ความคิดเห็นที่ 1 Polar Obsession จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:37:40

ความคิดเห็นที่ 2 ขั้วโลกเหนือ (North Pole) เป็นจุดที่ถือว่าอยู่ทางเหนือที่สุดของโลก จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:39:41

ความคิดเห็นที่ 3 ขั้วโลกเหนือ (North Pole) จะอยู่ในบริเวณของมหาสมุทรอาร์กติก (Arctic) มหาสมุทรอาร์กติกครอบคลุมแอ่งรูปร่างเกือบเป็นวงกลม มีพื้นที่ 14,090,000 ตร.กม. ล้อมรอบด้วยทวีปยุโรป ทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกาเหนือ และกรีนแลนด์ รวมทั้งเกาะต่างๆ และทะเลแบเร็นตส์ (Barents Sea) ทะเลโบฟอร์ต (Beaufort Sea) ทะเลชุกชี (Chukchi Sea) ทะเลคารา (Kara Sea) ทะเลลัปเตฟ (Laptev Sea) ทะเลไซบีเรียตะวันออก (East Siberian Sea) ทะเลลิงคอล์น (Lincoln Sea) ทะเลแวนเดล (Wandel Sea) ทะเลกรีนแลนด์ (Greenland Sea) และทะเลนอร์เวย์ (Norwegian Sea) เชื่อมกับมหาสมุทรแปซิฟิกที่ช่องแคบเบริง (Bering Strait) และเชื่อมกับมหาสมุทรแอตแลนติกที่ทะเลกรีนแลนด์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:40:46

ความคิดเห็นที่ 4 ซ้ำ. แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 22:42:12 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:41:45

ความคิดเห็นที่ 5 ขั้วโลกเหนือ (North Pole)  อยู่ในบริเวณที่เป็นมหาสมุทรล้อมรอบไปด้วยแผ่นดิน (ที่มีแต่น้ำแข็ง) พื้นที่รอบ ๆ ปราศจากพืชพันธุ์และผืนดินก็ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งเช่นเดียวกัน แต่กลับอุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ทั้งที่อาศัยอยู่ในน้ำแข็ง, ปลา ,สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, นก และรวมถึงมนุษย์ด้วย อาร์กติกจะมีความอ่อนไหวได้ง่ายมากจากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของเรา เช่น อุณหภูมิบนโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ความอ่อนไหวได้ง่ายนี้ทำให้อาร์กติกนี้ถูกมองเสมือนเป็นระบบเตือนภัยล่วงหน้าให้แก่โลกของเรา จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:42:41

ความคิดเห็นที่ 6 ขั้วโลกเหนือมีคำนิยามถึง 4 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะได้พิกัดที่แน่นอนของขั้วโลกเหนือที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม ขั้วโลกเหนือจะอยู่ในบริเวณของมหาสมุทรอาร์กติก ขั้วโลกเหนือน่าจะเต็มไปด้วยพลังงานอย่างแก๊สต่างๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็ง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:43:46

ความคิดเห็นที่ 7 1.ขั้วโลกเหนือทางภูมิศาสตร์ (Geographical North Pole) หรือ "ขั้วโลกเหนือจริง" (True North) คือจุดเหนือสุดที่แกนการหมุนของโลก ตั้งฉากกับพื้นผิวจะอยู่ที่ละติจูด 90 องศาเหนือ (90° N 0° Wพิกัดภูมิศาสตร์: 90° N 0° W) 2.ขั้วโลกเหนือแม่เหล็ก (Magnetic North Pole)  82.7° N 114.4° W[1] 3.Geomagnetic North Pole  79.74° N 71.78° W[2 4.ขั้วโลกเหนือที่ไกลที่สุด (Northern Pole of Inaccessibility) คิดจุดในมหาสมุทรอาร์กติกที่ไกลจากชายฝั่งทุกแห่งมากที่สุด ซึ่งคือพิกัด 84°03′N 174°51′W จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:44:50

ความคิดเห็นที่ 8 ฤดูหนาว (ม.ค.) −43 °C ถึง −26 °C เฉลี่ยราว −34 ° ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) เฉลี่ย 0 °C จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:45:27

ความคิดเห็นที่ 9 9 ข้อที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวขั้วโลกเหนือ 1. คำว่า Arctic ที่ใช้เรียกสถานที่นี้มาจากภาษากรีกแปลว่า หมี จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:45:57

ความคิดเห็นที่ 10 2. จาก การวิจัยความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขั้วโลกเหนือได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจุดเตือนภัยขั้นต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงอากาศบนโลก จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:46:23

ความคิดเห็นที่ 11 3. อุณหภูมิเฉลี่ยของขั้วโลกเหนือคือ -37 องศาเซลเซียส แต่ต่ำสุดที่เคยวัดคือ -68 องศาเซลเซียส จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:46:49

ความคิดเห็นที่ 12 4. จิ้งจองขั้วโลกเป็นสัตว์ที่มี ขนสัตว์ให้ความอบอุ่นที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วยกัน มากกว่าหมีขั้วโลก และหมาป่าขั้วโลกเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:47:06

ความคิดเห็นที่ 13 arctic fox จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:47:38

ความคิดเห็นที่ 14 5. วัว มัสค์อ๊อค Musk ox มีกะโหลกศีรษะที่แกร่งราวกับเกราะหนักเพื่อป้องกันมันจากการต่อสู้กับพวก เดียวกันเอง ว่ากันว่าการปะทะกันของพวกมันไม่ต่างกับการขับรถชนกำแพงด้วยความเร็ว 27 กม./ชม. จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:48:07

ความคิดเห็นที่ 15 6. กวางคาลิบูสามารถนอนหลับในน้ำได้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:48:44

ความคิดเห็นที่ 16 7. มหาสมุทรอาร์กติก Arctic Ocean จัดเป็นมหาสมุทรที่มีขนาดเล็กที่สุดของโลก (รองจาก มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรใต้) และมีความตื้นมากที่สุดด้วย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:49:17

