ความคิดเห็นที่ 1 จั๊กจี้ คือการสัมผัสชนิดหนึ่งที่ส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อทำให้ผู้ที่โดนสัมผัสนั้นบิดตัวหรือหัวเราะโดยอัตโนมัติ คำว่า "Tickle" มาจากภาษา Middle English ว่า  tikelen แปลว่าสัมผัสอย่างเบาๆ "to touch lightly." มีสำนวนว่า The idiom tickled pink แปลว่า ถูกทำให้พึงพอใจ (to be please) http://en.wikipedia.org/wiki/Tickling http://center-for-nonverbal-studies.org/tickle.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:11:24

ความคิดเห็นที่ 2 เอิ๊กๆ จากคุณ : HS9YLO เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:14:36

ความคิดเห็นที่ 3 Knismesis and gargalesis ในปี 1897 มีนักจิตวิทยาชื่อ G. Stanley Hall และ Arthur Allin ได้ตั้งคำขึ้นมาใหม่สองคำว่า Knismesis และ gargalesis เพื่ออธิบายว่าการจั๊กจี้มีสองแบบ Knismesis คำนี้หมายถึง การจั๊กจี้แบบแผ่วเบาแบบขนนก การจั๊กจี้ประเภทนี้มักไม่ทำให้เกิดการหัวเราะแต่จะทำให้เกิดความรู้สึกคัน การทำให้เกิด Knismesis โดยการกระตุ้นระดับต่ำที่บริเวณที่ไว (sensitive) ของร่างกาย การกระตุ้นนี้ทำได้โดยการสัมผัสเบาๆหรือการใช้กระแสไฟฟ้าเบาๆ Knismesis ยังสามารถเกิดจากแมลงไต่ผิว ทำให้เกิดการเกาหรือถูจุดนั้นๆอย่างทันทีทำให้ปัดแมลงออกได้ การเกิด Knismesis เกิดได้ในสัตว์หลายๆชนิด ตัวอย่างที่โด่งดังมีบรรยายในหนังสือเรื่อง Peter Benchley's Shark! ว่าเขาเห็นมาว่าถ้าเจอฉลามขาวจะเข้ามาหาเรา เราก็จะจั๊กจี้มันใต้จมูกมันจะงงเหมือนโดนสะกดจิต!!! (ใครลองทำตามมือขาดไม่รู้ด้วยนะ เอิ๊กๆๆๆ) http://www.newscientist.com/article/mg17623725.500-the-word-knismesis.html http://en.wikipedia.org/wiki/Knismesis_and_gargalesis#cite_note-Harris-1 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:16:48

ความคิดเห็นที่ 4 Knismesis จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:20:19

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาจั๊กจี้ ขวา... จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:20:21

ความคิดเห็นที่ 6 Gargalesis คำนี้หมายถึงการจั๊กจี้ด้วยความแรงกว่า ทำให้เกิดการหัวเราะ และต้องทำซ้ำๆที่บริเวณที่ sensitive ต่อการจี้ การจี้แบบหนักๆ (heavy tickle) นี้เกี่ยวข้องกับการเล่นและการหัวเราะ มีผลทั้งในมนุษย์ ลิง และอาจจะมีในสัตว์สปีชีส์อื่นด้วย Gargalesis นี้ทำให้เกิดได้ทั้งความรู้สึกพึงใจหรือตื่นเต้น แต่บางครั้งก็อาจทำให้เกิดความไม่พึงใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจี้แบบไม่หยุดหย่อน การจี้แบบนี้ตัวอย่างคือ การใช้นิ้วจิ้มไปที่เอวหรือซี่โครงคนอื่น จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:21:53

ความคิดเห็นที่ 7   ่ตามติดกระทู้นี้แบบเหนียวแน่น อยากรู้ว่ามีวิธีแก้มั๊ยคะ เราเองก็บ้าจี้ขึ้นสมองเลยค่ะ -*- จากคุณ : icinnak เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:24:01

ความคิดเห็นที่ 8 Physiology ในขณะที่ Knismesis มักเกิดจากแมลงหรือสัตว์ไต่ เช่น แมงมุม ยุง และ knismesis นี้เกิดได้ในสัตว์หลายชนิด แต่ Gargalesis กลับจำเพาะเฉพาะคนและลิง (แต่ก็มีการทดลองพบในหนูได้) http://www.psych.umn.edu/courses/fall06/macdonalda/psy4960/Readings/PankseppRatLaugh_P&B03.pdf คลิปการจั๊กจี้หนู หนูมีปฏิกริยาตอบสนองคือจะทำเสียงเหมือนหัวเราะ แล้วหลังจากนั้นมันจะวิ่งตามมือของคนจั๊กจี้ แสดงว่าหนูมันชอบ !! เอิ๊กๆๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:26:46

ความคิดเห็นที่ 9 ในปี 1939 , Yngve Zotterman แห่ง  Karolinska Institute สตอกโฮม ได้ศึกษาการจั๊กจี้แบบ Knismesis ในแมวโดยวัด Action potential ที่เกิดขึ้นในเส้นประสาทของแมว เมื่อเขาใช้สำลีเขี่ยเบาๆบนผิวแมว   เขาพบว่าการกระตุ้นนี้ทำให้เกิดการจั๊กจี้ที่ส่งกระแสประสาทโดยเส้นที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวด pain fiber (group C unmyelinated fibers) เหมือนการคัน http://pt.hcu.ac.th/pt3204/files/submenu103.html   Action potential จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:29:15

ความคิดเห็นที่ 10 ขนาดของเส้นประสาทนำความเจ็บปวด Pain fiber อันขวาสุด จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:31:05

ความคิดเห็นที่ 11   นานๆจะได้ปาด ดร.พรกิ๊ฟ เอิ๊กๆ จากคุณ : เหอะๆ (lockdown) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:31:38

ความคิดเห็นที่ 12 การศึกษาเพิ่มเติมบอกว่าในคนที่ได้รับการผ่าตัดนำเส้นประสาท pain nerves ออกเพื่อลดความเจ็บปวดที่รุนแรง พบว่าในคนไข้จะลดการตอบสนองต่อการจั๊กจี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในคนที่มีการบาดเจ็บที่ไขสันหลังแล้วสูญเสียความรู้สึกเจ็บปวดไปนั้น ก็ยังมีการตอบสนองต่อการจั๊กจี้ก็ยังเกิดได้ ความรู้สึกจั๊กจี้นั้นน่าจะส่งโดยเส้นที่เกี่ยวกับการสัมผัสด้วย เพราะเวลาแขนหรือขาขาดเลือดไปเลี้ยงจะสูญเสียความรู้สึกสัมผัส(touch)และความรู้สึกจั๊กจี้ ก่อนที่จะสูญเสียความรู้สึกเจ็บปวด(pain)ในเวลาต่อมา http://www.americanscientist.org/issues/feature/1999/4/the-mystery-of-ticklish-laughter แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 53 14:32:54 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:32:10

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบครับเรื่องแบบนี้ จากคุณ : บ้าจี้ (ยี่สิบสองบาท) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:32:31

