ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่ 6 ตอนนี้มีแววว่า... ผมจะโดนเขม่นแกมด่า แน่เลย - -' จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 14:42:55

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนที่ 7 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 14:43:14

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนที่ 8 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 14:43:34

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนที่ 9 ... สุดท้ายครับ ตอนที่ 1-5 ถ้ายังไม่ได้ดู ดูใน blog ได้นะครับ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 14:44:14

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆ ครับ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 14:44:31

ความคิดเห็นที่ 6 กิฟหมดครับ..โหวตให้ไว้ก่อน...ติดไว้เดือนหน้านะครับ ^^ จากคุณ : gunpen2010 เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:16:39

ความคิดเห็นที่ 7   ลายเส้นสุดยอด ด ด ด ครับ คุณ dipkid แม้บางมุกผมจะยัง งง ๆ เพราะไม่ได้เรียนทางนี้เลย แต่ผมก็ชอบเรื่องราวด้านนี้มากเลยนะ สมัยเป็นนักเรียนผมยังขอไปดูผ่าศพกับนักเรียนชั้นอื่นเลย เรียน 5 ปีเค้าดูกันครั้งเดียว แต่ผมดู 5 ครั้ง ,,และ museum ที่ศิริราชผมก็ไปดูบ่อยครับ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:21:03

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 15:54:52 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:27:08

ความคิดเห็นที่ 9 ในฐานะคนนอกตึกกรอส . ผมหวังว่า นักเรียนแพทย์จะให้ความเคารพ ร่างของ ผม หรือ ผู้ที่ผมเคารพรัก .. มากหน่อยอ่ะครับ http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9092709/O9092709.html ผมคงห้ามการตลกโปกฮา ของนักศึกษาแพทย์ไมไ่ด้ .. แต่ เก็บไว้ข้างใน ดีไหมครับ เพื่อความรู้สึกของ ญาติๆ และ อนาคต อาจารย์ใหญ่ .. จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:37:18

ความคิดเห็นที่ 10 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 16:44:53 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:54:33

ความคิดเห็นที่ 11 นึกถึงตอนปี2 ที่ขึ้นห้อง gross เหมือนกัน ก็มีเรื่องฮาๆคล้ายๆกัน นึกแล้วก็ยังคิดถึงกลิ่นฟอร์มาลินเลยแฮะ 555+ ^^" แต่นักศึกษาทุกคนก็ให้ความเคารพในท่านอาจารย์ใหญ่ครับ อาจจะมีหลุดอะไรมาบ้าง ก็เพราะไม่อยากใ้ห้บรรยากาศมันเครียดน่ะครับ ปล..ตอนนี้ผมแค่ปี4 ขึ้น ปี5 เองนะ อิอิ จากคุณ : saltakra เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 19:33:07

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าคงไม่ใช่ลบหลู่อะไรนะ ผมเองก็เสนอบริจาคร่างกายนะครับ ถ้าเป็นตัวผม คงไม่คิดไรแล้วล่ะ จากคุณ : รถเล็ก เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 19:47:35

ความคิดเห็นที่ 13 ตามไปอ่านใน blog มา และตามมาให้กีบในนี้อีกที (ตามอ่านการ์ตูน anatomy ด้วยแต่เราว่าไฟล์มันเล็กไปหน่อย อ่านยากจังค่ะ รายละเอียดก็เยอะ น่าจะทำไฟล์ใหญ่ๆหน่อย) ค.ห.ส่วนตัว การ์ตูนชุดนี้เหมือนการ์ตูนเกี่ยวกับชีวิตนศพที่เรียนกรอส ไม่ได้นำท่านอาจารย์ใหญ่มาล้อเล่นใดๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นคิดว่านศพทุกคนก็ให้ความเคารพและสำนึกในบุญคุณของอาจารย์ใหญ่กันอยู่แล้วล่ะค่ะ ^_^ จากคุณ : shoebox of photographs เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:08:09

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ตอบเรื่อง file ใน blog นะครับ สำหรับ file ที่มีกับตัวผมอยู่มันใหญ่มากเลยครับ แต่พออยู่ใน blog ก็จะโดนจำกัดให้เหลือขนาดแค่ 150 kb เท่านั้นเองครับ ซึ่งผมพยายามให้มันละเอียดเท่าที่จะทำได้แล้วล่ะครับ แถม ใน blog ยังกำหนดขนาดภาพที่จะขึ้นแสดงอีก ให้มีขนาดจำกัด ถ้ายังไง ลองคลิ๊กที่รูปดูครับ น่าจะใหญ่ขึ้นมาหน่อยครับ ไม่ก็ลองหา ในคลังกระทู้ดูครับ มีที่ผมเคยโพสไว้เหมือนกัน น่าจะใหญ่กว่าที่เห็นใน blog ครับ ตอบคุณ ทุ่มเท นะครับ ในฐานะที่เราเคยคุยกันในกระทู้คุณกิ๊ฟ มาก่อน ผมขอตอบด้วยความสัตย์จริง และเคารพคุณทุ่มเท เช่นกันนะครับว่า ผมให้ความเคารพอาจารย์ใหญ่ของผม ทุกท่านครับ ผมมีอาจารย์ใหญ่ที่ผ่านมือผมมา 2 ท่าน (ซึ่งไม่ได้นับอาจารย์เจ้าของกระดูก และอาจารย์ใหญ่ที่ไม่ได้เป็นโต๊ะประจำของผม) และผมก็ทั้งรักวิชานี้มาก ก็เนื่องจากความประทับใจที่ได้อยู่กิน(ไม่ได้โกหก กินข้างอาจารย์ใหญ่จริงๆ) อยู่เรียน วันนึงๆ ก็เกือบๆ 6 ชั่วโมง ผมเขียนการ์ตูนทุกครั้ง ผมจะไม่พาดพิงอาจารย์ใหญ่ในทางเสียหายเด็ดขาด ผมจะพยายาม เขียนแต่เรื่องของ เพื่อน หรือ ของนักศึกษาที่เปิ่นๆ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ระหว่างเรียน หรือ สอบ เท่านั้นครับ แต่ยังไง ก็ขอบคุณมุมมองของคุณทุ่มเท นะครับ ที่ช่วยตักเตือน ไม่ให้ออกนอกขอบเขตมากเกินไป ขอบคุณจริงๆ ครับ ด้วยความเคารพ ขออนุญาต ย้ำอีกนิดนึงนะครับ ผมเคารพอาจารย์ใหญ่ของผมทุกท่านจริงๆ และผมตั้งใจว่าจะเป็น อาจารย์สอนวิชา anatomy เพื่อถ่ายทอด แรงบันดาลใจ และความรัก ที่มีอยู่ในวิชานี้ ตลอดไป (แม้ตอนนี้จะยังไม่จบก็เถอะ) แม้ชีวิตผมจะจบสิ้นไป ผมก็จะอุทิศร่างกายของตน เพื่อวิชานี้ครับ (ตั้งใจมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้กรอกเอกสารอุทิศร่างเสียที) ป.ล. ว่าแต่ คุณกิ๊ฟ ทำไมมาเมนต์แล้วก็ลบออกอ่ะครับ ??? จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:25:32

