ความคิดเห็นที่ 1 ในวันวาเลนไทน์ของปี 2003 วันที่โลกทั้งโลกตกอยู่ในห้วงของความรัก  วันนั้นคลาร่า แฮรริสถูกพิพากษาโดยลูกขุนเมืองเท็กซัสให้เธอผิดข้อหาฆาตกรรมสามีของเธอ หลังจากที่เธอไปเจอสามีอยู่กับเมียน้อยในโรงแรม เธอก็ขับรถเบนซ์ทับสามีครั้งแล้วครั้งเล่า   วันวาเลนไทน์ปีนั้นคลาร่า หรือ “Mercedes murderer” ถูกตัดสินให้จำคุก 20 ปี http://en.wikipedia.org/wiki/Murder_of_David_Lynn_Harris คลาร่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 11:54:11

ความคิดเห็นที่ 2 เบื่อคนไม่น่ารัก แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 11:56:22 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 11:55:55

ความคิดเห็นที่ 3 คลาร่าไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่ถูกจำคุกข้อหาฆาตกรรมจากแรงหึง ในงานวิจัยหลายครั้งพบว่า แรงหึงเป็นแรงจูงใจที่ติดหนึ่งในสามอันดับแรกของการฆาตกรรมอยู่เสมอ คนส่วนใหญ่จะรู้จักความรู้สึกหึงนี้ดีจากประสบการณ์ คือเป็นอารมณ์ทางลบที่รุนแรงเมื่อความสัมพันธ์ที่สำคัญของเรากำลังถูกคุกคามโดยคู่แข่ง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 11:56:36

ความคิดเห็นที่ 4 คุณนฤมลประการ  ขอเตือนว่าอย่าหึงค่ะ แหมๆ ไม่มีใครเชื่ออิฉันเลยนะคะ เอิ๊กๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 11:57:53

ความคิดเห็นที่ 5 Christine R. Harris ผู้เขียนเรื่องนี้ได้รับ Ph.D.ในสาขาจิตวิทยาจาก University of California, San Diego และยังคงสอนอยู่ที่นั่นในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ (คริสติน เป็นคนที่ศึกษาเรื่องจั๊กจี้หาหลักฐานมาหักล้าง ท.บ.ของ ดาร์วิน ไง ที่เขาเอาหุ่นยนต์มาจั๊กจี้คนเล่นอ่ะ อิอิ)   บทความนี้หลักๆแปลมาจาก Link นี้จ้า http://www.bec.ucla.edu/papers/Harris_4-26-04.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 11:59:55

ความคิดเห็นที่ 6 .. จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:00:05

ความคิดเห็นที่ 7 คำศัพท์ คำว่า Jealousy มาจากคำภาษาฝรั่งเศส jalousie ซึ่งมาจากคำละตินว่า zelosus (full of zeal) เต็มไปด้วยความชอบ สีเขียว มักเป็นสีที่มักจะใช้ในการพูดถึงความหึง เช่นพูดว่า"green with envy" หรือ "green-eyed monster" http://en.wikipedia.org/wiki/Jealousy จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:01:28

ความคิดเห็นที่ 8 นิยาม ส่วนนิยามของคำว่าหึง Jealousy ในทางวิทยาศาสตร์นั้นยังไม่มีข้อกำหนดตายตัว แต่ละคนก็พยายามอธิบายเป็นความหมายต่างๆกันเช่นตัวอย่าง ความหึงคือความคิด ความรู้สึก และการกระทำที่ตามมาหลังจากความมั่นใจส่วนตัว (self esteem)และ/หรือความสัมพันธ์ถูกคุกคาม การถูกคุกคามนี้มักเกิดขึ้นจากการที่คู่ของเรามีความเป็นไปได้ที่จะชอบพอกับคู่แข่งคนนั้น (ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งในจินตนาการก็เป็นได้) "Romantic jealousy is here defined as a complex of thoughts, feelings, and actions which follow threats to self-esteem and/or threats to the existence or quality of the relationship, when those threats are generated by the perception of a real or potential attraction between one's partner and a (perhaps imaginary) rival." (White, 1981, p. 24) และยังมีคำบรรยายจากนักวิทยาศาสตร์ท่านอื่นๆอีก แต่ที่เหมือนๆกันในทุกๆการศึกษาคือมีองค์ประกอบสามอย่างคือ 1.มีสามคน คือ คนที่หึง คู่ และคู่แข่ง 2.รู้สึกถูกคุกคาม 3.มีอารมณ์เกลียดชังและพฤติกรรมปกป้อง http://en.wikipedia.org/wiki/Jealousy จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:03:31

ความคิดเห็นที่ 9 parddd จากคุณ : หวงหลิง เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:04:32

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องความหึงนี้เป็นที่สนใจของทั้งนักวิทยาศาสตร์ ศิลปิน และนักปรัชญา ในบรรดานักวิทยาศาสตร์ก็มีแขนงต่างๆ  ทั้ง Biology, sociology,psychology ตั้งแต่โบราณกาลมา พิษรักแรงหึงมีหลักฐานให้เห็นอยู่มากมาย ทั้งในบทกวี ละคร ศิลปะต่างๆ เช่นภาพวาด งานปั้น และในบทเพลง เพราะความหึงเป็นอารมณ์ที่กัดกร่อนจิตใจอย่างท่วมท้นจึงเป็นที่นิยมในพล็อตเรื่อง ในเรื่องโอเทลโล่ ของเช็คสเปียร์ เป็นพลอตเรื่องที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและความหึง  เมื่อโอเทลโล่พระเอกผิวดำถูกเป่าหูว่าภรรยาของตนมีชู้ เขาจึงสังหารเธอเสีย ทั้งๆที่เธอไม่ได้มีความผิดจริง อ่านเนื้อเรื่องย่อได้ที่นี่ http://www.bkkonline.com/novel/4-dec-44.shtml จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:06:38

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพวาดเก่าแก่ของญี่ปุ่นจากปี 1750 แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มจับได้ว่าคนรักกำลังอ่านจดหมายรักของคู่แข่งอยู่ http://en.wikipedia.org/wiki/Jealousy จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:08:27

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพที่วาดโดย Jean-Baptists Patas ในศตวรรษที่ 19 “The birth of Bacchus”แสดงเรื่องของความหึงของเทพีเฮร่าซึ่งเป็นภรรยาของซุส ปรากฏว่าซุสไปมีเมียน้อยคือ Semele เฮร่าก็หึง ตอนเมียน้อยคลอดลูกคือ Bacchus เฮร่าก็มาแอบดูแล้วบันดาลให้เมียน้อยตายจากไฟไปจากแรงหึง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:09:16

ความคิดเห็นที่ 13 ขอนุญาตปาดงามๆ และขอบคุณที่อ้างอิงกระทู้ของผมนะครับ ชื่นชมผลงานคุณกิ๊ฟมานานแล้ว จากคุณ : HonLin เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:11:36

