ความคิดเห็นที่ 1 ย้อนรอย โคบอลต์-60 อดีตที่ไม่มีวันลืม หลายคนยังคงพอจำกันได้ เมื่อต้นปี 2543 มีเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความตื่นตระหนก เสียขวัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก นั่นคือ อุบัติเหตุทางรังสีที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเกิดจากการขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสารรังสีและอันตรายของสารรังสี นำมาซึ่งความสูญเสียเป็นอย่างมาก... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างปลายเดือนมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2543 เมื่อส่วนหัวของเครื่องฉายรังสีทางการแพทย์ หรือ เครื่องฉายรังสีโคบอลต์-60 ที่ไม่ใช้แล้วถูกแยกชิ้นส่วนออกมา และบางส่วนถูกนำออกมาจากสถานที่เก็บที่ไม่มีการควบคุมดูแล นำไปเก็บไว้ในที่จอดรถร้างในซอยอ่อนนุช ตั้งแต่ปี 2542 ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนเก็บของเก่า จัดการแยกชิ้นส่วนเพื่อจะนำไปขายเป็นเศษโลหะ ที่ร้านรับซื้อของเก่า ทำให้รังสีแพร่ออกมา ผู้ที่โดนรังสีเข้าไปต่างมีอาการเจ็บป่วยไปตามๆ กัน เมื่อแพทย์ได้ตรวจรักษาผู้ป่วย 2 -3 ราย และสงสัยว่าเป็นการได้รับรังสีจากต้นกำเนิดรังสีจึงได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบจนกลายเป็นข่าวครึกโครม http://news.thaider.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%8C-60-%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%A1.html แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 11:04:48 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:19:46

ความคิดเห็นที่ 2 ในจำนวนผู้ป่วย 10 ราย ที่ได้รับปริมาณรังสีสูงจากต้นกำเนิดรังสี ในจำนวนนี้มี 3 ราย ที่ทำงานร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตในระยะเวลา 2 เดือน หลังจากได้รับรังสี กระทรวงสาธารณสุขแม้จะไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการถึงจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งหมดและมาตรการรองรับผู้ป่วย แต่มีข้อมูลบางส่วนที่สามารถสรุปได้ว่ามีประชาชนเข้ารับการตรวจร่างกายทั้งสิ้น 948 คนจากประชากร 1,882 คน!!!!! ชิ้นส่วนกัมมันตภาพรังสี โคบอลต์-60 ดังกล่าว ถูกนำเข้าโดย บริษัทกมลสุโกศล อิเลคทริค จำกัด และบริษัท กมลสุโกศล จำกัด เมื่อปี 2538 จำนวนหลายเครื่อง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:22:08

ความคิดเห็นที่ 3 ความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน (Acute Radiation Syndrome, ARS) http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 เป็นความผิดปกติทางร่างกาย อันเป็นผลมาจากการได้รับรังสีปริมาณสูงๆ ทั่วทั้งร่างกายหรือเกือบทั้งร่างกายในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ผู้ป่วย จากการได้รับรังสีจากระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ หรือ ผู้ป่วยจากการได้รับรังสีแกมมาจากวัสดุ กัมมันตรังสีโคบอลต์-60 ที่สมุทรปราการ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:46:39 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:31:13

ความคิดเห็นที่ 4 ปริมาณรังสีดูดกลืน มีหน่วย คือ Gray (Gy) http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 มีข้อบ่งชี้อยู่ 5 ประการที่จะนำไปสู่การเกิดความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน ได้แก่ 1. ปริมาณรังสี (dose) ที่ได้รับทั่วทั้งร่างกายจะต้องสูง เช่น มีปริมาณสูงกว่า 0.7 เกรย์ ทั้งนี้ การได้รับรังสีทั่วร่างกายปริมาณ 0.3 เกรย์ อาจเป็นผลให้มีอาการแสดงของผิดปกติเพียงเล็กน้อย 2. รังสีที่ได้รับจะต้องมาจากแหล่งกำเนิดรังสีที่อยู่ภายนอกร่างกาย (external exposure) 3. รังสีที่ได้รับจะต้องเป็นรังสีที่มีพลังงานหรืออำนาจทะลุทะลวงสูง เช่น รังสีเอ็กซ์ รังสีแกมมา หรือ นิวตรอน เป็นต้น ซึ่งสามารถทะลุทะลวงผ่านเข้าไปให้รังสีแก่อวัยวะภายในร่างกายได้ 4. จะต้องได้รับรังสีทั่วทั้งร่างกาย (หรือโดยส่วนใหญ่ของร่างกาย) ในคราวเดียวกัน 5. การได้รับรังสีจะต้องเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ (acute/immediate exposure) แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:39:41 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 19:42:59 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 19:41:36 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 19:40:50 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:41:33

