ความคิดเห็นที่ 1 เย้ๆ ลูกโป่ง DNA จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:21:37

ความคิดเห็นที่ 2 The National Human Genome Research Institute (NHGRI) ผู้ที่สนับสนุนวัน National DNA ในแต่ละปี จะจัดกิจกรรมโดยส่ง"ทูต" ทาง DNA ไปพูดคุยกับเด็กๆมัธยมทั่วทั้งอเมริกา ให้ความรู้ เล่าให้ฟังเรื่องงานวิจัยที่ตนทำอยู่เกี่ยวกับพันธุศาสตร์ จะสามารถศึกษาเรื่องนี้ในอินเตอร์เนตได้อย่างไร รวมถึงแนะแนวอาชีพนี้ด้วย ท่านทูตที่ส่งไปตามโรงเรียนมัธยมคือ นักวิจัยจาก NHGRI รวมถึงเจ้าหน้าที่และเด็กฝึกงานในสถาบันนี้ด้วย ในปี 2008 ได้มีการส่งทูต 40 คนไปสู่โรงเรียนมัธยมต่างๆทั่วประเทศ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:29:08

ความคิดเห็นที่ 3 NHGRI Employees Visit NIH Children's Inn To Make DNA Bracelets for National DNA Day หนึ่งในกิจกรรมในปีนี้ คือการไปเยี่ยมเด็กๆที่ National Institutes of Health (NIH) เพื่อร้อยลูกปัดให้เป็นสร้อยข้อมือ โดยลูกปัดจะแสดงแทนเบส A G C T เมื่อเอามาร้อยต่อกันแล้วได้เป็นสายดีเอ็นเออย่างไร ได้ความรู้แถมได้สร้อยสวยๆ http://www.genome.gov/27538914 Dr. Toby Horn (right) demonstrates how to string A T C G beads in the order of a specific genome sequence จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:45:55

ความคิดเห็นที่ 4 นี่ไงสาย DNA แสนสวยของหนู http://www.genome.gov/27538914 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:48:58

ความคิดเห็นที่ 5 ดีเอ็นเอ (อังกฤษ: DNA) เป็นชื่อย่อของสารพันธุกรรม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก (Deoxyribonucleic acid) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิก (กรดที่พบในใจกลางของเซลล์ทุกชนิด) ที่พบในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ได้แก่ คน, สัตว์, พืช, เชื้อรา, แบคทีเรีย, ไวรัส เป็นต้น ดีเอ็นเอบรรจุข้อมูลทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นไว้ ซึ่งมีลักษณะที่ผสมผสานมาจากสิ่งมีชีวิตรุ่นก่อน ซึ่งก็คือ พ่อและแม่ และสามารถถ่ายทอดไปยังสิ่งมีชีวิตรุ่นถัดไป ซึ่งก็คือ ลูกหลาน ดีเอ็นเอมีรูปร่างเป็นเกลียวคู่ คล้ายบันไดลิงที่บิดตัว ขาของบันไดแต่ละข้างก็คือการเรียงตัวของนิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) นิวคลีโอไทด์เป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วยน้ำตาล, ฟอสเฟต (ซึ่งประกอบด้วยฟอสฟอรัสและออกซิเจน) และเบส (หรือด่าง) นิวคลีโอไทด์มีอยู่สี่ชนิด ได้แก่ อะดีนีน (adenine, A) , ไทมีน (thymine, T) , ไซโทซีน (cytosine, C) และกัวนีน (guanine, G) ขาของบันไดสองข้างหรือนิวคลีโอไทด์ถูกเชื่อมด้วยเบส โดยที่ A จะเชื่อมกับ T และ C จะเชื่อมกับ G เท่านั้น (ในกรณีของดีเอ็นเอ) และข้อมูลทางพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ เกิดขึ้นจากการเรียงลำดับของเบสในดีเอ็นเอนั่นเอง ผู้ค้นพบดีเอ็นเอ คือ ฟรีดริช มีเชอร์ ในปี พ.ศ. 2412 (ค.ศ. 1869) แต่ไม่ทราบว่ามีโครงสร้างอย่างไร จนในปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) เจมส์ ดี. วัตสัน และฟรานซิส คริก เป็นผู้ไขความลับโครงสร้างของดีเอ็นเอ และนั่นนับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:58:55

