ความคิดเห็นที่ 1 รูปประกอบ จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 00:45:10

ความคิดเห็นที่ 2 อีกรูป จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 00:46:10

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ทราบครับแต่ว่าในหนัง เท่ มากครับ รูป คหสองนั้นของจริงหรือเปล่าครับ จากคุณ : 1812Overtureyoot เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 00:55:23

ความคิดเห็นที่ 4 เทียบตามลักษณะ..... สไนเปอร์ไรเฟิล แต่ก็นั่นแหละ ปืนคาบศิลา จะเรียกว่าเป็นสไนเปอร์ไรเฟิลดีไหม? ยืนเรียงกันเป็นตับเลย จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 00:55:29

ความคิดเห็นที่ 5 รูปที่ผมเอามาลงนั้นก็หาตามกูเกิ้ลนี่แหละครับ แต่ดูแล้วน่าจะเป็นอันที่ใช่ถ่ายทำ (รึป่าว) แต่ถ้าเป็นของจริง ถือว่าสภาพดีมากเลยครับ จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 00:59:57

ความคิดเห็นที่ 6 น่าจะเป็น "ปืนคาบศิลา" ซึ่งใช้ระบบการยิงแบบ "วีลล็อค" หรือ "สแน็ป" นะครับ  แต่เรื่องนี้เราไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดครับ  เพราะ "พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง" กระบอกจริงนั้นสูญหายไปตั้งแต่ตอน "กรุงศรีอยุธยา" แตกครั้งที่2แล้ว  โดยที่เห็นกันในปัจจุบันนั้นเป็นของจำลองที่ทำขึ้นมาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:00:50

ความคิดเห็นที่ 7 จะบอกว่าไม่มีความแม่นซักเท่าไหร่ครับ    ปืน 9mm ปัจจุบัน ยังแม่นกว่า จากคุณ : yabeer เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:02:19

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 4 รูปที่ท่านนำมาลงนั้นไม่น่าจะใช่รูปแบบการรบของไทย เพราะของพี่ไทยนั้น จะชอบทำตัวเหมือนสไนเปอร์ซะจริงๆ แอบๆ ซุ่ม พอได้จังหวะ สอยเลย จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:03:36

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นปืนไรเฟิล ชนวนนอก ลำกล้องเรียบ ไม่จัดเป็นสไนปเปอร์ไรเฟิล ความแม่นยำขึ้นอยู่กับ ความเคยชิน จากคุณ : wiswa เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:04:37

ความคิดเห็นที่ 10 #8 หลายๆชาติใช้กันครับ แถวแรกยิง แถว2เตรียมพร้อม แถว3บรรจุกระสุนใหม่ ยิงเสร็จสลับกันไปเรื่อยๆ จะได้ผลดีกว่าเพราะยิงแบบ suppresion(กดดันข้าศึก) ไม่เหมือนยิงแถวเดียว แล้วตายหมู่ในระยะประชิด ปล.ผมพาหลุดเข้าเรื่องปืนคาบศิลาซะแล้ว --" จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:08:49

ความคิดเห็นที่ 11 โดยสาเหตุที่ผมคาดเดาว่าน่าจะเป็นปืนคาบศิลาระบบ "วีลล็อค" หรือ "แสน็ป" ก็เพราะ ("แสน็ปแพนท์" นะครับไม่ใช่ "สแน็ปล็อค" เพราะมันมีสองแสน็ป)  "สมเด็จพระนเรศวร" ทรงมีพระชนชีพย์อยู่ในช่วงราวปลายคริตศตวรรษที่16หรือประมาณ400กว่าปีมาแล้ว   ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าวนั้นกองทหาร "Musketeer" ของทางยุโรปก็กำลังนิยมใช้ปืนในระบบ "แสน็ปแพนท์" และ "วีลล็อค" อยู่พอดีครับ  โดยในยุคนั้นเรายังต้องสั่งซื้อปืนคาบศิลา(ปืนไฟ)  มาจากต่างชาติอย่างเดียว  ดังนั้นพระแสงปืนของสมเด็จพระนเรศวรก็ย่อมจะเป็นปืนในสองระบบดังกล่าวแน่นอนครับ (รูปปืนคาบศิลาในระบบสแน็ปครับ  ส่วนลุงหมวกแดงข้างบนนั้นถือปืนระบบ "วีลล็อค" ครับ) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:09:20

