ความคิดเห็นที่ 1 เดาว่าใช้ "RF ID" ครับ เอาคำนั้นไปค้นต่อได้ จากคุณ : จั๊กกะจี๋ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 11:48:22

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยกินอ่า แต่เดาว่าใช้ RFID อิอิ จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 11:48:24

ความคิดเห็นที่ 3   จานเค้าฝังชิ๊ปราคาไว้จ้า จากคุณ : TONIO เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 11:55:57 A:119.42.99.230 X: TicketID:262204

ความคิดเห็นที่ 4   อ้าว ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์หรืครับ ผมไปกินกี่จานก้อจ่ายเท่าเดิมทุกที จากคุณ : .. เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 12:14:02 A:203.144.130.176 X: TicketID:197822

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่เคยไปกิน เดาว่า RF ID จะไฮเทคกันไปถึงไหน อีกหน่อยอาจใส่ tag ไว้ในอาหารเลย .... แล้ว scan ที่พุงตอนผ่านประตูทางออก..ว่ากินไปเท่าไหร่ -_-! ผมเคยกินแต่ร้านตามริมถนน ตึกแถว เทคโนโลยีคิดเงินก็มีแค่เครื่องคาสิโอหุ้มพลาสติกอันเดียว แกไม่ค่อยกดด้วยซ้ำพอจะคิดเงินก็มามองๆที่โต๊ะ  เท่าที่ดูเหมือนจะเร็วกว่า RF ID อีก แค่ 3 วินาที "ทั้งหมด 247 บาทครับ " ผมยังคิดตามไม่ทัน !!! จากคุณ : Ph เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 12:19:16

ความคิดเห็นที่ 6 ....       ไม่เคยกินไม่เป็นไรครับ มีรูปให้ดูครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจหลักการ ทำงาน เท่าทีอ่านดูมัน บอกว่า เป็นเครื่อง สแกนแบบ 2 มิติ สแกนตาม ความแตกต่างของลวดลายของจาน คือ จานแต่ละราคา จะมีลวดลาย ไม่เหมือนกัน เช่น ราคา 100 เยน ก็ลวดลายหนึ่ง ราคา 200 เยน ก็จะอีก ลวดลายหนึ่ง เครื่องก็จะสแกนตามนั้น แต่ว่าวิธีการนับไม่ได้บอกไว้ว่า ทำไมมันถึงได้นับได้ และมันมีโอกาสนับซัำไหม ไม่ได้บอกว่า บอกแต่ เพียงว่า รวดเร็ว ประหยัดเวลา สามารถออกบิลได้ทันที่         ผมเองก็อยากจะทราบว่า มันนับจำนวนได้อย่างไร ตามรูปเลยครับ                                                                                            ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 12:21:54

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ได้เห็นรายละเอียด แต่ก็เดาว่า RFID น่าจะเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงที่สุด คือฝังไว้ในจานแต่ละใบ ทำให้นับได้ว่า จานแต่ละระดับราคามีกี่ใบ ทำให้สามารถแจ้งราคารวมออกมาได้อย่างรวดเร็ว จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 12:35:49

ความคิดเห็นที่ 8 วิธีนี้ ห่วงเรื่องคิดเงินเบิ้ลเป็นที่สุด --" ตอนเอาเครื่องแสกนมายิงๆนี่แหละ จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 13:22:14

ความคิดเห็นที่ 9 RFID ถูกแล้วครับ รูปแรก มี RFID ฝังไว้ใต้จาน ใต้รางก็มี RFID reader อยู่ รูปเบอร์ 1 คิดเงินตามที่ จขกท ถาม ตามชนิด(เบอร์)ของ ID รูปเบอร์ 2 คัดจานที่ออกมานานแล้วไม่มีคนหยิบกินทิ้งไปอัตโนมัติ โดนดูจากระยะทางที่ จาน ID นั้นออกมาวิ่งอยู่ในราง รูปเบอร์ 3 ใช้ในระบบจัดการ stock ได้เลยว่ามีหน้าอะไรออกเท่าไร เหลือเท่าไร จากคุณ : ferrocene เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 13:24:43

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่า เรื่องคิดเงินเบิ้ล น่าจะเป็นโจทย์ข้อแรกๆเมื่อออกแบบระบบนะครับ และเชื่อว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว เพราะอย่างน้อยแต่ละจาน จะมี ID ไม่ซ้ำกัน (ไม่เหมือน Bar Code ที่ใช้กันตาม 7-11 ที่มีแต่ชื่อสินค้าและราคา สินค้าชนิดเดียวกัน แต่ละชิ้นมี Code ซ้ำกันหมด) ส่วนการกำหนดราคา นั้น เมื่ออ่าน ID เข้ามาแล้ว ค่อยเช็คจากฐานข้อมูลว่ามีราคาเท่าไร แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 53 14:52:45 จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 14:51:32

ความคิดเห็นที่ 11 #5 แบบนี้ไหมครับ **ภาพมาจาก fail th จากคุณ : katasaro เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 17:13:04

ความคิดเห็นที่ 12 มีคัดจานที่อยู่บนรางนานเกินไปทิ้งด้วย เอาใจใส่ผู้บริโภคจริงๆ เห็นของไทย ข้่้าวแห้งแล้วมันยังเวียนอยู่นั่นแหละ จากคุณ : ม้าไม้เมืองทรอย เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 11:16:19

ความคิดเห็นที่ 13 อีกหน่อยคงจะลิงค์ข้อมมูลในกระเป๋าตังเรา . หยิบจานนึง ก็ หักเงินออก... ถ้า เงินในกระเป๋าจวนหมดจะมีเสียงเตือน ...   ^_^ จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 16:12:02

ความคิดเห็นที่ 14 #13 ถ้าเพลินจนไม่ได้ยินก็จะหักจากบัญชีธนาคาร ถ้าหมดอีกก็หักบัตรเครดิต หมดวงเงิน ระบบก็จะแจ้งไปที่แผนกการ์ดของร้านให้มาลากออกไป จากคุณ : ซาลาเปาบัวหิมะ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 13:43:36