ความคิดเห็นที่ 14 รูปการส่งประสาทในระบบประสาทในการจั๊กจี้ จากเส้นประสาทที่เกี่ยวกับความเจ็บปวด (pain) แสดงด้วยสีแดง และเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัส (touch)แสดงด้วยสีน้ำเงิน ซึ่งจากการทดลองพบว่าการจั๊กจี้เบาๆแบบรำคาญนั้นส่งโดยเส้น pain เป็นอย่างน้อย แต่คนที่บาดเจ็บที่ไขสันหลังที่เสียความรู้สึกเจ็บยังสามารถรู้สึกจั๊กจี้ได้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าการส่งประสาทจั๊กจี้เกิดที่เส้นประสาททั้งคู่ http://www.americanscientist.org/issues/feature/1999/4/the-mystery-of-ticklish-laughter จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:34:14

ความคิดเห็นที่ 15 จั๊กจี้ ขวา จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:35:04

ความคิดเห็นที่ 16 เหมือน เคยอ่านกระทู้ ทำนองว่า ทำอย่างไรถึงทำให้ตัวเองรู้สึกเสียว จากคุณ : ble_swu เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:35:02

ความคิดเห็นที่ 17 ดังนั้นจึงน่าคิดว่าบริเวณที่ไวต่อการจั๊กจี้นั้นคงมีปลายประสาทรับ (touch) มาก แต่กลับไม่พบว่าในบริเวณที่ไวต่อการจั๊กจี้จะมีตัวรับสัมผัส (touch)มากเป็นพิเศษแต่อย่างใด ในขณะที่ฝ่ามือเป็นส่วนที่ไวที่สุดต่อการสัมผัส แต่ที่ที่ไวที่สุดในการจั๊กจี้คือฝ่าเท้า บริเวณที่ไวต่อการจั๊กจี้อื่นๆคือ รักแร้ ด้านข้างลำตัว คอ เข่า บริเวณกระบังลม สะดือและซี่โครง ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าที่ที่ไวต่อการจั๊กจี้นี้เป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่บริเวณที่ไวเหล่านี้ไม่มีความแตกต่างกันในผู้หญิงกับผู้ชาย ถึงหลักฐานจะบ่งบอกว่าการจั๊กจี้คือการกระตุ้นทางระบบประสาท แต่คนบ้าจี้บางคนเริ่มหัวเราะตั้งแต่ยังไม่โดนตัวด้วยซ้ำ http://en.wikipedia.org/wiki/Tickling จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:35:36

ความคิดเห็นที่ 18 ทีแรกอ่านหัวกระทู้ ว่ามาจ้ำจี้กัน เหอๆ อ่านผิด จากคุณ : นายอินเลิฟ (NINEINLOVE) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:36:25

ความคิดเห็นที่ 19 mOOgrOb'pm' ^^ หวัดเด ตั้งแต่อดีตกาลมา นักปราชญ์และนักวิทยาศาสตร์หลายท่าน เช่น เพลโต อริสโตเติล กาลิเลโอ ก็พยายามคิดหาว่าจั๊กจี้นี้คืออะไร ในหนังสือThe Assayer กาลิเลโอได้กล่าวถึงการจั๊กจี้ในบริบทของการรับรู้โลกภายนอกของคนเราว่า “เมื่อโดนสัมผัสที่ฝ่าเท้า ใต้เข่า หรือรักแร้ เป็นต้น เราจะมีความรู้สึกที่มากกว่าปกติ เราได้ตั้งชื่อความรู้สึกนี้ว่าการจั๊กจี้ ความรู้สึกนี้เป็นของเรา ไม่ได้เป็นของมือที่ใช้จี้  การใช้กระดาษหรือขนนกลูบเบาๆไปที่ตา จมูกหรือริมฝีปากบน ก็จะได้ผลเหมือนกัน โดยจะรู้สึกจั๊กจี้จนทนไม่ได้ถึงแม้ว่าถ้าจี้ที่อื่นจะไม่รู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกจั๊กจี้เป็นของเรา ไม่ใช่ของขนนก ถ้าเราไม่มีความรู้สึกสัมผัสของร่างกายเรา โลกนี้ก็ช่างว่างเปล่านัก” http://en.wikipedia.org/wiki/Tickling หนังสือThe Assayer จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:39:30

ความคิดเห็นที่ 20 แต่คนที่อธิบายเรื่องจั๊กจี้ในทางวิทยาศาสตร์คือ ชาลส์ ดาร์วิน และตีพิมพ์ออกมาในปี 1872 ในหนังสือ The Expression of the Emotions in Man and Animal (เก่งจริงๆ)  ราว13 ปีหลังจากเล่มโด่งดังที่ชื่อ Origin of Spiecies จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:43:31

ความคิดเห็นที่ 21 คางคกก็จั๊กจี้ด้วยนา ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:44:24

ความคิดเห็นที่ 22 Darwin สังเกตได้ว่า การจั๊กจี๋นั้นเป็นปรากฏการณ์สังคมของสัตว์ ทำให้ผู้ถูกจี๋เกิดการหัวเราะที่เหมือนกับการตลกขบขันแล้วหัวเราะ โดยดูจากปฏิกริยาทางกายต่างๆที่คล้ายกันอย่างตัวงอ กระตุกเหมือนชัก ขนลุก ทุกคนรู้ว่าเด็กๆหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ตัวกระตุกอย่างไร เมื่อเด็กๆถูกจั๊กจี้ (Darwin 1872:197) ลิง anthropoid apes เมื่อถูกจั๊กจี้ได้ทำเสียงซ้ำๆคล้ายๆกับการหัวเราะของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโดนจั๊กจี้ที่รักแร้ (Darwin 1872:197-98) ดาร์วินได้ตั้งสมมติฐานแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการจั๊กจี้และการเข้าสังคมและอารมณ์ขัน บอกว่าการจั๊กจี้ไปทำให้หัวเราะเพราะคนที่ถูกจี้ได้รับความพึงพอใจ ถ้าคนแปลกหน้ามาจั๊กจี้เด็กโดยไม่เตือนก่อน เด็กมักจะไม่หัวเราะแต่จะสะดุ้งหนีไม่พอใจ ดาร์วินบอกว่าถ้าจะจั๊กจี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องไม่รู้ตัวว่าจะโดนจี้ที่ตำแหน่งไหน จึงเป็นเหตุผลที่ว่าคนเราไม่สามารถจั๊กจี้ตัวเองได้ แต่ต่อมาก็มีผู้มาปฏิเสธท.บ.ของดาร์วินที่ว่าการจั๊กจี้สัมพันธ์กับอารมณ์ขัน คนนั้นคือ คริสติน แฮรริส http://center-for-nonverbal-studies.org/tickle.htm http://en.wikipedia.org/wiki/Tickling จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:46:12

ความคิดเห็นที่ 23 ปาดดดดดดดด โอ๊ย จั๊กจี้หัวใจ  เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:46:55