ความคิดเห็นที่ 14 ตั้งแต่ระยะแรกๆ นักจิตวิทยาพยายามจะแปลผลโดยใช้หลักของฟรอยด์ แต่ก็ไม่ไปถึงไหน แต่การศึกษาใหม่ๆนี้ใช้วิธีการที่ต่างออกไป การจะอธิบายปรากฏการณ์ความหึงแบบง่ายๆนั้นคงทำไม่ได้เพราะ โครงสร้างทางสังคมของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน การศึกษาพบว่าในสังคมที่มีวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการแต่งงานมากๆ และห้ามการมีเพศสัมพันธ์นอกการแต่งงาน รวมถึงสังคมที่นิยมคนมีสมบัติมากๆนั้นจะมีปัญหาแรงหึงมากกว่า รูปเฮร่าจอมหึง อีกรูปจากศตววรษที่ 16 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:11:43

ความคิดเห็นที่ 15 ปาดเงียบๆ จากคุณ : skullman เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:14:03

ความคิดเห็นที่ 16 หวัดดีค่า คุณ HonLin เมื่อผู้ว่า South Carolina สองสมัย Mark Sanford ถูกจับได้ว่ามีเมียน้อยเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เขาให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าเขากำลังมีความรัก ว่าเขาได้พบกับเนื้อคู่แล้ว เขาพูดอย่างนี้เพื่อให้ดูดีในสายตาประชาชน แต่ที่ผู้ว่าสองสมัยคนนี้ไม่รู้ก็คือ ผู้หญิงส่วนมากจะคิดว่าการนอกใจทางอารมณ์ ( emotional infidelity) ร้ายแรงกว่าการนอกใจทางเพศ (sexual infidelity) นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมฮิลลาลี คลินตันถึงยังอยู่กับบิล คลินตันได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนมากนัก หลังจากเหตุการณ์ที่สามีมีเพศสัมพันธ์กับโมนิก้า ลูวินสกี และดูเหมือนเป็นเช่นนี้ทั่วโลก   http://www.sciencedaily.com/releases/2010/01/100126123210.htm ท่านผู้ว่า แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 15:11:48 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:15:10

ความคิดเห็นที่ 17 มีคนตั้งข้อสังเกตว่าผู้หญิงจะหึงเมื่อผู้ชายคู่ของตนไปนอกใจทางอารมณ์ (emotional infedelity) มากกว่า คือหมายถึงว่าจะทุรนทุรายมากกว่าถ้าผู้ชายไปรักคนอื่น ในขณะที่ผู้ชายจะหึงเมื่อผู้หญิงคู่ของตนไปนอกใจทางเพศ (sexual infidelity)มากกว่า คือไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น คือถือว่าความหึงนี้มีความแตกต่างกันในระหว่างเพศ มันมีกลไกอะไรซักอย่างหรือไม่ที่เรามีมาตั้งแต่เกิด (Innate module) ที่คล้ายๆจะเป็นวงจรในสมอง ที่ทำให้มีความแตกต่างกันในความหึงของหญิงและชาย นักวิทยาศาสตร์จึงพยายามอธิบายเรื่องนี้จาก เรื่องวิวัฒนาการ (Evolution) และแนวคิดนี้ได้รับความนิยมอยู่นานทีเดียว จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:16:49

ความคิดเห็นที่ 18 ช่วงปี 1990s นักวิทยาศาสตร์และ Evolutional psychologist (นักจิตวิทยาวิวัฒนาการ) ได้ประยุกต์หลักของชาล์ส ดาร์วินเรื่องวิวัฒนาการมาใช้อธิบาย เรียกว่า “The specific innate module theory” ขอทบทวนเรื่องวิวัฒนาการก่อนสักนิด ชาลส์ ดาร์วิน  (12 ก.พ. 2351 – 19 เม.ย. 2425) เป็นนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ผู้ทำการปฏิวัติความเชื่อเดิม ๆ เกี่ยวกับที่มาของสิ่งมีชีวิต และเสนอทฤษฎีซึ่งเป็นทั้งรากฐานของทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่ และหลักการพื้นฐานของกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ เขาตีพิมพ์ข้อเสนอของเขาในปี พ.ศ. 2402 (ค.ศ. 1859) ในหนังสือชื่อ The Origin of Species (กำเนิดของสรรพชีวิต) ซึ่งเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา การเดินทางออกไปยังท้องทะเลทั่วโลกกับเรือบีเกิล (HMS Beagle) และโดยเฉพาะการเฝ้าสำรวจที่หมู่เกาะกาลาปากอส เป็นทั้งแรงบันดาลใจ และให้ข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งเขานำมาใช้ในทฤษฎีของเขา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%8C_%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:18:58

ความคิดเห็นที่ 19 เราเอาเรื่องชาลส์ ดาร์วินมาหากินได้หลายเรื่องแล้วนะ ใครสังเกตบ้าง อิอิ เรือหลวงบีเกิล จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:23:32

ความคิดเห็นที่ 20 ในด้านชีววิทยา วิวัฒนาการ (อังกฤษ: Evolution) คือการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในประชากรของสิ่งมีชีวิต จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง โดยอาศัยยีนเป็นตัวกลางในการส่งผ่านลักษณะทางพันธุกรรม อันเป็นพื้นฐานของการเกิดวิวัฒนาการ ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในประชากรเพื่อให้เกิดความแปรผันทางพันธุกรรมเมื่อสิ่งมีชีวิตให้กำเนิดลูกหลานย่อมเกิดลักษณะใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงลักษณะเดิม โดยลักษณะใหม่ที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุสำคัญ 2 ประการ ประการหนึ่ง เกิดจากกระบวนการกลายพันธุ์ของยีน และอีกประการหนึ่ง เกิดจากการแลกเปลี่ยนยีนระหว่างประชากร และระหว่างสปีชีส์ ในสิ่งมีชีวิตที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ สิ่งมีชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นจะผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนยีน อันก่อให้เกิดความแปรผันทางพันธุกรรมที่หลากหลายในสิ่งมีชีวิต วิวัฒนาการเกิดขึ้นเมื่อความแตกต่างทางพันธุกรรมเกิดขึ้น จนเกิดความแตกต่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นลักษณะที่แตกต่างกัน กลไกในการเกิดวิวัฒนาการแบ่งได้ 2 กลไก กลไกหนึ่งคือการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (natural selection) อันเป็นกระบวนการคัดเลือกสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมาะสมที่จะอยู่รอด และสืบพันธุ์จนได้ลักษณะที่เหมาะสมที่สุด และลักษณะที่ไม่เหมาะสมจะเหลือน้อยลง กลไกนี้เกิดขึ้นเพื่อคัดเลือกลักษณะของประชากรที่เกิดประโยชน์ในการสืบพันธุ์สูงสุดเมื่อสิ่งมีชีวิตหลายรุ่นได้ผ่านพ้นไป ก็จะเกิดกระบวนการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต เพื่อให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม กลไกที่สองในการขับเคลื่อนกระบวนการวิวัฒนาการคือการแปรผันทางพันธุกรรม (genetic drift) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:24:12