ความคิดเห็นที่ 17 ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2452 Robert Edwin Peary นักสำรวจชาวอเมริกัน เป็นคนแรกที่เดินทางไปถึง ขั้วโลกเหนือ (North Pole) Peary  เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2399 ที่รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา เข้าเป็นนาวิกโยธินสหรัฐในปี 2424 ระหว่างปี 2429-2434 เขาเคยสำรวจทวีปอาร์คติก (Arctic) บริเวณเกาะกรีนแลนด์ เขาได้เรียนรู้เทคนิคการดำรงชีพอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในทวีปน้ำเข็งจาก ชาวเผ่าอินนุยท์ (Inuit) หรือเอสกิโม จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:49:44

ความคิดเห็นที่ 18 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 22:51:03 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:50:19

ความคิดเห็นที่ 19 เกร็ดความรู้ เอสกิโม (eskimo) เป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่อยู่ติดขั้วโลกเหนือ คนเอสกิโมหน้าตาคล้ายคนจีนธิเบตมาก คือผิวสีน้ำตาล ตัวเตี้ย ตาหยี เพราะเป็นพวกเชื้อสายมองโกลอยด์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:51:46

ความคิดเห็นที่ 20 ในปี 2441-2448 Peary เริ่มออกสำรวจขั้วโลกเหนือแต่ไม่สำเร็จ และวันที่ 1 มีนาคม 2452 เขาได้ออกสำรวจขั้วโลกเหนืออีกครั้งและไปตั้งแคมป์ที่ขั้วโลกเหนือได้สำเร็จ ในวันที่ 6 เมษายน พร้อมกับเพื่อนชาวอเมริกัน Matthew Henson ชาวเอสกิโม 4 คนได้แก่ Ootah, Egigingwah, Seegloo, Ooqueah และสุนัขลากเลื่อนอีก 40 ตัว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:52:17

ความคิดเห็นที่ 21 หมี Pooh ต่างหากที่เป็นผู้ค้นพบ  North Pole   เรื่องมีอยู่ว่า Christopher Robin ได้ชวน Pooh และเพื่อนผองเพื่อนอันได้แก่ Rabbit และญาติ ๆ , Piglet, จิ้งโจ้แม่ลูก แม่ชื่อ Kanga กับลูกชื่อ Roo ที่อยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง,นกฮูกชื่อ Owl , และลาชื่อEeyore  ออกเดินทางสำรวจขั้วโลกเหนือ ซึ่งทั้งหมดก็ไม่รู้ว่า ไอ้ขั้วโลกเหนือนี่มันเป็นยังไง เมื่อเดินถึงลำธาร นักสำรวจทั้งหมดได้พักรับประทานอาหารที่เตรียมไว้ Christopher Robin  ปรึกษากับ Rabbit  (ตัวนี้ฉลาดสุดในกลุ่มแล้ว) ว่า North Pole  มันเป็นยังไงกันแน่ ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร(สองคนนี้แหละ ฉลาดสุดในกลุ่มแล้ว ) แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 22:55:25 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:53:13

ความคิดเห็นที่ 22 เสริม  North pole : North แปลว่า เหนือ ส่วน pole แปลว่า เสา (หรือขั้วโลก) คิดว่าสองคนจะเข้าใจว่า มันก็คือ เสาที่อยู่บริเวณตอนเหนือของป่า 100 เอเคอร์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:53:44

ความคิดเห็นที่ 23 เย้ๆๆๆ คุณลาบมาแล้ว มาปาร์ตี้กันเถอะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:53:30

ความคิดเห็นที่ 24 หวัดดีคุณกี๊ฟ ^สาเหตุน้ำแข็งขั้วโลกละลาย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:54:56

ความคิดเห็นที่ 25 ขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อนสำราญใจที่ข้างลำธาร เจ้า Roo ก็พลัดตกลงไปในน้ำ กระแสน้ำเชี่ยวได้พัดพาให้ Roo ไหลไปเรื่อย ๆ ทันใดนั้น Pooh ซึ่งบังเอิ๊ญบังเอิญหาเสาไม้ยาว ๆ ได้พอดี จึงนำเสาไม้นั้นมาช่วย Roo ขึ้นฝั่งได้สำเร็จ Christopher Robin  เห็นดังนั้นก็ตื่นเต้นมากที่ขั้วโลกเหนือถูกค้นพบแล้ว!!!!!!!! โดย Pooh  ทุกคนช่วยกันปักไม้ที่ Pooh  ค้นพบลงดิน Christopher Robin   ก็เอาป้ายเขียนว่า "ขั้วโลกเหนือค้นพบโดย Pooh  Pooh  เป็นคนพบมัน" ผูกติดไว้  จบแล้วเด้อ สุดท้าย Pooh  ก็บังเอิญเป็นวีรบุรุษด้วยความไม่ตั้งใจอีกแล้ว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:55:58

ความคิดเห็นที่ 26 จากหนังสือเล่มนี้ ตอน Christopher Robin  Leads an Expotition to the North Pole ปล. ที่บ้านมีเป็นชุดเลยของน้องสาว แอบหยิบมาอ่าน ก็ฮา ๆ โดยเฉพาะหมีพูห์นี่แหละ ฮา ๆ แบบติ๊งต๊องดี แต่จะว่าไปก็ต๊องทุกตัวเลย แต่ก็น่ารัก คลายเครียดได้เยอะ (ขำแบบคลาสสิก)รึป่าว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:56:42

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบลูกหมีขั้วโลก น่าร๊ากกกก อยากเก็บมาเลี้ยงในตู้เย็น จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:58:32