ความคิดเห็นที่ 24 Christine Harris จาก the University of California แห่ง San Diego ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิจัยเรื่องจั๊กจี้ไม่กี่คนที่มีอยู่นั้น บอกว่า “มันเป็นเรื่องประหลาดมากที่คนเราจะหัวเราะเพียงแค่เพราะโดนเอานิ้วจิ้มเอว” เธอและ Dr. Nicholas Christenfeld at the university in San Diego ได้ทำการทดลองเรื่องจั๊กจี้และลงตีพิมพ์ในวารสาร the journal Cognition and Emotion เธอได้อ่านหนังสือของดาร์วินที่บอกว่าการจั๊กจี้นั้นสัมพันธ์กับอารมณ์ขัน เพราะสามารถทำให้เกิดอาการเหมือนๆกันคือ ทำให้เกิดการหัวเราะ ขนลุก กล้ามเนื้อสั่นกระตุกดิ้นไปมา เธอคิดว่าไม่จริง เพราตอนเด็กๆนั้นเธอเคยถูกจี้ แล้วเธอก็หัวเราะแต่รู้สึกว่าไม่พอใจ คริสติน แฮรริส จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:49:27

ความคิดเห็นที่ 25 คุณลาบ!!! นั่นมุกเด็ดเรานะ อุบไว้ก่อน อิอิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:51:03

ความคิดเห็นที่ 26 กีบหมดแล้ว แปะไว้ก่อนน้า จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:53:26

ความคิดเห็นที่ 27 เธอกับ Dr. Christenfeld จึงพิสูจน์สมมติฐานนี้ โดยอิงการศึกษาอื่นที่ว่าการชมการแสดงตลกนั้นถ้าให้นักแสดงตลกคนอื่นมา “warm up” ก่อน พอดูการแสดงตลกทีหลังจะขำมากขึ้น การทดลองนี้ทำโดยการให้นักศึกษา 72 คนที่มหาวิทยาลัยนี้แบ่งเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกให้โดนจั๊กจี้ก่อน 10 วินาทีหรือจนกว่าจะทนไม่ได้แล้วให้ดูวีดีโอเดี่ยวไมโครโฟนตลกรายการ''Saturday Night Live'' กลุ่มสองให้ดูรายการตลกก่อนแล้วค่อยจั๊กจี้ กลุ่มสามกลุ่มควบคุมคือให้ดูวีดีโอเกี่ยวกับธรรมชาติที่ไม่ตลกเลย แล้วค่อยจั๊กจี้ ถ้าเกิดอารมณ์ขันกับการจั๊กจี้เกี่ยวข้องกัน ผู้เข้าร่วมทดลองที่ถูก “warm up” ด้วยการจั๊กจี้ก่อนน่าจะหัวเราะมากขึ้น แต่ปรากฏว่าผลการทดลองไม่เป็นเช่นนั้น การหัวเราะกลุ่มหนึ่งและสองเท่าๆกับกลุ่มควบคุม ดังนั้นการจั๊กจี้จึงไม่เพิ่มความรู้สึกพึงพอใจในการทดลองนี้ แฮรริสจึงบอกว่าการหัวเราะจากการจี้ ไม่ได้บ่งชี้ถึงความสนุกสนานในคนหลายๆคน http://www.nytimes.com/1997/06/03/science/anatomy-of-a-tickle-is-serious-business-at-the-research-lab.html?sec=&spon=&pagewanted=all จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 14:55:00

ความคิดเห็นที่ 28 มีผู้วิจารณ์ว่า การที่ให้คนแปลกหน้ามาจั๊กจี๋นี่ ไม่ธรรมชาติเอาเสียเลย ซึ่งแฮริสก็ยอมรับ “การเป็นคนที่ต้องไปจี๋คนอื่นนี่ไม่ง่ายเลย เพราะจะรู้สึกตะขิดตะขวงเหมือนล่วงเกินคนที่ไม่รู้จัก” แต่ผลการวิจัยกับน่าสนใจมากในแง่ที่ว่า หากการหัวเราะเป็นปฏิกริยาตอบสนองทางกายเท่านั้น ดังนั้น คนบ้าจี้ทั้งหลายก็ควรถูกกระตุ้นได้โดยไม่ขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งเธอก็ลองไปจี๋เอวคนไม่รู้จักตามงานเลี้ยงต่างๆดู ( ไม่รู้ว่าถูกชกกลับหรือไม่ ) ปรากฏว่า ทุกคนได้แต่สะดุ้งแต่ไม่ยักกะหัวเราะ “ผู้ใหญ่มักจะควบคุมปฏิกริยาหัวเราะจากจั๊กจี๋ได้ดีกว่าเด็ก ฉันอยากบอกว่าปฏิกริยานี้ถูกปรับเปลี่ยนได้” แฮริสคิดการทดลองที่สองของเธอออกตามมา คราวนี้เธอได้อาสาสมัคร 33 คน กับของเล่นใหม่ คือ หุ่นยนต์จั๊กจี๋ ที่มีมือและนิ้ว “คุณคงดูออกว่า นี่เป็นการทดลองต่อจากภาคก่อน” แฮริสอธิบาย “แปลกไหมคะ ที่เราจี้ตัวเองไม่ได้ผล เราต้องการคนอื่นมาทำให้ ซึ่งก็คือต้องมีสถานการณ์ทางสังคมเกิดขึ้น แต่หุ่นยนต์นี้จะจี๋คุณโดยที่ไม่ได้เป็นคน” เจ้าหุ่นยนต์นี้เข้ามาเพื่อพิสูจน์ความคิดของแฮริสที่ว่า จำเป็นต้องมีคนอีกคนมาอยู่เพื่อให้ครบองค์จั๊กจี้หรือไม่ “ คุณไม่ต้องจี๋ตัวเอง เจ้าหุ่นทำให้ แต่ไม่ใช่คนนะ ซึ่งถ้าการจั๊กจี๋เป็นปรากฏการณ์สังคมจริง หุ่นยนต์ไม่ควรจึ๋คุณได้สำเร็จ” อาสาสมัครทั้ง 33 คน จะถูกให้นั่งผูกตา อุดหู อยู่ในห้อง lab เปลือยเท้าขวา ในขณะที่ขาทั้งท่อนถูกผูกไม่ให้ขยับหนีเมื่อถูกจี๋ โดยอาสาสมัครได้รับคำบอกเล่าว่า เธอกับหุ่นยนต์จะผลัดกันมาจี๋พวกเขารายละ 5 วินาที หุ่นยนต์ตัวนี้ถูกดีไซน์จากผลรวมชิ้นส่วนต่างๆอย่างเครื่องพ่นยาแก้หอบหืดที่ส่งเสียงหึ่งๆตลอดเวลา แขนหุ่นยนต์ที่แฮริสไปซื้อมาจาก Toys R Us ด้วยความอยากที่จะให้หุ่นยนต์หน้าตาไม่เหมือนคนมากที่สุด จะได้ไม่เป็นส่วนของสถานการณ์ทางสังคมกับผู้ทดลอง การทดลองดูสนุกขึ้นไปอีกโดยการที่ให้อาสาสมัครเดินเข้าห้องโดยเห็นว่า มีแต่หุ่นยนต์อยู่ แฮริสกำลังเดินออกจากห้อง แต่จริงๆแล้วยังมีผู้ช่วยของเธออีกคนซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มในห้อง แอบไปจี๋ฝ่าเท้าของอาสาสมัครทั้ง 2 ครั้งแทนเธอและหุ่นยนต์ โดยที่อาสาสมัครคงนึกว่า เป็นหุ่นยนต์กับแฮริสเข้ามำทำอย่างที่บอกกันไว้ก่อน “ที่ฉันกับเจ้าหุ่นไม่จี๋เองก็เพราะ เดี๋ยวเราจี๋หนักเบาไม่เท่ากัน ถ้าคนเดียวทำ จะได้ผลที่สม่ำเสมอกว่า” และแล้วผลการทดลองก็ออกมาว่า สถานการณ์ทางสังคมไม่จำเป็นสำหรับการจั๊กจี๋ หักล้าง ท.บ. ของดาร์วิน “อาสาสมัครของเรายิ้มแล้วก็หัวเราะเท่าๆกันทั้งตอนที่เขานึกว่าหุ่นกับคนกำลังจี๋เขาอยู่ แถมพอตอนจบ เราให้อาสาสมัครตอบแบบสอบถามว่าหุ่นยนต์จี๋ดีไหม ยังตอบกันว่าหุ่นจี๋ไม่มัน ต้องแก้โปรแกรมใหม่กันเสียอีก แสดงว่าถูกหลอกไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ” รูปอันนี้ไม่ใช่ในการทดลองนะ หาไม่เจอ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:04:08