ความคิดเห็นที่ 15 อ๋อเรามาเล่าเรื่องให้ฟัง ว่าเคยมีประสบการณ์ยังงัยที่ตึกกรอส คล้ายๆบนการ์ตูนนั่นแหละ แล้วพอคุณทุ่มเทเขาเตือนมาเราก็เลยว่าก็จริงว่าคนไม่ได้เรียนเขาจะไม่สบายใจ ก็เลยลบออกดีกว่า แหะ แหะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:37:59

ความคิดเห็นที่ 16 ผมมานึกๆ ดูแล้ว มุขที่ 6 นี่ท่าทางจะไม่เหมาะสมจริงๆ แฮะ ถ้าเห็นว่ามันแย่มากจริงๆ ก็กดลบได้เลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 21:01:02 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:39:18

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้ายังไง คุณกิ๊ฟ เล่าหลังไมค์ได้มั๊ยครับ ไม่อยากให้ความตั้งใจของคุณกิ๊ฟ สูญเปล่าน่ะครับ แต่ก็ผมยังเคารพในความเห็นของคุณ ทุ่มเท ไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:54:58

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ต้องห่วงครับ  ผมไม่ได้โกรธเกลียดอะไร   แต่ ผมกลัวว่า คนข้างหลังที่มาอ่าน จะรู้สึกไม่ดี .. อ.ท่านอาจจะสนุกที่ นักเรียนของท่านเอากระดูกท่านมาฟันกันเล่น หรือ อะไรก็ตามเพื่อคลายเครียด ลองคิดดูสิคราับ ติ๊ต่างว่า คุณเอารูปไปอัดที่ร้าน ..  ตอนไปรับรูป คุณได้ยินเด็กในร้านหัวเราะกันคิกคัก  วิจารณ์ลูกค้า . "อุ้ย ... ดูสิ แก่ขนาดนี้ ยังกระโดดอีก ไม่เจียมเลย ไม่รูป่านนี้เข้า รพ.หรือยัง" "ป้าคนนี้แต่งเซ็กซี่มากเลย แต่ หน้ามองแล้วเซ็กส์เสื่อม อย่างแรง " แค่คุณฟังคุณก็คงไม่อยากเข้าร้านนี้แล้วหล่ะครับ ยิ่งถ้าไปรับรูปแล้วเจอว่า .. ที่น้องๆเค้าคลายเครียดกัน มัน แม่ตรูนี่หว่า .. แฟนตรูนี่เอง ...   คุณคงยิ้มไม่ออก  ทิปไม่ลง .. (^_^ ) .. อ่า ..  ( อ่านเสียง พระเอกหน่อยนะครับกลัวเข้าใจผิด ) ผมก็เข้าใจนะครับ  ทุกวงการแหละ.. ช่างภาพก็อาจจะขำนางแบบ คนขับรถแท็กซี่ก็อาจจะวิจารณ์ผู้โดยสาร ( หมายถึงพูดถึงในทางไม่ดี ) เพื่อนฝูงยังนินทากันได้ ( แบบขำๆ ) แต่ ถ้า คนที่โดนพูดถึงรู้ เค้าคงไม่สนุกด้วยนัก จริงๆผมว่าจขกท และเพื่อนๆเข้าใจแหละครับ   ผมแค่อยากจะบอกว่า บางเรื่อง เก็บไว้ในหมู่คนกันเองดีกว่า ปล.ติดตามผลงานมาตลอด  และจะติดตามต่อไป  ชอบนะครับ ยังบอกลูกสาวเลยว่า อนาโตมี่หนุกๆ มาอ่านที่นี่ จะได้จำได้แม่นไม่เครียด .. จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 21:21:55

ความคิดเห็นที่ 19 สนุกดีครับ  เห็นแล้วอยากผู้บริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์เลยครับ จากคุณ : pencilboy เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 23:20:29

ความคิดเห็นที่ 20   แอบเข้าไปอ่านตอนที่ ๑-๕ มาแล้ว ขอบอกว่า ขำจนคนข้างๆ มองแปลกๆแล้วครับ ขอบคุณกระทู้ดีๆก่อนนอนแบบนี้นะครับ จากคุณ : SIMcityCorN เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 23:49:44

ความคิดเห็นที่ 21   วาดได้น่ารักมากครับ ผู้บริจาคร่างกายนี่ช่างเป็นคนที่เสียสละจริง ขอให้ผลบุญกุศลส่งผลถึงชาติหน้าเยอะ จากคุณ : อนุโมทนามิ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 23:58:54 A:118.173.62.133 X: TicketID:265688

ความคิดเห็นที่ 22   ฮามากคับ ได้รู้ถึงวิถีการเรียน(ด้านฮาๆ) ของคนที่เรียนแพทย์ด้วย จากคุณ : tunnie555 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 01:12:28

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ dip kid พอจะให้ข้อมูลได้ไหมครับ ว่าการบริจาคร่างกายต้องทำอย่าไร หลังจากผู้บริจาคเสียชีวิตแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง(หมายถึงญาติหรือคนอื่นๆอ่ะคับ) กรณีเสียชีวิตแบบใดที่ไม่สามารถนำร่างนั้นมาเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ และผู้ที่บริจาคร่างกายแล้วเสียชีวิตแล้วนั้นมีกี่เปอร์เซ็นต์ครับที่ไม่สามารถใช้ร่างนั้นได้ตามวัตถุประสงค์ จากคุณ : N of Dark เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 01:59:19

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบตอนที่ 7 รู้สึกว่ามันตรงมากกกกกก ยิ่งช่วงใกล้สอบ กินข้าวไป ดูไปนั่นแหละ อยู่กันจนเกือบเช้า 55555 จากคุณ : Chanin.U เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 05:27:21

ความคิดเห็นที่ 25 7 กับ 8 นี่เคยมีประสบการณ์อยู่เหมือนกัน จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 06:53:30

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 9 แย้งความคิดหน่อยครับ คือข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่ประสงค์จะบริจาคร่างกายเมื่อล่วงลับไปแล้ว ข้าพเจ้าคงไม่ถือสามากมายถ้านักศึกษาจะตลกบ้าง เพราะข้าพเจ้าเองก็ไม่อยากให้นักศึกษาเครียด เวลาลงมือกับร่างกายข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าตายแล้วจะเอาไปต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญ ข้าพเจ้ามอบให้ แต่ขอให้ จบไปเป็นหมอที่ที่ดีมีคุณภาพเป็นพอ จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 08:36:43

ความคิดเห็นที่ 27 คิดเหมือน re ข้างบนค่ะ ถ้าเราเป็นอาจารย์ใหญ่ แล้วนัำกศึกษาเครียดเกินก็คงสงสาร หลุดๆอะไรมาบ้างพอให้หายเครียดก็คงไม่ว่ากัน มีคำถามค่ะ ว่าถ้าบริจาคอวัยวะแล้ว จะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ไหมคะ เพราะเราบริจาคดวงตาและอวัยวะให้ทางกาชาดแล้วค่ะ ถ้า(โชคดี)เสียชิวิตโดยที่ข้างในไม่บุบสลาย แล้วเค้านำอวัยวะของเราไปให้ผู้รับบริจาคแล้ว ร่างที่เหลืออยู่จะใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ได้หรือเปล่าคะ? จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 10:17:35