ความคิดเห็นที่ 6 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C_%E0%B8%94%E0%B8%B5._%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99 เจมส์ วัตสัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:00:28

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนสำคัญในความสำเร็จในส่วนของวัตสันได้แก่การค้นพบฐานคู่ของนิวคลิโอไทด์ซึ่งเป็นหัวใจหรือหน้าที่สำคัญสำหรับโครงสร้างและการทำงานของดีเอ็นเอ สิ่งสำคัญที่ทำให้การค้นพบเป็นผลสำเร็จคือการทำตามรูปแบบวิธีการของพอลิง คือเล่นอยู่กับหุ่นจำลองของดีเอ็นเอ โดยที่ทั้งสองคนต้องคอยโรงซ่อมสร้างที่หอคาเวนดิชเพื่อสร้างหุ่นด้วยเครื่องมือจากดีบุก วัตสันจึงสร้างหุ่นจำลองเองจากกระดาษและมีดคัทเตอร์ ไม้บันทัดและกาวเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 ประประสบความสำเร็จในการคันพบด้วยการตัดกระดาษ ฟรานซิส คริก จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:02:52

ความคิดเห็นที่ 8 มาแอบดู Slice ของสถาบันNHGRI ดีกว่า ว่าเขาสอนอะไรกัน ในแต่ละคนจะมีลำดับของ DNA ไม่เหมือนกัน ยกเว้นในแฝดเหมือน ใน่แต่ละเซลล์ของเราแต่ละคน จะมีสาย DNA เหมือนกัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:07:19

ความคิดเห็นที่ 9 DNA บรรจุข้อมูลสำคัญที่จะไปสร้างเป็นสิ่งมีชีวิต จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:13:09

ความคิดเห็นที่ 10 สาย DNA บางส่วนนั้นเรียงตัวเป็น Gene จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:15:08

ความคิดเห็นที่ 11 ยีนก็มีข้อมูลที่สำคัญ เพื่อให้ถอดรหัสออกมาเป็นโปรตีน แล้วโปรตีนชนิดต่างๆนี้ก็ไปทำงานทั่วร่างกาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:17:46

ความคิดเห็นที่ 12 Forensic DNA มีประโยชน์อะไรบ้างทางนิติเวช ตั้งแต่ระบุผู้เสียชีวิต คลี่คลายคดี หาความเป็นพ่อแม่ลูกกัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:22:38

ความคิดเห็นที่ 13 DNA สามารถเก็บได้จาก ผิวหนัง ผม ปัสสาวะ เลือด อสุจิ น้ำลาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:25:24

ความคิดเห็นที่ 14 สมมติว่าเทีบกันระหว่างคนสองคน ลำดับเบสต่างกันทุก 1,000 นิวคลีโอไทด์ ดังนั้นทั้งจีโนม จะมีนิวคลีโอไทด์ต่างกันถึง 3 ล้านอันทีเดียวในคนสองคน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:30:59

ความคิดเห็นที่ 15 ปาดดดดดดดดด หวัดดีครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:34:21

ความคิดเห็นที่ 16 หุหุ สงสัยน่าเบื่อเกิน หลับกันหมดแล้ว ไม่มีไรหรอก ประเด็นคือเพิ่งรู้ว่าวันนี้วัน DNA สุขสันต์ วัน DNA เย้ๆๆๆ จบข่าว ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:34:41

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:36:11

ความคิดเห็นที่ 18 ฮ่าๆ คุณลาบ คิดไปคิดมามันก็ยากจังเรื่องนี้ แหงบๆ ตั้งทู้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แหะๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:38:33

ความคิดเห็นที่ 19 นิติวิทยาศาสตร์ด้าน DNA เน้นบริเวณที่ DNA มักแตกต่างระหว่างบุคคล คือบริเวณที่เรียกว่า Variable region จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:41:36

ความคิดเห็นที่ 20 A short tandem repeat (STR) ในสายดีเอ็นเอ เป็นแพทเทิร์นของชุดเบส เรียงๆกัน ในแต่ละคนจะมีชุดนี้เบิ้ลเป็นจำนวนไม่เท่ากัน การวิเคราะห์หาตำแหน่ง STR จึงเป็นวิธีหลักในการหาความแตกต่างระหว่างบุคคลในนิติวิทยาศาสตร์ http://en.wikipedia.org/wiki/Short_tandem_repeat เช่นอันนี้ก็มี TAGC ซ้ำๆ เบิ้ลเป็นชุด จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:48:44