ความคิดเห็นที่ 29 ดังนั้นจึงสรุปว่าการหัวเราะจากการถูกจั๊กจี้ เป็นรีเฟล็กซ์ (reflex) เหมือนตอนไปหาหมอ แล้วหมอเคาะเข่าแล้วมันเด้งขึ้นมาเอง ประมาณนั้น ไม่สามารถบังคับได้ http://www.nytimes.com/1997/06/03/science/anatomy-of-a-tickle-is-serious-business-at-the-research-lab.html?sec=&spon=&pagewanted=all จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:05:18

ความคิดเห็นที่ 30 ผลการทดลองนี้เข้าได้กับการทดลองก่อนหน้านั้นในปี 1941 ที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Genetic Psychology โดย Dr. Clarence Leuba แห่ง Antioch College in Yellow Springs, Ohio ทดลองโดยใช้ลูกวัยแบเบาะของตัวเองสองคน เขาใส่หน้ากากตอนจั๊กจี้ และไม่ทำท่าแบบเล่นสนุกด้วย ถึงแม้กระนั้นเด็กน้อยก็ยังหัวเราะเมื่อถูกจั๊กจี้ แปลได้ว่าความรู้สึกจั๊กจี้นี้เป็น Reflex ที่มีมาแต่กำเนิด มากกว่าจะเป็นจากการเรียนรู้หรือกระบวนการทางสังคม http://www.nytimes.com/1997/06/03/science/anatomy-of-a-tickle-is-serious-business-at-the-research-lab.html?sec=&spon=&pagewanted=all จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:06:00

ความคิดเห็นที่ 31 แต่ถ้าการจั๊กจี้เป็นการตอบสนองแบบอัตโนมัติ (reflex) จะนำไปสู่คำถามที่ยากขึ้นอีกคือ แล้วทำไมถึงจั๊กจี้ตัวเองไม่ได้ล่ะ แฮรริสบอกว่าคำตอบก็เหมือนกับว่าทำไมเราถึงไม่สามารถทำให้ตัวเองตกใจกลัวได้ เพราะสิ่งที่ขาดหายไปในการจั๊กจี้ตัวเองคือความประหลาดใจ (surprise) ดั่งที่เห็นได้ใน Moro reflex ของเด็กทารก (Moro reflex ของเด็กทารก เวลาเราแกล้งทำให้เด็กทารกตกใจ เด็กจะผวากางแขนโอบกอดแล้วหดแขนเข้ามา เป็นอัตโนมัติตั้งแต่เกิดทุกคน) คลิปโมโร รีเฟล็กซ์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:07:50

ความคิดเห็นที่ 32 21# น่ารักเชียว -"- จากคุณ : กระดาษไม่มีเยื่อ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:08:59

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วคำถามต่อไปคือ จั๊กจี้สำคัญอย่างไรกับสิ่งมีชีวิต ความรู้สึกจั๊กจี้และการหัวเราะเป็นสากล (universal) ในบรรดามนุษย์และลิงชิมแพนซี น่าจะมีปัจจัยทางวิวัฒนาการมาเกี่ยวเนื่องด้วย นักวิจัยต่างก็เห็นตรงกันว่า การเล่นจั๊กจี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับทารก แม่จั๊กจี้ลูกน้อย ลูกก็หัวเราะและยิ้มร่าเริง แม่ก็หัวเราะตอบ  ทั้งคู่ใช้ประโยชน์จากวิวัฒนาการนี้ แต่ Dr. Glenn Weisfeld, a human ethologist at Wayne State University in Detroit บอกว่าการจั๊กจี้อาจมีความสำคัญกว่านั้น คือเป็น educational activity เพราะว่าส่วนที่ไวต่อความรู้สึกจั๊กจี้นั้นก็เป็นส่วนที่เปราะบางต่ออันตรายจากการจู่โจมทำร้ายด้วย เราอาจมีความรู้สึกจั๊กจี้เป็นอัตโนมัติเพื่อให้ร่างกายเราได้ฝึกฝนป้องกันอันตรายที่จะมาจู่โจมเราในที่เหล่านั้น เด็กๆที่หัวเราะ จะส่งผลให้ผู้ใหญ่ยิ่งจั๊กจี้มากขึ้น เป็นการฝึกวิทยายุทธที่ปลอดภัยนั่นเอง http://www.nytimes.com/1997/06/03/science/anatomy-of-a-tickle-is-serious-business-at-the-research-lab.html?sec=&spon=&pagewanted=all จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:10:35

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้ารู้ตัวว่าถูกจั๊กจี้ ผมทนอยู่เฉยๆ ไม่หัวเราะ ไม่ดิ้น ไม่หลบได้นะ จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:13:18

ความคิดเห็นที่ 35 นักจิตวิทยาเด็กหลายท่านบอกว่าการจั๊กจี้เด็กน้อยนั้นเป็นการทำให้เกิดความผูกพัน (bonding) ระหว่างพ่อแม่ลูก ความสัมพันธ์โดยการจั๊กจี้กันนี้จะดำเนินต่อจนถึงวัยเด็ก และจนถึงวัยรุ่นช่วงต้น จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:13:18

ความคิดเห็นที่ 36 แต่การจั๊กจี้ในระหว่างเพื่อนนั้น นักจิตวิทยาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งการเล่นขั้นสูงสุด (highest grade of social play) ทำให้เกิดความรักผูกพัน และปฏิกริยาทางพุทธิปัญญาความคิด “cognitive interaction” จะได้ผลสุดต่อเมื่อทั้งคู่ต้องมีความสบายใจที่จะเล่น ในวัยเจริญพันธุ์ การจั๊กจี้อาจเป็นการแสดงออกทางเพศอย่างหนึ่ง จั๊กจี้อาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการคุกคามทางเพศ (sexual harassment) ในขณะเดียวกัน คนที่ถูกจั๊กจี้อาจคิดว่าตัวเองถูกคุกคามทางเพศโดยที่จริงๆแล้วผู้จี้ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นก็ได้ http://en.wikipedia.org/wiki/Tickling จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:14:14