ความคิดเห็นที่ 12 สไนเปอร์ แปลเป็นไทยว่า พลซุ่มยิงครับ (คนซุ่มยิง) สไนเปอร์ ไม่ใช่อาวุธนะครับ จากคุณ : มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:40:38

ความคิดเห็นที่ 13 และผมว่าพระแสงปืนนี้ยังไงก็ไม่ใช่ไรเฟิลครับ ไรเฟิล หมายถึง ปืนที่มีเกลียวในลำกล้องเพื่อเพิ่มอำนาจการยิง พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง น่าจะเป็นวีลล็อคครับ จากคุณ : REFRIG เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:47:58

ความคิดเห็นที่ 14 คำว่าไรเฟิลหมายถึงเกลียวในลำกล้องไม่ใช่หรอ สมัยนั้นปืนยังไม่มีเกลียวหรอก จากคุณ : MoMelyz เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 01:55:46

ความคิดเห็นที่ 15 ผมหารูปไม่เจอตอนที่นำปืนมาทดสอบที่อุโมงค์ยิงทดสอบ กรมสรรพาวุธทหารบก  ถ้าไม่ลืมจะโทรไปถามเพื่อนให้ครับ จากคุณ : therock_up เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 02:09:45

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาตแปะ link ค่ะ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3103406/A3103406.html จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 02:45:01

ความคิดเห็นที่ 17 .....UZI จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 06:37:35

ความคิดเห็นที่ 18   ถ้าใครเคยเห็นแม่น้ำสะโตง จะรู้ได้เลยว่าปืนแบบนี้ ไม่มีทางยิงหวังผลไปอีกฝั่งได้เลย เพราะแม่น้ำกว้างมากกกกกกก ปล. อาวุธในประวัติศาสตร์ ทั้งพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง พระแสงดาบคาบค่าย รวมถึงเครื่องราชกกุฎภัณฑ์สมัยกรุงศรีอยุธยา สาบสูญไปตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 ทั้งหมด แต่ก็มีเสียงร่ำลือ เป็นตำนานกันว่า พวกเครื่องสูงเหล่านี้ ไม่ได้ถูกทัพพม่ายึดไป แต่ถูกซุกซ่อนไว้ เนื่องจากก่อนเสียกรุงมีเวลานานพอสมควร อันนี้ก็เป็นเสียงร่ำลือ ไม่มีใครยืนยันได้ จากคุณ : [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 06:51:28 A:116.14.74.24 X:220.255.7.205 TicketID:267882

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นไปได้หรือเปล่าครับที่จะเป็นปืนของญี่ปุ่น เพราะเคยได้ยินว่าช่วงสงครามกลางเมืองญี่ปุ่น ญีุ่ปุ่นมีการพัฒนาปืนตีเกลียวขึ้นมา ถ้าเป็นปืนตีเกลียว แม่น้ำสะโตงนี่จิ๊บๆ ครับ จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 07:41:51

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้ายิงโดนจริงๆ ไม่ใช่นิยายหรือชวนเชื่อ ก็เพราะฟลุ๊คมากกว่า จากคุณ : เชิงปลากรายทอดกรอบ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 08:47:36

ความคิดเห็นที่ 21 คห.3 ของจริงไม่มีเหลือแล้วครับ โดนเผาไปหมดแล้ว จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 09:51:14

ความคิดเห็นที่ 22 ต้องเป็นผู้มีบุญาธิการหรือฟลุกครับถึงจะยิงโดนแบบพระเรศวร เพราะปืนในสมัยนั้นคงหาความแม่นไม่ได้ เพราะจาก คห.18บอกแม่น้ำสะโตงกว้างมากจะยิงหวังผลคงยากบวกกับความไม่แม่นของปืน จากคุณ : ibepor (ibepor) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 09:56:44

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^ ^ ^ ขยายความเพิ่มเติมให้ คห. 12 ครับ ถ้าจะเรียกปืนซุ่มยิงในภาษาอังกฤษก็ Sniper rifle ครับ แต่ถ้า Sniper เฉยๆนี่หมายถึงพลซุ่มยิง จากคุณ : Phalanx เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 10:47:20

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้านับตามยุคสมัย น่าจะเป็นปืนจากฝั่งญี่ปุ่น ที่ทำการค้ากับไทย สมัยนั้นด้วยหรือเปล่า จากคุณ : Night_Angel เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 10:53:05

