ความคิดเห็นที่ 1 เรือที่ข้ามได้มีขนาดใหญ่พอสมควร จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:00:09

ความคิดเห็นที่ 2 ดูจากภาพนี้เหมือนเข้าอู่ซ่อมเรือ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:01:00

ความคิดเห็นที่ 3 เข้าออกโดยใช้เรือลากจูง จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:01:27

ความคิดเห็นที่ 4 ที่เห็นเมือนอู่จริงๆเป็นเรือ แต่เรือไม่ได้แล่นบนน้ำ ?? แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 53 10:02:54 จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:02:18

ความคิดเห็นที่ 5 เรือลากจูงกลับออกสู่ที่ตั้ง จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:03:34

ความคิดเห็นที่ 6 เริ่มเคลื่อนที่ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:04:22

ความคิดเห็นที่ 7 เสาข้างๆน่าจะเป็นเสาจ่ายไฟ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:05:10

ความคิดเห็นที่ 8 มองจากมุมไกลๆ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:05:43

ความคิดเห็นที่ 9 เหมือนรถวิ่งขึ้นเขา จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:06:08

ความคิดเห็นที่ 10 ข้ามสะพานก็ได้ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:06:54

ความคิดเห็นที่ 11 เทียบความใหญ่โต จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:07:58

ความคิดเห็นที่ 12 ใกล้ถึงแล้ว จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:08:25

ความคิดเห็นที่ 13 น่าจะเป็นจุดกลับเรือเหมือนที่กลับรถไฟที่เชียงใหม่ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:09:48

ความคิดเห็นที่ 14 กลับเสร็จก็ถอยหลังลงคลอง จากรูปที่เห็นแสดงว่านำเรือมาลงแล้วต้องรอกลับ หรือรับลำอื่นกลับการจะข้าคลองคต้องจัดคิวล่วงหน้านานทีเดียว จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:11:23

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงด้านบนแล้ว จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:11:59

ความคิดเห็นที่ 16 ลากออกก็เป็นอันเสร็จพิธี   ในเว็บไม่ได้บอกว่าขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลานานเท่าไหร่  แต่คงจะนานทีเดียว รัสเซียนี่ยังมีอะไรแปลกๆให้ค้นหาเยอะ ใครสนใจก็ตามลิ้งค์เลยครับ แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 53 10:13:35 จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:12:47

ความคิดเห็นที่ 17 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:24:48

ความคิดเห็นที่ 18   แหม !! นึกว่า German เสียอีก เครื่องมือจ๊าบ ๆ แบบนี้ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:27:46

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบมากครับ เรื่องแบบนี้ อยากไปทำงานเขื่อนจัง จากคุณ : GEAR OF SAREN เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 11:01:13

ความคิดเห็นที่ 20 #10 เสามันรับน้ำหนักไหวด้วยเหรอนั่น จากคุณ : อย่ามาห้ามผม เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 11:55:44

ความคิดเห็นที่ 21 บ้าไปแล้ว เรือข้ามสะพานลอย!!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 12:22:40

ความคิดเห็นที่ 22 แปลกดีค่ะ จากคุณ : ชูโฮ_มารู เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 13:27:25

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นรูปแรกแล้วคิดอีกอย่างนึง (คิดว่าจะรู้อยู่แล้ว) พอเจอรูปต่อๆมา ยอมรับว่าอึ้งครับ คิดไม่ถึงจริงๆ คิดว่าจะทำประตู้น้ำกั้นเป็นชั้นๆ แล้วเพิ่มระดับไปเรื่อยๆ จากคุณ : สมบัติดี เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 16:53:46

ความคิดเห็นที่ 24 สมัยก่อนทางรถไฟเส้นเดียวของลาวก็คล้ายๆแบบนี้ละยาวไม่กี่ร้อยเมตรฝรั่งเศสสร้างไว้ขนของผ่านหลี่ผี แต่ถ้าเรือใหญ่มากคงใช้ถ่ายสินค้า จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 17:06:29

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเห็นเสา กับของข้างบนเสาทีไร กลัวเสามันพังทลายลงมาทุกที จากคุณ : อมยิ้มลอยทะเล เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 17:58:32