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้น่ารักหรือน่าสงสารดีเอ่ย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:15:18

ความคิดเห็นที่ 38 Dr. Richard Alexander, the Hubbell professor of evolutionary biology at the University of Michigan in Ann Arbor มองเรื่องการจั๊กจี้ในทางวิวัฒนาการว่า อารมณ์ขัน รวมถึงการจั๊กจี้ด้วย เป็นการยกระดับฐานะทางสังคมของผู้พูดตลก(joker teller) และผู้จี้ การยกระดับนี้อาจมากกระทั่งเพิ่มความสำเร็จในการสืบพันธุ์ได้ (reproductive success) ผู้พูดตลกจะเป็นฝ่ายที่สถานะสูงขึ้น และผู้ฟังจะเป็นฝั่งที่สถานะต่ำลงคือเป็นฝ่ายยินยอมจำนน คือเป็นการแสดงว่าคนพูดนี้ฉลาดแค่ไหน และผู้ฟังจะฉลาดพอที่จะเข้าใจเกมหรือไม่ Dr. Alexander บอกว่าเวลาสัตว์ในฝูงที่มีฐานะต่ำกว่า เหมือนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามันจะยิ้มยิงฟันก็เปรียบเหมือนคน (ให้นึกภาพหมาน้อยกำลังอ้อน) ดังนั้นการที่คนยิ้มหัวเราะตอนถูกจั๊กจี้อาจเป็นสัญญาณของการอ่อนน้อมยอมจำนน แนวความคิดนี้นำไปสู่กระแสสังคมที่ดังมากอันหนึ่งคือตุ๊กตา “Tickle-Me Elmo”  ความสนุกพึงพอใจที่ได้จากการจั๊กจี้ตุ๊กตาเอลโม่นี้คือการที่เราสามารถทำให้ตุ๊กตาลงไปนอนหัวเราะกิ๊กกั๊กบิดไปบิดมาได้สำเร็จ http://www.nytimes.com/1997/06/03/science/anatomy-of-a-tickle-is-serious-business-at-the-research-lab.html?sec=&spon=&pagewanted=all ****นี่ไงคุณลาบ มุกเด็ดของเรา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:17:16

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นกระทู่ที่ฮาสุดๆ จากคุณ : ท่านประธานบริษัท เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:17:45

ความคิดเห็นที่ 40 ตุ๊กตา Tickle Me Elmo® จะหัวเราะและตัวสั่นเวลาถูกจั๊กจี้  ถ้าจี้ครั้งนึงก็จะหัวเราะกิ๊กกั๊ก จี้อีกครั้งจะทำให้ตุ๊กตาเอลโม่หัวเราะนานขึ้นอีก จี้อีกครั้งทำให้หัวเราะอย่างบ้าคลั่งควบคุมตัวเองไม่ได้ มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเพื่อให้ประหยัดแบตเตอรี่ http://center-for-nonverbal-studies.org/tickle.htm แฮรริสบอกว่า ..  “ทำไมตุ๊กตาเอลโม่ถึงได้ขายดีเป็นที่นิยมมากรู้ไหม” “ถ้าตุ๊กตานี้มันเป็นฝ่ายจั๊กจี้คุณ ขายไม่ออกหรอก!!” จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:18:28

ความคิดเห็นที่ 41 ท่านประธาน เป็น"กระทู่" ที่ฮาสุดๆ กระทู่คืออะไร !!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:19:53

ความคิดเห็นที่ 42 Dr. Alexander บอกว่าเด็กที่ถูกจั๊กจี้สามารถเปลี่ยนจากหัวเราะไปเป็นร้องไห้ได้เลย ถ้าการจั๊กจี้นั้นทำรุนแรงมากเกินไป เพราะเป็นการกระทำหนึ่งของการข่ม “dominance” การจั๊กจี้แบบทารุณทำร้ายนั้นสามารถทำให้เกิดความบาดเจ็บของจิตใจได้เลย http://www.nytimes.com/1997/06/03/science/anatomy-of-a-tickle-is-serious-business-at-the-research-lab.html?sec=&spon=&pagewanted=all จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:21:55

ความคิดเห็นที่ 43 หมดยังเอ่ยยย  งั้นปาดดดดดดขวา จากคุณ : NorsDavincy เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:22:22

ความคิดเห็นที่ 44 ความสัมพันธ์ทางสังคมของการจั๊กจี้อีกอย่างคือ ระหว่างพี่น้องที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน มีงานวิจัยหลายอย่างที่บ่งบอกว่าพี่มักจะใช้การจั๊กจี้เพื่อข่มเหงน้อง เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะแสดงความรุนแรงโดยทำให้ไม่น่าเกลียด เพื่อจะข่มขวัญหรือลงโทษน้อง เรียกอีกอย่างว่า “ tickle torture” คือจั๊กจี้โหดนั่นเอง แรงจูงใจเบื้องหลังการจั๊กจี้โหดนี้แสดงถึงความเป็นผู้มีฐานะเหนือกว่า ดังที่กล่าวมาแล้วนั่นเอง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:23:48

ความคิดเห็นที่ 45 แจ่มครับ อิอิ จากคุณ : เอสซึ... เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:24:43

ความคิดเห็นที่ 46 Tickle toreture การทรมานด้วยการจั๊กจี้  เพื่อให้แสดงการข่มเหง หรือเป็นการทำร้าย ผู้ที่ถูกจั๊กจี้จะรู้สึกทรมานเพราะความรู้สึกจั๊กจี้นี้เป็นรีเฟล็กซ์ ไม่ได้เกิดจากความพึงพอใจทางสังคม การทรมานนักโทษด้วยการจั๊กจี้นี้มีมาแต่สมัยโบราณในเมืองจีน ในช่วงราชวงศ์ฮั่น จะเก็บไว้ทรมานนักโทษชั่นสูง เพราะจะไม่ทิ้งรอยไว้เบื้องหลังให้เป็นหลักฐาน และสามารถหายทรมานได้อย่างรวดเร็ว อีกตัวอย่างหนึ่งของการ tickle torture ใช้ในโรมัน จะให้เอาเท้าจุ่มในเกลือ แล้วปล่อยแพะมาเลียเกลือที่ฝ่าเท้า นานๆไปอาจทำให้เจ็บปวดเลย ในสมัยอังกฤษโบราณก็มีการจั๊กจี้ฝ่าเท้าเพื่อทรมานเหมือนกัน http://en.wikipedia.org/wiki/Tickle_torture จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:27:42

ความคิดเห็นที่ 47 ปลาก็จั๊กจี้ได้ด้วยหรือเปล่าครับ? เคยเอานิ้วไล่ตรงเส้นข้างลำตัวมันเล่นๆ แต่ดูเหมือนจะติดใจ พอเอานิ้วแหย่ลงไปก็จะเอาตัวมาถูๆ แมวด้วย เวลาโดนเกาคางจะทำหน้าพริ้มเชียว พอหยุดก็ร้องแง๊วๆ เหมือนอยากโดนอีก เหมือนใน #37 เลย เวลาหยุดจั๊กจี้มัน หน้าจะเศร้าๆ หงอยๆ มองหน้าเหมือนจะบอกถาม "หยุดทำไม?" จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:27:47