ความคิดเห็นที่ 28 ขำดี เขียนเรื่องได้สนุกดีนะครับ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 11:48:37 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 10:21:35

ความคิดเห็นที่ 29 ผมยอมรับจริงๆ ครับว่า คงทำให้คุณทุ่มเท รู้สึกไม่ดี ไปพอสมควรเลยทีเดียว ผมขอยอมรับผิดนี้แต่เพียงผู้เดียวครับ จากที่ครุ่นคิดถึง ความเห็นของคุณทุ่มเท มาตลอด 1 คืน (คิดนานจริงๆ ให้ตายเถอะ) ผมรู้สึกเสียใจและสำนึกในการกระทำของผมลงไปแล้วล่ะครับ ว่าทำอะไรเกินเลยไปจริงๆ ที่เอาเรื่องของกระดูกอาจารย์มาแซว แบบนี้ ในขณะที่ผมเชื่อว่าทุกคนที่เรียนกรอส ให้ความเคารพอาจารย์ใหญ่ทุกร่างอย่างหาที่สุดไม่ได้ (พูดจริง นะครับ) แต่ก็มีบางคนเช่นผมที่เผลอลืมสำนึกไปว่า .... กระดูก ก็เป็นอาจารย์ใหญ่ท่านนึงเหมือนกัน กระดูก ที่บางครอบครัวบูชา โดยเฉพาะกระดูกพ่อแม่ กระดูก ที่บางครอบครัว ที่ไม่มีโอกาสจะได้เก็บรักษา ฯลฯ ผมจะเอาเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญในชีวิตเลยล่ะครับ ขอบคุณ คุณทุ่มเท มากๆ ครับ ที่ให้ความคิดเห็นอย่างเปิดเผย (ทำผมสะอึกไปเลยครับ) แต่ผมขอแซว คุณทุ่มเทนิดนึง คุณยกตัวอย่างเหตุการณ์ ของพวกช่างล้างรูป หรือ คนขับรถแซว ผู้โดยสาร ผมว่ามันออกจะแรงไปนิดนึงนะครับ เพราะผมว่า ถ้าผมได้เป็นอาจารย์ใหญ่จริงๆ แล้ว ผมจะไม่ได้เสียใจ หากจะนำร่างผมมาแซว มาเล่นเท่าไรหรอกครับ   ผมจะเสียใจมากกว่า ถ้าเค้า ไม่ตั้งใจทำ Lab ทำแค่พอลวกๆ เรียนไปผ่านๆ ทำเหมือนกับว่า ร่างอาจารย์เป็นแค่ "งาน" หนึ่งชิ้นที่ต้องทำให้เสร็จไปวันๆ และ ลืมวิชาที่เคยเรียน สอบมาก็บ่นว่าวิชานี้ยาก วิชานี้ไม่น่าจำ วิชานี้แค่จำพอผ่านก็พอ วิชานี้เป็นแค่วิชาท่องจำ ... ซึ่งจะบอกว่า มันเป็นสิ่งที่ผมเคยได้ยิน ได้เห็นมาจริงๆ ทั้งนั้นเลยครับ และผมก็เจ็บปวดแทนอาจารย์ใหญ่ท่านนั้นจริงๆ ทุกครั้งที่ได้เห็น การกระทำเช่นนั้น หรือแม้แต่เห็นร่างอาจารย์ใหญ่ที่ยัง dissect ไม่เสร็จ ทั้งที่ควรจะเสร็จ ผมก็เจ็บปวดใจแทนแล้วครับ ขอบคุณนะครับ ที่อ่านข้อความอันแสนยืดยาวนี้ นี่เป็นใจจริงจากผมครับ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 11:21:44 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:15:11

ความคิดเห็นที่ 30 อ่อ ลืมตอบคุณ == พิ้งค์กี้ ==  กับ คุณ N of Dark ไป ผมพอจะมีข้อมูลอยู่ครับ เรื่องการบริจาคร่าง เป็นระเบียบของ รพ ศิริราชนะครับ แต่เกรงว่า ข้อมูลที่มีอยู่ในหัวจะไม่พอ ไว้เดี๋ยววันนี้ผมไปหาข้อมูลมาให้แล้วมาตอบนะครับ ภายในวันนี้แหละ เพราะวันพุธถึงวันศุกร์ผมจะไม่สามารถมาตอบกระทู้ได้ครับ ... ไปร่วมสัมมนากายวิภาคฯ ที่เขาใหญ่อ่ะครับ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:18:53

ความคิดเห็นที่ 31 ผมกับแม่ก็กำลังทำเรื่องบริจาคอยู่ เป็นกำลังใจให้ จขกท. คนบางคนก็เครียดเกินไปจริงๆ จากคุณ : เป็นเมียเราต้องอดทน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:36:07

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ค่อยเข้าใจง่ะ แต่ตัวการ์ตูนก็น่ารักดี จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:05:47

ความคิดเห็นที่ 33   แม้ไม่ได้เรียนมาทางนี้แต่ก็พอจะเข้าใจมุกที่คุณ dip kid วาดครับ ตลกดี ปล.เห็นด้วยกับ คคห.26 ครับ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 14:54:37 จากคุณ : lockdown เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 14:53:52

ความคิดเห็นที่ 34 บริจาคร่างกาย  อวัยวะแล้ว พอเสียชีวิตสภาพศพใช้การไม่ได้ คือโดนฆาตกรรมอะไรประมาณนั้น แล้วเน่าก้อต้องเผาอย่างเดียวใช่มั้ยครับ เจ้าของร่างกายเลยไม่ได้บริจาคตามเจตนารมณ์เลย จากคุณ : pooktoon เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 15:06:06

ความคิดเห็นที่ 35 ^_^ ขอบคุณที่เข้าใจครับ ดีใจที่คุณคิดว่าเรื่องที่ผมยกตัวอย่างมันแรง . เพราะ คนที่เค้าทำแบบนี้ เค้าไม่คิดว่าแรงอ่ะครับ  เค้าคิดว่ามันธรรมดา ก็กังวลแทนครับ  อยากติติงเพื่อก่อ .. คนเข้าใจเค้าโพส คนไม่เข้าใจเค้าเก็บไปคิด   จะไม่เป็นผลดี ที่ทำงานผม สั่งห้ามเด็ดขาดเรื่องคุยเกี่ยวกับลูกค้า ดีชมได้ ไม่ดี ต้องเป็นการติเพื่อก่อ อย่าวิจารณ์อย่าเอาจุดด้อยเค้ามาเล่น ยังอยากเป็นอาจารย์ใหญ่นะครับ  อิอิ  ( หวังจะเป็น อ.ใหญ่ใจดี ขี้เล่นกับลูกศิษย์ด้วย  ถ้าเป็นไปได้  เอิ๊กๆๆๆ ) จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:53:28

