ความคิดเห็นที่ 1 Shaving เหมือนๆกับการดูแลความงามอื่นๆ การโกนขนก็มีมาตั้งแต่สมัยก่อนก่อนประวัติศาสตร์  ความมุ่งหมายไม่ใชเพื่อความสวยงาม แต่เป็นประโยชน์ในการรบ เพราะถ้าไม่โกนคู่ต่อสู้จะจิกหนวดเคราเรามาตบได้ นอกจากนี้การโกนขนยังช่วยไม่ให้พวกเศษดิน เศษอาหารมาติดที่ทำให้ที่บ้านของคนยุคโบราณมีแมลงรบกวน เมื่อ 30,000 BC ยุคนั้นจะใช้หินที่คมมาใช้โกน นอกจากนี้นักโบราณคดีก็ยังพบหลักฐานว่ามีการใช้เขาสัตว์ เปลือกหอย และฟันฉลาม มาใช้เป็นวัสดุในการโกน ใช้งานโดยการถูกับผิว จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:37:09

ความคิดเห็นที่ 2 มีดโกนสมัยยุค the first Iron Age จากพิพิธภัณฑ์ Ardennes Museum ในฝรั่งเศส ขอบคมไว้โกนนั้นมีสองด้าน มีด้ามจับ ปลายแหลมจึงอาจใช้เป็นอาวุธได้ด้วย http://en.wikipedia.org/wiki/Straight_razor จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:41:28

ความคิดเห็นที่ 3 มีดโกน (Razor) อันบน และที่ตัดเล็บอันล่าง พบในสุสานของ Hallstatt culture ใน central Europe  8-6 th  century BC http://en.wikipedia.org/wiki/Straight_razor จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:43:30

ความคิดเห็นที่ 4 อร๊างงงง..ชอบหนุ่มๆมีหนวดมีเครา แบบเท่ๆอ่าค่ะ มะช่ายรกครึ้มเยี่ยงโจร T.,T จากคุณ : วัตถุต้องสงสัย เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:44:04

ความคิดเห็นที่ 5 ทัศนคติเกี่ยวกับขนก็แตกต่างไปตามแต่ละยุคสมัย ชนชั้นสูงของชาวอิยิปต์โบราณโกนขนทั้งหน้าและโกนทั้งตัวด้วย รูปชาวอิยิปต์กับมีดโกน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:44:39

ความคิดเห็นที่ 6 มีดโกนกับกระจกของอิยิปต์โบราณ http://www.metmuseum.org/toah/works-of-art/36.3.69,.13 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:45:20

ความคิดเห็นที่ 7 หล่ออยู่แล้ว จากคุณ : ท่านประธานบริษัท เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:47:05

ความคิดเห็นที่ 8 ชาวกรีกโบราณมีค่านิยมว่า การไว้หนวดเคราแสดงถึงความแมนสมชาย แต่เมื่อถึงสมัยพระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราชก็เปลี่ยนไป เป็นที่พูดถึงกันว่าพระองค์หมกมุ่นกับการโกนขน  ทำให้ชายชาวกรีกนิยมทำตามในเวลาต่อมา รูปพระเจ้าอเลกซานเดอร์ ผู้นำแฟชั่นหล่อใสไร้ขน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:48:15

ความคิดเห็นที่ 9 เชื่อค่ะท่านประธาน Ptolemy Coin With Alexander Wearing Elephant Scalp รูปพระเจ้าอเลกซานเดอร์บนเหรียญ เห็นว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลา http://en.wikipedia.org/wiki/Beard แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 18:53:33 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:51:52

ความคิดเห็นที่ 10 หญิงชาวกรีกก็โกนทั้งตัวเหมือนกัน ที่ตัวไม่มีขนเลย เป็นที่นิยมว่าเป็นความงามในอุดมคติในสมัยนั้น ชาวโรมันนั้นในตอนแรกถือว่าการโกนขนถือเป็นความเสื่อมวิปริต แต่ว่าพอเวลาผ่านไป มีชาวต่างชาติเดินทางมาให้เห็นมากขึ้นว่าไม่มีหนวดเครา ชาวโรมันจึงนิยมโกนตาม การโกนขนในสมัยโรมันนั้นนิยมทำในร้านตัดผม ซี่งเป็นสถานที่ที่จะได้ถือโอกาสมานั่งพูดคุยพบปะกันไปพร้อมๆกับการเสริมความงาม อุปกรณ์ที่ใช้ในช่วงนี้คือโลหะ เช่น ทองแดง ทองคำ หรือเหล็ก Roman Empire, 1st - 3rd c. AD. Bronze shaver จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:56:29

ความคิดเห็นที่ 11 ในยุคกลาง (middle age)ร้านทำผมจะเปิดให้บริการเสริมสวยและอื่นๆด้วย เช่นการนำเลือดออกปริมาณเล็กน้อยทีเชื่อว่าจะช่วยรักษาโรค (Blood letting) การผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ และการทำฟัน การทำ Blood letting http://en.wikipedia.org/wiki/Bloodletting จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 18:58:09

ความคิดเห็นที่ 12 ที่ร้านทำผมก็จะให้บริการโกนขนด้วย แผลที่เกิดจากการโกนจะเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมากๆเมื่อคุณมาที่ร้าน และต้องใช้ผ้าพันแผลแปะห้ามเลือดไว้ จนเป็นสัญลักษณ์ที่มาของเครื่องหมายร้านทำผมในปัจจุบันที่เป็นลายเกลียวขาวสลับแดงแทนเป็นผ้าพันแผลสลับกับเลือดนั่นเอง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:00:03

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม เทคโนโลยีของการโกนขนก็ก้าวหน้าตามไปด้วย มีดโกนแบบตรง Straight razor ใช้เป็นครั้งแรกที่เมืองSheffield ของประเทศอังกฤษ และเป็นที่นิยมทั่วโลกในเวลาต่อมาเพื่อโกนหนวดเครา การใช้ Straight razor ทำให้ทื่อได้ง่าย ต้องลับบ่อยๆ และเป็นแผลได้ง่าย จนมันได้ฉายาว่า “cutting throat razor” หรือใบมีดโกนปาดคอ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 19:02:19 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:01:59

ความคิดเห็นที่ 14 Sweeney Todd และเพื่อนรักของเขา straight razor จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:03:26

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อมาในปี 1762 Jean Jacques Perret ชาวฝรั่งเศส  ได้ประดิษฐ์ Safety razor ขึ้นมาเป็นคนแรก มีลักษณะคือมีตัวกัน (guard) กันส่วนใบมีดส่วนใหญ่ เหลือไว้เป็นส่วนเล็กๆของใบมีดที่โผล่ออกมา ทำให้ส่วนใบมีดอื่นๆไม่ไปบาดบริเวณอื่นเช่น ใบหู เหมือนกับมีดโกนแบบเก่า แต่เขาไม่ได้จดสิทธิบัตร ใบมีด Safety razor ของ Perrett จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:05:44

