ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนจะไปดูไดโนเสาร์ชนิดต่าง ๆ ที่ขุดพบในประเทศไทย มาดูประวัติของพวกมันกันก่อนนะครับ ไดโนเสาร์ เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินและสูญพันธุ์หมดสิ้นจากโลกนี้ เมื่อหลายสิบล้านปีมาแล้ว ในปัจจุบันพบเพียงซากกระดูกส่วนต่าง ๆ ซึ่งเราเรียกว่าฟอสซิลของไดโนเสาร์คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าไดโนเสาร์เป็นสัตว์ ที่ใหญ่โต มโหฬารหรือเป็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์เช่นเดียวกับปลาวาฬ บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลก แต่โดยความเป็นจริง ไดโนเสาร์มี ขนาดและรูปร่างแตกต่างกันมากมาย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:00:55

ความคิดเห็นที่ 2 ไดโนเสาร์มีตั้งแต่ขนาดใหญ่มหึมา น้ำหนักกว่า 100 ตัน สูงมากกว่า 100 ฟุต จนถึงพวกที่ขนาดเล็ก ๆ บางชนิดก็มีขนาดเล็กกว่าไก่ บางพวกเดินสี่ขา บางพวกก็เดินและวิ่งบนขาหลัง 2 ข้าง บางพวกกินแต่พืชเป็นอาหาร ในขณะที่อีกพวกหนึ่งกินเนื้อเช่นเดียวกับสัตว์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:02:03

ความคิดเห็นที่ 3 ไดโนเสาร์พวกแรกปรากฎขึ้นมาในโลกในช่วงตอนปลายของยุคไทรแอสสิกเมื่อกว่า225ล้านปีมา แล้วเป็นเวลาที่ทวีปทั้งหลายยังต่อเป็นผืนเดียวกัน สัตว์เลื้อยคลานพวกนี้มีชีวิตอยู่และมีวิวัฒนาการตลอดระยะเวลาอันยาวนานถึง 160 ล้านปี กระจัดกระจายแพร่หลายอยู่ทั่วผืนแผ่นดินในโลก แล้วจึงได้สูญพันธุ์ไปหมดในปลายยุคครีเทชียสหรือเมื่อ 65 ล้านปีที่ล่วงมาแล้ว ในขณะที่ต้นตระกูลของมนุษย์เพิ่งจะปรากฎในโลกเมื่อ 5 ล้านปีที่ผ่านมา หลังจาก ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้วถึง 60 ล้านปี และเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ปัจจุบันนั้นเพิ่งเริ่มต้นมาเมื่อไม่เกินหนึ่งแสนปีมานี่เอง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:02:56

ความคิดเห็นที่ 4 มนุษย์มักจะคิดว่าไดโนเสาร์นั้นโง่และธรรมชาติสร้างมาไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม จึงทำให้มันต้องสูญพันธุ์ไปทั้งหมด ความคิดนี้ไม่ถูก โดยแท้จริงแล้วไดโนเสาร์ได้เจริญแพร่หลายเป็น เวลายาวนานกว่า 30 เท่า ที่มนุษย์ได้อาศัยอยู่ในโลก ตลอดช่วงเวลาอันยาวนานนี้ไดโนเสาร์ได้มีวิวัฒนา การออกไปเป็นวงศ์สกุลต่าง ๆ กันมากมาย เท่าที่ค้นพบและจำแนกแล้วประมาณ 340 ชนิด และคาดว่า ยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังรอคอยการค้นพบอยู่ในที่ต่าง ๆ กันทั่วโลก ทุกวันนี้ ทั่วโลกมีคณะสำรวจ ไดโนเสาร์อยู่ประมาณ 100 คณะทำให้มีการค้นพบไดโนเสาร์ชนิดใหม่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ประมาณว่ามี การค้นพบไดโนเสาร์ชนิดใหม่เพิ่มขี้น 1 ชนิดในทุกสัปดาห์ นักโบราณชีววิทยา แบ่งไดโนเสาร์ออกเป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ โดยอาศัยความแตกต่างของกระดูกเชิงกราน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:03:41

ความคิดเห็นที่ 5 คือ 1.พวกซอริสเซียน (Saurischians) มีกระดูกเชิงกรานเป็นแบบสัตว์เลื้อยคลาน คือ กระดูก พิวบิส และอิสเชียมแยกออกจากกันเป็นมุมกว้าง 2.พวกออรืนิธิสเชียน (Ornithiscians) มีกระดูกเชิงกรานเป็นแบบนก คือ กระดูกทั้ง 2 (พิวบิสและอิสเชียม) ชี้ไปทางด้านหลัง แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 21:50:50 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:04:41

ความคิดเห็นที่ 6 การค้นพบ ไดโนเสาร์ นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องฟอสซิลได้ ค้นพบไดโนเสาร์มานานแล้ว แต่มีการตั้งชื่อไดโนเสาร์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2384(ค.ศ.1841)ในการประชุมของสมาคมวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าในประเทศอังกฤษ โดยศาสตราจารย์ ริชาร์ดโอเวน หลังจากนั้นทำให้ฟอสซิลของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ที่ได้ค้นพบกันมานานเป็น ที่รู้จักแพร่หลาย คำว่าไดโนเสาร์(dinosaur) มาจากภาษากรีกโดยคำว่า"ไดโน"(deinos) แปลว่าน่ากลัวมาก และ"ซอรอส" หมายถึงสัตว์เลื้อยคลาน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:05:38

ความคิดเห็นที่ 7 การสูญพันธุ์ ของไดโนเสาร์ ปัจจุบันไดโนเสาร์ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และมีแนวความคิดหรือสมมติฐานเกี่ยวกับการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ มากมายโดยอ้างถึงสาเหตุต่างๆเช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการระเบิดจากนอกโลก(supernova) เป็นต้น แต่มีอยู่ 2 สมมติฐานที่ได้รับความสนใจและเป็นที่ถกเถียงกัน อย่างเข้มข้นได้แก่ • การชนโลกของดาว เคราะห์น้อย(Asteroid Impact or K-T Impact) การชนทำให้เกิดการระเบิดและ ฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองสู่บรรยากาศโลก เป็นเสมือนม่านบดบังแสงอาทิตย์ เป็นผลให้เกิดความมืดมิดและความหนาวเย็นอย่างฉับพลันอยู่นานเป็นเดือนๆจน ไดโนเสาร์ไม่สามารถ มีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว แนวความคิดหรือ สมมติฐานนี้อ้างหลักฐานการพบธาตุIridium ปริมาณมากกว่าปกติในชั้น clay บางๆที่มีอายุอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างยุค Cretaceous และ Tertiary(K-T boundary) ใน บริเวณต่างๆของโลก นอกจากนั้นยังพบโครงสร้างที่เชื่อว่าเกิดจากการชนของดาวเคราะน้อย คือChicxulub Structure ที่แหลม Yucatan ในประเทศเมกซิโก แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 21:52:06 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:07:11

