ความคิดเห็นที่ 1 อันดับ 1 Ascaris lumbricoides   (พยาธิไส้เดือนกลม) อนุกรมวิธาน (Taxonomy) Phylum        NEMATHELMINTHES Class           NEMATODA  (Rudolphi, 1808, emend. Diesing, 1861) Subclass      SECERNENTEA (=PHASMIDIA)  (Dougherty, 1958) Order          ASCARIDIDA  (Yamaguti, 1961) Superfamily ASCARIDOIDEA (Railliet & Henry, 1915) Family         ASCARIDIDAE  (Baird, 1853) Subfamily    ASCARIDINAE  (Baird, 1853) Genera        Ascaris   (Linneaus, 1758) ชื่อสามัญ(Common name)       พยาธิไส้เดือนกลม (Large intestinal roundworm) โรค (Disease)                        โรคพยาธิไส้เดือนกลม(Ascariasis, ascaris infection, roundworm infection) http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/asc/contents/asc_frame.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:48:34

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุผลที่ประทับใจ = มันเหมือนอุด้ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:51:06

ความคิดเห็นที่ 3 รูปร่างลักษณะ  (Morphology) พยาธิไส้เดือนกลม มีรูปร่างกลมยาวคล้ายไส้เดือนดิน มีสีขาวครีมหรือชมพูอ่อนๆ โดยที่ด้านข้างของลำตัวจะมีลักษณะของเส้นขาวของ lateral cord ยาวตลอดลำตัว ผิวจะค่อนข้างเรียบ (smooth, finely striated cuticle) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:53:40

ความคิดเห็นที่ 4 ไหนเทียบกับไม้บรรทัดซิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:57:17

ความคิดเห็นที่ 5 มันน่าประทับใจตรงใหนครับ เห็นแล้วไม่อยากกินก๋วยเตียว จากคุณ : Khampan_Pang เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:59:38

ความคิดเห็นที่ 6   ลงชื่อ ติดตามผลงานครับ จากคุณ : Encyclopedia เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:59:49

ความคิดเห็นที่ 7 ระบบสืบพันธุ์เจริญสมบูรณ์ แยกเพศผู้เพศเมียคนละตัว ตัวเต็มวัยของเพศเมีย (adult female) มีขนาดยาวเฉลี่ย 30 ซม. โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มม. ปลายหางจะเรียวเหยียดตรง   พยาธิตัวผู้ (adult male) จะมีขนาดเล็กเรียวกว่าตัวเมีย  หางมักงอ http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/asc/contents/asc_frame.htm ตัวซ้ายตัวผู้ ตัวขวาตัวเมีย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:02:01

ความคิดเห็นที่ 8   อ๊ากกก อยากกินอุด้ง!!! จากคุณ : เจไดน้อย ปี 3 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:02:18

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นแง่งที่ออกมามั้ย นั่นคือกระปู๋ของมัน (spicule) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:05:29

ความคิดเห็นที่ 10 รูปวาดแสดงกระปู๋คู่สองอันของตัวผู้ (ขอร้องอย่าอิจฉา) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:08:06

ความคิดเห็นที่ 11 ไข่ของมันดูง่าย ไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว (fertilized egg) ของพยาธิไส้เดือนกลม มีรูปร่างกลมรี (Oval shape) จะมีขนาด 60 x 40 ไมครอน โดยเปลือกไข่จะประกอบด้วย 3 ชั้น จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:14:24

ความคิดเห็นที่ 12 งดอุด้งไปนาน T_T จากคุณ : ...ชิปปี้เดล...เดลลี้ชิป เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:16:40

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบกินอุด้งหรือคะ  ดูให้ดีนา  ถ้าหัวท้ายเรียวๆแหลมๆ  มันไม่ใช่อุด้งนา  มันคือ.....อะจึ๊ยยยยยย จากคุณ : usbankusa เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:16:45

ความคิดเห็นที่ 14 สมัครเป็นแฟนคลับด้วยคนนะครับ กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:17:30

ความคิดเห็นที่ 15 วงชีวิต (Life cycle) ตามปกติตัวแก่ของพยาธิไส้เดือนกลม จะอาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของคน โดยรับสารอาหารที่ผ่านลงมา   เนื่องจากพยาธิไส้เดือนกลมไม่มีอวัยวะสำหรับยึดเกาะกับผนังลำไส้ ดังนั้นตัวแก่จึงอาศัยอยู่ในลำไส้ได้โดยการเคลื่อนที่ว่ายทวนการบีบตัวของลำไส้ (anti-peristalsis) ในกรณีที่ผู้ป่วยมีการบีบรัดของลำไส้อย่างรุนแรง หรือในกรณีที่มีอาการท้องเดิน พยาธิจะว่ายทวนแรงบีบตัวของลำไส้ไม่ไหว ในกรณีเช่นนี้อาจพบว่าผู้ป่วยจะถ่ายพยาธิออกมาเอง         พยาธิตัวเมียสามารถจะออกไข่ได้ถึงวันละ 200,000 ฟอง โดยพยาธิแต่ละตัวมีความสามารถในการออกไข่ชั่วชีวิตถึง 26 ล้านฟอง ไข่ที่เพิ่งออกมาในอุจจาระ  ต่อเมื่อตกมาอยู่ในดินที่มีภาวะอุณหภูมิ ความชื้น และออกซิเจนที่เหมาะสม ภายในเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเจริญเป็นไข่ที่มีตัวอ่อนระยะติดต่อ           เมื่อคนกินไข่ที่มีตัวอ่อนระยะติดต่อ ตัวอ่อนจะถูกฟักจากไข่ที่บริเวณลำไส้เล็กส่วนบน ตัวอ่อนที่ออกมาจะมีขนาด 200-300 x 14 ไมครอน ตัวอ่อนดังกล่าวจะไชผ่านผนังลำไส้เข้าไปสู่ทางเดินน้ำเหลืองหรือเส้นเลือดดำฝอย เมื่อตัวอ่อนผ่านเข้าไปในระบบ portal circulation จะผ่านตับและไปสู่หัวใจและปอด ตามลำดับ เมื่อมาถึงบริเวณลำไส้เล็ก ตัวอ่อนจะลอกคราบครั้งสุดท้าย เพื่อเจริญเป็นตัวแก่ ช่วงระยะเวลาที่คนได้รับไข่ซึ่งมีระยะติดต่อจนพยาธิเจริญเป็นตัวแก่ ใช้เวลาประมาณ  2-2.5 เดือน พยาธิสามารถมีชีวิตในคนได้ 12-18 เดือน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:18:39

ความคิดเห็นที่ 16 หิวเลยครับ ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:19:38

ความคิดเห็นที่ 17 เทมปุระอุด้ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:20:01

ความคิดเห็นที่ 18 วิธีการติดต่อ เกิดขึ้นโดยการที่รับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีไข่ระยะติดต่อของพยาธิปนอยู่เข้าไป จึงอาจเกิดขึ้นโดย 1.  การถ่ายอุจจาระที่ไม่ถูกสุขลักษณะลงตามพื้นดิน ซึ่งมีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมะสมแก่การเจริญเติบโตของไข่พยาธิเป็นไข่ระยะติดต่อ และคนได้รับไข่โดยตรง หรือปนเปื้อนมากับอาหาร 2.  การใช้อุจจาระเป็นปุ๋ยในการปลูกพืชเป็นอาหาร และนำพืชเหล่านั้นไปประกอบอาหารในรูปของอาหารรับประทานดิบๆ เช่น สลัด โดยไม่ได้ล้างให้สะอาด 3.  การไม่ปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะ และมีอนามัยที่ดี เคยมีการสำรวจขี้เล็บของเด็กนักเรียน พบว่ามีไข่พยาธิไส้เดือนกลมถึง 6.5% สลัดผัก จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:22:31

ความคิดเห็นที่ 19 โดยทั่วไปจะพบผู้ป่วยมีพยาธิไส้เดือนกลมประมาณ 5-10 ตัว มักจะไม่ปรากฏอาการ ให้ทราบ นอกจากจะได้รับการตรวจอุจจาระหรือพยาธิตัวแก่ปนออกมากับอุจจาระเอง   สำหรับในผู้ป่วยที่มีอาการ อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ มีอาการปวดท้อง (vague abdominal pain) ระดับเม็ดเลือดขาวชนิด eosinophil ในเลือดจะสูง (eosinophilia) โดยเฉพาะช่วงที่ตัวอ่อนไชผ่านอวัยวะต่างๆ เตรียมใจให้พร้อม พยาธิไส้เดือนกลม Ascaris lumbricoides ที่พบในผู้ป่วย   ผู้ป่วยอาเจียนพยาธิไส้เดือนกลม Ascaris lumbricoides ออกมา แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 15:25:39 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 20:28:47 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:28:06