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากนั้นได้มีนักประดิษฐ์หลายๆท่านได้ดัดแปลงแนวคิดใบมีด Safety razor ออกมาเป็นหลายๆแบบ เช่น ทำรูปร่างคล้ายๆหวี เพื่อไม่ให้ใบมีดโดนส่วนผิวหนังมากนัก http://www.razorandbrush.com/perkam.html จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:07:30

ความคิดเห็นที่ 17 1880 – The Star Safety Razor พี่น้อง Kamfe ยื่นจดลิขสิทธิ์เรียกมีดโกนของพวกเขาว่า “the Star Safety Razor”  ลักษณะคล้ายจอบ คือมีด้ามจับที่ตั้งฉากกับส่วนติดใบมีด  ใบมีดจะเป็นแบบตรงและสั้น ติดกับฐานด้วยคลิปโลหะ  ถึงจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่มีดโกนแบบนี้ก็ยังต้องใช้การลับอยู่ http://www.razorandbrush.com/perkam.html แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 19:08:52 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:08:43

ความคิดเห็นที่ 18 รูป The Star Safety Razor จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:10:01

ความคิดเห็นที่ 19 ในปี 1804 King C. Gillete (จิลเลตไง)  ได้เปลี่ยนโฉมหน้าวงการมีดโกน ทำให้เป็นสินค้าที่แพร่หลายในวงกว้าง โดยการเปลี่ยนตัวใบมีดโกนให้ทำมาจากวัสดุราคาถูก สามารถใช้แล้วเปลี่ยนทิ้งได้ไม่ต้องลับเหมือนแต่ก่อน แถมจิลเลตยังเป็นผู้บุกเบิกใช้การตลาดแบบ Lost leader อีกด้วย Lost leader เป็นเทคนิคการขายโดยการขายสินค้าหนึ่งๆแบบถูกมากๆบางทีต่ำกว่าทุน เพื่อหวังว่าลูกค้าจะมาซื้อสินค้าอื่นในร้าน แล้วคิดโดยรวมแล้วเราได้กำไรเยอะๆ จิลเลตใช้วิธีการนี้โดยการแจกด้ามจับไปเลยฟรีๆแต่ว่าใบมีดคิดเงิน แล้วคนก็มาซื้อใบมีดบ่อยๆทำเงินได้มาก http://en.wikipedia.org/wiki/Loss_leader http://www.shaveworld.org/shaveworld_web/shave_safety_razor.php ใบสิทธิบัตรแรกของจิตเลต จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:12:38

ความคิดเห็นที่ 20 การโกนขนไม่ได้แค่โฆษณาจำกัดอยู่ในหมู่ผู้ชายเท่านั้น ในเดือนพฤษภาคมปี 1915 นิตยสาร Harper’s Bazaar ได้ตีพิมพ์รูปนางแบบผู้หญิงใส่ชุดราตรีไม่มีแขนเสื้อโชว์จุ๊กกุแร้ที่ไม่มีขน การโปรโมทโฆษณาเรื่องขนในผู้หญิงนั้นคงดุเดือดต่อไป ในปี 1920s บริษัท The Wilkinson Sword Company ได้เริ่มปล่อยโฆษณาออกมาเป็นระยะต่อเนื่องเพื่อโปรโมทว่า ผู้หญิงที่มีขนรักแร้นั้น ไม่เพียงแต่จะไม่ถูกสุขอนามัย ยังแสดงถึงความไม่เป็นผู้หญิงที่แท้จริงอีกด้วย หลังจากโฆษณาชุดนั้นออก ยอดขายมีดโกนก็พุ่งทะลุเป็นสองเท่าใน 2-3 ปีถัดมา http://en.wikipedia.org/wiki/Wilkinson_Sword นิตยสาร Harper’s Bazaar จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:15:09

ความคิดเห็นที่ 21 มีดโกนที่พัฒนามาในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาก็เป็นการพัฒนา Single blade technology โดยการเปลี่ยนจาก Carbon steel เป็น Stainless steel ทำให้ไม่สึกกร่อนเพิ่มอายุการใช้งานในช่วง 1960s โดย The Wilkinson Sword สิ่งที่เปลี่ยนไปมากคือเมื่อปี 1971 คือ Trac II เป็นแบบหลายใบมีดโกน (multiblade razor) อันแรกของโลก หลังจากนั้นการพัฒนาของใบมีดก็ยังคงเป็นแบบคล้ายๆกันนี้เป็นต้นมาคือเป็นแบบ multiblade และทิ้งตัวมีดได้ (disposible) ที่บริษัทต่างๆออกแบบมาให้เหมาะกับทั้งผู้หญิงและชาย จะเห็นได้ว่ามีดโกนนั้นมีวิวัฒนาการมานานมากทีเดียวกว่าจะเป็นหน้าตาแบบทุกวันนี้ http://en.wikipedia.org/wiki/Gillette_(brand) Trac II จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:19:20

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่จำเป็นว่าการโกนขนต้องใช้มีด เพราะเครื่องโกนแบบไฟฟ้านั้นจะโกนโดยไม่ต้องลากขนไปติดกับผิว แต่ใช้หลักการแบบกรรไกร โดยใช้เป็นการสั่น (oscillatory) หรือ Circular motion   โดยพอจ่อเข้าไปที่ผิวแล้วขนมันจะถูกดันทะลุอยู่ในช่องพอดี แล้วจะมีใบมีดมากดขนเข้ากับแผ่นโลหะ (foil) Colonel Jacob เป็นคนแรกที่จดลิขสิทธิ์ในปี 1928 http://iavbbs.com/gflinn/schick.htm ต้นแบบมีดโกนไฟฟ้าเครื่องแรกโดย Colonel Jacob จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:20:50

ความคิดเห็นที่ 23 อันนี้เป็นอันที่วางขายในปี 1931 โดย Colonel Jacob จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:21:29

ความคิดเห็นที่ 24 ผมมีหนวด ผมก็ว่า มีหนวดหล่อกว่า (แต่เด็กเรียกแม่ให้มาดูโจร) วันไหนโกนหนวด ก็คิดเองว่า เกลี้ยงแล้วมีเสน่ห์กว่า ฉะนั้น ผมเป็นคนดี น่าสนใจแบบยั่งยืนกว่า จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:21:34

