ความคิดเห็นที่ 1   อ่านโจทย์ผิดแล้วตั้งแต่ต้น ปัญหารถไฟบ้านเราไม่ได้ต้องการความเร็วขนาดนั้น ทำให้มันตรงเวลาไม่ต้องมารอสับหลีกกัน>>>ทำรางคู่สิ ปัญหาอีกอย่างคือการจัดการ>>>ยุบสหภาพสิ 2 อย่างก็เกินพอสำหรับรถไฟประเทศนี้ จุ๊บ ๆ ทำได้ 2 อย่างนี้ก็เก่งแล้วครับ จากคุณ : เดอะฟักทอง3/4 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:14:27 A:124.121.101.108 X: TicketID:223361

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องขอข้อมมูลต้องโทรไปเรื่อยๆ เลยครับ  พึ่งข้อมูลจากเว็บไม่พอหรอก ก็โทรเข้า รฟท. ไปเลย ถามไปตรงๆ ว่าต้องการข้อมูลแบบนี้ๆๆๆ มีมั้ย ต้องติดต่อหน่วยงานไหน ขอเบอร์ไปเลยครับ ต้องรู้จักโทรถามครับ  ผมก็โทรถามไปเรื่อยๆ นี่แหล่ะ เกือบด่าแล้วล่ะ   ถ้าไม่เห็น ปล. 555 ปล. เย็นนี้สอบ defense แล้วววว   จะเป็นไงหว่า จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:20:04

ความคิดเห็นที่ 3   รถไฟความเร็วสูงเขาว่าจะทำเส้นทาง กรุงเทพ - หัวหิน - หาดใหญ่ ก่อนนะ จากคุณ : คนลาดพร้าว71 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:24:42

ความคิดเห็นที่ 4 อ่อ ครับเรื่อง  ทำจริงไม่จริง ปัญหาเรื่องการเมือง-สหภาพ ไม่เกี่ยวครับเพราะจริงๆ มันก็เป็นแค่โครงการสมมติเท่านั้นเพียงแต่ว่า ผมเห็นว่ามันมีข่าวมาแล้วมีนโยบายที่จะทำจริง เลยว่าจะเอามาเป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงในการทำข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นครับ ปล. สถานีรถไฟความเร้วสูงกับ สถานีรถไฟรางคู่ อันไหนน่าทำกว่ากัน หมายถึงว่า ความน่าสนใจของการออกแบบตัวอาคาร-สถาปัตยกรรมน่ะครับ จากคุณ : NEKOmimi เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:50:27

ความคิดเห็นที่ 5 อ่อ..เสริม... แล้วมีปัจจัยอะไรบ้างที่รถไฟบ้านเราไม่ได้ต้องการความเร็วขนาดนั้น เพราะภูมิประเทศ!?  หรือเพราะคนใช้รถกันเยอะกว่า!? เพราะงั้นถ้าดูที่ความเหมาะสมแล้วรางคู่น่าจะเหมาะสมกว่าซินะ ทั้งทางด้านการใช้งาน ความคุ้มค่า การขนส่ง ฯลฯ เพราะจริงๆแล้วส่วนตัวอยากทำสถานนีดีๆ ดูทันสมัย เหมือนสถานีรฟ.เร็วสูง แบบในจีนน่ะครับ จากคุณ : NEKOmimi เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:01:25

ความคิดเห็นที่ 6 เชื่อมต่อตรงไหนดี จากคุณ : NEKOmimi เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:02:40