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท.ใจร้ายจริงๆ  ไม่เห็นใจคนกินมาม่าประทังชีวิตเหมือนผมเล้ย T_T จากคุณ : LivingMachine เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:29:10

ความคิดเห็นที่ 21 ู^ ปลอบใจด้วยผัดมาม่าใส่ไข่ 1 จาน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:30:06

ความคิดเห็นที่ 22 ตัวแก่พยาธิไส้เดือนกลม ไชทะลุลำไส้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:30:15

ความคิดเห็นที่ 23 กินไม่ลงกันเลยทีเดียว-*- จากคุณ : PPalone เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:30:48

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนจบมีสอบนะ!!!!!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:31:03

ความคิดเห็นที่ 25 จะเห็นเป็นเงาของพยาธิตัวแก่ Ascaris lumbricoides ภายในลำไส้เล็กของผู้ป่วย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:31:55

ความคิดเห็นที่ 26 (^^") จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:33:27

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นแล้วอยากดึง อูยยย จากคุณ : No Regret เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:33:47

ความคิดเห็นที่ 28 ทำไมต้องอิจฉากะปู๋ผมมี 3 อันมากกว่ามันอีก เฮ้ย ว่าแต่ปกติพยาธินี่กินได้หรือเปล่าครับ หรือว่าร่างกายไม่ย่อย ?? จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:35:50

ความคิดเห็นที่ 29 การรักษา ยา Albendazole, Mebendazole จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:37:27

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบคุณ ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา ถ้าจะกินต้องเอาไปต้มให้ตายก่อนตามรูปการลวกเส้นอุด้ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:38:40

ความคิดเห็นที่ 31 อันดับ 2 พยาธิตัวกลม Angiostrongylus cantonensis หรือเรียกว่าพยาธิหอยโข่ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:40:06

ความคิดเห็นที่ 32   ^ ^ พยาธิผัดกับไข่  น่าจะอร่อย ^-^ จากคุณ : Encyclopedia เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:40:33

ความคิดเห็นที่ 33 สาเหตุที่ชอบ = ตัวเมียมีลายเหมือนเครื่องหมายร้านทำผม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:42:02

ความคิดเห็นที่ 34 พยาธิตัวเมียมีขนาดใหญ่ลำตัวมีลักษณะลายแดงสลับขาวคล้ายเครื่องหมายร้านตัดผม เกิดจากมดลูก ซึ่งภายในมีไข่บรรจุอยู่มองดูเป็นสีขาวขุ่นพันเป็นเกลียวรอบลำไส้ที่มีเลือดอยู่ พยาธิตัวผู้มีขนาดเล็ก http://www.med.cmu.ac.th/dept/parasite/public/Angiostrongyliasis.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:45:35

ความคิดเห็นที่ 35 อู้ว เจริญอาหารอย่างแรง จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:46:19

ความคิดเห็นที่ 36 ตัวผู้มีอวัยวะเพศ (spicule) 2 อัน ขนาดไม่เท่ากัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:46:58

ความคิดเห็นที่ 37 วงจรชีวิตของพยาธิ         พยาธิตัวเต็มวัยทั้งสองเพศจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู พยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดงและฟักตัวเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1 ปนออกมากับมูลหนู ตัวอ่อนระยะนี้ไชเข้าหอยทากหรือหอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง (หอยปัง) หอยขม หอยเชอรี่ แล้วเจริญเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ เมื่อหนูกินหอย พยาธิจากหอยจะเข้าไปในสมองหนู เจริญต่อไปเป็นพยาธิตัวแก่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู และออกไข่ซึ่งจะพัฒนาต่อไปตามวงจรชีวิต หากคนรับประทานหอยดิบๆ สุกๆ ซึ่งมรพยาธิระยะติดต่อ พยาธิจะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง หรือตา   http://www.tm.mahidol.ac.th/tmho/p_angiostrongylus.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:49:59

ความคิดเห็นที่ 38 ติดต่อโดยการกินหอยโข่ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:54:10