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นมั้ยว่าแต่ละคนก็เบิ้ลได้หลายครั้งต่างกัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:50:24

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดี ปาดไม่ทัน... บรรดาสายโซ่กรดนิวคลีอิกทั้งหลาย คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว --" จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:51:59

ความคิดเห็นที่ 23 วิธีทำโดยการนำสาย DNA นั้นมาเพิ่มจำนวนโดย ปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส Polymerase chain reaction; ตัวย่อ: PCR http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%AA จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:54:56

ความคิดเห็นที่ 24 แหงบๆๆ ดีใจจังมีคนอ่านด้วย  คุณ haman_zaa หวัดดี จริงๆเราจะตั้งแค่ว่าวันนี้สำคัญยังไง ให้มาปาร์ตี้ DNA เฉยๆ แล้วเนื้อหามันก็งอกมา เอาขำๆละกัน ต่อๆ 1. เอามาอุ่นด้วยความร้อน สายดีเอ็นเอ จะแยก 2. เอาตัว primer ซึ่งเป็นดีเอ็นเอสังเคราะห์ขนาดสั้นประมาณ 15-25 เบส มาจับมัน เหมือนตุ๊กแก จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:00:07

ความคิดเห็นที่ 25 3. ใส่เอ็นไซม์ DNA polymerase ไพร์เมอร์ (Primer) เข้ามาจับบริเวณที่มีลำดับเบสคู่สมกัน ในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ ไม่สามารถที่จะเริ่มจากศูนย์ได้เนื่องจากเอ็นไซม์ดีเอ็นเอพอลิเมอร์เรส (DNA polymerase) ต้องการปลาย-OH ทางด้าน 3'เพื่อนำ นิวคลีโอไทด์ตัวต่อมาต่อ ซึ่งในสิ่งมีชีวิตจะมีเอ็นไซม์ที่มีชื่อว่า ไพรเมส (Primase) เป็นตัวสร้างอาร์เอ็นเอไพรเมอร์ขึ้น 4. ทำอย่างนี้ซ้ำๆๆๆๆๆๆ จนได้ก็อบปี้สาย DNA ที่ต้องการ (เหมือนถ่ายเอกสาร) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:03:52

ความคิดเห็นที่ 26 จะเห็นการก็อบปี้ช่วง STR ออกมาโดย วิธีลูกโซ่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:06:01

ความคิดเห็นที่ 27 แมวบอก ปาร์ตี้อะไรกันเนี่ย น่าเบื่อจริงๆ ไม่รู้เรื่องเลย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:07:26

ความคิดเห็นที่ 28 นำไปวิ่งแข่งกันใน Gel electrophoresis 1.แล้วเอาสาย DNA ที่ได้จากลูกโซ่ ไปใส่ในเจล 2. DNA มันมีขั้วเป็นลบ จะวิ่งไปหาขั้วบวก 3. สาย DNA ที่ต่างกันมันจะวิ่งด้วยความเร็วต่างกัน ตัวหนักก็วิ่งช้า ตัวเบาวิ่งเร็ว จึงสามารถแยกได้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:11:27

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านสนุกดีน้า จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:12:59

ความคิดเห็นที่ 30   ปาดไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาอ่าน ไม่ง่วงหรือครับ จากคุณ : PhompAng เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:13:10 A:114.128.119.51 X: TicketID:247310

ความคิดเห็นที่ 31 เสร็จแล้วๆๆๆ แต่ละคนจะมีสอง STR อันนึงจากพ่อ อันนึงจากแม่ อันนี้เทียบสี่คน เห็นมั้ยว่าอยู่ตำแหน่งต่างกัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:13:14

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณคุณลาบ เรางับปาท่องโก๋แล้ว งับๆๆๆๆ คุณ PhompAng นอนเร็วจัง ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวเป็นแพนด้า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:16:16