ความคิดเห็นที่ 25 HAIRS         หมายถึง  เส้นผมที่อยู่บนศีรษะและขนที่อยู่ตามร่างกาย  ถึงแม้ว่า Hairs จะไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับความอยู่รอดของชีวิต (Vital function)  แต่ Hairs ก็มีความสำคัญในแง่ความสวยงามซึ่งมีผลต่อจิตใจของคน (Psychological  importance)   ใครที่พบกับ ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน อาจก่อให้เกิดปัญหาทางใจ เช่น ซึมเศร้า ไม่มีความมั่นใจในตนเอง เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม คนที่มีขนตามตัวมากเกินไปก็ก่อให้เกิดปัญหาทางใจได้เช่นกัน   เช่น  ขนหน้าแข้งมากในผู้หญิง  เป็นต้น http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4410/data/frame.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:23:02

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ labor_pu เปิดตัวแรงมากนะคะ ท่านประธานงงไปเลยค่ะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:23:59

ความคิดเห็นที่ 27 หน้าที่ของ Hairs คือ   1.ป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียความร้อน 2.ป้องกันไม่ให้ผิวหนังได้รับอันตราย 3.Hairs ในบางตำแหน่ง เช่น ขนตา ขนคิ้ว  ขนรูจมูก จะช่วยป้องกันอวัยวะเหล่านั้นจากอันตราย นอกจากนี้ Hairs บนศีรษะยังช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายผิวหนังศีรษะ 4.เป็นอวัยวะรับความรู้สึกชนิดหนึ่ง (Touch organ) ซึ่งในรูขุมขนจะมีเส้นประสาทมากมายที่รับความรู้สึก เมื่อมี แรงกดบน Hairs  (Tactile  sensibility) 5.เป็นตัวนำให้สารออกจากร่างกายเช่นไขมัน(Sebum) ที่สร้างจากต่อมไขมัน (Sebaceous  glands) และเหงื่อ จากต่อม Apocrine  glands 6.เป็นส่วนสำคัญต่อบุคลิกลักษณะของร่างกาย (Body image) ช่วยดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้าม 7.รูขุมขน (Hair  follicles) มีบทบาทสำคัญต่อการรักษาสมดุลของ epidermis (Epidermal  homeostasis) การ หายของแผล (wound healing)               ขนและรูขุมขน พบได้ทั่วร่างกาย ยกเว้น บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ด้านหลังของปลายนิ้วมือนิ้วเท้า, บริเวณรูเปิดปิด ของทวารหนัก (anus), บริเวณ glans penis prepure clitoris labia minora ด้านในของ labia  majora และริมฝีปาก http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4410/data/frame.htm แบรด พิตต์เรื่องนี้ผมสลวยสวยเก๋มั่กๆ (Legend of the fall ขออภัยหากเกิดไม่ทัน) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:29:05

ความคิดเห็นที่ 28 The pilosebaceous unit ประกอบด้วย Hair follicle(รูขุมขน), Hair shaft (เส้นขน) ,และ Sebaceous gland (ต่อมไขมัน) โดย Hair follicle มีหน้าที่สร้างขน  ต่อมไขมันผลิตไขมันมาเคลือบเส้นผมเป็นคอนดิชั่นเนอร์ตามธรรมชาติ กล้ามเนื้อเรียบที่มีชื่อว่า Arrector pili muscles  การหดตัวของกล้ามเนื้อนี้  (contraction)   จะทำให้เกิดภาวะขนลุก การเกิดขนลุกนี้เพื่อให้ร่างกายเก็บ รักษาความร้อนเอาไว้ในร่างกาย จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:32:05

ความคิดเห็นที่ 29 รูขุมขน (Hair follicles) เป็นที่อยู่ของขน  (Hairs) มีรูปร่างเป็นทรงกระบอก เจริญจาก epidermis ที่ยาวยื่นลงไปใน dermis   บริเวณส่วนปลายลึกสุดจะมี dermis ยื่นลึกเว้าเข้ามาทำให้เกิดเป็นกระเปาะขึ้นเรียกว่า dermal  hair  papillae  ซึ่งเป็นที่อยู่ของ hair matrix  ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างเส้นขน (hair shaft)  ให้ยาวยื่นขึ้นมาในรูขุมขน  จนเปิดออกสู่ผิวหนัง  เห็นเป็นเส้นขน   melanocytes  ซึ่งมีหน้าที่สร้าง melanin ก็อยู่ตรงบริเวณ hair papillaeนี้ด้วย ทำให้เกิดเป็นสี ของเส้นผม (Hair color) ภาพรูขุมขน สังเกต dermal  hair  papillae จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:34:35

ความคิดเห็นที่ 30 อันนี้รูปจริง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:35:32

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนตัวเส้นขน Hair shaft  ส่วนใหญ่เป็นเคราตินและส่วนประกอบอื่นๆ(binding material ) และประกอบด้วยน้ำเล็กน้อย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือ   1.Outer cuticle  มีลักษณะเป็นเกล็ดบางๆ ชั้นเดียว ซ้อนทับกัน แบนๆ มีหน้าที่ปกป้องเส้นผม ควบคุมปริมาณน้ำที่มีในเส้นผม (hair fiber) เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเงางามของเส้นผม 2.Hair cortex  เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วย เคราตินยาวหลายชั้น ภายในมี melanin  ที่ถูกสร้าง และส่งมาจาก melanocyte  ทำให้เห็นเป็นสีผม ชั้นนี้เป็นชั้นที่ใหญ่ที่สุดในสามชั้น เกี่ยวข้องกับสมบัติทางโครงสร้าง เช่นความยืดหยุ่นและความเป็นลอนโค้ง 3.Hair medulla ประกอบด้วย vacuolated cells ขนาดใหญ่หลายแถว และบางครั้งพบว่ามี melanin pigment ได้ http://www.cai.md.chula.ac.th/lesson/lesson4410/data/frame.htm จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:37:16

ความคิดเห็นที่ 32 เส้นขนสามารถแบ่งตามลักษณะ (Texture) และความยาวได้หลายชนิด คือ   1.Lanugo hairs จะเป็นเส้นผมชุดแรกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา มีลักษณะ  นุ่ม, เส้นบาง, สีอ่อน  และจะลอกหลุดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ 2.Vellus hairs  หมายถึง  เส้นผมที่มีความยาวไม่เกิน 1 เซนติเมตร  เส้นจะบาง  สีอ่อนกว่า  และไม่มี hair  medulla   เช่น   ขนบริเวณตัว  ใบหน้า 3.Terminal hairs  ส่วนใหญ่จะหมายถึง ผมบนศีรษะ (scalp  hairs)  จะมีความยาวมากกว่า 1 เซนติเมตร  เส้นใหญ่ หนา สีเข้ม แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 19:40:50 แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 19:40:30 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:40:12

ความคิดเห็นที่ 33 เส้นขนลานูโก ในเด็กในท้อง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:41:52