ความคิดเห็นที่ 8 • การระเบิด ของภูเขาไฟที่ที่ราบสูง Deccan ในประเทศอินเดีย(Deccan Traps Volcanism) การ ระเบิดครั้งนี้เป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในช่วงอายุของโลกและเป็นการ ระเบิดที่เนื่องมาจาก mantle plume หรือ hotspot จากใต้โลก เป็นผลทำให้ลาวาชนิด basaltic (basaltic lava) จำนวนมหาศาลไหลสู่เปลือกโลก ปกคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางไมล์ และหนากว่า 1 ไมล์ เกิด mantle degassing ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ และไอน้ำถูกนำขึ้นสู่ผิวโลกด้วยอัตราที่ผิดปกติ ก่อให้เกิดชั้น greenhouse gases ในบรรยากาศกักเก็บความร้อน จากดวงอาทิตย์ไว้ที่ผิวของโลกไม่ให้มีการถ่ายเท อุณหภูมิจึงสูงขึ้น รวมทั้งทำให้วัฏจักรของคาร์บอนและออกซิเจน เปลี่ยนแปลงจนนำมาสู่การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ India's Deccan Traps were formed by lava from eruptions at the time of the dinosaurs' extinction จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:08:10

ความคิดเห็นที่ 9 ปาดดด จากคุณ : รอยหยัก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:09:06

ความคิดเห็นที่ 10 ซากดึกดำบรรพ์ ของไดโนเสาร์ในประเทศไทย เมื่อไดโนเสาร์ตาย ส่วนอ่อนๆ เช่น เนื้อและหนังจะเน่าเปื่อยหลุดไป เหลือแต่ส่วนแข็ง เช่น กระดูกและฟัน ซึ่งจะถูกโคลนและทรายทับถมเอาไว้ ถ้าการทับถมของโคลนทรายเกิดขึ้นอย่าวรวดเร็วก็จะคงเรียงรายต่อกันในตำแหน่ง ที่มันเคยอยู่เป็นโครงร่าง แต่หากการทับถมเกิดขึ้นอย่าง ช้าๆกระดูกก็จะมีโอกาสถูกทำให้กระจัดกระจายปะปนกัน การทับถมของโคลนทรายทำให้อากาศและออกซิเจนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของ แบคทีเรียไม่สามารถเข้าถึงซากได้ ขณะเดียวกันน้ำและโคลนที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลไซต์ เหล็กซัลไฟด์และซิลิก้าก็ค่อยๆซึมเข้าไปในเนื้อกระดูก อุดตันโพรงและช่องว่างที่มีอยู่ ทำให้กระดูกเหล่านั้นแกร่งขึ้น สามารถรับน้ำหนักของหิน ดิน ทรายที่ทับถมต่อมาภายหลังได้ นานๆเข้ากระดูกจะกลายเป็นหิน มีเพียงฟันที่ไม่ค่อยจะถูกแปรสภาพเท่าไรเนื่องจากฟันเป็นส่วนที่แข็งที่สุด บางครั้งแร่ธาตุบางอย่างเข้าไปกัดกร่อนละลายกระดูกและทิ้งลักษณะกระดูกไว้เป็นโพรง โพรงเหล่านี้จึงกลายเป็นเสมือนแม่พิมพ์และต่อมาเมื่อแร่ธาตุอื่นเข้าไปอยู่ เต็มโพรงก็จะเกิดเป็นรูปหล่อ ของชิ้นกระดูก บางครั้งเมื่อไดโนเสาร์ตายใหม่ๆแล้วถูกทับถมด้วยโคลนแล้วเนื้อหนังเปื่อย เน่าเป็นโพรงก็จะเกิดรูปหล่อของรอยผิวหนังทำให้เรารู้ลักษณะของผิวหนัง ในที่บางแห่งซากไดโนเสาร์ ถูกน้ำพัดพามาทับถมอยู่ด้วยกันเกิดเป็นชั้นสะสมของกระดูกไดโนเสาร์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:09:10

ความคิดเห็นที่ 11 นอกจากฟอสซิลกระดูก ฟันและร่องรอยของผิวหนังแล้ว ไดโนเสาร์ยังทิ้งรอยเท้าไว้บนโคลน ฟอสซิลรอยเท้าเหล่านี้ทำให้ทราบ ถึงชนิด ลักษณะท่าทางของไดโนเสาร์เช่น เดิน 2 ขาหรือ 4 ขา เชื่องช้าหรือว่องไว อยู่เป็นฝูงหรืออยู่เดี่ยวๆ บางครั้งพบมูลของไดโนเสาร์กลายเป็นฟอสซิล เรียกว่า คอบโปรไลท์ ซึ่งทำให้ทราบถึงขนาดและลักษณะของลำไส้ ไข่ไดโนเสาร์ที่พบเป็นฟอสซิลก็ทำให้ทราบว่าไดโนเสาร์ออกลูกเป็นไข่ บางครั้งพบตัวอ่อนอยู่ในไข่ทำให้รู้ว่าเป็นไข่ของไดโนเสาร์ชนิดไหน นอกจากนี้ยังมีการค้นพบโครงกระดูกไดโนเสาร์ในลักษณะกำลังกกไข่อยู่ในรัง ทำให้รู้ว่าไดโนเสาร์บางชนิดก็ดูแลลูกอ่อนด้วย รอยเท้าไดโนเสาร์ที่วนอุทยานภูแฝก จังหวัดกาฬสินธุ์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:12:07