ความคิดเห็นที่ 28 และซานตาคลอสก็อยู่ที่ขั้วโลกเหนือ (North Pole, Alaska)  ด้วยนะ   ที่ทำการไปรษณีย์ ที่แคนาดา Canada Post ได้กำหนดรหัสไปรษณีย์ H0H 0H0 หากจะเขียนจดหมายไปยังขั้วโลกเหนือ (ซึ่งมาจากอาการหัวเราะของลุงซานต้า  "Ho - ho - ho!") Merry Christmas ล่วงหน้า 8 เดือน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:58:58

ความคิดเห็นที่ 29 ขั้วโลกใต้ (South Pole) เป็นจุดที่อยู่ทางทิศใต้สุดของโลก จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:00:30

ความคิดเห็นที่ 30 ขั้วโลกใต้ ที่มีพิกัดอยู่บนพื้นทวีปแอนตาร์กติกา (Antarctica) เป็นแผ่นดิน เต็มไปด้วยภูเขา และทะเลสาบ ล้อมรอบไปด้วยมหาสมุทร มีตำแหน่งอยู่ตรงข้ามกับเขตอาร์กติก ที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:01:44

ความคิดเห็นที่ 31 ที่ขั้วโลกใต้นั้น เป็นทวีปที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งถึง 98% ซึ่งมีชั้นน้ำแข็งปกคลุมหนาเฉลี่ย 2,450 เมตร (แผ่นน้ำแข็งเฉลี่ยหนาอย่างน้อย 1.6 km และจุดที่สูงที่สุดที่สูงในทวีปแอนตาร์กติกาอยู่บริเวณเทือกเขา Ellsworth วัดความสูงได้ 4,892 m (16,050 ft)) และเป็นทวีปที่มีอุณหภูมิต่ำสุดในโลก แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 11:15:14 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:02:46

ความคิดเห็นที่ 32 ขั้วโลกใต้เป็นดินแดนที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่เนื่องจากเป็นแผ่นดินที่อยู่ห่างไกล โดดเดี่ยวและหนาวเหน็บ ส่วนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จะอพยพเข้ามาบริเวณชายฝั่งทวีปในช่วงฤดูร้อนสั้นๆ เท่านั้น นอกจากนี้น้ำแข็ง 90% ของโลกยังรวมอยู่ที่ทวีปนี้ด้วย ทำให้มีน้ำจืดประมาณร้อยละ 70 ของโลก ถ้าน้ำแข็งทั้งหมดละลายแล้ว ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นประมาณ 61 เมตร จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:03:24

ความคิดเห็นที่ 33 แอนตาร์กติกาจะมีภูเขาไฟจำนวนมาก แต่มีเพียงแห่งเดียวที่ทราบแน่ชัดว่ายังคงคุกรุ่นอยู่ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:04:40

ความคิดเห็นที่ 34 กลุ่มคนที่เข้าไปมากที่สุดคือ นักวิทยาศาสตร์ และขั้วโลกใต้ ถูกคาดหวังว่าน่าจะมีน้ำมันปิโตรเลียมดินแดนหลายส่วนในทวีปแอนตาร์กติกาถูกประเทศต่างๆ อ้างสิทธิ์ครอบครองดังเช่น ประเทศอาร์เจนตินา ชิลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:05:18

ความคิดเห็นที่ 35 ทวีปแอนตาร์กติกามีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 5 รองจากเอเชีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ แต่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก (ความจริงแล้วไม่มีประชากรอยู่ถาวร) นอกจากนี้ยังเป็นทวีปที่มีระดับความสูงเฉลี่ย สูงที่สุด ความชื้นเฉลี่ยและ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำที่สุดในโลก จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:05:42

ความคิดเห็นที่ 36 การสำรวจขั้วโลกใต้เริ่มต้นเมื่อกว่า 200 ปีก่อน โดยกัปตัน เจมส์ คุก (James Cook) ชาวอังกฤษได้เดินเรือผ่านน่านน้ำมหาสมุทรแอนตาร์กติก ห่างออกจากชายฝั่งทวีปแอนตาร์กติกาเพียง 121 กิโลเมตร และเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันพิชิตดินแดนแห่งนี้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:06:06

ความคิดเห็นที่ 37 แอล. คริสเตนเซน (L. Kristensen) ชาวนอร์เวย์เป็นคนแรกที่เหยียบฝั่งทวีปแอนตาร์กติกา ส่วนผู้ที่พิชิตขั้วโลกใต้สำเร็จคือ คณะสำรวจของ อาร์. อามุนด์เซน (R. Amundsen) ชาวนอร์เวย์ ซึ่งไปถึงขั้วโลกใต้สำเร็จเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2454 และคณะของ อาร์ เอฟ สก็อตต์ (R.F. Scott) ชาวอังกฤษ ซึ่งไปถึงจุดดังกล่าววันที่ 17 ม.ค.2455 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:06:31

ความคิดเห็นที่ 38 เพื่อกำหนดให้ทวีปแอนตาร์กติกาเป็นสมบัติของมนุษยชาติ ห้ามกิจกรรมทางการทหารและการพาณิชย์ ยับยั้งการอ้างสิทธิเหนือดินแดน แต่ส่งเสริมความร่วมมือทางการวิจัย ในวันที่ 1 ธ.ค.2502 จึงมี 12 ชาติที่ร่วมลงนามภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยทวีปแอนตาร์กติกา (Antarctic Treaty) โดยชาติเอเชียมีเพียงญี่ปุ่นเป็นตัวแทนชาติเดียว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:06:51

ความคิดเห็นที่ 39 ... จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:08:01

ความคิดเห็นที่ 40 ฤดูร้อน กลางฤดู เฉลี่ยราว −25 ° C  ปลาย มี.ค. และ ก.ย. ราว −45 ° C ฤดูหนาว เฉลี่ยราว −65 ° C ตามสถิติ (ที่สถานีวิจัย Amundsen-Scott South Pole Station) สูงสุด −13.6 ° C  (27 ธ.ค. 1978) ต่ำสุด −82.8 ° C  (23 มิ.ย. 1982) แก้ไข ° C  คือองศาเซลเซียน แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 11:29:24 แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 11:37:42 แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 11:40:30 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:08:01