ความคิดเห็นที่ 21 ต่อนะจ๊ะ จากทฤษฎี Natural selection การกลายพันธุ์ที่เหมาะสมจะทำให้รอดชีวิต (Survival the fittest) จนรุ่นใหม่สามารถสืบยีนนั้นต่อไปได้ ในเรื่องความหึงนี้ นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า บรรพบุรุษเราในยุคโบราณ คือยุค Pleistocene ซึ่งประมาณ 2 ล้านกว่าปีถึง 12,000 ปีจากปัจจุบัน  ยุคนั้นมีความยากลำบากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ทำอย่างไรยีนของเราจึงจะสามารถส่งผ่านมารุ่นต่อๆไปได้ จึงต้องมีกลไกของสมองตั้งแต่กำเนิด (wire in)มากระตุ้นให้เกิดแรงหึงนี้ให้เป็นประโยชน์กับยีนของเรา แสดงช่วงยุค จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:26:07

ความคิดเห็นที่ 22 David Buss แห่ง University of Texas ที่ Austin รวมถึง Evolutionary psychologist คนอื่นๆ บอกว่า ผู้ชายจะรู้สึกหึงรุนแรงเมื่อถูกนอกใจทางเพศ (sexual infedelity) ส่วนผู้หญิงจะหึงเมื่อถูกนอกใจทางอารมณ์ (emotional infedelity) เพราะว่าผู้ชายในยุค Pleistocene นั้นไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่าลูกในท้องนั้นเป็นลูกของตนรึเปล่า เพราะเป็นการปฏิสนธิภายในตัวผู้หญิง จะเป็นลูกชายคนอื่นได้หรือไม่ อาหารทรัพยากรที่เขาหามานั้นจะถูกใช้สูญเปล่าไปกับลูกที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขตนหรือไม่ ดังนั้นกระบวนการ Natural selection จึงจัดการเลือกให้สมองผู้ชายรู้สึกรุนแรงต่อการสวมเขาทางเพศ(cuckoldry) (ถ้าแฟนคุณหน้าตาแบบมนุษย์ยุคPleistocene จะหึงหรือไม่) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:28:26

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ในสมัยนั้น ผู้หญิงย่อมต้องรู้แน่อยู่แล้วว่า ลูกในท้องเป็นของตนแน่ๆ จึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้ แต่คิดว่า เจ้าผัวที่เจ้าชู้ของชั้นเที่ยวไปแจกทรัพยากรให้ผู้หญิงอื่นหรือเปล่า แทนที่จะเอามาให้เธอกับลูกๆ เพราะว่ามนุษย์ใช้เวลาเลิ้ยงลูกหลายปี ดังนั้นทรัพยากรจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับ Fitness ของผู้หญิง ดังนั้นผู้หยิงจึงรู้สึกหึงรุนแรงกว่าถ้าผู้ชายจะไปปันอาหารให้ผู้หญิงอื่นที่เขาหลงรัก ท.บ.ทางวิวัฒนาการนี้ได้รับความนิยมอยู่หลายปี เพราะมีการศึกษามาสนับสนุน รูปบรรยากาศช่วงยุคโบราณPleistocene จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:31:12

ความคิดเห็นที่ 24 พากลับยุคปัจจุบันจ้า Self-Report  Studies การศึกษาที่สนับสนุนท.บ.ของดาร์วิน โดย David Buss ทำโดยให้นักศึกษา 202 คน ให้อ่านเรื่องสมมติว่าตัวเองโดนนอกใจอย่างไร คือ 1.นอกใจทางเพศ (Sexual infedelity) คือแฟนไปมี sex กับคนอื่น 2.นอกใจทางอารมณ์ (emotional) คือแฟนไปมีใจ หลงรักคนอื่น แล้วให้ตอบว่าแบบไหนหึงมากกว่ากัน ปรากฏผลการทดลองเป็นไปตามคาด คือจากกราฟจะเห็นได้ว่าผู้ชาย (สีเหลือง)จะบอกว่าทรมานกับการนอกใจทางเพศมากกว่า มีความแตกต่างกันในความหึงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผู้หญิงส่วนใหญ่ (มักจะ 70% หรือมากกว่า)จะบอกว่าการนอกใจแบบ emotional นั้นร้ายแรงกว่า ส่วนผู้ชายส่วนใหญ่ (ประมาณ 40-60%) บอกว่าการนอกใจทางเพศร้ายแรงกว่า http://www.bec.ucla.edu/papers/Harris_4-26-04.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:32:44

ความคิดเห็นที่ 25 และตั้งแต่ปี 1992 การศึกษาคล้ายๆกันนี้อีก 24 ชิ้นที่ตีพิมพ์ก็ได้ผลแบบเดียวกัน คือมีความแตกต่างระหว่างเพศในเรื่องความหึง ตั้งแต่ 8% ในงานวิจัยของออสเตรีย และเรื่อยไปถึง 69% ในการศึกษาหนึ่งในนักศึกษาอเมริกัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:33:29

ความคิดเห็นที่ 26 แต่จากการรวบรวมข้อมูล (meta-analysis) ของผู้เขียน (Harris)พบว่าความแตกต่างระหว่างเพศนี้จะลดเปอร์เซนต์ลงในประชากรที่รวมคนที่อายุมากและโฮโมเซ็กช่วลเข้าด้วย เมื่อเทียบกับประชากรสหรัฐอเมริกาแล้ว ผู้ชายในยุโรปกับเอเชีย จะเลือกว่าการนอกใจทาง sexual infidelity ว่าแย่กว่าแค่ 25-30% เท่านั้น แสดงว่าวัฒนธรรมก็มีผลต่อความหึงด้วย แต่บางคนแย้งว่า ที่ผลการทดลองเป็นเช่นนี้ เพราะผู้หญิงคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ก็มี sex โดยไม่ได้รักก็ได้  แต่ผู้หญิงมีแนวโน้มจะมี sex กับคนที่รักอยู่ก่อน จึงไม่สามารถสรุปผลการทดลองได้ (งงมั้ย ) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:34:42

ความคิดเห็นที่ 27 David DeSteno แห่ง North eastern university จึงลงลึกว่าทำไมผู้หญิงและผู้ชายถึงตอบต่างกัน เขาให้ผู้เข้าร่วมการทดลองท่องเลขเจ็ดหลักในใจระหว่างตอบสถานการณ์ในโจทย์เรื่องความหึง เพื่อจะได้เอาสมองด้านเหตุผลไปใช้ (เพิ่ม cognitive load) ผลออกมากลายเป็นว่าผู้ชายยังตอบเหมือนๆเดิม แต่ผู้หญิงจะตอบเปลี่ยนไป คือจะคล้ายของผู้ชาย ดังนั้นสรุปได้ว่า ที่ผ่านๆมาผู้หญิงตอบว่าถ้าแฟนไปหลงรักคนอื่นจะแย่กว่าไปมี sex กับคนอื่นนั้นไม่จริง แต่ตอบไปเพื่อรักษาหน้าให้ภาพพจน์ดี (self presentation ) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:35:36

ความคิดเห็นที่ 28 ถึงการทดลองเรื่องถามคำถามที่กล่าวมาจะพอบอกได้ว่ามีความแตกต่างกันในชายกับหญิงอยู่บ้างแต่ยังไม่ชัดเจน ท.บ.วิวัฒนาการ ยังไม่สามารถเอามาสรุปเรื่องความหึงแต่กำเนิดจากวงจรในสมองแต่ครั้งโบราณกาลได้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:37:03

