ความคิดเห็นที่ 1 มารออ่าน //กอด จากคุณ : Disco de vinilo เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 00:16:48

ความคิดเห็นที่ 2 ชื่อหนังสือ:  ยี่หวา ไชนาทาวน์ ผู้เขียน: หลง.  หวัง ซาน หยวน ('รงค์ วงษ์สวรรค์) สำนักพิมพ์: openbooks จำนวนหน้า: 432 หน้า เนื้อหา/เรื่องย่อคร่าวๆ “ยี่หวา ไชนาทาวน์” สารคดีเล่มสุดท้าย… 'รงค์ วงษ์สวรรค์ คำโปรยหลังปก ไชนาทาวน์ไม่เป็นนกและไม่เป็นปลา แต่เป็นส่วนผสมปนเปอย่างไม่กลมกลืน และไม่แนบเนียน คุณมองหาความเป็นจีน แต่ในเวลาเดียวกันคุณสงสัยว่าเป็นจีนแค่ไหน? ถ้าคุณยอมรับว่าบางส่วนควรเป็นอเมริกัน แต่เป็นอเมริกันหรือเปล่า “ยี่หวา ไชนาทาวน์ สารคดีนี้เขียนโดยประสบการณ์นานปี ของผู้เขียนใน แซน แฟรนซิสโก ผ่านการรู้จักเป็นเพื่อนกับคนจีนหลายคน การอ่านเพื่อศึกษา และเพื่อนการอ้างอิงบนโต๊ะทำงานหลายเล่ม โดยนักเขียนผู้ได้รับการยอมรับนับถือ อาทิ Jade Snow Wong  ผู้เขียน  FIFTH CHINESE DAUGHTER Linda Perrin ผู้เขียน COMING TO AMERICA:  Immigrants from the Far East Curt Gentry ผู้เขียน THE MADAMS OF SAN FRANCISCO และรายงานข่าวเก็บไว้ในแฟ้มจากหนังสือพิมพ์จีนภาษาอังกฤษ พิมพ์จำหน่ายในไชนาทาวน์“ นี่คือสิ่งที่ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เขียนไว้ในหน้า 322 คงอธิบายเนื้อหาของหนังสือในเล่มนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ ความคิดเห็น/ความรู้สึกที่มีต่อหนังสือ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2538 'รงค์ วงษ์สวรรค์ พญาอินทรีแห่งสวนอักษร ผู้ล่วงลับ สำนวนท่านเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครจะเลียนแบบได้ คนไม่ชอบบางคนบอกว่าท่านเป็นคนใช้ภาษาวิบัติ บางคนว่าท่านใช้คำหยาบคาย แต่คนที่ชอบท่านบอก ภาษาท่านสวิงสวาย เรียกให้วิไลว่าสำนวนเพรียวนม แม้หนังสือเล่มนี้จะจัดอยู่ในประเภทสารคดี ตามบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งขาติว่าเป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่อง ของ “วัฒนธรรมจีน” แต่สำนวนของท่านก็ทำให้อ่านสนุกอ่านเพลินไม่แพ้หนังสือเชิงบันเทิงเล่มอื่นๆ ของท่าน แม้แต่น้อย ท่านเล่าตั้งแต่ครั้งคนจีนรุ่นแรกๆ อพยพมาอเมริกา สร้างเนื้อสร้างตัวตั้งแต่กรรมกรในเหมือง จนบางคนรุ่งเรือง เป็นเศรษฐี เป็นเจ้าพ่อ ผ่านการโดนกดขี่เหยียดหยามจากพวกผิวขาวผู้เป็นเจ้าของแผ่นดิน เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของไชน่าทาวน์ ตั้งแต่เริ่มแรก จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจผิดกฎหมาย การคอรัปชั่น การดิ้นรน ให้อยู่รอด การพยายามรักษาวัฒนธรรมของคนจีนรุ่นเก่า การก้าวสู่วัฒนธรรมใหม่ของคนหนุ่มสาว กับการลืม เลือนความเป็นจีน ที่เหลือเพียงเปลือก พร้อมกับการสอดแทรกเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยสำนวนสวิงสวาย ของท่าน อย่างตอนนึงท่านเล่าถึงความเป็นมาของบร็อคโคลีไว้ว่า “...เมล็ดผักที่ใส่ไถ้ผูกเอวมาโรยฝังลงในหลุม...กว่างโจวถึงอยุธยาและกรุงเทพฯ รู้จักกันในชื่อ--คะน้า... นานหลายนานต่อมาคนอังกฤษผู้เป็นพรานล่าอารยธรรมจึงเอื้อมมือซุกซนเอาไปสังวาสกับกะหล่ำปลีและกะ กล่ำดอก แปรพันธุ์สำส่อน เป็นกะหล่ำปม หรือ บร็อคโคลี เรียกตามชื่อของคนอังกฤษผู้นั้น Mr. Broccoli” และที่ขาดไม่ได้ในความเป็น ‘รงค์ วงษ์สวรรค์คือเรื่องอาหารการกินค่ะ ท่านแทบจะแทรกไว้ในทุกบทของ หนังสือเล่มนี้ คนที่ชอบอาหารจีนน่าจะอ่านเพลินไปอีกแบบ สุดท้ายขออนุญาตแถมเมนูให้หนึ่งเมนู คุ้นๆ ว่ามีใครสักคนโปรดอาหารจานนี้เป็นพิเศษ “ช็อพสุยต้นตำรับไชนาทาวน์ หัวหอมอันเนียน (onion) ¾ ถ้วย ซเลอรีย์ (คึ่นไช่เทศ = celery) ¾ ถ้วย เอาลงผัดกับน้ำมันพืชนาน 2 นาฑี lard น้ำมันหมูอร่อยกว่า คนรวยเพื่อสุขอนามัย น้ำมันโอลีฟว์ extra virgin เกลือ ½ ช้อนชา ผัดคลุกเนื้อหมูหั่นชิ้นพองามหลายชิ้น ปิดฝาทิ้งไว้นาน 1 นาฑี เปิดฝาราดเกรวีย์ปรุงจากแป้งข้าวโพดกับน้ำ น้ำตาล soy sauce กับไข่ (ขาวและแดง) ถั่วงอก (bean sprouts) ½ พาวด์ คลุกเคล้ากันผัดพอสุกแล้วราดบนข้าวในจาน กระทะไม่ใช้ก้นแบนแบบ frying pan ขอแนะนำว่าใช้กระทะเหล็กแบบจีนเรียกว่า wox” จากหน้า 386 อ้อๆ เกือบลืม กระซิบบอกกันนิดนึงค่ะว่ายี่หวา ไม่ใช่ดอกไม้ และไม่ใช่ชื่อหญิงสาว แต่จะเป็นอะไรนั้น หนังสือ เล่มนี้มีคำตอบแน่นอน จากคุณ : ลูกไก่พองลม เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 01:36:49