ความคิดเห็นที่ 41 สิ่งที่ทำให้ขั้วโลกใต้เย็นกว่า ขั้วโลกเหนือมากคือ มันตั้งอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่หนามากที่อยู่บนพื้นทวีปอีกที พื้นผิวของแผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้มีความสูงมากกว่า 9,000 ฟุต ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 1.5 ไมล์ อาจจะกล่าวได้ว่าทวีปแอนตาร์กติกา (Antarctica) เป็นทวีปที่สูงที่สุด จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:08:20

ความคิดเห็นที่ 42 ส่วนขั้วโลกเหนือตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทรอาร์กติก ซึ่งเป็นแผ่นน้ำแข็งลอยอยู่สูงกว่าระดับน้ำโดยรอบเพียง 1 ฟุต มหาสมุทรอาร์กติกเป็นเหมือนแหล่งเก็บความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะปล่อยความอบอุ่นในฤดูหนาวและเก็บกักความร้อนจากอากาศในฤดูร้อน ภาพถ่ายบริเวณอลาสก้า แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 21:55:43 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:09:14

ความคิดเห็นที่ 43 โอ๊ย ลื่น จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:09:22

ความคิดเห็นที่ 44 พื้นที่ขั้วโลกทั้งสองเย็นมาก เนื่องจากพื้นนี้เหล่านี้รับแสงแดดน้อยกว่าพื้นที่แถบเขตร้อน ที่ขั้วโลกทั้งสอง ดวงอาทิตย์ไม่เคยขึ้นสูงเกิด 23.5 องศาเหนือขอบฟ้าเลยและทั้งสองสถานที่จะอยู่ในความมืดนานติดต่อกันถึง 6 เดือน แต่อย่างไรก็ตาม แสงแดดที่ส่องในพื้นที่ขั้วโลกจะถูกสะท้อนกลับจากพื้นผิวสีขาว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:09:42

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณ ข้อมูลทั้งหมดจาก http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=2804 http://en.wikipedia.org/wiki/North_pole http://en.wikipedia.org/wiki/Arctic_Ocean http://en.wikipedia.org/wiki/South_Pole http://en.wikipedia.org/wiki/Antarctica http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20081222105442AAkS8kD http://www.dek-d.com/content/all/4538/ http://210.246.188.53/trang1kmc/modules.php?name=News&file=article&sid=868 http://atcloud.com/stories/79255 http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=News&file=article&sid=2619 guru.sanook.com เป็นข้อมูลทั้งหมดที่ จขกท. ได้รวบรวมไว้นะครับ จขกท. ไม่ได้อยู่ในสายนักวิชาการ (ที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับขั้วโลก) เพราะฉะนั้นถามได้แต่ตอบไม่ได้ครับ (คุณกิ๊ฟขอยืมมุกหน่อยนะ) ข้อปรับปรุงแก้ไขข้อความนะครับ จะสื่อว่าไม่ได้เป็นอาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ แต่ได้คัดกรองข้อมูลแล้วครับ   ปล.ถามได้ตอบไม่ได้เป็นมุกนะครับ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 09:29:50 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:10:59

ความคิดเห็นที่ 46 ไปดู Aurora ขั้วโลกกัน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:12:45

ความคิดเห็นที่ 47 ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งในแถบขั้วโลกเหนือ-ใต้  (แสงเหนือ แสงใต้ Aurora) ปรากฏการณ์แสงออโรร่า (Aurora) เกิดขึ้นเฉพาะที่ขั้วโลกเหนือและใต้ เป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้นโลก มันอาจปรากฏจากสิ่งจางๆ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที ภาพแสงใต้ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 23:14:18 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:13:49

ความคิดเห็นที่ 48 "ไม่ได้อยู่ในสายวิชาการ" คุณลาบเป็นดารานี่เอง !!!! หมีขั้วโลกเบื่ออากาศหนาว เลยไปเที่ยวภูเก็ต จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:14:00

ความคิดเห็นที่ 49 บางครั้งจะปรากฏเหมือนมันจะแตะกับพื้น หรือในเวลาอื่นอาจเห็นมันพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความจริงแล้ว แสงออโรรานั้นเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บริเวณบรรยากาศชั้นบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศ ภาพแสงเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:16:15

ความคิดเห็นที่ 50 เกร็ดความรู้ คำว่า "Aurora Borealis" แปลว่า "แสงเหนือ" (Northern Light) จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:17:21

ความคิดเห็นที่ 51 ส่วน "Aurora Australis" แปลว่า "แสงใต้" (Southern Light) จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:17:42

ความคิดเห็นที่ 52 และคำว่า "Aurora Polaris" แปลว่า "แสงขั้วโลก" ใช้เรียกทั้งแสงเหนือและแสงใต้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:18:14

ความคิดเห็นที่ 53 สาเหตุ การเกิด Aurora ก่อนเราจะทำความรู้จัก กับ ออโรรา เราต้องรู้ข้อเท็จจริงที่มา มีสิ่งมากมายในอวกาศที่เรามองไม่เห็น อย่างแรกก็คืออากาศที่เราหายใจ บรรยากาศของเรา ประกอบด้วยแก๊สมากมายจริงๆ แต่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยไนโตรเจน และ ออกซิเจน ตามมาด้วยไฮโดรเจน ฮีเลียม และ ธาตุอื่นๆ อีกมากมาย ภาพแสงใต้ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 23:19:24 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:19:01