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อยุคไดโนเสาร์ผ่านไป หลายล้านปีชั้นของทรายและโคลนยังคงทับซากไดโนเสาร์ไว้จนกลายเป็นหินและถูกผนึกไว้ในชั้นหินด้วยซีเมนต์ธรรมชาติได้แก่ โคลนทราย จนเมื่อพื้นผิวโลกมีการเคลื่อนตัว ชั้นหินบางส่วนถูกยกตัวสูงขึ้นแล้วเกิดการกัดกร่อนทำลายชั้นหินโดยความร้อน จากดวงอาทิตย์ ความเย็นจากน้ำแข็ง ฝน และลม จนกระทั่งถึงชั้นที่มีฟอสซิลอยู่ทำให้บางส่วนของฟอสซิลโผล่ออกมาเป็นร่องรอย ให้นักวิทยาศาสตร์มาขุดค้นต่อไป จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:12:50

ความคิดเห็นที่ 13 เนื่องจากไดโนเสาร์เป็นสัตว์บก มีชีวิตอยู่ในช่วงยุค Triassic ถึง Cretaceous หรือประมาณ 245-65 ล้านปีมาแล้ว ดังนั้นซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์จึงพบอยู่ในชั้นหินตะกอนที่สะสมตัวบนบกใน ช่วงยุค Triassic ถึง Cretaceous หรือหินในช่วงมหายุค Mesozoic จากการสำรวจธรณีวิทยาในประเทศไทย พบว่าหินที่มีอายุดังกล่าวพบโผล่อยู่ทั่วไปในบริเวณที่ราบสูงโคราชและพบเป็น แห่งๆในภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศไทย ชั้นหินดังกล่าวประกอบด้วย หินดินดาน หินทรายแป้ง หินทรายและ หินกรวดมนมีสีน้ำตาลแดงเป็นส่วนใหญ่ ตอนบนของหินชุดนี้มีชั้นของเกลือหินและยิปซั่มอยู่ด้วย เนื่องจากชั้นหินเหล่านี้มีสีแดงเกือบทั้งหมดจึงเรียกหินชุดนี้ว่า ชั้นหินตะกอนแดง(red bed) ซึ่ง เรารู้จักกันในชื่อ กลุ่มหินโคราช หินกลุ่มนี้มีความหนากว่า 4,000 เมตร ดังนั้นจึงพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์และสัตว์มีกระดูกสันหลังอื่นๆอยู่ใน บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากมายหลาย แห่ง เช่น ภูเวียง ภูพาน และภูหลวงเป็นต้น จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:13:25

ความคิดเห็นที่ 14 ขอเพิ่มตรงนี้แล้วกัน นักโบราณคดีและนักชีววิทยา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไดโนเสาร์ไว้ว่า ถ้าแบ่งช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ในโลก จะแบ่งออก ได้เป็น 3 ช่วง คือ 1. ช่วงไตรแอสสิก  (Triaassic) เป็น ช่วงแรก ของการเกิดไดโนเสาร์ คือ ประมาณ 250- 205 ล้านปี มาแล้ว 2. ช่วงจูราสสิก  (Jurassic) เป็นช่วงที่ ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ประมาณ 205-135 ล้านปีมาแล้ว ในช่วงนี้มีไดโนเสาร์หลากหลายชนิด ทั้งมีเขาไม่มีเขา มีเกราะ ไม่มีเกราะ คอยาว คอสั้น ตลอดจนวิวัฒนาการไปเป็นสัตว์ปีก 3.ช่วงครีเตเชียส  (Cretaceous) เป็นช่วงที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ประมาณ 135-66 ล้านปีมาแล้วเป็นช่วงสุดท้าย ของไดโนเสาร์ซึ่งจะมีวิวัฒนาการสูงสุด และสูญพันธุ์ไปในที่สุด ดูเำพิ่มเติมได้ที่ http://school.obec.go.th/sci_wmd/dinosur_2.html แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 53 00:40:08 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 21:16:08 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:15:03

ความคิดเห็นที่ 15 การค้นหาฟอสซิลของไดโนเสาร์ในประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้น ในทศวรรษที่ผ่านมานี้เองโดยโครงการศึกษาวิจัยฟอสซิลของสัตว์ มีกระดูกสันหลังในประเทศไทย กรมทรัพยากรธรณี ก่อนหน้านี้มีรายงานการวิจัยฟอสซิลของสัตว์มีกระดูกสันหลังน้อยมาก ในปีพ.ศ.2519 กรมทรัพยากรธรณีได้ค้นพบกระดูกขนาดใหญ่ จากภูเวียง จังหวัดขอนแก่นแต่ผลการวิจัยขณะนั้นทราบเพียงว่าเป็นไดโนเสาร์ซอโรพอด พวกกินพืช เดิน 4 เท้า คอยาว หางยาว มีความยาวประมาณ 15 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นรายงานการ ค้นพบไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ต่อมาในปีพ.ศ.2524 และ2525ได้มีการสำรวจที่บริเวณภูเวียงอีกทำให้พบกระดูกส่วนต่างๆของ ไดโนเสาร์และสัตว์อื่นๆเป็นจำนวนมากอยู่ในชั้นหิน จึงนับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นการค้นหาฟอสซิลไดโนเสาร์อย่างจริงจัง ขอบคุณข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=7115&filename=index แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 53 19:41:34 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:15:38

ความคิดเห็นที่ 16 ไดโนเสาร์ชนิดต่าง ๆ ที่พบในประเทศไทย 1. สยามโมซอรัส สุธีธรณี (Siamosaurus suteethorni, Buffetaut and Ingavat, 1986)   ไดโนเสาร์ สยามโมซอรัส สุธีธรนี เป็นไดโนเสาร์ในกลุ่มกินเนื้อ จำแนกเป็นสกุล และชนิดใหม่ของโลก มีอายุประมาณ 130 ล้านปี ไดโนเสาร์ สยามโมซอรัส สุธีธรนี ตั้งชื่อสกุลตามชื่อประเทศ หมายถึงสัตว์คลานจากสยาม และชื่อชนิดตาม ชื่อ นายวราวุธ สุธีธร นักธรณีฝ่ายโบราณชีววิทยาที่มีส่วนสำคัญในการพบฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดนี้ ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง จังหวัดขอนแก่น จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:17:02

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ เครดิตภาพ  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=159748 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:18:37

ความคิดเห็นที่ 18 ตัวนี้ไม่ใช่ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:19:27