ความคิดเห็นที่ 5 จากข้อบ่งชี้ดังกล่าวข้างต้น การได้รับรังสีของร่างกายเพียงบางส่วน เช่น ที่แขนหรือขา หรือการรับรังสีของผู้ป่วยในทางรังสีรักษาซี่งแม้ปริมาณรังสีที่ให้แก่ผู้ป่วยจะสูงมาก (อาจถึง 80 เกรย์) แต่ก็แบ่งการ ให้รังสีเป็นหลายๆ ส่วน (fractions) ในช่วงเวลาที่กาหนด เช่น 1 – 2 เกรย์ต่อวัน ติดต่อกันหลายสัปดาห์ ซึ่งการได้รับรังสีแบบนี้มีผลในการก่อให้เกิดความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน ได้น้อย http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 เครื่องฉายโคบอลต์ 60 ในการรักษามะเร็ง แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:40:22 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:47:17

ความคิดเห็นที่ 6 ความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน อาจแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มอาการ 1.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบไขกระดูก (Bone marrow syndrome) 2.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal syndrome) 3.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินโลหิตและระบบประสาทกลาง (Cardiovascular (CV)/Central Nervous System (CNS) http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:40:45 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:51:35

ความคิดเห็นที่ 7   ติดตาม จขกท. มาหลายกระทู้แล้ว ชื่นชมๆ ^^ จากคุณ : ข้าวโพดหวาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:54:24 A:122.29.71.79 X: TicketID:262556

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเริ่มไม่เข้าใจบอกได้นะ จะได้ให้ดู MV เลดี้ กาก้าแทน สิ่งมีชีวิตจะมีความไวต่อรังสีแตกต่างกัน โดยพิจารณาจากค่า LD50 (ใครลืมแล้วให้กลับไปอ่านเรื่องผู้หญิงกับยาพิษ)ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้ถูกรังสี อวัยวะต่างๆ ในร่างกายจะมีความไวต่อรังสีไม่เท่ากัน ระบบการสร้างเม็ดเลือด, อัณฑะรังไข่ จะไวต่อรังสีมากที่สุด รองลงมาคืออวัยวะที่มีเยื่อบุ เช่น ช่องปาก หลอดอาหาร ลำไส้ผิวหนัง ตามด้วยตับ ปอด ไต และต่อมต่างๆ อวัยวะที่ทนต่อรังสีมากที่สุดคือ ไขสันหลัง สมอง กล้ามเนื้อ และหัวใจ นอกเหนือจากความไวที่แตกต่างกันแล้ว แต่ละอวัยวะยังมี vitality ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นความล้มเหลวของระบบสร้างเม็ดเลือด (hematopoietic syndrome) ระบบทางเดินอาหาร (gastrointestinal syndrome) และระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system syndrome) จึงเป็นสาเหตุสำคัญในการเสียชีวิต ของผู้ได้รับบาดเจ็บจากรังสี http://www2.ra.mahidol.ac.th/poisoncenter/bulletin/bul2000/v8n1/Radiate.html จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:10:50

ความคิดเห็นที่ 9   :) ปาดทันไหม จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:15:18

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้ประสบเหตุทางรังสีจะมีอาการเจ็บป่วยซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระยะคือ 1.Initial stage (Prodomal phase) ผู้บาดเจ็บจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากได้รับรังสี 2-3 ชั่วโมง และกินเวลานาน 2-3 วัน หากได้รับรังสีปริมาณไม่มากนัก 2.Latent stage เป็นระยะที่อาการต่างๆ ข้างต้นหายไป ผู้บาดเจ็บจะรู้สึกสบายดีเป็นเวลาหลายวัน และอาจนาน 2-3 สัปดาห์ 3.Third stage (Symptomatic phase) เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ถึงสัปดาห์ที่ 5 หรืออาจเร็วกว่านี้หากได้รับรังสีปริมาณมาก ผู้ป่วยจะมีอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เกิดภาวะเลือดออกง่าย โลหิตจาง ติดเชื้อ และผมร่วง 4.Fourth stage เป็นระยะที่ผู้ป่วยเริ่มฟื้นคืนสู่สภาพปกติหากได้รับรังสีไม่มากนัก หรือเสียชีวิตในกรณีที่ได้รับรังสีในปริมาณมาก **** คือแต่ละคนจะเกิดทั้ง 4 ขั้นแบบนี้ แต่ขั้นที่สามจะเป็นอาการของระบบสามระบบที่บอกไปแล้ว  แต่จะเกิดแบบใดนั้นขึ้นกับปริมาณรังสีที่ได้รับว่ากี่เกรย์******** 1.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบไขกระดูก (Bone marrow syndrome) 2.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal syndrome) 3.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินโลหิตและระบบประสาทกลาง (Cardiovascular (CV)/Central Nervous System (CNS) http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:41:43 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:16:51

ความคิดเห็นที่ 11   :) หอบ clip นี้มาแปะตอนดู mythbuster ตอนที่จับแมลงมาฉายรังสีโดยควบคุมความเข้มและระยะเวลาต่างๆ ... มาดูกันว่าใครรอด จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:18:38