ความคิดเห็นที่ 3 //เข้ามาดู เก๊า review ขายหัวเราะได้มั้ยอ่าเตง..... จากคุณ : Fancy ง่าย เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 08:58:10

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันคะ ดีจังเลยที่มีโครงการดีๆแบบนี้ หนังสือเล่มโปรดมีหลายเล่ม แต่ที่ชอบและสอนให้เราได้รู้หลายๆเรื่องคือ เรื่อง เยือกเย็น ร้อนแรง จะมีสองเล่มด้วยกัน (หลายๆคนคงได้อ่านแล้ว) ชื่อหนังสือ เยือกเย็น : BLU โดย   ท์ซึจิ ฮิโตนาริ/ สมเกียรติ เชวงกิจวณิช : แปล สำนักพิมพ์ อิมเมจ พิมพ์รวมเล่ม ครั้งแรก : ตุลาคม 2545, 241 หน้า นิยายรักโรแมนติกสองเล่ม ในชื่อเดียวกันว่า REISEI TO JONETSU NO AIDA 'ระหว่างความเยือกเย็นและร้อนแรง' ซึ่งเกิดจากการเขียนสลับกัน ของนักเขียนหนุ่มสาวยอดนิยมของญี่ปุ่น ก่อนจะนำมารวมเล่ม แบ่งเป็นมุมมองของฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง คือ ฝ่ายหญิงหรืออาโออิ ในเล่มชื่อ ROSSO ร้อนแรง และฝ่ายชายหรือจุนเซ ในเล่มชื่อ BLU เยือกเย็น โดยสามารถแยกเล่มอ่านได้อย่างสนุกสนานซาบซึ้ง อาโออิ หนอนหนังสือสาวผู้รักสงบ และจุนเซ ชายหนุ่มอารมณ์อ่อนไหว ผู้คลุกคลีอยู่ในโลกแห่งศิลปะ ทั้งสองมีความรักอันดื่มด่ำ แต่กลับต้องจึงจุดแตกหัก โดยมีคำสัญญาว่าอีก 10 ปีข้างหน้า จะกลับมาพบกันอีกครั้ง คำสัญญาที่ให้ไว้จะมั่นคง หรือเป็นเพียงควันจาง เส้นทางชีวิตของอาโออิกับจุนเซ จะลากมาบรรจบกันหรือไม่ มีแต่สองหนุ่มสาวเท่านั้นที่รู้ ชื่อหนังสือ : ROSSO ร้อนแรง เขียนโดย : เอคุนิ คาโอริ แปลโดย : ขวัญใจ แซ่คู สำนักพิมพ์ : Bliss Publishing จำนวน 252 หน้า ....และค้นหารอยอาวรณ์ของอาโออิต่อจุนเซได้ ROSSO ร้อนแรง จากปลายปากกาของเอคุนิ คาโอริ นักเขียนสาวยอดนิยม ที่รับบทสื่ออารมณ์ละเมียดละไม ลึกซึ้งของผู้หญิง และพบกับอารมณ์ถวิลหาของจุนเซ ที่มีต่ออาโออิได้ใน BLU เยือกเย็น โดย ท์ซึจิ ฮิโตนาริ นักเขียนหนุ่มมากความสามารถ ที่ถ่ายทอดอารมณ์รักอันแปรปรวนของจุนเซ ด้วยภาษาที่โรแมนติกแต่เข้มข้นน่าติดตาม ความรู้สึกจากการอ่าน..     อดีตเป็นความสวยงามได้ อยู่ที่เราเลือกว่าจะอยู่กับอดีตที่ไม่มีวันหวนคืน หรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง     นวนิยายชุดนี้เป็นความโรแมนติกสมัยใหม่ ที่เขียนอ่านได้เพลินจากมุมมองที่สะท้อนค่านิยมตะวันออกรุ่นใหม่  การอ่านเรื่องนี้จึงน่าติดตาม ถึงกะไม่อยากจะวางหนังสือเลยทีเดียว โดยเฉพาะน่าจะถูกใจมากกับผู้อ่านในอารมณ์ที่อยากโรแมนติก เรื่องชุดนี้จะสร้างความบันเทิงใจแบบเบาสบายได้ไม่น้อย  ชวนให้ติดตาม และลุ้นไปกับเรื่องของคนสองคน ว่าเค้าจะมาเจอกันรึป่าว ....เรื่องทั้งสองจบลงในเวลาที่เหมาะสมที่ให้เราคาดเดาเองกับอนาคต เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ตัวละครทั้งคู่ไม่เคยอยากรู้เลย   .....เกี่ยวกับผู้เขียน เอคุนิ คาโอริ เกิดปี 1964 ที่โตเกียว มีผลงานเขียนได้รับรางวัลมากมาย ผลงานแทบทุกเล่มได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์กับละครทีวี .....เกี่ยวกับผู้เขียน ท์ซึจิ ฮิโตนาริ เกิดปี 1959 ที่โตเกียว เป็นนักเขียน กวี ศิลปินเพลงร็อค ดีเจ ช่างภาพ ผู้กำกับภาพยนตร์ มีผลงานเขียนได้รับรางวัลหลายเล่ม นวนิยายหลายเรื่องได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ รวมถึงเรื่อง Blu ด้วย แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 53 09:16:00 จากคุณ : *-*topiw*-* เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 09:14:12

ความคิดเห็นที่ 5 กีบหมดแล้วน้องปิว ติดไว้ก่อนนะคะ สองเล่มนี้เอาปกมาวางคู่กันเป็นภาพต่อกันใช่ป่ะคะ อีกเล่มสีชมพู สนุกค่ะ ชอบมากเหมือนกันเลย จากคุณ : ลูกไก่พองลม เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 10:14:27