ความคิดเห็นที่ 19 จากการพบฟอสซิลเฉพาะฟันของไดโนเสาร์ สยามโมซอรัส สุธีธรนี ในหินกรวดมนปนปูน ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งมีอายุ 100 ล้านปี พบว่า มีลักษณะแปลกออกไป คือ มีลักษณะเป็นแท่งกรวยปลายแหลม และมีสันเล็ก ๆ ยาวตลอดฟัน ขณะที่พันธุ์กินเนื้อทั่วๆไป มีฟันแบบแบน ๆ ปลายแหลม โค้งงอเล็กน้อยและมีรอยหยักเป็นฟันเลื่อย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:20:21

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพแสดงฟันรูปกรวยที่คาดว่าจะเป็นของ สยามโมซอรัส ในหินกรวดมนปนปูน ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา มีอายุ 100 ล้านปี ที่มา: ประเทือง จินตสกุล เอกสารประกอบการบรรยาย, 2544 http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino201.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:21:25

ความคิดเห็นที่ 21 2. ภูเวียงโกซอร์ สิรินธรเน (Phuwiangosaurus sirindhornae, martin, Buffetaut and Suteethorn, 1994)     ไดโนเสาร์ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรนี เป็นไดโนเสาร์ในกลุ่มกินพืช (Sauropods) สกุลและชนิดใหม่ของโลก ที่มีอายุประมาณ 130 ล้านปีมาแล้ว มีขนาดกลางยาวประมาณ 15-20 เมตร มีคอยาว หางยาว และเดินด้วยสี่เท้า ไดโนเสาร์ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรนี พบครั้งแรกใน พ.ศ. 2535 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อ. ภูเวียง จ.ขอนแก่น นอกจากนี้ ยังพบในแหล่งอื่นเช่น ที่ อ. สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ การตั้งชื่อตั้งตามชื่อตามอุทยานที่เป็นแหล่งค้นพบครั้งแรก ส่วนชื่อชนิด ตั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงสนพระทัยเป็นอย่างมากในงานโบราณชีววิทยา http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino201.htm แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 22:49:05 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:22:50

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ เครดิตภาพ  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=159748 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:23:28

ความคิดเห็นที่ 23 ภูเวียงโกซอร์ สิรินธรเน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:24:38

ความคิดเห็นที่ 24 3.สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส (Siamotyrannus isanensis, Buffetaut and Tong, 1996)     ไดโนเสาร์ สยามโมไทแรนนัส เป็นไดโนเสาร์ในกลุ่มกินเนื้อ วงศ์ไทแรนโนซอริ-ดี แต่เป็นสกุลและชนิดใหม่ของโลก มีอายุประมาณ 120-130 ล้านปีมาแล้ว เก่าแก่กว่าไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ ที่พบในสหรัฐอเมริกา และรู้จักกันดีในภาพยนตร์ เรื่องจูแรสสิก พาร์ค ที่มีไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ มีขนาดยาว 12-14 เมตร ฟันของสยามโมไทแรนนัส มีลักษณะแหลมคม ยาว 10 ซม. เดินด้วยขาหลังสองขา และมีขาหน้าสั้นติดลำตัว มีนิ้วข้างละ 2 นิ้ว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:26:00

ความคิดเห็นที่ 25 สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส ตัวนี้ต่างหากครับ  ภาพ ข. แสดงลักษณะฟัน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:27:23

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ เครดิตภาพ  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=159748 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:28:15

ความคิดเห็นที่ 27 กะโหลกของสยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส เป็นช่องเหมือนกะโหลกนกสามารถกินไดโนเสาร์กินพืชที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมันได้ถึงเท่าตัว ไดโนเสาร์สยามโมไทแรนนัส อีสานเอนซิส พบครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เมื่อ พ.ศ. 2532 ตัวนี้ทีเร็กซ์ เหมือนเลย ๆ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:28:49

ความคิดเห็นที่ 28 จัดเป็นไดโนเสาร์ชนิดใหม่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกเพราะเก่าแก่กว่า ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ ที่โด่งดังมาก่อนหลายล้านปี ตั้งชื่อสกุลโดยหมายถึงสายพันธุ์ไทแรนโนซอรัสจากสยาม และ ตั้งชื่อตามภาคอีสานของไทย นอกจากนี้ยังพบฟันของไดโนเสาร์สยามโมไทแรนนัส ในหินกรวดปนปูน ที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ. นครราชสีมา ซึ่งมีอายุถึง 110 ล้านปีก่อน http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino201.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:29:54

ความคิดเห็นที่ 29 4.ซิตะโกซอรัส สัตยารักษ์กี (Psittacesaurus sattayaraki, Buffetaut and Suteethorn, 1992) ไดโน เสาร์ซิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กี เป็นไดโนเสาร์ปากนกแก้วชนิดใหม่ของโลก ซึ่งมีกะโหลกแตกต่างจากที่พบในมองโกเลีย และจีน รวมทั้งมีขนาดเล็กกว่า มีอายุประมาณ 100 ล้านปีก่อน ได้ตั้งชื่อใหม่ เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายนเรศ สัตยารักษ์ นักธรณีวิทยาจากกรมทรัพยากรธรณี ที่พบ ฟอสซิลกรามล่างขวา มีฟันครบ และส่วนของกะโหลกด้านบนซ้ายในหมวดหินโคกกรวด อ.คอนสวรรค์ จ. ชัยภูมิ นับเป็นการพบฟอสซิลไดโนเสาร์ปากนกแก้วเป็นแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:30:39

ความคิดเห็นที่ 30 ในส่วนของลักษณะโครงกระดูกของไดโนเสาร์ซิตตะโกซอรัส จะเหมือนกับพวกออนิโธพอดพวกแรก ๆ ที่บอบบางและเดิน 2 ขา โดยขาหน้าค่อนข้างจะแข็งแรง แสดงว่าน่าจะใช้สำหรับเดินได้ดีเช่นเดียวกับใช้ทำอย่างอื่น นอกจากนี้ลักษณะของจะงอยปากเหมือนนกแก้ว แสดงว่าเป็นพวกเซอราทอปเซียน http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino201.htm กะโหลก จะมีจะงอยปากเหมือนนกแก้ว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:31:54

ความคิดเห็นที่ 31 ซิตะโกซอรัส สัตยารักษ์กี จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:33:12

ความคิดเห็นที่ 32 5. Gallimimus sp. ไดโนเสาร์นกกระจอกเทศ ไดโนเสาร์นกกระจอกเทศ วิ่งปราดเปรียว เป็นเทอโรพอดที่ไม่มีฟันเลย น่าจะกินทั้งพืชและสัตว์ มีขนาดยาวประมาณ 1 - 2 เมตร แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 16:31:07 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:33:54