ความคิดเห็นที่ 12 ตารางเทียบให้ดูว่า ถ้าเกิดได้รับปริมาณรังสีเท่านี้ จะเกิดอาการกับระบบใด 3 ระบบนี้ (ดูจากสาเหตุการตายเป็นหลัก )อตราการตายเท่าใด และจะตายเมื่อเวลาเท่าไร แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 13:34:16 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:32:20

ความคิดเห็นที่ 13 1.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบไขกระดูก (Bone marrow syndrome)หรืออาจเรียกว่า ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบผลิตเลือด (hematopoietic syndrome) ไขกระดูกมีหน้าที่ผลิตเม็ดเลือด ความผิดปกติแบบนี้ สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลันทั่วทั้งร่างกายที่ปริมาณรังสี 0.7 เกรย์ โดยอาจ ปรากฎอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อยเมื่อได้รับรังสีปริมาณ 0.3 เกรย์ อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย ในกลุ่มอาการนี้จะลดลงถ้าหากปริมาณรังสีที่ได้รับสูงขึ้น สาเหตุหลักของการเสียชีวิตในผู้ป่วย กลุ่มนี้ คือ การติดเชื้อและการเสียเลือดอันเนื่องมาจากไขกระดูกถูกทำลาย แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 19:46:37 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:42:06

ความคิดเห็นที่ 14   คือสงสัยว่า ที่บอกว่า 1. ปริมาณรังสี (dose) ที่ได้รับทั่วทั้งร่างกายจะต้องสูง เช่น มีปริมาณสูงกว่า 0.7 เกรย์ ทั้งนี้ การได้รับรังสีทั่วร่างกายปริมาณ 0.3 เกรย์ อาจเป็นผลให้มีอาการแสดงของผิดปกติเพียงเล็กน้อย มันได้รับแค่ 0.7 เกรย์ทั่วร่างกายแต่เป็นอันตรายได้ แล้วที่ได้รับ 1-2 เกรย์แบบต่อเนื่อง(ที่รักษามะเร็ง) ทำไมถึงไม่เป็นอันตรายอะคะก จากคุณ : ข้าวโพดหวาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:43:41 A:122.29.71.79 X: TicketID:262556

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบคุณข้าวโพดหวาน รังสีมีอันตราย คือทำให้เกิดการทำลายในระดับ DNA ทำให้สายดีเอ็นเอแตก "นานๆ" ไปจะทำให้เป็นมะเร็งได้ (คนละเรื่องกัน) แต่วันนี้พูดถึงเรื่องเมื่อโดนระเบิดปรมารณูบึ้มปุ๊บ จะมีแรงระเบิด blast มาเผาใช่มั้ย แล้วคนที่รอดจากแรงระเบิดจะโดนพิษรังสีระดับสูงทั่ว "ทั้งตัว" ในเวลาพรึบเดียว จะตายได้จากสามระบบภายในไม่กี่วัน ส่วนเรื่องเมื่อหลายปีเข้าเขาเป็นมะเร็งนี่คือพิษรังสีแบบที่คุณถามมา หรือการรักษาด้วยรังสีมีผลต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะนั้นอย่างไร อันนั้นจะมึนกว่านี้มาก อิอิ งงป่าว แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 13:56:58 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:51:38

ความคิดเห็นที่ 16 ต่อๆ เมื่อไขกระดูกโดนรังสี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:54:23

ความคิดเห็นที่ 17   รบกวน เจ้าของกระทู้เพิ่มเติมข้อมูลส่วนของระดับรังสีในธรรมชาติ (ผมเป็นบัตรผ่าน ส่งรูปไม่ได้ครับ -*- เผื่อคุณมี) เผื่อบางคน นึกภาพไม่ออกว่า 1 เกรย์ มันคืออะไร ใหญ่แค่ใหน ซึ่งผมคุ้นเคยกับหน่วยซีเวิร์ต แต่มันเป็น equivalent man unit อธิบายคร่าวๆคือ Gray หรือ เกรย์ คือ หน่วยที่วัดว่า วัตถุรับรังสีไปเท่าใด ส่วน Sievert คือ ที่วัดว่า organic tissue รับรังสีไปเท่าใด เพราะผลจากรังสีแต่ละชนิด มีผลกับเนื่อเยื่อไม่เท่ากัน จากคุณ : . เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 13:56:28 A:10.20.76.167 X:203.149.16.43 TicketID:262522