ความคิดเห็นที่ 26 โคตรเทพ -*- จากคุณ : artsmart เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 19:05:18

ความคิดเห็นที่ 27 มันคุ้มกับค่าไฟไหมหว่า -*- จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 20:39:21

ความคิดเห็นที่ 28   รัสเซียนี่บ้าของใหญ่จัง รถถังนี่บึกๆทั้งนั้น จากคุณ : เหนในเกมนะ (ทามาก็อดอุนจิ) เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 21:31:02

ความคิดเห็นที่ 29 สุดยอด ยอมรับเลยว่าไม่เคยเห็นจริงๆ จากคุณ : spindoctor เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 22:27:14

ความคิดเห็นที่ 30 สาบานได้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าอย่างน้อยมันก็ใช้งานได้จริง จากคุณ : Blackion เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 22:34:13

ความคิดเห็นที่ 31 เกินจินตนาการจริงๆ ให้ตายสิ จากคุณ : O-DED เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 00:08:15

ความคิดเห็นที่ 32 หากทำเป็นประตูน้ำ คงยกหลายระดับ เปลืองเนื้อที่ และเปลืองน้ำด้วยครับ เอาเรือเข้าไปจอด ยกขึ้นไปทั้งอู่ ประหยัดกว่า จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 08:50:27

ความคิดเห็นที่ 33 เจ๋งอ่ะ เจ๋งๆๆ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 10:27:33

ความคิดเห็นที่ 34 นึกว่าประตูน้ำเหมือนกัน จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 10:54:58

ความคิดเห็นที่ 35 ปกติก็จะทำเป็นประตูกั้นน้ำเป็นช่วงๆนั่นแหละครับ แต่บางครั้งก็มีทำเป็นลิฟท์บ้างเหมือนกัน ที่เห็นนั่น ถ้าจำไม่ผิด (ดูจาก nat geo มา) เค้าจะใช้ระบบปั๊มน้ำที่อยู่ในตัวแทงค์ในการขับเคลื่อนลิฟท์ โดยจะปั๊มน้ำที่อยู่ในแทงค์วนไปเรื่อยๆ เพื่อหมุนเกียร์ที่อยู่ข้างล่าง จากคุณ : valor เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 11:47:45

ความคิดเห็นที่ 36 23 อันนั้นเขาเอาไว้ใช้กับ เขื่อนหรือทะเลที่มีน้ำเหลือกินเหลือใช้ ไม่งั้นเรือผ่านบ่อยๆเดี๋ยวน้ำหมดพอดี.... จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 12:35:04

ความคิดเห็นที่ 37 น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆเลยนะนั่น  - - จากคุณ : PaND@_BIG เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 13:00:25

ความคิดเห็นที่ 38 คนโง่ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก คนฉลาด ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย สะพานแบบยกได้  เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า  ประหยัดเวลามากกว่า ภาวนาให้เป็นการใช้แบบชั่วคราว  แบบการขนสัมภาระในขณะดำเนินการก่อสร้างเถอะครับ  เห็นแล้วกลุ้มใจแทน แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 53 15:40:51 จากคุณ : SAINT_OF_FIRE เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 13:59:28

ความคิดเห็นที่ 39 คคห.ข้างบนงงอะไรรึปล่าวเนี่ย จากคุณ : alertz (alertz) เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 14:03:00

ความคิดเห็นที่ 40 จขกท. เยี่ยมเลย ของแบบนี้คงไม่ได้หาดูกันได้ง่ายๆ จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 14:06:51

ความคิดเห็นที่ 41 ิท่าจะกินไฟ ทั้งตำบล เลยนะนั่น จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 14:15:38

ความคิดเห็นที่ 42 ผมนึกว่าเอาเรือวางบนบกโดยไม่มีน้ำพยุงแล้วโครงสร้างมันจะเสียซะอีก จากคุณ : ม้าไม้เมืองทรอย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 14:20:10

ความคิดเห็นที่ 43 #38  โทษที  พิมพ์สลับกัน ตอนพิมพ์ไปทานไปน่ะครับ  ^^' จากคุณ : SAINT_OF_FIRE เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 15:36:43