ความคิดเห็นที่ 7   ผมคิดว่า ที่เขาเอาที่หนองคาย คงเป็นเพราะว่า... หนองคาย ติดกับเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวง เมืองใหญ่ และตอนนี้ มีลางรถไฟต่อเข้าไปในลาวแล้วครับ...... ส่วนถ้าหากว่าไปทาง อุบล จะต้องทำทางไปถึงช่องเม็ก(ช่องเม็ก - อุบลวิ่งรถ ก็น่าจะประมาณ 2 ชม.กว่านะครับ) เพื่อที่จะไปรอ ประเทศลาวทำลางรถไฟมาจาก ปากเซ ซึ่งถ้าหาไปทางรถยนต์ ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วครับ.... แล้วอีกอย่าง ปากเซ จริงอยู่เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่จะไปในทางภาคใต้ของลาว... แต่ มันก็ยังเป็นเมืองเล็กว่า เวียงจันทน์ครับ.... ************************************** ปัจจุบัน การเดินทาง ทางรถ ที่จะไปเวียดนามกลาง จากประเทศไทย... ส่วนใหญ่ จะไปทางจังหวัด ด่านมุกดาหาร เข้า สุวรรณเขต แล้ว ไปเข้าด่านลาวบาวที่เวียดนามกลางครับ... จากคุณ : TonTon1977 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:29:30

ความคิดเห็นที่ 8 ไหน ๆ ก็มีคุยถึงเรื่องนี้ สถานีรถไฟความเร็วสูง เมืองอู่ฮั่น จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:50:38

ความคิดเห็นที่ 9 ก็ทำสองสายสิครับ สำหรับสายอีสาน เส้นนึงไปทางหนองคาย เพื่อเข้าเวียงจันทน์ เชื่อมต่อไปลาวเหนือ ส่วนอีกสายก็ไปทางอุบล มุกดาหาร เชื่มต่อไปเวียดนามกลาง เว้ ดานัง แล้วก็รอทำสายตะวันออกไปสุดที่ตราด เพื่อรอเชื่อมต่อไปโฮจิมินห์ เวียดนามใต้ ทีนี้ภูมิภาคอินโดจีนก็จะเชื่อมกันหมดแล้วครับ ปล.ผมเพ้อ จากคุณ : i will ok เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:52:12

ความคิดเห็นที่ 10 อยากได้แบบนี้ จีนสนใจเข้ามาวางระบบรางรถไฟความเร็วสูงในไทย น่าสนนะครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:53:04

ความคิดเห็นที่ 11 อีกรูป จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:54:04

ความคิดเห็นที่ 12 1. ตามแผนการนั้น ทางเราคาดหวังว่าจีนจะทำทางรถไฟจากคุนหมิงเชื่อมต่อเข้าไปในลาวและมาเชื่อมกับไทยที่หนองคายครับ (เป็นอีกเส้นทางที่เป็นไปได้นอกจากการเชื่อมที่เชียงของ และบ้านคลองลึก) แต่ก็ยังต้องทำการศึกษากันต่อไป 2. หนองคายและอุดรธานีมีศักยภาพในการพัฒนาเป็น Hub เชื่อมต่อระหว่างอินโดจีน-จีนใต้ครับ 3. จีนเองก็หวังจะหาหนทางออกทะเลให้แก่มณฑชั้นในของตนเองอย่างยูนนาน กุ้ยโจว และเสฉวน ครับ ซึ่งเส้นทางคุนหมิง-เวียงจันทน์-หนองคาย เป็นเส้นทางที่เป็นไปได้อย่างมาก จีนเองก็สร้างถนนจำนวนมากให้กับลาวเพื่อขนถ่ายสินค้า-คน จากยูนนานลงมาทางนี้แล้ว และในอนาคตอาจจะพัฒนาทางรถไฟร่วมกับลาวลงมาด้านนี้ได้ครับ แต่ในความเชื่อของผมนะครับ จีนจะไม่สร้างรถไฟความเร็วสูงลงมาทางลาวในช่วง 10-15 ปีข้างหน้าแน่นอน เพราะเส้นทางจากชายแดนจีนเข้าสู่เวียงจันทน์นั้นทุระกันดารมาก ต้องลงทุนมหาศาลในการขุดเจาะอุโมงค์และทำทางรถไฟครับ นั่นทำให้จีนคงจะเลือกถนนสาย R สารพัดสายที่สร้างเอาไว้แล้วและแม่น้ำโขงในการขนถ่ายสินค้าเป็นหลักไปอีกพักใหญ่ๆ.....อีกทั้งถ้าจีนจะเน้นขนสินค้าจริงๆ ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นจะต้องวางสายไฟฟ้าเพื่อเดินรถความเร็วสูงครับ คงจะสร้างเป็นรางขนาดมาตรฐานที่จีนใช้ ให้รองรับน้ำหนักกดเพลาเยอะๆ ทำทางลาดที่มีความชันไม่มากก็เพียงพอแล้ว จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:59:15