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ขอบคุณค่ะ เอจะเรียกคุณว่าอะไรดีไม่มีชื่อ อิอิ เรื่องหน่วยในรังสีนี่มึนหนักเข้าไปอีก คือเม็ดเลือดขาวนี่มีหน้าที่ทำลายเชื้อโรค พอไขกระดูกถูกทำลาย ก็จะทำให้ติดเชื้อตายไง เป็นผลจากการทำลายของ stem cell ในไขกระดูกหลังจากที่ได้รับรังสี เม็ดเลือดในกระแสเลือดได้แก่ เม็ดเลือดขาวและเกร็ดเลือด จะเริ่มลดลงในเวลา 10-15 วันหลังการได้รับรังสี การลดลงของเม็ดเลือดเหล่านี้เป็นผลจากการที่ stem cell ในไขกระดูกไม่สามารถผลิตเซลล์มาทดแทนเม็ดเลือดที่เสื่อมสภาพไปตามอายุขัย ต่างจากเม็ดเลือดแดงซึ่งจะลดลงไม่มากนักเพราะมี life span ยาวนานถึง 120 วัน การลดลงของค่า hemoglobin จะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาวะเลือดออกง่าย จากการลดลงของเกร็ดเลือด ประมาณสัปดาห์ที่ 3 จะเข้าสู่ระยะ symptomatic phase ผู้ป่วยจะมีอาการหนาวสั่น อ่อนเพลีย เป็นแผลในปาก และมีเลือดออกใต้ผิวหนัง อาจมีผมร่วง อาจสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้โดยการให้ supportive care อย่างดี ตามด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก มิฉะนั้นแล้วผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 1-2 เดือน อันมีสาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:04:17

ความคิดเห็นที่ 19   อ่อ เข้าใจแล้วค่ะ ต่อเลยๆ จากคุณ : ข้าวโพดหวาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:08:28 A:122.29.71.79 X: TicketID:262556

ความคิดเห็นที่ 20 ขอแทรกด้วยปริมาณรังสีในธรรมชาติตามรีเควส หมายถึงอันนี้เป่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:08:28

ความคิดเห็นที่ 21 กราฟขนมเค้ก จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:10:20

ความคิดเห็นที่ 22 ต่อๆ รูปเด็กผมร่วงที่ฮิโรชิม่า http://www.health-res.com/radiation-sickness-in-hiroshima/ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:16:59

ความคิดเห็นที่ 23 คนนี้น่าจะโดนเผา blast นะ เพราะเปื่อยมาก จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:22:19

ความคิดเห็นที่ 24 ตารางสรุประบบที่หนึ่ง http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:42:22 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:24:55

ความคิดเห็นที่ 25 มาดูระบบต่อไป 2.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal syndrome) ความผิดปกติ โดยสมบูรณ์จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับรังสีเฉียบพลันทั่วร่างกายสูงเกิน  10 เกรย์ โดยความผิดปกติแบบ อ่อนๆ จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับรังสีประมาณ 6 เกรย์ อัตราการรอดชีวิตเมื่อได้รับรังสีสูงระดับนี้มีน้อย การเปลี่ยนแปลงและความเสียหายซึ่งไม่สามารถรักษาได้ของระบบทางเดินอาหารเป็นต้นเหตุของ การติดเชื้อ เสียสมดุลของน้าและเกลือแร่ โดยผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:26:53

ความคิดเห็นที่ 26 รูปผนังลำไส้ปกติ เทียบกับได้รับรังสี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:32:12

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อโดนรังสีมากพอที่จะทำลายเซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร โดย เฉพาะอย่างยิ่งลำไส้เล็กซึ่งไวต่อรังสีมากว่าส่วนอื่น symptomatic phase จะเริ่มต้นในเวลา 3-7 วันหลังจากรับรังสี ในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงอย่างแรง สามารถทำลาย stem cell ใน intestinal crypt   ก่อให้เกิดการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ และเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ผู้ป่วยจะเสียชีวิตเนื่องจากสภาวะ dehydration และ electrolyte imbalance ภายในเวลา 2 สัปดาห์ http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:44:00 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:38:22

ความคิดเห็นที่ 28 3.ความผิดปกติอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินโลหิตและระบบประสาทกลาง (Cardiovascular (CV)/Central Nervous System (CNS) Syndrome) ความผิดปกติโดยสมบูรณ์จะเกิดขึ้นถ้า ได้รับรังสีโดยเฉียบพลันทั่วร่างกายสูงเกินกว่า 50 เกรย์ โดยความผิดปกติของระบบ CV และ CNS จะเริ่มปรากฎให้เห็นเมื่อได้รับรังสีสูงถึง 20 เกรย์ โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 3 วัน อันเนื่องมาจากความล้มเหลวของระบบการไหลเวียนโลหิตและแรงดันที่สูงขึ้นภายในโพรง กะโหลกอันเนื่องมาจากการสะสมของของเหลวที่มีสาเหตุมาจากการบวมหรือการอับเสบของ หลอดเลือดและเยื่อหุ้มสมอง (meningitis) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:40:57

ความคิดเห็นที่ 29 ตารางสรุปhttp://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=35 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:47:10 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:43:10

ความคิดเห็นที่ 30 รูปเด็กน้อยน่าสงสารที่ฮิโรชิม่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:45:54

ความคิดเห็นที่ 31 ขี้เกียจพิมพ์ อิอิ สำหรับคนที่สงสัยว่าคนที่ไปเก็บของเก่าผิวหนังเขาเป็นไง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:48:19