ความคิดเห็นที่ 29 Physiological Measures of Jealousy การวัดความหึง ผู้อ่านที่มีวิทยาศาสตร์อยู่ในหัวใจ ต้องบอกว่า ทำไมเราไม่วัดความหึงออกมาเป็นตัวเลขล่ะ ในปี 1992  Buss เจ้าเก่าก็เลยลองวัดการตอบสนองทางระบบประสาทของร่างกาย ว่ามีอัตราการเต้นหัวใจ และคลื่นไฟฟ้าหัวใจต่างไปอย่างไรหลังจากให้อ่านเรื่องที่ทำให้หึง ผลคือผู้ชายจะมีการเต้นหัวใจมากขึ้นเมื่อให้จินตนาการว่าแฟนไปมี sex กับคนอื่น มากกว่าตอนให้จินตนาการว่าแฟนไปหลงรักคนอื่น ผู้หญิงจะได้ผลกลับกัน เขาสรุปผลการทดลองว่านี่คือหลักฐานว่ามีความแตกต่างกันในเพศหญิงกับชาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:38:21

ความคิดเห็นที่ 30 แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการตอบสนองแบบเหงื่อแตก ใจสั่น ความดันโลหิตขึ้นนี้ก็เกิดขึ้นได้จากหลายอารมณ์ เช่น ความกลัว โกรธ หรือความตื่นตัวทางเพศ  เพราะขณะที่อ่านเรื่องนอกใจ ผู้เข้าร่วมทดลองก็จะนึกถึงเพศสัมพันธ์ไปด้วยพร้อมกัน จึงไม่สามารถใช้ผลการทดลองนี้ได้ แถมมีการทดลองนึงบอกว่าความตื่นตัวทางเพศทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าหึงเสียอีก เนื่องจากเราไม่สามารถทดลองสุ่มให้คนไปโดนสวมเขาจริงๆแล้วเอามาวัด การวัดตัวเลขในเรื่องนี้จึงไม่สามารถทำได้โดยง่าย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:40:00

ความคิดเห็นที่ 31 Jealousy , Murder and Mayhem( ความหึงกับการทำร้ายร่างกายและฆาตกรรม) มีคนบอกว่า ถ้าเราอยากรู้ว่าความหึงต่างกันมั้ยในชายหญิง น่าจะดูจากอาชญากรรมที่ก่อจากความหึง น่าจะพอบอกสถิติได้ ปี 1982 Matin Daly และ Margo Wilson แห่ง McMaster University ได้สำรวจดูสถิติการฆาตกรรมว่ามีแรงจูงใจมาจากอะไร พบว่าผู้ชายฆ่าจากความหึงมากกว่าผู้หญิง แต่ว่าโดยรวมแล้วยังไงผู้ชายก็ก่อคดีมากกว่าอยู่แล้ว สรุปอย่างนี้อาจจะผิดได้ แต่ว่าถ้าลองเอามาเทียบกันแบบสัมพัทธ์แล้วในคดี 5,225 คดี ใน 20 วัฒนธรรม ไม่พบความแตกต่างระหว่างเพศในแรงจูงใจจากความหึง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:40:53

ความคิดเห็นที่ 32 Morbid jealousy ความหึงร้ายแรง คำนี้ใช้บรรยายคนที่หึงรุนแรง ส่วนใหญ่จะหลงผิดหลอนไปเอง(delusional)ว่าแฟนนอกใจ ต้องรู้สึกโกรธ ซึมเศร้า คอยเช็คอยู่ตลอดเวลา สืบดูว่าแฟนอยู่ที่ไหน ในบางกรณีคนที่หึงร้ายแรงนี้ถึงกับใช้กำลังควบคุมแฟนเพื่อป้องกันการนอกใจโดยวิธีทารุณโหดร้ายก้าวร้าว บางคนถึงกับขังไว้เลย Gorgon Parker บอกว่าคนที่เป็นหึงร้ายแรงนี้เกี่ยวข้องกับโรคย้ำคิดย้ำทำ (obcessive-compulsive disorder หรือ OCD)แถมให้ยาต้านเศร้า SSRI ที่ปกติรักษาโรค OCD นี้ กลับช่วยรักษาให้คนหึงรุนแรงนี้ดีขึ้นได้ด้วย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:42:59

ความคิดเห็นที่ 33 ปาดดดดดดดด จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:43:24

ความคิดเห็นที่ 34 พักผ่อนสักครู่ด้วยเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากความหึง เพลงพื้นบ้านเรื่องพิษรักแรงหึง ในปี 1899 สาวน้อยชื่อ Frankie Baker ถูกจำคุกที่เซนต์หลุยส์ มิสซูรี่เนื่องจากไปเอามีดแทงแฟนหนุ่มตายเพราะจับได้ว่าไปอยู่กับผู้หญิงอื่น หลังจากนั้นอีก 50 ปี มีคดีที่เซนต์หลุยส์นี่อีก มีผู้หญิงชื่อ Frankie เหมือนกันอีกคนไปแทงคนรักที่นอกใจเหมือนกัน ในศตวรรษที่ 20 จึงมีคนนำเรื่องนี้ไปแต่งเป็นเพลงชื่อ “Frankie and Johnny” ภาพ ที่วาดปี 1936 โดยโทมัส เบนตัน จากเรื่อง Frankie and Johnny จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:46:02

ความคิดเห็นที่ 35 ผมว่าผมจะเขียนบทความเกี่ยวกับความรักซักหน่อย แต่คงเขียนได้ไม่ดีเท่าคุณกิฟ เลยขอหลบออกไปเขียนบทความเกี่ยวกับเครื่องยนต์รถกระบะดีกว่า แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 12:46:59 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:46:43

ความคิดเห็นที่ 36 อ้าว ท่านผู้รู้เจ้าของคำคมมาแล้วนะคะ เอิ๊กๆๆๆ เพลง Frankie and Johnny โดยเอลวิส เพรสลีย์ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:47:56

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบประโยคนี้จังค่ะ เมื่อผู้ชายคู่ของตนไปนอกใจทางอารมณ์ (emotional infedelity) มากกว่า คือหมายถึงว่าจะทุรนทุรายมากกว่าถ้าผู้ชายไปรักคนอื่น ในขณะที่ผู้ชายจะหึงเมื่อผู้หญิงคู่ของตนไปนอกใจทางเพศ (sexual infidelity)มากกว่า คือไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น เหมือนกันว่าผู้หญิงแม้เห็นว่าคนของเราไปมีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นก็ยังให้อภัยได้มากกว่า ไปรักกับคนอื่นเลย เจ็บปวดที่สุด จากคุณ : เสาร์นี้เจอกัน เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:51:51

ความคิดเห็นที่ 38   นึกถึงเนื้อเพลง "พิษรัก" อยากจะถอนพิษที่คั่งฝังใจ   พิษรักที่กิ๊ฟฝากไว้   ช่างแสน ร้าย กาจ จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:52:32

ความคิดเห็นที่ 39   อ้าว .... ลืมชมคุณกิ๊ฟ ฯ ว่า ตั้งกระทู้คุณภาพอีกแล้ว ,,ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 12:53:58 จากคุณ : James Cook เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:53:31