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบคำถามครับ (เหมือนช่วงหนึ่งของรายการทีวี ตอบคำถามแฟนๆ เลย 555) ------------------------------------------ คุณ == พิ้งค์กี้ == มีคำถามค่ะ ว่าถ้าบริจาคอวัยวะแล้ว จะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ไหมคะ เพราะเราบริจาคดวงตาและอวัยวะให้ทางกาชาดแล้วค่ะ ถ้า(โชคดี)เสียชิวิตโดยที่ข้างในไม่บุบสลาย แล้วเค้านำอวัยวะของเราไปให้ผู้รับบริจาคแล้ว ร่างที่เหลืออยู่จะใช้เป็นอาจารย์ใหญ่ได้หรือเปล่าคะ? --------------------------------------------------------------------- ตอบครับ สำหรับผู้ที่บริจาคร่างกาย ให้กาชาดแล้ว ซึ่งนั่นน่าจะหมายถึงการบริจาคส่วนหนึ่งไปเลยอย่างหัวใจ ไต ตับ ใช่มั๊ยครับ ... เนื่องจากมีอวัยวะที่ขาดไป จึงทำให้ไม่สามารถบริจาค เอามาให้นักเรียนศึกษาแบบชำแหละทั้งร่างได้ครับ แต่ทางคณะบอกว่า ถ้ายังยินดีที่จะบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาอยู่ก็ยังมี การบริจาคร่างกายอีกแบบครับ ซึ่งก็คือ บริจาคร่างกายบางส่วนเพื่อนำไป คัดแยก ตัดชิ้นเนื้อส่วนต่างๆ ไปทำเป็น slide ส่องกล้องจุลทรรศน์ เพื่อการศึกษาได้เช่นกันครับ หรือ ๆๆ อีกแบบนึงก็คือ การบริจาคโดยที่เจาะจงลงไปเลยว่า ต้องการบริจาคส่วนที่เป็น "โครงกระดูก เพื่อการศึกษา" ซึ่งกรณีนี้จะเป็นกรณีที่แยกไปต่างหากเลยกับแบบที่อุทิศทั้งร่างนะครับ ก็คือพูดง่ายๆ ถ้าจะบริจาคกระดูก ก็จะไม่สามารถ เอาส่วนที่ไม่ใช่กระดูกมาศึกษาได้เลยครับ เพราะทางคณะก็จะนำร่างอาจารย์ใหญ่ไปผ่านกระบวนการต่างๆ ให้เหลือแต่กระดูกเลยจริงๆ ครับ แล้วก็เก็บใส่กล่องไว้ให้ศึกษา ... ฉะนั้นก็จะไม่เหลือร่างไว้ให้ชำแหละศึกษาเลยครับ แต่ว่า กรณีการบริจาคเฉพาะกระดูก มีข้อจำกัดสำคัญอยู่ครับ คือ อาจารย์ใหญ่ท่านตอนเสีย ต้อง ไม่เกิน 55 ปี ... เพราะถ้าอายุมากกว่านี้ กระดูกจะผุกร่อนมาก เก็บรักษาไม่ได้ ซึ่งโดยมากแล้วก็ไม่ค่อยมีอาจารย์ใหญ่ที่อายุไม่เกิน 55 ปีเลยล่ะครับ พอจะได้คำตอบมั๊ยครับ? เอาเป็นว่า ถ้าอยากบริจาคจริงๆ สำหรับผู้ที่บริจาคร่างกายบางส่วนให้กาชาดแล้ว ก็ยังได้บริจาคได้ครับ ทำพินัยกรรมการบริจาคไว้ได้ก่อนเลย เพียงแต่ว่า ตอนที่เสียชีวิตแล้ว ทางคณะจะขอตรวจสอบความเหมาะสมของร่างกายอีกทีนึงว่า จะสามารถบริจาคในรูปแบบใดได้บ้างครับ อ้อ ลืมบอกไป บริจาคดวงตา ไปแล้ว ก็สามารถบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ครับ ทั้งแบบที่บริจาคกระจกตา และ ทั้งดวงตาทั้งลูก เลยก็เป็นอาจารย์ใหญ่ได้ครับ ... หากไม่มีลูกตา เดี๋ยวทางคณะจะใส่ลูกตาปลอมไว้ให้ครับ (ไม่เคยเจอเหมือันกัน) ... เพราะว่า (บอกตามตรง) ส่วนดวงตานี้ ไม่ได้ชำแหละตอนเรียนครับ ตอนเรียน จะเรียนโดยใช้ลูกตาวัวแทนครับ เหตุผลที่ไม่ใช้ลูกตาคนนี่ผมไม่แน่ใจ อาจจะเป็นเพราะขนาดเล็กเกินไปกระมังครับ แต่ใช่ว่าจะไม่เอาลูกตาคนมาศึกษาเลยนะครับ เพียงแต่ไม่ได้ชำแหละเท่านั้นเอง ... ยังคงศึกษาแบบส่องกล้องจุลทรรศน์อยู่ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:13:20

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบทั้งคุณ dip kid และ คุณทุ่มเท ครับ ทำเป็นการ์ตูนก็ทำให้เรื่องยากๆ หายเครียดได้ แต่ก็ควรมีขอบเขตจริงๆ แต่ท่านที่ไม่เห็นด้วยกับคุณทุ่มเท ก็ควรต้องให้เกียรติในความเห็นด้วยครับ เวลาเราคิดถึงตัวเอง เรามักบอกว่า ไม่เป็นไร แต่ถ้า ร่างนั้น เป็นญาติผู้ใหญ่ที่เรารักเคารพมาก หรือ แม้แต่คนรักของเรา ความคิดเราจะเหมือนเดิมหรือไม่ จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:32:28