ความคิดเห็นที่ 54 อีกอย่างที่เรามองไม่เห็น ก็คือ สนามแม่เหล็กซึ่งมีอยู่รอบๆ โลกของเรา ถ้าคุณเคยเล่นแท่งแม่เหล็กกับเศษเหล็กละก็ คุณต้องเคยเห็นเหล็กเรียงตัวเป็นรูปโค้งที่เกิดจากสนามแม่เหล็กแน่ ต่อไปสนามแม่เหล็กของโลก ที่อยู่รอบแกนโลก และมีลักษณะเหมือนกับ สนามแม่เหล็กรอบแท่งแม่เหล็ก แม่เหล็กโลกอยู่ลึกลงไปในแกนโลก แม้เราจะมองไม่เห็นสนามแม่เหล็ก แต่เราสามารถวาดรูปประกอบได้สนามแม่เหล็กพุ่งออกและเข้าสู่ขั้วแม่เหล็กโลก   ภาพแสงเหนือ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 22:04:16 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:19:57

ความคิดเห็นที่ 55 อันนี้ออร่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:20:32

ความคิดเห็นที่ 56 สิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่สาม (ที่จะกล่าวถึง) คือ พลาสมาที่อยู่ในอวกาศรอบๆ โลก พลาสมานี้เกิดจาก อนุภาคมีประจุจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็น อิเล็กตรอน และอนุภาคบวก ที่อยู่รอบๆ สนามแม่เหล็กโลก อนุภาคเหล่านี้มักจะเคลื่อนที่พิเศษจากเดิมคือ จะเคลื่อนไปตาม สนามแม่เหล็กโลก และหมุนรอบเส้นนั้นเป็นเกลียวยาว อนุภาคมีประจุเหล่านี้ คือ “ลูกกระสุน (Ammunition) ” ของออโรรา อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า ( ก็อิเล็กตรอนนั่นแหละ) จะเคลื่อนที่ไปตามแนวสนามแม่เหล็กโลกแล้วพุ่งลงไป ยังบรรยากาศชั้นบน ซึ่งทำให้ไปชนกับอะตอมของแก๊ส ผลที่เกิดก็คือ มีแสงสีต่าง ๆ เกิดขึ้น ภาพแสงใต้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:20:54

ความคิดเห็นที่ 57 มีข้อโต้เถียงกันมานานเกี่ยวกับเสียงของออโรราว่ามันสามารถได้ยินโดยผู้สำรวจบนพื้นโลกหรือไม่ แต่บริเวณที่ออโรราปรากฏนั้นอยู่ใกล้สุญญากาศมาก ซึ่งทำให้เป็นเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเสียงขึ้น กระนั้น ก็มีรายงานมากมายว่าได้ยินเสียงระหว่างเกิดออโรรา เสียงที่ได้ฟังนั้น ไม่ใช่เป็นเสียงที่บันทึกจากออโรราโดยตรง แต่เป็นเสียงที่บันทึกจากแมกนีโตมิเตอร์ (Magnetometer) เสียงที่เปลี่ยนไปคือการเปลี่ยนไปของสนามแม่เหล็กซึ่งเกิดจากอนุภาคสุริยะ (Solar Particles) ภาพแสงเหนือ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 22:25:14 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:21:22

ความคิดเห็นที่ 58 ออโรราในยามค่ำคืนจะพบที่ความสูง 90 ถึง 150 กิโลเมตร มีบางส่วนที่อาจแผ่กว้างถึง 500 กิโลเมตร แต่โดยเฉลี่ย มีความสูงที่ 100 ถึง 120 กิโลเมตร ภาพแสงเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:22:26

ความคิดเห็นที่ 59 สวยจังเลยค่ะ ขอบคุณที่หาอะไรดีๆมาให้อ่านนะคะ จากคุณ : wapainunoon เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:22:33

ความคิดเห็นที่ 60 ตารางแสดงความถี่ในการปรากฏออโรราในสถานที่ต่างๆทั่วโลก เมือง Andenes ประเทศนอร์เวย์  ความถี่ในการปรากฏ  เกือบทุกคืนที่ฟ้าโล่ง เมือง Fairbanks รัฐอลาสกา                                5 – 10 ครั้งต่อเดือน เมือง Oslo ประเทศนอร์เวย์                             3 คืนต่อเดือน สกอตแลนด์เหนือ                                                เดือนละครั้ง พรมแดนสหรัฐ/แคนาดา                                        2 – 4 ครั้งต่อปี เม็กซิโก และ เมดิเตอเรเนียน                                1 – 2 ครั้งใน 10 ปี ประเทศตอนใต้ทะเลเมดิเตอเรเนียน                   1 – 2 ครั้งในศตวรรษ แถบศูนย์สูตร                                                1 ครั้งในรอบ 2000 ปี รอดูที่ประเทศไทยในรอบสองพันปี ภาพแสงเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:24:32

ความคิดเห็นที่ 61 บริเวณที่เกิดออโรราเป็นบริเวณรูปไข่ (Oval-shape region) รอบๆ ขั้วแม่เหล็กของโลก โดยรูปไข่จะเบ้ไปทางด้านกลางคืนของโลก เมื่อออโรราสงบ รูปไข่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3000 กิโลเมตร แต่เมื่อเกิดออโรรารุนแรงขึ้น รูปไข่จะกว้างขึ้นกว่า 4000 หรือ 5000 กิโลเมตร เนื่องจากขั้วแม่เหล็กเหนือของโลกอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดา ออโรรา โบเรลลีส (Aurora Borealis) จึงพบมากที่เส้นรุ้ง (Latitude) ที่มีประชากรอาศัยมากในซีกโลก (hemisphere) ตะวันตก ส่วนออโรราออลเตรลีส (Aurora Australis) สามารถมองเห็นได้จากเกาะทัชมาเนีย (Tasmania) และทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ ภาพแสงเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:25:22

ความคิดเห็นที่ 62 สีของออโรรา ดวงอาทิตย์ปล่อยแสงทุกสีที่มองเห็นได้ออกมาก ทำให้เราเห็นแสงอาทิตย์เป็นสีขาว ส่วนสเปคตรัมของออโรรา ก่อนจะศึกษารายละเอียด เราต้องรู้เรื่อง สาเหตุการเกิดแสงก่อน ภาพแสงใต้บ้าง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:26:15