ความคิดเห็นที่ 40 คุณนฤมลประการ เราก็อยากเขียนเรื่องความรักที่กำลังปักอกอยู่เหมือนกันนะคะ (ฮิ้วววววๆๆๆๆๆ)แต่ว่าเคยอ่านมีคนเขียนไว้แล้วดีด้วย เรื่องสารเคมีในสมองอ่ะค่ะ รู้สึกเป็นคุณโอ้ละหนอนะคะ กลัวจะซ้ำ  แต่ถ้าคุณนฤมลจะเขียนก็เอาเลยอาจคนละแนวกันก็ได้นะคะ เดี๋ยวเราจะตามไปอวย ส่วนเราคงไม่เขียนเรื่องความรักค่ะ ตอนนี้ใกล้จะหมดมุกแล้วนะคะ สงสัยจะต้องไปเขียนเรื่องรถกระบะเหมือนกันค่ะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:55:32

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ James Cook คะ เอ่อ พิมพ์ต่อไม่ถูกกันเลยนะคะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:57:08

ความคิดเห็นที่ 42 เนื้อเพลง Frankie and Johnny ค่ะ  ตลกดีนะคะ paper นี้แถมเนื้อเพลงด้วย ฮ่าๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 12:59:17

ความคิดเห็นที่ 43 น่ากลัวนะครับ V V จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:00:44

ความคิดเห็นที่ 44 เข้าเรื่องนะคะ การศึกษาเรื่องหึงในสัตว์ การที่เราศึกษาเรื่องหึงในสัตว์ อาจจะนำมาประยุกต์อธิบายในคนได้ ความหึงทางเพศของตัวผู้จะเห็นได้ชัดเจนจากหลายๆ สปีชีส์ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ตัวเมียติดสัด ตัวผู้จะคอยตามตัวเมียตลอก เพื่อจะได้พยายามผสมพันธุ์ได้หลายๆครั้ง และป้องกันไม่ให้ตัวผู้ตัวอื่นมาแย่งหรือมาอยู่ใกล้ๆตัวเมียตัวนั้นได้ รูปลิงบาบูนตัวผู้คอยเฝ้าตามลิงตัวเมียเมื่อเวลาติดสัด จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:01:30

ความคิดเห็นที่ 45 ***คุณ HonLin คะ คำตอบมาแล้วนะคะสำหรับกระทู้นั้น รอนานหน่อยนะคะเจ๊ชอบโชว์พาว แต่อย่างไรก็ตาม ในคนนั้นไม่เหมือนกันตรงที่ คนผู้หญิงจะสามารถมีเพศสัมพันธุ์ได้ตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ และสามารถท้องได้โดยที่ฝ่ายชายจะไม่รู้แน่ชัดว่าอยู่ในช่วงใดของรอบเดือน แถมเรื่องสปีชีส์อื่นที่ตัวผู้ไม่ต้องเป็นพ่อไม่ต้องเลี้ยงลูก แถมตัวที่เลี้ยงลูกเช่นนกบางชนิดที่เป็นผัวเดียวเมียเดียวก็มีข้อต่างเพราะลูกเป็นทีละหลายๆตัว เมื่อเทียบกันในพวกไพรเมต คือสัตว์จำพวกลิง จะมีแต่ชะนี(gibbon)เท่านั้นที่เป็นแบบผัวเดียวเมียเดียว ชะนีตัวเมียจะคอยไล่ตัวเมียอื่นๆออกจากอาณาเขตไม่ให้มายุ่งกับตัวผู้ของตนโดยไม่รอดูท่าทีว่าตัวเมียอื่นนั้นจะมาสนใจตัวผู้ของตนหรือไม่ ชะนี (ผัว ผัว เราแถม sound effect ให้ด้วยนะคะ) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:04:56

ความคิดเห็นที่ 46 โดนตามตัวแล้ว ตอนเย็นมาติดตามอ่านต่อนะครับ ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:06:46

ความคิดเห็นที่ 47 A Social – cognitive Theory of  jealousy ในละครตลกคลาสสิกของอเมริกาส่วนมากจะมีพล็อตเรื่องดังนี้เป็นสูตรตายตัว ผู้ชายกำลังให้ความสนใจหรือเอ่ยปากจีบผู้หญิงสาวสวยแปลกหน้าคนอื่นที่เดินมา ภรรยาก็จะแอบดูอยู่ในพุ่มไม้  แล้วภรรยาก็จะทำอาการหึงแว๊กๆแบบตลกๆออกมาให้ผู้ชมขำกัน ในละครทีวียุคแรกๆไม่สามารถแสดงเรื่องเพศอย่างชัดเจนได้ จึงให้ตัวละครผู้หญิงสวยมายิ้มๆ กระพริบตาปิ๊งๆ ไปตามเรื่องแสดงถึงการหว่านเสน่ห์ ท.บ.นี้อธิบายง่ายๆบอกว่าการหึงเป็นกระบวนการทางความคิด เมื่อเห็นยิ้มมา เราก็จะรับรู้ว่ามีคู่แข่งมาจะแย่งความสัมพันธ์ที่สำคัญนี้ไปจากเรา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:07:05

ความคิดเห็นที่ 48 คุณลาบ เดี๋ยวค่อยเจอกันค่ะ ไปเข้าฉากต่อเถอะค่ะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:09:22

ความคิดเห็นที่ 49 The Ontogeny (การเติบโต) of Jealousy ความหึงนั้นอาจไม่ได้หมายความถึงความสัมพันธ์หญิงชายอย่างเดียว แต่อาจเกิดมาตั้งแต่การแข่งขันระหว่างพี่น้อง เพราะต้องแย่งทรัพยากรจากพ่อแม่กัน การแข่งขันระหว่างพี่น้องไม่ได้มีแต่ในคนเท่านั้น ในธรรมชาตินั้น นกหลายสปีชียส์จะมีไข่ทั้งหมดสองใบเท่านั้น เช่นนกอินทรีดำ (black eagle) ตัวพี่จะฆ่าน้องตายเสมอ ส่วนนกบางพันธุ์พี่จะฆ่าน้องเฉพาะเมื่ออาหารขาดแคลนและตัวเองน้ำหนักไม่ขึ้นเท่าที่ควร นกอินทรีดำ เห็นมั้ยมีไข่กี่ใบเอ่ย แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 13:13:29 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:11:56

ความคิดเห็นที่ 50 การทดลองเรื่องนี้ในคนเน้นไปที่ทารก พี่คนโตในวัยเตาะแตะเมื่อมีน้องมาใหม่มักจะแสดงอารมณ์ในทางลบ และมักมีความสัมพันธ์กับพ่อแม่ที่น้อยลงในด้านการเล่นเมื่อเทียบกับน้อง ความหึงสาในทารกนั้น ทำการทดลองโดย Sybil Hart จาก Texas Tech university โดยให้สังเกตเด็กอายุ 6 เดือน เมื่อแม่ไปเล่นกับตุ๊กตาที่เหมือนมีชีวิตให้เด็กดู เด็กจะไม่พอใจโดยการแสดงออกทางสีหน้าคือย่นคิ้ว ปากแบะ แต่เมื่อเทียบกับให้แม่ไปเล่นกับตุ๊กตาที่ดูไม่มีชีวิตแล้วกลับไม่รู้สึกอะไร จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:14:43