ความคิดเห็นที่ 34 วงจรชีวิตของ Hair (Hair growth cycle)         Hair จะมีระยะเจริญเติบโต (Growth), หยุดเจริญเติบโต (Involution), และระยะพัก (Resting) ทำให้เกิดเป็น ระยะของ hair  เป็น  3 ระยะ โดย  dermal  hair  papillae เป็นตัวกำหนดว่าขนอยู่ระยะไหนในวงชีวิต 1.Anagen  hair  เป็นระยะเจริญเติบโต  เซลล์มีการแบ่งตัวมากมาย  melanocyte สร้าง melanin ตลอดเวลา โดยระยะ Anagen นี้ Hair  follicle จะมุดลึกลงไปถึงชั้น dermis แล้วมันจะแบ่งเซลล์ใหม่ๆออกมาดันเซลล์ใหม่ขึ้นไปข้างบน   ในช่วงเวลาหนึ่งๆนั้นพบว่าผมมี anagen 80% หนวดเครา 70% และขนขาและรักแร้คิดเป็น 20-30% ระยะนี้กินเวลาเฉลี่ยประมาณ 2-6 ปี แล้วแต่ว่าอยู่บริเวณ ใดของร่างกาย  ผมจะอยู่ระยะนี้ 3-6 ปี เครา 1 ปี หนวด 4-14 สัปดาห์ ขาและรักแร้ 16 สัปดาห์ โดยระยะที่อยู่ใน anagen จะเป็นตัวกำหนดความยาวของขนที่ผลิตขึ้นมา 2.Catagen Hair เป็นระยะที่ต่อเนื่องมาจาก  Anagen  stage   Hair  จะหยุดการเจริญเติบโต,  melanocytes หยุดสร้าง melanin และ Hair follicle ที่เดิมอยู่ลึกลงไปในชั้น Hypodermis  จะเริ่มหดสั้นมาเรื่อยๆ โดยการ สลายตัวกลายเป็น membrane เหลืออยู่  ระยะนี้กินเวลาเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์ 3.Telogen  Hair  เป็นระยะที่ต่อเนื่องมาจาก Catagen  stage  บริเวณโคน Hair จะเห็นเป็นรูป Club-shaped (เหมือนกระบอง) และ Hair ก็จะเริ่มหลุดร่วงออกมา  ระยะนี้กินเวลาเฉลี่ยประมาณ 1-3 เดือน และก็เวียนกลับไปสู่ระยะ  Anagen  stage  ใหม่เป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไป จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:43:35

ความคิดเห็นที่ 35 Properties of hair- Impact on shaving คุณสมบัติของขนที่มีผลต่อการโกน บริเวณหนวดของผู้ชาบที่เป็นผู้ใหญ่ มี Hair fiber ประมาณ 6,000-25,000 เส้น และอัตราการโตของหนวดในการวิจัยคือ 0.27 มิลลิเมตรต่อ 24 ชั่วโมง แต่ก็ต่างไปในแต่ละบุคคล มีขนทั้งสองชนิดบริเวณนี้คือ Vellus hair ที่บางๆ และ terminal hair ที่หนากว่า การศึกษาเรื่องผมมีมากในขณะที่การศึกษาเรื่องหนวดนั้นหาได้ยาก Tolgysi et al. ได้ตีพิมพ์เรื่องคุณสมบัติเปรียบเทียบระหว่างผมและขนที่หนวด ทั้งในด้านกายภาพ โครงสร้าง และเคมี ผมจะมีชั้น cuticle น้อยกว่าหนวดประมาณครึ่งหนึ่ง (10-13 ชั้นในหนวด , 5-7ชั้นในผม)และผมจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่าหนวด ประมาณครึ่งหนึ่ง ดังรูป รูปบนคือหนวด รูปล่างคือผม แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 19:47:43 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:47:28

ความคิดเห็นที่ 36 รูปบนคือหนวด รูปล่างคือผม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:49:03

ความคิดเห็นที่ 37 รูปร่างลักษณะที่ต่างกันของหนวดและผมมีผลต่อการโกน แรง(force)ที่ต้องใช้ในการตัดต้องมากขึ้นเมื่อเพิ่มพื้นที่หน้าตัดของขน (cross sectional area) ที่จริงแล้วต้องใช้แรงมากเป็นสามเท่าในการโกนขนหนวดเมื่อเทียบกับการโกนขนขาหรือผม เรื่องที่สำคัญก็คือ เมื่อขนเปียกน้ำ จะทำให้ขนนิ่มขึ้นอย่างมาก ลดแรงในการตัดไปได้มากทำให้ลดแรงต้านต่อใบมีด (resistance) รอบๆ รูขุมขนของคนเรานั้นมีปลายเส้นประสาทมาอยู่รอบๆมากรวมถึงเส้นประสาทรับความรู้สึกด้วย ตั้งสมมติฐานว่าการที่คนเรารู้สึกไม่สบายตัวหลังจากโกนเป็นเพราะผลจากการหลุดลอกของผิวหนังตรงนั้นโดยตรงและ/หรือการการหมุนและยืดตัวของขนในรูขุมขน   มีรายงานทางประสาทวิทยาตีพิมพ์ไว้ว่า การที่เป็นเช่นนี้ (local skin distortion) ทำให้มีการหลั่งสารเคมีมากมายเช่น Histamine,prostaglandins, bradykinin ทำให้ไปเพิ่มความไวของปลายประสาทรับความเจ็บ ทำให้เจ็บมากขึ้น ทำให้ยังไงการโกนขนก็ต้องมีการระคายเคืองอยู่ดีหลีกเลี่ยงไม่ได้ รูปการสแกนโดยกล้องจุลทรรศน์อิเลกตรอนบริเวณแก้มของผู้ชาย จะเห็นได้ว่าบริเวณพื้นผิวของผิวหนังเรามันจะไม่ค่อยเรียบ แถมพอมีขนอีก ทำให้พื้นผิวที่จะผ่านใบมีดจะขรุขระ เป็นผลให้เกิดรอยเฉือนบาดผิว รอยแดง ความเจ็บปวด หรือผิวแห้งๆได้ง่ายหลังโกน การจะโกนให้มีประสิทธิภาพให้ระคายเคืองน้อยสุดต้องใช้ใบมีดที่คมคุณภาพดี จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:50:57

ความคิดเห็นที่ 38 Shaving and the razor explored ตั้งแต่การประดิษฐ์ safety razor อุตสาหกรรมนี้ก็ทุ่มเททั้งในเรื่องเงินทุน เวลา และความเชี่ยวชาญในการพัฒนามีดโกนรุ่นใหม่ๆที่จะโกนได้สั้น (closer) สบายและปลอดภัย ต่อไปจะอธิบายกลไกการโกนของใบมีดต่อขนที่หนวดและปฏิกริยาต่อผิวหนัง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:53:31