ความคิดเห็นที่ 63 ในบรรยากาศประกอบด้วยไนโตรเจน และ ออกซิเจน เป็นหลัก อนุภาคของแก๊สเหล่านี้จะปลดปล่อยโฟตอนซึ่งมีความยาวคลื่นคงที่ เมื่ออนุภาคมีประจุไฟฟ้า กระตุ้นแก๊สในบรรยากาศ อิเล็กตรอนจะเริ่มเคลื่อนที่รูปนิวเคลียสในวงโคจรที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีพลังงานเหลือเฟือ อนุภาคที่ถูกกระตุ้นจะไม่เสถียรและจะปลดปล่อย พลังงานออกมาในรูปของแสง เรียกว่าแสงนี้ว่า ออโรรา ภาพแสงเหนืออีกแ่ล้ว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:27:00

ความคิดเห็นที่ 64 แสงสีเขียวเข้ม เกิดที่ความสูง (Altitudes) ที่ 120 ถึง 180 กิโลเมตร แสงเหนือสีแดงปรากฏที่ความสูงที่สูงกว่า ส่วนสีฟ้า และม่วงปรากฏที่ความสูงต่ำกว่า 120 กิโลเมตร แสงสีแดงจะปรากฏที่ความสูงตั้งแต่ 90 ถึง 100 กิโลเมตร ภาพแสงใต้บ้าง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:27:46

ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อออโรราจางลง มันจะปรากฏเป็นสีขาวเมื่อมองด้วยตาเปล่า เมื่อมันสว่างขึ้น สีจึงมองเห็นขึ้นมา เมื่อมีความหนาแน่นมากขึ้น ในบริเวณที่ต่ำลงมาจะมองเห็นเป็นสีเขียวสด และ สีแดงจางๆ จะมองเห็นที่ความสูงมากๆ เหนือชั้นบรรยากาศขึ้นไป 100 กิโลเมตร ประกอบด้วยโมเลกุลไนโตรเจนและออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไนโตเจนจะมีมากที่ความสูง 10 กิโลเมตร และออกซิเจนมีมากที่ 200 กิโลเมตร ณ ความสูงต่าง ๆ ในชั้นบรรยากาศเทอโมสเฟียร์ เมื่ออะตอมออกซิเจนถูกกระตุ้น มันจะปล่อยแสงมากมายหลายสีออกมาก แต่สีที่ที่สว่างที่สุดคือที่แดงและสีเขียว แสงเหนือ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:29:33

ความคิดเห็นที่ 66 แสงใต้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:29:53

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณครับ เริ่มเย็นขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:30:14

ความคิดเห็นที่ 68 จบเรื่อง Aurora ข้อมูล Aurora จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2_%28%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%29 แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 23:31:40 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 22:23:19 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:31:17

ความคิดเห็นที่ 69 ก๊าบ ก๊าบ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:32:50

ความคิดเห็นที่ 70 ปรากฏการณ์โลกร้อน (Global warming) เป็นคำจำเพาะคำหนึ่งของอุบัติการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก หมายถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศ ใกล้พื้นผิวโลกและน้ำในมหาสมุทรตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20  และมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:32:41

ความคิดเห็นที่ 71 หลังจากเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ วิกฤตการณ์โลกร้อนเป็นสิ่งที่ถูกอ้างถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แน่นอนว่าหลายคนที่มีชีวิตท่ามกลางความศิวิไลซ์อาจไม่ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว หรือยังไม่อาจเห็นปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม แต่ที่ขั้วโลกอันหนาวเหน็บสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ส่งผลกระทบ ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายในที่แห่งนั้นต้องดำรงชีพด้วยความยากลำบาก และหาทางอยู่รอดกว่าที่เคยประสบ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:33:34

ความคิดเห็นที่ 72 ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา นับถึง พ.ศ. 2548 อากาศใกล้ผิวดินทั่วโลกโดยเฉลี่ยมีค่าสูงขึ้น 0.74 ± 0.18 องศาเซลเซียส ซึ่ง Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC ของสหประชาชาติได้สรุปไว้ว่า “จากการสังเกตการณ์การเพิ่มอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลก ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2490) ค่อนข้างแน่ชัดว่าเกิดจากการเพิ่มความเข้มของแก๊สเรือนกระจกที่เกิดขึ้นโดยกิจกรรมของมนุษย์ ที่เป็นผลในรูปของปรากฏการณ์เรือนกระจก” ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่าง เช่น ความผันแปรของการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์และการระเบิดของภูเขาไฟ อาจส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อการเพิ่มอุณหภูมิในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมจนถึง พ.ศ. 2490 และมีผลเพียงเล็กน้อยต่ออุณหภูมิหลังจากปี 2490 เป็นต้นมา ข้อสรุปพื้นฐานดังกล่าวนี้ได้รับการรับรองโดยสมาคมและสถาบันการศึกษาทาง วิทยาศาสตร์ไม่น้อยกว่า 30 แห่ง รวมทั้งสมาคมทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติที่สำคัญของประเทศอุตสาหกรรมต่างๆ แม้นักวิทยาศาสตร์บางคนจะมีความเห็นโต้แย้งกับข้อสรุปของ IPCC อยู่บ้าง แต่เสียงส่วนใหญ่ของนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ของโลกโดยตรงเห็นด้วยกับข้อสรุปนี้ แบบจำลองการคาดคะเนภูมิอากาศที่สรุปโดย IPCC บ่งชี้ว่าอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยที่ผิวโลกจะเพิ่มขึ้น 1.1 ถึง 6.4 องศาเซลเซียส ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 21 (พ.ศ. 2544–2643) ภาพถ่ายของ ดร.สุชนา ชวนิชย์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:34:34