ความคิดเห็นที่ 51 ในการศึกษาอีกอันให้เด็กวัยแปดเดือน จะแสดงอาการเบี่ยงเบนแย่งความสนใจของแม่ไปจากที่แม่กำลังเล่นกับเด็กคนอื่น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แต่เป็นความหึงที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่ความหึงนั้นพัฒนาหนักขึ้นตามการเรียนรู้ในสังคม (social and cognitive factor) เช่นในการศึกษาของแคนาดาอันหนึ่งบอกว่า เด็กวัยสี่ขวบจะหึงมากกว่าถ้าแม่ไปเล่นกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ไม่ค่อยรู้สึกเมื่อแม่ไปเล่นกับเด็กทารก ในขณะที่ความหึงในทารกนั้นไม่เกี่ยวกับว่าคู่แข่งจะอายุเท่าไร สิ่งที่ต้องคิดคือ ที่เด็กแสดงออกมาอย่างนี้ถือว่าเป็น ‘หึง’ ได้หรือไม่ หรือเป็นแต่ความไม่พอใจทั่วๆไป จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:16:05

ความคิดเห็นที่ 52 ในที่สุดก็ได้คำตอบที่ต้องการแล้ว ขอบคุณมากครับ very nice จากคุณ : HonLin เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:16:59

ความคิดเห็นที่ 53 สรุปของคริสติน แฮรริส ผู้เขียน paper นี้ จากที่กล่าวมาทั้งหมด การหาที่มาทางวิวัฒนาการของความหึงนั้น น่าจะแปลได้ว่าความแตกต่างระหว่างเพศของหญิงชายในเรื่องหึงอาจไม่ได้ต่างกันอย่างที่เคยเข้าใจ ที่หญิงและชายต่างกันคือความคิดตีความต่างกัน มากกว่าที่จะถูกกำหนดมาเป็นวงจรตายตัวในสมอง อสุรกายตาเขียวที่เกาะกินจิตใจของมนุษย์เราให้เจ็บปวด อาจจะอยู่มาเนิ่นนานก่อนที่เราจะมีความรักเสียอีก อสุรกายตัวนี้เป็นดังคำกล่าวของ Havelock Ellis ว่า “that dragon which slays love under the pretence of keeping it alive” จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:19:19

ความคิดเห็นที่ 54 สรุปของกิ๊ฟ: อ่านยากมาก เอาเท้าก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว บางส่วนก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ารู้เรื่องกันรึเปล่า ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมกันนะเออ http://www.bec.ucla.edu/papers/Harris_4-26-04.pdf จบด้วยเพลง Jealousy ของวงควีน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:22:12

ความคิดเห็นที่ 55 อุ๊ย เข้าผิดกระทู้ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:23:55

ความคิดเห็นที่ 56 จบแล้ว เสียดายจัง มีคนทายถูกแฮะ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 13:48:10 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 13:26:28 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:25:37

ความคิดเห็นที่ 57 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 13:50:32 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:30:20

ความคิดเห็นที่ 58 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 13:50:57 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:32:51

ความคิดเห็นที่ 59 กระทู้นี้เรทหรือเปล่า จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:36:34

ความคิดเห็นที่ 60 mOOgrOb'pm'  นั่นมันการสร้างความร้าวฉานนี่ ฮ่าๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:38:46

ความคิดเห็นที่ 61 ^ สงสาร JUN จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:45:05

ความคิดเห็นที่ 62 จัดให้ครับ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 14:03:40 จากคุณ : ble_swu เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:46:34

ความคิดเห็นที่ 63 คุณนฤมลประการ หนังสือเจ๋งมากนะคะ มันคล้ายๆเวลาไปซื้อของแล้วเขาประกาศว่าลดราคาถึงวันนี้เท่านั้น รึเปล่า คือให้รู้สึกว่าของขาดแคลน ต้องแย่งกัน อย่างนี้รึเปล่า อันนี้เดาวน์เอานะคะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:50:02

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา ครับ หลังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือที่ ดีเท่าใหร่ หรอกครับ ผมคิดอยู่ตั้งนานว่าจะแปลมาดีใหม พราะมันเป็นการใช้ความหึงหวงให้เป็นประโยชน์ แต่คิดว่าไม่ดีกว่า จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 13:53:42

ความคิดเห็นที่ 65 ฮั่นแน่ หนุ่มๆแอบลบซะแล้วนะคะ ไม่เป็นไรเราจำไว้แล้วค่ะ อิอิ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 14:18:27

ความคิดเห็นที่ 66 วันนี้ชั้นมาปาดไม่ทัน หึงเลย อิอิ จากคุณ : blue_nova เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 14:24:23

ความคิดเห็นที่ 67 เค้ามาอ่านแล้วนะคุณกิฟฯ แอบคิดว่ากระทู้นี้ค่อนข้างซาดิสทางอารมณ์ดีจัง 555+ จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 14:52:09

ความคิดเห็นที่ 68 ว้า ปาดไม่ทันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน จากคุณ : NorsDavincy เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:14:54

ความคิดเห็นที่ 69 ^ ^ คุณเคลิ้มแฟนคลับคนแรกของเรา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:18:15

ความคิดเห็นที่ 70 มาสายแฮะเรา เหมือนตกข่าวอะไรสักอย่าง  -.-* จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:23:51

ความคิดเห็นที่ 71 ขอวิวัฒนาการแรงหื่นต่อเลย จากคุณ : ท่านประธานบริษัท เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:36:51

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนนี้กำลังหึงผู้หญิงคนหนึ่งมาก ถึงแม้ตั้งใจจะเข้ามาอ่านเพื่อหาทางแก้ความหึงของตัวเองที่อึดอัดไร้ทางออก แต่ทำอย่างไรได้เพราะตกลงไปในหลุมรักไม่มีทางออกยกเว้นรอคนที่ขุดหลุมนั้นมาฉุดขึ้น จากคุณ : zawaafaps เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:38:13

ความคิดเห็นที่ 73   ต้องสมัครเป็นแฟนคลับเค้าฮะ จะได้ไม่ตกขาว เอ้ย ข่าว จากคุณ : Black-White&Gray เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:45:12