ความคิดเห็นที่ 39 Evolution of the system razor System razor จะมี cartridge  ไว้เปลี่ยนใบมีดเมื่อมันไม่คมแล้ว ไม่เหมือนกับแบบใช้แล้วทิ้ง ในแบบที่ใช้เป็นครั้งแรกคือ Double edge razor system (ใบมีดเดี่ยว) ผู้ใช้จะต้องเอียงตัวด้ามจับเอง จะไปออกแรงที่ใบมีดอันเดียวทำให้โกนไม่สม่ำเสมอ แต่ปัจจุบันได้พัฒนาเปลี่ยนไป รูปแสดงภาคตัดขวางระบบ Double edge razor (ใบมีดเดี่ยว) และค่าพารามิเตอร์ต่างๆ คือ Shaving  angle คือมุมระหว่าง center plane of the blade และ a plane tangent to the guard Exposure คือบริเวณปลายมีดที่โผล่พ้นการ์ดและ cap ไป การเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์เหล่านี้ทำให้ผลการโกนเปลี่ยนไป เช่น การเพิ่ม Exposure จะทำให้โกนได้แนบชิดมากขึ้นแต่เพิ่มรอยแผลโกนพลาดบาดเนื้อ การลดมุม Shaving angle ทำให้ลดการโกนพลาดบาดเนื้อแต่จะลดประสิทธิภาพในการตัด ดังนั้นระบบนี้จึงไม่ค่อยดีต้องปรับมุมเองจึงจะได้ผลที่ผู้ใช้พอใจ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 19:58:45

ความคิดเห็นที่ 40 ระบบการโกนสมัยใหม่สามารถทำให้โกนได้ใกล้ (clossness) เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น   เวลาโกนขนนั้นขนไม่ได้ถูกตัดทันทีที่โดนมีด แต่ว่าตัวขนจะหมุนและยืดตัวดึงขึ้นจากรูขุมขน (hair follicle) และเพราะความยืดหยุ่นของขนมันจะหดกลับลงไปในรูทันที แต่ถ้ามีใบมีดต่อมามาตามทันทีจะตัดในจังหวะที่ขนโดนยืดตัวก่อนที่มันจะกลับลงรู ดังนั้นถ้ามีใบมีดหลายๆใบต่อกัน (multiple blade) จะเพิ่ม closeness ได้ การเพิ่มใบมีดลงไปนี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ ทำมานานแล้ว ในปี 1929 มีการจดสิทธิบัตรแรกในระบบ 5 ใบมีด  แต่ถ้าใบมีดโกนมากเกินไปถึงจะเพิ่ม Closeness แต่จะเพิ่มการลาก(drag )ไปบนเนื้อมากขึ้นจะทำให้เจ็บได้ การเพิ่มใบมีดเข้าไปทำให้ผิวระหว่างใบมีดโป่งออกมาดังในรูปซ้าย แต่ถ้าเอาใบมีดให้ชิดกันมากขึ้นจะทำให้เนื้อโป่งน้อยลง ลดการระคายเคือง ดังรูปขวา จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:01:35

ความคิดเห็นที่ 41 สิ่งที่สำคัญมากในเทคโนโลยีมีดโกนคือตรงคมมีด Razor blade edge คือถ้าคมมีดมันบางๆจะช่วยให้ตัดได้ใกล้ชิด Close มากขึ้น แต่บางเกินจะทำให้มีดพับลงจากแรงตัด ดังนั้นต้องพัฒนาให้ใบคมมีดบางแต่ยังแข็งแรงไม่พับได้ง่าย โดยการใช้เป็น stainless steel และเคลือบด้วย Diamond-like carbon เพิ่มความแข็งแรง หรือ platinum-chromium เพื่อลดการผุกร่อน  อาจเพิ่มสารเคลือบบางอย่างเพื่อลดแรงเสียดทานที่พื้นผิวด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อลดการใช้แรงในการโกน ลดการดึงขน ทำให้ไม่เจ็บเหมือนเก่า ในรูปจะเห็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการโกนคือ Lubricating strip หรือแถบหล่อลื่น ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1985 ตอนนี้พบแถบนี้ได้ทั่วไปใน Cartridge ทั้งแบบใช้แล้วทิ้งและแบบเปลี่ยนใบมีดได้ จะมีสารหล่อลื่นที่ละลายน้ำได้มาลดการลากตัว Cartridge ลงไปบนผิว Guard ทำหน้าที่ดึงผิวให้ตึงแล้วขนมันจะสปริงตัวเด้งขึ้นให้ตัดง่ายขึ้น Pivot head คือส่วนหัวที่เป็นข้อต่อหมุนขยับได้ทำให้โกนได้ตามโค้งเว้าใบหน้า Trimmer blade เอาไว้เล็มแบบละเอียดตามต้องการ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:06:56

ความคิดเห็นที่ 42 มาดูการใช้ดีกว่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:07:50

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ หล่อใสเพราะใช้ Gillete   จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:09:11

ความคิดเห็นที่ 44 The shaving process กรรมวิธีการโกนขน การเตรียมตัวโกนขนจะเพิ่มประสิทธิภาพการโกนได้ดีมากขึ้น ขั้นแรกต้องทำความสะอาดผิวก่อน การทำความสะอาดจะชะล้างเศษฝุ่นเศษดินที่ทำให้รบกวนการโกนและยังช่วยให้ขนดูดน้ำ จะให้ดีที่สุดควรโกนขณะอาบน้ำ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ก็ให้ล้างบริเวณที่เราจะโกนด้วยคลีนเซอร์และน้ำอุ่นก่อนโกน ขนมีเคราตินเป็นส่วนประกอบหลัก เคราตินชอบอมน้ำ (high affinity to water) เมื่อขนโดนน้ำจะทำให้นุ่มและทำให้สามารถตัดได้ง่าย แรงที่ใช้ในการตัดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อขนโดนน้ำ ดังในกราฟ ผลของเวลาการให้น้ำ (hydration time) ต่อแรงที่ใช้ในการตัดหนวด จะมีนัยสำคัญมากที่สุดเมื่อผ่านไปสองนาที แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 53 20:10:37 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:09:51

ความคิดเห็นที่ 45 ฮ่าๆ หวัดดีคุณลาบ นายแบบจิลเลตคนใหม่ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:11:37