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ N of Dark --------------------------------------------------------- คุณ dip kid พอจะให้ข้อมูลได้ไหมครับ ว่าการบริจาคร่างกายต้องทำอย่าไร หลังจากผู้บริจาคเสียชีวิตแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง(หมายถึงญาติหรือคนอื่นๆอ่ะคับ) กรณีเสียชีวิตแบบใดที่ไม่สามารถนำร่างนั้นมาเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ และผู้ที่บริจาคร่างกายแล้วเสียชีวิตแล้วนั้นมีกี่เปอร์เซ็นต์ครับที่ไม่สามารถใช้ร่างนั้นได้ตามวัตถุประสงค์ ------------------------------------------------------- ตอบคุณ N of Dark สำหรับผู้ที่อยากบริจาคร่างกายนะครับ จะต้องทำพินัยกรรมเพื่อ แสดงความจำนงค์ว่าจะบริจาคร่างกายครับ ซึ่งเอกสารที่ต้องกรอก แค่ 2 แผ่นเท่านั้นเองครับ ใบนึงเก็บไว้เป็นพินัยกรรมของตนเอง ส่วนอีกใบ ทางคณะ จะเก็บไว้เป็นหลักฐานการบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่นะครับ ^ เดี๋ยวผม link ไปหน้าที่เป็นเอกสารให้ดูนะ ใน คห ถัดไป ซึ่งพอกรอกเอกสารเสร็จแล้วก็ส่งกลับมาให้ที่คณะก่อนทีนึงเพื่อทางคณะจะได้กรอกหมายเลขประจำตัว และออกบัตรประจำตัวผู้บริจาคร่างกายให้ กลับไปที่บ้านครับ (ทางไปรษณีย์) ซึ่งบัตรประจำตัวนี้แหละครับ ที่ทางผู้บริจาคจะต้องเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลา เผื่อว่า (ไม่ได้แช่งนะครับ) เวลาที่เสียชีวิต ผู้ที่อยู่ใกล้ๆ อย่างญาติ ก็จะสามารถติดต่อกลับมาที่คณะ เพื่อแจ้งที่อยู่ ให้ทางคณะ เดินทางไปรับศพ ได้น่ะครับ ไม่ว่าจะโรงพยาบาล หรือที่บ้าน ก็รู้สึกจะไปมาแล้วทั้งนั้นนะครับ ซึ่งการแจ้งให้ทางคณะทราบ จะต้องแจ้งภายใน 24 ชม หลังจากเสียชีวิตนะครับ ตอบคำถามในส่วนของญาติแล้วนะครับ ส่วนอีกคำถามคือ กรณีเสียชีวิตแบบใดที่ไม่สามารถนำร่างนั้นมาเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ นะครับ คือกรณีที่ 1. เสียชีวิต ตอนอายุเกิน 80 ปี น้ำหนักต่ำกว่า 40 กิโลกรัม ... คงเพราะว่า ร่างจะเล็กมาก หรือ อ้วนมาก หรือ ผุไปมากเกินกว่าจะผ่านกระบวนการรักษาได้น่ะครับ 2. เป็นศพที่เกี่ยวกับคดี เช่น ฆาตกรรม (ไม่แน่ใจว่า การฆ่าตัวตาย ถือเป็นคดีมั๊ยอ่ะครับ)... กรณีนี้ ทางตำรวจ น่าจะยึดศพไว้พิสูจน์ จนไม่สามารถบริจาคมาเป็นร่างศึกษาได้แล้วล่ะครับ 3. เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย โรคไต เบาหวาน ครับ ... เพราะร่างเหล่านี้ อวัยวะจะเสียรูปไปมาก ทำให้ศึกษาไม่ได้ครับ ...ถามที่คณะมา คนเป็นโรคไต ศพจะบวมมากเลยครับ ถ้ามะเร็งขั้นตอน ที่ไม่ทำให้อวัยวะเสียรูปไปมาก ก็ยังพอบริจาคได้ครับ อย่างอาจารย์ใหญ่ของผม 2 ท่าน ท่านนึงเป็นมะเร็งตับ อีกท่านเป็นมะเร็งปอด อวัยวะ ยังพอเห็นได้ แต่ก็ไม่ค่อยดีอ่ะครับ dissect ยากเพราะมันจะติดกันไปหมด แถมมะเร็งตับนี่ ตับแข็งเป็นหินจริงๆ ครับ ศึกษาไม่ได้เลย 4. เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ จนร่างกายขาดหายไป ... อันนี้บริจาคไม่ได้แน่นอน 5. ศพมีสภาพไม่เหมาะสม อย่างเช่น เน่าเปื่อย อวัยวะขาด ... (พูดซ้ำทำไมเนี่ย ???) ซึ่งตอนที่ทางคณะเข้าไปรับศพ หลังจากที่ได้รับการติดต่อไป ก็จะตรวจดูความเหมาะสมได้เดี๋ยวนั้นเลยครับว่า สามารถบริจาคร่างได้หรือไม่ครับ 6. ที่เก็บศพของภาควิชาเต็ม ... - -' เอ่อ มีแบบนี้ด้วยรึ?? อีกคำถามนึง กี่เปอร์เซ็นต์ที่ไม่สามารถบริจาคร่างได้ ... ตอบ ไม่รู้เหมือนกันซิครับ อันนี้คงต้องตอบว่า "คาดเดาไม่ได้" อ่ะครับ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:34:59

ความคิดเห็นที่ 39 นี่ครับ link ที่ให้ load เอกสารพินัยกรรมบริจาคร่าง http://www.si.mahidol.ac.th/th/department/anatomy/dept_news_detail.asp?n_id=29&dept_id=1 ของคณะผมเองครับ load ไปใช้ได้จริงๆ นะครับ ที่เข้าไปแล้วต้องเลื่อนมาเจอปุ่มให้ load นะครับ (จะทำเล็กไปไหน ไม่เข้าใจเลย ให้ตายสิ) v v จิ้มไปที่นี่ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:40:03

ความคิดเห็นที่ 40 หรือไม่ก็มารับเอกสารที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์โรงพยาบาลศิริราชได้เลยครับ ถ้าจะ load ไปจริงๆ อย่าลืมนะครับว่า ต้องทำเอกสารพินัยกรรม 2 ชุดนะครับ ไว้ว่างๆ ผมจะ review วิธีการ และ ระเบียบการบริจาคร่าง ไว้ใน blog ละกันครับ ตอนนี้ ก็อ่านระเบียบที่อยู่ใน link ก่อนละกันนะครับ ขอบคุณที่เข้าไปอ่านนะครับ web คณะร้างมาก ขอบอก จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:43:56

ความคิดเห็นที่ 41 อ่อ สำหรับคณะกายวิภาค ที่ศิริราช แอบจำกัดพื้นที่รับบริจาคนิดนึงนะครับ (อันนี้ไม่รู้เหตุผลจริงๆ ครับ ขออภัย) คือ รับเฉพาะเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล (นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสคราม ปทุมธานี นครปฐม) สุพรรณบุรี --> ไม่รับ อ.ด่านช้าง อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อยุธยา --> ไม่รับ อ.ท่าเรือ ราชบุรี --> ไม่รับ อ.สวนผึ้ง อ.จอมบึง กาญจนบุรี --> รับเฉพาะ อ.เมือง อ.ท่าม่วง อ.พนมทวน อ.ท่ามะกา จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:48:29

ความคิดเห็นที่ 42 จิ้มไปที่ 35 คุณทุ่มเท "ดีใจที่คุณคิดว่าเรื่องที่ผมยกตัวอย่างมันแรง " เอ่อ...ผมหมายถึงคุณทุ่มเท แซวผมแรงไปอ่ะครับ ... ผมเสียใจนะ TT-TT (ตอนนี้ทำใจได้แล้ว) คห นี้คือ มาแซวคุณทุ่มเทกลับเท่านั้นครับ... อิอิ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:52:23

ความคิดเห็นที่ 43 คิกๆ ..   ไว้ หากระทู้แซวกันใหม่นะครับ   ^_^ .. โอ๋ๆๆ   ไม่ได้ว่า ตะเอง แรงน้าาาา   เค้าแค่ หยอกๆ เตือนๆ อ่ะนะ ..   โอ๋ๆๆ   .. คิกๆๆ ^_^ จากคุณ : ทุ่มเท เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 18:59:33

ความคิดเห็นที่ 44 ตามความคิดผม ผมว่ามุข 6 มันแรงไปนิดนะครับ สมมุติว่า เมื่อผมบริจาคโครงกระดูกแล้ว นศ แพทย์ เอาโครงกระดูกมือผมไปเล่นเป็นไม้เกาหลัง? ครู ผมเมื่อยไหล่ ทุบไหล่ให้หน่อยสิ ครู หนูคันหลัง เกาหลังให้น่อยสิ จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:00:53