ความคิดเห็นที่ 32 . จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:49:35

ความคิดเห็นที่ 33 http://docs.google.com/viewer?a=v&q=cache:JswUjvUTvLwJ:ansn.oaep.go.th/contents/documents/ARS.pdf+acute+radiation+syndrome&hl=th&gl=th&pid=bl&srcid=ADGEESgR3hiyJV-vB6-9NgVPVxe3WxDVhz6pX_Vv0UVgRFIqcfRs4DiHH-elJUedcrq2G9jSFlUjtrRHJouVvzNQOy-b9Zway8Ti1RCcFP8FnR6kMP0Yd-Mt70z2E2eHlbIGbbc9FYgX&sig=AHIEtbT-HRziqMouGFgFeH76fJz3kGtylg จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:51:38

ความคิดเห็นที่ 34 สภาพผิวหนังที่ฮิโรชิม่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:53:19

ความคิดเห็นที่ 35 แต่คนนี้เกิดจากระเบิดเผา thermal burn จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:54:59

ความคิดเห็นที่ 36 สำหรับผู้ที่รอดชีวิตนั้น อาจต้องเผชิญกับผลของรังสีในอวัยวะอื่นๆ เช่น การเป็นหมัน (threshold 3.5 Sv ในชาย และ 6 Sv ในหญิง) , ผมร่วง (threshold 3 Sv), ปอดอักเสบ (threshold 6 Sv) รังสีสามารถก่อให้เกิด late effect ได้ เช่น เกิดต้อกระจก (threshold 1 Sv) และเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในอีกหลายๆ ปีต่อมา อ้าวเปลี่ยนเป็น Severt ซะงั้น อิอิ http://www2.ra.mahidol.ac.th/poisoncenter/bulletin/bul2000/v8n1/Radiate.html รูปคนเป็นแผลเป็นฮิโรชิม่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:59:40

ความคิดเห็นที่ 37 ทั่วโลกต่างตระหนักถึงคุณและโทษของรังสีเป็นอย่างดี ดังนั้นการนำรังสีมาใช้เพื่อการวินิจฉัยและรักษาโรค การวิจัย และการบริการในด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม ทุกหน่วยงานต่างยึดถือ กฏระเบียบเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากรังสีที่บัญญัติโดย ICRP อย่างเคร่งครัด ส่งผลให้เทคโนโลยีทางรังสีมีความปลอดภัยอย่างยิ่ง อุบัติเหตุทางรังสีจึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก การเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งจึงเป็นข่าวดังระดับโลก สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคน ดังเช่นเหตุการณ์ที่โดนรังสีจาก cobalt-60 ของพ่อค้าและลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในร้านค้าของเก่า ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้มี ผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน บุคคลเหล่านี้มิได้ล่วงรู้เลยว่า แท่งโลหะทรงกระบอกที่พวกเขาจับต้องอยู่นั้นมีก้อนแร่ cobalt-60 บรรจุอยู่ภายใน ซึ่งสามารถแผ่รังสีทำอันตรายผู้จับต้องและผู้คนที่อยู่รอบข้าง โดยปกติแล้วแท่งโลหะทรงกระบอกดังกล่าวนี้จะบรรจุอยู่ใน container ซึ่งหล่อด้วยตะกั่วและโลหะหนักอื่นๆ ที่มีความหนาไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร หากไม่มีผู้ใดผ่าหัวเก็บ cobalt-60 ดังกล่าวแล้ว ก็จะไม่เกิดโศกนาฏกรรมดังที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ http://www.thaingo.org/story/cobal60.htm รูปผู้ป่วยที่สมุทรปราการ แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 19:53:24 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 15:02:49 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:01:59

ความคิดเห็นที่ 38 อีกรูป จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:03:29

ความคิดเห็นที่ 39   แผลน่ากลัวมาก จากคุณ : ข้าวโพดหวาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:06:03 A:122.29.71.79 X: TicketID:262556

ความคิดเห็นที่ 40 เหยื่อแรงระเบิดเผาที่ฮิโรชิม่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:07:13

ความคิดเห็นที่ 41 จำลองสถานการณ์ฮิโรชิม่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:09:06

ความคิดเห็นที่ 42 ป้ายเตือนรังสี เผื่อคนไม่เคยเห็นhttp://www.oaep.go.th/images/news/20100205095153.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:43:14 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:13:42

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นรูปกังหัน http://www.oaep.go.th/images/news/20100205095153.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:36:45 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:17:06

ความคิดเห็นที่ 44 เพราะว่ามีคนสับสนเรื่องสัญลักษณ์กังหัน เพราะรู้กันอยู่แค่บุคลากร เลยทำสัญลักษณ์ใหม่ โดยทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ โดยมีคนวิ่งหนี หัวกะโหลกไขว้ และการแผ่รังสี เป็นไงบ้างดูรู้เรื่องมั้ยเครื่องหมายใหม่ http://www.oaep.go.th/images/news/20100205095153.pdf แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 15:23:11 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:22:37

ความคิดเห็นที่ 45 จบดีกว่า ก่อนที่จะงงไปมากกว่านี้ สงสัยเพิ่มเติมเชิญซักถาม ที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ http://www.oaep.go.th/index.php เออเรามีเพื่อนชื่อสันติอยู่คนนึง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:29:02