ความคิดเห็นที่ 46 และการ Hydration แก่ผิวหนังชั่วคราวนั้นจะเพิ่มความยืดหยุ่นผิว สามารถยืดหดตามใบมีดที่ลากไปบนผิวได้ดีขึ้น แต่ถ้าผิวผ่านการแช่น้ำมากเกินไปจนเป็นบวมร่องๆ จะทำให้พื้นผิวขรุขระยากต่อการโกนและบาดเจ็บได้ง่ายกว่าเดิม การแช่น้ำนานทำให้ผิวส่วน stratum corneum เสีย Natural moisturizing factor (NMF) ที่ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวเก็บน้ำ ดังนั้นหลังการโกนจะทำให้ผิวแห้ง การใช้เจลหรือครีมมาช่วยโกนจะช่วยได้หลายอย่าง คือมันจะชะล้างน้ำมันและเซลล์ผิวเก่าๆเสื่อมสภาพหลุดออกจากพื้นผิวทำให้โกนง่ายขึ้น แถมผลิตภัณฑ์พวกนี้มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากอยู่ด้วยช่วย hydration ได้ นอกจากนี้ยังมีสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ทำจากน้ำมันและโพลิเมอร์ต่างๆ Hydration จะเพิ่มค่า Coefficient of friction (แรงเสียดทาน)ของวัตถุที่เลื่อนบนพื้นผิวของผิวหนัง ดังนั้นมี Surfactant จากเจลหรือครีมจะคล้ายๆเป็นหมอนรองระหว่างตัวมีดกับผิวหนังให้โกนได้ลื่นขึ้น คลิปสอนการโกนขนที่หน้า นายแบบคือคุณลาบ (ลองดูดิ ทำหน้าเวอร์สุดๆ) จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:13:34

ความคิดเห็นที่ 47 อุปกรณ์ใบมีดโกนควรจะคม ใบมีดไม่คมจะดึงขนขึ้นมาจากรูได้มากทำให้เจ็บ และเพิ่มความเสี่ยงการตัดเนื้อ แนะนำให้โกนไปตามแนวขนด้วยแรงเบาๆ จะได้ลดการดึงขนขึ้นจากรู ในการไถครั้งแรกๆ ถ้ายังไม่หมดก็ไถย้อนแนว การโกนหนวดควรใช้มือลูบหน้าดูจะรู้ว่าแนวขนไปทางไหน ผิวหนังบริเวณรักแร้มักจะหย่อนๆไม่สม่ำเสมอ จึงควรใช้มือดึงให้ตึงจะช่วยให้โกนง่าย คลิปสอนการโกนขนรักแร้ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:15:07

ความคิดเห็นที่ 48 บางคนมีปัญหาขนคุด Psuedofolliculitis barbae มักเป็นในคนแอฟริกัน คือขนมันโค้งหยิกแล้วปลายขนม้วนตัวทิ่มกลับเข้าไปในผิวอีก ทำให้เกิดการอักเสบ ดังนั้นในคนไหนที่เป็นแบบนี้บ่อยๆ ควรแช่ขนให้เปียกมากๆก่อนโกน และควรใช้เจลหรือครีมเสมอ โกนทุกวันด้วยมีดที่คม จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:16:35

ความคิดเห็นที่ 49   ใช้มีดแบบคห.16 แล้วเฮียเดฟจะหากินยังไงเนี่ย ปาดคอลูกค้าไม่ได้ จากคุณ : แมวซ่อมคอมไม่เป็น เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:17:29

ความคิดเห็นที่ 50 หลังการโกนขนควรล้างผิวเอาครีมออก ถ้าไม่ล้างสารลดแรงตึงผิวทิ้งไว้จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ การล้างด้วยน้ำเย็นจะช่วยให้ผลลดความเจ็บปวดได้ ใส่มอยส์เจอไรเซอร์ช่วยลดการแห้งหลังการโกน และยังช่วยให้กระบวนการสร้างเซลล์ป้องกันผิวทำได้เร็วขึ้น คลิปการโกนขนที่หลัง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:17:35

ความคิดเห็นที่ 51 ขั้นตอนการโกนขนที่ว่ามานี้เหมือนกันในทั้งผู้หญิงและชาย แต่มีดโกนในผู้หญิงจะอาจแตกต่างจากของผุ้ชายเล็กน้อยตามลักษณะเส้นขนและพฤติกรรมการใช้ ดังสรุปได้ในตาราง แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 00:30:24 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:19:35

ความคิดเห็นที่ 52 ว้า ตารางไม่ชัดเลย ช่างมันเถอะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:21:37

ความคิดเห็นที่ 53 สอนโกนขนหน้าอก จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:22:40

ความคิดเห็นที่ 54 เชื่อว่า หลังอ่านกระทู้นี้ หลายๆคนคงเอาไปทำตาม ..... จากคุณ : หวงหลิง เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:24:55

ความคิดเห็นที่ 55 จบด้วยการโกนขนที่ลับนะเออ ใครจะทำตามไม่ว่ากันเน้อ ก๊ากๆๆๆๆ ป.ล.กระทู้นี้ยากเกินไปอีกหรือเปล่าเนี่ยเพื่อนๆ ฮ่าๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:28:46

ความคิดเห็นที่ 56 หวัดดีหวงหลิง นั่นแน่ไม่ยอมอ่านหนังสือสอบ   จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 20:30:09

ความคิดเห็นที่ 57   มาลงชื่อคนอ่านกระทู้ ชาบู ชาบู ชาบู จากคุณ : หล่อเลิศ ฉลาดล้ำ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 22:05:43

ความคิดเห็นที่ 58 บังเอิญจัง กำลังจะโกนหัว ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 22:17:50

ความคิดเห็นที่ 59 คห.24 ได้ใจมั่กๆ 555+ จากคุณ : ดอกไม้ไฟสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 22:21:22

ความคิดเห็นที่ 60 mOOgrOb'pm' โกนหัวมัยอ่ะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 22:50:10

ความคิดเห็นที่ 61 เบื่อหน้าตัวเอง ... ^_^ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:12:55

ความคิดเห็นที่ 62 ^ ^ ก็บอกให้ตัดใจ ดันไปตัดผม มันจะแก้ตรงจุดได้ไง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:15:20

ความคิดเห็นที่ 63 ตัดได้ไงล่ะ ... v v จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:30:28

ความคิดเห็นที่ 64 ... จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:41:36

ความคิดเห็นที่ 65 โห อันนี้เน่ามากๆเลยจ้า mOOgrOb'pm' จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:44:21

ความคิดเห็นที่ 66 แวีก คุณเหงื่อตก ถือดีๆ ระวังทำมีดโกนอันนั้นหล่นนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:45:31

ความคิดเห็นที่ 67 โกนขนที่รักแร้หรือที่ปิ๊กกาจูมันไม่คันหรือครับ หรือเค้ามีวิธี เคล็ดลับอะไรที่ผมไม่รู้ ? จากคุณ : ซาซิมิปลากัดทอดราดซอสช็อคโกแลต เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:51:28

ความคิดเห็นที่ 68 #13 คนไทยเรียกว่า มีดสะบัดหนัง ต้องมีหนังแผ่นไว้ลับมีดคู่กันด้วย ตอนนี้เป็นของสะสมของคนเล่นของโบราณแล้ว ใครมีขายได้เป็นพันนะครับ จากคุณ : ม้าไม้เมืองทรอย เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:58:15

ความคิดเห็นที่ 69 นั่นสิ โกนยังไงไม่ให้มันขึ้นใหม่แล้วคันอ่ะ ตั้งแต่เกิดมาโกนไปครั้งเดียวเข็ดเลย คันทั้งวัน  -*- จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่บูรินนนนน (amplify love) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 53 23:59:38