ความคิดเห็นที่ 33 นิติวิทยาศาสตร์จะใช้ชุดของ STR ที่มาตรฐาน คนเรามี STR marker เป็นหลายพันอัน แต่ตำแหน่งที่ใช้ในนิติวิทยาศาสตร์ โดย FBI ใช้ 13 ตำแหน่ง โดยเพิ่ม AMEL ที่ไว้ดูแยกเพศด้วย การกำหนดตำแหน่งให้เป็นมาตรฐานว่าดู STR ไหนบ้าง มีประโยชน์คือ สามารถเทียบกันได้ทั่วประเทศในฐานข้อมูล จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:20:57

ความคิดเห็นที่ 34 DNA profile ประวัติข้อมูลดีเอ็นเอของแต่ละคน จะเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนเบิ้ลของแต่ละ STR ทั้ง 13 อัน ของแต่ละคน การที่คนสองคนจะมี DNA profile ที่เหมือนกันเด๊ะ จะมีโอกาสคือ หนึ่งในหนึ่งพันล้าน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:24:57

ความคิดเห็นที่ 35 ในอเมริกาจะใช้ฐานข้อมูล DNA นี้ เรียกว่าโคดิส (โอ้ว ชั้นเคยได้ยินในหนัง) Combined DNA Index System = CODIS ในโคดิสจะมีสองแฟ้มย่อยคือ แฟ้มอาชญากร กับ แฟ้มคนหาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:29:00

ความคิดเห็นที่ 36 แสดงสถิติที่ใช้ DNA จับคนร้าย สนใจดูเพิ่มเติมได้ในhttp://www.fbi.gov/hq/lab/codis/clickmap.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:31:41

ความคิดเห็นที่ 37 ในฐานข้อมูลส่วนคนหาย นอกจากจะประกอบด้วยDNA profile ของคนหายแล้ว ยังมีศพที่ยังไม่สามารถระบุได้ และญาติของคนหาย แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 53 22:35:02 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:34:44

ความคิดเห็นที่ 38 อย่างไรก็ตาม หลักฐานทาง DNA ต้องเก็บอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่ให้ปนเปื้อน และไม่ให้โดนแบคทีเรียและราทำลาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:38:55

ความคิดเห็นที่ 39 DNA profile สามารถช่วยให้ผู้บริสุทธิ์พ้นข้อกล่าวหา ในขณะเดียวกันก็ช่วยลงโทษผู้กระทำผิดตัวจริง DNA profile นำมาใช้ครั้งแรกในการพิจารณาคดี ในปี 1987 ปี 1989 ถูกนำมาใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ที่ถูกต้องหาว่าผิดไปแล้ว เมื่อนับถึงเมษายน 2009 พบว่า DNA สามารถพลิกคดีไป 235 คดี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:45:50

ความคิดเห็นที่ 40 ผู้ที่ถูกขังทั้งๆที่ตัวเองบริสุทธิ์ต่างก็ต้องการให้นำหลักฐานมาวิเคราะห์ใหม่ ทั้งๆที่เดิมอาจแค่ส่องกล้องจุลทรรศน์ ปกติแล้วหลักฐานจะเก็บไว้อย่างดี แม้เป็นสิบปีแล้วยังเอามาตรวจได้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:49:07

ความคิดเห็นที่ 41 วิธีการวิเคราะห์ DNA แบบใหม่นี้ดีมาก สามารถวิเคราะห์ได้แม้ตัวอย่างเก่าเก็บ หรือตัวอย่างที่มีปริมาณน้อยมากๆ ดังนั้นตัวอย่างที่เคยวิเคราะห์ด้วยวิธีเก่าสามารถนำมาหาใหม่ได้ด้วยวิธีใหม่นี้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:53:01

ความคิดเห็นที่ 42 แหงบๆ ยีนเธอสวยจัง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:55:56

ความคิดเห็นที่ 43 โครงการจีโนมมนุษย์ The Human Genome Project; ตัวย่อ: HGP เป็นอภิมหาโครงการทางเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ได้ศึกษาจัดทำแผนที่ของจีโนมของมนุษย์ ซึ่งมีความละเอียดระดับนิวคลีโอไทด์ หรือ คู่เบส เพื่อที่จะวิเคราะตำแหน่งของหน่วยพันธุกรรม หรือ ยีนของมนุษย์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:57:50

