 1+1+1 เท่ากับ 34+3=37 ใส่ไปก่อน เศษแด๋วค่อยทอน พี่ไม่รีบ 100 องศา 37 ลิปดา ส่วนเศษตัวนั้น ผมใส่ .2 ครับ หรือใครจะแตกมาเป็นลิปดาก็ได้ครับวิธีก็ง่ายๆ เอา 60 / 10 ได้ 6 ฟิลิปดาต่อช่อง นับได้กี่ช่องก็คูณด้วย 6 อย่างกรณีนี้มันได้ .2 ก็ได้เท่ากับ 12 ฟิลิบดาครับ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:06:45

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อเรารู้วิธีวัด ทั้งแลต ทั้งลองแล้ว ขั้นต่อมาก็คือการ ขีดเข็มเดินเรือหรือการกำหนดเส้นทางเดินเรือนั้นเอง ผมจะพาเพื่อนๆ ชาวหว้ากอ(และห้องอื่นที่แอบดู ฮั่นแน่รู้นะ)เดินทางจาก ประภาคารนำร่องปากน้ำเจ้าพระยา ไปทิ้งสมอที่ ปลายเกาะคราม ซึ่งจะมีจุดเปลี่ยนเข็มอยู่สามจุด หรือในภาษาผมคือทั้งหมดสามเข็ม 1. เกาะเหลี่ยม 2. เกาะมารวิชัย 3. เกาะริ้น ผ่านเกาะริ้นแล้วให้นายประจำเรือทุกนาย เตรียมการทิ้งสมอ ทั้งหมดรับทราบ แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 53 00:25:07 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:06:59

ความคิดเห็นที่ 8 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 53 00:32:21 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:24:20

ความคิดเห็นที่ 9 เข็มแรก ประภาคารไปเกาะเหลี่ยม จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:33:53

ความคิดเห็นที่ 10 เข็มสอง เกาะมารวิชัย จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:38:14

ความคิดเห็นที่ 11 เข็มสามเข้าทิ้งสมอ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 00:44:57

ความคิดเห็นที่ 12 ทั้งหมดนี้เป็นภาพใหญ่ ร่างคร่าวให้เข้าใจถึงวิธีอ่าน แลต ลอง และวิธีกำหนดเส้นทางเดินเรือ หยาบๆ ขอนอนก่อนแล้วกันครับ แด๋วจะมาอัพเรื่องของรายละเอียดแต่ละเข็มๆ ว่าเห็นง่ายๆ แบบนั้นกว่าจะได้มานี่ หัวหมุนตาลายพอสมควรครับ ถ้าใครยังคิดว่า อาชีพชาวเรือ มันงานง่าย เงินดี ผมว่าตอนนี้ยังมีเวลากลับใจทันนะครับ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 01:00:25

ความคิดเห็นที่ 13 วันก่อน นั่งเครื่องไป ภูเก็ต ในจอเขามีฉายให้ดู ทิศทาง และเส้นทางเดิน ของ เครื่องด้วย เป็น GPS ต่อมา พอถึง ภูเก็ต ก็นั่งเรือไป เกาะ PP ในเรือ ก้อมี จอใหญ่ๆ แสดงเส้นทางที่เรือแล่น + ตำแหน่ง เกาะ PP ด้วย รวมถึง มี graphic แสดง แนวทาง คร่าวๆ ที่เรือกจะแล่นไปด้วย เป็น GPS เหมือนกัน วันนี้การเดินเรือคงง่ายขึ้นมาก --------------------------- ที่ผม อยากรู้คือ แล้วเราจะวัดกระแสน้ำอย่างไรครับ เช่น ตามภาพใน # 11 ชั่วโมงแรก กระแสน้ำ พัดไปทาง ทิศตะวันตก แล้วชั่วโมงที่สอง กระแสน้ำ พัดไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ อย่างนี้เราทำไงครับ  แล้ว เราจะวัดความเร็วกระแสน้ำ มาหา Vector รวมกับความเร็วเรืออย่างไรครับ --------------------------- วันนี้อาจทำไม่ยาก  แต่วันก่อน ครั้งที่ยังใช้ ใบแล่นอยู่นี่ดิ ไม่รู้ว่า แขก จีน ฝรั่ง เขาทำไงครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 07:46:29