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นปืน คาบศิลา ถ้าเทียบกับปืนปัจจุบัน ก็ใกล้เคียงกับปืนแก๊ป ที่ ชาวป่าใช้กัน หลังการง่ายๆ ไม่มีลูกกระสุน สำเร็จเหมือนปัจจุบัน ใช้ดินปืนใส่ลงไปในลำกล้อง แล้ว ใช้ แท่งอัดดินปืนให้แน่น อาจจะใส่เศษผ้าลงไป ลองที่ดินปืนนิดหน่อย(เหมือนหมอนกระสุน ของปืนลูกซอง) แล้ว ค่อยใส่ลูกปืนเข้าไป เวลายิง นกสับไปบนดินปืน แล้ว ก็ระเบิดดัน ลูกออกมาจากปากลำกล้อง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 11:04:11

ความคิดเห็นที่ 26 .....โดนหนังต้มตุ๋นกันอีกแล้วครับ.............. ถ้าไปอ่านพระราชพงศาวดารสมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จะบอกไว้ชัดเจนว่า เป็น "คาบชุด" ก็คือ MATCH LOCK ครับ และพระแสงทั้งหมด มีการจำลองขึ้นมาใหม่ในรัชกาลที่ ๑ ครับ ความน่าเชื่อถือเกิน ๑๐๐ % เพราะว่า ในอดีต สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท นั้น ทรงเคยรับราชการเป็นที่ "นายสุดจินดา หุ้มแพรมหาดเล็ก" ซึ่งมีหน้าที่รักษาพระตะกรุด พระพิสมร พระพิไชยสงคราม ขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งอยุธยา เพราะฉะนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ที่ สมเด็จพระบวรราชเจ้าฯ จะทรง "...จำผิด..." ทั้ง ๆ ที่ช่วงเวลานั้น ปืนคาบศิลา (FLINT LOCK) มีเผยแพร่และใช้กันเยอะแล้ว ...แต่... การจำลองขึ้นมาใหม่กลับเป็นแบบ MATCH LOCK เพราะฉะนั้นชัดเจนนะครับ ว่า พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง เป็น คาบชุด MATCH LOCK ยิ่งบางความเห็นบอกว่า ถ้าเอามาจากญี่ปุ่น ยุคนั้นก็ยังเป็นปืนคาบชุดอยู่ดีครับ เพราะเพิ่งจะหมดสงครามยุคเซกิงาฮาระมาไม่นาน ปืนที่ยังใช้อยู่ ก็เป็น MATCH LOCK ทั้งนั้นครับ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 53 13:06:14 จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 12:58:12

ความคิดเห็นที่ 27 นี่แหละครับ ผลของการทำอะไรผิด ๆ ออกมา คนรุ่นหลังก็จะเข้าใจผิด ๆ กันตามไป ไม่ว่าจะเป็นเกราะยุโรปในหนังนั้น เรื่องอาวุธต่าง ๆ ประวัติศาสตร์อีกจิปาถะ ไม่ใช่ว่าคนที่รู้เรื่องดีไม่เคยค้านนะครับ.............คัดค้านแล้ว แต่เขาไม่ฟัง.... จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:08:15

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้ววววว มาอ่าน คุณผ้าพับไว้ ดูเหมือน จะรู้เรื่องปีนดี อยากรบกวนให้อธิบายเรื่อง คาบศิลา กับ คาบชุด หน่อยสิครับ ต่างกัน อย่างไร จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:19:30

ความคิดเห็นที่ 29 โห คุณหมอมาถามผมเลยหรือครับ เท่าที่รู้มาบ้าง(ไม่แน่ใจว่าจะถูก) MATCH LOCK คือปืนชุดแรก ๆ อย่างในรูปความเห็นที่ 4 นั่นเอง ถ้าจำไม่ผิดรูปที่ 4 จะเป็นปืนยุคราชวงศ์หมิงของจีนมั้งครับ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) MATCH LOCK (คาบชุด)  เป็นภาษาไทยที่ตรงตัวครับ คาบ ก็คือลักษณะอาการเหมือนเราคาบอะไรไว้ในปาก ชุด คำนี้ย่อมาจาก ชุดไฟ เพราะการยิงปืนคาบชุดต้องจุดสายชนวนไว้ก่อน พอจะยิงก็ลั่นไก ตัวไกปืนจะดันสายชนวนมาจ่อที่รูซึ่งมีดินปืนอยู่ พอความร้อนไปกระทบกับดินปืน ก็จะเกิดแรงดันทำให้ลูกปืนวิ่งออกไปได้ครับ ไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือไม่นะครับ ในญี่ปุ่นเอง โนบุนางะ โอดะ เป็นไดเมียวรุ่นแรก ๆ ที่เอาปืนคาบชุดจากมิชชันนารีโปรตุเกสมาใช้ทำสงครามอย่างจริงจังครับ ( ทาเคดะ ชิงเิง็น ได้รับการเสนอมาก่อนหน้านี้ แต่เขาอนุรักษ์นิยมเกินไป จึงไม่ยอมใช้ปืนไฟ เจ้าตัวน่าจะเสียดาย... 5 5 5 5) รูปประกอบก็คือ ปืนคาบชุด (MATCH LOCK) ในยุคแรก ๆ ที่บางทีก็เรียก Arqubuse ในยุคเอโดะของญี่ปุ่นครับ ภาพอ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/File:EdoJapaneseArquebuse.jpg จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:28:33