ความคิดเห็นที่ 44 ประวัติ อภิมหาโครงการนี้เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2533 โดยการสนับสนุนของ กรมพลังงาน และ สำนักงานสุขภาพแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา ด้วยทุนวิจัย 3 พันล้านเหรียญ ซึ่งเคยคาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 15 ปี แต่เนื่องจากความร่วมมือจากนานาประเทศ อีกทั้งความก้าวทางเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับเบสและวิทยาการคอมพิวเตอร์ ทำให้ร่างของแผนที่จีโนมเสร็จก่อนเวลาในปี พ.ศ. 2543 (โดยการประกาศอย่างเป็นทางการของนายบิล คลินตัน (ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น) และ นายโทนี่ แบลร์ (นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ประเทศที่ร่วมโครงการ: ประเทศจีน ประเทศฝรั่งเศส ประเทศสเปน ประเทศญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 23:03:43

ความคิดเห็นที่ 45 ใครอยากได้แผนที่ยีนของโครงการ Human Genome Project ฟรีเชิญทางนี้ เข้าไปลงทะเบียน กรอกที่อยู่ตามนั้น แล้วก็อดใจรอรับโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่บ้านได้เลยฟรี http://public.ornl.gov/hgmis/external/poster_request.cfm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 23:08:11

ความคิดเห็นที่ 46 จบแล้ว แหงบๆ ขอบคุณที่อ่านจ้า สุขสันต์วัน DNA จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 23:10:59

ความคิดเห็นที่ 47 หลับแล้วหลับอีก เลยทีเดียว... จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 00:48:57

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาเสพย์ความรู้เจ้าค่ะ จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 02:18:34

ความคิดเห็นที่ 49 ฮ่าๆ นึกแล้วเชียวว่าต้องหลับ งั้นมาเสพดราม่ากันเถิดหนุ่มสาว เมื่อนึกถึงเรื่อง Forensic DNA ก็คิดถึงเรื่อง ฆาตกรลุ่มแม่น้ำกรีน http://www.trutv.com/library/crime/serial_killers/predators/greenriver/index_1.html แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 11:53:42 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 11:53:22

ความคิดเห็นที่ 50 ในวันที่ 15 สิงหาคม 1982 โรเบิร์ต เอนสวอร์ต ลงแพเพื่อไปท่องเที่ยวที่ลุ่มแม่น้ำกรีน ที่อยู่ Seattle เขาเคยเที่ยวที่แม่น้ำนี้หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม แม่น้ำกรีน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 11:59:56

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อเขาล่องแพต่อไปเขาเห็นผู้ชายสองคนยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เขาก็ถามว่าจับปลาอะไรได้บ้างวันนี้ ผู้ชายคนหนึ่งตอบกลับมาว่า จับไม่ได้เลย แล้วผู้ชายสองคนก็ขึ้นรถบรรทุกกลับไป ต่อมาเอนสวอร์ตก็พบว่า ตัวเองถูกล้อมรอบด้วยความตาย Victims of the Green River killer จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:08:12

ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อเขามองลงไปที่แม่น้ำใสสะอาด ก็พบว่ามีดวงตาดวงหนึ่งจ้องกลับมา ใบหน้าหญิงผิวดำ ลอยแกว่งไปมาในกระแสน้ำ เขาตกใจแทบสิ้นสติ แต่ต่อมาไม่กี่วินาทีเขาก็พบอีกศพหนึ่งลอยอยู่ในน้ำ ไม่ไกลจากที่พบศพแรกมากนัก เขาพุ่งไปยังริมฝั่งทันใดด้วยความตกใจ ไม่น่านเขาก็พบคนขี่จักรยานมา เขาจึงไปบอกเล่าเรื่องราวที่สยองนี้ และบอกให้ช่วยเรียกตำรวจ เหยื่อของฆาตกรลุ่มแม่น้ำกรีนคนอื่นๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:14:26