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับคุณ  digimontamer ครับ ผมว่าช่วงภายใน 10 ปีนี้ จีนน่าจะเน้นสร้างทางรถไฟความเร็วสูงให้ครอบคลุมระยะทางทั้งหมด 1 แสนกิโลเมตรจากเหนือจรดใต้ ตะวันออก-ตะวันตกตามโครงการภายในปี 2020 มากกว่าครับ หลังจากนั้นเมื่องานสร้างทางรถไฟภายในลดลงแล้ว ค่อยมุ่งสู่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ รวมไปถึงตลาดต่างประเทศมากกว่า จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:10:30

ความคิดเห็นที่ 14 คำว่า "รางคู่" รู้สึกมีคนเคยกล่าวรายละเอียดไว้ในนี้นี่ครับ แต่ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว คุ้น ๆ เหมือนกับว่า ปกติรถไฟมันก็รางคู่อยู่ปกติอยู่แล้ว คือมี 2 รางขนานกันไป ถ้ารางเดี่ยว จะหมายถึงรางเดี่ยว ๆ เหมือน BTS แต่ถ้า 2 คู่สวนกันได้ ไม่รู้เค้าจะเรียกว่าง "รางคู่" หรือไม่ ผมเองก็จำไม่ได้แล้ว ลองหารายละเอียดดูนะครับ จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 14:18:16

ความคิดเห็นที่ 15 #14  ใช่ครับ  เหมือนจะอ่านเจอ เหอะๆๆจำไม่ได้เลยขอเรียก รางคู่ไปก่อน ส่วนเรื่องหนองคาย อืม...ถ้าทำเรื่องนี้ผมต้องตีโจทย์เยอะมากเลยแฮะ เพื่อการทำสถานนี เพื่อรองรับ สินค้าจากจีน และผู้คน ดูท่าจะเป็นโครงการเมก้า กว่าที่คิดเยอะเลย เซฟๆมาทำรางคู่ เพื่อการค้า และการท่องเที่ยวในประเทศท่าจะดีกว่าแฮะ ดูกระชับขึ้นมาหน่อย แล้วการทำส่วนต่อขยายไปปากเซ คิดว่าเหมาะหรือปล่าวละครับ? หรือว่าหยุดอยู่แค่ตัวสถานนีในเมืองก็พอแล้ว แล้วให้ขับรถต่อเอาสะดวกกว่า อ.ก็บอกอยู่นะว่าทำพวกสถาณีsationพวกนี้มันยาก เดี๋ยวจะไม่จบเอา หุหุ จากคุณ : NEKOmimi เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 14:59:30

ความคิดเห็นที่ 16 รางคู่มีผลดีกว่าเยอะครับ   เพราะอุตสาหกรรมบ้านเรายังมีปัญหาเรื่อง logistic อยู่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก  และการลงทุนเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นคืนทุนช้ากว่าเยอะครับ ถ้าได้รางคู่จริงๆ  จะทำให้ระบบการขนส่งของเราดีขึ้นเยอะเลย และประหยัดค่าใช้จ่ายการขนส่งทางถนนได้มากขึ้นซึ่งจะเป็นข้อดีตามมาอีกหลายๆข้อ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:00:35