ความคิดเห็นที่ 14   เวลาผมนำเรือจากป้อมพระจุล ฯ ไปฐานทัพเรือสัตหีบ ส่วนมากจะยิงตรงจากทุ่นไฟปากร่อง ---> เข้าช่องเกาะไผ่-เกาะล้าน ---> ถึงหัวเกาะครามผมก็ซ้ายเข้าช่องครามน้อยไปเลย (ผ่านเกาะรางเกวียน) เพราะมันลัดดีครับ เคยลองเทียบไมล์แล้ว save ไปได้ 6 ไมล์กว่า ๆ เลย เรือชุดสุรินทร์ สีชัง ผ่านช่องครามน้อยมันส์มาก ๆ ,,แต่ผมก็ชินแล้วครับ เพราะเวลาฝึกภาคนักเรียนนายเรือ นักเรียนจ่า ผมเข้าหมู่เกาะอ่างทองปีละ 3 ครั้งอยู่แล้ว และเข้าร่องน้ำเจ้าพระยาไปจอดที่กองเรือยกพลขึ้นบก (บางนา) บ่อยมาก จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 10:32:01

ความคิดเห็นที่ 15 เออ พี่หน้าไม้ใจเย็น กับ คุณกัปตัน James Cook ทำงานอะไรกันเหร๊อครับ เป็นทหารเรือหรือเปล่าครับ ? จากคุณ : Navyblue1990 เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 10:51:11

ความคิดเห็นที่ 16 James Cook   คือผมต้องวิ่งเข็มนี้ครับ สาเหตุ คือมันย่อแผนที่ไม่ได้ แด๋วดูไม่รู้เรื่อง ส่วนช่องครามนี้ผมก็เข้าบ่อยครับ เพราะอยากดูหินหลักเบ็ด เป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันมากตั้งแต่สมัยเรียนแล้วว่าหากจบเมื่ใหร่สิ่งที่ไปทีแรก ก็คือช่องคราม ทักทายหินหลักเบ็ด ชื่นชมเกาะโรงโขนโรงหนัง แห๋มนึกแล้วอยากกลับเรือตะหงิดๆ 555 ส่วนในกระทู้นี้ก็ต้องเข็มนี้ครับ แด๋วตาลายดูไม่รู้เรื่อง ครับผม จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 12:15:15

ความคิดเห็นที่ 17 Navyblue1990  คือท่าน James Cook นี่น่าจะมาจาก นนร ครับ ส่วนผมเดินเรือพานิชย์ วิชาเดินเรือก็แตกต่างตามผู้สอนครับ ส่วนตำรานี่เราใช้เล่มเดียวกันครับ ที่กล้าพูดอย่านี้เพราะ ประเทศไทยมีอยู่เล่นเดียวครับ และัเป็นรกฐานของหนังสือเล่มต่อๆมา คือหนังสือเดินเรือของ "ครูเจียม อัมระปาน" ครับผม แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 53 12:19:36 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 12:18:52

ความคิดเห็นที่ 18   อ้อ ... รับทราบครับ พี่หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง พี่แสดงเข็มนี้เพื่อการอธิบายนั่นเอง เรียนคุณ Navyblue1990 ผมเป็นทหารเรือครับ แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ประจำในเรือแล้ว พี่หน้าไม้ ฯ กล่าวถูกต้องแล้ว หนังสือเดินเรือครูเจียม ฯ เป็นสุดยอดของตำราจริง ๆ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 14:33:04

ความคิดเห็นที่ 19 ตามมาจองที่ไว้ก่อนครับ จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 16:49:31

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณ จขกท มากครับ รบกวนนิดนะครับ หลังจากหมดชุดเหล่านี้แล้ว รบกวนขอเรื่องขับเรือแบบคร่าว ๆ ที่ด้วยนะครับ ติดเครื่องยังไง ทรงต อัวยังไงอกตัวยังไง ทิ้งสมอ ผูกเชือกเทียบท่ายังไง คนนอกวงการหลายคนสงสัย ว่าเรือลำใหญ่มาก กว่าจะแล่นได้นี่คงขับยากน่าดู จากคุณ : Lecter เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 53 00:36:24