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่นานนักตำรวจก็มาถึง ตอนแรกตำรวจก็ไม่เชื่อ  แต่พอตำรวจไปเห็นร่างผู้หญิงสองร่างลอยเท้งเต้งอยู่ เขาก็เรียกกำลังเสริมทันที พอกำลังเสริมมา นายตำรวจคนนึงกลับพบสิ่งที่น่าสยองกว่าเดิม คือเขาพบศพที่สาม ศพนั้นเป็นผู้หญิงที่สวมเสื้อผ่าเพียงบางส่วน แต่ไม่ได้เจอในน้ำ พบบนพื้นหญ้าห่างจากศพเดิมประมาณ 30 ฟุตจากศพอื่น มีกางเกงสีน้ำเงินรัดอยู่รอบคอ มีรอยช้ำบริเวณข้อมือแขนขา แสดงว่าเธอต้องทุรนทุรายก่อนตาย ภายหลังพบว่าเธอคือ โอปัล มิลส์ อายุ 16 ปี ถูกฆ่าภายใน 24 ชั่วโมงก่อนพบศพ จากการตรวจสอบทางนิติเวชอย่างคร่าวๆที่เกิดเหตุนั้น พบว่าหญิงสาวทั้งสามถูกรัดคอ อีกสองศพชื่อ มาเรีย แชปแมน อายุ 31 ปีและ ซินเทีย ฮินส์อายุ 17 ปี ผู้ซึ่งมีก้อนหินรูปร่างคล้ายปิรามิดฝังอยู่ในช่องคลอดด้วย ทั้งสองศพถูกถ่วงด้วยหินให้จมลงในแม่น้ำ Opal Mills, victim of the Green River Killer จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:25:07

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่ได้มีเพียงศพทั้งสามเท่านั้นที่พบในแม่น้ำกรีน หลายวันต่อมา ได้มีการพบศพ เดบรา บอนเนอร์อีกที่ขอนไม้ในแม่น้ำกรีน เช่นเดียวกับศพอื่นเธอถูกรัดคอ Deborah Bonner, victim of the Green River Killer จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:27:43

ความคิดเห็นที่ 55 ต่อมาก็พบศพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงพื้นดินรอบแม่น้ำด้วยเป็น 6 ศพ ตำรวจจึงได้รู้ว่าเผชิญหน้ากับฆาตกรต่อเนื่องอยู่ รัฐบาลต้องตั้งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจขึ้นที่เขตคิง เพื่อทำการตรวจสอบหาตัวฆาตกรลุ่มแม่น้ำกรีน เวลานั้นหน่วยนี้เป็นหน่วยที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยก่อตั้งขึ้นมา นับตั้งแต่คดีของเทด บันดี้ ซึ่งเกิดขึ้นไม่ถึงทศวรรษที่ผ่านมา เท็ด บันดี้ ฆาตกรรูปหล่อ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:33:39

ความคิดเห็นที่ 56 พันตรีริชาร์ด คาราสสกี หัวหน้าแผนกฝ่ายสืบสวนอาชญากรรม และ นายตำรวจเดฟ ไรเชิร์ต เป้นผู้นำทีมสืบสวน เดฟ ในหนังที่สร้างจากเรื่องจริงเรื่องนี้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:37:25

ความคิดเห็นที่ 57 การสืบสวนมีจุดเริ่มต้นไม่มั่นคงนัก เพราะมีข้อมูลจำนวนมหาศาลไหลบ่าเข้ามาท่วมท้นหน่วยนี้ ตอนนั้นเขาไม่มีเทคโนโลยีที่จะช่วยย่อยข้อมูลและหลักฐานที่มีอย่างท่วมท้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนถึงกับต้องเกณฑ์อาสาสมัครมาช่วยเลยทีเดียว ระหว่างการสืบสวน เหล่านักสืบได้ทราบว่า หญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมนี้หลายคนที่รู้จักกันและมีประวัติขายบริการเช่นเดียวกัน พวกเขาจึงไปสืบบริเวณที่โสเภณีนิยมไปบ่อยๆ แต่ผู้หญิงเหล่านี้ไม่เต็มใจที่จะช่วย พูดคุยกับตำรวจ เหยื่อจำนวนมากต่อ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:44:27