ความคิดเห็นที่ 45 คห. 44 อย่าได้กังวลไปถึงขนาดนั้นเลยครับ ผมช่วย จขกท. ยืนยันอีกคนว่า นักศึกษาแพทย์/นิสิตแพทย์/นักเรียนแพทย์ ทุกท่าน มีจิตสำนึกในพระคุณ และให้ความเคารพต่ออาจารย์ใหญ่เป็นอย่างสูง บางคณะ เช่นที่ผมจบมา ได้มีการจัดการทำบุญ นิมนต์พระมาสวดในห้องแลปในวันเปิดภาคเรียน และได้เชิญญาติของอาจารย์ใหญ่เข้าร่วมงานด้วย ทำให้นักเรียนแพทย์มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับครอบครัวของอาจารย์ใหญ่ ได้ทราบเรื่องราวของท่านครั้งยังมีชีวิตอยู่ ได้เห็นรูปถ่ายของท่าน ทำให้ได้ตระหนักถึง ว่าอาจารย์ใหญ่ไม่ได้เป็นเพียง item ชิ้นหนึ่งที่คณะจัดมาให้ทำการเรียน แต่ครั้งหนึ่งท่านเคยเป็นบุคคลที่มีชีวิตจิตใจ เป็นบุคคลที่เป็นที่รักของครอบครัวท่าน บรรยากาศงานในวันนั้นทำให้เพื่อนผมบางคนหลั่งน้ำตาไปพร้อมกับครอบครัวของอาจารย์ใหญ่ด้วย ผมเองก็ยังจำชื่อและนามสกุลของท่านได้จนทุกวันนี้ ดังนั้นอย่าได้กังวลว่านักศึกษาแพทย์/นิสิตแพทย์/นักเรียนแพทย์จะนำชิ้นส่วนใดของอาจารย์ใหญ่มาเล่นพิเรนทร์ไปเลยครับ อาจารย์ใหญ่ในความรู้สึกของพวกเรา ก็เสมือนญาติผู้ใหญ่ของเรานี่แหล่ะ น้อง ๆ บางคนอาจออกแนวขำขัน มีมุกตลกบ้าง แต่ไม่มีใครกล้าลบหลู่ นำมาเล่นเหมือนเป็นเพื่อนเล่นหรอกครับ ------------------------------------------------------------------------------ to น้องหมอ จขกท. ต่อกรณีที่หลายท่านสงสัยว่า บางภาพบางตอนเหมาะสมหรือเปล่า แล้วก็เห็นว่าน้องเครียดเอาไม่น้อยกับเรื่องนี้ คห. พี่ว่า ก็ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของน้องครับ ถ้าตั้งใจให้เป็นการ์ตูน 4 ช่องฮา ๆ ก็คงเหมาะที่จะเป็น inside joke แล้วเก็บไว้เฉพาะใน Blog แต่ถ้าเป็นไปเพื่อการถ่ายทอดประสบการณ์ เรื่องราวอีกมุมหนึ่งที่มันเกิดขึ้นจริงในชีวิตของ นศพ. ที่บุคคลภายนอกไม่มีโอกาสได้เข้าถึง ไม่ได้เป็นมุกที่แต่งมาเขียนการ์ตูน ก็เหมาะที่จะอยู่บนนี้ครับ จากคุณ : ranmaSeventh เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:28:11

ความคิดเห็นที่ 46 ขอคัดจากความคิดในที่แสดงในกระทู้ห้องเฉลิมไทย http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9173336/A9173336.html มาตอบซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ขอแสดงความคิดเห็น นักเรียนแพทย์ควรปฏิบัติต่อร่างอาจารย์ใหญ่ด้วยความเคารพ ไม่ใช่เพียงแต่เรียกว่า "อาจารย์ใหญ่" เท่านั้น รวมถึงกระดูกที่ใช้เรียน ก็ล้วนแล้วแต่มาจากผู้มีจิตเป็นกุศล บริจาคร่างกายที่มีคุณค่าต่อจิตใจของญาติพี่น้อง มาเพื่อให้พวกคุณได้ร่ำเรียน ศึกษาหาความรู้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะอ้างว่า การนำกระดูก humerus มาทำเป็น "ไม้ตีไหล่" หรือ การที่คุณบังเอิญ"กิน"บางส่วนของร่างกายอาจารย์ใหญ่ เป็นเพียงเรื่องล้อเล่น หรือผู้ที่อ่านสามารถแยกแยะได้ว่านี่เป็นการ์ตูน ไม่ใช่เรื่องจริง แต่อย่างไรก็ต้องมีผู้อ่านที่มองว่านี่เป็นการ์ตูน ที่เขียนขึ้น หรือแต่งเติมจากประสบการณ์จริง   คนเหล่านั้นจะมีมุมมองต่อนักเรียนแพทย์ รวมถึง การเรียนการสอน ของคณะแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชากายวิภาคศาสตร์อย่างไร ถ้าหากการ์ตูนชุดนี้ เผยแพร่ในเฉพาะกลุ่มคนแคบๆเช่นนักเรียนแพทย์ เป็นต้น คงไม่เกิดผลเสียเท่าไหร่นัก ------------------------------------------------------------------------- ปล. ผมชื่นชมการ์ตูนของคุณ  dip kid พอสมควร ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเข้าไปบอกคุณเรื่องรากศัพท์ของคำว่า oculus และชื่อเดิมของ CN XII แต่การเผยแพร่การ์ตูนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกระดูก และชิ้นเนื้อของ อาจารย์ใหญ่กระเด็นเข้าปากนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะเอามาคุยเล่นกันนัก ขอให้ช่วยพิจารณาด้วย เพิ่มเติม ผมชื่นชมอย่างยิ่งกับความขยันหมั่นเพียรค้นหาความหมาย ของรากศัพท์ของเจ้าของกระทู้ ถ้าเกิดสนใจเพิ่มเติมลองหาหนังสือ Synonyms in GROSS ANATOMY ของ อาจารย์เรือน สมณะมาเก็บไว้ น่าจะเป็นคลังข้อมูลที่ดีสำหรับการศึกษาวิชากายวิภาคศาสตร์ จากคุณ : Fluorine เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:52:25

ความคิดเห็นที่ 47 เพิ่มเติมอีกนิด ให้สำหรับเจ้าของกระทู้ เพราะเชื่อว่าพรุ่งนี้มะรืนนี้เจ้าของกระทู้ก็ยังไม่ได้เข้ามาดูเนื่องจาก มีงานประชุมของสมาคมกายวิภาคศาสตร์ เว้นแต่จะมีเวลาว่างปลีกตัวออกมา เล่นอินเตอร์เน็ต :) ผมบังเอิญ เจอคลิปวิดิโอ สอน neuroanatomy โดย pinky and the brain เลยมาฝากให้เจ้าของกระทู้ และเพื่อนๆได้ดูกัน จากคุณ : Fluorine เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:04:30

ความคิดเห็นที่ 48 ในความคิดผมนะ ตอนผมตายผมคงไม่คิดเรื่องพวกนี้มากหรอก (ความจริงคือ ไม่คิดอะไรเลย) จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 10:52:19

ความคิดเห็นที่ 49 ทีมงานทำคลิปสมอง คห.47 สุดยอดด จากคุณ : nowan เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 12:39:54