ความคิดเห็นที่ 44 งง กับความคิด 38 ช่วงอธิบายหลักการ ที่ว่า สะพานยกหน่อย นึกภาพไม่ออกคัรบ จากคุณ : pet252003 เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 15:51:11

ความคิดเห็นที่ 45 อึ้งตอนข้ามสะพานนี่แหละ (คห 10) ถ้าสะพานถล่มล่ะ ไม่อยากจะคิด จากคุณ : เซโก้4 เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 15:55:16

ความคิดเห็นที่ 46 อึ้งกะคนที่กล้าไปเดินข้างใต้สะพานอ่ะ พี่แกช่างกล้าเนาะ จากคุณ : independence เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 16:49:18

ความคิดเห็นที่ 47 มีรูปมาแจมครับ ไม่ได้เป็นการขนเรือข้ามเขื่อน แต่เป็นการขนเรือข้ามจากคลองนึงไปอีกคลองนึงซึ่งอยู่คนละระดับน้ำกัน อยู่ที่เมืองฟัลเคิร์ก (Falkirk) ประเทศสก็อตแลนด์ ชื่อว่า Falkirk Wheel จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:23:45

ความคิดเห็นที่ 48 หน้าตาของเฟืองครับ จะเห็นว่าคลองมีอยู่สองชั้น ชั้นล่างเฟือง กับชั้นบน จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:25:20

ความคิดเห็นที่ 49 ลักษณะการทำงานก็คือวงล้อจะหมุนทวนเข็มนาฬิกาจากรูป เอาเรือที่อยู่ด้านล่างขึ้นไปข้างบน เอาเรือจากด้านบนลงมาข้างล่าง จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:26:54

ความคิดเห็นที่ 50 ดูกันชัดๆอีกที เสียดายตอนที่ผมไป (เมื่อปลายปีก่อน) หิมะดันตกหนัก คลองเป็นน้ำแข็งหมด เค้าเลยไม่มีเรือเดินครับ (ปกติใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย) เลยไม่ได้นั่งเรือลอยฟ้าเลย จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:28:35

ความคิดเห็นที่ 51 เรือที่ถูกขนจากด้านล่างขึ้นมาก็จะมาจรดบนคลองด้านบนนี้ล่ะครับ แล้วก็จะแล่นจากทางด้านปลายเข้ามา จะเห็นว่าน้ำแข็งเป๊กเลย จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:30:11

ความคิดเห็นที่ 52 แล้วก็เรือจะไหลเข้าไปในอุโมงค์นี้ แล่นต่อตามสายน้ำไป จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:32:16

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าฝนตกหนักก็ไม่ต้องกลัวน้ำเอ่อล้น เพราะเค้ามีทางระบายน้ำจากคลองด้านบนลงไปยังด้านล่างครับ รักษาระดับน้ำไว้ตลอดเวลา จบแล้วครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:33:39

ความคิดเห็นที่ 54 ของสก็อตแลนด์ สวยมากเลย จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 17:42:06

ความคิดเห็นที่ 55 อลังการงานสร้างสุดๆ จากคุณ : ว่าที่ลูกเรือ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 18:05:51

ความคิดเห็นที่ 56 ใหญ่มาก - -* จากคุณ : เบิร์ด_ไมโคร เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 20:23:15

ความคิดเห็นที่ 57 ก็ยังงง #38 อยู่ดี "คนโง่ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก คนฉลาด ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย สะพานแบบยกได้  เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า  ประหยัดเวลามากกว่า ภาวนาให้เป็นการใช้แบบ ชั่วคราว  แบบการขนสัมภาระในขณะดำเนินการก่อสร้างเถอะครับ  เห็นแล้วกลุ้มใจแทน" สะพานยกได้ยังไงครับ หมายถึง ยกสะพานให้เรือผ่านเขื่อนเหรอครับ... ถ้าผมเข้าใจอย่างนั้น ระดับน้ำ เหนือเขื่อกับใต้เขื่อนต้อง ต่างกันน้อยมาก ถึงจะทำได้นี่ครับ จากคุณ : Kombi เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 20:51:20