ความคิดเห็นที่ 58 อย่างที่บอกว่าตอนนั้นการหาหลักฐานมัดตัวฆาตกรเป็นไปได้ยาก มีการแจ้งความของโสเภณีกับตำรวจ หน่วยเฉพาะกิจจึงสนใจเพราะการกระทำนี้อาจเกี่ยวข้องกับตัวฆาตกรลุ่มแม่น้ำกรีน คำให้การตอนหนึ่งของของซูซาน วิดมาร์ก วัย 21 ปี บอกว่าชายกลางคนคนหนึ่งขับรถบรรทุกสีน้ำเงินขาวได้ซื้อบริการของเธอ เมื่อเธออยู่บนรถกับเขา เขาได้จ่อปืนพกที่หัวเธอ และข่มขืนเธออย่างป่าเถื่อน หลังข่มขืน เขาปล่อยให้เธอสวมเสื่อผ้า และขณะที่เขาขับรถอยู่ เขาเล่าให้เธอฟังเรื่องฆาตกรแห่งลุ่มแม่น้ำกรีน แต่เธอหนีมาได้ตอนที่รถบรรทุกติดไฟแดง เธอสามารถจดจำทะเบียนรถได้ก่อนที่รถบรรทุกจะวิ่งหนีไป เหตุการณ์คล้ายคลึงนี้เกิดกับ เดบรา เอสเทส อายุ 15 ปีซึ่งแจ้งความไว้ในปี 1982 ข้อหาข่มขืน เอสเทสบอกตำรวจว่าขณะที่เธอเดินอยู่ข้างถนนไฮเวย์ ชายผู้หนึ่งในรถบรรทุกสีน้ำเงินขาว มาจอดเทียบและบอกว่าจะพาไปส่ง แต่พอขึ้นรถ เขาก็ดึงปืนจ่อหัวเธอ แล้วบังคับให้เธอสำเร็จความใคร่โดยใช้ปาก ก่อนที่เธอจะหนีไปได้ เหยื่อ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:03:42

ความคิดเห็นที่ 59 มีการจับผู้ต้องสงสัยหลายคน แต่คนเหล่านั้นสามารถหาข้อแย้งอ้างอิงที่อยู่ของตนเองได้ ตั้งแต่เดือนกันยายน 1982 ถึงเมษา 1983 มีเด็กสาว 14 รายหายตัวไป หญิงสาวเหล่านี้เป้นโสเภณี เหยื่อคนหนึ่งที่หายไปคือแมรี่ มัลวาร์ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 1983 แฟนหนุ่มของเธอเห็นเธอกำลังคุยกับชายที่น่าจะเป็นลูกค้าในรถบรรทุกสีดำ แฟนหนุ่มอ้างว่าเห็นเธอเข้าไปในรถบรรทุก ด้วยความสงสัยเขาจึงขับรถตามไปแต่ก็คลาดกัน ต่อมาเมื่อแฟนไม่กลับมาเขาจึงแจ้งความ แล้วเขาก็เห็นรถบรรทุกต้องสงสัยขับอยู่อีกครั้ง เขาจึงขับไปถึงบ้านคนนั้น แล้วเรียกตำรวจ ตำรวจมาถึงบ้านและพูดคุยกับเจ้าของบ้านชื่อ แกรี่ ริดจ์เวย์ ซึ่งเขาปฏิเสธว่าไม่เคยพบมัลวาร์ เมื่อได้พูดคุยกับแกรี่จนเป็นที่พอใจแล้ว ตำรวจก็กลับ แกรี่ ริดจ์เวย์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:13:19

ความคิดเห็นที่ 60 คดีนี้มั่วมาก จับและปล่อยผู้ต้องสงสัยหลายคน ประชาชนทั้งกลัวและโกรธแค้น และจำนวนเหยื่อก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่ที่แม่น้ำแต่ยังพบที่บริเวณสนามบินแถบๆนั้นด้วย ในเดือนก.ค. 1991 หน่วยเฉพาะกิจนี้ก็ลดจำนวนคนลง หลังจากปฏิบัติการมา 9 ปี พบเหยื่อราว 49 คน และจ่ายเงินไป 15 ล้านดอลล่าร์ ก็ยังจับตัวไม่ได้ การสืบสวนนี้เป้นที่รู้กันว่าเป็นคดีฆาตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่ยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ คดีอยู่นิ่งกับที่อีกเป็นเวลา 10 ปี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:24:08