ความคิดเห็นที่ 17 1. รางที่สวนกันไปมาเรียกว่า ทางคู่ก็ได้ครับ เช่นเรามีรางรถไฟแบบทางคู่ในช่วงบางซื่อ-นครปฐม เป็นต้น ส่วนตั้งแต่รังสิต-ภาชี ก็เรียกว่า ทางสาม หุหุ แต่เรียกกันติดปากว่า รางคู่และรางสามนั้นแลครับ ก็รางหลักเรียกว่ารางประธานนี่นา หุหุ 2. ผมเห็นด้วยว่า ความจำเป็นเร่งด่วนคือ การขยายช่วงทางรถไฟทางคู่ครับ เพราะจะลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้าและการเดินทางได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และที่สำคัญคือเร่งปรับปรุงสภาพรางในเส้นทางหลักทั่วประเทศให้มีสภาพที่ดี เปลี่ยนเป็นไม้หมอนคอนกรีต 100-120 ปอนด์  (โดยเฉพาะช่วง พิษณุโลก-บ้านโคน, นครปฐม-หนองปลาดุก, ชะอำ-เขาเต่า เป็นต้น) และปรับปรุงคอสะพานต่างๆให้รับน้ำหนักกดเพลาได้ไม่ต่ำกว่า 20 ตันครับ ซึ่งจะทำให้รถจักรวิ่งทำเวลาได้ดีขึ้นอีกมากเลยทีเดียว 3. อีกปัญหาที่น่าจะต้องหาทางแก้ไขคือ การลดความชันในช่วงทางภูเขาลงครับ ซึ่งถ้ามีเงินทุนและเทคโนโลยีเพียงพอก็จะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางได้อีกเยอะเลย (จริงๆเทคโนโลยีนั้นน่าจะมี แต่ขาดเงินนี้แล) ปัญหา ปดร. ทางภูเขานี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเดินทางล่าช้าหน่ะครับ เพราะรถไฟไม่สามารถทำความเร็วได้เนื่องจากต้องไต่ระดับ และเส้นทางหลายๆแห่งก็มีองศาความชันมากทีเดียว ตัวอย่างชัดๆก็คือช่วงระหว่าง มาบกะเบา-ปากช่อง ครับ ระยะทางเพียง 40 กว่ากิโลเมตร แต่รถด่วนพิเศษดีเซลรางแดวูร์ (ข.21) ก็ยังต้องใช้เวลามากถึง 1 ชั่วโมงกว่าจะผ่านช่วงนี้ไปได้ครับ หากไปเทียบกับระยะทางช่วง ชุมทางถนนจิระ-ลำปลายมาศ ซึ่งยาว 80 กิโลเมตรนั้น รถด่วนพิเศษใช้เวลาวิ่งผ่านไปน้อยกว่า 1 ชั่วโมงเสียอีก..... 4. ทางคู่+สภาพรางที่ดีนั้นน่าจะช่วยให้รถธรรมดาสามารถทำความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางได้มากถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ รถเร็วอาจจะได้ซัก 65-75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถด่วนที่ใช้หัวจักรอาจจะได้ซัก 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรถดีเซลรางด่วนพิเศษอาจจะได้มากถึง 95-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งหากทำได้ระดับนี้จริงๆ ข.111 อาจจะวิ่งถึงพิษณุโลกได้ภายในก่อนบ่ายโมงก็ได้ครับ (ย่นไปได้ชั่วโมงกว่าๆจากปัจจุบัน) และ ข.107 อาจจะถึงอุตรดิตถ์ก่อนตีสามด้วยซ้ำไป แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 16:32:34 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:28:22

ความคิดเห็นที่ 18 ยิ่งอ่านยิ่งท้อ ยิ่งดูรูปยิ่งอิจฉา วันก่อนอยากนั่งรถไปเที่ยว พนักงานบอกรถไฟเสียเวลา อืมงั้นรอ คงแปปเดียว ที่ไหนได้ สองชั่วโมง จากคุณ : dust su เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:00:38