ความคิดเห็นที่ 39 ตะกวด (Varanus bengalensis) ที่ตับของตะกวดจะพบพยาธิระยะติดต่อ เคยมีรายงานว่าคนกินตับตะกวดแล้วเกิดโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบเนื่องจากพยาธิตัวนี้ เรื่องจริงนะไม่ได้มุก!!!! http://www.tm.mahidol.ac.th/tmho/p_angiostrongylus.htm แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 20:58:54 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:55:27

ความคิดเห็นที่ 40 อาการ        หลังจากรับประทานอาหารที่มีพยาธิระยะติดต่อเข้าไป 1-4 สัปดาห์ จะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรงจะปวดศีรษะมาก คอแข็ง หลังแข็ง ชัก อาจเป็นอัมพาต ซึม หมดสติ หรือตายได้ ถ้าพยาธิไชเข้าตา ตาอาจจะอักเสบ มัว และบอดได้ รักษาตามอาการ หรือ steroid ดังนั้นใครอยากกินวรนุชต้องระวัง!!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:58:20

ความคิดเห็นที่ 41 ^__^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:02:57

ความคิดเห็นที่ 42 อันดับ 3 พยาธิหัวหนาม Macracanthorhynchus hirudinaceus http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4512/html/page_f.html หัวหนามของมัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:03:59

ความคิดเห็นที่ 43 เหตุผลที่ชอบ = มันมี "พันทิป" เหมือนกระบองเพชร จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:06:21

ความคิดเห็นที่ 44 พยาธิชนิดนี้เริ่มมีรายงานพบในคนครั้งแรกที่กรุงปราก ประเทศเช็กโกสโลวาเกีย เมื่อปี ค.ศ. 1859 โดย Dr.Lambl ซึ่งพบในศพเด็กอายุ 9 ขวบ ที่ตายจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนในประเทศไทยมีรายงานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1964  โดย ศาสตาจารย์นายแพทย์อานนท์ ประทัตสุนทรสารและรองศาสตาจารย์นายแพทย์กำพล เพชรานนท์ ภาควิชาปรสิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากการตรวจศพของชาวนาหญิงที่ตายจากโรคหัวใจล้มเหลว จากจังหวัดอุบลราชธานี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:07:34

ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อยังมีชีวิตจะมีรูปร่างคล้ายพยาธิตัวกลมแต่ลำตัวจะแบนลงเล็กน้อย มีสีขาวหรือขาวอมชมพูผิวหนังย่น จนดูคล้ายปล้อง (pseudosegment) ขนาดความกว้างของลำตัวด้านหัวจะใหญ่กว่าทางปลายหาง             ส่วนหัวมีอวัยวะเป็นแท่งกลมยื่นออกมาเรียกว่า Proboscis ซึ่งยืดหดได้ที่ปลาย มีหนาม (hooklet) 5-6 แถว ซึ่งแต่ละแถวจะมีหนาม 6 อัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:09:20

ความคิดเห็นที่ 46 หนามมมมมมมมมมมมมมม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:09:57

ความคิดเห็นที่ 47 จากอดีตถึงปัจจุบันมีรายงานผู้ป่วยจากประเทศต่างๆ ไม่มากนักประเทศที่เคยมีรายงาน ได้แก่ รัสเชีย บุลกาเรีย มาดากัสการ์ บราซิล มาเลเซียและจีน ซึ่งเป็นประเทศที่พบมากกว่าประเทศอื่นและส่วนมากจะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่               ส่วนในประเทศไทยเคยมีรายงานผู้ป่วยทั้งหมด 9 ราย ผู้ป่วยทุกรายมาจากภาคอีสานน่าจะเป็นเพราะ ประชากรท้องถิ่นนี้นิยมบริโภคแมลงปีกแข็ง ซึ่งเป็นโฮสต์กึ่งกลางของพยาธิพบได้ทั้งเพศชายและหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ช่วงเวลาที่พบส่วนใหญ่เป็นช่วงฤดูฝนอาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีแมลงชุกชุม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:11:16

ความคิดเห็นที่ 48 ดูไกลๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:12:31

ความคิดเห็นที่ 49 ไข่ ภาพระยะไข่ ถ่ายโดยใช้กล้อง scanning electron microscope จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:13:33

ความคิดเห็นที่ 50 ตัวอ่อนในไข่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:14:17