ความคิดเห็นที่ 33 http://mkpayap.payap.ac.th/course/myweb/Terex/Terex.htm ขอบคุณ เครดิตภาพ  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=159748 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:34:37

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:35:15

ความคิดเห็นที่ 35 6. อิสานโนซอรัส อรรถวิภัชน์ชี (Isanosaurus attavipatchi, Buffetaut et al., 2000) ไดโนเสาร์ ซอโรพอดที่มีลักษณะโบราณที่สุดที่เคยพบมา อยู่ในยุคไทรแอสสิกตอนปลาย อายุประมาณ 210 ล้านปี http://mkpayap.payap.ac.th/course/myweb/Terex/Terex.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:36:44

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณ เครดิตภาพ  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=159748 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:37:10

ความคิดเห็นที่ 37 คิดถึง Little foot จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:37:57

ความคิดเห็นที่ 38 7. ไดโนเสาร์ อิกัวโนดอน (Iguanodon)  ไดโนเสาร์ อิกัวโนดอน (Iguanodon) เป็นไดโนเสาร์กินพืชที่มีกระดูกเชิงกราน แบบนก พบฟอสซิลในเบลเยียม มองโกเลีย อังกฤษ เยอรมนี มีขนาดใหญ่ ยาว 7-10 เมตร ขาหลังใหญ่แข็งแรง มี 3 นิ้ว ขาหน้าสั้นกว่า นอกจากนี้ที่มือยังมีนิ้วโป้งที่แหลมคม เป็นอาวุธที่น่ากลัวสำหรับการต่อสู้ในระยะประชิดตัว นิ้วที่เหลือเป็นกีบจึงใช้เดินได้ด้วย ส่วนหัวมีลักษณะคล้ายม้า มีขนาดค่อนข้างใหญ่ จะงอยปากส่วนบนใช้เล็มพืช และฟันจำนวนมากบนกราม 2 ข้าง ใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหาร มีชีวิตอยู่ในยุคจูแรสซิกช่วงปลายถึงยุคครีเทเชียส http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino201.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:39:00

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ เครดิตภาพ  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=159748 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:39:38

ความคิดเห็นที่ 40 8. ไดโนเสาร์ซีลูโรซอร์ (Coelurosaur) ไดโนเสาร์ วงศ์ซีลูโรซอร์ เป็นไดโนเสาร์ในกลุ่มกินเนื้อ (Theropods) ขนาดเล็ก กระดูกมีรูกลวง ทำให้มีน้ำหนักเบา เคลื่อนไหวได้เร็ว หรือ ปราดเปรียวว่องไวและเป็นผู้ล่าที่ดุร้ายต่อสัตว์ที่เล็กกว่า ไดโนเสาร์ซีลูโรซอร์ มีอยู่มากในยุคจูแรสซิก แต่มีฟอสซิลไม่มาก เพราะมีขนาดเล็ก โครงสร้างค่อนข้างบอบบาง กระดูกสลายตัวได้เร็ว จึงไม่ค่อยพบโครงกระดูกที่มีสภาพสมบูรณ์ ที่พบค่อนข้างสมบูรณ์มี 3 สกุล คือ สกุลคอมพ์ซอกนาทัส ซิโลไฟซิส และ ออนิโธเลสทิส ในประเทศไทยที่พบจะเป็นพวกรอยเท้า ชิ้นส่วนกระดูกบางชิ้น และฟัน ส่วนใหญ่จึงยังไม่สามารถระบุสกุลและชนิดได้ ที่ระบุได้ คือ ในระดับกว้าง ๆ เป็นตระกูลหรือเป็นพวกกินสัตว์ขนาดเล็กเท่านั้น ไดโนเสาร์ซีลูโรซอร์ในประเทศไทยพบรอยเท้า ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง จ. ขอนแก่น เมื่อ พ.ศ. 2532 นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่พบรอยเท้าไดโนเสาร์วงศ์นี้ http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino202_1.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:40:49

ความคิดเห็นที่ 41 คิดถึง little foot เหมือนกันครับ นึกแล้วน้ำตาคลอเลยอ่ะ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:42:05

ความคิดเห็นที่ 42 ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:42:37

ความคิดเห็นที่ 43 ^ หวัดดีครับคุณ dip kid สาวก little foot เหมือนกัน นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนกระดูกของไดโนเสาร์อีก 2 ชนิดคือ สเตโกเซอร์        พบกระดูกสันหลังในชั้นหินทรายสีเทา ซึ่งคาดว่าเป็นของสเตโกเซอร์ เนื่องจากไดโนเสาร์ชนิดนี้มีกระดูกสันหลังที่ต่างจากไดโนเสาร์ชนิดอื่นอย่าง เห็นได้ชัด พบที่ จ.กาฬสินธุ์ และ ฮิปซิโลโพดอน        พบกระดูกขาหลังท่อนบน ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะของพวกฮิปซิโลโพดอน http://mkpayap.payap.ac.th/course/myweb/Terex/Terex.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:44:31

ความคิดเห็นที่ 44 จบแล้ว คิดถึง ๆ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 21:45:19

ความคิดเห็นที่ 45 #15 เคยไปดูหลุมขุดที่ อุทยานแห่งชาติภูเวียงมาครับ เค้าติดป้ายไว้ว่าจริงๆ แล้วเค้าค้นพบโครงกระดูกไดโนเสาร์โดยบังเอิญ ในระหว่างการสำรวจแร่ยูเรเนียม ครับ จากนั้นจึงเริ่มมีการสำรวจอย่างจริงจังครับ จากคุณ : naimaew1 เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:21:49

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ขอบคุณ คุณnaimaew1 ที่ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:34:42