ความคิดเห็นที่ 30 มาดูการยิง ปืนคาบชุด ( MATCH LOCK : ARQUBUSE) กันชัด ๆ ดีกว่า สังเกตตรงนกปืนครับ จะเห็นว่าไม่มีหินเหล็กไฟ เหมือนอย่าง คาบศิลา(FLINT LOCK) ลืมให้เครดิตเจ้าของภาพครับ http://timesnews.net/blogs/jilton/wp-content/uploads/2007/05/matchlock08web.jpg แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 53 13:33:46 จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:32:51

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วเราลองมาดู ปืนคาบศิลา (FLINT LOCK) นี่คือส่วนประกอบที่แตกต่างจากของ ปืนคาบชุด(ไฟ) อย่างชัดเจน จะเห็นได้ว่ามี "หินเหล็กไฟ " อยู่ตรงนกปืน เมื่อสับไกปืนลงมา หินเหล็กไฟจะไปกระทบกับเหล็กฉากตรงหน้า ทำให้เกิดสะเก็ดไฟตกลงไปใส่ร่องที่มีดินปืนอยู่ จากนั้นดินปืนก็จะระเบิดแล้วเกิดแรงขับ ดันให้ลูกปืนวิ่งออกไปตามลำกล้องครับ http://pustaka.ictsleman.net/how/f/flint/flintlock2.jpg แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 53 13:39:28 จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:38:28

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับข้อมูลอ้างอิง พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง (คาบชุด : MATCH LOCK) จัดอยู่ในหมวด พระแสงอัษฎาวุธ ซึ่งจะอัญเชิญมาต่อเมื่อมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครับ ประกอบด้วย ๙.๑. พระแสงตรีศูล คือ พระแสงราชศัสตราวุธ ทำจากเหล็ก รูปสามเหลี่ยมง่าม ปลายเรียวแหลม มีสองคม ด้ามทำจากไม้หุ้มทองคำ     จำหลักรูปพระ นารายณ์ทรงสุบรรณลงยาราชาวดี ส้นด้ามสลักหัวเม็ดทรงมัณฑ์ ๙.๒. พระแสงจักร คือ พระแสงราชศัสตราวุธ สันนิษฐานว่า ทำจากเหล็กคร่ำทองคำ รูปกลมแบน ๙.๓. พระแสงธนู คือ พระแสงราชศัสตราวุธ สันนิษฐานว่า คันทำจากไม้ ลูกศรทำจากเหล็ก ก้านทำจากไม้ ๙.๔. พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย คือ พระแสงราชศัสตราวุธ สันนิษฐานว่า ทำจากเหล็กกล้า ใบคมอย่างดาบ ติดกั่นใบง้าว     ด้ามทำจากโลหะหรือไม้ เนื้อแข็ง คร่ำทองคำหรือหุ้มทองคำ ส้นด้ามสลักหัวเม็ดทรงมัณฑ์ ๙.๕. พระแสงปืนคาบชุดแม่น้ำต้นสะโตง คือ พระแสงราชศัสตราวุธ คล้ายปืนยาว ปากกระบอก มีความยาวประมาณ ๙ คืบ ๙.๖. พระแสงดาบเชลย คือ พระแสงราชศัสตราวุธ สันนิษฐานว่า ทำจากเหล็ก มีคมตามยาว ด้ามทำจากไม้หุ้มทองคำ ๙.๗. พระแสงดาบกับเขน คือ พระแสงราชศัสตราวุธ สันนิษฐานว่า ทำจากเหล็ก มีคมตามยาว ส่วนเขน ทำจากเหล็กหรือไม้เนื้อแข็ง     รูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าหนา มีปลอกสวมแขน ๙.๘. พระแสงหอกเพชรรัตน์ คือ พระแสงราชศัสตราวุธ ทำจากเหล็กกล้า ปลายเรียวแหลม มีคมเหมือนพระขรรค์ ติดกั่นโคนใบหอก     คันทำจากไม้ เนื้อแข็งเรียวยาว ปลายติดกระบังรูปสี่เหลี่ยมอย่างดอกประจำยาม มีปลอกทำจากเงินจำหลักลายสวมรัดปลายคัน     เรียกว่า " เถลิงคอหอก " หรือ " เถลิงคอ " และทำฝักสวมใบหอก http://www.kingdom-siam.org/convention-a-g.html จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:47:33