ความคิดเห็นที่ 46   ชอบเครื่องหมายเก่ามากกว่า 55 เพราะอยู่ในบทเรียนที่เคยเรียน จากคุณ : ข้าวโพดหวาน เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:31:42 A:122.29.71.79 X: TicketID:262556

ความคิดเห็นที่ 47   เสริม ใครงงหน่วย เกรย์ ซีเวิตร์ ลองกลับไปดู คห 17 ของผม และตามลิงค์นี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Equivalent_dose http://en.wikipedia.org/wiki/Gray_(unit) http://en.wikipedia.org/wiki/Sievert จากคุณ : . เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:36:00 A:10.20.76.167 X:202.44.210.31 TicketID:262522

ความคิดเห็นที่ 48 อันนี้แถมๆให้ เรื่องหน่วยวัดทางรังสี รับรองว่างงกว่าเดิม อิอิ สรุปว่าถ้าเกาหลีเหนือมาอ่านกระทู้ในห้องหว้ากอว่าไปด่าเขามากๆแล้วเขาส่งระเบิดนิวเคลียร์มา จะได้รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ตามอาการที่กล่าวมาสามระบบ http://www.oaep.go.th/images/news/20100210144934.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:29:27 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:45:14

ความคิดเห็นที่ 49 http://www.oaep.go.th/images/news/20100210144934.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:30:14 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:46:27

ความคิดเห็นที่ 50 ยู้ฮู มีใครอ่านบ้างมั้ย เหงาจัง แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 15:52:14 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:51:11

ความคิดเห็นที่ 51 เปลี่ยนหน่วยจากเกรย์เป็นซีเวร์ท http://www.oaep.go.th/images/news/20100210144934.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:30:52 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:54:38

ความคิดเห็นที่ 52 http://www.oaep.go.th/images/news/20100210144934.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:29:54 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 15:57:25

ความคิดเห็นที่ 53 เราจะรู้ได้ไงว่าเราได้รังสีเท่าไหร่ ถ้าเป็นบุคลากรที่ต้องสัมผัสรังสีบ่อยๆเขาจะให้พกตลับสีฟ้านี้ ที่ข้างในมีแผ่นฟิล์มถ่ายรูปอยู่ พอสิ้นเดือนก็เอาฟิล์มไปตรวจดูว่ามันเปลี่ยนไปเท่าไร แสดงว่าได้ปริมาณรังสีเท่าไร http://www.oaep.go.th/images/news/20100210144934.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:31:28 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:00:54

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ ^ อ่อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง จากคุณ : Next Station The Moon เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:03:28

ความคิดเห็นที่ 55 ตารางนี้สำคัญ เพราะอาจมีคนสงสัยว่า จะอนุญาตให้โดนรังสีมากสุดเท่าไหร่ต่อคน ทั้งจากโดนในธรรมชาติและจากการวินิจฉัยรักษาโรค เช่นไป x ray ปอดประจำปี ไรเงี้ย มีตัวเลขกำหนดไว้ โดยกำหนดให้บุคลากรที่ทำงานด้านรังสีกำหนดค่ามากหน่อย คือ 20 mSv ต่อปี ส่วนคนทั่วไปไม่เกิน 1mSv ต่อปี http://www.oaep.go.th/images/news/20100210144934.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:32:44 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:05:16

ความคิดเห็นที่ 56   อ่านอยู่ครับ ได้ความรู้ดี จากคุณ : 1+1 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:08:57 A:158.108.226.101 X: TicketID:250001

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นดูในข่าว ตอนเก็บกู้เศษโคบอลต์ 60 ที่สมุทรปราการ ให้เจ้าหน้าที่พลัดกันวิ่งเข้าไปหยิบคนล่ะชิ้น จะได้ไม่โดนรังสีนานๆ นักข่าวถาม ไม่มีชุดกันรังสีเหรอ คำตอบ มี แต่เกะกะ ทำงานลำบาก อย่างงี้ดีกว่า สะดวกดี >_< จากคุณ : be Ambitious เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:09:27

ความคิดเห็นที่ 58 อ้าวเพิ่งไปเจอรูปมา http://www.oaep.go.th/images/news/20100212142948.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:10:48

ความคิดเห็นที่ 59 ก้อนที่เขาเก็บมาอยู่ทางซ้ายบน http://www.oaep.go.th/images/news/20100212142948.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:44:42 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:13:23

ความคิดเห็นที่ 60 ต่อๆ http://www.oaep.go.th/images/news/20100212142948.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:45:07 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:14:53

ความคิดเห็นที่ 61 ..http://www.oaep.go.th/images/news/20100212142948.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:45:55 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:16:08