ความคิดเห็นที่ 47   จุดเด่นของ ไดโนเสาร์ ที่สำคัญอย่างนึง ที่ทำให้มันต่างจากสัตว์เลื้อยคลานทั่วไป คือ Position ของขา ครับ! มันเดินด้วยขาที่รับน้ำหนักอยู่ภายใต้ลำตัว เช่นเดียวกับสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม...ในขณะที่จระเข้ ตะกวด เต่า ขาของมันจะกางออกข้างๆลำตัว ทำให้มันได้แต่คลานเท่านั้น(ยกเว้นกิ้งก่าบางชนิดที่วิ่งสองขาได้ในระยะสั้นๆ) และน่าแปลก ที่ไดโนเสาร์พวกเทอโรพอดบางชนิด(ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสะโพกเลื้อยคลาน)เช่น โดรมิโอซอร์(แรปเตอร์) กลับมีกระดูกพิวบิสและอิสเชียนขนานกัน คล้ายพวกไดโนเสาร์สะโพกนก เช่นพวกอิกวาโนดอน หรือไทรเซราทอปส์??? แสดงว่าลักษณะกระดูกสะโพกแบบนก สามารถวิวัฒนาการได้คล้ายกัน มากกว่า 1 ครั้ง? จากคุณ : Ophiophagus เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:45:52 A:118.173.239.127 X: TicketID:174672

ความคิดเห็นที่ 48   พะเยาก็มีนะครับ ตอนสงกรานต์ผมพาหลานไปดูไดโนเสาร์มา ตอนแรกที่ไปตื่นเต้นมาก ได้เห็นฟอสซิลของจริง รู้สึกดีใจที่ได้เห็นสิ่งที่มีชีวิตก่อนเราตั้งหลายล้านปี แต่ว่าน่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ ตอนที่ผมไปไม่มีใครซักคนแม้แต่เจ้าหน้าที่  แต่ก็ไม่เป็นไรครับอย่างน้อยผมก็ภูมิใจที่ได้เห็นด้วยตาครับ (มีภาพมาฝากด้วยครับ) จากคุณ : mad2cm เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:47:25

ความคิดเห็นที่ 49   1 จากคุณ : mad2cm เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:48:51

ความคิดเห็นที่ 50   2 จากคุณ : mad2cm เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:49:12

ความคิดเห็นที่ 51   3 จากคุณ : mad2cm เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:49:34

ความคิดเห็นที่ 52   4 จากคุณ : mad2cm เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:49:55

ความคิดเห็นที่ 53 เย้ๆ ไดโนเสาร์มาแย้ว ตามรีเควส เรื่อง Little foot ค.ห. 41 เป็นเรื่องที่ประทับใจมากกกก ร้องไห้ในโรงหนังเลย แงๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:51:32

ความคิดเห็นที่ 54 อะไรมันจะเศร้าขนาดนั้น ตอนที่ดูไม่กี่ขวบเอง เราร้องไห้แงๆ แต่แม่หลับ!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:55:24

ความคิดเห็นที่ 55 #48 อยากให้กีบแต่ให้ไม่ได้ งั้นให้นี่แทน หวัดดีครับคุณกิ๊ฟ สาวก little foot ^ ^ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 23:17:48 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 23:22:19 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 23:25:30 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 23:07:54

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมากครับ ชอบจริงๆเลย ไดโนเสาร์เนี่ย จากคุณ : DON'T CARE NEVER DIE เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:31:09

ความคิดเห็นที่ 57 ^ ^ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 06:18:20 จากคุณ : ง่วงจัง (ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:55:43

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ^ อ้าว ไม่ใช่ดาราหรอกเหรอ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 00:57:05

ความคิดเห็นที่ 59 ^ คุณกิ๊ฟรู้แล้วดิ ฮ่า ๆ ๆ -_-" ตามนั้นแหละครับ   นอนหล่ะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีก คุณกิ๊ฟนอนดึกเดี๋ยวพรุ่งนี้เป็นแพนด้านะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 06:19:07 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:03:25

ความคิดเห็นที่ 60 หนังโปรดสมัยยังเด็กๆเช่นกันคับ T_T จากคุณ : k3v1n เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:20:58

ความคิดเห็นที่ 61 คุณลาบลบซะแล้ว กลัวคนมายืมตังค์แน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ ไดโนเสาร์จะน่ากลัวสู้หนูได้เหรอ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 09:41:53

ความคิดเห็นที่ 62 ขอถามปัญหาที่อาจจะสร้างความหนักใจให้ หน่อยนะครับ ไดโนเสาร์ นี่เป็นสัตว์เลือดเย็น หรือ เลือดอุ่นครับ??? ผมเคยโดนทักมาว่ามันเป็นสัตว์เลื้อยคลานก็จริง แต่ยังตกลงไม่ได้ว่ามันเป็นเลือดเย็นหรือเลือดอุ่นน่ะครับ... ขอบคุณครับ ป.ล. รอเก็บแผ่นเรื่องนี้ดีกว่าแฮะ ผมว่าอีกสักพักคง remake ขึ้นมาใหม่เหมือนแบบ dumbo ... เอ๊ะหรือว่า little foot ออกแผ่นแล้ว ผมหาไม่เจอเอง?? แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 53 11:02:05 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 10:24:57

ความคิดเห็นที่ 63 ครับ ไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลือดอุ่นหรือเลือดเย็น? ประเด็นหนึ่งที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ระหว่างนักวิทยาศาสตร์ครับ มีหลักฐานมากมายที่บ่งชัดว่าไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลือดอุ่น http://www.bbc.co.uk/dna/h2g2/a590294 แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่อาจมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะข้อเท็จจริงอีกข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลื้อยคลานแน่ ๆ   ซึ่งก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาใหม่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่สัตว์เลื้อยคลานอาจเป็นสัตว์เลือดอุ่นได้ด้วย มีอีกแนวคิดหนึ่ง ก็คือไดโนเสาร์ไม่ได้เป็นสัตว์เลือดเย็น 100% แต่เป็นสัตว์เลือดเย็นที่พร้อมจะ วิวัฒนาการเป็นสัตว์เลือดอุ่นและสามารถปรับตัวได้ทุกสภาวะการณ์ในขณะนั้น ไม่เช่นนั้น คงไม่สามารถอยู่รอดได้นานถึง 150 ล้านปี http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/nature%20myth/index107.htm http://www.vcharkarn.com/varticle/35203/3#P3 http://school.obec.go.th/sci_wmd/jack.html จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 12:48:17

ความคิดเห็นที่ 64 มาโหวตก่อน เดี๋ยวมาตามอ่านอีกที ถูกใจๆ จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 15:03:27