ความคิดเห็นที่ 50 ร่างกายนี้มันไม่ใช่ของเรา เมื่อถึงเวลา เราก็บริจาคร่างกายนี้ ให้กับคนรุ่นหลังเพื่อเป็นความรู้ ไว้รักษาชีวิต รักษาโรค ท่านจะ ทำอะไรกับร่างกายของเราเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมนั้นเป็นเรื่องที่ดี ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มีจิตใจบริสุทธิ์ที่ยินยอมบริจาคร่างกายของตนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ขอเป็นกำลังใจให้กับ นักศึกษาแพทย์ที่ในอนาคตจะก้าวขึ้นไปเป็นคุณหมอที่ดีมีจริยธรรม ชอบกระทู้นี้มากครับ ส่งต่อไปให้หลานที่เรียนหมอ คิดว่าคงฮากันไม่ใช่น้อย จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 12:43:36

ความคิดเห็นที่ 51 ฮาดี ชอบอันที่ 2 ไหนว่ากินไม่ลง แต่เอาขนมเข้าไปกินจริงๆอ่ะ สุดๆไปเลย จากคุณ : น.ส.แสงแก้ว เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 13:24:19

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าเอากระดูกผมไปทุบหลัง ผมไม่ถือนะ ^_^ จากคุณ : -APEM เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 13:24:24

ความคิดเห็นที่ 53 คือบอกตรงไม่เคยติดตามอ่านงานหรอกนะ มาอ่านเจอก็ทู้นี้แล่ะ ปกติอยู่ห้องบลู เราบริจาคเป็นอาจารย์ใหญ่ไว้(นอกเหนือบริจาคดวงตา อวัยวะทั้งหมด ทำเผื่อไว้เพราะไม่รู้เราจะตายแบบไหนให้คนอื่นได้ประโยชน์สุด)ตั้งแต่อายุ20กว่าๆตอนนี้30แล้ว มาอ่านเจอครั้งแรกเราตกใจอ่ะ ปนๆอึ้ง จริงๆคนอื่นเขาไม่ถือกันใช่ไหม ลุงเราก็เป็นอาจารย์ใหญ่อยู่ตอนนี้นร.ใช้เรียนอยู่และทางโน้นแจ้งว่าจะได้รับอัฐฐิคืนช่วงเดือนมิยนี้ ทุกอย่างที่ผ่านตามา(ที่เขาให้เกียรติลุงเรา)เรารู้สึกดีนะ ทั้งพิธีๆต่างๆก่อนเข้าห้องเรียน การได้พบนศ.กลุ่มที่จะใช้ร่างลุงเราเรียนอ่ะคิดว่าถ้าเป็นเราก็คงเป็นแบบนี้ แต่ไม่รู้มาก่อนว่าบรรยากาศในห้องเรียนมันเป็นแบบในการ์ตูนนั้นด้วย เราไม่รู้หรอกนะอันไหนจริงอันไหนเล่น แต่ถ้าเราเป็นอาจารย์ใหญ่จริงๆ เราคงหยอกกลับแรงๆเลยล่ะ ไม่มีวิญญาณแล้วแต่ก็ยังเป็นร่างที่รักของครอบครัวนะ *แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 15:22:13 จากคุณ : pinksoda เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 14:16:36

ความคิดเห็นที่ 54   อ่านแล้วคิดถึงสมัยเรียนเลย   แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนจขกท.เล่านะ แต่อาจมีบ้างก็ได้ในกรณีของเพื่อนผู้ชาย แต่ที่แน่ๆ พวกเราทุกคนเคารพและสำนึกในพระคุณของอาจารย์ใหญ่มาก มันเป็นความผูกพันธ์ ผ่านมาสิบกว่าปีใครหลายๆคนก็ยังจำชื่ออาจารย์ใหญ่ได้ จริงๆนะคะ  ( รู้หมดเลยว่าแกเลี้ยว ) จากคุณ : เดกะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 20:16:30

ความคิดเห็นที่ 55 ชอบจังกระดูกเนกไท ตอนเรียนก็ต้องนั่งจำเหมือนกันคะ แต่คิดไม่ได้แบบนี้แฮะ อิ อิ ก็ให้กำลังใจ จขกท. ละกันคะ ติเพื่อก่อเนาะ ถ้าไม่มีใครติเราก็ไม่พัฒนาจริงมั้ยคะ ขอแค่ จขกท. จบออกมาเป็นหมอที่ดี เอาใจคนไข้มาใส่ใจตน แค่นี้ก็พอคะ สู้ต่อไปคะ วาดการ์ตูนน่ารักดี ^^ จากคุณ : โบโบโร่ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 21:21:36

ความคิดเห็นที่ 56 อย่ายึดติดมากเลยครับ ตายไปแล้วอะไรก็เอาไปไม่ได้ สาระสำคัญอยู่ที่โตขึ้นไปจะเป็นแพทย์ที่ดีหรือไม่ ก็แค่นั้น จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 01:15:43

ความคิดเห็นที่ 57 เพราะคนเหล่านั้นไม่ยึดติด จึงได้บริจาคร่างกายเพื่อเป็นความรู้แก่คนรุ่นหลัง ส่วนตัวเองคิดมาตลอดแต่ใจไม่กล้าพอ เลยยังไม่ได้บริจาคค่ะ ตัวการ์ตูนน่ารักดี แต่เรื่องกระดูกทุบหลังกับกินเนื้อนี่รับไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ขอให้ จขกท ช่วยพิจารณาด้วย (ยืม login แฟนมาค่ะ) จากคุณ : Rubik เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 11:06:10

ความคิดเห็นที่ 58 ตรงมากอันหนึ่งครับ ทุกคนมักสงสัยว่า ทำไมถึงกล้ากินอะไรตอนเรียนกรอส.... แต่คนที่ไม่เคยเรียนคงไม่รู้ว่า lab gross เป็นอะไรที่เหนื่อยและใช้พลังงานมาก เลยต้องเติมพลังงานตลอดเวลา ถึงผู้บริจาคร่างทุกท่านครับ ท่านได้ทำกุศลอันใหญ่หลวงแล้วครับ ถึงผู้ไม่สบายใจและกำลังคิดเรื่องจะบริจาคร่างครับ บางสิ่งที่ท่านเห็นมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แต่บางอย่างก็ไม่ใช่ (เช่นเอากระดูกมีตีไหล่ ผมไม่เคยนะ และคิดว่าไม่มีใครเคยด้วย น่าจะแค่มุขตลกอ่ะ :P) ทำอะไรที่สบายใจเถิดครับ หากเห็นแล้วว่าระหว่างเรียนมีเด็กเอาขนมเข้าไปกินในห้อง หรือพูดคุยไม่สุภาพ จะรู้สึกไม่สบายใจ ก็ควรตัดสินใจให้ดีครับ คนเราแตกต่างกันทั้งความคิดและการกระทำ เราได้แต่หวังให้เค้าทำอย่างที่เราต้องการ แต่เราไม่สามารถบังคับใครได้หรอกครับ  ...อย่าคิดมากนะครับ จากคุณ : psbonn เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 11:48:02