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพประกอบ#0  คนเดียวกะ #3 หรอ ??? จากคุณ : เซะซี่จัง >,< (woowoowoo13) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 11:01:23

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ที่ไหนล่ะคะ.. เค้าให้มาดูหนังสือ ดันมาดูหนังสาว   แต่ดูแล้วก็คล้ายนะ.. ดำๆ เหมือนกัน จากคุณ : Fancy ง่าย เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 11:34:19

ความคิดเห็นที่ 8 มาหาหนังสืออ่าน จากคุณ : say a words เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 12:39:40

ความคิดเห็นที่ 9 . . แอบแวะเข้ามาด้วยความละอาย...ติดรีวิวใครไว้ รอแปบนะคะ นะคะ //นะนะ จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 13:35:53

ความคิดเห็นที่ 10 เหมือนเคย เอาของเก่ามาแปะใหม่ -*- จันทราปฏิวัติ(The moon is a harsh mistress)แปลโดย ดร ยรรยง เต็งอำนวย เป็นหนึ่งในผลงานเอกของ โรเบิร์ต เอ ไฮน์ไลน์ ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามเสาหลักแห่งนิยายวิทยาศาสตร์(ร่วมกับ อาเธอร์ ซี คล้าก และ ไอแซค อาซิมอฟ) หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลฮิวโก ในปี 1966  เป็นนิยายเล่มแรกของเขาที่ผมได้อ่าน แม้ว่าจะเคยผ่านตางานชิ้นอื่นของเขามาก่อนแล้วก็ตามที(Starship trooper ) ในเรื่องนี้ ไฮน์ไลน์ ไม่ได้เทคโนโลยีจ๋า แบบ คล้าก ที่แทบจะต้องอ่านไปพร้อมกับพลิกสารานุกรม ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้เบาหวิว จนเหลือแต่คอนเซ็ปแบบอาซิมอฟ ไฮน์ไลน์ สร้าง นครจันทรา ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ จะเป็นอย่างไร ถ้าโลก ตัดสินใจใช้ ดวงจันทร์เป็นแดนเนรเทศ โลกรกร้าง ที่อากาศ น้ำ จนถึงของเสีย ล้วนมีค่า มนุษย์สามล้านคน ในแดนที่ถ้าพลาดคือตาย ไร้กฏหมาย ทุกคนต้องดูแลตัวเอง(คุณอาจโดนจับไปสูดสุญญากาศเมื่อไหร่ก็ได้!) เมื่อ "รัฐ" เป็นเจ้าของระบบดำรงชีพทั้งหมด บนดวงจันทร์ ทุกคนบนนั้นจึงต้องทำงานหนัก รัฐรับซื้อน้ำแข็งในราคากดต่ำ เพื่อผลิตน้ำใช้ มาขายให้ชาวอานานิคม น้ำเสียในระบบ ก็เป็นของรัฐอีกเช่นกัน และต้องซื้อกลับมา เพื่อใช้เป็นน้ำในการทำกสิกรรม และแน่นอนอีกนั่นแหละว่ารัฐรับซื้อผลผลิตเหล่านั้นในราคาที่รัฐพอใจ พวกเขาต้องจ่ายภาษีอากาศ ทำงานหนัก ทั้งหมดเพียงเพื่อประทังไม่ให้อดตาย กระนั้นก็ตาม การส่งออกผลผลิต หมายถึงการส่งออก สารอินทรีย์ ซึ่งจันทรา มีน้อยอยู่แล้ว หากไม่มีการเพิ่มเติมจากโลก(ซึ่งไม่สน) ระบบนิเวศน์ของ จันทรา จะล่มสลาย การขูดรีดของรัฐ การล่มสลายซึ่งเห็นชัดอยู่เบื้องหน้า กระตุ้นให้คนกลุ่มหนึ่งคิดจะสู้ แต่อย่างไร? - จันทรา สามล้านคน ไม่รู้จักคำว่าชาตินิยม หลายๆคนถูกเนรเทศมาจากโลก และยังผูกพันกับแดนเกิด - หลายคนมีผลประโยชน์ร่วมกับรัฐ แม้จะในระยะสั้น การบอยคอต อาจทำให้อดตายก่อนการปฏิวัติสำเร็จ - จะขยายองค์กรอย่างไร เพื่อให้พวกเขาไม่โดนรวบซะก่อน? องค์กรยิ่งใหญ่ โอกาสโดนทรยศก็ยิ่งสูง - ฝ่ายตรงข้ามอาวุธครบมือ ส่วนจันทรา ไม่มีเลย - โลกมียานอวกาศ พร้อมขีปนาวุธ นิวเคลียร์ จันทราไม่มีอะไรเลย แม้แต่ยานซักลำ นี่คือปมชั้นเยี่ยมที่ไฮน์ไลน์ขมวดไว้อย่างน่าติดตาม ในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์(หรือสังคมศาสตร์)อื่นๆที่ไฮน์ไลน์นำเสนอไว้ก็น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนกว่า แง่มุมทางการเมือง จันทราส่งของจากดวงจันทร์กลับโลกได้อย่างไร? มนุษย์ปรับตัวเข้าสภาวะแวดล้อมใหม่อย่างไร? ในโลกที่อัตรา ช:ญ มากกว่า 10:1 จะแก้ปัญหาเรื่องการข่มขืนอย่างไร และสภาวะสังคมจะเป็นอย่างไร? หาซื้อนิยายคุณภาพเล่มนี้ได้ ในงานมหกรรมหนังสือ ที่บู้ท สนพ เอเอสเค มีเดียครับ (มีใครจะให้ค่าโฆษณาผมมั้ย?) จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 14:49:50