ความคิดเห็นที่ 51 วงชีวิต พยาธิตัวแก่ทั้งตัวผู้และตัวเมียอาศัยอยู่บริเวณลำไส้เล็กส่วนต้นของหมูซึ่งเป็นโฮสต์เฉพาะตามธรรมชาติ (Definitive host,DH) โดยใช้ Proboscis ฝังเกาะติดแน่นอยู่กับผนังลำไส้กินอาหารโดยการดูดซึมอาหารที่โฮสต์ย่อยแล้วเข้าทางผิวหนังเพราะพยาธิชนิดนี้ไม่มีระบบทางเดินอาหาร เมื่อตัวผู้และตัวเมียระยะตัวแก่ผสมพันธุ์กันตัวเมียจะออกไข่ ซึ่งมีตัวอ่อนอยู่ภายในปนออกมากับอุจจาระหมูตกลงสู่พื้นดิน ต่อมามีแมลงปีกแข็งซึ่งเป็นโฮสต์กึ่งกลาง (Intermediate host) มากินอุจจาระหมูก็จะกินเอาไข่พยาธิเข้าไปด้วย หลังจากนั้นตัวอ่อนภายในไข่จะเจริญและฟักตัวออกมาจากไข่แล้วไชออกจากผนังลำไส้แมลงไปอยู่ในช่องว่างของตัวแมลงและเจริญต่อ รวมใช้เวลาเติบโตเป็นระยะติดต่อในตัวแมลงประมาณ 3 เดือน เมื่อหมูหรือคนกินแมลงที่มีระยะติดต่อนี้เข้าไป ตัวอ่อนระยะจะเจริญเป็นตัวแก่ใน ลำไส้เล็กของหมูหรือคนต่อไปภายในเวลาประมาณ 2-3 เดือน พยาธิหัวหนามจะมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 1 ปี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:16:43

ความคิดเห็นที่ 52 สรุปว่าติดต่อในคนจากการกิน แมงอินูน แมงเหนี่ยง แมงกุดจี่ แมงด้วง แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 21:19:07 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:18:11

ความคิดเห็นที่ 53 หัวหนามร้ายกาจ จากคุณ : ท่านประธานบริษัท เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:20:06

ความคิดเห็นที่ 54 แมงกุดจี่ น่ากินจังเลย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:21:22

ความคิดเห็นที่ 55 แต่อันนี้กุชชี่ (ระวังถ้าตั้งที่ทุ่งนาแล้วท่านจะแยกไม่ออก) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:22:30

ความคิดเห็นที่ 56 อาการทั่วไปเท่าที่เคยมีรายงานคือปวดท้องอย่างรุนแรง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน แมงอินูน ตัวเล็กเกิน ไม่น่ากิน http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=14822 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:24:47

ความคิดเห็นที่ 57 การรักษาหลักคือ การผ่าตัดเอาตัวพยาธิออกและรักษาแผลที่ลำไส้ทะลุ การรักษาโดยการใช้ยาเคยมีรายงานใช้ Mebendazol ได้ผลในเด็กที่มาจาก พื้นที่ที่มีการกินแมลงที่เป็นโฮสต์กึ่งกลาง อาจลองให้ยา Piperazine citrate เพื่อถ่ายพยาธิอาจไม่ต้องผ่าตัด จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:27:29

ความคิดเห็นที่ 58 สองอันดับสุดท้าย มันเป็นญาติกัน พยาธิใบไม้(fluke) เป็น class หนึ่งใน Phylum Platyhelminthes พยาธิใบไม้ที่เป็นปรสิตของคน อยู่ใน subclass Digenea ของ class Trematoda ซึ่งในวงจรชีวิตต้องอาศัย โฮสท์อย่างน้อย 2 ชนิด เพื่อการเจริญเติบโต จึงเรียกว่า Digenetic trematode (di แปลว่าสอง) และมีชื่อสามัญว่า fluke (อ่านว่าฟลุก) แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 21:33:03 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:30:36

ความคิดเห็นที่ 59 คนนี้ก็ฟลุก แต่ไม่ใช่พยาธิใบไม้แต่อย่างใด จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:34:35

ความคิดเห็นที่ 60 พยาธิใบไม้นี่ญาติเยอะ จะเป็นตัวแบนๆคล้ายใบไม้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:36:34

ความคิดเห็นที่ 61 อันดับ 4 พยาธิใบไม้ในลำไส้ขนาดใหญ่ (Fasciolopsis buski ) เป็นญาติตัวที่ใหญ่สุด http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4811/index.html จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:39:12