ความคิดเห็นที่ 48 แฮ่ม คุณจันทร์เย็น ตอบด้วยคลิปแมวละกัน เราว่าได้นะ แต่ปลาน่าจะได้แต่ Knismesis จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:30:07

ความคิดเห็นที่ 49 อันนี้ใครเคยทำมั่ง มันเป็น Tickle torture รึเปล่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:32:06

ความคิดเห็นที่ 50 Consensual tickle torture เป็น Fetish อย่างหนึ่ง  ถ้าหมกมุ่นอยู่แต่การจั๊กจี้อย่างเดียวถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ Paraphilia สนใจอ่านต่อเองน้า http://en.wikipedia.org/wiki/Tickle_torture จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:32:29

ความคิดเห็นที่ 51 Don Turtelli ตัวการ์ตูนในเรื่องเต่านินจา ใช้การทรมานและสอบสวนนักโทษโดยการจั๊กจี้ที่ฝ่าเท้า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:33:25

ความคิดเห็นที่ 52 โอ้ว เมื่อกี้รีเฟรชแล้วกระทู้หาย ใจก็หายแว๊บเลย ตกใจหมด!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:35:07

ความคิดเห็นที่ 53 จั๊กจี้พืช ธีโอฟราสตุส ( Theophrastus ) ศิษย์เอกของอริสโตเติลได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว พืชมีการวิวัฒนาการที่ทำให้ต้องป้องกันตัวจากสิ่งแวดล้อม เช่นลมพายุ ดังนั้นจึงสามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าเพียงเล็กน้อยได้ ถึงแม้จะไม่มีอวัยวะรับสัมผัสเหมือนสัตว์ แต่สามารถเปลี่ยนทั้งรูปร่างและอัตราการเติบโตได้จากการสัมผัส การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดได้ตั้งแต่เป็นหลักวันถึงสัปดาห์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:35:47

ความคิดเห็นที่ 54 การสัมผัสพืช thigmomorphogenesis มาจากคำว่า Thigma ในภาษากรีก แปลว่าสัมผัส การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยผ่านสัญญาณโมเลกุลหลายอย่าง เช่น intracellular calcium, jasmonates, ethylene, abscisic acid, auxin, brassinosteroids, nitric oxide และ reactive oxygen species ตัวอย่างการจั๊กจี้พืชที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ต้นไมยราบ Mimosa pudica (sensitive plant) http://en.wikipedia.org/wiki/Thigmomorphogenesis http://jxb.oxfordjournals.org/cgi/content/full/60/1/43 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:37:49

ความคิดเห็นที่ 55 โฟเอสสร้างสรรค์ กระทู้ดี มีคุณภาพ อีกแล้วครับท่าน จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:38:26

ความคิดเห็นที่ 56 ^ ^ ก๊ากๆๆๆ ตกใจหมดเลย นึกว่าใคร ที่แท้คุณทาสปริศนาหน้าตาอย่างนี้นี่เอง Thigmomorphogenesis ในต้น Arabidopsis เมื่อเราสัมผัสต้นนี้วันละสามครั้ง ทำให้เกิดการหยุดการเติบโต และเปลี่ยนเวลาการออกดอก เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม http://en.wikipedia.org/wiki/Thigmomorphogenesis http://jxb.oxfordjournals.org/cgi/content/full/60/1/43 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:41:28

ความคิดเห็นที่ 57 Self-tickle Knismesis อาจเป็นหลักฐานแสดงถึงการตอบสนองเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอม อาจเป็นเพราะจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นการจั๊กจี้ชนิดนี้ถึงเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องตกใจก็ได้ และสามารถทำให้ตัวเองจั๊กจี้แบบนี้ได้ด้วยการสัมผัสเบาๆ แต่ Gargalesis นั้นตรงข้าม เมื่อตัวเราเองจิ้มไปตรงที่ไวต่อการจั๊กจี้กลับไม่สามารถรู้สึกจั๊กจี้ได้ ดังนั้นการจั๊กจี้แบบนี้ต้องใช้ความประหลาดใจร่วมด้วย (surprise) ด้วยเหตุนี้คนเราจึงไม่สามารถจั๊กจี้ตนเองได้ ในการศึกษาหนึ่งเรื่องการจั๊กจี้ตนเองโดย Blakemore and colleagues  มีการใช้เครื่องถ่ายภาพแม่เหล็กไฟฟ้า MRI โดยให้อาสาสมัครใช้ joystick เพื่อบังคับให้หุ่นยนต์จั๊กจี้มาจั๊กจี้ตนเอง ก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองหัวเราะได้ จากภาพ MRI แสดงว่าเมื่อคนนั้นพยายามจั๊กจี้ตนเอง สมองส่วนซีรีเบลลัม (cerebellum) จะส่งข้อมูลให้สมองส่วน somatosensory cortex ซึ่งเป็นสมองส่วนที่รับรู้ความรู้สึกสัมผัส ว่ากำลังจะจั๊กจี้ที่ไหนทำให้คาดเดาได้ก่อน ทำให้ความรู้สึกจั๊กจี้ลดลงหรือหายไป จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:44:45

ความคิดเห็นที่ 58 somatosensory cortex (ขออภัย โพสข้ามหัวข้อนี้มา เอิ๊กๆๆ) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:46:06

ความคิดเห็นที่ 59 สรุปว่าจะจั๊กจี้คนอื่นได้หรือไม่ คนส่วนมากจะนึกเอาเองว่าผู้อื่นจะต้องสนุกมีความสุขแน่ๆถ้าโดนจั๊กจี้ แต่จากการสำรวจหนึ่งไม่นานมานี้พบว่า ในนักศึกษา 84 คนนั้น แค่ 32% เท่านั้นที่จะสนุกกับการจั๊กจี้ แต่อีก 32% เฉยๆ และ 36% บอกว่าไม่สนุกเลย แถมการศึกษานี้ยังระบุด้วยว่าพบความไม่สบายใจและอับอายอย่างมากเมื่อโดนจั๊กจี้   การทดลองนี้พบว่าการแสดงออกทางสีหน้าหรือการหัวเราะไม่สัมพันธ์กับคำตอบว่าพอใจหรือไม่ เช่น หัวเราะแต่ไม่พอใจมากกว่าคนที่หัวเราะและพอใจเสียอีก บ่งชี้ว่าเกิดจากปัจจัยอื่นคือความอายและความกังวลไม่สบายใจ มากกว่าจะเป็นแต่การตอบสนองทางกายภาพอย่างเดียว http://en.wikipedia.org/wiki/Tickling จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:47:23

ความคิดเห็นที่ 60 หมดยัง คุณกิ๊ฟ มาปาด แผล่บๆ ถามว่าแล้วทำไมจัก๊กจี้บ้างคนหัวเราะไปด่าไปหรืออุทาน คำประหลาดๆ ออกมาครับ จากคุณ : blue_nova เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:47:35