ความคิดเห็นที่ 11 แอบมาสำรวจ.. กีบหมดสิ้นเนื้อประดาตัว แปะไว้ก่อนละกันนะพี่น้อง //กอดๆๆๆคนที่รักการอ่าน จากคุณ : Finnegan 'Finn' Bell เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 53 18:19:16

ความคิดเห็นที่ 12 รานีกับทะเลสาบนางเงือก : Rani in the Mermaid Lagoon ผู้เขียน : Lisa Papademetriou แปลโดย อัมพร มิ่งเมืองไทย พิมพ์ที่ เนชั่น เอ็กมอนท์ พิมพ์ปี 2551 120 หน้า ราคา 150 บาท เนื้อหา/เรื่องย่อ คร่าวๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนางฟ้าภูติจิ๋ว (fairy) ที่ชื่อรานี เธอได้สูญเสียปีกจากการกอบกู้โลกนางฟ้า ทำให้เธอเข้ากับนางฟ้าตนอื่นไม่ได้ รานีจึงหนีไปที่ทะเลสาบนางเงือก แต่เธอก็เข้ากับพวกเขาไม่ได้เช่นกัน TT^TT ตอนจบจะเป็นยังไงไม่บอกนะคะ เดี๋ยวไม่สนุก ความคิดเห็น/ความรู้สึกที่มีต่อหนังสือ เป็นหนังสือสองภาษาสำหรับเด็ก เหมาะกับการอ่านอยู่บ้านเพลินๆ หรืออ่านให้น้องให้ลูกหลานฟังค่ะ ซึ่งตอนแรกที่ซื้อมาก็เพราะชอบรูปหน้าปก และก็ซื้อมาด้วยความรู้สึกถดถอย ว่าหมดวัยแล้วยังอ่านหนังสือเด็กอีก แต่อ่านไปก็รู้สึกชอบนะ ภาพประกอบก็วาดสวยมากกว่าการ์ตูนดิสนีย์เรื่องอื่นๆ แต่ไม่ค่อยชอบกระดาษที่บางไปหน่อย ถ้ากระดาษดีกว่านี้รูปต้องสวยมากๆแน่นอน สำหรับเนื้อหาก็อาจจะดูเด็กนะคะ แต่รู้สึกได้ว่าก็เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความรู้สึกแปลกแยกกับสังคมรอบข้าง ทุกคนก็คงมีอารมณ์นั้นบ้างแหละ ที่รู้สึคกว่าไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครต้องการ เนื้อหา 8.5 รูป 9.5 ความคุ้มค่า 8.5 รูปภาพปก แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 53 21:24:52 แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 53 17:41:24 จากคุณ : Bear Waldorf เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 17:38:35

ความคิดเห็นที่ 13 [Heyha Book Review] สัปดาห์ที่ 10: 5-11 เม.ย. 2553 จากคุณ : ลูกไก่พองลม เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 11:10:46