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ นั่นแน่ คุณamplify love เราตัดขาดกันแล้วนะคะเป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงแล้วค่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:12:02

ความคิดเห็นที่ 71 อ้าวลืมไปคลิปนึง ดีนะที่mOOgrOb'pm' เตือน การโกนหัว จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:22:26

ความคิดเห็นที่ 72 ผมมันคนหน้าบางครับ หนวดมันเลยทะลุออกมาได้ จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:28:58

ความคิดเห็นที่ 73 เกิดเป็นผู้หญิงนี่มีกรรมจริงๆเลยเรา ผช.สบายกว่าเยอะ ขี้เกียจโกนก็ยังโอเค เหลือๆไว้บ้างดูเท่ เซ็กซี่ได้อีก แต่ผญ.ต้องเลือกปฏิบัติกับขนบางส่วนบนร่างกาย ตรงไหนควรมีไม่ควรมี ชีวิตลำบากพอสมควร ขนจุ๊กกุแร้นี่ถ้าโกนไม่ดี ทั้งขนคุดทั้งอักเสบอีกตะหาก (นี่เราก็ต้องเสียตังค์ไปเลเซอร์มันซะเลย ไม่ไหวจะโกน) ใครเป็นคนตั้งค่านิยมสตรีไม่ควรมีขนกันนะนี่...-_-" จากคุณ : Beau VIBE เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:37:43

ความคิดเห็นที่ 74 เอ้อ.... ขอเรื่องที่มาของเก้าอี้ตัดผมด้วยได้ไหมป้ากิฟท์ พอยกเรื่องสวินนี่ ทอดด์มาแล้วนึกขึ้นได้ จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:51:12

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีค่าาคุณกิ๊ฟ กระทู้น่าสนใจอีกตามเคยค่ะ สนุกดี เพิ่งคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่เรียนอยู่จีนเรื่องการโกนขน รู้สึกอยากไปเกิดที่จีน เห็นคนจีนหลายคนที่รู้จักไม่เคยกังวลเรื่องการโกนขนค่ะ ไม่ต้องมาโกนขนรักแร้ ถึงใส่แขนกุด เสื้อกล้ามยังไง เพื่อนๆก็ไม่แคร์สายตาใครค่ะ ดีจริงๆ ยังคิดอยู่ว่าถ้ามีเงินและเวลาจะไปทำเลเซอร์ซะ เบื่อกับเรื่องการโกนขนมากๆค่ะ ดูคลิปการโกนขนในที่ลับแล้วอะจึ๋ยมากๆ ขอเป็นที่ๆจะปล่อยให้มันเจริญเติบโตไปละกันค่ะ จากคุณ : หม้อแกงเมืองเพชร เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:51:30

ความคิดเห็นที่ 76 พึ่งรู้ว่าคุณกิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตาเป็นplaygirl ใจผู้ชายไม่ได้มีไว้เผื่อเจ็บนะครับ 55+ .. ผมอยากมีเครา ที่มีตอนนี้ มีแต่หนวดโจรบางๆขึ้น เซง ไม่โหดเลย จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 00:58:49

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ "พึ่งรู้ว่าคุณกิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตาเป็นplaygirl ใจผู้ชายไม่ได้มีไว้เผื่อเจ็บนะครับ 55+" คุณ okaunkung อ้างอิงจากค.ห.ไหนเหรอคะ งง ใครเจ็บเหรอคะ คือทำให้เจ็บหลายคนจนงงไปหมดแล้วค่ะ เอิ๊กๆๆๆๆ ทีหลังต้องจดไว้ คุณ pipek เรียกป้าไม่หาให้ค่ะ ชิ หวัดดีค่าคุณหม้อแกง ทำเลเซอร์ก็ดีนะคะ เราว่าคุ้ม ผลข้างเคียงแทบไม่มี ยกเว้นทรัพย์จาง จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 01:17:22

ความคิดเห็นที่ 78 #55 Trim the bushes to make the tree look taller!!!! ชอบประโยคนี้ ฮาดี จากคุณ : - WelL - เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 01:28:57

ความคิดเห็นที่ 79 แวะมาชม จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 01:29:57

ความคิดเห็นที่ 80 เส้นผม = เคราติน ดังนั้น เครา = เส้นผม/ติน ??? ส่วนเรื่องขนในที่ลับนั้น อย่าไปยุ่งนะครับ เกิดของที่เขาขนๆ กันมันผิดกฎหมายแล้วจะซวยได้ ป.ล. คลิปจาก #55 Mr.Fusion (นามสมมติ) เขาเอาอะไรเหยาะใส่ไข่? ดูแล้วไม่น่าใช่แม๊กกี้หรือพริกไทยแน่ๆ แต่ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก... จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 01:32:28

ความคิดเห็นที่ 81 แม่กิฟท์จ๋าาาาาาาาาา แม่กระทกรก แม่นกน้อย แม่ร้อยชั่ง แม่นางเอ๋ย ข้าเอ่ยวาจาด้วยอยากรู้ที่มาของเก้าอี้ตัดผมได้ไหมเล่าหนอ เหตุฉะไหนถึงจะมาตัดรอนเพียงเพราะคำพูดอันคะนองปากของข้านะเออ อันด้วยคำว่า "ชิ" ของนางแล้วไซร้จักให้เหมือนหญิงรุ่นงอนให้ข้าใจแป้ว แต่เหมือนนางกระหยิ่มในใจด้วยเล่ห์แห่งหญิงงามเมื่อสิ้นเสียง "ชิ" ถึงอย่างไรชายอกสามศอกอย่างข้าก็มิอาจจะปล่อยเหตุไปตามกาลได้ จึงมาพิมพ์ง้อเยี่ยงนี้ หากแม้นนางมีจิตใตเมตตาบ้าง กรุณาหามาสนองข้าเถิด แล้วข้าจักมอบกิฟท์แก่นางให้ถึงขนาดแล พิมพ์แล้วขนลุก จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 02:18:40

ความคิดเห็นที่ 82 สุดยอดมากเลยค่ะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 02:58:54

ความคิดเห็นที่ 83 เอ่อ..ขอโทษนะครับ มีสอนวิธีโกนขนตูดมั๊ยครับ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 03:23:13 จากคุณ : Peung[T]ow เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 03:14:34

ความคิดเห็นที่ 84 เราชอบหนุ่มมีเคราๆนิด ๆกำลังดีเลย ถ้ามาก ก็ไม่ไหว แต่ถ้าไม่มีก็ดูน่ารัก จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 03:17:27

ความคิดเห็นที่ 85 #81 อุ้ยตาย มีการหวานกันกลางดึก กรีดๆ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 04:17:42 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 04:16:56 จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา กิ๊ฟเป็นศาสดา (นฤมลประการ) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 03:23:28