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าผมเป็นอาจารย์ใหญ่ก็ไม่ถือสาหรอกครับ นักศึกษาจะเล่นกันบ้างคลายเครียด เข้าใจว่าบรรยากาศในห้องเรียนคนจะเครียดกันน่าดู  เคยฟังรุ่นพี่ที่เรียนแพทย์เล่าบางคนเล่นแรงกว่านี้อีกนะครับ แต่ไม่ได้หลบหลู่อาจารย์ใหญ่หรอกนะครับ แต่พี่เขาเล่นกันแรงเท่านั้น    ตั้งใจจะบริจาคร่างเหมือนกัน สุดท้ายชีวิตเราก็เอาอะไรไปไม่ได้ แต่ขอเหลือไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้คนก็ยังดี จากคุณ : คุณหลอกดาว เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 19:53:21

ความคิดเห็นที่ 60 ทุกวันนี้ผมเป็นครู เด็กเล่นกันผมก็ไม่ว่า แต่ขอให้ตั้งใจเรียนตอนที่สอน ไม่หลบหลู่ครูบาอาจารย์ เรียนจบไปเป็นคนดี แค่นี้ก็พอแล้วหล่ะครับ จะไปยึดติดอะไรมากมายหล่ะครับ ครูที่เราเห็นว่าดุ เค้าก็ไม่เคยดุด่าเราในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย จากคุณ : ความน่าจำเป็น เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 21:24:59

ความคิดเห็นที่ 61 ผมเองก็นับถืออาจารย์ใหญ่เหมือนญาติผู้ใหญ่ที่สนิทกันครับ แรกเจอกันใหม่ตอนเปิดเทอม 1 ก็เกร็งๆ และเรียนรู้จากท่านด้วยความเคารพอย่างสูง แต่พอต้องเรียนด้วยกันนานๆ ทุกๆวัน วันละหลายๆชั่วโมง เป็นปีๆ ให้สนิทกับอาจารย์ใหญ่มากขึ้น กล้ากินอะไรๆข้างๆท่าน (ถ้าไม่กินก็ไม่มีแรงเรียนสิ ^ ^) และกล้าเล่นกับท่านเหมือนท่านเป็นญาติผู้ใหญ่จริงๆ (เหอๆ ถ้าอาจารย์ลงมาเล่นด้วยจริงๆแล้วจะหนาว) เท่าที่ จขกท.ยิงมุกมา ผมรับได้นะ เล่นด้วยความเคารพเล็กๆน้อยๆก็เล่นไปเหอะ อย่าเล่นแรงๆก็แล้วกัน (ไม่ขอยกตัวอย่าง) ถ้าผมได้เป็นอาจารย์ใหญ่เองก็คงรักนักเรียนเหมือนลูกเหมือนหลาน เล่นกับผมนิดๆหน่อยๆผมไม่ว่าหรอก แต่เล่นแล้วไม่ตั้งใจเรียน หรือเรียนๆไปเพื่อสอบให้ผ่าน หรือผ่าผมไม่เสร็จตามไดเรคชันแลป จะแช่งให้จำอะไรไม่ได้ตอนแลปกริ๊งงง...คอยดู๊ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 53 01:16:50 จากคุณ : Parafunctional Habbits เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 01:14:57

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านแล้วนึกถึงเรื่องราวครั้งอดีต(ที่ผ่านมาแสนนาน)จริงๆครับ คนเขียนก็ช่างเก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้ดีจริงๆ แทงค์กิ๊วหลายๆน่ะครับ จากคุณ : Dr.Manta เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 11:31:53

ความคิดเห็นที่ 63 เออ เรื่องกระดูกเอามาตีนี่ผมเคยนะ แต่เอามาตีกระโหลกตัวเอง ก็มันอยากจำไม่ได้ซะที แต่ป๋มเรียนสัตวแพทย์ ที่เอามาตีนี่ก็กระดูกวัว ใหญ่คอดๆ เหอๆๆ ถึงเป็นอาจารย์ใหญ่ที่เป็นสัตว์พวกผมเหล่าสัตว์แพทย์ก็เคารพ ครับ แต่ว่าอ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงตอนเรียนกรอสเหมือนกัน 555 นึกว่าถ้าเป็นเหมือนพวกผมท่าจะยุ่ง ขโมย อาจารย์กลับมาท่องที่ห้อง 555 จากคุณ : endocrinex เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 14:05:26

ความคิดเห็นที่ 64 ฮาอันทคี่ 4 มากครับ วาดสีหน้าได้ฮามาก ^^" จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 16:32:49

ความคิดเห็นที่ 65 กลับมาจากการเว้นว่างพันทิปไป 3 วันแล้วครับ วันนี้ได้มีโอกาสตอบกลับ ซะที ขอบคุณทุกความเห็นมากจริงๆ เลยครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่า ขอบคุณทุกความเห็น ทั้งความเห็นที่ให้กำลังใจ ... หลายความเห็นเลยล่ะครับ  ไว้ผมจะมานั่งอ่านอีกครั้ง แล้วจะพยายามจำให้ได้ทุกล็อกอิน เลยครับ แรงใจที่ได้มาในยามที่โหยหา นี่มันมีค่ามากจริงๆ ครับ รวมทั้งขอบคุณ ความเห็นที่ท้วงติงอย่างจริงใจ ทำให้ผมได้ย้อนกลับมาดูพฤติกรรม และความคิดของตัวเอง หลายๆ อย่างในช่วง 3 วันที่ไม่ได้มาตอบกระทู้นี้ บอกตามตรงว่า fail ไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็ค่อยๆ เก็บทุกความเห็นมานั่งคิด นั่งพิจารณาดู ในหลายๆ แง่มุม ที่ทั้งเสนอมา และประสบเจอกับตัวเอง ทุกความเห็น ทำให้ผมคิดว่า "ผมต้องทำอะไรสักอย่าง" ... เรียกได้ว่า กระทู้นี้สร้างทั้งแรงบันดาลใจ ทั้งอุทาหรณ์สอนใจ ที่สำคัญให้ผมเลยล่ะครับ (จะเอาแรงบันดาลใจนั้นไปทำอะไร ขออุบไว้ก่อน อิอิ) ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งจริงๆ ครับ ไว้จะเขียนผลงานออกมาให้คอมเมนต์กันอีกนะครับผม จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 17:17:32

ความคิดเห็นที่ 66 ผู้บริจาค คงไม่คิดมากหรอก หวังแค่ว่า คนเป็นหมอ คงได้ใช้ความรู้ ช่วยเพื่อนมนุษย์ เท่านั้น แต่ญาติๆ นี่อาจจะไม่คิดอย่างนั้น  ก็ระวังหน่อยก็ดีครับ จากคุณ : Professor เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 18:27:41

ความคิดเห็นที่ 67 ตามอ่านมานาน  เห็นแล้วนึกถึงตอนสอบจริงๆ  แต่เพื่อนผมไม่มีใครเอาของไปกินเลยแฮะ  กลัวมดขึ้น อ่านแล้วคิดถึงอาจารย์เหมือนกันครับ ปล.แต่ห้องแลบผมมีแอร์นะ  เย็นสบาย  ฮ่าๆ จากคุณ : Vellyz เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 22:09:57

ความคิดเห็นที่ 68 จ๊าบค่ะ จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 15:10:47

ความคิดเห็นที่ 69 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 14:13:36