ความคิดเห็นที่ 62 เหตุผลที่ชอบ = ทำให้เราได้รู้จัก "กระจับ" จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:41:51

ความคิดเห็นที่ 63 กระจับ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:42:35

ความคิดเห็นที่ 64 F. buski ตัวแก่หรือตัวเต็มวัย จะเกาะอยู่ที่ผนังลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum) และส่วนกลาง (jejunum) ความยาวตั้งแต่ 2-7.5 cm. กว้าง 0.8-2 cm. และหนา 0.5-3 mm. รูปทรงใบไม้  ผิวหนังมีหนามละเอียดเล็กปกคลุม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:44:26

ความคิดเห็นที่ 65 แสดงภาพตัวแก่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:49:47

ความคิดเห็นที่ 66 ไข่ใหญ่โต เจ๋งงงง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:50:27

ความคิดเห็นที่ 67 ติดต่อโดยการกินตัวอ่อน ที่อยู่ผิวของพืชน้ำเช่น กระจับ แห้ว ผักบุ้ง สายบัว จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:52:24

ความคิดเห็นที่ 68 http://pineapple-eyes.snru.ac.th/animal/nonghan/index.php?q=node/178 ต้นกระจับลอยในน้ำ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:54:28

ความคิดเห็นที่ 69 กระจับ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:54:50

ความคิดเห็นที่ 70 จับกระจับ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:56:06

ความคิดเห็นที่ 71 แห้ว จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:57:30

ความคิดเห็นที่ 72 อาการปวดท้อง ท้องเสีย ถ้าเป็นมากจะเป็นแบบแพ้สิ่งคัดหลั่งของพยาธิ มีหน้าบวมได้ รักษา praziquantel http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4811/index.html จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:00:01

ความคิดเห็นที่ 73 อันดับสุดท้าย Opisthorchis viverrini  คือ พยาธิใบไม้ตับ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:05:00

ความคิดเห็นที่ 74 เหตุผลที่ชอบ = เพราะปลาร้ามันแซบ (รึเปล่า ไม่กล้ากิน) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:09:01

ความคิดเห็นที่ 75 ไข่คล้ายหลอดไฟ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:10:03

ความคิดเห็นที่ 76 โรคพยาธิใบไม้ตับ จัดเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกกกกของประเทศไทย บั่นทอนสุขภาพ และก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ ปี ค.ศ. 1950- ค.ศ. 1958 ระบาดวิทยาเริ่มศึกษาครั้งแรกที่จังหวัดนครราชสีมา อุดรธานี สกลนคร และอุบลราชธานี ภายใต้ความร่วมมือของรัฐบาลไทยและสหรัฐอเมริกา โดย Dr. Sadun และนายเจต ไม้พุ่ม สรุปความชุก ของโรคพยาธิใบไม้ในตับในประเทศไทยในขณะนั้น  ภาคเหนือ   10.3 % (0.5 % - 20.5 %)  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   29.8 % (3.0 % - 87.7 %)  ภาคกลาง   6.34 %  ภาคใต้    0.01 %  เฉลี่ยทั่วประเทศ   14.0 % เคยมีคนพูดว่า เมืองหลวงของพยาธิใบไม้ตับอยู่ที่ขอนแก่น จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:12:47

ความคิดเห็นที่ 77 จากรายงานของ WHO ในปี ค.ศ. 1995 รายงานอัตราความชุกของโรคพยาธิใบไม้ตับโดยทั่วไปในแต่ละภูมิภาคของโลกลดลง และประมาณการว่า ประชากรทั่วโลกที่ติดโรคพยาธิใบไม้ตับ มี 17.5 ล้านคน ซึ่งกระจายในแต่ละประเทศดังนี้    ไทย และสาธารณรัฐประชาชนลาว   9 ล้านคน    จีน เกาหลี และไต้หวัน    7 ล้านคน    ยุโรปตะวันออก ไซบีเรีย   1.5 ล้านคน   http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4813/index.html จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:13:51

ความคิดเห็นที่ 78 อ๊ากส์...แต่จั่งได๋ก็บ่เลิกกินส้มตำปลาร้าแซบอีหลี^^ จากคุณ : ร้อนนักรักซะเลย (tkung13) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:17:23