ความคิดเห็นที่ 65 ู^ คุณกิ๊ฟ ไม่ใช่ ๆ ต้องรีบลบหนีเจ้าหนี้ต่างหาก ฮา ๆ ๆ คุณ dip kid แผ่น remake ไม่แน่ใจว่ามีรึป่าวนะครับ ตอนเด็กเคยมีวิืดีโอด้วย แต่ดูไม่ได้เพราะเครื่องเล่นวิดีโอเสียไปนานแล้ว   วีดิโอแบบนี้ เด็ก ๆ สมัยนี้รู้จักกันป่าว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 16:16:02

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^ ไม่รู้จักค่ะ หนูเกิดมาก็มีแต่ Blue ray ค่ะ นี่คืออะไรเหรอคะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 16:52:22

ความคิดเห็นที่ 67 เอามาแจม รอยเท้าไดโนเสาร์ที่ภูแลนคา จังหวัดกาฬสินธุ์ เทียบกับคน จากคุณ : Humble เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 16:53:55

ความคิดเห็นที่ 68 จาก #5 มาดูรูปให้เข้าใจง่าย ๆ ดีกว่า ไดโนเสาร์ซอริสเชีย (saurischia) ซึ่งมีลักษณะกระดูกเชิงกรานแบบสัตว์เลื้อยคลาน มีทั้งพวกกินพืชและกินสัตว์ ไดโนเสาร์ออร์นิธิสเชีย (ornithishia) มีกระดูกเชิงกรานแบบนก เป็นพวกกินพืชทั้งหมด ซอริสเชีย (ซ้าย) และไดโนเสาร์ออร์นิธิสเชีย(ขวา) จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 18:33:15

ความคิดเห็นที่ 69 ไดโนเสาร์ซอริสเชีย (saurischia) ซึ่งมีลักษณะกระดูกเชิงกรานแบบสัตว์เลื้อยคลาน มีทั้งพวกกินพืชและกินสัตว์  จัดแบ่งได้อีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเทอโรพอดส์ (Theropods) เป็นกลุ่มกินเนื้อ เดินสองเท้า แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ กลุ่มซีลูโรซอร์ (Coelurosaur) ที่มีขนาดเล็ก และกลุ่มคาร์โนซอร์ (Carnosaur) ที่มีขนาดใหญ่ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มซอโรพอดส์ (Sauropods) ซึ่งเป็นกลุ่มกินพืช เดินสี่เท้า ขนาดใหญ่ แบ่งกันเยอะจริง ๆ จำชื่อไม่หมดเลย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 18:36:33

ความคิดเห็นที่ 70 ในส่วนของไดโนเสาร์ออร์นิธิสเซีย (Ornithichia) นั้นจัดแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มสเตโกซอร์ (Stegosaur) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์มีครีบ เดินสี่เท้า กลุ่มออนิโธพอดส์ (Ornithopods) เป็นไดโนเสาร์ปากเป็ดเดินสองเท้า กลุ่มเซอราทอปเชียน (Ceratopsian) เป็นไดโนเสาร์มีเขา เดินสี่เท้า กลุ่มแองกิโลซอร์ (Ankylosaur) เป็นไดโนเสาร์หุ้มเกราะ เดินสี่เท้า กลุ่มพาคีเซปฟาโลซอร์ (Pachycephalosaur) เป็นไดโนเสาร์หัวแข็ง เดินสองเท้า มึุน ๆ ๆ http://www.nrru.ac.th/web/ancient/dino/dino301.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 18:39:35

ความคิดเห็นที่ 71 ดีใจมาก ที่มีกระทู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์ ผมสนใจสัตว์พวกนี้มากๆ แต่หาอ่านได้ยาก ในพันทิป ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆครับ จากคุณ : Intricated เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 19:02:26

ความคิดเห็นที่ 72 ลิงก์มันกดดูไม่ได้นะจ๊ะคุณลาบ คริคริ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 19:42:41

ความคิดเห็นที่ 73   #68...> ลองสังเกตสะโพกของพวก โดรมิโอซอร์ ดูบ้างครับ http://i223.photobucket.com/albums/dd138/subzero9285/velociraptor2_skrep.jpg มีลักษณะที่แปลกกว่า Sauriscian ทั่วๆไป อย่างเห็นได้ชัดครับ...แถมยังมีบางส่วนคล้ายพวก Ornithichia อีกด้วย หมายเหตุ > ผมไม่ใช่คนของกรมทัพยากรณ์หรอกครับ แค่สนใจพวกนี้เท่านั้นเอง :) จากคุณ : Ophiophagus เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 20:17:09 A:118.173.239.11 X: TicketID:174672

ความคิดเห็นที่ 74 พอเห็นเจ้า little foot แล้วคิดถึงจริงๆ สมัยเด็กๆผมมีวิดีโอเหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนแล้ว เสียดายมาก จากคุณ : Intricated เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 20:19:46

ความคิดเห็นที่ 75 คุณกิ๊ฟลิงค์นี้ป่าวเอ่ย http://school.obec.go.th/sci_wmd/jack.html เมื่อกลางวันยังเปิดดูได้อยู่เลย #73 ช่วยแปะลิงค์ นึกว่าอยู่แถวนั้นซะอีก ^ ^" สุดยอดเลย http://i223.photobucket.com/albums/dd138/subzero9285/velociraptor2_skrep.jpg จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 21:15:01

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ vdo หลายเรื่องผม ขึ้นราไปแล้วครับ สุดเซ็ง... สมัยก่อนนี่มันมีค่ามากเลยนะ ตลับ vdo เนี่ย ผมเอามาวางต่อเป็นฐานทัพหุ่นยนต์ประจำเลย แฮะ ๆๆๆ เสียดายที่ที่บ้านไม่เก็บให้ดี ดันไปวางใต้แอร์ น้ำแอร์หยดใส่ ราขึ้นจริงๆ ทิ้งไปหมดเลย T-T จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 21:40:03

ความคิดเห็นที่ 77 จ๊าบค่ะ จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 08:47:04

ความคิดเห็นที่ 79 มาดูรูปนี้เจ๋งดีคุณลาบ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 22:22:37

ความคิดเห็นที่ 80 ^ 5555555 คิดถึงกระทู้คุณกิ๊ฟมากมาย มากมาย (>.<) จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 23:05:58

ความคิดเห็นที่ 81 เคยมีโอกาสได้ไปทัวร์กับท่านอาจารย์ทั้งหลาย ทั้งท่านอ. นเรศ สัตยารักษ์ อ.วราวุธ สุธีธร ได้สแตมป์มาครบชุด มุ่งมั่นจะเรียนธรณีวิทยา.... สุดท้าย กลายเป็นเภสัชได้ไง (วะ) จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 23:37:26