ความคิดเห็นที่ 86 คห.80 เหมาะ ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ครับ เอ้ยยย เหยาะพวกม๊อยเจอร์ไรเซอร์ครับผม อิอิ จากคุณ : iambung เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 04:32:34

ความคิดเห็นที่ 87 คุณกิฟต่อไปเอาเรื่องปลูกผมมั่งนา -.-* จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 05:10:17

ความคิดเห็นที่ 88   (: ไม่มีคนมาเปิดประเด็นเรื่องการโกนที่ทางสามแพร่งแล้วคันยุบยิบแฮะ จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 08:09:03

ความคิดเห็นที่ 89 โหกิฟ เคยฝันอยากเป็นนักโบราณคดึก็ไม่บอก เก่งหลายอย่างจัง นับถือเลย จากคุณ : jamjuree (nuchock) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 08:57:14

ความคิดเห็นที่ 90 กิ๊ฟทำได้มากกว่านี้อีกนะ อย่าให้เอามาอวดเชียว เดี๋ยวจะตะลึง ตึ่งโป๊ะ ปล. อ่านหนังสือยังไงก็ไม่ทัน เลยเล่นคอม แก้เครียดๆๆๆๆ(นี่คือข้ออ้าง ฮ่าๆๆๆ) จากคุณ : คนที่เคยเจอกิ๊ฟตัวเป็นๆมาแล้ว (หวงหลิง) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 09:27:38

ความคิดเห็นที่ 91 แล้วปัญหาโลกแตกแบบเรื่อง - ยิ่งโกนขนจะแข็งขึ้น - ยิ่งโกน ขนจะยิ่งหนาขึ้น ดกขึ้น เข้มขึ้นหล่ะจ๊ะ อ๋ออีกเรื่องเรื่องผู้หญิงขนดก เกี่ยวกับฮอร์โมนหรือเปล่าน้า.. จากคุณ : blue_nova เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 10:59:38

ความคิดเห็นที่ 92 อยากรู้มานานแล้วว่าผู้หญิงโกนขนจุ๊กกุแร้เมื่อไร ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : ReiLove เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 11:14:23

ความคิดเห็นที่ 93 อยากลองโกนหนวดบ้างจัง ^^ รบกวนคุณกิ๊ฟ หานายแบบหล่อๆให้นู๋สักคน .......อิ_อิ จากคุณ : ลี้ภัย(รัก) (มหาโจรแห่งบ้านลี้) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 11:49:07

ความคิดเห็นที่ 94 มัวแต่ดู อภิปราย ... ยังเป็นหมี ตามเดิม -_-' เพิ่งตื่นอีกตะหาก กรำ จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 13:01:14

ความคิดเห็นที่ 95 ขึ้นเดีอนใหม่เสียที จะได้มีกิ๊ฟไว้ให้คุณกิ๊ฟ ... (เดือนที่แล้วใช้เกลี้ยงเลย) สวัสดีเดือนใหม่นะครับ คุณกิ๊ฟ กระทู้เรื่องขนมาช่วงกำลังอยากไปตัดผม ... พอดีเลยแฮะ (มีคนบอกว่า ไปตัดผมเถอะ ตัดแบบม.ปลายไปเลย ดูกรุบกรอบกว่าตอนนี้เยอะ ... แสดงว่าหน้าผมตอนนี้แย่มาก) จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 13:04:44

ความคิดเห็นที่ 96 #80 มันอ่านว่า เค-ราติน อ่ะ จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 14:19:39

ความคิดเห็นที่ 97   ผมใช้เครื่องเอ็มจอยถอดหนวดแทนการโกนอ่ะ ครั้งแรกๆก็เจ็บอยู่พอนานไปขนเล็กบางลงก็สบายแล้ว หน้าดูใสกว่าโกนทำมาหลายปีแล้วไม่มีปัญหาใดๆ น้องสาวผมก็ใช้ถอนขนจุ๊กกุแร๊ ขึ้นไม่ขึ้นก็เห็นไถทุกวัน แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 53 14:21:26 จากคุณ : มิกิโอะ อิตโต้ ค่าหัว1ล้านเบรี เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 14:20:53

ความคิดเห็นที่ 98 ทำไม ขน/ผม มัน ขึ้นไม่เป็นระเบียบอ่า ลิซ่า บางเส้น แทงขึ้น บางเส้นแทงลง อย่างตรงหนวดเนี่ย บางเส้น งอโง้งขึ้น จากคุณ : mOOgrOb'pm' เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 14:57:43

ความคิดเห็นที่ 99 ^ ^ ไม่รู้เหมือนกัน ก๊ากๆๆๆๆๆ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 15:10:05

ความคิดเห็นที่ 100 แวะมาเก็บ 100 จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 15:18:26

ความคิดเห็นที่ 101 #81     เมื่อคิดถึงพี่พิเภกวิเวกจิต เพราะน้องคิดว่าไม่มีที่พี่ขอ ทั้งที่รีบกูเกิลให้ไม่รีรอ เก้าอี้หนออยู่ไหนหาไม่เจอ   น้องเปิดดูวิกินั้นเขียนสั้นนัก ไม่ประจักษ์ว่าจะมีที่เสนอ เปิดยูทูปให้แล้วจึงได้เจอ มอบให้เธอคลิปนี้ตลกจัง    หวังว่าพี่พิเภกจะไม่โกรธ ไม่ถือโทษให้เห็นแก่ความหลัง เขียนเรื่องมากหลากหลายเหลือกำลัง น้องกิ๊ฟหวังพี่ภิเพกหาเองเอย http://en.wikipedia.org/wiki/Barber_chair จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 15:29:32

ความคิดเห็นที่ 102 ^ ^ ^ ^ เทพอ่ะ ปราชญ์กวีชัดๆ จากคุณ : จันทร์เย็น เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 16:07:09

ความคิดเห็นที่ 103 ^ อ๊ะ แน่นอน!!!! จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 16:20:38

ความคิดเห็นที่ 104 ชอบตรงนี้อะครับ 1. you might say when there is no underbrush, the tree looks taller   คุณคิดว่าเมื่อสุมทุมพุ่มไม้หายไป ต้นไม้จะสูงขึ้นใช่มั้ยละ 2. Before you start, think about the unique topographical feature under your hood   ก่อนที่คุณจะลงมือ ให้คิดถึงภูมิประเทศเฉพาะตัว เบื้องล่างเสียก่อน ซึ่งต่อไปจะบอกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อเครื่องมือของคุณ   3. apply moisturizer to keep the area hydrated and minimize itching   เหยาะมอยซ์เจอไรเซอร์ เพื่อรักษาสมรภูมิให้ชุ่มชื้น และลดอาการคัน   Now go ahead be adventurous and have some fun : ) จากคุณ : o_taro_cmu เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 53 18:06:20