ความคิดเห็นที่ 79 พยาธิจะไประคายเคืองท่อน้ำดี เกิดเป็นมะเร็ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:18:13

ความคิดเห็นที่ 80 ของโปรดเลยครับ อร่อย ๆ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 22:41:12 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:18:58

ความคิดเห็นที่ 81 พอผ่าตับเจอพยาธิอยู่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:19:38

ความคิดเห็นที่ 82 อ้อ ลืมให้ดูบริเวณที่มีพยาธินี้มาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุบัติการของมะเร็งท่อน้ำดีมากกว่าภาคอื่นๆ 40 เท่า แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 22:21:30 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:20:30

ความคิดเห็นที่ 83 ติดจากการกินปลาน้ำจืด ชนิดที่มีเกล็ดขนาดเล็ก ตระกูลปลาตะเพียน (cyprinoid fish) ได้แก่ ปลาแม่สะแด้ง ปลาขาว, ปลาขาวน้อย, ปลากระสูบ, ปลาแก้มช้ำ, ปลาสูต, ปลาปก, ปลาตะเพียนทราย, ปลาซิว,ปลาสร้อย, ปลากระมัง, ปลาตะเพียนขาว จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:26:46

ความคิดเห็นที่ 84 ตอนเด็กๆ ผมกับเพื่อนเคยจับปลาหมอตัวเล็กๆ ตามห้วยตามหนอง จับมาทอดกินกันตามประสา ตอนผ่าเอาเครื่องในออก เจอพยาธิไชออกมาจากตัวปลาเป็นสิบๆ น่าจะเป็นพยาธิในตับ ตัวขาวๆ เล็กๆ ผมเห็นไม่กล้ากินเลย แต่เพื่อนผมบอกว่า เอาไปทอด เดี๋ยวมันก็ตาย อี๊ ..... บางทีเราทำอาหาร แบบที่เค้าจับปลากันตามคูคลอง เราไม่รู้หรอกว่าปลามีพยาธิหรือไม่มี แต่ถ้ามี ความร้อนแค่ไหนที่ทำ ที่จะทำให้พยาธิหรือไข่พยาธิตาย หรือไม่บางทีเราก็มีปรสิตพวกนี้อยู่ในตัวมาตั้งนาานแล้ว แต่เราไม่รู้ตัว?!! จากคุณ : =Medley= เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:27:20

ความคิดเห็นที่ 85 ก้อยปลา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:29:44

ความคิดเห็นที่ 86 http://www.farmkai.com/web-board/data/07311-1-1.html ตามไปดูเขาจับปลาในคูน้ำทำก้อยปลา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:32:29

ความคิดเห็นที่ 87 กินข้างบ่อปลา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:33:29