ความคิดเห็นที่ 19 ในแง่ธุรกิจ รถไฟความเร็วสูงเกิดมาก็ตายเปล่าครับ แบ่ง segment คนขึ้นรถไฟความเร็วสูงก็คงจะเป็นคนมีเงิน คราวนี้ segment นี้ก็ไปแข่งกับเครื่องบินอีก กรุงเทพ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต นี่เครื่องบินเยอะแยะไปหมด ออกถี่หยั่งกับรถทัวร์ ถ้าใกล้กว่านี้ตามสถานีรายทางอย่างนครราชสีมา นครสวรรค์ พวกนี้ก็ใกล้ไป คู่แข่งก็ไม่ใช่ใคร คือรถยนต์ส่วนตัวนั่นแหละ แต่ถ้าเป็นรถไฟรางคู่นี่ ลงทุนไม่หนักเท่าแถมได้ลูกค้าเป็นรถสินค้าเพิ่มขึ้นอีก ถ้าจะให้ดีเป็นรถไฟฟ้า รางคู่ไปเลย เดินสายไฟแถมไปด้วยเลย รถสินค้าก็เปลี่ยนไปใช้หัวจักรไฟฟ้าแทน จากคุณ : I love Alpha เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:55:57

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหาหลักอีกข้อที่น่าจะต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วนก็คือ การจัดซื้อหัวจักร แคร่โดยสาร และแคร่บรรทุกสินค้าเพิ่มเติมครับ ทุกวันนี้การรถไฟอยู่ในสถานะที่ขาดแคลนหัวรถจักรดีเซลและดีเซลรางมาทำขบวน โบกี้โดยสารก็มีสภาพเก่าและชำรุดเป็นจำนวนมาก แคร่โดยสารก็ขาดแคลนและบางชุดก็มีน้ำหนักบรรทุกน้อย เมื่อมีรางที่ดีแล้วก็ควรจะมีหัวรถจักรที่กำลังดีๆเข้ามาเสริมด้วยครับ สมัยโบราณรถเร็วเด่นชัย เคยวิ่งได้เร็วกว่านี้มาก (สมัยที่หัวรถจักรอัลสตรอมยังซิงๆอยู่) แต่ปัจจุบันรถเร็วเด่นชัยกลายเป็นจอมช้าประจำสายเหนือขบวนหนึ่งไปแล้ว เพราะปัญหาหัวรถจักรไม่พอใช้นี้แล ผมนั่ง ข.111 มาหลายรอบ เคยเจอหัวเจ๊งที่ลพบุรีหรือนครสวรรค์ก็หลายครั้ง เข้าใจเลยว่าสภาพหัวรถจักรนั้นขาดแคลนแค่ไหน จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 18:45:47

ความคิดเห็นที่ 21   ทำไม่ได้หรอก เพราะไม่มีใครขึ้น คนอีสานบ้านเฮาจะเอาเงินที่ไหนนั่งรถไฟค่าตั๋วแพงขนาดนั้น เจ๊งแน่นอน ที่กล้าพูดเพราะตัวเองเป็นคนอีสานที่ขึ้นรถไฟบ่อยๆเหมือนกัน นอกจากไม่มีเงินแล้วมันไม่จำเป็นต้องรีบด้วย ! นั่งชิวๆไปถึงหนองคายเมื่อไหร่ก็ได้ ที่หนองคายหรือเมืองใหญ่ๆทางอีสานก็เถอะไม่ได้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจเหมือนฮ่องกง/ญี่ปุ่น ผู้คนที่นี่ไม่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ จากคุณ : Nazithai เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:31:01

ความคิดเห็นที่ 22 หนองคาย อุดร ขอนแก่น มีศักยภาพสูงที่สุดในเขตนั้นแล้วครับ คนเยอะเงินเยอะ ธุรกิจเยอะ และติดต่อกับเวียงจันทน์ด้วย ดังนั้นถ้าจะมีรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องตรงนี้แล จากคุณ : REFRIG เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 10:12:47