ความคิดเห็นที่ 61 ในเดือนเมษา 2001 เกือบ 20 ปีหลังจากศพแรกที่พบในแม่น้ำกรีน นักสืบไรเชิร์ตได้เป็นนายอำเภอ และทำการสืบสวนใหม่ เขาไม่ยอมทิ้งคดีนี้ไป เขาตั้งทีมทำงานขึ้นมาใหม่ มีผู้เชี่ยวชาญทางดีเอ็นเอด้วย ไม่นานหน่วยนี้ก็มีคนทั้งสิ้น 30 คนนำหลักฐานมาตรวจใหม่หมด เพราะยุคนี้มีการตรวจ DNA แล้ว ตัวอย่างที่ใช้ตรวจคือเชื้ออสุจิจากเหยื่อสามคน คือ โอปัล มิลส์ มาร์เซีย แชปแมน และ คาโรล คริสเตนเซน แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่ได้มาจากริดจ์เวย์ รูปแม่ของโอปัล มิลส์ ปี 2003 เธอกำลังถือหนังสือที่แต่งเกี่ยวกับการตายของลูกเธอ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:31:35

ความคิดเห็นที่ 62 ในวันที่ 10 กันยายน 2001 ไรเชิร์ตได้ข่าวมาจากห้องแลบ DNA ที่ทำให้เขาต้องน้ำตาไหล เมื่อห้องแลบพบความสอดคล้องของตัวอย่างอสุจิของเหยื่อและ DNA ของริดจ์เวย์ ชายผู้ซึ่งตำรวจต้องการตัวมามากกว่า 20 ปี สร้างความสะพรึงกลัวมากที่สุด ก็อยู่ในความควบคุมของตำรวจ และในคราวนี้เขาจะไม่รอดตัวไปอีก ในปี 2003 แกรี่สารภาพว่าฆาตกรรมผู้หญิงไป 48 คน เพื่อหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิตในเขตคิง แต่เขาอาจต้องเผชิญหน้ากับโทษประหารในเขตอื่นๆ ขณะนี้คดีของเขายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี รูปแกรี่ กำลังพาตำรวจไปหาศพอื่นๆที่เขาซ่อนไว้ จริงๆเขาจำไม่ค่อยได้ว่าเหยื่อมีทั้งหมดเท่าไหร่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:39:17

ความคิดเห็นที่ 63 ริดจ์เวย์ เกิดในซอลท์เลก วิตี้ ยูท่าห์ เขาทำงานในบริษัทคอมพิวเตอร์  และมีคนว่าจ้างให้เขาไปทาสีรถบรรทุกเป้นเวลา 30 ปีที่โรงงานรถบรรทุกในวอชิงตัน เขาเป็นเจ้าของรถบรรทุกหลายคัน เขาเป็นคนกระหายในเพศรสอย่างผิดปกติ มีความหมกมุ่นกับโสเภณี เป็นความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียด เพื่อนบ้านต่างรู้ว่าเขาชอบก่นด่าโสเภณีในละแวกบ้าน แต่ก็ชอบใช้บริการด้วย ภรรยาคนหนึ่งของเขาบอกว่าเขาเป็นพวกคลั่งศาสนา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:45:52

ความคิดเห็นที่ 64 ภรรยาของเขา จูดิส จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:47:17

ความคิดเห็นที่ 65 จะเห็นได้ว่า ฆาตกรที่น่าสะพรึงกลัวคนนี้เพิ่งจะถูกจับได้ไม่นานมานี้เองทั้งๆที่ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ต้องขอบคุณเทคโนโลยีของ DNA ที่ทำให้ฆาตกรลุ่มแม่น้ำกรีนคนนี้ปิดตำนานลงเสียที จบแล้วจ้า Gary Ridgway, center, initials the guilty plea agreement in court, Nov. 5, 2003, in the King County Courthouse in Seattle, in which he pleaded guilty to 48 murders. The Green River Killer serial murder case began in 1982 and was the largest unsolved serial murder case in American history. Attorney at left is Mark Prothero. จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:50:27

ความคิดเห็นที่ 66 เคยได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน แต่ข้อมูล 48 คนนี่เพิ่งจะรู้จริงๆ เป็นคนรึเปล่านี่ จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 12:03:21

ความคิดเห็นที่ 67 ' แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 14:10:29 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 14:10:18