ความคิดเห็นที่ 88 ขั้นตอนของวิธีการทำปลาร้า   ขั้นที่หนึ่ง ล้างปลาให้สะอาด ถ้าเป็นปลาที่มีเกล็ดขนาดใหญ่ต้องขอดเกล็ดก่อน หากมีขนาดเล็กอย่างปลาซิวก้ไม่ต้อง ปลาที่นำมาทำปลาร้ามีทั้งปลาหนัง (ปลาที่ไม่มีเกล้ด) และปลาที่มีเกล้ด ได้แก่ ปลาช่อน ปลาดุก ปลาขาวนา ปลาขาวสูตร ปลาขาวมล ปลาซิว ปลากระดี่ ปลาหมอ ปลาก่า ปลาตอง กุ้งและปูเล็กๆ ปลาที่นำมาทำปลาร้าต้องแยกขนาดปลาเล็ก ปลาใหญ่ ไม่ทำปะปนกัน ดังคำโบราณกล่าวว่า   ขั้นที่สอง เอาไส้และขี้ปลาออกจากตัวปลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาขนาดใหญ่ ถ้าขนาดเล็กต้องใช้เวลามากจึงไม่นิยมเอาออก ล้างปลาให้สะอาดใส่ตะแกรงผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วใส่เกลือ ข้าวคั่ว หรือรำให้ได้สัดส่วน 6 : 2 : 1 คือ ปลาหกถ้วยใส่เกลือสองถ้วย ใส่รำหรือข้าวคั่วหนึ่งถ้วย (ถ้วยตราไก่) แล้วนวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ให้เกลือดูดซึมเข้าในเนื้อปลา (บางแห่งจะใส่รำและข้าวคั่วในภายหลัง) ถ้าหากปลาและเกลือผสมกันได้สัดส่วนตัวปลาจะแข็งและไม่เละ ถ้าตัวปลาเหลวไม่แข็งพอควรโรยเกลือลงคลุกอีก   ขั้นที่สาม เมื่อเสร็จสิ้นกรรมวิธีการนวดปลาแล้ว จะนำลงบรรจุในภาชนะเช่น ไหหรือตุ่มที่ล้างสะอาดและแห้งแล้ว ให้ต่ำกว่าระดับขอบปากไหเล็กน้อย ปิดปากไหด้วยผ้าหรือพลาสติก ถ้าเป็นไหซองชาวบ้านนิยมใช้ผ้าห่อขี้เถ้าให้เป็นก้อนโตกว่าปากไหแล้วนำมาปิดทับ เพื่อป้องกันแมลงวันมาไข่ หมักทิ้งไว้จนมีน้ำเกลือไหลท่วมปลาในไห และตัวปลาออกเป็นสีแดงกว่าเดิม แสดงว่าเป็นปลาร้าแล้ว เวลาที่ใช้หมักอาจแตกต่างกันไปตามขนาดของตัวปลา แต่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5-8 สัปดาห์ หรือนานที่สุดอาจถึงหนึ่งปี http://iam.hunsa.com/mujalinna/article/15141 เคล็ดไม่ลับ การเก็บไหปลาร้าต้องเก็บในสถานที่อากาศถ่ายเทได้ดี แสงแดดส่องไม่ถึง ไหที่บรรจุปลาร้าต้องเป็นภาชนะทึบแสง หากปลาร้าถูกแสงแดดและอากาศจะทำให้ปลาร้ามีสีคล้ำ หากเก็บในที่เย็นเกินไปจะทำให้กลิ่นไม่หอม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:39:01

ความคิดเห็นที่ 89   รามง ราเม็ง ไม่ต้องกินกันแร่ะ จากคุณ : i love my boss เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:39:58

ความคิดเห็นที่ 90 สรุปว่า พยาธิใบไม้ตับนี่เป็นตัวหลักที่ทำให้เป็นมะเร็งท่อน้ำดี พบบ๊อยยย บ่อย ดังนั้นถึงปลาร้า ปลาต่อนมันจะแซบอีหลี แต่ควรยั้งใจไว้ จบแล้วจ้า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:42:28

ความคิดเห็นที่ 91 ประทับใจ Guinea Worm ครับ เหมือนเส้นขนมจีน หิวเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 22:46:44 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:46:07

ความคิดเห็นที่ 92 ควรเปลี่ยนจากการกินปลาร้ามากินอุด้งแทน ด้วยประการฉะนี้..... ขอให้เจริญอาหารโดยถ้วนหน้ากันค่ะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:47:27

ความคิดเห็นที่ 93 จ๊ากกกกก คุณลาบเอารูปมาตัดต่อได้เนียนมาก เหมือนมันเลื้อยจากขามาลงจานเลย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:48:55

ความคิดเห็นที่ 94 แต่ละคนหน่า จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:11:57

ความคิดเห็นที่ 95   คุณกิ๊ฟนี่ขยันจังเลยนะครับ ขอบคุณครับ ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งอาหารตา(ตรงไหน - -") จากคุณ : นู๋ช๊อบชอบ (lockdown) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:13:57

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่ไหวแล้วววว....ดูกระทู้นี้เสร็จจะอดมาม่า ก๋วยเตี๋ยว อุด้ง เมนูสารพัดเส้นไปอีกซัก 3 เดือน (-_-") จากคุณ : จะคอยเหยียบไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:14:54

ความคิดเห็นที่ 97 หิวข้าว จากคุณ : promlikit เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:48:30

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณครับที่มาแบ่งปันความรู้ ดูแล้วอยากกินยาถ่ายพยาธิ เลย  กลัวมันมาอยู่ในท้องจริงๆ จากคุณ : Bigkub เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:57:50

ความคิดเห็นที่ 99   น่ากลัวจัง ไข่พยาธิตายที่อุณหภูมิเท่าไหร่คะ และมันมีขนาดใหญ่แค่ไหนคะ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ารึเปล่า จากคุณ : ไม่มีล็อกอิน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:57:59 A:118.172.193.106 X: TicketID:258399