ความคิดเห็นที่ 58 ตอบ 57# ไม่จำเป็นครับ เขื่อนที่มีระดับน้ำต่างกันมากๆ สำหรับเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ เค้าจะใช้วิธ๊เปลี่ยนระดับน้ำหลายๆทอดแทน ซึ่งก็กินเวลาเหมือนกัน แต่สำหรับเรือโดยสารขนาดเล็ก บางที่ใช้วิธีทางด่วนขึ้นมาเลยคือเปลี่ยนระดับน้ำทีเดียว ที่ทำได้เพราะเรือโดยสารมีน้ำหนักน้อยกว่าเรือขนสินค้านั่นเอง จากคุณ : valor เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 21:05:13

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอด จากคุณ : oro เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 22:36:45

ความคิดเห็นที่ 60   8ชั่วโมงต่อ1ลำหรือไม่ก็2สัปดาห์หากอ้อมไป ปล.ไม่ใช่ตรงนี้นะ จากคุณ : จอมโจรจอมกระล่อน เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 00:02:03

ความคิดเห็นที่ 61 คนคิดก้อนะ ช่างคิดวุ้ย จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 09:31:24

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 38     คนโง่ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก คนฉลาด ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย สะพานแบบยกได้  เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า  ประหยัดเวลามากกว่า ภาวนาให้เป็นการใช้แบบชั่วคราว  แบบการขนสัมภาระในขณะดำเนินการก่อสร้างเถอะครับ  เห็นแล้วกลุ้มใจแทน -------------------------------------------------- นี่มันเขื่อนนะครับไม่ไช่สะพาน จะได้ยกเปิดให้เรือข้ามได้ น้ำได้หมดเขื่อนกันพอดี ผมว่าก่อนว่าใครให้ตักน้ำส่องหน้าตัวเองก่อนดีกว่ามั้ง จากคุณ : jackmaster เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 11:30:53

ความคิดเห็นที่ 63 เจ๋ง แหะ จากคุณ : Spi_zy เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 14:07:26

ความคิดเห็นที่ 64 ผมก็ยังไม่เข้าใจหลักการของ #38 จากคุณ : unimox เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 14:32:16

ความคิดเห็นที่ 65 อยากให้มีบ้าง จะเอาแบบไหนก็ได้ ข้ามเขื่อนชัยนาท และ เขื่อนยันฮี เราจะขนส่งสินค้าตั้งแต่เหนือ จรดกลาง ออกบางปะอินได้ถึงอ่าวไทย  ค่าขนส่งจะประหยัดได้มหาศาล และจะม่ธุระกิจ เกิดตามมาอีกมากมาย จากคุณ : Archemedis500 (Archemedis500) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 14:36:14

ความคิดเห็นที่ 66 เคยออกใน National Geographic ทาง True ด้วยครับ อยู่ในซีรีย์ Big, Bigger, Biggest : Dam ที่ใหญ่ที่สุด เป็น เขื่อนสามผา (ลืมชื่อภาษาอังกฤษ) ของจีน และใช้เทคโนโลยีดังที่บางท่านกล่าวมา นั่นคือ ใช้ "ลิฟท์" ยกเรือขึ้นไป โดยคร่าวๆ เขาใช้พลังงานจากแรงดันน้ำครับ ส่วนของรัสเซียนี่ เก่าแล้วนะครับ ทำได้เท่านั้นก็บุญแล้ว อย่าไปว่าเค้าเลย จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 17:31:13

ความคิดเห็นที่ 67 ของสก๊อตแลนด์ กิ๊บเก๋ มาก อยากเห็น ตอนมันหมุน จัง จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 20:12:56

ความคิดเห็นที่ 68 ผมชอบตอนที่อเมริกาเสียเวลาไปค้นคว้าปากกาพิเศษเพื่อให้ใช้งานได้ในอวกาศโดยที่หมึกไม่ไหลออกมาเลอะเทอะ ในขณะที่รัสเซียแก้ปัญหาด้วยการใช้ดินสอแทน จากคุณ : namit เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 23:23:34