ความคิดเห็นที่ 74 ว่ากันว่าคนเรานั้นต้องการจะให้คนมาหึงเรามากๆ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการ ขั้น self-esteen ของตัวเอง แต่การที่เราจะจีบใครซักคนนั้น เราไม่ควรจะแสดงอาการหึงเขา เพราะมันจะทำให้เราดูด้อยค่า ดังนั้นจึงควรทำให้เขาหึงเราแทน ผมเคยได้ยินมาว่า เมื่อเรามีปฏิสัมพันธ์กับใครนั้น ลึกๆแล้วเราต้องการที่จะควบคุมฝ่ายตรงข้าม เกมการแย่งชิงอำนาจจึงมีขึ้น และฝ่ายที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกหึงได้ ย่อมเป็นฝ่ายชนะในเกม และเป็นฝ่ายกุมรูปแบบความสัมพันธ์ --------------------------------------------------------------------------------------------------- อันนี้ผมพูดตามที่ได้ยินมานะครับ ความหึงเป็น pressure อย่างหนึ่งเมือนกับที่เราต้องการอาหาร ดังนั้น ไม่ว่าความหึงจะมีวิวัฒนาการมาอย่างไร แต่มันสามารถใช้ประโยชน์ได้ ในการควบคุมคน โดยอาศัยวงจรของการให้รางวัล และ ทำโทษ เราสามารถที่จะฝึกให้คนหนึ่งๆเชื่องเหมือนกับที่เราฝึกหมาทีเดียว ซึ่งการที่เราทำให้เขาเกิดความหึงขึ้นในหัวใจเปรียบเสมือนการทำโทษ และการให้เขาสมหวังเปรียบดั่งการให้รางวัลแก่เขา แต่ทั้งนี้ คุณต้องไม่ทำโทษเขาเพียงอย่างเดียว หรือให้ความสมหวังแก่เขาเพียงอย่างเดียว เพราะการที่คุณทำให้เขาหึงนั้น เมื่อนานไปจะมีความโกรธ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับคุณ และการที่คุณให้ความสมหวังบ่อยครั้งกับเขานั้นเปรียบเสมือนคุณการให้รางวัลที่มากไป ซึ่งไม่ดี ทางที่ดีที่สุด เราจะให้เขาสมหวังในกรณีที่เขามีพฤติกรรมที่เราต้องการ และลงโทษเขาในกรณีที่เขามีพฤติกรรมที่เราไม่ต้องการ และถ้าเราต้องการให้เขามีความสม่ำเสมอในพฤติกรรม เราควรที่จะทำการให้รางวัลแบบไม่แน่นอน เปรียบเสมือนการฝึกสุนักนั่นแหละครับ รางวัลคือ ความสมหวัง ทำโทษทางอารมณ์โดยความหึง ------------------------------------------------------------------------------------- โชคดีในความรักทุกท่านครับ แค่นี้หละครับ เดี๋ยวกระทู้นี้จะออกนอกประเด็น ที่มา the mistery methods แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 16:55:59 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 15:51:29 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 15:49:04 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 15:46:10 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:45:39

ความคิดเห็นที่ 75 ปลากรอบครับ จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:47:48

ความคิดเห็นที่ 76 "27 พค. 2553 13:56 น.    เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 พ.ค.53 พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.1 บก.สส.1ภ.4 ,พ.ต.อ.เสกสรร สุขประเสริฐ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้นำตัว พระวิชัย หรือ นายวิชัย เสนากิจ อายุ 50 ปี มาแถลงข่าว    สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 25 พ.ค.53 ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่าพบศพแม่ชีถูกฆ่าเปลือยอยู่ในกุฎิวัดป่าอมตะธาตุ บ้านหนองป่าโอ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ตายคือ นางสุมนฑ์ญา ฉิมปาน หรือแม่ชีสุมนฑ์ญา ที่เดินทางมาจำวัดอยู่ที่วัดป่าอมตะธาตุ สภาพศพผู้ตายนั้นขึ้นอืดท่อนล่างเปลือย ที่บริเวณลำคอมีผ้าขนหนูสีเหลืองรัดคออยู่ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน    สืบสวนทราบว่า ก่อนที่ แม่ชีสุมนฑ์ญา จะถูกฆ่าตาย แม่ชีสุมนฑ์ญาและพระวิชัยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว และในคืนวันที่ 21 พ.ค.53 ทั้งสองคนได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงภายในวัด วันรุ่งขึ้นมีชาวบ้านเห็นว่า พระวิชัย ได้เดินทางออกจากวัดดังกล่าวไป ตำรวจเชื่อว่าพระวิชัย น่าจะเป็นคนร้ายที่ลงมือฆ่าข่มขืน แม่ชีสุมนฑ์ญา จึงได้ขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับพระวิชัย ในข้อหา ”ฆ่าคนตาย”    จาก นั้นจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน จนพระวิชัย รับสารภาพว่า ได้ฆ่าแม่ชีสุมนฑ์ญาจริง เนื่องจากหึงหวงผู้ตาย ที่ไปมีใจให้กับพระรูปหนึ่งที่อยู่จังหวัดชัยภูมิ ทั้งๆที่ตนเองนั้นรักแม่ชีคนนี้มาก ได้ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน ก่อนที่จะใช้ผ้าขนหนูรัดคอจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป    ทั้งนี้ จากประวัติการก่อคดีของ นายวิชัย หรือพระวิชัย ที่ผ่านมาพบว่า เมื่อปี พ.ศ.2523 นายวิชัย ได้ก่อคดีฆ่าข่มขืน ด.ญ.ที ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุ 13 ปี ชาวบ้านกุดท่าลือ ต.ห้วยเมือง อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ศาลสั่งจำคุก 8 ปี ต่อมาหลังพ้นโทษ ในปี 2534 นายวิชัย ได้ก่อคดีพยายามฆ่าข่มขืน กักขังหน่วงเหนี่ยวแม่ยายของตนเอง ที่ ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ศาลสั่งจำคุก 14 ปี    และหลังพ้นโทษ นายวิชัย ก็ได้บวชและสึกหลายครั้งเพื่อไปแต่งงานหลังจากนั้นก็หย่าร้างกันแล้วกลับไป บวชใหม่ และมาก่อเหตุฆ่าแม่ชีสุมนฑ์ญา ที่วัดป่าอมตะธาตุ บ้านหนองป่าโอ ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด" http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=450295 เฮ้อ! จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:51:33

ความคิดเห็นที่ 77 #72 "น้ำในตา" อิทธิ พลางกูล ช่วยได้นะ ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 15:57:17

ความคิดเห็นที่ 78 แง้ ตกขาวซะแล้วแฟนคลับเรา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 16:11:04

ความคิดเห็นที่ 79 ตกขาวเรอะ ไปหาหมอดีมั้ย คิดไปคิดมา อาการหึงเนี่ยมันเหมือนกับการน้อยใจมั้ยนะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่คนขี้หึง...รึเปล่า (หวงหลิง) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 16:36:17

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านไม่ทัน...ซะงั้น จากคุณ : nai_tin เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 16:37:42

ความคิดเห็นที่ 81 มาไม่ทันซักกะอย่าง ... เฮ่อ ฝาก ทางออก ของการตัด อารมณ์หึง v V จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 17:29:55

ความคิดเห็นที่ 82 เบื่อเกมความรักจังเลยครับ.... จากคุณ : Culture เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 18:07:12

ความคิดเห็นที่ 83 ขอเพิ่มกราฟอธิบายความเห็น24 หน่อยนะคะ คือกราฟอันเดิมอ่านแล้วงงนะคะ เราก็งงเหมือนกัน แล้วคุณจันทร์เย็นไปหาตัวกราฟจริงมาให้ดูนะคะ ขอบคุณคุณจันทร์เย็นมากนะคะ http://www.psychsystems.net/lab/BUSS.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 18:07:02