ความคิดเห็นที่ 73 การที่อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นทำให้ขนาดของอาร์กติก (Arctic shrinkage)ลดลง,ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และคาดว่าทำให้เกิดภาวะดินฟ้าอากาศที่รุนแรงมากขึ้น (extreme weather) ปริมาณและรูปแบบการเกิดฝน ลูกเห็บ หิมะ จะเปลี่ยนแปลงไป เกิดการลดปริมาณน้ำในแม่น้ำลำธารในฤดูร้อน ผลกระทบอื่นๆ ของปรากฏการณ์โลกร้อนได้แก่ ผลกระทบต่อเกษตรกรรม, การหมุนเวียนกระแสน้ำอุ่นที่ช้าลงหรืออาจหยุดลง, การลดลงของชั้นโอโซน, การเกิดพายุเฮอร์ริเคนและ ค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำทะเลลดลง และการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ การเคลื่อนที่ของธารน้ำแข็ง (glacial retreat) จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:35:24

ความคิดเห็นที่ 74 แก๊สเรือนกระจกในบรรยากาศ แก๊สเรือนกระจกในบรรยากาศ หลักบนโลกคือ ไอระเหยของน้ำ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปรากฏการณ์โลกร้อนมากถึงประมาณ 30-60% (ไม่รวมก้อนเมฆ) คาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวการอีกประมาณ 9–26% แก๊สมีเทน (CH4) เป็นตัวการ 4–9% และโอโซนอีก 3–7%  ซึ่งหากนับโมเลกุลต่อโมเลกุล แก๊สมีเทนมีผลต่อปรากฏการณ์เรือนกระจกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ความเข้มข้นน้อยกว่ามาก ดังนั้นแรงการแผ่ความร้อนจึงมีสัดส่วนประมาณหนึ่งในสี่ของคาร์บอนไดออกไซด์ และยังมีแก๊สอื่นอีกที่เกิดตามธรรมชาติแต่มีปริมาณน้อยมาก หนึ่งในนั้นคือ ไนตรัสออกไซด์ (N2O) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมของมนุษย์ เช่นเกษตรกรรม นับจากการเริ่มต้นของยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงประมาณ พ.ศ. 2290 การเผาผลาญเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์หรือเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil fuel) มีส่วนเพิ่ม CO2 ในบรรยากาศประมาณ 3 ใน 4 ของปริมาณ CO2 ทั้งหมดจากกิจกรรมมนุษย์ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน โดยเฉพาะการทำลายป่าเป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:36:49

ความคิดเห็นที่ 75 ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) โลกรับพลังงานจากดวงอาทิตย์ในรูปของการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ พลังงานเกือบทั้งหมดมีขนาดความยาวช่วงคลื่นที่มองเห็นได้และในช่วงความยาวคลื่นอินฟราเรดที่เกือบมองเห็น โลกมีอัตราส่วนการสะท้อนรังสีกลับ (albedo) ประมาณ 30% ของรังสีดวงอาทิตย์ที่แผ่ลงมา ที่เหลือร้อยละ 70 จะถูกดูดซับไว้ ทำความอบอุ่นให้แก่พื้นดิน บรรยากาศและมหาสมุทร ชั้นบรรยากาศของโลกกระทำตัวเสมือนกระจกที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นผ่าน ลงมายังผิวโลกได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้จากนั้นก็จะคายพลังงานความร้อนให้กระจายอยู่ภายในชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลกจึงเปรียบเสมือนกระจกที่ปกคลุมผิวโลกให้มีภาวะสมดุลทางอุณหภูมิ และเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก          แต่ในปัจจุบันมีแก๊สเรือนกระจก เช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC8) และก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) เป็นต้น สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศมากเกินสมดุล ซึ่งก๊าซเหล่านี้ สามารถดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรด และคายพลังงาน ความร้อนได้ดี พื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ ของโลก และสิ่งมีชีวิตพื้นผิวโลกอย่างมากมาย แม้ว่าจะมีการรณรงค์เพื่อลดการปลด ปล่อยก๊าซเรือนกระจก กันอย่างกว้างขวาง แต่อัตราการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกก็ยังมีมากขึ้นซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:37:36

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Global_warming http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-5-2100.html http://en.wikipedia.org/wiki/Greenhouse_effect http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=News&file=article&sid=2619 ปล การทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศก็ทำให้อุณหภูมิของผิวโลกเพิ่มขึ้นได้นะ ไฮโดรเจน ไนโตรเจน และคลอรีนเป็นสาระสำคัญในการทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:38:41

ความคิดเห็นที่ 77 ขั้วโลกเหนือกับภาวะโลกร้อน เพียง 30 ปีที่ผ่านมา สถิติที่น่าตกใจก็คือน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือละลายไปแล้วคิดเป็นพื้นที่เกือบ ถึง 2 เท่าของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าข้อบ่งชี้ที่ปรากฎในงานชิ้นนี้ย่อมไม่ได้แสดงให้เห็นผลกระทบ ที่เกิดต่อสัตว์ในพื้นที่เท่านั้น แต่ภาวะโลกร้อนจะส่งผลต่อเนื่องมายังมนุษย์ไม่ช้าก็เร็ว http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=News&file=article&sid=2619 แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 23:39:59 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:39:39

ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อหลายปีก่อนนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มได้ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับน้ำแข็งในขั้วโลกลเหนือว่า 80% ของแผ่นน้ำแข็งทั้งหมดจะละลายในอีก 90 ปีข้างหน้าแต่หลังจากที่ได้ทำการวิจัยใหม่โดยคำนวนกับข้อมูลจาก ผลกระทบของภาวะโลกร้อน แล้ว ทำให้ได้ผลลัพท์ที่น่าเป็นห่วงยิ่งนักเพราะ เวลานั้นลดลงเหลือแค่ 30 ปีเท่านั้นก่อนที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะละลาย แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 22:47:28 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:40:40