ความคิดเห็นที่ 61 ตอบคุณblue_nova ค่ะ คิดว่าน่าจะมาจากความอับอายและ anxiety ค่ะ ตาม ค.ห. 59 ค่ะ อ้าว จบแล้ว ลองหันหลังดูซิคะ ว่ามีคนคอยแอบจั๊กจี้คุณอยู่รึเปล่า !!! เอิ๊กๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 15:53:16

ความคิดเห็นที่ 62 แฮ่ม? ทำไมต้องแฮ่มเนี่ย? ขอแย้งๆ ผมว่าจริงๆ แล้วเราจั๊กจี้ตัวเองได้นะ ไม่เชื่อก็ลองจั๊กจี้คนข้างๆ ดู แล้วถาม "ตัวเองจั๊กเดียมป่ะ?" อีกฝ่ายจะตอบ "จั๊กเดียมสิ บ้า...ตัวเองอ่ะ เล่นอะไรไม่รู้"       สรุป: จั๊กจี้ตัวเอง ได้ผล...??        (- -" )a แต่ #59 ท่าจะจริง ยิ่งหัวเราะดังเท่าไหร่ ยิ่งตบแรงเท่านั้น... จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 16:17:24

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาจั๊กกะจี้ จากคุณ : Mr.KMAN (ChevCheLiOs) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 16:39:01

ความคิดเห็นที่ 64 เคยจั๊กจี้แถวๆ รักแร้หมาที่บ้าน มันก็ดิ้นๆๆ นะ เกาพุง มันก็ดิ้นๆ เดียมๆ อะ ก็จับขาหมาไว้ ไม่ให้มันเกาโดนมือได้ โคตรสะใจเลย จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 17:03:00

ความคิดเห็นที่ 65 #62 ยิ่งหัวเราะดังเท่าไหร่ ยิ่งตบแรงเท่านั้น... จริงสุดๆ TT^TT จากคุณ : สามเหมียวยอดนินจา (recember) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 17:11:29

ความคิดเห็นที่ 66 เรื่องน่าสนใจอีกแล้ว จากคุณ : คุณฉงน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 17:46:41

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน สำหรับทุกกำลังใจนะคะ กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา รายงาน ปล. รูปกิ๊ฟเองคะ (เผื่อแฟนคลับที่ติดตามผลงาน แต่ไม่เคยเห็นหน้า) จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 17:47:40

ความคิดเห็นที่ 68 ^ (-.-") ตอนเด็ก ๆ ชอบโดนพ่อกับแม่แกล้งจั๊กจี้ตลอดเลย หัวเราะแบบทรมาน ๆ จริง ๆ นะ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 18:07:54

ความคิดเห็นที่ 69 //ฮ่าฮ่้าฮ่า จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 18:14:29

ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อก่อน รู้สึกจั๊กจี้ เดี๋ยวนี้ เหมือน มัน บังคับไม่ให้รู้สึกจั๊กจี้ได้ ... ถ้าจะตายด้าน เหอะๆ ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 18:39:22

ความคิดเห็นที่ 71 ^ ^ คห. 49 ขากิ๊ฟเหรอ ว่ะฮ่ะๆๆๆๆๆ กรี๊ด คห.67 กิ๊ฟเปลี่ยนไป แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 53 18:47:51 จากคุณ : หวงหลิง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 18:44:29

ความคิดเห็นที่ 72 #71 ภาพ คห49 ขาดูผอมๆ และไม่ค่อยมีขนหน้าแข้งด้วย ไม่น่าใช่ขากิ๊ฟ จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 18:56:38

ความคิดเห็นที่ 73 คุณทาส เอารูปคุณกิ๊ฟ มาลงไม่บอกผมได้ไงครับ ... หึงนะ .... อ้าว จบแล้วหรอ ... มาไม่ทัน เอาเจ้านี่มาฝากละกัน จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 19:27:13

ความคิดเห็นที่ 74 ฮ่าๆๆ  คุณทาสอย่ามามั่ว ชั้นเปิดตัวไปแล้วย่ะ ชิ ตัวเองมาไม่ทันเอง คุณลาบ ระวังคอเคล็ดนะ โยกซะขนาดนั้น mOOgrOb'pm' โกรธแล้ว ไปเที่ยวไม่มีของฝาก ** แก้ไข หา!! เพิ่งไปอ่านเจอจะเอาผ้ามาฝากให้เชั้นซักเร้อออ คุณdip kid อย่าหึงนะเคอะ ดิฉันสวยเลือกได้นะเคอะ คุณผลึก เดี๋ยวนี้มีหือนะ แล้วคุณผลึกรู้มั้ยว่าคุณผลึก และคุณหวงหลิงเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน!!!! (คาดว่าคงไม่รู้ ตลกจังเลย อิอิ) แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 53 21:20:43 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 19:51:33

ความคิดเห็นที่ 75 พึ่งรู้วันนี้เอง จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 20:38:35

ความคิดเห็นที่ 76   เราเข้ามารายงานตัวช้า แต่เห็นอะไรน่ารัก ๆ เยอะเลย .... ชื่นนนนใจจัง ขอบคุณกิ๊ฟท์ ฯ จ้าวแห่งกระทู้คุณภาพ และดอกไม้สดใสประจำหว้ากอจ้า จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 20:48:17

ความคิดเห็นที่ 77 อยากได้ตุ๊กตานะ บ้าดี๕๕๕ จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 20:55:57

ความคิดเห็นที่ 78 เอ๋า เปิดตัวแล้วเหรอ เปิดกับใครอะ คุณเหงื่อตกหรือเปล่าน้า ไม่เห็นรู้เรื่องเลย จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 21:11:59

ความคิดเห็นที่ 79 นึกว่าจะไม่มาซะแล้วคุณ James Cook จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 21:18:49

ความคิดเห็นที่ 80 จริงๆ มีของมาฝากนะลิซ่า มีเสื้อ 3 ตัว กางเกง 2 ตัว มาฝาก แหละครับ .... ฝากซักครับ ... เปลืองน้ำที่บ้าน *พิมพ์ไม่้ทันคิด ... เอาออกไป 1 อย่าง ^_^ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 53 21:41:19 จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 21:20:44

ความคิดเห็นที่ 81 ^ ^ เพิ่งไปแก้ข้อความ mOOgrOb'pm' ก็มาพอดีเลย ใช้งานลิซ่ามากเกินไปแล้วนะยะจะให้ซักกกน.ด้วย แว๊กๆๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 21:25:00

ความคิดเห็นที่ 82 ง่า ไม่ทันคิด ขออภัย อย่างสูง ..... -_-' ข้าน้อยผิดไปแล้ว จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 21:37:03

ความคิดเห็นที่ 83 ^ ^ เราล้อเล่น ไม่ต้องขออภัย mOOgrOb'pm'  ตลกจะตาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 22:31:15

ความคิดเห็นที่ 84 หายตกใจยัง เราไม่ได้โกรธจริงๆนะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 22:46:51

ความคิดเห็นที่ 85 ผมมีรูปคุณกิ๊ฟเก็บไว้ด้วย เหอะๆๆ เห็นในกระทู้ จานกระจกติดบนหัว จากคุณ : stonehole เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 03:17:39