ความคิดเห็นที่ 62 อันนี้หนุกดี ที่ผ่านมา มีข่าวการฆาตกรรมที่ทำให้วงการนิวเคลียร์ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วโลกคือข่าวที่ นายอเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตสายลับรัสเซียโดนวางยาพิษ โดยใช้วัสดุกัมมันตรังสี    เบื้องต้นทางคณะแพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าโดนสารพิษประเภทใด โดยผู้ป่วยมีอาการผมร่วงทั้งศีรษะและอวัยวะภายในทำงานล้มเหลวและเกิดอาการหัวใจวายและเสียชีวิตภายหลังจากได้รับพิษ 3 สัปดาห์ จากการสอบสวนของสำนักงานป้องกันด้านสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่าพบวัสดุกัมมันตรังสีพอโลเนียม 210 (Po-210) ในปัสสาวะของผู้ป่วย ที่ถูกวางยาพิษและเสียชีวิต ซึ่งเป้นลักษณะของการวางยาพิษที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน    ทางตำรวจสก็อตแลนด์ยาร์ดเปิดเผยว่าตรวจพบร่องรอยของสารพอโลเนียมทั้งที่บ้านของเขาทางเหนือของกรุงลอนดอน และที่ร้านซูชิกลางกรุงลอนดอน รวมทั้งที่โรงแรมที่นายลิตวิเนนโก้เดินทางไปพัก http://www.oaep.go.th/dt_news1.php?id=273 อเล็กซานเดอร์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:20:10

ความคิดเห็นที่ 63 อ้าว ชะแวบมาดูเชอโนบิลต่อ http://www.oaep.go.th/images/news/20100212142948.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:47:51 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:23:05

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาอ่านเจ้าค่า จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:28:25

ความคิดเห็นที่ 65 มีเหตุการณ์รังสีรั่วทั่วโลก San Jose radiotherapy accident, 1996 เป็น Co 60 เหมือนกัน http://www.johnstonsarchive.net/nuclear/radevents/1996CSR1.html http://www.oaep.go.th/images/news/20100212142948.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:49:54 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:29:52

ความคิดเห็นที่ 66 พักกินข้าวก่อน อิอิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:33:42

ความคิดเห็นที่ 67   จบรึยัง ถ้ายัง แปดนะ จากคุณ : PhompAng เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:43:57 A:112.143.6.88 X: TicketID:247310

ความคิดเห็นที่ 68 แปดได้เลย ชอบๆ กินข้าวแช่อยู่ หร่อยๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 16:56:06

ความคิดเห็นที่ 69 แผนภูมิแสดงเหตุของอุบัติเหตุทางรังสี ทั่วโลก จากปี 1945-2000 http://www.omfi.hu/cejoem/Volume7/Vol7No1/CE01_1-01.html มากสุดมาจาก Industry แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 19:57:05 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:11:51

ความคิดเห็นที่ 70 ชนิดของสารกัมมันตรังสีที่เกิด อิรีเดียม เกิดมากสุด รองลงมาคือ โคบอลต์ เพราะว่าใช้เป็นจำนวนมากนั่นเอง http://www.omfi.hu/cejoem/Volume7/Vol7No1/CE01_1-01.html แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:50:28 แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 17:15:31 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:13:42

ความคิดเห็นที่ 71 http://www.oaep.go.th/images/news/20100210143131.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:23:36

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นรูปที่ฮิโรชิม่าแล้ว สงสารมากๆ สงครามช่างเลวร้ายยิ่งนัก กับมนุษย์ด้วยกันเอง ยังฆ่ากันเอง มนุษย์นี่มันเลวจริงๆ จากคุณ : QDora เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:24:11

ความคิดเห็นที่ 73 การกำบังรังสี ขึ้นอยู่กับชนิดรังสี อย่างเวลาโรงไฟฟ้าระเบิด ระเบิดนิวเคลียร์ จะมีแกมม่าออกมานะ ต้องใช้ตะกั่วบังนะ ถ้าอัลฟ่ามันทะลุทะลวงต่ำ แค่กระดาษแผ่นเดียวก็กันได้แล้ว ส่วนรังสีแต่ละชนิดเป็นอย่างไร ไม่เกี่ยวกับหัวข้อในวันนี้ วิ่งหนีไปแล้ว ฟิ้ววว http://www.oaep.go.th/images/news/20100210143131.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:34:55 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:31:37

ความคิดเห็นที่ 74 อาวุธนิวเคลียร์คืออะไร http://www.oaep.go.th/images/news/20100210143131.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:34:16

ความคิดเห็นที่ 75 ลูกระเบิดไฮโดรเจน http://www.oaep.go.th/images/news/20100210143131.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:35:19 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:36:29

ความคิดเห็นที่ 76 ...http://www.oaep.go.th/images/news/20100210143131.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:35:39 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:37:33

ความคิดเห็นที่ 77 จบดีกว่า จะไปรดน้ำต้นไม้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 17:38:13

ความคิดเห็นที่ 78   อา  นึกถึงตอนทำงานอยู่ที่สำนักงานปรมาณูฯจังเลย จากคุณ : Tundra Mk. II เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 18:34:22