ความคิดเห็นที่ 84 เรียนถามคุณกิฟนิดนึงครับว่า ผู้หญิงมักจะรู้สึกเจ็บปวดกับการนอกใจ มากกว่านอกกายนี่ ตามกระทู้นี้ จะพบว่ามันไม่เป็นจริง ใช่ใหมครับ? อ้างอิงตามความคิดเห็นที่ 27 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 18:40:09 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 18:38:54

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่ต้องเรียนถามค่ะ ให้เอียงคอทำหน้าคิกขุถามแทนนะคะ คือ "probably do not exist" ค่ะ Conclusions Exploration of the evolutionary roots of behavior and emotion can be a fruitful source of hypotheses for psychology. The research discussed here, however, suggests that robust sex differences in jealousy over infidelity probably do not exist. It seems more likely that natural selection shaped fairly general jealousy mechanisms designed to operate across a variety of interpersonal contexts. What sex differences do exist seem likely to reflect differences in cognitive judgments rather than sexually dimorphic hardwired structures. In sum, it seems altogether likely that the same green-ey’d monster may dwell within the hearts of men and women—a monster that might first arise in the minds of babes, long before sex and romance have emerged. It is as we emerge from under a parent’s protective wing that, painfully, jealousy becomes what Havelock Ellis called “that dragon which slays love under the pretence of keeping it alive.” http://www.bec.ucla.edu/papers/Harris_4-26-04.pdf จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 18:52:20

ความคิดเห็นที่ 86 ข้าน้อยพลังวัตรยังไม่แกร่งกล้านัก จึงมิอาจเข้าใจในกระบวนท่าของท่านในครั้งแรกได้ ขอบคุณท่านจอมยุทธ์ที่ชี้แนะ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 53 19:12:34 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 19:12:02

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านแล้วก็เพิ่งรู้ว่าตัวเราก็ขี้หึงใช่ย่อยนะเนี่ย ^^: จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 19:32:27

ความคิดเห็นที่ 88 #71...ต่อด้วยวิวัฒนาการลดอาการหื่นด้วยนะ จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 20:07:10

ความคิดเห็นที่ 89 แฟนคลับคุณกิ๊ฟมาลงชื่ออ่านจบแล้ว เย่ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 20:20:14

ความคิดเห็นที่ 90 อ่านแล้วจี้ด เราก็ขี้หึงไม่หยอกเหมือนกันนะเนี่ย จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 20:24:17

ความคิดเห็นที่ 91 555555555555555 งง ติ้ดๆ จากคุณ : นักเรียนหรือกรรมกร เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 20:50:41

ความคิดเห็นที่ 92 ภาพความเห็น 11 ชายหนุ่มจับได้ว่าคนรักกำลังอ่านจดหมายรักของคู่แข่ง? ชายหนุ่มคือคนที่ใส่เสื้อขาว ที่กระชากจดหมายออกมาจาก คนรัก (?) ที่ใส่ชุดเขียวเหรอคะ ? ?? (ก็คนใส่ชุดขาวไม่มีหน้าอกนี่นา หน้าตาดูโกรธ ๆ ด้วย) ขออภัยที่นอกประเด็นค่ะ จากคุณ : nowan เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 22:38:47

ความคิดเห็นที่ 93   เคยเจอ นกหึงคนครับ เมื่อเจ้าของนก ไปเล่นกับนกตัวอื่น นกกระตั้วขึ้หึงก็ตรงเข้าไปจิกทึ้งเจ้าของทันที ถ้า..นกตัวนั้นมีเบ๊นซ์ มันคงขับทับเจ้าของยับเยินแน่..อิอิ เคยได้ยินว่ามีเรื่องการหึงเมื่อถูกแย่งความรักเป็นกลุ่มด้วยครับ เป็นคดีฆาตกรรมที่ครูคนเก่า วางแผนฆ่าครูคนที่มาใหม่ เพียงเพราะเด็กๆรักและสนใจครูคนที่มาใหม่มากว่า การถูกแย่งความรักนี่มันช่างเจ็บปวดจริงๆ เป็นปัญหาของโลกเลยนะครับเนี่ย ข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดนะครับ เคยอ่านมาจากงานวิจัยในเมืองไทยนี่เอง ประมาณว่า....ในจำนวนผู้ชายที่ถูกหั่นของรักโดยภรรยานั้น ภรรยาที่หั่น มักเป็นภรรยาน้อยคนที่หนึ่ง เกิดความโกรธหึงหวง ที่ผู้ชายแอบไปมีภรรยาน้อยคนที่สองครับ ใครเป็นแบบนี้บ้าง จงระวังตัวให้ดี จากคุณ : Amgine เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 22:55:53 A:183.89.235.249 X: TicketID:251223

ความคิดเห็นที่ 94 นั่นสิคุณ nowan งงด้วยคน เขาบรรยายมาอย่างนี้ค่ะ A Japanese painting from 1750 shows a young man catching his lover reading a love letter from a rival. จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 22:57:07

ความคิดเห็นที่ 95   กระทู้ดี มีคุณภาพ อีกแล้วครับทั่้น...น..น จากคุณ : lockdown เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 23:09:58

ความคิดเห็นที่ 96 #94 ในสมัยก่อนนะครับ ธรรมเนียมของซามูไรญี่ปุ่นจะมีความสำพันธุ์กับซามูไรรุ่นหนุ่มกว่า โดยการที่ซามูไรผู้มีประสบการณ์จะจูบหรือกระทั่งมีเพศสัมพันธ์กับซามูไรรุ่นหนุ่มนั้น ถือเป็นเรื่องปรกติ และถือเป็นการแสดงความยอมรับและการสืบทอดจิตวิญญาณซามูไร ทีนี้ ถ้าซามูไรคนนั้น เกิดไปมีความความสัมพันธ์กับศัตรูเข้า ก็จะมีการหึงหวงเกิดขึ้น ตามนั้น อ้อ ประเพณีนี้เขาเรียกซุโดครับ จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 01:51:00

ความคิดเห็นที่ 97 ^ ^ ^ เอ่อ#96 ซามูไรกับซามุไร=ชายรักชายเหรอ ? ความหึงกับความน้อยใจน่าจะใกล้เคียงกันนะ มันมีเส้นแบ่งบางๆอยู่ จากคุณ : มินเอง เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 03:29:59

ความคิดเห็นที่ 98 คำว่า jealousy อ่านเป็นภาษาไทยว่าอะไรครับ เจลัสซี่ เจียลุสซี่ ฯลฯ รบกวนด้วยครับ จากคุณ : จอมมารพุงโต เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 09:24:09

ความคิดเห็นที่ 99 ว๊าย นี่มันนิสัยเรา้เอง แต่คงไม่ไปฆ่าใคร แหะๆ จากคุณ : Natthanuch1 เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 09:35:21

ความคิดเห็นที่ 100 คุณจอมมารพุงโต เปิดฟังที่นี่เลยค่ะ จะพูดสำเนียงอังกฤษเก่งๆต้องขยันเลียนแบบค่ะ http://www.thefreedictionary.com/jealousy จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 09:42:02

ความคิดเห็นที่ 101   ชื่อ"กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา" รับประกันคุณภาพไม่ผิดหวังได้ความรู้กลับไปทุกที ขอบคุณสำหรับบทความดีๆของทุกท่านครับ จากคุณ : นายธุรการ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 11:11:41