ความคิดเห็นที่ 33 มานั่งรอดู ปืนครับ ^^ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:57:05

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม ลองหาหนังสือชื่อ  "..พระแสงอัษฎาวุธและพระแสงสำคัญสำหรับ แผ่นดิน .. " แต่งโดย หม่อมราชวงศ์ แสงสูรย์ ลดาวัลย์ อดีตข้าราชการสำนักพระราชวัง(ผมจำตำแหน่งสุดท้ายของท่านไม่ได้ครับ ขออภัยอย่างสูง) เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ประกอบไปด้วย นเรศวรมหาราช - - สมเด็จพระ - - 2133 - 2148 พุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช - - พระบาทสมเด็จพระ - - 2325 - 2352 พระมาลาเบียง พระแสง พระแสงจักร พระแสงตรีศุล พระแสงธนู พระแสงหอกเพชรรัตน์ พระแสงเชลย พระแสงดาบเขน พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย พระแสงปืนคาบชุดข้ามแม้น้ำสะโตง พระแสงฝักทองคาบค่าย น่าจะชัดเจนเกิน ๑๐๐ % นะครับว่า พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง เป็นพระแสงปืนแบบคาบชุด (MATCH LOCK) นี่ล่ะครับ งานช้างเลยสำหรับพวกที่รู้ประวัติศาสตร์ เพราะต้องตามมาคอยแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่หนังเรื่องหนึ่ง ทำออกมาเผยแพร่ให้คนไทยรุ่นหลังได้ชมกัน นี่ถ้าคนรุ่นก่อนเขาไม่จดบันทึกไว้ละเอียดแบบนี้ ไม่อยากจะคิดเลยครับว่า เรื่องมันจะ "มั่ว" ไปได้ขนาดไหน ไหนจะยังมีเรื่อง หอรบแบบเคลื่อนที่ได้ ในหนังบางเรื่อง (ภาคแรก) ที่เอาแนวคิดของ  "บันไดเมฆ" หรือ (TOWER : Seige machine war) มาผสมใส่ให้มั่วเข้าไปอีก เพราะตามตำราพิไชยสงครามของสยามแต่โบราณ ไม่มีหอรบที่เคลื่อนที่ได้แบบนี้ม่ก่อนครับ .... นี่แหละครับ ผลแห่งการทำอะไรออกมา โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง... จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:57:06

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ คุณผ้าพับไว้ สำหรับข้อมูลดีๆ ครับ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 18:27:04

ความคิดเห็นที่ 36 ยืนยันปืนคาบชุดครับ สมัยนั้นปืนที่เข้ามากับพวกวิลาศโปรตุเกส เปนปืนคาบชุดทั้งสิ้น ปืนคาบศิลายังอยู่ในช่วงโปรโตไทป์ พัฒนากันในยุโรป เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ดินชนวนในถาดชื้นก็จุดไม่ติด ดังนั้นการจุดด้วยชุดไฟจึงแน่นอนกว่ามาก จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 20:45:58

ความคิดเห็นที่ 37 ....     ชำระ ประวัติศาสตร์ ซะ แต่แม่น้ำสะโตง กว้างมาก ไม่รู้ช่วงที่ท่าน ยิงนั้นแคบหรือเปล่า แต่ช่วงที่สะพานข้ามนั้น กว้างจริงๆ น่าจะกว้าง กว่า แม่น้ำเจ้าพระยานะ      ใจผมว่าท่านต้องแม่นมากๆครับ ถ้าเป็นผมก็คงต้อง UZI ครับ กด หมดแม๊ก อาจจะโดนเฉี่ยวๆ สักลูก                                                                                        ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 08:18:11