ความคิดเห็นที่ 79 แม่ยกพ่อยกตามมารึยังเอ่ย http://ra-phy2.comyr.com/?page_id=176 การป้องกันอันตรายจากรังสี ตามหลักของ ALARA ( As low as reasonably achievable ) อ่านว่า อะลาร่า ไม่ใช่ อาราเร่ มีด้วยกัน 3 ข้อคือ 1. Time คือใช้เวลาให้น้อยที่สุดเมื่ออยู่กับรังสี   2. Distance  คือ ระยะทางโดยความแรงของรังสีจะเป็นสัดส่วนผกผันกับ กำลังสองของระยะทาง โดยถ้าระยะทางมาก ความแรงของรังสีจะน้อย  แต่ถ้าระยะทางน้อยความแรงของรังสีก็จะมาก ดังนั้นเวลาทำงานหรือ  อยู่ใกล้กับรังสี จะต้องอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดรังสีให้มากที่สุด 3. Shielding คือเครื่องกำบังรังสี โดยเมื่อจะเข้าใกล้กับแหล่งกำเนิดรังสี จะต้องใช้เครื่องกำบังรังสีโดยเครื่องกำบังรังสีจะต้องทำมาจากวัตถุ ที่มีน้ำหนักอะตอมมากเช่น ตะกั่ว เป็นต้น คนนี้อาราเร่ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:48:52 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 18:40:11

ความคิดเห็นที่ 80 Time distance shielding http://ra-phy2.comyr.com/?page_id=176 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:49:13 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 18:42:16

ความคิดเห็นที่ 81 เจอคนจากสำนักปรมาณูตัวเป็นๆ แล้ว คุณTundra Mk. II มีอะไรซักถามเชิญถามคุณTundra Mk. II ได้เลยค่ะ สงสัยเป็นคนในรูป http://www.wired.com/dangerroom/2007/12/clothing-for-th/ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 18:47:30

ความคิดเห็นที่ 82 ไปดูหลินปิงแล้วจ้า หมดมุกแล้ว อิอิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 18:48:25

ความคิดเห็นที่ 83   แค่ลูกจ้างชั่วคราว ทำงานเอกสารเท่านั้นเองครับ แต่ก็พอได้อ่านอะไรพวกนี้บ้างนิดหน่อย จากคุณ : Tundra Mk. II เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 18:50:03

ความคิดเห็นที่ 84 อยากเป็นสไปเดอร์แมนต้องให้แมงมุมที่มีกัมมันตภาพรังสีกัด โหวตให้นะครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 19:09:43

ความคิดเห็นที่ 85 อันนี้หละ จากคุณ : linky เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 20:09:22

ความคิดเห็นที่ 86 ตัวนี้ก็ใช่ จากหนังเกาหลีเรื่อง The host หนุกดีนะเราว่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 20:21:29

ความคิดเห็นที่ 87 คนโดนรังสีเยอะ ระวังตัวเขียวนะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 20:24:03

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่อยากจะคุย ผมเป็นมนุษย์คนเดียวบนโลกที่ต้านทานรังสีต่างๆได้ จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 20:25:09

ความคิดเห็นที่ 89 คนใกล้ตัวผมอ่ะ..รังสีอำหิตรุนแรงมาก บางทีก็มาแบบเฉียบพลันอีกตะหาก จากคุณ : oro เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 20:41:12

ความคิดเห็นที่ 90 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:31:31

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:49:47

ความคิดเห็นที่ 92   ได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : lockdown เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 22:14:39

ความคิดเห็นที่ 93 คุณกิ๊ฟค่ะ เอา Give ไปเลยค่ะ มีแต่เรื่องน่ารู้และน่าอ่านทั้งนั้นเลย จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 22:32:41

ความคิดเห็นที่ 94 คดีนี้สงสารผู้ป่วยไม่ลงครับ คือทั้งขโมยของ รับซื้อของโจร แล้วก็ฟ้องเจ้าทรัพย์ซะอีก แน่นอนว่าบริษัทฯไม่รอบคอบ แต่ในฐานะคนซื้อของโจรผมคิดว่าเขาก็สมควรรับผิดชอบด้วยครับ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 22:45:11

ความคิดเห็นที่ 95 เพิ่มเติม http://www.oaep.go.th/images/news/20100222120423.pdf ในเวปของสำนักปรมาณูเพื่อสันติ บอกว่าเชอโนบิลตาย 30 กว่าคน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 22:52:24

ความคิดเห็นที่ 96 ระดับของเชอโนบิล เป็นระดับ 7 http://www.oaep.go.th/images/news/20100222120423.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:50:59 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 22:57:10

ความคิดเห็นที่ 97 "http://www.oaep.go.th/images/news/20100222120423.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:51:43 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 22:58:52

ความคิดเห็นที่ 98 สรุปhttp://www.oaep.go.th/images/news/20100222120423.pdf แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 10:52:13 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 23:00:59

ความคิดเห็นที่ 99 เอาเป็นว่าโพสไปเรื่อยๆละกัน เป็นสัปดาห์นิวเคลียร์ไปเรย ก็อย่าเพิ่งกลัวโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปซะก่อน มาศึกษากันว่าโรงไฟฟ้านี้เป็นอย่างไร http://www.oaep.go.th/dt_news2.php?id=92 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานอย่างไร แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 53 23:17:21 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 23:16:23