ความคิดเห็นที่ 82 กระทู้เราเหรอ เพิ่งเริ่มอ่านเองคุณลาบ เพราะว่าไปทำภารกิจเพื่อโรงเรียนของหนูอยู่ ก็เลยได้อาศัยอ่านทู้คุณลาบแทน คุณลาบเป็นคนที่ถ่ายทอดความรู้ได้เก่งมาก ให้เข้าใจได้ง่าย รู้เรื่องชีวะมากซะจนเรานึกว่าคุณลาบมีอาชีพเป็น......แต่จริงๆแล้วเป็น........... ก๊ากๆๆๆๆ รู้ความลับ !!!!!!! แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 53 01:10:09 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 00:16:17

ความคิดเห็นที่ 83 ... จากคุณ : TrojanTHM เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 01:26:26

ความคิดเห็นที่ 84 ไดโนเสาร์ในเมืองไทย ยังสามารถหาชมแบบที่ยังมีชีวิตอยู่ได้นี่ครับ จากคุณ : axquest เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 11:11:26

ความคิดเห็นที่ 85 คห.67 รูปรอยเท้าในแผ่นหินแบบนี้ ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆแอบหนีไปเที่ยวน้ำตก ใกล้บ้าน (ราวๆ 5-6 กิโล) ก็พบรอยเท้าใหญ่ ๆ ฝังบนแผ่นหิน ลักษณะคล้าย กีบเท้าวัว แต่ผิดที่ขนาดมันใหญ่มาก 2-3 เท่ามั้ง เสียดายที่ไม่มีรูป ปัจจุบันไม่กล้าเข้าอ่ะ เขตพื้นที่สีแดงด้วย  น่ากลัว จากคุณ : Dare More เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 12:08:18

ความคิดเห็นที่ 86 ไดโนเสาร์ใน86#  ไม่ได้กินพืชหรือกินเนื้อครับ แต่กินเหล็กกินปูน จากคุณ : EleMent M@stER เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 13:04:31

ความคิดเห็นที่ 87 แวะไปถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์ทรัพยากรธรณีมา เชิญเที่ยวชมได้ อยู่ ณ บริเวณกระทรวงอุตสาหกรรม ถ.พระราม 6 ตรงข้าม ม.มหิดล ขนาบข้างด้วย รพ.สงฆ์ และ รพ.รามาฯ ภาพแรก ปลาพุทธบุตร อยู่ในยุคจูแรสสิก จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 18:50:39

ความคิดเห็นที่ 88 ภาพที่สอง ซากดึกดำบรรพ์ ของสยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 18:52:59

ความคิดเห็นที่ 89 ซากอยู่นี่ สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 18:55:02

ความคิดเห็นที่ 90 ต่อไป กระดูกขากรรไกจรเข้โบราณ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 18:56:02

ความคิดเห็นที่ 91 บรรยายสีเหลือง ๆ ที่มุมขวาบน ลองขยายดูซิ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 18:56:53

ความคิดเห็นที่ 92 อันนี้กระดูกหน้าแข้งของไดโนเสาร์ ซอโรพอด ใหญ่แค่ไหนลองเทียบกับปากกา จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 18:58:35

ความคิดเห็นที่ 93 http://www.dmr.go.th/more_news.php?cid=237&filename=index เวบไซต์ตามลิงค์ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 19:18:00

ความคิดเห็นที่ 94   ถูกใจคคห.84 จากคุณ : titou เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 19:46:41

ความคิดเห็นที่ 95 การสูญพันธุ์ ของไดโนเสาร์ เท่าที่ผมเคยดู สารคดีมีเพื่มอีกข้อ นะ ครับ เกิดจากเชื่อแบตทีเรีย เพราะว่าเวลาที่ เกิดเหตุการทั้ง สองจริง ต้องมี ซากฟฟอสซิล อยู่ด้วยกัน จำนวนมากกว่า นี้ เนื่องจาก เกิดจากการตายพร้อมกัน และที่พบ ไม่น่ามีผลกระทบทั่วโลก และ อีกอย่างบรรพบุรุตของสัตว์เลื้ยงลูกด้วยนมก็ อยู่ช่วงนั้นแต่ทำไมเราถึงรอดมาได้ และ พวกนก นักวิทยาศาสตร์ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า สืบสายพันธุ์มาจากไดโดเสาร์   มีอะไร ส่ง PM หมผมด้วยนะ ครับไปดูต่อ ก่อน จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 16:36:51

ความคิดเห็นที่ 96 เริ่มชอบไดโนเสาร์ได้ไงไม่รู้ น่าจะมาจากหนังฝรั่งสมัยก่อนที่มีมนุษย์ถ้ำเจอกับไดโนเสาร์ คิดว่าไดโนเสาร์ทั้งน่ากลัวและน่าทึ่งมาก มาติดตามสุดๆตอนอ่านนิตยสาร มิติที่ 4 คอลมัน์ของ คุณ วราวุธ สุธีธรณ์ ตอนเด็กๆเขาเป็นไอด้อลของเราเลย ชอบไทรเซราทอปมาก เคยคิดว่าทำไมเมืองไทยถึงไม่ค้นพบไดโนเสาร์ตระกูลเซราทอปซิดบ้าง ด้วยความห้าวแบบเด็กๆ(หรือจะเรียกว่าโง่) เลยก้มหน้าก้มตาขุด ตั้งใจจะเป็นคนแรกในประเทศไทยที่ค้นพบโครงกระดูกไทรเซราทอปในเมืองไทย 555555 บ้าดีไหมเล่า จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 23:05:51

ความคิดเห็นที่ 97 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 14:50:42

ความคิดเห็นที่ 98   คห#32 ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่าKinnareemimus khonkaenensis คห# 89 แบบจำลองโครงกระดูก Phuwiangosaurus ครับ จากคุณ : สะตอซอรัส เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 53 19:59:56 A:88.70.232.222 X: TicketID:268236

ความคิดเห็นที่ 99 #98 ขอบคุณมากเลย พรุ่งนี้ถ้าว่างจะแวะไปดูใหม่นะครับ วันนั้นรีบมากเพราะโดนตามตัวด่วน ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 53 22:28:49

ความคิดเห็นที่ 100 แวะไปถ่ายรูปมาอีกครั้งครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 19:16:09