ความคิดเห็นที่ 86 ตกใจ หนีเตลิดเปิดเปิงเข้าป่าไปแระ ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:07:27

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่จริงอ่ะ ผมจั๊กจี้ตัวเองได้ แต่จริงที่ว่าถ้าไม่รู้ว่าจะโดนตรงไหน จะจั๊กจี้มากกว่า จากคุณ : เรามาอีกแล้ว... เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:52:34

ความคิดเห็นที่ 88 เหวอ จิงง่ะ เพื่อนเราเองเรอะ ใครหว่า ..... แล้วเวลาเค้าเอาขาให้ปลาตอด มันไม่จักจี้เรอะ แค่คิดเราก็จักจี้แล้ว ว่ะฮ่ะๆๆๆๆ เอารูป ตัวรับสัมผัสแผ่วเบา ในผิวหนังมาฝาก meissner corpuscle www.ouhsc.edu/histology/Text%252...ent.html จากคุณ : หวงหลิง เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 11:59:48

ความคิดเห็นที่ 89 หวงหลิง หลังไมค์ไปหาผลึกเลย ว่าเป็นใคร เอิ๊กๆๆ คุณ stonehole เอารูปไปทำ wall paper เลยค่ะ อิอิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 12:53:59

ความคิดเห็นที่ 90 จาก ค.ห. 67 ที่คุณทาสบอกว่าเป็นรูปเรา มีคนเข้าใจผิดเยอะนะคะ เราจึงร้อนตัวสุดฤทธิ์กลัวเรตติ้งตกนะคะ นี่รูปเราค่ะ มีเพื่อนในพันทิป(คุณผมมีล็อกอินแล้วฮะ)เอาไปทำ Fail ให้ค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ Fail ค่ะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:21:11

ความคิดเห็นที่ 91 เห็นแล้วครับตัวจริง แต่เอ๊ แล้วตอนถ่ายทำไมต้องหน้าเครียดขนาดนั้นหละ จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 18:12:10

ความคิดเห็นที่ 92 เห็นไหมว่าไม่เหมือนขาในภาพ #49 แฟนขับคืออะไร ?    ใช่ 'ขับไล่' หรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 53 19:14:18 จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 19:03:13

ความคิดเห็นที่ 93 เ่ข้ามาดู เข้ามาดูรูปคุณกิ๊ฟ ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 19:34:08

ความคิดเห็นที่ 94 จะว่าไป ผู้หญิงในรูป #90 ก็ดูน่ารักดีนะ  เพื่อนคุณกิ๊ฟหรือครับ จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 19:44:02

ความคิดเห็นที่ 95 ตอบคุณทาส "เค้าเรียกว่าโพสท่าแบบดุดันค่ะ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ America's next top model นะคะ" ตอบคุณผลึก "รูปขาใน ค.ห. 49 ได้มาจาก Net ค่ะไม่ใช่ขาเรา กล้าหือเดี๋ยวเราเอารูปคู่ของเรากับคุณผลึกมาโพสเป็นการ Blackmail นะคะ" ตอบคุณลาบ "คุณลาบทำหน้าสยดสยองขนาดนั้นแปลว่าอะไรเคอะ เดี๋ยวนี้เป็นดาราฮอลลีวูดแล้วหยิ่งเหรอเคอะ" จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 19:53:09

ความคิดเห็นที่ 96 คุณผลึก เราแอบบอกคุณหวงหลิงแล้วนะว่าคุณผลึกเป็นใคร อิอิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 19:56:00

ความคิดเห็นที่ 97 เคยเห็นคลิปของคนที่สำเร็จความใคร่ด้วยการถูกจั๊กจี้ ดูไปขำไปยังงงอยู่ว่ามีอารมณ์ได้ยังไงเห็นหัวเราะทั้งคลิปแล้วก็ถึงจุดสุดยอดกันซะงั้น จากคุณ : Desolation Angel เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 23:44:31

ความคิดเห็นที่ 98 เอ จะว่าไป กิ๊ฟชอบโพสต์ท่าแบบนี้ประจำเลยเนอะ สนับสนุนให้โพสต์รูป คุณผลึก เอาเลยๆๆๆๆ คุณลาบ แมวเปียกๆๆๆๆๆ ชอบๆๆๆ จากคุณ : หวงหลิง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 08:53:30

ความคิดเห็นที่ 99 โพสรูปคู่กับคุณผลึกไม่ได้หรอกหวงหลิงเราเก็บไว้แบล็กเมลยามจำเป็น หวงหลิงระวังจะหมดกีบไปกับบรรดาสัตว์โลกน่ารักของคุณลาบ เดือนที่แล้วให้กีบคุณลาบไปประมาณ 50% ของกีบที่มีทั้งหมด!!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 10:59:28

ความคิดเห็นที่ 100 10 คห.ก่อนหน้า ขาแอบใหญ่ จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 14:22:04

ความคิดเห็นที่ 101 ^ ^ ฮ่าๆๆ  เดี๋ยวเหอะ แฮ่ม! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 15:17:56

ความคิดเห็นที่ 102 ^ ^ รู้ได้ไงอ่ะ หมดตัวเลย ชอบๆๆๆหมูหมากาไก่กบหนูกระต่ายแมว น่ากิน เอ๊ย น่ารัก อย่ามาว่ากิ๊ฟขาใหญ่นะ เรากระเทือนไปด้วย จากกระทู้จักกะจี้ กลายเป็นกระทู้ขาใหญ่ไปซะแล้ว ว่ะฮ่ะๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : หวงหลิง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 22:23:49

ความคิดเห็นที่ 103 ขอถามหน่อยสิครับ ทำไมบางคนจักจี๊(ทั้งแบแอบทำและไม่แอบทำ) เขาถึงไม่หัวเราะ มีคนแบบนี้จริงๆนะครับ ผมเรียกมันว่า พวกตายด้าน ทำไมเขาถึงไม่ขำ ไม่หัวเราะ แต่ทีตัวผมเองแค่ทำมือว่าจะมาจักจี๊ผมก็หัวเราะงอกลิ้งไปแล้ว บ้าจี๊จริงๆ ท่านใดทราบบอกผมที จากคุณ : ก๊ากๆๆ อย่าทำผม (ผมมองโลกในแง่ร้าย) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 00:22:57

ความคิดเห็นที่ 104 ^ ผมเป็น ... พอโดนจั๊กจี้บ่อยๆ มันเลยด้านมั้ง คล้ายๆกับว่า เออ ไม่รู่จะหัวเราะทำไม ลองทำเฉยๆดูซิ .... แล้วหลังจากนั้นมา มันก้อ ไม่หัวเราะและรู้สึกจั๊กจี้น่ะ ... ร่างกายไม่ใช่ของเรา อะไรๆ ก้อไม่ใช่ของเรา เพราะฉนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ใครจะมาจั๊กจี้ ก้อไม่ใช่เรื่องอะไรของเราที่ต้องหัวเราะ เท่านั้นเอง .... เหอะๆ ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 16:19:11

ความคิดเห็นที่ 105 เราไปหาเหยื่อทดลองกันดีกว่า จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 11:46:59