ความคิดเห็นที่ 23 - รายได้หลักของการรถไฟมาจากรถไฟสายใต้ครับ และคนใต้ก็กระเป๋าหนักไม่ค่อยจะนั่งชั้น 3 กันเท่าไหร่ (สังเกตจากขบวนเด่นๆอย่าง ข.173, 170, 167 ชั้น 3 ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลบางทีก็ขายตั๋วให้ทหารม้าเป็นหลัก แต่พวกชั้น 2 ทั้งนั่งและนอนกลับเต็ม) ชั้น 3 สายใต้ที่เต็มตลอดศกมีแต่ ข.171 ที่เป็นรถฟรีครับ หุหุ - สายอีสานเหนือ+อีสานใต้ นั้น จัดว่าน่าจะเป็นสายที่มีคนโดยสารรถไฟหนาแน่นมากที่สุด มากกว่าสายเหนือและใต้ครับ ดูจากปริมาณรถท้องถิ่นซึ่งมีจำนวนมาก และรถเร็วจำนวนมหาศาล แต่กลับทำรายได้สู้สายใต้ไม่ได้เพราะ สายอีสานนั้นผู้โดยสารนิยมชั้น 3 มากกว่า รถเด่นๆอย่าง ข.69, ข.135, ข.139 และ ข.141 ชั้น 3 มักจะขายได้ราวๆ 60-70% เสมอๆครับ ยิ่งรถฟรีอย่าง ข.133 และ ข.145 นี่อัดกันราวปลากระป๋องเลยทีเดียว ทำให้ผมคิดว่าการวางรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-ราชสีมา นั้น ไม่ค่อยจะดีสำหรับการเริ่มต้นครับ - รถไฟความเร็วสูงสายเริ่มต้นนั้น ผมคิดว่าสายตะวันออกอย่าง กรุงเทพ-สุวรรณภูมิ-ชลบุรี-ศรีราชา-พัทยา น่าจะดีที่สุดครับ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับสนามบินและแอร์พอร์ทลิงค์ได้ อีกทั้งระยะทางไม่ไกล+พื้นที่เป็นทีราบเสียส่วนมาก ประหยัดงบและระยะเวลาในการสร้างครับ (แต่ค่าสร้างสะพานข้ามบางปะกงคงจะแพงอยู่หน่ะนะ) จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 13:19:43

ความคิดเห็นที่ 24   ตามที่คุณ  Digimontramer  บอกครับ      การทำ thesis ขนส่งมวลชน   ต้องมีการวิเคราะห์ ระดับนโยบายของ ประเทศ    ปีที่แล้ว ผมทำ thesis สถานีรถไฟหาดใหญ่  เพราะตัวสถานีมี ศักยภาพสูงมาก  ตั้งอยู่ในเมือง เป็นสถานีต้นทาง ปลายทางที่สำคัญ รายได้สูง    สถานีมีรายได้สูง  ผู้โดยสารเยอะ รวมถึงมีประเด็นในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจเป็๋นต้น มีข้อมูลที่เก็บไว้ ตอนทำ propersal เยอะพอสมควร ถ้าสนใจเอาข้อมูลเป็น case study หลังไมค์มานะครับ จากคุณ : Napsterio เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 09:51:52

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่ารางคู่ กับความเร้วสุง มันคนละตลาดกันนะครับ รางคู่ เห็นด้วยว่าควรมาก่อน เพื่อให้ประสิทธิภาพของระบบรางทำได้เต็มรูปแบบ แต่มันไม่น่าจะเหมาะสำหรับขนคน เหมาะขนของมากกว่า ความเร็วสุง น่าจะเหมาะกับขนคนที่สุด ถ้าหากเทียบกับเครื่องบิน ยังไงรถไฟก็ปลอดภัยกว่า อาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ แม้จะช้ากว่ากันบ้าง (คบ. 2 ชม. กับ รฟ. 4-6 ชม.) จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 11:44:42