ความคิดเห็นที่ 69  ขณะบินอวกาศ ขณะหนึ่ง ยูรี กาการิน ใช้ดินสอธรรมดาเขียนหนังสือ เพราะถ้าหากใช้ปากการหมึกซึม หมึกอาจรั่วได้ เหมือนอย่างที่เคยพบมาขณะอยู่บนเครื่องบิน กาการิน พบว่า การเขียนหนังสือขณะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักเป็นเรื่องง่าย แต่มีเรื่องไม่ได้คาดหมายเกิดขึ้นหลังจากลงมือเขียนหนังสือได้ครู่หนึ่ง กาการินลืมไปว่ากำลังอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก จึงวางดินสอลงบนที่วางดินสอ ทันใดนั้นดินสอเหมือนมีปีกบิน ทั้งดินสอและที่วางดินสอลอยตัวไปมาอยู่ภายในห้อง เขาพยายามจะหยิบดินสอกับที่วางดินสอ แต่สายที่ผูกดินสอกับที่เขียนหลุด เพียงครู่เดียวดินสอกับที่เขียนหายตัวเข้าไปอยู่ใต้ที่นั่งนักบิน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการค้นหาดินสอ กาการิน แจ้งมายังศูนย์ควบคุมว่ามีอะไรเกิดขึ้น และเปิดสวิตซ์เครื่องเทปบันทึกเสียง เสียงที่เขาพูดผ่านไมโครโฟนจะถูกบันทึกไว้บนเทปแล้วถูกส่งมายังศูนย์ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุ ---------------------------------------------------------------   ในยุคการแข่งขันทางอวกาศกำลังเข้มข้นในช่วงปี 1960 เรื่องเล่ามีอยู่ว่า นักวิทยาศาสตร์นาซ่า (NASA) ตระหนักว่าปากกาไม่สามารถเขียนได้ในอวกาศ พวกเขามีความจำเป็นเพื่อหาทางให้นักบินอวกาศเขียนสิ่งต่างๆ ในอวกาศได้ ดังนั้น พวกเขาใช้เวลาหลายปีและใช้ภาษีอากรหลายล้านเหรียญในการพัฒนาปากกาที่ให้หมึกไหลลงบนกระดาษได้โดยปราศจากแรงโน้มถ่วง เรื่องเล่ายังกล่าวต่อไปอีกว่า แต่ทางฝ่ายคู่แข่งหรือสหภาพโซเวียตให้เพียงดินสอแก่นักบินอวกาศเท่านั้น   เรื่องเล่านี้ได้แพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตจากเมล์หนึ่งไปยังอีกเมล์หนึ่ง และรวมถึงช่วงหนึ่งในซีรีส์ปี 2002 ชื่อ the West Wing อีกด้วย แต่ในที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องโกหกเท่านั้น!   จากนักประวัติศาสตร์ของนาซ่า แต่เดิมนั้น นักบินอวกาศนาซ่า (เหมือนกับนักบินอวกาศของโซเวียต) ใช้ดินสอ ที่จริงแล้วนาซาสั่งดินสอ (mechanical pencil) 34 ด้ามจากบริษัท Tycam Engineering Manufacturing ในเมืองฮูสตันในปี 1965 พวกเขาจ่ายเงินไปทั้งหมด 4,382.50 เหรียญหรือด้ามละ 128.89 เหรียญ เมื่อราคานี้ออกไปสู่สาธารณชน ได้มีการแสดงความไม่พอใจและนาซ่าต้องค้นหาสิ่งอื่นที่ถูกกว่าเพื่อให้นักบินอวกาศได้ใช้   ดินสออาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ปลายดินสอร้าวและแตกออก และล่องลอยไปในที่ที่มีแรงโน้มถ่วงน้อย (microgravity) ซึ่งมันอาจจะทำร้ายนักบินอวกาศหรืออุปกณ์ได้ และปากกาสามารถติดไฟได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นาซ่าต้องการหลีกเลี่ยงหลังจากเหตุเพลิงไหม้ในยานอะพอลโล 1 (Apollo 1)   พอล ซี. ฟิเชอร์ (Paul C. Fisher) และบริษัทของเขาชื่อ the Fisher Pen Company ได้รายงานการลงทุนจำนวนหนึ่งล้านเหรียญเพื่อสร้างสิ่งที่เรารู้จักในตอนนี้ว่าปากกาอวกาศ (space pen) เงินลงทุนของเขาไม่ได้มาจากเงินกองทุนของนาซ่า มีเพียงตัวแทนเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตปากกา ในปี 1965 ฟิเชอร์ได้จดสิทธิบัตรปากกาที่สามารถเขียนกลับหัวได้ในสภาวะเย็นหรือร้อนมาก (ต่ำกว่า -50 °F หรือมากกว่า 400 °F) และใต้น้ำหรือในของเหลวอื่นๆ และถ้าอยู่ในสภาวะร้อนมากเกินไป หมึกจะกลายเป็นสีเขียวแทนสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีในสภาวะปกติ   ในปีเดียวกัน ฟิเชอร์เสนอปากกาอวกาศรุ่น AG-7 "Anti-Gravity" แก่นาซ่า นาซ่าจึงรอดูท่าทีก่อนเนื่องจากปากการุ่นก่อนล้มเหลวไม่เป็นท่า หลังจากทดสอบปากกาอวกาศอย่างเข้มข้นแล้ว ตัวแทนนาซ่าจึงตัดสินใจที่จะใช้ในการเดินทางไปยังอวกาศที่เริ่มขึ้นในปี 1967   ไม่เหมือนปากกาลูกลื่น (ballpoint pen) ส่วนใหญ่ ปากกาของฟิเชอร์ไม่ขึ้นกับแรงโน้มถ่วงเพื่อจะให้หมึกไหลลงมา แต่ตลับหมึกจะอัดความดันด้วยไนโตรเจนที่ 35 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ความดันขนาดนี้จะดันหมึกไปยังลูกลื่นทังสเตนคาร์ไบด์ที่อยู่ปลายปากกา   หมึกก็แตกต่างจากหมึกในปากกาทั่วไปเช่นกัน ฟิเชอร์ใช้หมึกที่อยู่ในสภาพเจลแข็งจนกว่าการเคลื่อนไหวของลูกลื่นจะเปลี่ยนมันเป็นของไหล ไนโตรเจนที่ถูกอัดความดันยังป้องกันอากาศจากการผสมกับหมึกเนื่องจากมันไม่สามารถระเหยหรือออกซิไดส์ได้   จากรายงานของ Associated Press (AP) จากเดือนกุมภาพันธ์ปี 1968 นาซ่าสั่งปากกาลูกลื่น "Anti-Gravity" ของฟิเชอร์ 400 แท่งเพื่อใช้ในโครงการอะพอลโล หนึ่งปีหลังจากนั้น สหภาพโซเวียตสั่งปากกา 100 แท่งและตลับหมึก 1,000 ตลับเพื่อใช้ในภากิจของการยานโซยุส (Soyuz) กล่าวโดย United Press International หลังจากนั้น AP หมายเหตุไว้ว่า ตัวแทนของทั้งนาซ่าและโซเวียตรับส่วนลด 40% ในการซื้อปากกาจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายจ่ายเพียง 2.93 เหรียญต่อด้ามแทนที่จะเป็น 3.98 เหรียญ  จุดเด่นของปากกาอวกาศในโครงการอะพอลโลไม่ได้จำกัดแค่ช่วยให้การเขียนในสภาวะที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยให้สะดวกสบายขึ้นเท่านั้น อ้างอิงจากบริษัท Fisher Space Pen นักบินอวกาศของยานอะพอลโล 11 ยังใช้ปากกานี้ในการเตือนสวิตช์ที่เสียทำให้พวกเขาสามารถกลับมายังโลกได้สำเร็จอีกด้วย  หลังจากปลายยุคปี 1960 เป็นต้นมา นักบินอวกาศอเมริกันและรัสเซียได้ใช้ปากกาของฟิเชอร์มาโดยตลอด ที่จริงแล้ว ฟิเชอร์ได้สร้างปากกาอวกาศรุ่นใหม่หลายรุ่น ปากการุ่นล่าสุดเรียกว่าปากกากระสวยอวกาศ (shuttle pen) ได้ใช้ในกระสวยอวกาศของนาซ่าและในสถานีอวกาศของรัสเซียที่ชื่อเมียร์ (Mir.) แน่นอนว่าคุณไม่ต้องบินไปยังอวกาศเพื่อสัมผัสกับปากกาอวกาศ พวกเราที่อยู่บนโลกสามารถเป็นเจ้าของปากกานี้ได้ด้วยราคาที่ถูกแสนถูกคือ 50 เหรียญ (ถูกแล้วหรอเนี่ย!?) ---------------------------- จาก http://www.electron.rmutphysics.com แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 09:11:44 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 09:04:15 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 09:02:17 จากคุณ : jackmaster เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 08:59:47