ความคิดเห็นที่ 79 “หลังจากฤดูร้อนปี 2009 จำนวนแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมมหาสมุทรที่ขั้วโลกเหนือ นั้นอาจจะลดลงเหลือแค่ประมาณ 1 ล้านตารางกิโลเมตร” นักวิจัยในสหรัฐผู้เขียน The Study published Thursday ได้ทำนายไว้ “เมื่อเปรียบเทียบพื้นที่น้ำแข็งในขณะนี้ซึ่งมีมากถึง 4.6 ล้านกิโลเมตร” http://www.universetoday.com/2008/09/16/image-of-sun-and-moon-at-the-north-pole-real-or-work-of-art/ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 22:51:04 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 11:37:15 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:41:11

ความคิดเห็นที่ 80 นักวิทยาศาสตร์ได้ทำแบบจำลองขึ้นมาโดยจำลองการเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งใน ขั้วโลกเหนือ เหมือนในฤดูร้อนปี 2007 และ2008 ซึ่งพื้นที่ๆ ปกคลุมด้วยน้ำแข็งนั้นลดลงถึง 300,000 ตารางกิโลเมตร จาก 4.6 ล้านตารางกิโลเมตรเหลือแค่ 4.3ล้านตารางกิโลเมตร โดยผลการจำลองการเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือนั้นออกมาแล้วว่า อีก 32 ปีข้างหน้ามีสิทธิที่น้ำแข็งที่ปกคลุมขั้วโลกเหนือจะละลาย แต่ยังมีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มออกมาบอกว่าอีกแค่ 11 ปีเท่านั้นน้ำแข็งจะละลายแต่การที่น้ำแข็งละลายนั้นทำให้คนบางกลุ่มออกมาบอกว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง สำหรับการส่งสินค้าทางเรือ หรือ การขุด ข้อมูลจาก : StopGlobalWarming.org แปลไทยโดย : ThaiHotZone.com เครดิต http://www.thaihotzone.com/warming-result/225-arctic-ice-free-in-30-years.html แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 00:25:33 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:43:10

ความคิดเห็นที่ 81 หมีขั้วโลกกับภาวะโลกร้อน ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายลง อย่างรวดเร็ว หมีขั้วโลกที่ปกติอาศัยอยู่บนพื้นน้ำแข็งก็ทำให้หาแผ่นน้ำแข็งอยู่ได้ยากขึ้น มีหลายครั้งที่หมีขั้วโลกต้องว่ายน้ำเป็นร้อยๆไมล์เพื่อหาอาหาร และหาแผ่นน้ำแข็งเหยียบ ทำให้มีหมีขั้วโลกจมน้ำตายไปแล้วก็มี ด้วยอาหารที่หายากมากขึ้นบวกกับน้ำแข็งที่เป็นที่อยู่ของมันลดน้อยลงอัน เนื่องมาจากภาวะโลกร้อน หมีขั้วโลกจึงเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มาก ข้อมูลจาก: Greentheearth.info http://www.thaihotzone.com/warming-result/209-polarbear-globalwarming.html จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:43:57

ความคิดเห็นที่ 82 ขั้วโลกใต้กับภาวะโลกร้อน น้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ขนาดครึ่งประเทศ Scotland แตก หิ้งน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ขั้วโลกใต้หรือที่มีชื่อว่า “Wilkins ice shelf” นั้นได้แตกตัวออกจากแผ่นดินใหญ่แล้ว หิ้งน้ำแข็ง Wilkins มีขนาดเท่ากับครึ่งประเทศ Scotland ซึ่งในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดที่หิ้งน้ำแข็งได้พังทลายที่ขั้วโลกใต้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:44:37

ความคิดเห็นที่ 83 ครึ่งบนของ Wilkins ได้แตกออกจากเกาะและลอยอยู่ในทะเล ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 1,400 ตารางไมล์ซึ่งนับว่าเป็นเสมือนภูเขาน้ำแข็งกลางทะเลการแตกของหิ้งน้ำแข็ง Wilkins นั้นไม่ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นโดยทันที แต่การที่ หิ้งน้ำแข็งนั้นลอยอยู่กลางทะเลนั้น เป็นสัญญาณในการบ่งบอกถึงการเปลี่ยนของสภาวะอากาศของโลกในปัจจุบัน ซึ่งค่อนข้างน่าเป็นห่วงยิ่งนัก การที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของหิ้งน้ำแข็งนี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายๆ ท่านตกตะลึงเนื่องจากความเร็วในการแตกตัวที่คาดไม่ถึงโดยการสำรวจชาวอังกฤษ และ อเมริกันได้ผลสำรวจออกมาว่าการที่เกิดเหตุการณ์นี้นั้น ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นเพราะ ภาวะโลกร้อน http://www.thaihotzone.com/warming-result/227-antractic-ice-shelf-collaspe.html แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 22:55:22 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:45:08

ความคิดเห็นที่ 84 โลกร้อน แพนกวิน ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทำให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลายเร็วกว่าปกติในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ลูกเพนกวินจักรพรรดิจำนวนมากต้องจบชีวิตลงเพราะยังไม่โตพอที่จะว่ายออกสู่ทะเลในฤดูร้อนที่มาถึงก่อนกำหนด   http://myfreezer.wordpress.com/2007/02/14/globalwarming-2/ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:45:47

ความคิดเห็นที่ 85 พักก่อน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:47:22

ความคิดเห็นที่ 86 ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:48:19

ความคิดเห็นที่ 87 ไปดูสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณของมหาสมุทรอาร์กติก (Arctic) และ ทวีปแอนตาร์กติกากันเถอะ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:48:57

ความคิดเห็นที่ 88 ... จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:49:31

ความคิดเห็นที่ 89 เริ่มด้วยบริเวณของมหาสมุทรอาร์กติก (Arctic) ตัวอย่างของสัตว์ที่อาศัยบริเวณมหาสมุทรอาร์กติก ได้แก่ 1. Arctic Fox จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:50:19

ความคิดเห็นที่ 90 2. arctic hare จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:50:52

ความคิดเห็นที่ 91 arctic hare จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:51:15

ความคิดเห็นที่ 92 3.  Beluga จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:51:45