ความคิดเห็นที่ 70 .......... Cool !!!      O_o ' จากคุณ : หนุ่มซาเล้ง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 13:52:20

ความคิดเห็นที่ 71 ทำไมไม่ย้ายของใส่รถแล้วชับไปใส่เรืออีกลำข้างบนหละ ง่ายกว่าไหม บริษัทนึงก็มีเรือ 2 ลำ อะไรแบบนี้ (คิดอะไรโง่ ๆ อีกละ 55) จากคุณ : {M}-มดนะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 15:23:15

ความคิดเห็นที่ 72 #69 ตอนหลังรัสเซียก็ใช้ปากกาอัดความดันเหมือนกันครับ เพราะมีปัญหากับผงคาร์บอน จากคุณ : HWalker เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 22:08:54

ความคิดเห็นที่ 73 เจ๋งสุดๆ จากคุณ : ตุ๊กตาที่เธอฝัน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 23:08:03

ความคิดเห็นที่ 74 สุดยอดคิดกันได้ไง engineer บ้านเค้าสุดยอดจริงๆ จากคุณ : tragodius เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 00:48:36

ความคิดเห็นที่ 75 เจ๋งงง!! ชอบของสก๊อตมากเลย ออกแบบได้แจ่มมาก จากคุณ : HaKucHOu เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 02:05:51

ความคิดเห็นที่ 76 .. เข้าใจว่าสร้างมานานแล้ว ไม่ได้เหมือนเขื่อนสามผา (เขื่อนซานเสียต้าป้า) ที่อยู่ตรงแม่น้ำแยงซี แล้วไม่ได้อลังการงานสร้าง ถึงขนาดระเบิดภูเขาข้างๆ เพื่อสร้าง คลองยกระดับเป็นทอดๆไป จากคุณ : ขนมจีนน้ำปลาร้า เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 07:30:32

ความคิดเห็นที่ 77 เคยดูเรื่องของเขื่อนนี้ในรายการ "Big. bigger, biggest" ทางช่อง NG อะค่ะ ที่ใช้วิธีนี้เพราะว่าพื้นที่เหมาะสม เป็นหัวโค้งด้วย และก็ระดับน้ำไม่พอจะสร้างลิฟท์แบบใช้น้ำดันเข้าไปเลย ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะดูรายการนี้มานานมากแล้ว จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 21:28:33

ความคิดเห็นที่ 78 เข้ามาแจมเรื่อง space pen สามารถสั่งซื้อกันได้ด้วยนะครับ สวยดีด้วย (รุ่นหัวกระสุน) ราคา $20 ผมเคยมีอันนึงแต่เขียนแล้วไม่ถูกใจ เลยยกให้แฟนไป จากคุณ : Charles Y. เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 53 03:19:05

ความคิดเห็นที่ 79 นึกว่าเป็นแบบประตูน้ำ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 53 12:33:44

ความคิดเห็นที่ 80 เข้าใจ แล้วว่า #38 คิดยังไง ในเคสนี้มันไม่ใช่เอาเรือลอดสะพานนะครับ ถึงจะทำอย่างที่คุณว่าได้ (ทำสะพานเปิดได้ปิดได้ให้เรือลอดผ่าน) แต่นี่จะเอาเรือที่ล่องมาจากใต้เขื่อนขึ้นไปเหนือเขื่อนนะครับ ก็คือเอาเรือที่ล่องมาทางแม่น้ำใต้เขื่อน แล้วเรือก็จะแล่นต่อไปบนทะเลสามเหนือเขื่อนอะครับ ซึงความสูงมันต่างกันมากก ที่คุณพูดมานั้นมันลนละเรื่องเลยนะ แค่นี้ยังไม่เข้าใจ ยังจะไปด่าคนอื่นอีก จากคุณ : วิ่งแข่งกับดาวหาง เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 53 12:54:49